รีวิวฉบับที่ 673 … กลับมาดูกันอีกครั้งกับโครงการ Chapter One Modern Dutch ที่อยู่ริมน้ำเจ้าพระยาติดถนนใหญ่ราษฎร์บูรณะนะครับ โดยคราวนี้ผมจะพามาชมโครงการที่สร้างเสร็จสมูบรณ์แบบแล้ว ต่อจากรีวิวฉบับก่อน ที่พาไปชมโครงการในขณะที่กำลังก่อสร้างอยู่ ตอนนี้ผ่านมา 3 ปี กับอีก 2 วันพอดี โครงการคอนโดมิเนียมติดแม่น้ำหน้ากว้าง 100 เมตรที่สร้างเสร็จแล้วมีหน้าตาเป็นอย่างไร ตามไปดูกันเลยครับ
Fact @ 14 September 2014
- Chapter One Modern Dutch (แชปเตอร์วัน โมเดิร์นดัช)
- บมจ. พฤกษา เรียลเอสเตท
- ECONOMY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ในเขต : ราษฏร์บูรณะ
- คอนโด High Rise 27, 31, 31 ชั้น 3 อาคาร 1,820 ยูนิต และร้านค้า 14 ยูนิต
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 31 ยูนิตที่อาคาร A
- ที่จอดรถประมาณ 50% รวมจอดซ้อนคันและรอบโครงการ
- ที่ดินประมาณ 16-0-22.6 ไร่
- สร้างแล้วเสร็จปี 2557
- 1 Bedroom 28.27 – 28.93 ตารางเมตร จำนวน 1,415 ยูนิต
- 2 Bedrooms 57.68 – 58.12 ตารางเมตร จำนวน 405 ยูนิต
- ฝ้าเพดานสูง 2.6 เมตร
- ราคาเริ่มต้นประมาณ 1.9 ล้านบาทหรือประมาณ 68,000 บาทต่อตารางเมตร (ปี 2557)
- ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรประมาณ 72,000 บาท
- http://www.stylishresidences.com/Chapter_One_Modern_Dutch.html
- Call Center : 1739
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างครับ
พิกัด : 13.675327, 100.517271
แผนที่ของโครงการ Chapter One ราษฏร์บูรณะที่อยู่ติดปากซอย 33 ครับ
นอกจากที่เราจะข้ามสะพานพระราม 9 ด้วยทางด่วนขึ้นที่ 1 ไปลงดาวคะนองแล้ว เราก็ยังสามารถไปใช้สะพานภูมิพลได้ ซึ่งเดินทางได้สะดวกไม่แพ้กันและไม่ต้องจ่ายค่าทางด่วนด้วยครับ
สะพานภูมิพล 1 พาเราข้ามจากฝั่งพระราม 3 ไปลงที่ถนนสุขสวัสดิ์
อย่าข้ามผิดนะครับถ้าไปสะพานภูมิพล 2 อาจจะโผล่ไปบางนาได้
ถนนสุขสวัสดิ์เป็นถนนใหญ่ของทางฝั่งธนบุรี ช่วงต้นของถนนนี้ก็มีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินวิ่งผ่านด้วย
มีจุดขึ้นลงทางด่วน สามารถเดินทางได้ค่อนข้างสะดวก
ซึ่งซอยสุขสวัสดิ์หลายๆซอยก็สามารถทะลุไปยังถนนราษฏร์บูรณะได้ ยกตัวอย่างเช่นซอย 35, 27 (ราษฏร์พัฒนา) เป็นต้น
พอเข้ามาถนนราษฏร์บูรณะแล้วเราก็วิ่งเลียบมาเรื่อยๆ พอถึงปากซอย 33 ก็จะพบกับโครงการครับ
ปากทางเข้าของโครงการ Chapter One Modern Dutch ที่สร้างเสร็จแล้ว
ปากทางเข้าโครงการอยู่ติดถนนใหญ่โดยจะมีป้อมรักษาความปลอดภัย ที่เข้ากันกับธีมของโครงการอยู่ด้านหน้า เน้นสีฟ้า-เทา ซึ่งเป็นโทนสีประจำ Chapter One Modern Dutch
ช่วงแรกเป็นถนนทางเข้าซึ่งร่มรื่นมาก ปลูกต้นไม้ไว้ตลอดทั้งริมทางเดินเท้า (ด้านซ้ายของภาพ) และมีเกาะกลางถนนพร้อมกับแนวต้นไม้ โดยรวมทำออกมาได้ดีครับ
พอเข้ามาถึงบริเวณตัวโครงการด้านใน ตรงนี้เป็นป้อมรักษาความปลอดภัยอีกหนึ่งจุด
มีเวิ้งรั้วกั้นแยกพื้นที่อยู่อาศัยและพื้นที่จอดรถด้านนอกโครงการอย่างชัดเจน
สไตล์การตกแต่งจะเข้ากันทั้งโครงการแบบนี้เลย ฟ้า-เทา-ขาว
โครงการ Chapter One ประกอบด้วยตึก 3 ตึก สูง 31 ชั้น 2 ตึก (B,C) และ 27 ชั้น 1 ตึก (A) โดยตึก A จะเป็นตึกที่อยู่ด้านหลังไม่ได้อยู่ริมน้ำ
แปลนโครงการคร่าวๆของ Chapter One และส่วนที่เรากำลังจะกล่าวถึงครับ
พื้นที่ส่วนกลางด้านหน้าสุดเป็นบริเวณที่นั่งริมน้ำพุที่ติดกับตึก A เรียกชื่อว่า Dutch Plaza
เป็นลานน้ำพุรูปสี่เหลี่ยมที่เอาไว้พักผ่อนหย่อนใจเวลาแดดร่มลมตก บรรยากาศสบายดีครับ
เวลาเย็นๆกางร่มนั่งก็จะได้บรรยากาศหน่อย
ตึกที่อยู่ติดกับ Dutch Plaza คือตึก A ได้ประโยชน์จากลานน้ำพุนี้มากที่สุด
้ข้อดีของลานน้ำพุนี้อีกหนึ่งจุดใหญ่ก็คือมีทางลาดโดยรอบ สามารถเข็นผู้ป่วย หรือผู้สูงอายุมาพักผ่อนหย่อนใจได้ด้วย
ที่เห็นหน้าตาคล้ายๆบ้านหลังเล็กๆรอยล้อมนี้เป็น Shop นะครับ ร้านค้าต่างๆภายในโครงการ
ต่อด้วยทางเดินจาก Dutch Plaza ไปยังริมน้ำ เรียกว่า Promenade ซึ่งโดยรอบทางเดินจะเป็นที่ตั้งของร้านค้า 14 ยูนิต ที่อยู่ชั้น G ของตึกแต่ละตึก
ฝั่งซ้ายจะเป็นตึก A, C ส่วนฝั่งขวาจะเป็นตึก B คู่ขนาบทางเดินไปจนถึงริมน้ำ
ตามรายทางก็จะมีที่นั่งพร้อมกับร่มให้เข้ากับธีมโครงการอยู่ตลอด
โดยมีส่วนหนึ่งทำเป็นพื้นที่สนามเด็กเล่น
ปูพื้นยางไว้ทำให้ไม่ต้องกลัวเด็กหกล้มหัวเข่าถลอกปอกเปิก
วางเครื่องเล่นนิดหน่อย ไม้กระดก, สไลเดอร์, ม้าโยก เป็นต้น
ระยะทางเดินของ Promenade ยาวประมาณ 220 เมตร วัดจากบริเวณหน้า Dutch Plaza จนไปถึงริมน้ำเจ้าพระยา
โดยร้านค้าแต่ละร้านก็จะมีการแต่งหน้าร้านเหมือนๆกันเพื่อให้เข้ากับธีมโครงการโดยรวม
อย่างเช่นร้าน MENU เป็นร้านอาหาร
นั่งทานข้าวอยู่ตรงนี้กันสักพัก แซ่บ จริงๆ
มอง Dutch Plaza และ Promenade จากมุมสูงกันบ้าง
เราจะเห็นสวนบริเวณขอบตึก ด้านบนของลานทางเดิน ซึ่งจะมีหน้าตาเป็นแบบนี้
