สวัสดี ท่านผู้อ่านทุกท่านครับ รีวิวโครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่ วันนี้เราจะพาไปดูโครงการ “Bangkok Horizon เพชรเกษม” ของ CMC อีกหนึ่งโครงการใหม่พร้อมอยู่ ในย่านฝั่งธน บนถนนเพชรเกษมกันครับ ถือว่าต้อนรับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินกันก็ได้ โครงการนี้เป็นโครงการสร้างเสร็จ แห่งแรกบนถนนเพชรเกษมกันเลยก็ว่าได้ Bangkok Horizon เพชรเกษม โครงการนี้อยู่ในรีวิวรีเควสมานานแล้ว แต่ตั้งใจไว้แต่แรกว่าจะแวะมาดูตอนตึกเสร็จทีเดียวไปเลยครับ
Fact @ 20 Dec 2012
- Bangkok Horizon Petchkasem (แบงก์คอก ฮอไรซอน เพชรเกษม )
- CMC
- MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- คอนโด High Rise 28 ชั้น 418 Units
- ที่จอดรถประมาณ 40%
- ที่ดินประมาณ 2-3-39.5 ไร่
- 1 – 2 Bedrooms
- พื้นที่ใช้สอย 30 – 47 ตร.ม.
- ราคาเริ่มต้นประมาณ 1.7 ล้านบาท
- ราคาต่อตารางเมตรประมาณ 56,000 – 76,000 บาท
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ
เจาะลึกที่ตั้งโครงการ
โครงการ Bangkok Horizon เพชรเกษม ตั้งอยู่ติดกับถนนเพชรเกษม ระหว่างซอย 31/3 กับซอย 33 ครับ ซึ่งอยู่ฝั่งเดียวกันกับ ซีคอนบางแค (ฟิวเจอร์บางแคเก่า)นั่นเอง สำหรับการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินนั้น ก็เริ่มดำเนินการ และคาดว่าจะเสร็จพร้อมเปิดใช้บริการ ประมาณปี 2558 ระหว่างนี้คนที่อยู่อาศัยในย่านนี้ คงต้องอดทนกับการจราจรที่หนาแน่นและติดขัดกันไปก่อนนะครับ โดยเชื่อว่าพอรถไฟฟ้าเสร็จพร้อมดำเนินการแล้ว การจราจรคงจะเบาบางลงไปบ้าง
สำหรับสถานีรถไฟฟ้าที่ใกล้สุดสำหรับโครงการนั้น ได้แก่สถานีเพชรเกษม 48 โดยห่างออกไปประมาณ 350 เมตร ระยะทางอยู่ในขอบเขตเดินได้สบายๆ
บริเวณถนนเพชรเกษม ในปัจจุบันกำลังก่อสร้างรถไฟฟ้าใต้ดิน ช่วงบางแค – ท่าพระ ทำให้การจราจรหนาแน่นพอสมควรนะครับ
ด้านข้างติดกับที่ดินเป็นสวนอาหารครับ
เจาะลึกตัวโครงการ
โครงการ Bangkok Horizon เพชรเกษม เป็นคอนโดมิเนียมสูง 28 ชั้น 1 อาคาร ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 3 ไร่ติดถนนเพชรเกษม ถือเป็นโครงการคอนโดมิเนียมสูง แห่งแรกบนถนนเพชรเกษมต้อนรับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินกันเลยทีเดียว และเป็นโครงการพร้อมอยู่โครงการแรกในย่านนี้ ปัจจุบันมีโครงการใหม่ เกิดขึ้นใกล้ๆกันหลายโครงการนะครับ รวมทั้งโครงการที่ 2 ของเจ้าพระยามหานคร CMC ที่ใช้ชื่อว่า แบงก์คอก ฮอไรซอน P48 ที่อยู่ในระหว่างการก่อสร้างด้วย
เป็นภาพมุมแหงนของตัวอาคารนะครับ
นี่เป็นภาพด้านข้างของอาคาร Bangkok Horizon เพชรเกษม จะเห็นว่าพยายามเล่นลูกเล่นของระแนงกันแดด (เส้นนอนสีน้ำตาลบริเวณตรงกลางอาคาร) และสวนที่อยู่ระหว่างชั้น นอกจากจะช่วยกันแดดแล้ว ยังช่วยทำให้อาคารดูสวยงามมากยิ่งขึ้น
ด้านหน้าโครงการ Bangkok Horizon เพชรเกษม
ต่อไปเราจะเข้าไปชมกันข้างในตัวโครงการกันนะครับ บริเวณด้านหน้าจะเป็นจุดรับส่งผู้โดยสารครับ สำหรับที่จอดรถ จะต้องวนไปจอดอาคารจอดรถที่อยู่ด้านหลังอาคาร แล้วเดินย้อนกลับมาที่ตัวคอนโดอีกทีนะครับ
ผังชั้น 1 ของโครงการจะแสดงให้เห็นรูปร่างอาคารที่วางในที่ดินค่อนข้างชัดเจนครับ แต่ไม่เห็นอาคารจอดรถ ที่อยู่ด้านหลังแยกตึกออกไป (ด้านซ้ายมือของรูป) บริเวณด้านหน้าจะเป็นสวนและเป็นโถงต้อนรับนะครับ ส่วนด้านหลัง จะเป็นส่วนของห้องเครื่องตัวอาคารและ ที่จอดรถใต้อาคารบางส่วน โดยจะมีทางเดินที่เดินเชื่อมจากที่จอดรถเพื่อเข้าสู่โถงลิฟท์ตัวอาคารอีกที
อาคารจอดรถด้านหลัง สูงประมาณ 5 ชั้น
นี่เป็นทางขึ้นอาคารจอดรถนะครับ
ทางเดิน ที่เชื่อมจากที่จอดรถตามที่บอกครับ ขวามือเป็นที่จอดรถใต้อาคารพักอาศัย ซึ่งมีอยู่ไม่มาก ประมาณ 15 คัน
บริเวณทางเดินนี่เอง มีตู้จดหมาย สำหรับลูกบ้านอยู่ด้วยครับ
ต่อมาชมด้านหน้ากันบ้างครับ ทางโครงการจัดไว้เป็นสวน และที่ส่งผู้โดยสาร ดูร่มรื่น
มีน้ำพุด้านหน้า
เวลาขับรถเข้าโครงการ จะวนรถทางเดียวครับ โดยวนไปด้านหลังเพื่อเข้าอาคารจอดรถ
มีหลังคากันแดด กันฝนได้ในระดับหนึ่ง
ด้านหน้าเป็นสำนักงานขายของโครงการ ภายหลังเมื่อส่งมอบ สามารถทำเป็นห้องอเนกประสงค์ หรือห้องประชุมได้
อึกด้านของโครงการ ก็มีการปรับพื้นที่ เพื่อทำเป็นทางเดินของรถที่จะออกมาจากอาคารจอดรถครับ
พอเข้ามาในส่วน ล๊อบบี้ ขนาดไม่ใหญ่มาก สามารถนั่งรอ และติดต่อนิติบุคคลได้ที่นี่ ประตูด้านขวามือ ก็คือทางที่จะเดินเชื่อมไปอาคารจอดรถนั่นเองครับ
ล๊อบบี้ จัดไว้เป็นแบบโถงสูง สามารถมองทะลุขึ้นไปด้านบน ซึ่งเป็นห้องประชุม และสระว่ายน้ำ
ชั้น 2 เป็นที่ตั้งของสระว่ายน้ำ และห้องออกกำลังกาย รวมทั้งห้องประชุม
บริเวณโถงลิฟท์ ค่อนข้างแคบ ประมาณ 1.5o เมตร เท่าทางเดินภายในเลยครับ
ทางเดินไปห้องประชุมซึ่งอยู่ด้านหน้าอาคารครับ
ห้องประชุมอยู่ในสุด ปัจจุบันเป็นห้องของเจ้าหน้าที่
ด้านล่างเป็น โถงต้อนรับของโครงการครับ โครงการทำเป็น Double Space สามารถมองลงไปได้
จากโถงลิฟท์ ครึ่งหลังของอาคารเป็นตำแหน่งของสระว่ายน้ำ และห้องออกกำลังกายครับ
สระว่ายน้ำของโครงการที่นี่เป็น สระว่ายน้ำในร่ม ยาวประมาณ 20 เมตร แต่เนื่องจากอยู่ในร่มทำให้ สามารถว่ายน้ำได้ทั้งวัน ไม่ต้องกลัวร้อน
ชุดนั่งเล่น ริมสระ ดูไม่ค่อยเข้ากันเท่าไหร่
แนวน้ำล้นรอบสระ เป็นรางน้ำโรยด้วยกรวด
มีสระสำหรับเด็ก อยู่ติดกัน
ป้ายบอกความลึกของสระเด็ก
ห้องออกกำลังกาย จะอยู่ขนานกับความยาวของสระว่ายน้ำ
ห้องขนาดไม่ใหญ่มากครับ วางเครื่องเล่นได้ประมาณ 6-7 ชิ้น
อีกมุมนึง สามารถมองออกไปด้านนอกได้ครับ แต่ต้องปิดม่านไว้ช่วงเช้าเนื่องจากโดนแดด
ส่วนในสุดเป็นห้องน้ำ และห้องซาวน่าของลูกบ้านครับ
ภายในห้องน้ำ มีห้องซาวน่า ตำแหน่งการวาง เร้าใจมากครับ
ชั้นพักอาศัย จะเริ่มตั้งแต่ชั้นที่ 3 เป็นต้นไป โดยจะมี 17 ห้องต่อชั้น จากผังห้องแบบA ได้แก่ห้องสีเหลืองและมีจำนวนมากที่สุดคือ 10 ห้องต่อชั้น สำหรับห้องแบบ B ได้แก่ห้องสีฟ้าจะอยู่บริเวณทิศเหนือของโครงการ และห้องแบบC ซึ่งเป็นแบบ 2 ห้องนอน ได้แก่ห้องสีชมพูซึ่งจะอยู่บริเวณ มุมอาคาร เนื่องจากสามารถเปิดหน้าต่างได้ 2 ด้าน และจะมีชั้นละ 2 ห้องเท่านั้น ลิฟท์โดยสารมี 3 ตัว + Service ลิฟท์ อีก 1 ตัว อัตราส่วนลิฟท์ 140 ห้อง ต่อลิฟท์ 1 ตัว เกินค่ามาตรฐานที่ 100 ต่อ 1 ไป แต่ก็น่าจะพอใช้ได้ไม่แน่นไม่รอนานจนเกินไปนัก
สำหรับชั้นดาดฟ้า ได้แก่ชั้นที่ 28 ซึ่งทางโครงการจัดไว้ให้เป็นสวนบนดาดฟ้าสำหรับพักผ่อนหย่อนใจ
มีการตกแต่งสวนไว้อย่างสวยงามครับ ต้นไม้ที่ใช้เป็นต้นไม่ขนาดเล็ก ปลูกเป็นแนวอยู่ริมกระบะ โดยรอบมีราวเหล็กกันตกกั้นไว้เพื่อความปลอดภัย
วิวจากชั้นบนสุดมองไปไกลสุดตาเลยทีเดียวครับ ระแนงกันตก อันตรายนิดนึง เด็กปีนง่าย
บริเวณประตูทางออกจากโถงลิฟท์ครับ ด้านบนมีระแนงเหล็กกันแดดไว้ด้วย
มีพื้นที่ไว้สำหรับนั่งพักผ่อน หรือจัดกิจกรรมต่างๆได้ด้วย
วิวจากทิศตะวันตก จะเห็นซีคอน อยู่ไม่ไกลครับ (บริเวณตึกใหญ่ๆที่มีผนังสีส้มๆนั่นหละครับ)
บนชั้นดาดฟ้า มีบันได้เหล็กสำหรับขึ้นไปข้างบนอีกด้วยครับ
เราจึงต้องลองขึ้นไปเพื่อให้รู้ว่าเป็นอะไร
จริงๆแล้วเป็นที่สำหรับจอด เฮลิคอปเตอร์ครับ
บริเวณส่วนแหลมๆ ที่หลายคนสงสัยเวลามองจากด้านล่าง ว่าเอาไว้ทำอะไร ดูกันชัดๆไปเลย .. คงไม่ได้ใช้อะไรนะครับ
Bangkok Horizon เพชรเกษม ถ่ายจากด้านบนลงไป ให้เห็นโลโก้ของอาคารด้วย
ขากลับเลยฝากรูปด้านหลังโครงการให้ดูอีกรูปครับ
Product Walk Through
ห้องมาตรฐานของโครงการ Bangkok Horizon เพชรเกษม ขนาด 30 ตารางเมตร มี 2 แบบครับ แบบแรกเป็นแบบที่ห้องครัวจะอยู่ติดกับประตูทางเข้า ข้อดีคือ จะทำให้ห้องนอนและห้องรับแขก อยู่ติดกับหน้าต่างด้านนอก แต่ข้อเสียคือ ทางเข้าด้านหน้าจะดูค่อนข้างแคบ เนื่องจากต้องเดินผ่านเคาน์เตอร์ครัวก่อน จึงจะเข้าห้องได้ ห้องนี้โครงการเค้าไม่ได้กั้นแยกห้องนอนกับห้องนั่งเล่นนะครับ ต้องกั้นเอง ส่วนระเบียงจะค่อนข้างแคบหน่อย
จุดเด่นที่พิเศษไม่เหมือนโครงการอื่นๆ ก็คือ บริเวณทางเข้าด้านหน้าห้อง โครงการจะเตรียมตู้สำหรับใส่เสื้อผ้าส่งซักไว้ด้วย ซึ่งเปิดได้จากด้านนอก Function ตรงนี้ แปลกดี เดี๋ยวไปดูของจริงกัน
ลักษณะหน้าบาน (ส่วนที่ติดทางเดิน) เป็นดังรูปครับ เวลามาส่งเสื้อผ้า ก็สามารถเปิดแล้วแขวนเสื้อได้จากทางเดินด้านนอกเลย
ภายในห้องจะเป็นตู้ลักษณะตามรูปนะครับ ตู้ด้านบนเป็นตู้ใส่เสื้อผ้า ที่เปิดได้จากนอกห้อง ส่วนตู้ด้านล่างเป็นตู้เก็บรองเท้า
เวลาเปิดตู้จากด้านใน ก็จะหยิบเสื้อผ้าได้ โครงการเตรียมราวไว้แขวนเสื้อผ้าให้ด้วยครับ ถ้าสังเกตุให้ดี จะพบว่า ประตูบานนอกที่เปิดจากด้านนอก เป็นระแนงโปร่ง ซึ่งระบายอากาศดี ผ้าไม่อับ แต่มันไม่กันแมลงนะครับ และ Function นี้ แปลว่าจะต้องมีคนมาส่งผ้าให้ถึงหน้าห้องกันเลย แถมเปิดตู้เราได้เองด้วย
ภายในห้องจะสูงกว่าทางเดินตรงกลางเล็กน้อยครับ แต่เนื่องจากพื้นภายในห้องเป็นพื้นกระเบื้อง จึงยกระดับขึ้นมาปรกติ
ประตูทางเข้าเป็นประตู ดอริกทาสีขาว มือจับเป็นแบบเขาควายครับ
ชุดครัวเป็นแบบที่โครงการแถมมาให้นะครับ ตัวโครงตู้เป็นแบบ Hi Gross สีเทา และมีท๊อปเป็นหินสีดำครับ ส่วนอุปกรณ์ที่มีให้ก็ได้แก่ ซิงค์ล้างจาน, เตาไฟฟ้า และก็เครื่องดูดควัน
ตู้แขวน เตรียมไว้สำหรับเก็นของ และใส่เตาไมโครเวฟตามรูปครับ
อ่างล้างจานเป็นแบบหลุมเดียว พร้อมก๊อกน้ำ
เตา และ เครื่องดูดควัน ของ TEKA
ตำแหน่งของตู้ไฟ และสายโทรศัพท์ หรือทีวีภายในห้องก็จะอยู่บริเวณเดียวกัน โดยจะอยู่ติดกับฝ้าเพดาน
มุมมองจากทางเข้า เข้าไปภายในห้องจะค่อนข้างแคบนะครับ ส่วนที่กั้นห้องครัวและห้องนั่งเล่น จะมีประตูบานเลื่อนกั้นสัดส่วนไว้ด้วย
พื้นห้องจะเปลี่ยนจากกระเบื้อง เป็นไม้ลามิเนตครับ ตัวจบและรูปแบบของบัวพื้น เป็นตามรูปครับ
เข้ามาภายในห้องก็จะเป็นห้องโล่ง โปร่งๆ
บริเวณห้องนอนจะอยู่ด้านในนะครับ สำหรับห้องแบบนี้ ทางโครงการไม่ได้กั้นห้องนั่งเล่นกับห้องนอนให้เหมือนใน ผังห้องที่แสดงไว้นะครับ หากลูกบ้านต้องการกั้น ก็ต้องกันเอง โดยอาจทำเป็นประตูบานเลื่อนกั้นไว้ บริเวณปลายเตียงได้
บริเวณหัวเตียง จะมีปลั๊กไฟสำหรับตั้งโคมไฟ และจุดรับสัญญาณโทรศัพท์ คิ้วพื้นเป็นคิ้วไม้ สูงประมาณ 5 เซ็นติเมตร
สำหรับสวิทซ์ไฟ ปิด-เปิด สีขาวตามรูป
แอร์ที่โครงการให้ของ SAMSUNG ครับ ให้มาหนึ่งเครื่อง
หน้าต่างห้องบานใหญ่ อลูมีเนียมสีขาว หน้าบานเป็นแบบบ้านกระทุ้งเปิด
ลักษณะมือจับเป็นดังรูปครับ
ไฟที่โครงการเตรียมไว้ให้ มีทั้งแบบดาวน์ไลท์ และก็โคมซาลาเปาครับ วางภายในห้องเดียวกัน ซึ่งก็แปลกๆดีครับ
สำหรับระเบียง จะอยู่บริเวณห้องนั่งเล่น เป็นประตูบานเลื่อนสลับครับ ขนาดไม่ใหญ่มาก โดยระเบียงนอกจากเป็นที่ออกไปชมวิวแล้ว ยังเป็นตำแหน่งที่ติดตั้งตัว เครื่องแอร์ด้วยครับ
มีที่ล๊อกตามมาตรฐานทั่วไป
เวลาเดินออก ต้องเดินก้าวเล็กน้อย เพราะยกเสต็ปเอาไว้ครับ ขนาดของระเบียงค่อนข้างเล็ก
สำหรับห้องอื่นๆ ระเบียงน่าจะดูโปร่งกว่านี้ เพราะจะไม่มีผนังมาบัง ซึ่งผนังดังกล่าวเป็นส่วนที่โครงการทำไว้เพื่อตกแต่งรูปภายนอกอาคารให้ดูสวยงามเท่านั้น กันตกที่ระเบียงเป็นแนวนอน น่าจะทำเป็นแนวตั้งนะครับ ปีนยากหน่อย
ด้านบนจะมีระแนงบังเครื่องแอร์ตามรูปครับ และยังช่วยบังแดดภายในห้องได้ในระดับหนึ่ง
โครงการเดินท่อเตรียมไว้แล้ว และทาสีเดียวกับผนังเลย (ห้องนี้ เป็นคนละห้องกันนะ ถ่ายมาให้ดูท่อแอร์)
ลักษณะการวางเครื่องแอร์ตามรูปครับ จะมองเห็นจากภายในห้องเล็กน้อย
ด้านนอกนี้ โครงการเตรียมก๊อกสนามไว้ให้ครับ สำหรับใช้ซักล้าง
ข้อดีของการยกเสต๊ป ก่อนออกไประเบียง นอกจากทำให้ป้องกันน้ำเข้าห้องได้ดีแล้ว ยังทำให้เวลาเดินบัวพื้นภายใน สามารถเดินได้ยาวต่อเนื่อง สามารถจบงานได้สวยงามครับ ข้อเสียก็คือ ระวังสะดุด
มาดูส่วนห้องน้ำกันบ้างครับ ประตูห้องน้ำเป็นประตูดอริก ลูกบิดปรกติ
ส่วนที่เชื่อมต่อพื้นห้องน้ำ และพื้นลามิเนตเปลี่ยนจากไม้เป็นกระเบื้อง ระดับลดลงประมาณ 3-5 เซ็นติเมตร
อ่างล้างหน้าแบบฝังใต้เคาน์เตอร์หินแกรนิตดำ อยู่บริเวณทางเข้า
ถัดไปด้านในสุดเป็นส่วนอาบน้ำ โครงการมีฉากกั้นอาบน้ำเป็นกระจกเทมเปอร์ กระเบื่องลายโมเสก เน้นผนังด้านหนึ่งทำให้ดูสวยงาม
มีช่องสำหรับวางของ ได้ด้วยครับ
ฝักบัวเป็นแบบ Rain Shower ฝั่งอยู่ในผนังครับ
ไฟดาวน์ไลท์ในห้องน้ำ เป็นแบบกันความชื้น
และมีพัดลมดูดอากาศภายใน เพื่อระบายอากาศ
ปิดท้ายห้องนี้ด้วยวิวจากชั้น 14 ครับ หันไปทางทิศตะวันออก เห็นวิวเมืองอยู่ลิบๆครับ
แบบต่อมาเป็นห้อง 1 ห้องนอนเช่นเดียวกันนะครับ หากแต่แบบนี้เป็นแบบมาตรฐานที่คอนโดทั่วไปนิยมใช้ครับ โดยแยกห้องน้ำ และห้องครัวอยู่ข้างหนึ่ง และกั้นห้องนั่งเล่น และห้องนอนด้วยประตูบานเลื่อน อย่างไรก็ดีทางโครงการกลับกั้นห้องแล้วทำให้ต้องเข้าห้องครัวจากห้องนอน ซึ่งทำให้ค่อนข้างขัดๆ กับการใช้สอยนะครับ
เนื่องจากเข้ามาเจอห้อง นั่งเล่นเลย พื้นก็จะเปลี่ยนจากกระเบื้องบริเวณเป็นไม้ลามิเนตโดยมีบัวจบพื้นไม้ เป็นตัวจบเพื่อความสวยงาม
มือจับก็เป็นแบบเดียวกัน คือแบบเขาควาย ตัวล๊อก 2 ชั้นทั้งโครงการ
ข้างๆประตูทางเข้า จะเป็นตู้สำหรับแขวนเสื้อส่งซัก และตู้รองเท้า ตามคอนเซปต์ของโครงการครับ
พอเข้ามาก็จะเป็นห้องนั่งเล่นครับ โดยปรกติหากเป็นห้องมาตรฐานแล้ว บริเวณห้องนั่งเล่น จะไม่มีหน้าต่างเนื่องจากติดกับผนังห้องข้างๆนะครับ แต่พอดีห้องที่เราได้เข้าไปดูนั้น อยู่หัวมุมซึ่งไม่มีห้องติดกัน ทางโครงการจึงทำเป็นหน้าต่างเพื่อให้แสงเข้าจากห้องนั่งเล่นได้อีกทางหนึ่ง
ส่วนประตูที่กั้นระหว่างห้องนั่งเล่นกับห้องนอนนั้น เป็นกระจกบานเลื่อนตามรูปครับ มือจับบานเลื่อนน่าเปลี่ยนมาก
ห้องนอนครับ
ภายในห้องนอนเป็นหน้าต่างแบบเข้ามุม บานเปิดกระทุ้งคล้ายกับแบบแรก
ภาพนี้ถ่ายจากในห้องนอนออกไปห้องนั่งเล่นนะครับ แอร์จะติดอยู่บริเวณห้องนอน ปลายเตียง อย่างที่ผมเกริ่นไว้แล้ว ว่าห้องครัว และห้องน้ำสำหรับห้องแบบนี้จะต้องเข้าจากห้องนอน ตามในรูปเลยครับ
โดยพื้นก็จะเปลี่ยนเป็นกระเบื้องโดยมีตัวจบกั้นไว้
ชุดครัวที่ทางโครงการเตรียมไว้ให้ครับ อุปกรณ์ที่แถมให้ก็เช่นเดียวกันกับห้องแรก
เตาไฟฟ้า และอ่างล้างจาน
ตู้แขวนสำหรับเก็บของและใส่เตาไมโครเวฟ ส่วนเครื่องดูดควันก็จะอยู่เหนือเตาไฟฟ้า
ตู้ไฟก็จะอยู่ภายในห้องครัวเช่นเดียวกันครับ
ถัดจากห้องครัวจะ ออกสู่ระเบียง ซึ่งเป็นส่วนซักล้าง วางเครื่องซักผ้า และวางเครื่องแอร์ แขวนโดยมีระแนงปิดไว้
ห้องน้ำก็เป็นแบบมาตรฐานทั่วไปครับ โดยระดับของห้องน้ำจะต่ำกว่าพื้นห้องครัว
ส่วนอ่างล้างหน้า และโถสุขภัณฑ์ เรียงตามลำดับการใช้งาน
ส่วนด้านในสุดเป็นที่อาบน้ำ มีกระจกกั้น ผนังโมเสก เปลี่ยนสีตามความเหมาะสมครับ ด้านบนมีพัดลมระบายอากาศ
สำหรับแบบสุดท้ายเป็นห้องแบบ 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ซึ่งเราไม่ได้เข้าไปดูครับ ศึกษาจากตัวแปลนแล้ว คล้ายคลึงกับห้องแบบแรก เนื่องจากทางโครงการ ได้วางชุดครัวไว้บริเวณทางเข้าเช่นเดียวกัน เพื่อให้พื้นที่ภายในดูกว้างขวางมากขึ้น ห้องแบบนี้จะต้องเป็นห้องที่อยู่ในตำแหน่งหัวมุม เท่านั้นครับเนื่องจาก ต้องการพื้นที่เปิดหน้าต่างสำหรับห้องนอนทั้ง 2 ห้อง ซึ่งโครงการ จัดห้องแบบนี้ไว้ 2 ห้องต่อชั้น ซึ่งมีไม่เยอะครับ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 20/12/2012
ปัจจุบัน โครงการ Bangkok Horizon เพชรเกษม ยังเหลือห้องอยู่บ้างเล็กน้อยนะครับ แต่ราคาที่โครงการตั้งขาย ก็เพิ่มสูงขึ้นมากแล้ว อย่างไรก็ดีคอนโดที่สร้างเสร็จแห่งแรกบนถนนสายนี้ ทำให้โครงการได้รับความสนใจมากทีเดียว ขณะเดียวกันก็มีห้องที่เจ้าของต้องการจะปล่อยขายอีกพอสมควร ทำให้ราคาขายค่อนข้างกระจัดกระจายเนื่องจากขึ้นอยู่กับความพอใจของผู้ขาย สำหรับห้องที่ขายอยู่รายละเอียดราคาเป็นดังนี้ครับ
- 1 ห้องนอน เนื้อที่ 30 ตารางเมตร ชั้น ราคา 1.7 ล้านบาท หรือ 56,666 บาทต่อตร ม
- 1 ห้องนอน เนื้อที่ 31.27 ตารางเมตร ชั้น 2 ราคา 2.4 ล้านบาท หรือ 76,751 บาทต่อตร ม
- 1 ห้องนอน เนื้อที่ 31 ตารางเมตร ราคา 2.1 ล้านบาท หรือ 67,741 บาทต่อตร ม (Fully Furnished)
- ค่าส่วนกลางอยู่ที่ 30 บาท/ตร เมตร ค่ากองทุน อยู่ที่ 500 บาท/ ตร เมตร
เจาะลึกรวบยอด
Bangkok Horizon เพชรเกษม เป็นคอนโดมิเนียมอาคารสูงแห่งแรกๆ ในย่านนี้ที่ติดถนนเพชรเกษม ซึ่งเป็นแนวที่มีการก่อสร้างรถไฟฟ้ากันอยู่ ทำเลเหมาะกับคนฝั่งธน หรือคนที่อยู่แถวเพชรเกษมนี้ ถึงแม้ว่าโครงการ จะไม่ได้ติดกับสถานีเหมือนกับโครงการอื่นๆ ที่มาทีหลัง แต่ก็ไม่ถือว่าไกลมาก อยู่ในระยะที่เดินถึง และไม่ไกลห้างสรรพสินค้าเปิดใหม่ อย่างซึคอน บางแค ซึ่งพอจะอาศัยพึ่งพาได้อยู่
การเดินทางโดยรถส่วนตัว ช่วงนี้สาหัสมาก ในช่วง 2-3 ปีนี้คงต้องทนกับสภาพการจราจรกันไปก่อนครับ เพราะการกันเขตทางเพื่อการก่อสร้างคงทำให้พื้นที่การจราจร ในชั่วโมงเร่งด่วน เป็นเหมือนคอขวดและต้องเผื่อเวลากันพอสมควร ส่วนรถไฟฟ้ากว่าจะมาหานะเธอ ก็ต้องรอไปอีกหน่อย แต่เมื่อเสร็จแล้ว ก็จะสบายขึ้นมาก เพราะจะมีทางเลือกในการเดินทางที่สะดวกขึ้นเยอะ
การออกแบบตัวโครงการ มีการพยายามทำให้ดูน่าสนใจ ด้วยระแนงและผนังของอาคารที่มีลูกเล่น และโทนสีที่มีความน่าสนใจ แต่คุณภาพการก่อสร้างในหลายส่วนยังทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร รวมถึงการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ และของตกแต่งที่ไม่ค่อยเข้ากันเท่าไร การออกแบบให้ที่จอดรถสำหรับโครงการต้องจอดอยู่อาคารด้านหลังซึ่งแยกออกไป ทำให้อาจจะมีปัญหาในวันที่ฝนตกหรือต้องถือของพะรุงพะรัง และเดินกลับมาห้องไม่สะดวกเท่าจอดรถใต้ตึก ซึ่งสะดวกกว่ามากเดินไม่กี่ก้าวมากดลิฟท์ขึ้นห้องตัวเองได้เลย
การออดแบบในห้อง ถือว่ามีของแปลกหลายอย่าง เช่น ตู้เสื้อผ้าสำหรับส่งซักที่เปิดหยิบเข้าออกได้จากนอกห้อง ผมกังวลเรื่องความปลอดภัย และอนามัยในห้อง เนื่องจาก มันจะกันแมลงและสัตว์เล็กอย่างจิ้งจกไม่ได้ รวมถึงกลิ่นของการทำครัว ก็จะปนติดกับผ้าได้ แลกกับความสะดวกที่ไม่น่าจะสะดวกสักเท่าไร ลองนึกถึงการเปิด Lock ไว้ เพื่อให้คนส่งผ่้าเอาผ้ามาแขวนให้เรา ตอนที่เราไม่อยู่บ้าน… สะดวกและคุ้มกันไหม?
วัสดุอุปกรณ์ ของที่ให้มา สำหรับส่วนกลาง ถือว่ายังไม่ค่อยดี การติดตั้งวัสดุ ยังมีจุดที่ต้องแก้ไขหลายจุด ส่วนวัสดุในห้อง ก็ถือว่าน่าจะอยู่ในระดับมาตรฐานเมื่อเทียบกับราคา
สิ่งอำนวยความสะดวกครบครันตามมาตรฐานครับแต่ให้แต่ละอย่างมากระทัดรัดไปนิด สระว่ายน้ำในร่มทำให้ไม่ดำเวลาว่ายน้ำแต่ขนาดของสระก็ถูกจำกัด เนื่องจากขนาดอาคารเช่นเดียวกัน ส่วนของห้องออกกำลังกายค่อนข้างเล็กและอึดอัดไม่น่าเล่น
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไปโดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
คะแนนความคุ้มค่าเทียบกับราคาปัจจุบันประมาณ 65,000 บาทต่อตารางเมตร 20/12/2012
- ทำเล 7.75/10 – ติดถนนเพชรเกษม ใกล้แหล่งชุมชน มีรถไฟฟ้า ใกล้ห้างสรรพสินค้า และมหาวิทยาลัย แต่ก็ไกลไปนิด
- เดินทางด้วยรถ 8.00/10 – เดินทางด้วยรถถือว่าสะดวก เนื่องจากสามารถออกเมืองและเข้าเมืองไม่ยาก สามารถวิ่งเพื่อเข้าสู้เส้นวงแหวนหรือราชพฤกษ์ได้ เพียงแต่ปัจจุบันมีการก่อสร้างรถไฟฟ้าทำให้ช่องทางจราจรลดลงทำให้รถติดพอสมควร
- ไม่ใช้รถ 8.00/10 – อยู่ติดถนนใหญ่เรียกรถง่าย รถโดยสารประจำทางหลายสายวิ่งผ่าน อยู่ในระยะเดินไปรถไฟฟ้าได้
- วัสดุ 7.50/10 – วัสดุ ภายในห้องค่อนข้างมาตรฐานเมื่อเทียบกับราคา เนื่องจากโครงการแถมให้อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า และฉากกั้นอาบน้ำ สิ่งที่ต้องคำนึงคือมาตรฐานการก่อสร้าง ที่บางส่วนยังทำได้ไม่ค่อยดี
- แบบ 6.50/10 – ไม่พูดถึงความสวยงาม ว่ากันด้วย Function การใช้งาน ถือว่ายังออกแบบมาได้ไม่ดีเท่าไร ทั้งส่วนกลางและตัวห้อง รวมถึงตึกจอดรถแยก
- สาธารณูปโภค 6.50/10 – สิ่งอำนวยความสะดวกมีครบ แต่ค่อนข้างเล็กไปเยอะ
- MAIN CLASS
- 7.54/ 10.00
BOTTOM LINE
โครงการ Bangkok Horizon เพชรเกษม เหมาะสำหรับคนย่านนี้ ที่ต้องการอยู่อาศัยในถิ่นเดิมใกล้พ่อแม่ คาดหวังการใช้รถไฟฟ้าในอนาคต ต้องการห้องที่ขนาดพอสมควรมี พื้นที่ใช้สอยภายใน ระดับ 30 ตรม ไม่ค่อยเน้นออกกำลังกายและว่ายน้ำที่คอนโด มีงบประมาณอยู่ในระดับ 1.7 – 2.5 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนประมาณ 12,000 –17,500 บาท
ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้ผมหน่อยนะครับ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปครับ