รีวิวโครงการ
blue Phahonyothin 35 (บลู พหลโยธิน 35) คอนโด Low rise พร้อมอยู่ ใกล้ SCB Park และ ถนนวิภาวดีรังสิต จาก Grand Unity [รีวิวฉบับที่ 2589]
27 สิงหาคม 2023
สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะพาไปรีวิวโครงการใหม่ แบรนด์ใหม่ จากทาง Grand Unity โครงการ blue พหลโยธิน 35 ค่ะ โครงการนี้เพิ่งเปิดให้ชมห้องตัวอย่างในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา จุดที่น่าสนใจของโครงการ มีดังนี้
- รูปแบบการขาย Fully Furnished ในช่วงราคาเริ่มต้น 2.19 (Update 31/10/2022) – 3.59 ล้านบาท : ตัวโครงการนี้ถือว่าเปิดตัวราคาออกมาในช่วงที่จับต้องได้ง่าย แถมขายพร้อมเฟอร์นิเจอร์ด้วย เหมาะกับคนที่อยากได้คอนโดใกล้เมืองในงบประมาณ 1 ล้านปลายๆ ถึง 3 ล้านกลางๆ นะคะ
- คอนโดใหม่ในโซนวิภาวดีรังสิตตอนต้น : ถ้ามองในโซนถนนวิภาวดีรังสิตตอนต้น ใกล้ห้าแยกลาดพร้าวแทบจะไม่มีโครงการเปิดใหม่เลยค่ะ ทั้งๆ ที่เป็นโซนที่มีอาคารสำนักงานอยู่มาก โดยโครงการนี้สามารถเข้า-ออกทางถนนวิภาวดีรังสิตได้ง่าย เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดใกล้ที่ทำงานราคาไม่แรงมากค่ะ
- มี Shuttle Service รับส่งบริเวณห้าแยกลาดพร้าว : ทางโครงการมีบริการรถรับ-ส่งไปยังห้าแยกลาดพร้าว ระหว่างเซ็นทรัลกับหอวัง โดยผ่าน SCB Park วิ่งวนจากถนนวิภาวดีรังสิตไปยังถนนพหลโยธิน อำนวยความสะดวกให้กับคนที่ใช้รถไฟฟ้าบ่อยๆ ทำงานหรือใช้ชีวิตวนลูปในโซนนี้นะคะ
- พื้นที่ส่วนกลาง : เทียบกับโครงการที่เป็น Low Rise อื่นๆ ที่นี่ออกแบบส่วนกลางมาได้น่าสนใจค่ะ ฟังก์ชันหลากหลาย มี Court อยู่ตรงกลาง และกระจายตัวตั้งแต่ชั้น 1, 2 และชั้น 4
- ดีไซน์เฟอร์นิเจอร์ภายในห้อง : รายละเอียดเฟอร์นิเจอร์ที่ให้มาในแพคเกจก็จะมีดีเทลน่าสนใจหลายจุด เป็น Adaptive Furniture เพิ่มพื้นที่เก็บของให้ภายในห้องได้เยอะเลยค่ะ
รายละเอียดโครงการ blue พหลโยธิน 35 จะเป็นอย่างไร ไปอ่านรีวิวกันค่ะ
ข้อมูลโครงการ
blue พหลโยธิน 35 ณ วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2565
ชื่อโครงการ | blue Phahonyothin 35 (บลู พหลโยธิน 35) |
ชื่อผู้ประกอบการ | บริษัท แกรนด์ ยูนิตี้ ดิเวลล็อปเมนท์ จำกัด |
SEGMENT CLASS | MAIN CLASS (รายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2021 ) |
โครงการตั้งอยู่ | ถนนวิภาวดีรังสิต เขตจตุจักร กรุงเทพฯ |
ที่ดิน | 2-1-97 ไร่ |
ประเภทคอนโด | Low Rise 8 ชั้น 2 อาคาร |
จำนวนยูนิต | 322 ยูนิต |
ยูนิตต่อชั้นสูงสุด | 24 ยูนิต |
ที่จอดรถ | 114 คัน หรือ + จอดซ้อนคันได้ 14 คัน คิดเป็น 40% (รวมจอดซ้อนคัน) |
เริ่มก่อสร้าง | กลางปี 2565 |
คาดว่าจะแล้วเสร็จ | ปลายปี 2566 |
ประเภทห้องพัก |
|
ฝ้าเพดานสูง | 2.5 เมตร |
ราคาเริ่มต้น | 2.19 ล้านบาท (Update 31/10/2022) |
ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ | ประมาณ 89,000 บาท/ตร.ม. |
ช่วงราคาต่อตารางเมตร(ต่ำสุด-สูงสุด) | n/a |
EIA (ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) | ผ่านแล้ว |
เว็บไซต์โครงการ | https://grandunity.co.th/th/blue-phahonyothin-35 |
Call Center | 02-652-4000 |
ทำเลที่ตั้ง
พิกัดโครงการ Google Maps : 13.83132 , 100.5582991
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
พิกัดสำนักงานขาย Google Maps : 13.8260804,100.5650737
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
แผนที่จากทางโครงการค่ะ
ตัวโครงการ blue พหลโยธิน 35 เป็นคอนโด Low Rise ที่ขายพร้อมเฟอร์นิเจอร์ ราคาล้านกว่าบาทไปจนถึง 3 ล้านกลางๆ โครงการนี้ตั้งอยู่ในซอยพหลโยธิน 35/4 แยก 2 ซึ่งอยู่ในตำแหน่งที่สามารถเข้า-ออกได้ทั้งจากถนนพหลโยธิน ถนนรัชดาภิเษก และถนนวิภาวดีรังสิตเลยค่ะ โดยจะค่อนไปที่ถนนวิภาวดีรังสิตด้วยซ้ำ จุดที่เราว่าน่าสนใจของโครงการนี้คือ
- คอนโดราคาจับต้องง่ายในโซนวิภาวดีรังสิตตอนต้น : บนถนนวิภาวดีรังสิต ตั้งแต่แยกเกษตรมายังบริเวณห้าแยกลาดพร้าว ถือว่าเป็นถนนหลักที่อยู่ใจกลางกรุงเทพฯ แห่งหนึ่งที่มีสำนักงานเกิดขึ้นมากทั้ง 2 ฝั่งถนน แต่ว่าในส่วนของคอนโดมิเนียมที่เกิดนั้นถ้าเกาะบนถนนเส้นนี้เลยถือว่ามีน้อยมากค่ะ คนที่ทำงานแถวนี้แล้วอยากได้คอนโดอยู่ ก็อาจจะต้องไปทางฝั่งม.เกษตรบ้าง จตุจักรบ้าง หรือว่าห้าแยกลาดพร้าว ซึ่งเป็นคอนโดใกล้รถไฟฟ้าที่ราคาต่อตร.ม.ค่อนข้างสูงเลยทีเดียว แต่ว่าโครงการ blue พหลโยธินอยู่ในทำเลที่เข้า-ออกถนนวิภาวดีรังสิตได้ง่ายมาก และราคาจับต้องได้ไม่ยาก มีงบ 1 ล้านปลายๆ ถึง 3 ล้านบาทกลางๆ ก็เลือกห้องได้ทุกแบบในโครงการแล้ว และตัวโครงการมีรูปแบบการขายเป็น Fully Furnished อีกด้วย