สุดปลายทางเดิน Promenade จะมีรั้วอีก 1 ชุด กั้นระหว่างพื้นที่พักอาศัย กับพื้นที่ส่วนกลางริมน้ำ เพื่อความเป็นส่วนตัวของผู้พักอาศัย
ลูกบ้านสามารถมานั่งรอ Shuttle Bus ตรงนี้ได้
แผนผังโดยรวมของ Facility ด้านริมน้ำของ Chapter One จะประกอบด้วย สระว่ายน้ำ 2 สระ, Club House, สนามหญ้า และท่าเรือ เป็นหลัก
ส่วนแรกที่จะพาไปดูก็คือ Club House
เป็นบ้านริมน้ำ มีมุมให้นั่งเล่นด้วย
ห้องโถงนี้สมัยก่อนเคยเป็นสำนักงานขายของโครงการนะครับ ปัจจุบันย้ายออกไปแล้วแต่ยังไม่ได้ตกแต่งใหม่
มุมที่นั่งริมเจ้าพระยาก็นั่งสบายดีครับ ลมแรง
ห้องนี้อนาคตเตรียมทำเป็นห้องพักผ่อนริมน้ำ
โดยปลายสุดของ Club House ก็จะเชื่อมกับท่าเรือ
และแน่นอนว่าทางโครงการมีเรือข้ามฟากเป็นของตัวเอง รับส่งลูกบ้านได้สบายๆ
ติดกันเป็นพื้นที่ตั้งของ “กังหัน” สัญลักษณ์ของ Dutch
หน้าตาโครงการเวลามองจากริมน้ำ ผ่านสระว่ายน้ำขึ้นไปก็สวยดีนะครับ
สระว่ายน้ำด้านหน้าเป็นสระกลางแจ้ง ว่ายไปมองเห็นเจ้าพระยาไป
โดยจุดเด่นจะมีต้นไม้ใหญ่ ได้ร่มเงาด้วย แม้ว่าสระจะอยู่กลางแจ้งก็ตาม
อย่างมุมนี้ ร่มนะ ทั้งๆที่แดดออก
เวลานั่งริมน้ำมองกลับไปยังสโมสรก็สบายตาดีครับ
ที่นี่จะเห็นสะพาน 2 สะพาน ฝั่งทิศตะวันตกจะเห็นสะพานพระราม 9
ฝั่งทิศตะวันออกจะเห็นสะพานภูมิพล
เดินไปอีกหน่อยก็จะมีสระว่ายน้ำอีกสระหนึ่ง
เป็นสระที่มีสระเด็กด้วย เอาไว้ว่ายชิวๆ มีความเป็นส่วนตัวมากกว่าสระที่แล้ว เพราะทางโครงการสร้างรั้วต้นไม้เอาไว้บังสายตาของเพื่อนบ้านให้
กั้นไว้แบบนี้เลย
ส่วนถัดมาเป็นส่วนหน้าสุดของตึก B ที่อยู่ติดกับ Facility …
ส่วนนี้มีสองชั้น ชั้นล่างเป็น Fitness, ชั้นบนเป็น Library / Meeting Room
เรามาดูชั้นล่างกันก่อน
ฟิตเนสติดแอร์ เย็นสบายนะครับ
จำนวนเครื่องเล่นมากอยู่ แน่ละก็ต้องรองรับกว่า 1,000 หลังคาเรือน
ด้านบนผมชอบมากกว่า เป็นห้องนั่งอ่านหนังสือและห้องประชุม ริมน้ำ
นั่งสบาย ทำงาน เล่นคอม ทำการบ้าน
โต๊ะกลมพร้อมโคมไฟส่อง ดีไซน์สวยดีนะครับ
ที่เด็ดกว่าคือมีคอกให้ด้วย กั้นเป็นมุมหมกตัวก่อนสอบ
ชั้นหนังสือที่ยังว่างเปล่า อนาคตคงจะมีหนังสือมาให้เลือกอ่านกัน
ห้องประชุมก็เจ๋ง สำหรับคนที่อยากจะติดต่องานที่บ้าน
เนื่องจากสโมสรใหญ่ มีฟิตเนส คลับเฮาส์ ฯลฯ ครบถ้วน … Lobby ในแต่ละตึกจึงดูจุ๋มจิ๋มไปเลย
มีที่นั่งอยู่นิดเดียว
ลิฟท์โดยสารก็จะมีให้ตึกละ 3 ตัว พร้อมกับลิฟท์บริการอีก 1 ตัว รวมเป็น 4 ตัว อัตราส่วนลิฟท์โดยสารต่อห้องตกประมาณ 1:202 ครับ
และแน่นอนว่าข้างลิฟท์ก็ต้องมีตู้จดหมายให้ครบครัน
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- สระว่ายน้ำ 2 สระ ริมน้ำ
- สโมสรริมน้ำ
- ท่าเรือ
- ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง ขนาดใหญ่
- ห้องนั่งอ่านหนังสือ, ห้องประชุม 1 ห้อง
- ลานน้ำพุ Dutch Plaza
- ทางเดิน Promenade พร้อมสนามเด็กเล่น
- สวนหย่อมรอบโครงการ
- ลิฟท์โดยสาร 3 ตัวต่อ 1 อาคาร
- อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 202 : 1
- Service Lift 1 ตัวต่อ 1 อาคาร
- ที่จอดรถประมาณ 50% รวมจอดซ้อนคันและรอบลานจอด
- ระบบ CCTV / Access Card
วิวและทิวทัศน์
พูดถึงโครงการริมเจ้าพระยา จะให้ข้ามเรื่องวิวไปก็คงจะไม่ใช่ … มาดูกันเลยดีกว่าครับ ภาพแรกจาก Riverfront Unit … หันไปทางสะพานพระราม 9
Riverfront มองตรงๆไปยังฝั่งพระราม 3
Riverfront มองไปทางสะพานภูมิพล
พื้นที่ทางตะวันออกและใต้ของโครงการ
มุมมอง Riverside จากด้านข้าง ทิศตะวันออก
เวิ้งวัดด้านข้างโครงการ
Riverside มุมมองด้านทิศตะวันตก เห็นตึกกสิกรและสะพานพระราม 9
ถ่ายติดด้านข้างโครงการให้ดูด้วย
ดูวิวข้างนอกไม่พอ ก็ต้องมีวิวข้างในเหมือนกัน อันนี้เป็นชั้นสูงๆที่อยู่ตรงกลาง โดยแซนด์วิชด้วยตึกข้างๆ
ตึก B, C ตรงกันเลยแบบนี้
แต่ถ้าชะโงกก็ยังมีช่องให้หายใจหน่อยนะครับ
จบกันด้วย Floor Plan ทั้ง 3 ตึกและ Master Plan ก่อนจะไปดูห้องตัวอย่างกันครับ
ตึก A 27 ชั้น ไม่ติดแม่น้ำ
ตึก B 31 ชั้น ริมน้ำฝั่งสะพานภูมิพล
ตึก C 31 ชั้น ริมน้ำฝั่งสะพานพระราม 9
ห้องที่นี่เป็นห้องแบบ 28-29 ตารางเมตร ที่เหลือขายเป็น 1 Bedroom โดยจะมี Furniture มาให้แล้ว 8 ชุด ตามแผนผังด้านบนนะครับ
ทางเดินหน้าห้องของคอนโด Chapter One Modern Dutch นี้กว้าง 1.5 เมตร แต่ค่อนข้างยาวมากอยู่ ใครอยู่ห้องสุดท้ายจากลิฟท์ก็ต้องเดินไกลหน่อยนะครับ
ประตูห้องเป็นประตูธรรมดา ลูกบิดธรรมดาที่ใช้กุญแจไข ถ้าใครต้องการ Security มากกว่านี้ ก็ควรจะเปลี่ยนลูกบิด หรือหาตัวล็อคมาครอบอีกทีหนึ่ง
ตัวห้องยกพื้นสูงจากทางเดินนิดหน่อยป้องกันพวกฝุ่นรองเท้าจากเพื่อนบ้านที่เดินผ่านไปมา ด้านในห้องปูพื้นเป็นลามิเนต
เปิดเข้าไปส่วนแรกที่เห็นก็คือส่วนของห้องนั่งเล่น ซึ่งจะต่อเชื่อมกับส่วนของห้องนอน
ห้องนั่งเล่นมีระยะดูทีวีไม่ได้กว้างมาก ราวๆ 2 เมตร ส่วนความสูงของเพดานนั้นอยู่ที่ 2.60 เมตร โดยไฟให้เป็นโคมซาลาเปาดังภาพ
บริเวณตู้ด้านข้างทีวีสามารถทำเป็นชั้นวางรองเท้าได้
ถัดมาจากส่วนของห้องนั่งเล่นก็จะเป็นมุมโต๊ะทำงาน ซึ่งออกแบบมารับกับห้องนี้ค่อนข้างดี ยกเว้นแต่เรื่องทางเข้าห้องนอน ที่เวลาคนหนึ่งนั่งทำงานอยู่ มันจะไปขวางทางเข้าห้องนอนของอีกคนหนึ่ง
เพดานฝ้าที่สูง 2.6 เมตร ทำให้ห้องดูโปร่งหน่อยเมื่อเทียบกับคอนโด 8 ชั้น ที่ทำเพดานสูง 2.4 เมตร
ปลายเตียงเจาะเป็นช่องตู้เสื้อผ้า ตรงนี้ถ้าจะแขวนทีวีก็คงทำได้ด้วยการแขวนผนัง เพราะปลายเตียงไม่มีที่เพียงพอให้วางโต๊ะ Side Board
บานตู้สองข้างนั้นใหญ่ไม่เท่ากัน ฝั่งขวาจะแคบกว่าฝั่งซ้าย แต่โดยรวมแล้วขนาดของตู้เสื้อผ้าบอกตามตรงว่าเล็กไป อย่างมากอยู่ได้คนเดียว ถ้าจะให้อีกคนหนึ่งมีที่เก็บเสื้อผ้าก็ต้องหาที่เก็บข้างนอกเพิ่มเอาครับ
สาเหตุหลักๆที่ต้องทำให้สองบานเปิดมีขนาดไม่เท่ากัน ก็เพื่อเอาไว้หลบมุมเตียง บานเปิดจะได้เปิดได้โดยไม่ติดปลายเตียง
มาดูส่วนของครัวและโต๊ะทานข้าวกันบ้าง เป็นอีกส่วนหนึ่งที่อยู่ด้านข้างห้องนอน
บริเวณนี้จัดวางพอดีเป๊ะๆเลย ชุดครัว ตู้เย็น โต๊ะทานข้าวขนาดสองคน และเครื่องซักผ้า … ที่แปลกใจก็คือทำไมผมเห็นแอร์ตรงปลายห้องครัวด้วยหว่า??
พอย้อนไปดูห้องนั่งเล่นก็พบว่า ห้องนั่งเล่นไม่มีแอร์ เลยต้องมาติดแอร์ตรงนี้ … แล้วคนที่นั่งดูทีวีมันจะเย็นไหมครับนั่น? ก็ต้องเปิดแอร์ค้างไว้นานหน่อยนะจ๊ะ
หรือทางแก้อีกทางก็คือเปิดประตูห้องนอนไว้ แล้วเปิดแอร์ในห้องนอนเอา ซึ่งก็ช่วยได้ครับ
พื้นที่ปลายห้องเป็นส่วนของระเบียง ที่เปิดออกไปตากผ้าได้
แต่ว่ามันจะโดนลมร้อนจาก LG สองเครื่องนี้นะสิ … เราควรหากริลมาดันลมร้อนออกไปนะครับ ไม่ให้ลมทำเอาฝุ่นจากคอมพ์แอร์มาติดผ้าเรา
สุดท้ายเป็นห้องน้ำ ที่มีขนาดค่อนข้างโอเค ปูพื้นด้วยกระเบื้องสีเทา ผนังกระเบื้องสีขาว
ด้านขวาจะเห็นเคาน์เตอร์ยาววางของได้เยอะแยะ ตรงนี้ชอบครับ
ทางซ้ายเป็นห้องอาบน้ำ ที่ไม่ได้ติดม่านหรือฉากกั้นกระจกมาให้ เราควรไปหามาติดนะครับ น้ำจะได้ไม่เลอะกระเด็นเต็มห้อง
อ่อ ของแถม … ผมเอาแปลนห้องและชุดเฟอร์ของห้องแบบ 2 ห้องนอน มาให้ดูด้วยครับ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 14 September 2014
- 1 Bedroom อาคาร A ชั้น 15 เนื้อที่ 29 ตารางเมตร ราคา 1.98 ล้านบาท หรือ 68,000 บาท/ตารางเมตร (Dutch Plaza)
- 1 Bedroom อาคาร B ชั้น 20 เนื้อที่ 29 ตารางเมตร ราคา 2.02 ล้านบาท หรือ 69,000 บาท/ตารางเมตร (Inside View)
- 2 Bedrooms อาคาร B ชั้น 20 เนื้อที่ 59 ตารางเมตร ราคา 4.08 ล้านบาท หรือ 69,000 บาท/ตารางเมตร (River View)
- Fully Furnished (Promotion)
- ฝ้าเพดานสูง 2.6 เมตร
- Kitchen & Sink (Promotion)
- ยูนิตพร้อมเข้าอยู่
- ค่ากองทุน 250 บาทต่อตารางเมตร
- ค่าส่วนกลาง 20 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน (ราคาปี 2011 อนาคตอาจมีการเปลี่ยนแปลง)
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ
ทำเลของ Chapter One Modern Dutch ราษฏร์บูรณะนี้เหมาะสำหรับคนที่อยู่ฝั่งธนบุรีมากกว่าฝั่งพระนครนะครับ เนื่องด้วยคอนโดที่ราคาใกล้ๆกัน ริมน้ำเจ้าพระยาฝั่งพระราม 3 ก็มีให้เลือกหลากหลาย อาทิ เช่น LPN, U Delight และ Supalai แต่ด้วยทำเลที่อยู่ฝั่งราษฏร์บูรณะ ก็คงจะเหมาะสำหรับคนที่ใช้ชีวิต ทำงาน หรือมีธุรกิจอยู่ฝั่งนี้มากกว่า ไม่ว่าจะอยู่แถวราษฏร์บูรณะ พระประแดง สุขสวัสดิ์หรือประชาอุทิศ
การจราจรด้วยรถยนต์โดยรวมก็ต้องใช้สะพานข้ามแม่น้ำเป็นหลัก โดยสะพานหลักๆ 2 เส้นที่ใช้ก็คือสะพานพระราม 9 (ทางด่วน) และสะพานภูมิพล โดยทั้งสองสะพานจะต้องขึ้นลงที่ถนนสุขสวัสดิ์ ทำให้จะต้องเดินทางมากกว่าปกติหน่อย เข้าซอยทางลัดระหว่างสองถนนเพื่อข้ามแม่น้ำ แต่ถ้าใครไม่ได้ข้ามแม่น้ำก็สามารถเดินทางได้สะดวกขึ้นมาก ส่วนเรื่องที่จอดรถอาจจะมีปัญหาถ้ามีคนใช้รถยนต์กันเยอะจริงๆ เนื่องจากที่ Chapter One มีที่จอดรถอยู่ประมาณ 50% (รวมซ้อนคัน) นะครับ
ทางเลือกที่จะไม่ใช้รถยนต์และไม่ใช้แท๊กซี่ หลักๆมี 2 ทาง ก็คือรถเมล์กับเรือ ป้ายรถเมล์อยู่หน้าโครงการเลยเดินออกไปก็รอรถได้ สะดวกดีนะครับ ส่วนเรือนี้จะพรีเมี่ยมกว่า คือมีเรือข้ามฟากเป็นของตัวเอง สามารถต่อคิวขึ้นจากท่าน้ำในโครงการได้เลย ไม่ต้องออกไปรอหน้าโครงการ และค่อนข้างเป็นส่วนตัวสำหรับคนในโครงการ แต่ข้ามเรือไปแล้วก็ต้องไปต่อรถเมล์หรือ Taxi ที่ฝั่งตรงข้ามอยู่ดี
แบบของโครงการนี้โดยรวมสวยงาม ภาพลักษณ์ได้คะแนนเริ่ดเมื่อเทียบกับราคาของโครงการที่เปิดแถวๆล้านกว่าบาท มาจบที่ 2 ล้านต้นๆ แนว Modern Dutch เป็นแนวที่มีเอกลักษณ์มาก ทั้งเมืองไทยน่าจะมีแค่โครงการนี้โครงการเดียวนั่นแหละ ที่เป็นคอนโดมิเนียมแนวกังหันโทนสีน้ำเงิน แต่ด้วยเรื่องความหนาแน่นของโครงการที่ปาเข้าไปเฉียดๆ 2,000 ห้อง ก็ต้องดูกันไว้ด้วยนะครับ ไม่เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบความพลุกพล่านในระยะยาว
วัสดุอุปกรณ์ให้มาพอสมควร มีเฟอร์นิเจอร์ให้ แบบห้องขาดๆเกินๆบ้างบางส่วนแต่โดยรวมก็พอจะให้อภัยได้ในลีคราคา 1 ล้านปลายถึง 2 ล้านต้น ใครชอบอยู่ห้องกว้างๆเกิน 30 ตารางเมตรอาจจะผิดหวังหน่อย เพราะแบบมาตรฐานจัดมาแค่ 28 ตารางเมตร หากต้องการห้องกว้างกว่านี้ก็ต้องอัพเป็นห้อง 2 ห้องนอน ซึ่งราคาจะพุ่งทะลุ 4 ล้านไปเลย อีกประเด็นที่ต้องคำนึงถึงคือเรื่องของครัว ที่มีมาให้แค่ซิงก์ แต่ไม่มีเตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันมาให้ด้วย ดังนั้นถ้าใครชอบทำอาหารก็ต้องซื้อเตาลอยมาเสริมเอง และผมแนะนำให้ซื้อเตาแบบ Induction นะครับ ดีกว่าเตาไฟฟ้าธรรมดาเยอะ 🙂
สุดท้ายเป็นเรื่องสาธารณูปโภค ที่จัดออกมาได้ดีเยี่ยม ถือเป็นจุดเด่นที่สุดของโครงการนี้ ไล่ตั้งแต่ Dutch Plaza, Promenade, Club House, Fitness, Pool x 2, ท่าเรือ ไปจนถึงห้องอ่านหนังสือและห้องประชุม ถือเป็นข้อดีที่หาโครงการอื่นในระดับราคาใกล้เคียงเทียบได้ยากนะครับ แต่ข้อดีตรงนี้จะดีตลอดไปได้ก็ต้องดูเรื่องการดูแลรักษาด้วย ว่าสามารถทำให้สาธารณูปโภคส่วนกลางอยู่ในสภาพดีไปได้จนถึงเมื่อไร ลูกบ้านก็ต้องช่วยๆกันดูแลนะครับ เพราะค่าส่วนกลางที่เก็บอยู่ 20 บาทต่อตารางเมตร มีสิทธิ์ที่จะไม่พอถ้าต้องเอามาดูแลรักษาส่วนกลางที่ใหญ่ขนาดนี้ ก็ต้องเตรียมใจกันนิดนึงว่าอนาคตอาจจะมีการขึ้นราคาได้ครับ
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับราคา 70,000 บาทต่อตารางเมตร, 14 September 2014
- ทำเล 8/10 – ริมน้ำ ราษฏร์บูรณะ
- เดินทางด้วยรถ 8/10 – ถ้าคนที่ไม่ต้องข้ามไปฝั่งพระนครบ่อยๆจะสะดวกมาก
- ไม่ใช้รถ 7.5/10 – ไม่มีรถไฟฟ้า แต่มีท่าเรือนะ
- วัสดุ 7.5/10 – ให้มาบ้างแต่ก็ไม่ครบเสียทีเดียว ขาดเตากับเครื่องดูดควัน และฉากกั้นอาบน้ำ
- แบบ 8/10 – ภาพรวมสวยงาม แต่หนาแน่นไปนิดนึง
- สาธารณูปโภค 9.5/10 – จัดว่าดีมากสำหรับโครงการระดับนี้
- ECONOMY CLASS
- 8.00 / 10.00
BOTTOM LINE
ถ้าใครชอบคอนโดริมน้ำฝั่งราษฏร์บูรณะ … Chapter One Modern Dutch ก็คงจะเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆที่ต้องพิจารณา แต่ถ้าใครชอบฝั่งพระราม 3 ก็ยังมีตัวเลือกอื่นให้เทียบได้อยู่ครับ
ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้ผมหน่อยนะครับ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปครับ