รีวิวฉบับที่ 1733 … สวัสดีครับวันนี้พาไปรีวิวคอนโด B-Loft สุขุมวิท 107 จาก Origin Property ตั้งอยู่ในซอยแบริ่ง 1 ห่างจาก BTS แบริ่ง 1 km. ยูนิตน้อยมีความเป็นส่วนตัว คอนเซ็ปต์เน้นความเรียบเท่สไตล์ Modern และส่วนกลางบนชั้นดาดฟ้า โครงการสร้างเสร็จก่อนขายพร้อมอยู่ ในราคาเริ่มต้น 1.99 ล้านบาท

Fact @ 13 November 2018

  • B-Loft Sukhumvit 107 (บีลอฟ สุขุมวิท 107)
  • Origin Property Public Company Limited
  • MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : ต.สำโรงเหนือ จ.สมุทรปราการ
  • คอนโด Low Rise 8 ชั้น 1 อาคาร 59 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 9 ยูนิต
  • ที่จอดรถประมาณ 18 คันคิดเป็น 30%
  • ที่ดินประมาณ 0-1-51.73 ไร่
  • เริ่มก่อสร้าง :  01/11/2017
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ : 31/12/2018
  • 1 Bedroom 21 – 22 ตร.ม. ราคา 1.99 ล้านบาท
  • 1 Bedroom 25 – 28 ตร.ม. ราคา 2.19 – 2.52 ล้านบาท
  • ฝ้าเพดานสูง 2.4 เมตร
  • ราคาห้องเริ่มต้น 1.99 ล้านบาท
  • ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ AVERAGE ประมาณ 90,000 บาท/ตร.ม.
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่ 
  • โทร  : 020 300 000

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างครับ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.658664, 100.606101

แผนที่จากทางโครงการครับ

โครงการ B-Loft สุขุมวิท 107 ตั้งอยู่ในซอยแบริ่ง 1 เป็นซอยที่เชื่อมต่อกับซอยลาซาล 12 โดยซอยหลักทั้งสองนี้เป็นซอยที่เชื่อมต่อระหว่างถนนสุขุมวิทกับถนนศรีนครินทร์ สามารถขึ้นเหนือไปทางกรุงเทพ พัฒนาการ-บางกะปิ หรือจะลงใต้มาทางสมุทรปราการ แล้วใช้ถนนปู่เจ้าสมิงพรายเพื่อเชื่อมต่อข้ามสะพานวงแหวนอุตสาหรรมไปฝั่งพระราม 3 ก็สะดวก และถ้าใช้ถนนบางนา-ตราดไปทางตะวันออกก็สามารถตรงไปออกชลบุรีได้โดยตรงเช่นกัน

ในภาพรวมโครงการตั้งอยู่ในโซน สุขุมวิทตอนปลาย ซึ่งเป็นถนนที่วิ่งตรงจากในกลางย่านธุรกิจ มาตัดผ่านถนนบางนา-ตราด เชื่อมต่อกรุงเทพ-สมุทรปราการ หรือไปออกชลบุรีได้ง่ายที่สุด ทำเลโซนนี้จึงเปรียบเสมือนประตูสู่ภาคตะวันออกของกรุงเทพ ที่มีการเติบโตและพัฒนามาอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะการคมนาคม จะเห็นได้จากการพัฒนาถนน เส้นทางด่วน ตลอดจนเส้นทางรถไฟฟ้าในพื้นที่ เรียกว่ามีครบทั้งหมด เพื่อทำให้การค้าและการขนส่งสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น และเป็นเส้นทางที่เชื่อมต่อไปโซนอุตสาหรรมสำคัญต่างๆ โดยรอบได้สะดวก

ถึงแม้โดยรอบโครงการในระยะใกล้จะไม่ค่อยคึกคักมากนักเพราะเป็นทำเลในซอยย่อยอีกที เป็นที่อยู่อาศัยซะส่วนมากและค่อนข้างเงียบสงบ แต่ขึ้นชื่อว่าเป็นซอยลาซาล-แบริ่งก็ต้องมีความอุดมสมบูรณ์อยู่ตามถนนซอยหลักอย่างแน่นอน ทั้งเซเว่น ร้านค้า ร้านอาหาร และตลาด ก็มีครบครัน

ส่วนความอุดมสมบูรณ์ของย่านนี้จะไปอยู่ตรงบริเวณตลาดสำโรงที่เป็นแหล่งรวมสินค้าขายส่งราคาถูก ตลาดสด และโรงพยาบาล หรือถ้าอยากเดินห้างดีๆใหญ่ๆ ก็มีอยู่บนถนนบางนา-ตราด แถวๆ Central บางนา และ Big C ดูจะคึกคักที่สุด มีทั้งซุปเปอร์มาร์เก็ต คอมมูนิตี้มอลล์ อาคารสำนักงาน และโรงพยาบาล สำหรับทำเลนี้นอกจากสนามบินสุวรรณภูมิและรถไฟฟ้า BTS แล้วก็ยังมีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ที่ได้เข้ามาพลิกโฉมทำเลบางนาให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและเป็นที่รู้จักมากขึ้นอย่าง MEGA BANGNA ซึ่งกำลังจะมี Mega Project ขนาดใหญ่ที่เรียกว่า MEGA CITY อีกด้วย จนทำให้บางนา-ตราดกลายมาเป็นศูนย์กลางเมืองฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯ ในทุกวันนี้

การเดินทางด้วยรถสาธารณะนั้น ถนนสุขุมวิทมีรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียวซึ่งเปิดใช้งานมาหลายปีแล้ว เป็นรถไฟฟ้าสายสำคัญที่สามารถวิ่งเข้าสู่สยามได้โดยตรงไม่ต้องเปลี่ยนขบวน และกำลังจะเปิดใช้งานส่วนต่อขยายช่วง (สำโรง-สมุทรปราการ) ในวันที่ 5 ธันวาคม ปีนี้ ก็จะทำให้รถไฟฟ้าสายนี้คึกคักขึ้นอีกมาก และยังเกิดเป็นสถานี Interchange กับรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) ที่สถานีสำโรงซึ่งอยู่ไม่ไกล ห่างออกไปเพียง 1 สถานี หรือจะใช้ซอยลาซาล-แบริ่ง ลัดไปใช้สถานีศรีลาซาล หรือสถานีแบริ่ง ที่ถนนศรีนครินทร์โดยตรงเลยก็ยังได้

BTS แบริ่ง เป็นสถานีที่ตั้งอยู่ระหว่างซอยลาซาลและซอยแบริ่ง ไม่ว่าจะมาจากทางซอยไหนก็จะมีระยะที่พอๆกันคือ 1 km. ซึ่งก็ไม่ใช่ระยะเดิน แต่ที่หน้าปากซอยทั้ง 2 จะมีวินมอไซค์ไว้คอยบริการอีกด้วย ถ้าให้แนะนำก็คงจะให้ใช้ซอยแบริ่ง(เส้นสีฟ้า)เป็นหลัก เพราะถนนใหญ่กว่า คึกคักมากกว่า และไม่เปลี่ยวมากนักในเวลากลางคืน

ส่วนการเดินทางโดยรถยนต์ มีจุดที่จะแนะนำ 3 จุด ที่แรกคือทางพิเศษเฉลิมมหานคร สามารถใช้เพื่อเข้าเมืองได้ง่าย โดยแผนที่จะแนะนำให้ไปออกถนนสุขุมวิทที่ซอยลาซาล เพื่อเลี่ยงรถติดบริเวณหน้าปากซอยแบริ่งซึ่งมีปริมาณรถที่มากกว่าเพราะเป็นซอยใหญ่กว่า จากโครงการถึงจุดขึ้นทางด่วนประมาณ 3.1 km. ใช้เวลา 20 นาที

จุดที่ 2 กรณีที่จะไปชลบุรีก็สามารถไปขึ้นทางพิเศษบูรพาวิภีได้ที่หน้าเซ็นทรัลบางนา อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 5.9 km. ใช้เวลา 20 นาที

จุดที่ 3 ถ้าเราอยากจะไปฝั่งธนหรือพระราม 3 ก็ต้องมาขึ้นวงแหวนกาญจนาแถวๆช้างสามเศียร มีระยะห่างจากโครงการ 4.9 km. ใช้เวลา 24 นาที (แอบกระซิบบอกดังๆหน่อยว่าหน้าสำโรงจะรถติดมากเป็นเรื่องปกติ และแยกปู่เจ้าน้ำจะท่วมถ้าฝนตกเป็นเรื่องปกติอีกเช่นกันนะจ้ะ)

การเดินทางมาในวันนี้ผมมาจากกรุงเทพก็ต้องขับผ่านสี่แยกบางนา ตรงมาเรื่อยๆบนถนนสุขุมวิทแล้วจึงเลี้ยวซ้ายเข้าซอยแบริ่ง (หรือจะเข้าซอยลาซาลก็ได้นะถ้ากลัวรถติดแถวๆสถานี BTS แบริ่ง) ขับเข้ามาในซอยแบริ่งอีกหน่อยแล้วจึงเลี้ยวซ้ายเข้าซอยแบริ่ง 1 จะเจอกับโครงการอยู่ทางซ้ายมือ

เริ่มต้นที่สี่แยกบางนาให้ขับตรงมาเรื่อยๆ ครับ

ขับตรงมาตลอดเพื่อวิ่งบนถนนสุขุมวิท ซึ่งถ้าเรามาจากทางด่วนก็จะมาลงทางลงตรงด้านซ้ายของภาพด้านหน้าอาคารภิรัชทาวเวอร์หรือไบเทคบางนาพอดี

ขับตรงมาหน่อยจะเจอกับ BTS บางนา ซึ่งตั้งอยู่หน้ากรมอุตุนิยมวิทยา ให้ขับตรงไปอีกครับ

ขับเลยมาหน่อยจะเจอแยกซอยลาซาล สามารถเลี้ยวซ้ายเพื่อไปเข้าซอยลาซาล 12 ก็ได้นะ แต่ผมจะขับตรงไปก่อนเพื่อไปตามเส้นทางหลัก

ขับเลยสถานี BTS แบริ่ง มาอีกหน่อยจะเจอแยกซอยแบริ่ง ให้เลี้ยวซ้ายเข้าไปได้เลย

ขับตรงเข้ามาเรื่อยๆ มีจุดสังเกตคือเซเว่นแรกทางซ้ายมือซึ่งจะตั้งอยู่หน้าปากซอยแบริ่ง 1 พอดี ถ้าเจอแล้วก็ให้เลี้ยวซ้ายเข้าไปได้เลย

ขับเข้ามาจนสุดซอยแล้วจะเจอโครงการตั้งอยู่ทางซ้ายมือครับ ให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่โครงการได้เลย

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะครับ

บริบทโดยรอบโครงการเป็นชุมชนแนวราบและคอนโดมิเนียม Low Ries เป็นจำนวนมาก สามารถสรุปได้ดังนี้

  • ทิศเหนือ ติดกับถนนซอยย่อยซึ่งเป็นซอยตันและเป็นทางเข้าหลักโครงการ ฝั่งตรงข้ามเป็นอาคารสูง 4 ชั้น
  • ทิศใต้ ติดกับอาคารสูง 2 – 3 ชั้น
  • ทิศตะวันออก ติดกับถนนซอยแบริ่ง 1 ถือเป็นด้านหน้าโครงการ ฝั่งตรงข้ามเป็นคอนโดสูง 8 ชั้น
  • ทิศตะวันตก ติดกับอาคาร B ซึ่งเป็นโครงการในอนาคตที่กำลังก่อสร้างอยู่

มาเดินดูรอบๆโครงการกันดีกว่าครับ เริ่มทางทางทิศเหนือหรือทางขวาของอาคาร และเป็นทางเข้าหลักซึ่งฝั่งตรงข้ามเป็นอาคารอพาร์ทเมนท์สูง 4 ชั้น

ส่วนด้านหลังก็เป็นอาคาร B ซึ่งเป็นโครงการในอนาคตที่กำลังก่อสร้างอยู่

ส่วนด้านหน้าเป็นถนนซอยแบริ่ง 1 ฝั่งตรงข้ามเป็นคอนโดสูง 8 ชั้น

ส่วนขวามือเป็นซอยที่เชื่อมต่อกับซอยลาซาล 12 ได้

ต่อมาเราจะมาดูทางด้านซ้ายของอาคารกันบ้างนะ ตรงไปจะเป็นทางออกไปซอยแบริ่ง

ติดกันด้านซ้ายเป็นอาคารสูง 3 ชั้น

ตรงมาอีกหน่อยจะมีซอยย่อยๆระหว่างทาง ซ้าย-ขวา ภายในซอยเหล่านี้เต็มไปด้วยคอนโดมิเนียมทั้งนั้นครับ ทำเลนี้มันดงคอนโดดีๆนี่เอง ที่สำคัญคือขายหมดไปแล้วทั้งนั้นด้วยนะ ทำเลยอดฮิตจริงๆ

และหน้าปากซอยตรงแยกนี้จะมีวินมอไซค์อยู่ด้วย นั่งจากตรงนี้ไปปากซอยแบริ่งเพื่อขึ้น BTS ราคาก็ประมาณ 10 บาทเท่านั้น

ปากซอยแบริ่ง 1 มีเซเว่นขนาดใหญ่ตั้งอยู่ ด้านหน้ามีที่จอดรถให้ด้วยแล้วยังมีวินมอไซค์อีกจุดหนึ่ง ดูจากรูปอาจเห็นได้ว่าไม่มีพี่วินอยู่ประจำจุดเลยนั่นเป็นเพราะซอยแบริ่งเป็นซอยที่คึกคักมาก คนเรียกใช้วินอยู่ตลอดเวลา แต่ไม่ต้องห่วงว่าจะไม่มีวินให้เรียกใช้นะครับ ซอยแบริ่ง 1 เป็นซอยลัดที่มีรถสาธารณะวิ่งผ่านอยู่ตลอดอยู่แล้ว ความจริงเรารอเรียกอยู่หน้าตึกเลยก็ได้ด้วยซ้ำสะดวกมากๆ

มาดูซอยแบริ่งกันสักหน่อยว่าในระยะใกล้ๆกับปากซอยโครงการมีอะไรน่าสนใจบ้าง ฝั่งตรงข้ามซอยแบริ่ง 1 เป็นโรงพยาบาลสัตว์แบริ่ง และที่ด้านหน้าก็ยังมีร้านขายยาและร้านนวดสปาอยู่อีกด้วย ตรงไปทางด้านขวาสามารถไปออกถนนสุขุมวิทได้

หันกลับมาทางด้านซ้ายของซอยผมเจอร้านกาแฟเล็กๆ มีอาหารขายด้วย ฟรี Wifi อีกต่างหาก จัดไปครับสำครับคนชอบนั่งทำงานนอกบ้าน

เดินมาอีกหน่อยมีร้านอาหารตามสั่ง ร้านก๋วยเตี๋ยว และ Family Mart ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามบริเวณหน้าปากซอยแบริ่ง 10

เดินมาอีกนิดจะเจอกับตลาดมิ่ง อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 400 m. เป็นระยะเดินถึงสบายๆ ตลาดเปิดทุกวันเวลาประมาณ 16.00 – 22.00 น. แต่ร้านก๋วยเตี๋ยวด้านหน้านี้ 5 ทุ่มผมก็ยังเห็นเปิดอยู่นะ สบายล่ะดึกๆมีของกินไม่อดตายแน่นอน เซเว่นก็มี

ด้านหลังจะเป็นเต็นท์ขายของทั้งของสด ข้าวแกง อาหารถุง ทีเด็ดคือร้านส้มตำซึ่งมีหลายเจ้าให้เลือก อร่อยหลายเจ้าเลยครับ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • ตลาดมิ่ง ~ 400 m.
  • ร.ร.นานาชาติ St.Andrews ~ 800 m.
  • รพ.มนารมย์ ~ 1.6 km.
  • สนามกีฬาภูติอนันต์ กองทัพเรือ ~ 1.7 km.
  • อิมพีเรียลเวิลด์ สำโรง ~ 2.2 km.
  • ร.ร.นานาชาติบางกอกพัฒนา ~ 2.3 km.
  • รพ.สำโรงการแพทย์ ~ 2.8 km.
  • ศูนย์ประชุมไบเทค บางนา ~ 2.9 km.
  • ร.ร.ไทยซิกข์นานาชาติ ~ 3 km.
  • รร.อรรถวิทย์ ~ 3.1 km.
  • ร.ร.นานาชาติ Berkeley ~ 3.3 km.
  • วิทยาลัยเซาธ์อีสท์บางกอก ~ 3.6 km.
  • รร. ลาซาล ~ 3.8 km.
  • Foodland ~ 5.1 km.
  • Jas Urban ~ 5.3 km.
  • Central Plaza บางนา ~ 5.5 km.
  • Makro ศรีนครินทร์ ~ 5.7 km.
  • Big C บางนา ~ 5.8 km.
  • รพ.ศิครินทร์ ~ 5.8 km.
  • รพ.ไทยนครินทร์ ~ 6.1 km.
  • SB Design Square บางนา ~ 6.5 km.
  • HomePro ศรีนครินทร์ ~ 7.3 km.
  • Index Living Mall บางนา ~ 7.5 km.
  • Chic Republic ~ 8.2 km.
  • Tesco Lotus ศรีนครินทร์ ~ 9.3 km.
  • Mega Bangna ~ 11.8 km.


เจาะลึกตัวโครงการ

มาดูภาพรวมโครงการกันก่อนครับ B-Loft สุขุมวิท 107 เป็นคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น จำนวน 59 ยูนิต ตั้งอยู่บนพื้นที่ขนาด 0-1-51.73 ไร่ โดดเด่นในเรื่องความเป็นส่วนตัวด้วยจำนวนยูนิตต่อชั้นมากสุดเพียง 9 ยูนิต ภายนอกตกแต่งสไตล์ Modern ใช้สีขาว เทา และสีน้ำเงินที่เป็นเอกลักษณ์ของโครงการ มีแนวความคิดในการออกแบบคือ “อิสระ…ในการใช้ชีวิต” แสดงถึงความเรียบง่ายและสบายๆโดยคอนโดนี้เป็นโครงการสร้างเสร็จก่อนขาย ทำให้ได้เห็นห้องของจริง วิวจริง สามารถมาเลือกตำแหน่งห้องจริงได้ด้วยตาตัวเอง และมั่นใจได้ว่าจะได้อยู่แน่นอนเพราะโครงการไม่มีทางล้มเลิกกลางทางแล้ว และสามารถเข้าอยู่ได้ทันทีไม่ต้องรอก่อสร้าง

เริ่มจากด้านหน้าติดกับถนนซอยแบริ่ง 1 เป็นทางเข้า Lobby ซึ่งต้องใช้ Key Card Access จึงจะเข้าไปได้ ทั้งนี้เพื่อความเป็นส่วนตัวของผู้พักอาศัยครับ ไม่ใช่ใครที่ไหนจะเข้าไปได้นะ ด้านหน้าตกแต่งด้วยสวนและต้นไม้พุ่มเตี้ย ไม่มีรั้วหรือกำแพงด้านหน้าจึงทำให้โครงการดูโปร่งโล่งไม่อึดอัด

ทางด้านขวาเป็นซอยทางเข้าโครงการ โดยซอยนี้เป็นซอยตันนะ

ทางเข้าโครงการมีทางเดียว และมีป้อม รปภ. อยู่ด้านขวาคอยดูแลรักษาความปลอดภัยตลอดเวลา

ที่จอดรถอยู่ชั้น 1 ทั้งหมด สามารถจอดได้ประมาณ 30% และเมื่อเลี้ยวซ้ายเข้ามาด้านในจะเห็นประตูทางเข้า Lobby จากที่จอดรถด้านหลังนี้ได้ด้วย ซึ่งก็ต้องใช้ Key Card Access เช่นเดียวกับทางเข้าด้านหน้าเพื่อความปลอดภัยและเป็นส่วนตัว

เมื่อเข้ามาด้านใน Lobby จะมีชุดโซฟารับแขกอยู่ 1 ชุด บรรยากาศภายในตกแต่งโดยใช้วัสดุไม้และสีเทา แสดงถึงความเรียบเท่และอบอุ่น ดูสบายตา ด้านหลังผนังเป็นห้องนิติเล็กๆ ซ่อนอยู่ และจะมีช่องหน้าต่างอยู่ทางด้านขวาเอาไว้ติดต่อสอบถามกับนิติจากช่องทางนั้นได้

ถ่ายให้ดูอีกมุมหนึ่งของ Lobby ทางด้านขวาคือประตูทางเข้าจากด้านหน้าโครงการ ส่วนทางด้านซ้ายคือประตูทางเข้าจากที่จอดรถใต้อาคาร และหลังผนังด้านหน้านี้คือโถงลิฟต์ครับ

อีกด้านหนึ่งของผนังที่เป็นโถงลิฟต์จะมี Mail box และชุดโต๊ะเก้าอี้สำหรับนั่งคอยได้ ส่วนทางด้านขวาของลิฟต์เป็นบันไดหนีไฟ

ลิฟต์โดยสารจะมีแค่ตัวเดียว และได้เป็นลิฟต์ล็อคชั้นเพื่อความปลอดภัยและเป็นส่วนตัว

เนื่องจากโครงการนี้ไม่มีแปลนชั้น 1 ให้ดู ผมจึงขอเริ่มแปลนชั้น 2 เลยนะครับ โดยตั้งแต่ชั้น 2 – 7 เป็นชั้นพักอาศัยแบบ Typical Floor Plan คือจะเหมือนกันหมดทุกชั้น แต่ละชั้นมีเพียง 9 ยูนิตเท่านั้น จึงมีความเป็นส่วนตัวสูง มีลิฟต์โดยสาร 1 ตัว คิดเป็นอัตราส่วนลิฟต์เป็น 59 : 1 ถือว่าไม่หนาแน่นครับ มีบันไดหนีไฟ 2 ตำแหน่งอยู่ทั้งส่วนหัวละส่วนท้ายอาคาร และมีห้องงานระบบอยู่ท้ายอาคาร ทิศทางโดยรอบจะถูกบล็อควิวเกือบทั้งหมด แต่เนื่องจากเป็นโครงการ Low Rise ที่ไม่เน้นวิวอยู่แล้วจึงไม่ส่งผลอะไรนัก เพียงแต่ห้องทางทิศใต้ส่วนใหญ่จะเป็นห้องขนาดเล็ก 21 – 25 ตารางเมตร ส่วนห้องทางทิศเหนือจะเป็นห้องขนาดใหญ่ 28 ตารางเมตรครับ

เริ่มต้นที่โถงลิฟต์ชั้น 2 ผนังส่วนนี้เป็นช่องหน้าต่างกระจก ซึ่งช่วยดึงแสงธรรมชาติเข้ามาในโถงทางเดินในอาคารทำให้ไม่มืด ด้านในสุดมีห้องงานระบบที่ปลายทางเดินและเลี้ยวซ้ายไปจะเจอบันไดหนีไฟด้วย

ต่อมาคือแปลนชั้น 8 เป็นทั้งชั้นพักอาศัยและชั้น Main Facilities โดยจะมีประตูกระจกกั้นซึ่งจะเป็นต้องใช้ Key Card Access เพื่อความปลอดภัยและเป็นส่วนตัวของคนที่พักอาศัยในชั้นนี้ซึ่งจะมีอยู่ทั้งหมด 5 ยูนิตเท่านั้น Facilities จะประกอบด้วย Fitness และสระว่ายน้ำ ซึ่งเชื่อมต่อไปยังสวนพักผ่อนบนชั้นดาดฟ้าได้ครับ

เมื่อขึ้นมาที่ชั้น 8 เลี้ยวขวามาจะเจอกับทางแยก ประตูกระจกต้องใช้ Key Card Access ไปยังส่วนพักอาศัย และทางด้านซ้ายเป็นทางไป Facilities ซึ่งในชั้นนี้คือห้อง Fitness โดยทางด้านหน้าจะมีตู้ล็อคเกอร์ไว้คอยบริการเก็บของได้ครับ

ภายในมีเครื่องออกกำลังกาย 3 – 4 ชิ้น หันหน้าออกไปชมวิวภายนอกจากช่องหน้าต่างกระจกโดยรอบที่มีความสูงจากพื้นถึงฝ้า เวลาออกกำลังกายนานๆจะได้ไม่น่าเบื่อ

ส่วนทางด้านขวาของห้อง Fitness จะมีทางเดินขึ้นบันไดไปยัง Facilities ด้านบน ส่วนทางขวามือเป็นห้องน้ำแบบ Powder room คือจะไม่มีส่วนอาบน้ำให้นะ และของจริงจะมีประตูปิดเรียบร้อยดี ไม่ได้เปิดโล่งแบบนี้ครับ

เมื่อขึ้นมาด้านบนจะเจอกับสระว่ายน้ำ เป็นสระระบบเกลือ ผนังด้านหนึ่งเป็นขอบกระจกสามารถ Take View ในขณะว่ายน้ำได้ด้วย

ส่วนด้านข้างของบันไดจะมีจุดล้างตัวซ่อนอยู่หลังผนัง สามารถมาล้างตัวตรงจุดนี้ก่อนลงสระได้ครับ

ส่วนอีกด้านจะมีบันไดยกสเต็ปขึ้นไปเล็กน้อย เป็นทางไปลานอเนกประสงค์ด้านบน

เมื่อขึ้นมาด้านบนจะลองถ่ายย้อนกลับมาให้ดูภาพรวมของส่วนสระว่ายน้ำเมื่อครู่นี้ให้ดูสักหน่อยครับ และจะเห็นได้ว่าอีกฝั่งทางโน้นก็มีระเบียงเหมือนกัน

พื้นที่ด้านบนเป็นลานอเนกประสงค์ที่สามารถนั่งพักผ่อนตรงขอบปูนได้ครับ มีการปลูกต้นไม้เพิ่มความร่มรื่นและเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้ด้วย

พื้นที่โล่งๆทางด้านหลัง ในอนาคตจะมีชุดโต๊ะเก้าอี้มาวางเพื่อให้ลูกบ้านสามารถขึ้นมาใช้นั่งพักผ่อนจริงจังได้นะ

ส่วนอีกด้านของระเบียงจะมีทางเดินเชื่อมผ่านห้องงานระบบและบันไดหนีไฟทางซ้าย เพื่ออ้อมไปยังระเบียงที่เป็นจุดชมวิวที่อยู่อีกฟากของสระได้ครับ

เมื่อพูดถึงเรื่องวิวแล้วก็เลยเก็บภาพบรรยากาศโดยรอบจากชั้น 8 มาให้ด้วย เริ่มจากทิศเหนือ(ด้านหลังโครงการ) มีการก่อสร้างอาคาร B ซึ่งเป็นโครงการในอนาคตอยู่ครับ

มาต่อกันที่ทิศตะวันออกโดยเราจะวนไปตามเข็มนาฬิกา มองออกไปจะเห็นชุมชนแนวราบสูงไม่เกิน 8 ชั้น และมองเห็น City View ไกลๆด้วย

ก้มลงมาดูด้านล่างเป็นถนนซอยย่อยที่ใช้ขับรถเข้ามาจอดในโครงการ ฝั่งตรงข้ามเป็นอพาร์ทเมนท์สูง 4 ชั้น

วิวทางทิศใต้หรือด้านหน้าโครงการที่อยู่ติดกับถนนซอยแบริ่ง 1 ฝั่งตรงข้ามเป็นคอนโดสูง 8 ชั้น

ส่วนทางทิศตะวันตกจะได้วิวที่เปิดโล่งมากที่สุดและเป็นวิวเดียวกับที่มองจากสระว่ายน้ำ มองเห็นพื้นที่สีเขียวซึ่งปัจจุบันเป็นที่ว่างรอการพัฒนา ซ้าย – ขวาเป็นคอนโดสูง 8 ชั้น

และเมื่อก้มลงมองด้านล่างจะติดกับอาคารสูง 2 – 3 ชั้น ซึ่งแน่นอนว่าห้องพักที่เลือกทิศนี้หรือจุดนี้จะต้องโดนบล็อควิวเต็มๆเช่นกันครับ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • Lobby
  • Mailbox
  • สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 5 x 10 เมตร
  • ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 4 เครื่อง
  • ลิฟต์โดยสารแบบล็อคชั้น 1 ตัว/อาคาร
  • อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 59 :  1
  • ที่จอดรถประมาณ 18 คันคิดเป็น 30% รวมจอดซ้อนคัน
  • ระบบ CCTV / Access Card
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย


Product Walkthrough

สำหรับแบบห้องของโครงการจะมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 1 Type 2 ขนาด คือ 1 Bedroom ขนาด 21 – 22  ตารางเมตร และ 1 Bedroom ขนาด 25 – 28  ตารางเมตร ขายแบบ Fully Fitted คือจะได้เฟอร์นิเจอร์ Built in ทั้งหมดกับเครื่องปรับอากาศ ยกเว้นเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวและของตกแต่ง จะเป็นอย่างไรไปชมกันเลยครับ

ห้องแรกคือห้อง 1 Bedroom ขนาด 25 – 28  ตารางเมตร ที่เลือกห้องนี้ก่อนเพราะเป็นห้องที่มีจำนวนมากที่สุดและเป็นแบบห้องมาตรฐานของโครงการนี้ เมื่อเข้ามาภายในจะเจอกับห้องนั่งเล่นก่อน ติดกันเป็นโต๊ะทานอาหารและกั้นห้องนอนด้วยประตูกระจกบานเลื่อนที่ช่วยดึงแสงธรรมชาติจากหน้าต่างเข้ามาถึงด้านในได้ ส่วนทางด้านขวาของห้องเป็นพื้นที่ใช้งานโดยมีโถงทางเดินเล็กๆเป็นตัวแจกฟังก์ชัน ประกอบด้วยห้องน้ำอยู่ทางด้านในของตัวห้อง และห้องครัวที่ได้เป็นครัวปิดกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนและมีพื้นที่ติดกับระเบียงสามารถระบายอากาศ ทำอาหารได้จริงจัง ห้องนี้ฟังก์ชันลงตัวเป็นสัดส่วน เหมาะกับการอยู่อาศัย 1 – 2 คน

หน้าตาของเฟอร์นิเจอร์ที่ได้ห้อง Type นี้จะเป็นตามนี้เลยครับ

ประตูหน้าห้องจะได้เป็นไม้บานทึบปิดผิวไม้ลามิเนตสีแบบนี้ มีตาแมว และ Digital Door Lock ของ Colt พร้อมติดตั้ง Stopper ป้องกันการกระแทกด้านในให้ด้วย

พื้นห้องยกขอบสูงจากโถงทางเดินหน้าห้องเล็กน้อย ช่วยป้องกันฝุ่นผงจากภายนอกเข้ามาภายในห้องได้เป็นอย่างดี

พื้นที่ส่วนแรกที่เข้ามาเจอเป็นพื้นที่นั่งเล่น ระยะดูทีวีประมาณ 2 m. สามารถใช้ทีวีขนาดประมาณ 40 – 46 นิ้วได้ พื้นห้องทั้งหมดเป็นกระเบื้องยางไวนิล ซึ่งทนความชื้นได้ดีกว่าพื้นไม้ลามิเนต ผนังฉาบเรียบทาสีขาว และมีความสูงจากพื้นถึงฝ้า 2.4 m.

ทางด้านซ้ายเราจะได้ชุด Built in ชั้นวางทีวีและตู้เก็บของทรงสูงแบบนี้ แต่ชั้นวางของด้านบนทีวีเราจะไม่ได้นะครับ เป็นไอเดียในการเพิ่มพื้นที่เก็บของด้านบนได้ โดยถ้าเราจะทำชั้นวางหรือตู้แขวนเพิ่มเติมก็อย่าลืมเผื่อระยะเครื่องปรับอากาศที่ทางโครงการจะติดไว้ให้ตรงนี้ด้วยนะครับ ส่วนพื้นที่ใต้ตู้ยังพอมีเหลือ สามารถหากล่องมาใส่ของแล้วเก็บไว้ใต้ตู้ได้อีกครับ

ตู้ทรงสูงด้านข้างครึ่งบนเป็นช่องเก็บของ มีเบรคเกอร์ซ่อนอยู่ด้านในเรียบร้อยดี ส่วนครึ่งล่างเป็นชั้นวางรองเท้า มีการเจาะรูระบายอากาศไว้พร้อมใช้งาน

ฝั่งตรงข้ามเป็นพื้นที่วางโซฟา ซึ่งโซฟากับโต๊ะตัวนี้ที่เป็นเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวเราจะไม่ได้นะ แต่โครงการวางให้ดูเป็นตัวอย่างซึ่งเราสามารถใช้โซฟาขนาด 2 – 3 ที่นั่งได้แบบนี้

ติดกันทางขวาเป็นโต๊ะทานอาหาร สามารถใช้เป็น 2 ที่นั่งแบบเข้ามุมได้แบบนี้ หรือถ้าใครอยากได้โต๊ะใหญ่ๆก็อาจหาโต๊ะที่ปรับขยายขนาดพื้นที่โต๊ะได้ซึ่งสมัยนี้มีขายกันเยอะแยะเลยจ้า

ฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสี ได้ไฟดาวน์ไลท์แบบฝังฝ้า 2 จุด พร้อมอุปกรณ์ป้องกันอัคคีภัย 1 จุด

ต่อไปเป็นห้องนอนซึ่งกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน มีความสูงจากพื้นถึงฝ้า ช่วยดึงแสงธรรมชาติจากหน้าต่างห้องนอนเข้ามาถึงด้านในได้และทำให้ห้องโปร่งโล่งไม่อึดอัด สามารถเปิดประตูออกได้กว้างสุด 1.4 m. เชื่อมต่อพื้นที่ทั้ง 2 ให้ห้องกว้างขึ้น

บานกรอบประตูเป็นอลูมิเนียมทำสี กระจกใสธรรมดาพร้อมแถบผ้ากำมะหยี่ป้องกันแมลงและเสียงได้ มีตัวล็อคทั้ง 2 ด้าน สามารถเปิดได้ทั้ง 2 ฝั่ง

ภายในห้องนอนโปร่งโล่งดีครับ สามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้พอดี ซึ่งโครงการก็จะแถมมาให้ด้วยนะ

ด้านหน้าเป็นพื้นที่ข้างเตียงและพื้นที่แต่งตัวหน้าตู้เสื้อผ้า กว้างประมาณ 1.5 m. นอกจากจะใช้งานแต่งตัวได้สะดวกแล้ว ยังทำให้ห้องนอนดูมีพื้นที่หน้าห้องกว้างมากขึ้นและไม่อึดอัดอีกด้วย

ตู้เสื้อผ้าจะได้ตามนี้เลย บานตู้ด้านหนึ่งเป็นกระจกเงาไว้ส่องเวลาแต่งตัว ด้านในสามารถเก็บเสื้อผ้าได้พอสมควรเหมาะสมกับจำนวน 1 – 2 คน

พื้นที่ปลายเตียงและข้างเตียงทางขวากว้างประมาณ 30 cm. สามารถเดินผ่านได้แบบพอดีตัว

ผนังปลายเตียงเป็นผนังทึบ สามารถติดทีวีปลายเตียงได้ครับ เหมาะกับคนชอบนอนดูทีวีบนเตียงมากๆ

ด้านขวาของเตียงเป็นช่องหน้าต่างที่ช่วยดึงแสงธรรมชาติเข้ามาภายในห้องและมีหน้าต่างบานกระทุ้งเปิดระบายอากาศได้

ฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสี พร้อมติดไฟดาวน์ไลท์ฝังฝ้า 2 จุด อุปกรณ์ป้องกันอัคคีภัย 1 จุด และเครื่องปรับอากาศอีก 1 เครื่องครับ

ต่อไปเป็นส่วนใช้งานทางด้านขวาของห้อง ซึ่งอยู่ระหว่างห้องนอนและห้องนั่งเล่นจะมีโถงทางเดินเล็กๆตรงกลางกว้าง 80 cm. มีพื้นที่ใช้ Built in เพิ่มเติมซึ่งทางโครงการทำมาให้ดูเป็นตัวอย่าง โดยเราสามารถใช้เป็นพื้นที่โต๊ะแต่งหน้า ตู้เก็บของ หรือชั้นวางของสวยๆก็สามารถทำเพิ่มได้ครับ

ทางด้านขวาเป็นห้องน้ำ โดยเราจะได้ประตู HDF สีแบบนี้ ภายในแบ่งพื้นที่การใช้งานส่วนเปียกส่วนแห้งออกจากกันอย่างเป็นสัดส่วน

พื้นที่ส่วนแห้งมีขนาดประมาณ 1.4 x 1.4 m. สามารถใช้งานได้สะดวก ประกอบด้วยอ่างล้างหน้าและโถสุขภัณฑ์

อ่างล้างหน้าของ Cotto ขนาดประมาณ 55 x 47 cm. มีขอบด้านหลังสามารถวางของเล็กๆน้อยๆได้ ด้านล่าง Built ตู้ปิดเรียบร้อยดี มีขอบเล็กๆไว้วางของได้

ติดกันเป็นโถสุขภัณฑ์ของ Cotto เช่นกัน มีสายชำระ ที่แขวนกระดาษชำระ และฝั่งตรงข้ามมีราวสแตนเลสไว้แขวนผ้าเช็ดตัวได้

พื้นที่อาบน้ำมีขนาด 0.8 x 1 m. สามารถใช้งานได้พอดีตัว ซึ่งของจริงจะติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำให้ด้วยครับ โดยเราจะได้เห็นในห้องตัวอย่างถัดไปนะ

ติดตั้ง Hand Shower หัวฝักบัวใหญ่กำลังดี สามารถปรับรูปแบบสายน้ำได้ เสาก็สามารถปรับความสูงได้ มีก๊อกแบบก้านโยกเปิด-ปิดปรับความแรงน้ำสะดวก พร้อมที่วางสบู่เล็กๆแถมมาในตัว แต่ถ้าใครวางของไม่พอก็สามารถติดเพิ่มตรงซอกผนังด้านซ้ายได้นะ ด้านบนมี Junction box ไว้ต่อเครื่องทำน้ำอุ่นพร้อมใช้งาน

ฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสี พร้อมไฟดาวน์ไลท์ฝังฝ้า 1 จุด และพัดลมดูดอากาศ 1 ตัว

ต่อไปทางด้านซ้ายเป็นห้องครัวซึ่งกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนแบบ 3 ตอน เลื่อนเปิดได้กว้าง 70 cm. ข้อดีของประตูกระจกคือ นอกจากจะช่วยดึงแสงเข้ามา ทำให้โถงทางเดินสว่างและโปร่งโล่งแล้ว ยังทำให้มองเห็นคนที่กำลังใช้งานอีกฝั่งของประตูได้ จะได้ไม่เปิดออกมาชนกัน

พื้นที่ครัวกว้าง 70 cm. สามารถใช้งานได้พอดี พื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้สีขาว เช็ดทำความสะอาดได้ง่าย

ส่วนเคาน์เตอร์ครัวที่ได้จะเป็นตามที่เห็นในห้องตัวอย่างทั้งหมดเลยครับ จะเป็นยังไงไปชมพร้อมๆกันเลย

เริ่มที่ตู้ด้านบนสามารถเก็บของได้พอสมควรนะ โดยที่ตู้ด้านซ้ายเหนือเตาไฟฟ้าจะมีท่อดูดควันเพื่อไปปล่อยออกข้างนอก ข้อดีคือช่วยให้ไม่ต้องถอดล้างบ่อยๆเหมือบแบบเครื่องดูดหมุนเวียนภายใน แต่ข้อเสียคือท่ออาจกินพื้นที่เก็บของภายในไปบ้างครับ

หน้าบานตู้ติดตั้งระบบ Soft close มาให้พร้อมใช้งานเพื่อป้องกันการกระแทกเวลาปิด ตู้ด้านซ้ายเป็นแบบกดกระเด้ง ส่วนตู้ด้านขวาออกแบบที่เปิดแบบปากมุมเพื่อความเรียบร้อยแต่ใช้งานสะดวก

Top เคาน์เตอร์ครัวเป็นเมลามีนซึ่งอาจกันน้ำ ความชื้น หรือทนความร้อนได้ในระดับนึง ถ้าเปียกควรรีบเช็ดให้แห้ง และได้เตาไฟฟ้าพร้อมที่ดูดควันของ Tecno มีพื้นที่ประกอบอาหารตรงกลางกว้าง 30 cm. และอ่างล้างหน้ายี่ห้อเดียวกันขนาด 50 x 44 cm. ลึก 15 cm. และติดไฟซ่อนมาให้ด้วย ผนังด้านหลังของจริงจะเป็นฉาบเรียบทาสีธรรมดา ถ้าชอบทำอาหารจริงจังหรือใช้ครัวบ่อยๆ แนะนำให้กรุกระเบื้องหรือฉากเพิ่มเติมเพื่อจะได้เช็ดทำความสะอาดได้ง่ายครับ

ส่วนตู้ด้านล่างก็มีทั้งช่องเก็บของช่องใหญ่ สามารถเก็บของชิ้นใหญ่ๆได้ มีลิ้นชักไว้เก็บของชิ้นเล็ก ได้ถาดใส่ช้อนส้อม พร้อมที่วางไมโครเวฟอยู่ด้านล่างใช้งานได้สะดวก ส่วนลิ้นชักบนสุดเป็นส่วนขยายพื้นที่ทำครัวและใช้วางของหรือแทนเขียงได้ด้วยครับ

ด้านขวาเคาน์เตอร์เป็นที่วางตู้เย็นขนาดประมาณ 65 x 65 cm. สามารถใช้ตู้ทรงสูงได้เพราะไม่มีตู้แขวนด้านบนมาจำกัดความสูง และเลือกหน้าบานตู้ที่เปิดแบบในห้องตัวอย่างจะดีครับ ทำให้เราใช้งานได้สะดวกโดยเฉพาะเวลาทำครัว

ฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสี พร้อมไฟดาวน์ไลท์แบบฝังฝ้าและอุปกรณ์ป้องกันอัคคีภัยอย่างละ 1 จุด

ต่อไปเป็นระเบียงซึ่งกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนแบบ 3 ตอน ช่วนดึงแสงธรรมชาติเข้ามาและสามารถเปิดระบายอากาศได้

พื้นที่ระเบียงมีไม่มากครับ ขนาด 1.3 x 0.9 m. สามารถวางเครื่องซักผ้าที่ระเบียงได้เพราะทางโครงการจะต่อท่องานระบบเอาไว้ให้เรียบร้อย ซึ่งถ้าวางเครื่องซักผ้าลงไปแล้วจะทำให้มีพื้นที่เหลือประมาณ 60 cm. ออกไปยืนได้แบบพอดีตัวเท่านั้น และราวระเบียงเป็นเหล็กสูง 1 m.

แขวน Condensing unit ไว้ด้านบน 2 เครื่อง เป่าลมร้อนมาด้านข้างซึ่งก็แนะนำให้ติดกริลแอร์ดันลมร้อนไปด้านนอกจะได้ออกมาใช้งานระเบียงได้ หรือถ้าใครอยากได้ลมร้อนไว้เป่าผ้าที่ตากให้แห้งก็ไม่ว่ากันจ้ะ ฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสีและมีไฟส่องสว่างอีก 1 ดวง

ห้อง 1 Bedroom ขนาด 21 – 22 ตร.ม. เป็นห้องที่มีเพียงชั้นละ 2 ยูนิตเท่านั้น ฟังก์ชันภายในจะแตกต่างจากห้องแบบที่แล้ว เมื่อเข้ามาภายในสิ่งแรกที่เจอคือครัว เป็นครัวปิดซึ่งกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนเพื่อเชื่อมต่อกับพื้นที่ภายในทำให้ห้องไม่อึดอัด ติดกันเป็นห้องน้ำที่มีฟังก์ชันภายในเหมือนกับห้องที่แล้วเลย เข้ามาด้านในห้องเป็นพื้นที่ห้องนั่งเล่นรวมกับพื้นที่ห้องนอน ดูเผินๆคล้ายห้อง Studio ได้ความโปร่งโล่งของพื้นที่ที่เชื่อมต่อกันโดยไม่มีอะไรมากั้น ด้านขวาของเตียงมีมุมอเนกประสงค์ข้างหน้าต่าง และมีระเบียงเล็กๆในตัว ห้องนี้เหมาะกับการอยู่อาศัย 1 – 2 คนเช่นกัน แต่จะเป็นคนที่ชอบความโปร่งโล่งมากกว่าห้องแบบแรก และอยากมีมุมส่วนตัวดีๆเพื่อจัดให้เหมาะกับ Lifestyle ของตัวเองได้ครับ

หน้าตาเฟอร์นิเจอร์ที่ได้ของห้อง Type นี้จะเป็นตามนี้เลยครับ

เมื่อเข้ามาภายในจะเจอกับส่วนครัวก่อนนะ เป็นครัวปิดกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนซึ่งช่วยดึงแสงธรรมชาติจากหน้าต่างเข้ามาถึงด้านในได้ พื้นเป็นกระเบื้องยางไวนิลเช่นเดิม ความสูงจากพื้นถึงฝ้า 2.4 m.

พื้นที่ครัวกว้าง 1.25 m. สามารถใช้งานได้สะดวก สิ่งที่แตกต่างจากห้องที่แล้วคือจะไม่ได้พื้นกระเบื้องแกรนิตโต้ ทำให้ห้องนี้อาจไม่เหมาะกับการทำครัวจริงจัง

เคาน์เตอร์ครัวจะได้ตามนี้ ลักษณะคล้ายกับห้องตัวอย่างห้องแรก วัสดุเหมือนกัน แต่มีฟังก์ชันแตกต่างกันเล็กน้อย

ภายในตู้เก็บของได้พอสมควร ที่วางไมโครเวฟย้ายไปอยู่ด้านบนอาจไม่สะดวกสำหรับคนตัวเล็ก พื้นที่ประกอบอาหารกว้างมากขึ้นเป็น 75 cm. และมีที่วางเครื่องซักผ้าอยู่ด้านล่างซึ่งต้องระวังน้ำหยดลงบนพื้นกระเบื้องยางไวนิลด้วยนะครับ เพราะถึงแม้จะทนน้ำได้ดีกว่าพื้นไม้ลามิเนตแต่ก็ไม่ได้ทนเท่ากระเบื้องจริงๆ

ด้านขวามีพื้นที่วางตู้เย็นขนาด 65 x 65 cm. สามารถใช้ตู้เย็นทรงสูงได้

ฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสี พร้อมไฟดาวน์ไลท์แบบฝังฝ้า 1 ดวง อุปกรณ์ป้องกันอัคคีภัยอีก 1 จุด

ฝังตรงข้ามเป็นห้องน้ำ ภายในเหมือนกับห้องที่แล้วทุกอย่าง แต่ห้องนี้จะติดฉากกั้นอาบน้ำมาให้ดูด้วยครับ

พื้นที่ส่วนแห้งมีขนาดประมาณ 1.35 x 1.55 m. ได้อ่างล้างหน้าและโถสุขภัณฑ์ครบชุดของ Cotto เช่นเคย

พื้นที่อาบน้ำขนาดประมาณ 1 x 0.8 m. สามารถใช้งานได้พอดีตัว มีขอบธรณีสูง 5 cm. ช่วยป้องกันน้ำไหลซึมออกมาภายนอก

ฉากกั้นอาบน้ำเป็นกระจกนิรภัย Tempered Glass บานเลื่อน 3 ตอน ช่วยประหยัดพื้นที่ในการเปิดประตูไปได้มาก ใช้งานสะดวกมากขึ้น

ติดชุดอุปกรณ์ Hand Shower มาให้เช่นเดิม พร้อม Junction box เพื่อติดเครื่องทำน้ำอุ่น

มีพื้นที่ด้านข้างระหว่างเสาและฉากกั้นขนาดประมาณ 30 x 40 cm. สามารถติดชั้นวางสบูเพิ่มเติมได้

ฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสี พร้อมไฟดาวน์ไลท์ฝังฝ้า 1 จุด และพัดลมดูดอากาศ 1 เครื่อง

ก่อนจะเข้าภายในห้องจะถูกกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนแบบ 3 ตอน สามารถเปิดออกได้กว้าง 1 m. ข้อดีคือช่วยให้พื้นที่ครัวได้รับแสงจากหน้าต่างภายนอก ทำให้รู้สึกโปร่งโล่งไม่อึดอัด และได้พื้นที่เชื่อมต่อกับภายในห้องได้โดยที่ยังคงแบ่งเป็นสัดส่วน ได้ครัวปิดป้องกันกลิ่นเข้าไปรบกวนพื้นที่พักผ่อนภายใน

เช้ามาภายในส่วนพักผ่อนจะประกอบด้วยพื้นที่ห้องนั่งเล่นและพื้นที่ห้องนอน ทำให้ห้องดูกว้างและโปร่งโล่ง ได้ช่องแสงจากทั้งหน้าต่างและระเบียงทำให้ห้องสว่างไม่อึดอัด

ระยะดูทีวีกว้างประมาณ 3 m. สามารถใช้ทีวีขนาด 50 – 60 นิ้วได้ ซึ่งเป็นระยะที่มากกว่าห้องที่แล้วอีกครับ เหมาะกับคนชอบดูจอทีวีใหญ่ๆนะ ชุดโต๊ะและโซฟาเราจะไม่ได้เช่นเดิม แต่ตู้ทางด้านซ้ายเราจะได้หมดเลย

ปลายเตียงเป็นชุดเฟอร์นิเจอร์ Built in ประกอบด้วยชั้นวางทีวี โต๊ะเครื่องแป้ง และตู้เสื้อผ้า ซึ่งเราจะได้ตามนี้เลยครับ ยกเว้นชั้นวางของบนทีวีนะที่จะไม่ได้

ปลายเตียงหรือพื้นที่หน้าตู้เสื้อผ้ากว้างประมาณ 60 cm. สามารถใช้งานได้แบบพอดีตัว

ตู้เสื้อผ้าที่ได้ก็จะเหมือนกับห้องที่แล้วเลยครับ เพียงแต่หน้าบานตู้จะเปลี่ยนเป็นแบบบานเลื่อนทำให้ช่วยประหยัดพื้นที่การเปิด-ปิดตู้ในพื้นที่แคบๆได้ ภายในสามารถเก็บของได้พอสมควร

ห้องเมื่อกี้ลืมถ่ายให้ดู ที่เปิดตู้จะเป็นแถบเหล็กสีดำเปิด-ปิดได้ง่ายแบบนี้ครับ

ส่วนพื้นที่ข้างเตียงทางขวามีขนาดประมาณ 65 x 1.9 m. ไม่รวมระยะทางเดินกว้าง 40 cm. ตรงส่วนนี้น่าสนใจ สามารถจัดเป็นชุดโซฟาอเนกประสงค์ไว้นั่งเล่นอ่านหนังสือข้างหน้าต่างแบบในห้องตัวอย่างนี้ก็ได้ครับ หรือจะทำเป็นมุมทำงานส่วนตัวตาม Lifestyle ของเราเลยก็ได้เพราะเฟอร์นิเจอร์ชิ้นนี้เขาไม่ได้แถมมาให้อยู่แล้วครับ

ชุดหน้าต่างเหมือนกับห้องที่แล้ว มีหน้าต่างบานกระทุ้งสามารถเปิดระบายอากาศได้

ฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสี ของจริงจะได้ไฟดาวน์ไลท์แบบฝังฝ้า 2 ดวง และอุปกรณ์ป้องกันอัคคีภัย 1 จุดที่อยู่ทางด้านซ้ายเท่านั้นนะ ส่วนไฟและดรอปฝ้าทางด้านขวาเป็นเพียงแค่ตกแต่งเท่านั้น

ประตูระเบียงเป็นกระจกบานเลื่อนแบบ 3 ตอน เปิดออกได้กว้าง 60 cm.

บานกรอบเป็นอลูมิเนียมทำสี กระจกในธรรมดา ธรณีสูง 12 cm. พื้นที่ระเบียง 1.2 x 0.6 m. มีราวกันตกเหล็กสูง 1 m. มีก๊อกน้ำติดตั้งไว้เผื่อซักล้างทำความสะอาด และติด Condensing unit ซ่อนไว้ด้นบน เป่าลมร้อนออกไปด้านนอก

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 13 November 2018

  • 1 Bedroom ขนาด 21 – 22 ตร.ม. ราคา 1.99 ล้านบาท
  • 1 Bedroom ขนาด 25 – 28 ตร.ม. ราคา 2.19 – 2.52 ล้านบาท

  • Fully Fitted
  • ฝ้าเพดานสูง 2.4 เมตร
  • Kitchen & Sink
  • Hob & Hood
  • จอง 10,000 บาท
  • ทำสัญญา 20,000 บาท
  • ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 50 บาท/ตร.ม./เดือน (ชำระล่วงหน้า 1 ปี ในวันโอนกรรมสิทธิ์)

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ


เจาะลึกรวบยอด

ทำเล – โครงการ B-Loft สุขุมวิท 107 ตั้งอยู่ในซอยแบริ่ง 1 เป็นซอยที่เชื่อมต่อกับซอยลาซาล 12 โดยซอยหลักทั้งสองนี้เป็นซอยที่เชื่อมต่อระหว่างถนนสุขุมวิทกับถนนศรีนครินทร์ เป็นทำเลในซอยที่เงียบสงบ แต่ก็เป็นทางผ่านของรถทั่วไปและรถสาธารณะที่ใช้เป็นทางลัดอยู่เรื่อยๆไม่มีเปลี่ยว มีเซเว่นอยู่หน้าปากซอยและมีตลาดอยู่ในระยะที่เดินถึงได้ง่าย แนะนำการเลือกตำแหน่งห้องสำหรับคนที่อยากได้วิวที่เปิดโล่งบ้างก็ให้เลือกห้องตั้งแต่ชั้น 4 – 5 เป็นต้นไปจะดีครับ เพราะจะพ้นระยะของอาคารข้างเคียงที่สูง 2 – 3 ชั้นทางทิศใต้ และอาคารสูง 4 ชั้นทางทิศเหนือ

การเดินทางโดยใช้รถ – ถือว่าเป็นทำเลที่สะดวกสำหรับการใช้รถนะ นอกจากเป็นทางลัดเชื่อมต่อถนนสายสำคัญต่างๆแล้วยังมีทางพิเศษให้เลือกใช้หลายเส้นทาง ทั้งเข้าเมืองโดยทางพิเศษเฉลิมมหานครที่สี่แยกบางนาที่ห่างออกไป 3.1 km. หรือจะไปชลบุรีด้วยทางพิเศษบูรพาวิถีระยะห่าง 6.9 km. ที่หน้าเซ็นทรัลบางนา และข้ามไปฝั่งธนด้วยวงแหวนกาญจนาระยะห่าง 4.9 km. ที่ช้างสามเศียร ถือว่าไม่ใกล้ไม่ไกลและสะดวกทั้งนั้น โดยโครงการมีที่จอดรถอยู่ประมาณ 30% จอดใต้อาคารไม่ต้องตากแดดฝน

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ – ค่อนข้างสะดวกนะ ถึงแม้จะห่างรถไฟฟ้าถึง 1 km. ซึ่งก็ไม่ใช่ระยะเดินถึง แต่มีวินมอไซค์ให้เรียกได้ทั้งปากซอยระยะ 100 และ 200 m. หรือจะเรียกจากหน้าโครงการได้ เพราะด้วยตัวซอยแบริ่ง 1 เป็นทางลัดเชื่อมจ่อกับซอยลาซาลซึ่งจะมีรถผ่านอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว จึงทำให้เรียกรถสาธารณะได้ง่าย

การออกแบบโครงการ – โครงการออกแบบสไตล์ Modern ดูเรียบง่ายและเท่ด้วยสีน้ำเงินเข้มเหมือนสีผ้ายีนส์ ชอบที่โครงการมีความเป็นส่วนตัวสูงเพราะมีจำนวนยูนิตเพียง 9 ยูนิตต่อชั้นเท่านั้น ส่วนกลางอยู่ชั้นดาดฟ้าทั้งหมดทำให้ลูกบ้านสามารถขึ้นมาใช้งาน Take View ร่วมกันที่ชั้นบนสุดได้บ้าง และพยายามวางอาคารให้ทิศทางของห้องหันไปด้านทิศเหนือและใต้ ทั้งนี้เพราะเป็นทิศที่ถูกบล็อควิวน้อยที่สุด ยังพอมีช่องว่าให้ได้มองผ่านอาคารที่อยู่ติดกันได้บ้างนั่นเอง

การออกแบบห้องพักอาศัย – ทั้งโครงการจะมีแต่ห้อง 1 Bedroom ทั้งหมด แตกต่างกันที่ขนาดและฟังก์ชันภายในอย่างชัดเจน โดยห้องใหญ่ขนาด 25 – 28 ตารางเมตร จะมีฟังก์ชันที่ลงตัวกว่า แยกพื้นที่เป็นสัดส่วนดี ห้องนอนแยกส่วนออกมาจากห้องนั่งเล่น ห้องครัวมีประตูกระจกกั้นมิดชิดป้องกันกลิ่นเข้าห้องและติดระเบียงระบายอากาศได้ดี ในขณะที่ห้องเล็กขนาด 21 – 22 ตารางเมตร จะมีรูปแบบคล้ายห้อง Studio ที่ได้ห้องกว้างและโปร่งโล่ง ได้ครัวปิดซึ่งกันด้วยประตูกระจกบานเลื่อนแต่อาจไม่เหมาะกับการทำอาหารจริงจังเท่าห้องแรก ห้องน้ำไม่ติดระเบียงต้องระวังเรื่องความชื้น กลิ่น และการระบายอากาศ มีมุมอเนกประสงค์ส่วนตัวในห้องนอนให้ได้จัดสรรตาม Lifestyle ของตัวเอง เป็นโครงการที่เหมาะกับการอยู่อาศัย 1 – 2 คน

วัสดุ – ขายแบบ Fully Fitted คือให้เฟอร์นิเจอร์ Built in เกือบทั้งหมดภายในห้องยกเว้นของตกแต่ง พื้นกระเบื้องยางไวนิลและได้เป็นพื้นกระเบื้องแกรนิตโต้ในครัวสำหรับห้องใหญ่ บานกรอบประตูหน้าต่างอลูมิเนียม กระจกใสธรรมดา ชั้นวางทีวี ตู้เก็บของและตู้รองเท้า ตู้เสื้อผ้า เตียง โต๊ะเครื่องแป้ง เคาน์เตอร์ครัว Top เมลามีน Hob&Hood และอ่างล้างจานของ Tecno เครื่องปรับอากาศ Digital Door Lock และชุดสุขภัณฑ์ในห้องน้ำทั้งหมดเป็นของ Cotto

สาธารณูปโภค – ให้มาครบ ขนาดพอดีเหมาะสมกับจำนวนยูนิตที่มีไม่มาก ส่วนกลางอยู่ชั้นบนทั้งหมดร่วมกับชั้นพักอาศัย โดยมีประตูกระจกกั้นที่ต้องใช้ Key Card Access เพื่อความปลอดภัยและเป็นส่วนตัว อัตราส่วนลิฟต์ทั้งโครงการ 59 : 1 ถือว่าไม่หนาแน่นมากนัก ส่วนกลางโครงการประกอบด้วย Lobby, Fitness, Swimming Pool และลานอเนกประสงค์พักผ่อนบนชั้นดาดฟ้า

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคา AVG 90,000 บาท/ตร.ม., 13 November 2018

  • ทำเล 7.5/10 – เป็นเส้นทางลัด ซอยไม่เปลี่ยว เชื่อมต่อถนนหลายสาย ใกล้เซเว่นและตลาด
  • เดินทางด้วยรถ 7.75/10 – เดินทางสะดวก เลี่ยงรถติดได้ ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วน ที่จอดรถน้อยไปหน่อย
  • ไม่ใช้รถ 8/10 – ทำเลในซอยแต่มีรถผ่านตลอด เรียกรถสาธารณะง่าย ใกล้ BTS แบริ่ง
  • วัสดุ 7.5/10 – ขาย Fully Fitted เฟอร์นิเจอร์ Built-in บางชิ้น พร้อมแอร์ ไม่รวมเครื่องใช้ไฟฟ้า
  • แบบ 8/10 – ยูนิตน้อยเป็นส่วนตัว มีแบบห้องให้เลือกน้อย แต่ฟังก์ชันลงตัว
  • สาธารณูปโภค 7.25/10 – ให้มาครบและเหมาะสมกับจำนวนยูนิต ส่วนกลางอยู่บนดาดฟ้า

  • MAIN CLASS
  • 7.64 / 10.00

BOTTOM LINE

โครงการ B-Loft สุขุมวิท 107 เหมาะกับคนที่กำลังหาคอนโดแถบชานเมืองสมุทรปราการที่เดินทางเข้าเมืองได้สะดวก ยูนิตน้อยได้ความเป็นส่วนตัว ฟังก์ชันห้องลงตัวเหมาะกับการอยู่อาศัย 1 – 2 คน สร้างเสร็จพร้อมอยู่ไม่ต้องรอก่อสร้าง มีส่วนกลางหลักๆให้ใช้ครบ มีงบประมาณระดับ 1.99 – 2.52 ล้าน หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 14,000 – 18,000 บาท/เดือน