- โครงการ Low Rise ในซอย ที่มีรถรับส่งรถไฟฟ้า : ถึงแม้ว่าโครงการ blue พหลโยธิน 35 จะอยู่ในทำเลรอง ซึ่งอยู่ในซอยลึก แต่ว่าทางโครงการมีบริการรถรับ-ส่งจาก Avenue Ratchyothin (บริเวณสะพานลอยข้ามไป SCB PARK)- BTS รัชโยธิน ไปยังโครงการ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับคนที่ใช้รถไฟฟ้าบ่อยๆ ทำงานหรือใช้ชีวิตวนลูปในโซนนี้ค่ะ ซึ่งอำนวยความสะดวกให้กับคนที่ต้องการใช้รถไฟฟ้าเดินทางเป็นประจำได้ค่ะ ในขณะที่ได้ห้องราคาต่ำกว่าโซนห้าแยกลาดพร้าวมาก (อ้างอิงจากที่สำรวจมาในช่วงต้นปี 2022 ราคาเริ่มต้นของคอนโดที่ใกล้ห้าแยกลาดพร้าวแบบเดินได้จะอยู่ที่ราวๆ 3 ล้านต้นๆ โดยขายเป็นแบบ Fully Fitted เท่านั้น ไม่มีเฟอร์นิเจอร์ในห้องมาให้นะ)
**เส้นทางอาจมีการเปลี่ยนเปลี่ยนภายหลังจัดตั้งนิติบุคคลฯ - ทำเลล้อมรอบด้วยแหล่งความอุดมสมบูรณ์ : สำหรับความอุดมสมบูรณ์หลักของทำเลนี้มีหลายจุดมากเลยค่ะ ทั้งโซนห้าแยกลาดพร้าวที่มีเซ็นทรัล ลาดพร้าว, ยูเนียน มอลล์ และ โลตัส ลาดพร้าว หรือจะเป็นแยกรัชโยธิน ที่มีเมเจอร์รัชโยธิน และ ดิ อเวนิว รัชโยธิน หรือจะเป็นโซนใกล้ๆ กับ SCB Park ก็มีร้านค้า ร้านอาหาร รองรับคนทำงานในโซนนี้ ทำให้เรามีตัวเลือกในการจับจ่ายใช้สอย หาอาหารการกินเพียบ จะออกไปกินก็ไม่ลำบาก ใช้ Shuttle Service ได้ หรือว่าจะ Delivery มาส่งที่คอนโดเราก็คิดว่าอัตราค่าส่งไม่น่าแพงเลยค่ะ หลายร้านน่าจะส่งฟรีด้วยนะ
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
โครงการ blue พหลโยธิน 35 ตั้งอยู่ในซอยพหลโยธิน 35/4 แยก 2 ใกล้จุดตัดระหว่างถนนวิภาวดีรังสิต และ ถนนรัชดาภิเษก พื้นที่ส่วนใหญ่ในซอยนี้จะเป็นสำนักงานขนาดเล็กถึงขนาดกลาง รวมถึงที่อยู่อาศัยทั้ง Apartment, บ้านพักอาศัย และคอนโดมิเนียม ซึ่งระดับความสูงของอาคารรอบๆ มักจะเป็นความสูงที่เทียบเท่าโครงการ blue พหลโยธิน 35
ดังนั้น ถ้ามองในเรื่องวิวโดยรอบเรามองว่าโครงการนี้ถ้าเป็นห้องที่หันออกรอบนอก ไม่น่าจะได้วิวและอาจมีอาคารข้างเคียงที่สูงในระยะประชิด แต่ทางโครงการก็มีการออกแบบพื้นที่ระเบียงโดยเปลี่ยนราวกันตก เป็นระแนงแทน เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับผู้พักอาศัยค่ะ (สามารถดูการออกแบบพื้นที่ระเบียงที่พาร์ทห้องตัวอย่างได้นะคะ)
อีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจคือ เนื่องจากพื้นที่รอบๆ จะมีทั้งที่พักอาศัยและสำนักงาน ทำให้ความอุดมสมบูรณ์ในระยะที่เดินได้มีเยอะ รวมไปถึง 7-eleven ที่ห่างออกไปไม่ถึง 100 เมตร ทำให้คนที่อยู่ในโครงการไม่ต้องห่วงเรื่องอาหารการกินเลยค่ะ
ที่ตั้งโครงการ blue พหลโยธิน 35 ปัจจุบันล้อมรั้วติดป้ายโครงการเรียบร้อยแล้วค่ะ
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
Lifestyle
- ดิ อเวนิว รัชโยธิน ~ 800 m.
- เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน ~ 1.2 km.
- บ็อกซ์ สเปซ รัชโยธิน ~ 1.6 km.
- เทสโก้ โลตัส ลาดพร้าว ~ 2.8 km.
- ยูเนียน มอลล์ ~ 3.8 km.
- เซ็นทรัล พลาซ่า ลาดพร้าว ~ 3.8 km.
สำนักงาน
- ตึกช้าง ~ 1.6 km.
- ธนาคารไทยพาณิชย์สำนักงานใหญ่ ~ 1.8 km.
- อาคารชินวัตร ทาวเวอร์ 3 ~ 2.5 km.
- สำนักงานเขตจตุจักร ~ 2.6 km.
- ศูนย์เอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ ~ 3.9 km.
- ปตท.สำนักงานใหญ่ ~ 3.9 km.
- กระทรวงพลังงาน ~ 4.5 km.
- ศาลอาญา ~ 4.8 km.
- ธนาคารทหารไทย สำนักงานใหญ่ ~ 6.1 km.
Cafe
- Brew Alley ~ 450 m.
- ORBiT espresso BKK ~ 1.2 km.
- วรรค Cafe and Bistro ~ 1.2 km.
โรงพยาบาล
- โรงพยาบาลเปาโลเกษตร ~ 3.5 km.
- โรงพยาบาลวิภาวดี ~ 4.3 km.
โรงเรียน
- โรงเรียนอรรถมิตร ~ 1.8 km.
- มหาวิทยาลัยราชภัฏ จันทรเกษม ~ 2.5 km.
- โรงเรียนหอวัง ~ 3.4 km.
- โรงเรียนนานาชาติ เซนต์สตีเฟ่นส์ กรุงเทพฯ ~ 3.6 km.
- มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ~ 5.3 km.
รายละเอียดโครงการ
โครงการ blue พหลโยธิน 35 เป็นคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น 2 อาคาร ตั้งอยู่บนที่ดินขนาดประมาณ 2 ไร่ครึ่งในซอยพหลโยธิน 35 ใกล้กับถนนวิภาวดีรังสิตและถนนรัชดาภิเษกค่ะ
Blue เป็นแบรนด์น้องใหม่จากทาง Grand Unity ที่มาใน Concept “Explore Your Area” สร้างคอนโดที่ต้องการให้ผู้อยู่อาศัยค้นพบความสุขแบบที่ไม่ต้องไปไหนไกล โดยสื่อมาในคำว่า blue ที่แปลว่าสีฟ้า ทั้งสีฟ้าจากอิสระของท้องฟ้า และสีฟ้าจากน้ำทะเลค่ะ โดยตัว Concept นี้ก็จะมาเป็นส่วนหนึ่งของแรงบันดาลใจในการออกแบบ ทำให้เกิด Facade หรือว่าหน้าตาอาคารภายนอกมีเส้นโค้ง เหมือนกับคลื่น เห็นได้จากผนังภายนอกของภาพ Tive และโมเดลค่ะ
นอกจากตัวผนังอาคารที่ออกแบบให้มีส่วนโค้งดูเหมือนระลอกคลื่นแล้ว เราจะเห็นการออกแบบ Pocket Garden ภายในโครงการนี้ด้วยค่ะ ต้นไม้ที่แทรกตัวอยู่ระหว่างชั้นนี้ ดูแล้วก็ช่วยสร้างบรรยากาศให้ตัวโครงการดูร่มรื่นมากยิ่งขึ้นด้วยนะคะ
โครงการจะแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 อาคาร ทั้งคู่จะมีผังเป็นรูปตัว C วางตัวประกบกันเกิด Court หรือพื้นที่ว่างตรงกลาง ส่วนตัวมองว่าเป็นการวางผังที่เหมาะกับโครงการที่เป็นคอนโด Low Rise เพราะทำให้ห้องส่วนหนึ่งได้วิวภายในโครงการที่สามารถดีไซน์ให้สวยงามได้กว่าวิวที่เห็นโดยรอบที่มักจะเป็นอาคารที่สูงใกล้เคียงกันค่ะ
สำหรับพื้นที่ส่วนกลางจะกระจายตัวอยู่ทั้งอาคาร A, อาคาร B และพื้นที่ Outdoor บริเวณ Court ระหว่างอาคารค่ะ โดยอาคาร A จะเน้นฟังก์ชัน Active หน่อยจะเป็นสระว่ายน้ำ ฟิตเนส ห้องโยคะ ถือว่าเป็นอาคารที่เหมาะกับสายออกกำลังกาย ส่วนอาคาร B จะเป็น Function ที่ Passive มากกว่า เป็น Lobby, Co-working Space เหมาะกับคนที่ใช้ชีวิตแบบที่ต้องหามุมอ่านหนังสือ ทำงานเป็นประจำมากกว่าค่ะ
โดยฟังก์ชันพื้นที่ส่วนกลางที่อยู่ในอาคารจะกระจายตัวตั้งแต่ชั้น 1 ไปจนถึงชั้น 4 เลย และอยู่ฝั่งหน้าโครงการใกล้กับทางเข้ามากที่สุด ให้ลูกบ้านมาใช้งานได้ง่าย และเป็นส่วนที่คนผ่านเข้า-ออก ไป-มาเยอะ ตำแหน่งนี้ถ้าเป็นห้องพักอาศัยก็อาจจะสูญเสียความเป็นส่วนตัวไปบ้าง ดังนั้นเราจึงมองว่าทางโครงการฉลาดที่เอาฟังก์ชันส่วนกลางมาไว้ตรงนี้ค่ะ
ระหว่างอาคาร A และอาคาร B ที่ชั้น 4 จะมีการออกแบบทางเชื่อมอาคารที่เรียกว่า Sky Bridge เอาไว้ โดยพื้นที่ส่วนกลางที่ชั้นนี้จะมีห้องฟิตเนส ห้องโยคะ และ Game Room อยู่ เหมาะสำหรับคนที่อยู่อาคาร B แล้วอยากมาใช้งานที่ฟิตเนสก็สามารถขึ้นลิฟต์อาคารตัวเองมาที่ชั้น 4 แล้วเดินข้ามมาได้เลยค่ะ ไม่ต้องลงไปชั้น 1 เพื่อเดินมาอาคาร A แล้วขึ้นลิฟต์มาอีกรอบ ถือว่าสะดวกดีเลยนะคะ คนที่อยู่อาคาร A อยากไป Game Room ก็ไม่ลำบากเช่นกัน
Court ตรงกลางระหว่างอาคารจะเป็นพื้นที่สวนและสระว่ายน้ำค่ะ โดยตัวสระว่ายน้ำจะอยู่ระดับชั้น 2 ซึ่งสามารถเดินจาก Court ที่เป็นสวนหย่อมตรงกลางขึ้นมาได้ หรือว่าจะมาจากอาคาร A ก็ได้เช่นกัน นอกจากนี้ก็จะมีตัวอาคารที่โอบล้อมอยู่เป็นร่มเงา ให้สามารถใช้สระว่ายน้ำได้นานขึ้น โดยพื้นที่ตรงกลางนี้ดูแล้วก็ออกแบบมาร่มรื่น มีต้นไม้เยอะเลยนะคะ น่าจะเป็นวิวที่ดีให้กับห้องพักอาศัยที่หันหน้าเข้าภายในโครงการด้วย
ภาพจำลองบรรยากาศภายใน Co-working Space ที่ชั้น 2 ของอาคาร B ค่ะ เห็นว่าจะมีการเล่นระดับของพื้นที่ การเล่นระดับแบบนี้ก็จะช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับคนที่ใช้งานค่ะ เนื่องจากระดับสายตาที่อยู่คนละระดับกัน เหมือนได้พื้นที่ที่เป็นส่วนตัวมากขึ้นค่ะ
ภาพจำลองบรรยากาศ Game Room ที่ชั้น 4 ของอาคาร B ออกแบบมาเป็นห้องกระจก ตกแต่งด้วยโทนสีขาวดูสะอาดตา และสามารถมองวิวเข้าไปยังส่วนที่เป็นสระว่ายน้ำ Court ตรงกลางโครงการได้ด้วยค่ะ
ภาพจำลองบรรยากาศ Outdoor Yoga ที่ชั้น 2 ของอาคาร A ส่วนนี้จะเป็นพื้นที่แบบ Semi-outdoor อยู่ใต้อาคาร แต่ก็ยังเชื่อมต่อกับตัวสระว่ายน้ำด้วยนะคะ ดังนั้นเราจะเห็นการออกแบบที่มี Yoga Fly ให้ได้เล่น โดยมีสระน้ำอยู่รอบๆ ค่อนข้างแปลกตาเหมือนกัน เราไม่เคยเจอที่ไหนทำแบบนี้มาก่อน ยิ่งเป็นคอนโด Low Rise ด้วยแล้ว
Floor Plan blue พหลโยธิน 35
ชั้น 1 : ฟังก์ชัน ที่จอดรถ, สวน, Lobby, Mail room (แยกอาคาร)
วิเคราะห์ชั้นพักอาศัย
ทั้ง 2 อาคารจะมีผังเป็นรูปตัว C จำนวนยูนิตต่อชั้นสูงสุดอยู่ที่ 24 ห้อง/ชั้น/อาคารค่ะ แต่ละอาคารจะมีลิฟต์โดยสารอาคารและ 2 ตัว อยู่ที่มุมอาคารทางฝั่งด้านหน้า ห้องที่อยู่ด้านหลังก็อาจจะต้องเดินจากลิฟต์ไปไกลหน่อย แต่ก็จะได้ความ Private มากขึ้น ได้ยินเสียงคนเดินไปมาหน้าห้องน้อยกว่าห้องที่อยู่ใกล้ลิฟต์ค่ะ
ทางเดินหน้าห้องจะเป็นแบบ Double Corridor คือมีห้องพักอาศัยอยู่ทั้ง 2 ฝั่งของทางเดินเป็นส่วนใหญ่ ที่ปลายสุดของทางเดินจะมีช่องแสงเล็กๆ ไว้ระบายอากาศและเพิ่มแสงสว่างให้กับทางเดิน ทำให้บริเวณทางเดินไม่อับชื้น และไม่มืดมาก ช่วงกลางวันก็ไม่ต้องเปิดไฟทางเดินทุกจุดได้ค่ะ
สำหรับการวางรูปแบบห้อง ห้องที่หันออกภายนอกจะเป็นห้องพักแบบ 1 Bedroom ทั้งหมด (TypeA, B) อาจจะมีการสลับตำแหน่งห้องระหว่าง 2 type บ้างในแต่ละชั้น เพื่อทำให้รูปด้านหรือหน้าตาอาคารภายนอกดูน่าสนใจ
ส่วนห้อง 1 Bedroom Plus (Type C, D, E) จะเป็นห้องที่หันหน้าเข้าโครงการหรือว่า Court ทั้งหมดเลยค่ะ แต่ก็จะมีห้อง Type A ที่หันหน้าเข้าด้านในชั้นละ 2 ยูนิต (ที่เราวงไว้) ตรงนี้น่าจะเป็น Rare Item ของโครงการนะคะ เพราะจะเป็นห้องที่ได้วิวที่ดีในราคาที่ไม่สูงมาก ส่วนห้องที่ดีที่สุดจะเป็นห้อง Type E เพราะเป็นห้องที่ผนังไม่ติดใครเลย ได้ความเป็นส่วนตัว และก็ได้วิวของ Court ภายในโครงการค่ะ
อีกจุดที่น่าสนใจคือการสร้าง Pocket Garden แทรกเอาไว้ (ที่เราวงกลมไว้ในแปลน) โดย Pocket Garden นี้ก็จะถูกวางสลับตำแหน่งไว้ในแต่ละชั้น สร้างบรรยากาศให้ตัวโครงการมีพื้นที่สีเขียวมากขึ้น ดูร่มรื่นมากขึ้นค่ะ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- Central Pool ขนาด 4×15 เมตร ลึก 1.2 เมตร ระบบเกลือ
- Sky Bridge
- Relaxing Garden
Building A
- Lobby
- Mail Room
- Laundry
- Fitness
- Yoga Room
- Outdoor Yoga
Building B
- Lobby
- Mail Room
- Laundry
- Smart Locker
- Co-working Space
- Game Room
ระบบรักษาความปลอดภัย
- รปภ. 24 ชั่วโมง
- CCTV
- Key Card Access และ Touchless Access
แบบห้อง
สำหรับแบบห้องภายในโครงการ blue พหลโยธิน 35 จะเน้นไปที่ห้องขนาดเล็ก เหมาะสำหรับอยู่ 1-2 คน โดยจะมีรายละเอียดดังนี้
- ห้อง 1 Bedroom ขนาด 24 – 27.5 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.19 ล้านบาท (Update 31/10/2022)
- ห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 32 – 37 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.69 – 3.59 ล้านบาท
โดยตัวโครงการนี้จะมีรูปแบบการขายเป็น Fully Furnished ให้มาทั้งห้องและเฟอร์นิเจอร์ภายในห้อง ซึ่งตัวเฟอร์นิเจอร์ที่ให้มาก็มีดีเทลเล็กๆ ที่น่าสนใจเหมาะสมกับฟังก์ชันการใช้งานอีกด้วย (เดี๋ยวเราจะพาไปดูกันค่ะ)
รายการวัสดุ
- Digital Door Lock
- พื้น ลามิเนต
- ผนังและฝ้าเพดาน ฉาบเรียบ ทาสี
- ไฟ ดาวน์ไลท์
- พื้นและผนังห้องน้ำ : กระเบื้องแกรนิตโต้
- สุขภัณฑ์ในห้องน้ำ : Hafele
- พื้นครัวและระเบียง : กระเบื้องเซรามิค
- อ่างล้างจานและเตาไฟฟ้าในครัว : Hafele
- รูปแบบการขาย Fully Furnished (ดีไซน์เฟอร์นิเจอร์และจำนวนชิ้นขึ้นอยู่กับแบบห้อง)
- เครื่องปรับอากาศ 2 ตัว
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
สำหรับห้องตัวอย่างที่จะพาไปดูในรีวิวจะมีอยู่ 2 ห้องค่ะ เป็นห้อง 1 Bedroom Type B ขนาดประมาณ 27 ตร.ม. และห้อง 1 Bedroom Plus type D ขนาด 34.5 ตร.ม. ทั้งคู่เป็นห้องหน้ากว้าง ได้ครัวปิด ภายในห้องจะเป็นอย่างไร ชมกันต่อเลยค่ะ
1 Bedroom Type B ขนาด 27 ตร.ม.
ห้องแรกที่จะพาไปดูเป็นห้อง 1 Bedroom Type B มีขนาดประมาณ 27 ตร.ม. ค่ะ จุดที่เราชอบของผังห้องนี้คือ
- เป็นห้องครัวปิด ชิดระเบียง เวลาทำอาหารก็สามารถเปิดประตูบริเวณระเบียงเพื่อระบายกลิ่น ควันออกไปได้เลย กลิ่น ควันก็จะไม่ลอยมาติดเฟอร์นิเจอร์อื่นๆภายในห้องด้วย
- ห้องนอนมีขนาดกว้าง สามารถหาชุดโซฟามาวางข้างหน้าต่างได้ และก็จัด Built-in ตู้เสื้อผ้าไว้ภายในห้องระนาบเดียวกับผนังดูเรียบร้อยสวยงาม ไม่มีเหลี่ยมมุม
- พื้นที่ระเบียงสามารถใช้งานได้ โดยจะยก CDU ของแอร์ไปไว้ทางด้านบน และมีพื้นที่ส่วนโค้งที่เราอาจจะหา cactus มาวางตกแต่ง จัดมุมนั่งเล่น พักผ่อนได้เลยค่ะ
- ห้องนั่งเล่นจะมีโซฟาที่ดีไซน์เฟอร์นิเจอร์ให้ปรับเป็นโต๊ะได้ ประยุกต์ใช้เป็นโต๊ะกินข้าวหรือโต๊ะทำงานได้เลยค่ะ
ถือว่าเป็นห้องที่ฟังก์ชันครบครัน และออกแบบดีเทลต่างๆให้เข้ากับการใช้งาน ใช้ชีวิตได้ดีห้องหนึ่งเลยนะคะ ส่วนราคาห้องนี้จะอยู่ที่ 2.xx ล้าน หรือว่า 2 ล้านต้นๆค่ะ
เนื่องจากโครงการนี้จะขายแบบ Fully Furnished ซึ่งมีทั้งเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว และ เฟอร์นิเจอร์ Built-in ให้มาพร้อมกันเลย ภาพนี้ก็จะเป็นตัวอย่างเฟอร์นิเจอร์ที่ให้มาค่ะ ถือว่าให้มาเกือบครบเลยนะคะ เหลือแต่ชั้นวางทีวีที่อาจจะมีหรือไม่มีก็ได้ และพวกฟูก หมอน ผ้าห่ม อีกนิดหน่อยก็พร้อมอยู่เลย ไม่ต้องสำรองเงินเผื่อค่าตกแต่งมากนะ
เริ่มกันตั้งแต่ทางเข้านะคะ ประตูทางเข้าไม่ได้มีตัวอย่างให้ดู แต่จะมี Digital Door Lock ให้มาด้วย ตัวพื้นห้องจะได้เป็นลามิเนตลายไม้อย่างที่เห็นเลย ส่วนผนังและฝ้าเพดานจะเป็นแบบฉาบเรียบ ทาสีขาว ไฟจะได้เป็นดาวน์ไลท์ และได้แอร์มาด้วยค่ะ
พื้นที่ส่วนแรกจะเป็นพื้นที่สำหรับกินข้าว + รับแขก เมื่อเข้าห้องมาจะเจอกับส่วนนั่งเล่นก่อนเลย ทางเดินระหว่างทีวีและโซฟาค่อนข้างกว้าง เราสามารถปรับขยับได้ตามใจนะคะ
ผนังทางฝั่งนี้หน้ากว้างจะราวๆ 2.4 เมตร จะได้ชั้นวางรองเท้ามาให้ เป็น Built-in ติดผนังเลย ส่วนชั้นวางทีวีไม่มีมาให้ค่ะ ใครมีงบหน่อยก็อาจจะ Built-in ทำเป็นชั้นวางทีวี+ชั้นวางของเพิ่มพื้นที่เก็บของให้กับห้องก็ได้ หรือว่าจะหาชั้นวางทีวีมาวางก็ได้นะคะ
ส่วนชั้นวางรองเท้าที่ได้จะกว้าง 50 ซม. หน้าบานเป็นกระจก แต่งตัวเสร็จ ใส่รองเท้า ก่อนออกจากห้องก็ตรวจเช็กความเรียบร้อยได้เลย
ส่วนพื้นที่อีกฝั่งจะเป็นโซฟาพักผ่อนค่ะ เฟอร์นิเจอร์ที่ได้ตรงนี้ค่อนข้างน่าสนใจ เราจะได้ตัวโซฟา โต๊ะหน้าโซฟา และเก้าอี้ 2 ตัวค่ะ
โซฟาที่ได้จะกว้างประมาณ 1.4 เมตร
จุดที่เราว่าดีเลยคือตัวเฟอร์นิเจอร์ที่ยืดหยุ่นมาก สามารถขยับ เก็บได้ง่าย ทำให้พื้นที่ในห้องไม่ตายตัว เราอาจจะหาโต๊ะญี่ปุ่นเล็กๆ แบบพับเก็บได้ไว้สักตัว เผื่อวันไหนเพื่อนมาบ้านก็เอาโซฟาชิดผนังไป กางโต๊ะเล่นบอร์ดเกม ทำสุกี้กินกันได้สบาย หรือถ้าใครเป็นสายออกกำลังกายก็กางเสื่อโยคะเล่นได้ค่ะ
มาดูพื้นที่ส่วนถัดมาค่ะ นั่นก็คือห้องนอนนั่นเอง ตัวห้องนอนกับห้องนั่งเล่นจะแบ่งแยกพื้นที่ออกจากกันด้วยประตูบานเลื่อนกระจกขนาดใหญ่ เพื่อให้แสงสว่างจากห้องนอนสามารถส่องเข้ามายังพื้นที่ห้องนั่งเล่นได้
ภายในห้องนอนจะมีหน้ากว้าง 2.6 เมตร ลึก 3 เมตรค่ะ เฟอร์นิเจอร์ที่ได้จะมีฐานเตียงและตู้เสื้อผ้าที่ Built-in มาให้ เราชอบที่ตู้เสื้อผ้าจะอยู่แนวเดียวกับผนังเลย ทำให้ดูเป็นระเบียบดีนะคะ
ฐานเตียงที่ได้จะเป็นขนาด Queen size นะคะ
ระยะรอบๆ เตียงเราถือว่าไม่แคบไปนะคะ สามารถเดินรอบๆได้สบาย ไม่ต้องดันเตียงไปชิดผนังฝั่งไหนเลย
ผนังฝั่งปลายเตียงจะเป็นผนังเปล่าค่ะ ถ้าใครอยากติดทีวีแนะนำให้แขวนที่ผนังเอานะคะ
หน้าต่างที่ได้ก็น่าสนใจ เพราะจะได้หน้าต่างบานใหญ่ เข้ามุมด้วย(ผ้าม่านบังพอดี) หน้าต่างบานใหญ่ก็ช่วยให้บรรยากาศภายในห้องนอนได้ความโปร่งและสว่างมากขึ้นด้วยค่ะ
มาดูฟังก์ชันอื่นๆ กันต่อค่ะ ที่มุมห้องจะเป็นห้องครัวและห้องน้ำ
ห้องน้ำที่ได้ก็ถือว่าแยกพื้นที่ส่วนเปียก-แห้งมาให้ สุขภัณฑ์ครบครันเป็นของยี่ห้อ Hafele เป็นห้องที่ไม่ต้องซื้ออะไรมาเพิ่มเติมแล้วค่ะ
อ่างล้างหน้ามีชั้นวางของเล็กๆใต้อ่าง หรืออาจจะวางอุปกรณ์แปรงฟัน ล้างมือ หรือของตกแต่งที่ผนังด้านหลังอ่างได้นะคะ
มาต่อกันที่ครัวค่ะ ตำแหน่งจะอยู่ที่มุมห้องพอดีเลย โดยครัวจะแบ่งเป็น 2 ฝั่งนะ ฝั่งหนึ่งเป็นเคาน์เตอร์ครัว อีกฝั่งเอาไว้วางตู้เย็นและเป็นทางเดิน
ห้องนี้จะเป็นครัวปิด ประตูเป็นบานเลื่อนกระจก เลื่อนเข้าไปซ่อนที่ผนังได้ค่ะ
เคาน์เตอร์ครัวกว้างประมาณ 1.3 เมตรค่ะ ออกแบบมาให้เป็นทั้งครัวและมีพื้นที่วางเครื่องซักผ้าเอาไว้ให้ด้วย
ช่องเก็บของต่างๆจะได้อย่างที่เห็นเลยค่ะ ช่องไม่ได้เยอะมาก เราอาจจะหาชั้นวางของมาเพิ่มเพื่อเก็บอุปกรณ์ครัวได้นะคะ
ส่วนสุดท้ายของห้องนี้จะเป็นระเบียงค่ะ อยู่ติดกับครัว กั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจก สามารถเปิดระบายอากาศ กลิ่น ควันบริเวณครัวได้เลย หรือเวลาซักผ้าเสร็จก็เอาไปตากที่ระเบียงได้ง่ายด้วย
ระเบียงจะมีขนาดประมาณ 1.0×1.7 เมตรค่ะ
จัดเป็นมุมนั่งเล่นได้นะ ผนังจะเป็นระแนงแนวตั้ง เนื่องจากเป็นคอนโด Low Rise ด้วย ทำให้ไม่ได้เน้นเรื่องวิวเป็นพิเศษ พอออกแบบมาเป็นระแนงก็เพิ่มเรื่องความเป็นส่วนตัวได้ด้วยนะคะ
1 Bedroom Type D ขนาด 34.5 ตร.ม.
ห้องตัวอย่างอีกห้องที่จะพาไปชมกันจะเป็นห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 34.5 ตร.ม.ค่ะ จุดที่น่าสนใจของห้องสำหรับเรามีดังนี้
- แต่ละฟังก์ชัน แยกสัดส่วนชัดเจน ทำให้สะดวกเวลาใช้งานและได้ความเป็นส่วนตัวด้วยค่ะ
- ห้องครัวปิด เหมาะสำหรับใครที่ทำอาหารกินเองเป็นประจำ ช่วยให้กลิ่น ควันที่เกิดจากการทำอาหารไม่ไหลลอยมายังพื้นที่ส่วนอื่นภายในห้อง
- ห้องอเนกประสงค์ สามารถดัดแปลงเป็นห้องทำงาน หรือว่า Walk-in Closet ได้
- ห้องนอนขนาดใหญ่ จัดวางให้มีพื้นที่ทางเดินรอบเตียงได้ และอาจจะเพิ่มโซฟาพักผ่อนส่วนตัวไว้ข้างเตียงก็ได้เช่นกัน
โดยเฟอร์นิเจอร์ที่ให้มาภายในห้องก็จะมีดังภาพข้างบนเลยค่ะ จุดที่น่าสนใจสำหรับเราจะเป็นโซฟาที่ได้ขนาดใหญ่ เรียกว่าเต็มหน้ากว้างของพื้นที่รับแขกเลยทีเดียว และยังมีดีเทลช่องเก็บของใต้เบาะอีกด้วย เป็นการเพิ่มพื้นที่เก็บของ ทำให้ห้องที่เราอยู่เป็นระเบียบเรียบร้อยมากขึ้นนะคะ
มาดูในห้องตัวอย่างกันค่ะ วัสดุต่างๆภายในห้องก็จะได้เหมือนกันกับห้องที่พาไปดูก่อนหน้านะคะ พื้นเป็นลามิเนตลายไม้ ผนังและฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสีขาว ไฟดาวน์ไลท์ ระดับความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.5 เมตร
เข้ามาภายในห้องเราจะเจอกับพื้นที่นั่งเล่น/รับแขก + กินข้าวกันก่อนเลยค่ะ เฟอร์นิเจอร์ที่ได้ก็จะตามห้องตัวอย่างเลย ยกเว้นชั้นวางทีวี ชั้นวางที่อยู่ติดกับผนัง พวกของตกแต่ง หมอนต่างๆ จะไม่ได้นะคะ
จุดที่น่าสนใจอย่างที่เราบอกไปคือชุดโซฟาที่ยาวเต็มความลึกของพื้นที่กินข้าว + นั่งเล่นเลย และจะมี coffee table หน้าโซฟา กับโต๊ะ+เก้าอี้ให้มา จัดเป็นมุมนั่งพักผ่อน มุมทำงาน และมุมกินข้าวรวมกันบนพื้นที่ตรงนี้ได้
พื้นที่ตรงนี้จะลึก 3 เมตร และมีหน้ากว้างประมาณ 2.6 เมตรค่ะ ระยะห่างไม่แคบมาก เรามองว่าใช้งานได้สบายเลย
จุดที่น่าสนใจจะเป็นที่เก็บของใต้เบาะโซฟาค่ะ สามารถเก็บของได้เยอะเลยนะคะ ถือว่าเป็นการปรับเฟอร์นิเจอร์ให้เป็นพื้นที่เก็บของได้อย่างน่าสนใจเลย
Coffee table ก็จะได้หน้าตาแบบนี้ค่ะ ดูบางสวยดี
โต๊ะและเก้าอี้กินข้าวก็จะได้แบบที่เห็น ปรับใช้เป็นมุมทำงานภายในห้องได้เลย เหมาะกับนักเรียนหรือว่าคนทำงานที่ต้อง Work From Home บ่อยๆ
มาดูอีกฝั่งของโซฟากันต่อค่ะ ฝั่งนี้เป็นมุมสำหรับวางทีวี โดยจะมีชั้นวางรองเท้าให้มาใน Furniture Package ส่วนชั้นวางทีวีต้องซื้อเพิ่มเอานะคะ
ชั้นวางรองเท้าจะได้หน้าบานเป็นกระจกเต็มตัว ส่วนด้านในก็เก็บรองเท้าได้หลายคู่เลย
ขยับเข้าไปดูทางด้านในกันต่อ ติดกับพื้นที่นั่งเล่นจะเป็นห้องนอนค่ะ
ห้องนอนนี้จะแยกจากพื้นที่นั่งเล่นด้วยประตูบานเลื่อนกระจกขนาดใหญ่ เพื่อให้แสงสว่างจากภายนอกอาคารสามารถส่องมายังพื้นที่นั่งเล่นได้ โดยเราอาจจะติดม่านเพิ่มได้นะคะ ถ้าใครอยากได้ความเป็นส่วนตัว เวลามีแขกมาหาก็ปิดม่านไว้ คนนอกก็จะไม่เห็นพื้นที่ห้องนอนซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนตัวของเรา
ห้องนอนนี้ถือว่าได้ขนาดใหญ่เลย ลึก 3.7 เมตร กว้าง 2.6 เมตร
เฟอร์นิเจอร์ที่ได้ก็จะมีฐานเตียงขนาด Queen size กับตู้เสื้อผ้าข้างเตียงค่ะ โดยดีไซน์ฐานเตียงก็จะมีลิ้นชักสำหรับเก็บของเหมือนกับห้องที่แล้วเลย
ตู้เสื้อผ้าที่ได้จะกว้าง 90 ซม. มีช่องสำหรับวางกระเป๋าเดินทางด้านบน และมีราวแขวนเสื้อลิ้นชักด้านในแบบห้องตัวอย่างเลยค่ะ หน้าบานตู้จะเป็นแบบเปิดสวิง ซึ่งเราชอบตำแหน่งตู้ของห้องนี้ที่เอาไว้ข้างเตียง ทำให้มีระยะในการเปิดตู้ เลือกเสื้อผ้าพอสมควรเลย
ด้านในสุดของห้องจะเป็นหน้าต่างกระจกเข้ามุมขนาดใหญ่ค่ะ ช่วยให้ห้องดูโปร่งโล่งกว่าเดิมอีกนะ
ตรงปลายเตียงจะเหลือทางเดินระยะประมาณ 60 ซม. ไม่เหมาะสำหรับการวางเฟอร์นิเจอร์ใดๆแล้วนะคะ แต่อาจจะหาฮุกมาติดที่ผนังเพื่อแขวนเสื้อผ้า กระเป๋า ของตกแต่งได้ หรือว่าถ้าอยากได้ทีวีในห้องก็เลือกแบบแขวนผนังแทนดีกว่าค่ะ
ข้างเตียงฝั่งที่อยู่ติดกับหน้าต่างมีระยะประมาณ 1.1 เมตร ในห้องตัวอย่างจะเป็นโซฟาพักผ่อน ซึ่งเราอาจจะเลือกดีไซน์โซฟาอ่านหนังสือ หรือว่าเป็นมุมสำหรับโต๊ะเครื่องแป้งหรือที่ทำงานเพิ่มก็ได้นะคะ
ส่วนตัวเรามองว่าห้องนอนนี้ได้พื้นที่ค่อนข้างใหญ่เลย เป็นห้องนอนที่อยู่สบาย ไม่อึดอัด
มาดูห้องน้ำกันต่อค่ะ ตำแหน่งห้องน้ำจะอยู่ติดกับห้องนั่งเล่น ฝั่งหลังชั้นวางทีวีเลย
ภายในห้องน้ำก็ให้สุขภัณฑ์มาครบ แยกพื้นที่ส่วนเปียก-ส่วนแห้งให้เรียบร้อย สุขภัณฑ์จะได้ของ Hafele เป็นหลักนะ
อ่างล้างหน้าได้ชั้นวางของใต้อ่างด้วยค่ะ มีพื้นที่วางของทางผนังด้านหลังได้
ส่วนห้องครัวจะอยู่ตรงกลางเลย เป็นห้องครัวปิด ประตูบานเลื่อนกระจก ช่วยให้ครัวดูไม่แคบ
ครัวจะกว้าง 2 เมตร มีเคาน์เตอร์ครัวและชั้นวางของให้มาค่ะ วางตู้เย็นไว้ด้านข้างได้
ผนังหลังเคาน์เตอร์ไม่ได้กรุกระเบื้องไว้ให้ อาจจะหามาติดเพิ่มทีหลังเอาก็ดีนะคะ เวลาทำอาหารคราบ เขม่าควันต่างๆไปติดก็ทำความสะอาดได้ง่าย
ติดกับห้องครัวจะเป็นห้องอเนกประสงค์ค่ะ
ห้องนี้เราจะได้เป็นห้องโล่งขนาด 1.8×2.2 เมตร และเป็นห้องที่ติดกับพื้นที่ระเบียงเลย
สามารถจัดเป็นห้องทำงาน ห้องแต่งตัว หรือถ้าใครมีลูกก็สำรองไว้เป็นห้องนอนเล็กหรือห้องนอนแขกได้เช่นกันนะคะ
จากห้องอเนกประสงค์ไปยังระเบียงจะมีประตูบานเลื่อนกระจกอยู่ค่ะ
พื้นที่ระเบียงมีขนาด 2.35x0.70 เมตร สามารถจัดสวนเล็กๆได้นะคะ
แบบแปลน
ดูห้องตัวอย่างกันมาครบแล้ว เรามาดูแปลนห้องอื่นๆ ของโครงการนี้กันนะคะ
สำหรับห้อง 1 Bedroom จะมีให้เลือกอยู่ 2 แบบ Type A เริ่มต้นจะมีขนาด 24 ตร.ม. (น่าจะเป็นแปลนห้องที่ราคา 2.19 ล้านบาท (Update 31/10/2022) ด้วยค่ะ) ส่วนห้อง Type B จะเป็นห้องตัวอย่างที่พาไปชมก่อนหน้า จุดที่แตกต่างระหว่าง 2 ห้องนี้ ที่เห็นได้ชัดคือ
- ภายในห้องนอน Type B จะมีขนาดกว้างกว่า Type A มาก เดินได้โดยรอบ ทำให้เวลาอยู่กัน 2 คน สามารถเดินลงจากเตียงทางด้านข้างได้ ในขณะที่ Type A จะวางได้แบบพอดีๆ เดินลงจากเตียงทางปลายเตียงเอาค่ะ
- ห้องนั่งเล่น สำหรับ Type A จะมีการแยกเฟอร์นิเจอร์สำหรับห้องนั่งเล่นและกินข้าวออกจากกันค่ะ แต่ว่า Type B จะมีดีไซน์เฟอร์นิเจอร์ของโซฟาที่มีโต๊ะสำหรับกินข้าวทางด้านหลัง ซึ่งรองรับได้ 2 ที่นั่ง
ส่วนตัวเรามองว่าห้อง Type A เหมาะสำหรับอยู่คนเดียวมากกว่า ทั้งชุดโต๊ะกินข้าวที่ได้แบบ 1 ที่นั่ง และพื้นที่รอบเตียงที่ไม่กว้างมาก ส่วนใครที่อยู่กัน 2 คนเราว่าห้อง Type B ก็จะเป็นห้องที่อยู่สบายมากกว่าค่ะ
สำหรับห้อง Type C, D, E จะเป็นห้อง 1 Bedroom Plus มีช่วงราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 2.69 – 3.59 ล้านบาท
- ห้อง Type C,D จะมีการวาง Layout คล้ายกันค่ะ แตกต่างกันที่ขนาดของแต่ละฟังก์ชันภายในห้องและรูปร่างของผังห้อง โดยทั้งหมดจะวางครัวไว้ตรงกลาง และเอาห้องอเนกประสงค์ไว้ติดกับระเบียง จุดที่แตกต่างระหว่าง Type C กับ Type D จะเป็นเรื่องประตูทางเข้าห้องน้ำและห้องอเนกประสงค์ที่ Type C จะต้องเข้าจากส่วนครัวเท่านั้น ส่วน Type D จะมีทางเข้าจากโถงกลางห้องค่ะ ซึ่งจุดนี้เองทำให้เรามองว่าถ้าใครต้องการห้องอเนกประสงค์เพื่อทำเป็นห้องนอนแล้ว Type D ก็จะเหมาะสมกว่า เพราะเป็นห้องปิดแยก ได้ความเป็นส่วนตัว ส่วน Type C เหมาะกับการทำเป็นห้องอเนกประสงค์อื่นๆ เช่น ห้องทำงาน ห้องออกกำลังกาย เป็นต้น
- Type E เป็นห้องขนาดใหญ่ที่สุดของโครงการ และเป็นห้องหัวมุมด้วยค่ะ ห้องนี้จะมีความแปลกตรงที่เป็นห้องเดียวในโครงการที่ได้เป็นห้องครัวเปิด และเป็นห้องแบบเดียวที่เอาพื้นที่นั่งเล่น/รับแขกไปไว้ชิดระเบียง ซึ่งห้องนี้เหมาะสำหรับคนที่ให้ความสำคัญกับพื้นที่พักผ่อน อยากได้บรรยากาศที่สว่าง โปร่ง สบาย ซึ่งพื้นที่ตรงระเบียงเราก็สามารถวางไม้กระถางเพิ่มความร่มรื่นให้กับพื้นที่พักผ่อนได้ด้วย ในส่วนของห้องนอนและห้องอเนกประสงค์ก็จะเป็นห้องปิดแยกไปอีกฝั่ง ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ห้องนี้เหมาะกับครอบครัวเริ่มต้นอยู่กันได้ 2-3 คนค่ะ
ราคา
blue พหลโยธิน 35 ราคา ณ วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2022
- ห้อง 1 Bedroom ขนาด 24 – 27.5 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.19 ล้านบาท (Update 31/10/2022)
- ห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 32 – 37 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.69 – 3.59 ล้านบาท
- รูปแบบการขาย Fully Furnished
- ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.50 เมตร
- Kitchen & Sink
- Hob & Hood / ของยี่ห้อ Hafele
- มีรถ Shuttle Service
- จอง 5,000 บาท
- ทำสัญญา 0 บาท
- ดาวน์ 2,900 บาท/เดือน ทั้งหมด 18 งวด และงวดพิเศษ 3 งวดสุดท้าย
- ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
- ค่าส่วนกลาง 55 บาท/ตร.ม./เดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
บทสรุป
ทำเล :
blue พหลโยธิน 35 ตั้งอยู่ในซอยพหลโยธิน 35/4 แยก 2 ค่อนไปทางฝั่งถนนวิภาวดีรังสิต สามารถเข้า-ออกได้จากทั้งถนนพหลโยธิน ถนนวิภาวดีรังสิต และ ถนนรัชดาภิเษก ทำเลนี้แม้จะอยู่ในซอยย่อย แต่ก็ถือว่าอยู่ระหว่างถนนเส้นหลักที่เต็มไปด้วยแหล่งงาน สถานศึกษา และห้างสรรพสินค้า เป็นทำเลที่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกสบายทำเลหนึ่งเลยค่ะ
การเดินทางโดยใช้รถ :
ที่ตั้งโครงการสามารถเข้า-ออกได้จากถนนหลัก 3 เส้นทาง ใกล้กับทางด่วน เดินทางเข้า-ออกเมืองสะดวก และยังมีสัดส่วนที่จอดรถให้มาราวๆ 40% ของยูนิตพักอาศัย เมื่อเทียบกับราคาของคอนโดระดับนี้ เรามองว่าสัดส่วนอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานนะคะ ทำให้กลุ่มคนที่อยู่อาศัยส่วนหนึ่งสามารถใช้รถส่วนตัวเดินทางไปทำงานในละแวกได้ค่ะ
การเดินทางโดยไม่ใช้รถ :
จุดเด่นเรื่องการเดินทางโดยไม่ใช้รถสำหรับเราคือเรื่องบริการ Shuttle Service โดยทางโครงการมีบริการรถรับ-ส่งจาก Avenue Ratchyothin (บริเวณสะพานลอยข้ามไป SCB PARK)- BTS รัชโยธิน ไปยังโครงการ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับคนที่ใช้รถไฟฟ้าบ่อยๆ ทำงานหรือใช้ชีวิตวนลูปในโซนนี้ค่ะ
**เส้นทางอาจมีการเปลี่ยนเปลี่ยนภายหลังจัดตั้งนิติบุคคลฯ
นอกจากตัว Shuttle Service ที่เป็นจุดเด่นแล้ว ทำเลนี้ถือว่าเป็นทำเลที่มีผู้คนพลุกพล่าน มีสำนักงานและที่พักอาศัยทั้ง Apartment, Condominium อยู่ ทำให้มีวินมอเตอร์ไซค์อยู่ไม่ไกลจากตัวโครงการ หรือจะเดินไปเรียกรถ Taxi ที่ถนนรัชดาภิเษกก็ไม่ไกลค่ะ แต่ถ้าใครขี้เกียจก็สามารถเลือกรถผ่าน Application ได้ ทำเลนี้ดูแล้วไม่น่าจะรอรถนานนะคะ
วัสดุ :
ตัวโครงการถือว่าให้วัสดุมาตามมาตรฐานของระดับราคา พื้นลามิเนต ผนังและฝ้าเพดานฉาบเรียบ ทาสี มีไฟดาวน์ไลท์ ได้ชุดครัวและสุขภัณฑ์ในห้องน้ำครบ ส่วนใหญ่จะเป็นของ Hafele และมีแอร์ให้มาห้องละ 2 ตัวด้วยค่ะ นอกจากนี้โครงการยังจะขายแบบ Fully Furnished พร้อมเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหลักๆภายในห้อง ทำให้ขนาดเฟอร์นิเจอร์มักจะพอดีกับขนาดของห้อง ไม่ต้องเสียเวลาในการเลือกตกแต่ง และก็ไม่ต้องเผื่องบประมาณสำหรับตกแต่งห้องเยอะค่ะ
การออกแบบ :
แบรนด์ Blue เป็นแบรนด์ที่เลือกเอาสีฟ้าของท้องฟ้าและคลื่นทะเลมาใช้ ทำให้การออกแบบอาคารหรือตัวสถาปัตยกรรมภายนอกจะมีผนังที่โค้งสื่อถึงคลื่น นอกจากนั้นพื้นที่ส่วนกลางก็ออกแบบฟังก์ชันมาได้หลากหลาย ออกแบบภายในดูสวยน่าใช้งานค่ะ โดยให้ความสำคัญกับพื้นที่สีเขียวภายในโครงการ ทั้งสวนหย่อมภายในโครงการและ Pocket Garden ที่อยู่บริเวณผนังอาคารด้วย
รูปแบบห้องจะเน้นห้องพักอาศัยขนาดเล็ก มี 1 Bedroom กับ 1 Bedroom Plus เท่านั้น เหมาะสำหรับอยู่กัน 1-2 คนเป็นหลัก โดยฟังก์ชันภายในก็จะจัดให้แยกเป็นสัดส่วน ใช้งานได้สะดวก เฟอร์นิเจอร์ดีไซน์เหมาะสมกับ Layout ของแต่ละห้อง ได้ครัวปิด และมีระเบียงที่สามารถใช้งานพักผ่อนได้ ไม่เฉพาะใช้เป็นส่วน Service เท่านั้น
สาธารณูปโภค :
โครงการนี้ออกแบบพื้นที่ส่วนกลางมาน่าสนใจ เพราะจะกระจายตัวอยู่ตั้งแต่ชั้น 1 ไปจนถึงชั้น 4 ซึ่งเราไม่ค่อยเจอคอนโด Low Rise ทำพื้นที่ส่วนกลางแบบนี้เท่าไหร่นัก ข้อดีคือทำให้แต่ละฟังก์ชันได้ความเป็นส่วนตัว ลดความหนาแน่นในการใช้งานได้ นอกจากนั้นก็ออกแบบมาสวยน่าใช้งาน มีฟังก์ชันที่ดูแล้วน่าสนุก เช่น Game Room, Semi-outdoor โยคะฟลาย
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 89,000 บาท/ตร.ม., 27 กุมภาพันธ์ 2565
- ทำเล 7.5/10 – ในซอยพหลโยธิน ใกล้ถนนวิภาวดีรังสิตและรัชดาภิเษก
- เดินทางด้วยรถ 7.75/10 – เข้า-ออกได้ 3 เส้นทาง สัดส่วนที่จอดรถ 40%
- ไม่ใช้รถ 7.75/10 – มี Shuttle Service รับส่ง BTS รัชโยธิน
- วัสดุ 7.75/10 – ขายแบบ Fully furnished
- แบบ 8/10 – โครงการเน้นพื้นที่สีเขียว ผังห้องแยกฟังก์ชันเป็นสัดส่วน อยู่สบาย
- สาธารณูปโภค 8/10 – พื้นที่ส่วนกลางหลากหลาย น่าใช้งาน
- MAIN CLASS
- 7.7125 / 10.00
blue พหลโยธิน 35 เหมาะกับใคร?
โครงการ blue พหลโยธิน 35 เป็นโครงการที่เหมาะสำหรับคนที่มองหาคอนโดย่านรัชโยธินหรือห้าแยกลาดพร้าว ในงบประมาณ 2-4 ล้านบาท(รวมงบตกแต่ง) อยู่อาศัย 1-2 คน เรียนหรือทำงานในโซนวิภาวดีรังสิตตอนต้น, ห้าแยกลาดพร้าว, รัชโยธิน ต้องการโครงการที่มีส่วนกลางให้ใช้ ห้องพักอยู่สบาย ทำอาหารได้ เดินทางสะดวก มีกำลังผ่อนราวๆ 14,000 – 28,000 บาทต่อเดือน
blue พหลโยธิน 35 ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษช่วงเปิดตัวโครงการ วันนี้ – 25 มี.ค. 65
คลิก https://bit.ly/34Rx6gV
หรือ สอบถามข้อมูลและนัดหมายเข้าชมโครงการได้ที่
LINE Official : @GrandUnity
สามารถเข้าชมโครงการได้ทุกวัน เวลา 09.00 – 18.00 น.
โทรสอบถามเพิ่มเติม : 02 652 4000
ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc