รีวิวโครงการ
คิด.เรื่อง.อยู่ Ep.149 – รีวิวคอนโด B Campus
2 สิงหาคม 2015
รีวิวฉบับที่ 385 … Mr.Oe ได้ทำการ Update ข้อมูล เป็นรีวิวฉบับเต็มเรียบร้อยแล้วนะครับ สำหรับโครงการ B CAMPUS ประชาชื่น ของ 39 Estate เคยนำเสนอข่าวเปิดตัวไปแล้วครั้งหนึ่ง เป็นคอนโดมิเนียม 8 ชั้น ตั้งอยู่บนทำเลติดถนนใหญ่ประชาชื่น เลียบคลองประปา ติดๆกับแยกพงษ์เพชร และใกล้กับ The Mall งามวงศ์วาน โครงการนี้มี Concept ที่แตกต่างจากโครงการ Low Rise แถวย่านนี้พอสมควร มีของแปลกเยอะครับ 🙂 ตั้งแต่เรื่องทำเล,การออกแบบ, พื้นที่ส่วนกลาง, สิ่งอำนวยความสะดวกที่จัดมาให้ลูกบ้าน รวมถึงวัสดุต่างๆ ใครที่เคยอ่านไปแล้วตอนวิเคราะห์ทำเลและเนื้อโครงการบางส่วน ก็มาอ่านต่อให้จบซะดีๆครับ 🙂
Fact @ 13 July 2013
- B CAMPUS
- บริษัท 39 Estate จำกัด
- ECONOMY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- คอนโด Low Rise 8 ชั้น 1 อาคาร รวม 206 ยูนิต
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 29 ยูนิต
- อาคารจอดรถ 1 ตึก รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 40%
- ที่ดินประมาณ 1-2-11 ไร่
- คาดว่าจะแล้วเสร็จปี 2558
- Studio 23 ตารางเมตร
- 1 Bedroom 27 – 34.5 ตารางเมตร
- 2 Bedrooms 40 – 47.2 ตารางเมตร
- 3 Bedrooms 68 – 69 ตารางเมตร
- ราคาเริ่มต้น 1.4 ล้านบาท
- ราคาต่อตารางเมตรประมาณ 60,000 บาท
- ขายแบบ Fully Furnished (เป็นโปรโมชั่นช่วงเปิดตัว)
- http://www.bcampuscondo.com
- โทร 087-414-5050
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ
เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง
แผนที่โครงการ ดูยากหน่อยนะครับ …. ตัวโครงการจริงๆ ตั้งอยู่บนถนนประชาชื่น อยู่ห่างจากแยกพงษ์เพชรไปประมาณ 200 เมตร ห่างจาก The Mall งามวงศ์วาน 400 เมตร ยังอยู่ในระยะพอเดินมาได้ โครงการอยู่ติดถนนใหญ่ไม่ได้เข้าซอยและไม่เปลี่ยว เดี๋ยวไปดูแผนที่ละเอียดๆ กันดีกว่า
ภาพรวมของโครงการ จะเห็นว่า อยู่ใกล้แยกพงษ์เพชร ที่ระยะประมาณ 200 เมตร ไม่ถึงกับติดแยกเกินไป มีระยะพอขับรถออกมาติดไฟแดงได้ ทำเลตรงนี้ มี The Mall งามวงศ์วาน, Lotus, Home Pro และ โรงพยาบาลนนทเวช เป็นหลักสำหรับพึ่งพิง ถ้าขยันหน่อยก็เดินมาได้ทั้งหมดนะครับ เพราะระยะทางเดินมา The Mall นี่ประมาณ 400 เมตร .. ส่วนการเดินทาง มีทางด่วนอยู่ใกล้ในระยะ1.3 กิโลเมตร และมีวคิวรถตู้ขนาดใหญ่มากหน้า The Mall งามวงศ์วาน ไว้บริการคนไม่ใช้รถ ทางเลี่ยงทางลัดในการเดินทาง มีมากพอสมควร ไปมาได้หลายเส้นทาง
ความอุดมสมบูรณ์ของโครงการนี้ ในระยะเดินสบายๆ 300 เมตร นี่ไม่ค่อยมีอะไร มีแต่ร้านอาหารกะมินิมาร์ท แต่ถ้าขยันเดินขึ้นอีกนิด เพิ่มระยะเดินเป็น 450 เมตร (หนึ่งรอบสนามฟุตบอลนิดๆ) จะเรียกได้ว่า รอบโครงการอุดมสมบูรณ์มาก ก็ว่าได้ เพราะมีครบทั้งร้านอาหารแทบจะทุกรูปแบบ ตั้งแต่รถเข็นริมทางไปจนถึงร้านอาหารดีๆ นอกจากนี้ยังมี Lotus สำหรับสาวๆ Home Pro สำหรับพ่อบ้าน DIY และ The Mall ที่มีของกินของใช้ที่พึ่งได้หลากหลายกว่า นี่เป็นข้อดีที่สำคัญมากสำหรับโครงการที่อยู่ใกล้ห้างนะครับ
ข้อด้อยของทำเลตรงนี้ ก็มีเหมือนกันนะครับเป็นธรรมชาติของทุกทำเลที่ต้องมีดีเสียปะปนกันไป … ตรงหน้า The Mall แทบจะเรียกว่าเป็นชุมทางการจราจร เพราะคิวรถตู้ ไปหลายที่นั่นน่ะ แถมป้ายรถเมล์ และรถ Taxi รวมถึงรถพ่อแม่ผู้ปกครองที่มาส่งเด็กเรียนกวดวิชาหน้า The Mall ทำให้แถวหน้า The Mall ในบางวันและบางช่วง รถติดมากครับ.. นอกจากนี้ ถนนประชาชื่นไม่ได้มีแค่คลองประปา แต่มีคลองระบายน้ำขนานกันไปด้วย รวมทั้งมีแนวสายไฟแรงสูงลากขนานไปกับตัวถนนอีกต่างหาก ต่างถือเป็นจุดที่ต้องพิจารณา ซึ่งผมจะค่อยๆพาไปดูรายละเอียดทำเลและสภาพแวดล้อมกันครับ
ดูเรื่องการเดินทางกันก่อนนะครับ โครงการนี้ สะดวกมากสำหรับคนใช้รถส่วนตัว เพราะเข้าออกเมืองไปมาได้หลายเส้นทาง จะใช้ทางด่วนก็ได้ ระยะทางตามเส้นที่ผมลากให้ดูคือ 1.3 กิโลเมตร .. วิ่งออกวิภาวดีก็ได้ วิ่งเลียบคลองประปาก็ได้ ไปทางติวานนท์ก็ได้ มีทางลัดเป็นซอยเชื่อมแทบจะทะลุทะลวงถึงกันหมด เอาไว้หลบรถติดได้ด้วย และด้วยความที่ตัวโครงการอยู่ติดถนนประชาชื่นใกล้แยกพงษ์เพชร คนไม่ใช้รถ สามารถเรียกรถได้ง่ายมาก แ่เดินมาหน้าโครงการ ก็มี Taxi ผ่านแทบจะ 24 ชั่วโมงแล้ว มีป้ายรถเมล์ และพี่วินอยู่เยื้องๆกับหน้าโครงการ … หรือถ้าจะใช้บริการรถตู้ ก็เดินไปที่คิวรถตู้ได้ระยะทาง 300 เมตร (เดินจากด้านหลังโครงการได้)
อย่างที่บอกไว้นะครับว่า ทำเลด้านหลังโครงการมันเป็นซอยที่ทะลุทะลวงถึงกันได้มากมาย เราสามารถใช้ในคราวจำเป็นเพื่อหลีกหนีรถติดหน้า The Mall ในบางวันและเวลาได้ ก็วิ่งตามแนวเส้นสีแดงที่ผมลากให้ดูครับ แต่ต้องขับระวังหน่อยนะเพราะบางช่วงของซอยก็ชอบมีรถมาจอด ทำให้สวนกันลำบากอยู่เหมือนกัน
Zoom ให้ดูสภาพแวดล้อมรอบๆโครงการ จะเห็นเส้นประหลืองด้านหลังโครงการนั่นคือแนวสายไฟแรงสูงนะครับ บนถนนประชาชื่นจะเจอกันทุกโครงการ เพราะลากขนานถนนกันมาเลย และด้านหน้าของโครงการ จะเป็นคลองระบายน้ำซึ่งบางวันถ้าน้ำนิ่งๆ น้อยๆ นี่ก็มีกลิ่นเหมือนกัน แต่ช่วงหน้าฝนน้ำไหลระบายดี ก็ไม่มีกลิ่นอะไร … หน้าโครงการด้านพงษ์เพชร จะมีปั๊ม NGV ของ ปตท ส่วนอีกด้าน ก็มีปั๊มแก๊ส ด้วย ส่วนมากจะเป็น รถตู้และ Taxi มาใช้บริการกัน
สำนักงานขายไม่ได้อยู่ตำแหน่งที่ดินโครงการนะครับ จะอยู่ตึกใกล้ๆกัน ห่างไม่กี่เมตร เวลามาดูห้องตัวอย่างและขอข้อมูลที่สำนักงานขาย สามารถเดินไปดูที่ดินโครงการได้
ตัวโครงการ ด้านหน้าจะมีทางเดินเลียบคลอง (เส้นประสีเหลือง) เป็นทางเท้า และจักรยาน ให้ใช้ จะได้ไม่ต้องมาเดินริมถนน ส่วนด้านหลังก็มีซอยที่ไปทะลุออกหน้า The Mall ได้ (เส้นประสีฟ้า) เดี๋ยวผมพาไปเดินเล่นดูสภาพแวดล้อมจริงรอบๆโครงการกันครับ
สำนักงานขาย หน้าโครงการ ตัวสัญลักษณ์ของโครงการจะเป็นม้าลายนะครับ ช่วงนี้ก็จะเจอป้ายแถวประชาชื่นเยอะหน่อย ตัวสำนักงานขายจะอยู่ใกล้กันกับแปลงที่ดินนั่นแหละ
ทางเข้าสำนักขายคือ ซอย 1 นะครับ ประชาชื่นนนทบุรี 1 นี่เป็นซอยแรกนับจากแยกพงษ์เพชรเลย
ถนนประชาชื่น ช่วงหน้าโครงการ
แปลงที่ดิน ที่จะเป็นตำแหน่งที่ตั้งโครงการ เนื่องจากมีคลองอยู่ด้านหน้า เลยต้องทำเป็นสะพานข้ามไปนะครับ นี่เขาทำสะพานกันอยู่
คลองระบายน้ำหน้าโครงการ สภาพน้ำอย่างที่เห็น อันนี้แล้วแต่วัน แล้วแต่ช่วงนะครับ ช่วงนี้ฝนตกน้ำเยอะ น้ำไหล ก็จะเป็นน้ำดีแบบนี้ ไม่มีกลิ่น แต่ช่วงน้ำน้อยน้ำนิ่ง ก็มีกลิ่นเหมือนกัน
ยืนบนสะพานข้ามคลองของโครงการ มองไปแยกพงษ์เพชร
ที่ดินโครงการ ยังไม่ได้ทำอะไร เพราะต้องรอสะพานเสร็จก่อนถึงจะเอาเครื่องจักรเข้ามาปรับที่ได้สะดวก
สภาพที่ดิน ตอนนี้ยังเดิมๆอยู่
ผม zoom ให้ดูสุดที่ดิน จะเป็นด้านหลังโครงการ ซึ่งสามารถเชื่อมกับซอยด้านหลังได้
ปั๊ม ปตท NGV อยู่ใกล้ๆกับโครงการ ห่างออกมา 100 เมตรพอดี ปั๊มนี้มีร้านขายอาหารและมินิมาร์ท ให้พึ่งพิงได้
ปั๊มแก๊สที่อยู่ด้านขวามือของโครงการ
สภาพปั๊ม ปั๊มนี้เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมงนะครับ
Zoom ให้ดูเสาไฟแรงสูงที่อยู่ถัดจากตึกฟ้ารูปข้างบนออกไป
เริ่มจากเดินไป The Mall งามวงศ์วานกันก่อน ระยะทางเดินจริงจากหน้าโครงการ ไปจนถึงประตูทางเข้า The Mall ประมาณ 450 เมตรครับ เดินตามแนวเส้นประสีม่วง ซึ่งจะผ่านหน้าปั๊ม ปตท – แยกพงษ์เพชร – หน้า Lotus – โรงพยาบาลนนทเวช ตั้งแ่เช้าถึงหัวค่ำ คนเดินกันตลอดเวลา เดี๋ยวไปดูของจริงกัน
ฟุตบาททางเดินริมถนนประชาชื่นช่วงหน้าโครงการ จะมีซุ้มการะเวก พอให้ร่มเงาระหว่างเดินไปทางแยกพงษ์เพชรได้บ้าง
พอเดินมาสุดทางฟุตบาท จะเจอปั๊ม ปตท นี้
ติดกับปั๊ม ปตท จะมีร้านนวดแผนโบราณ อยู่ร้านนึงนะครับ
ปั๊ม ปตท ปั๊มนี้ เป็นปั๊ม NGV ลูกค้าส่วนมากเป็น Taxi และรถตู้ในย่านนี้ Taxi แถวๆนี้เลยเยอะหน่อยครับ
ในปั๊มมี มินิมาร์ท และร้านอาหาร พอพึ่งพาได้บ้าง
มองไปฝั่งตรงข้ามปั๊ม จะเจอ คอนโด Aspire งามวงศ์วาน ที่สร้างค้างไว้อยู่แค่นี้ ต้องรอเคลียร์เรื่อง EIA ใหม่ โครงการ Aspire นี้ ผมเคยทำรีวิวเอาไว้นานแล้วนะครับ หาอ่านดูได้ เผื่อเขาจะกลับมาสร้างต่อ
ติดกับปั๊ม ปตท จะเป็นป้ายรถเมล์ และวินมอไซค์
แยกพงษ์เพชร จากโครงการเดินมานิดเดียว ก็ถึงแยกแล้ว
ตรงแยกพงษ์เพชรจะมี ป้อมตำรวจ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ประจำการตลอด 24 ชั่วโมงนะครับ เดี๋ยวเราจะเดินข้ามถนนไปฝั่นโน้นกัน
แยกพงษ์เพชรอีกมุม แยกนี้ เวลาทั่วไปก็โล่งๆแบบนี้แหละ แต่จะมีช่วงเช้าเย็น ที่รถเยอะหน่อย
จากแยกพงษ์เพชร ตรงป้อมตำรวจ มองไปจะเห็น The Mall อยู่ใกล้ๆละ
ก่อนจะถึง The Mall เราจะเดินผ่านหน้า Lotus และ Home Pro นะ เดี๋ยวผมพาไปเดินดูหน่อยดีกว่า
ตรง Lotus นี้เป็นส่วนลานจอดรถ มีวินรถตู้อยู่ตรงนี้ด้วย อันนี้ไปบางใหญ่
ทางคนเดินเพื่อไป Lotus เดินใต้หลังคานี้นะครับ ไม่ต้องกลัวแดดและฝน
Lotus กับ Home Pro อยู่ติดกันเลย Home Pro สาขานี้ เป็นสำนักงานใหญ่ด้วย กำลังขยายขนาดเพิ่มพื้นที่กันอยู่
ด้านใน Lotus ก็เหมือน Lotus ทุกๆที่ แต่สาขานี้เป็นขนาดกลาง ไม่ใหญ่ ไม่เล็ก
มีร้านอาหาร ธนาคาร ร้านกาแฟ ร้านหนังสือ … เดินจากหน้าโครงการมาถึงใน Lotus นี่ต้องมี 450 เมตร
อาคาร Home Pro ซึ่งอยู่ติดๆกับ LPN ประชาชื่นตัวแรก … Home Pro สาขานี้เป็นสาขาใหญ่ ของเยอะครบแทบจะสุด มีร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านหนังสือ อยู่ด้านในเช่นกัน
ตรงรอยต่อระหว่าง Home Pro และ Lotus จะมีทางเชื่อมไปเข้าออก The Mall ได้ด้วยนะ เดี๋ยวพาไปดู
ตรงจุดทางเชื่อมระหว่าง Lotus – Home Pro – The Mall นี้ เป็นหมู่บ้านเกร็ดแก้ว แต่ถูกแปรสภาพเป็นร้านอาหาร เยอะแยะเต็มไปหมด เป็นสิบๆร้านนะครับตรงนี้ คนทำงาน และคนที่อยู่ย่านนี้ จะทราบกันดี ขายกันตั้งแต่เช้ายันค่ำ
บันไดทางเข้า The Mall
เข้ามาแล้วจะเป็นตำแหน่งตรงจุดรับบัตรจอดรถของห้างนะครับ เดินไปอีกไม่กี่ก้าว ก็จะเป็นส่วน Super Market ของ The Mall….แนะนำว่า ชอบของถูกไป Lotus แต่ถ้าจะหาความหลากหลาย ก็มาที่ The Mall ครับ อยู่ติดๆกันอยู่แล้ว
ติดกับ The Mall ก็จะเป็น โรงพยาบาลนนทเวช โรงพยาบาลใหณ่ใช้ได้ ที่พึ่งพิงของชาวบ้านย่านนี้มาเป็นสิบปีแล้ว
เดินไป The Mall แบบเบสิคกันมาแล้ว … เดี๋ยวผมจะพาเดินไปอีกด้านบ้างนะครับ 🙂 เป็นด้านหลังของโครงการ เดินตามเส้นประสีเหลือง จะไปโผล่ตรงคิวรถตู้ ที่ขอบอกว่า แทบจะไปทุกที่ที่สำคัญทั่วกรุงเทพครับ รถเยอะมากมาย แถมด้วยสถาบันกวดวิชาหน้า The Mall ที่มีอยู่เยอะมาก ถ้าลูกหลานจะเรียน ก็เดินมาได้ครับ ระยะทางถึงย่านสถาบันกวดวิชา และคิวรถตู้นี่แค่ 300 เมตร และไม่เปลี่ยว เดี๋ยวผมพาไปดู…
ผมพาเดินเข้าทาง ซอย ประชาชื่นนนทบุรี 2 นะครับ (ซอยนพรัตน์) ซอยนี้จะไปทะลุออกหลังโครงการ และมีทางแยกไปขึ้นลงทางด่วนได้ด้วย จะได้ดูสภาพซอยไปพร้อมๆกันเลย .. วันไหนรถทางประชาชื่น หรืองามวงศ์วานติดมากๆ หลบเข้าซอยนี้ได้เลยครับ
ปากซอย ต้องข้ามสะพานเข้าไปนะ
สภาพถนนในซอย ค่อนข้างแคบนะ ถ้ามีรถจอดข้างทางก็ขับช้าๆหน่อยครับ จะได้สวนกันง่ายๆ
ในซอยจะเป็นโซนที่พักอาศัย มีแต่บ้านคน และอพาร์ตเมนต์เล็กๆกระจายตัวอยู่เต็มพื้นที่ ไม่มีที่รกร้าง ตึกร้าง หรือทำเลเปลี่ยวก็จริง แต่ถ้าจะเดินก็ยังต้องระวังมอไซค์ให้ดีๆนะครับ
เข้าซอยมา 150 เมตร จะเจอทางแยกนี้ ถ้าจะไปขึ้นทางด่วนให้เลี้ยวขวา … ถ้าจะไปด้านหลังโครงการ หรือเดินต่อไป The Mall ให้เลี้ยวซ้าย
เราเลี้ยวซ้ายเดินต่อมา สิบสองเก้า จะเจออำนวยผลอพาร์ตเมนต์ ตำแหน่งตรงที่มอไซค์เสื้อเขียวขับอยู่ข้างหน้านั่นแหละ ด้านหลังโครงการ
พื้นที่ด้านหลังโครงการ ที่เชื่อมต่อกับซอยได้แบบนี้ (ซอยด้านหลังโครงการชื่อซอยสมบูรณ์สุข 1) เวลาเราจะเดินทางไปไหนต่อไหนด้วยรถตู้ หรือเดินไป The Mall ใช้เส้นทางด้านหลังเดินสบายๆกว่านะครับ (ระยะทางเดินไป The Mall 450 เมตร เท่ากันกับเดินจากหน้าโครงการ)
เดินต่อไปนะครับ จากจุดนี้ ไปคิวรถตู้ 300 เมตร
สภาพภายในซอย จะเป็นบ้านพักอาศัย ปนอยู่กับอพาร์ตเมนท์
ข้างหน้าจะเริ่มเห็นอพาร์ตเมนต์เตี้ยๆ 5-8 ชั้นเยอะครับ เพราะมันแทบจะเรียกว่าตรงข้าม The Mall ได้เลย ในซอยย่านนี้ คนอยู่เยอะจริง ส่วนการเดินทางหลักๆ ก็เดินมารถตู้ หรือไม่ก็ใช้พี่วินครับ
เดินมาอีกนิด ก็จะเจอคิวรถตู้แล้ว ตรงจุดที่พี่วินส่งผู้โดยสารนั่นแหละ
คิวรถตู้
ตรงหน้าคิว จะมีวินมอไซค์คอยให้บริการอยู่หลายคัน
อาคารด้านใน คิวรถตู้
ตัวอาคารที่เป็นคิวรถตู้นี้ จะเชื่อมถนนงามวงศ์วาน กับซอยด้านหลัง รถตู้เขาจะวิ่งตามถนนงามวงศ์วาน เลี้ยวเข้ามาจอดรับคิวที่ตึกนี้ ส่วนเวลาออก เขาจะวนออกด้านซอยนี่แหละ
เดินออกมาด้านหน้าอาคารคิวรถตู้ จะเป็นถนนงามวงศ์วาน ฝั่งตรงข้ามสูงโดดเด่นเป็นสง่านี่แหละ The Mall งามวงศ์วาน ศูนย์กลางอารยธรรมของคนย่านประชาชื่น พงษ์เพชร… มีสะพานลอยเชื่อมกับห้างเรียบร้อย
ด้านหน้าอาคารคิวรถตู้ ก็ยังมีพี่วินอีกหนึ่งวินใหญ่ๆ
สภาพถนนงามวงศ์วาน หน้า The Mall เห็นป้ายวุฒิ-ศักดิ์คลินิค … โบราณว่าไว้ว่า ที่ใดมีวุฒิ-ศักดิ์คลินิค ที่นั่นย่อมมีนักเรียนนักศึกษา… ครับใช่เลย เพราะหน้า The Mall นี่ โรงเรียนกวดวิชา เยอะๆเลย
สะพานลอย ข้ามไป The Mall
The Mall งามวงศ์วาน ปรับปรุงใหม่ ก็เด่นตรงของกินของใช้ … ส่วนเสื้อผ้าและแฟชั่น ยังเป็นเวอร์ชั่น ชานเมืองเช่นเคย
ฝั่งตรงข้าม The Mall ที่เต็มไปด้วยโรงเรียนกวดวิชา
เดี๋ยวเรากลับไปที่โครงการกันก่อน ผมจะพาไปดูวิวจากทิศต่างๆ ของ ตัวโครงการ เวลาเลือกห้องจะได้หยิบง่ายๆหน่อย
สำนักงานขายตอนนี้ ยังไม่สมบูรณืแต่มีเจ้าหน้าที่โครงการประจำอยู่แล้วนะครับ ผมเข้าไปขอข้อมูลมาได้นิดๆหน่อยๆ เดี๋ยวรอวันเสาร์ 13/07/13 เขาเปิดห้องตัวอย่างให้ลูกค้าลงทะเบียนชุดแรกเข้าชม ผมจะแวะไปดูด้วยอีกที
ที่จอดรถตรงสำนักงานขาย จอดเบียดๆ น่าจะได้สัก 12-15 คัน
ทางเดินเลียบคลอง บริเวณหน้าสำนักงานขาย ถ้าเราเดินมาจากทางแยกพงษ์เพชร ก็ใช้เส้นทางนี้ดีกว่าไปเดินริมถนนนะ ตรงนี้มี รปภ ดูแล 24 ชม ด้วย
ถ่ายคลองหน้าโครงการให้ดูสภาพน้ำกันชัดๆ แต่ก็ต้องย้ำอีกทีว่าคุณภาพน้ำนี่มันแล้วแต่วัน และแล้วแต่ปริมาณน้ำด้วยนะครับ วันที่ถ่ายนี่น้ำเยอะเพราะฝนตก
แผนที่แสดงสภาพแวดล้อมของโครงการในแต่ละด้าน ดูให้ดีจะได้เลือกทำเลห้องได้ไม่ผิดพลาด เพราะในแต่ละตึก ห้องแต่ละห้องมีทำเลที่สวยไม่เท่ากัน และเหมาะกับแต่ละคนไม่เหมือนกัน … ตัวโครงการวางตึกในแนวเหนือใต้ ตามรูปที่ดิน ดังนั้นห้องเกือบทั้งหมดจะมีแค่ห้องวิวทิศเหนือ และห้องวิวทิศใต้ (ห้องมุมทั้งสี่ ได้วิวตะวันออก และตะวันตกด้วย แต่มีน้อย) เดี๋ยวเราไปดูรูปมุมสูงในแต่ละด้านกัน
วิวด้านทิศเหนือ จะเป็นวิวที่มองไปทางถนนแจ้งวัฒนะ ที่ติดกับรั้วโครงการเลย จะเป็นบ้านเก่าแก่ มีบ่อน้ำมีสวนอยู่เลย ถัดไปจะเป็นปั๊มแก๊ส อาคาร 5 ชั้นเล็กๆสีฟ้าติดกับปั๊มแก๊สนั่น หอพักสตรีอยู่สุข นอกนั้นก็เป็นบ้านเรือนผู้คนครับ วิวด้านนี้ค่อนข้างโล่ง ที่ชั้นสามก็เรียกว่าโล่งแล้ว
วิวด้านทิศใต้ จะแตกต่างจากทางทิศเหนือพอสมควร เป็นวิวมองไปทางถนนงามวงศ์วาน … ด้านนี้ที่ติดๆโครงการ เป็นชุมชนดั้งเดิม และทาวน์เฮาส์ 2 ชั้นหลังเล็กๆ (เข้าออกซอย 1) ด้านที่ติดคลองจะมีอาคารพาณิชย์ 4 ชั้นครึ่งอยู่ 3 ห้อง วิวทางโซนท้ายอาคาร (ขวามือ) จะดูโล่งกว่าทางหน้าอาคาร (ซ้ายมือ) ด้านทิศใต้นี้ ต้องเล็งเหลี่ยมดีๆ เพราะใกล้ๆกับโครงการ ตรงด้านท้ายโครงการ มีต้นไทรใหญ่ ที่ฟอร์มสวยดีมาก เป็นวิวต้นไม้ใหญ่สวยๆ ให้ได้ชื่นชมจากระเบียง… ส่วนทางด้านหน้าโครงการ จะมีอาคารพาณิชย์ 4 ชั้นครึ่งมาให้เกะกะสายตาเหมือนกัน ด้านนี้ของโครงการคงจะต้องทำรั้วสูงแน่ๆ เพราะอยู่ติดกับชุมชนชาวบ้านเลยครับ
วิว panorama ด้านทิศตะวันออก (หน้าโครงการ) กดที่รูปเพื่อดูรูปขนาดใหญ่ขึ้นนะครับ … ด้านนี้ค่อนข้างโล่งๆ เพราะเป็นโซนบ้านเดี่ยว
วิว Panorama ด้านทิศเหนือ กดที่รูปเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้นได้ ด้านทิศนี้ ก็ไม่มีตึกสูงใกล้ๆ ส่วนมากจะเป็นบ้านเดี่ยวเสียมากกว่า
วิว Panorama ด้านทิศใต้ กดที่รูปเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้นได้ ด้านทิศนี้ เป็นด้านถนนงามวงศ์วาน มีอาคารขนาดใหญ่ และพื้นที่ commercial บ้าง
เจาะลึกตัวโครงการ
ก่อนจะไปดูตัวโครงการด้วยกัน ผมขอแนะนำเจ้าของโครงการหรือ Developer ก่อนนะครับ โชคดีที่ผมได้มีโอกาสเจอหลายครั้งแล้ว เพราะ 39 Estate นี่เป็นการร่วมทุนกันของ เจ้าของ Socio Condo ที่ทำโครงการ Low Rise ระดับราคาแสนอัพต่อตารางเมตร มาหลายโครงการแล้ว กับ เจ้าของ Asset Wise ที่ทำโครงการบ้านและทาวน์โฮมย่าน รามอินทรา และลาดพร้าวตอนกลาง มาจนปรุแล้วครับ เรื่องประสบการณ์และเงินทุน ก็เป็นอันไม่ต้องเป็นห่วงเขามากนัก เพราะไม่ใช่มือใหม่… ส่วนหน้างานที่เราจะเจอในสำนักงานขาย เป็น Agent ที่ทำการขายและการตลาดรวมถึงดูแลให้ข้อมูลโครงการ คือ One Real Estate เจ้าที่เคยทำ S1 กับ The Hotel หมดอย่างรวดเร็วนั่นแล
B Campus นี่เป็นโครงการเปิดตัวของ 39 Estate ซึ่งคงจะมีอีกหลายโครงการตามมาให้ดูกันอีก ที่เขาเยอะครับ ตัวโครงการที่ใช้คำว่า “Campus” เพราะออกแบบ มาเป็นแนว Condo Low Rise อารมณ์สบายๆ ส่วนกลางเยอะๆ เน้นกระจายๆกันใช้ เพื่อให้ได้อารมณ์แบบ Campus ที่ลูกบ้านแต่ละคนมาแชร์ใช้ facility ร่วมกันได้จริง นอกจากการออกแบบตึกและส่วนกลาง ยังมีงานระบบพวก Security ที่ติดระบบดูวงจรปิดผ่านมือถือให้ลูกบ้าน ติดระบบ WIFI Internet ให้ทุกห้อง ระบบ Sound System ติดให้ในห้อง และมี Service พวก รถรับส่ง Shuttle Service ให้ด้วย… เดี๋ยวจะค่อยๆ เจาะลึกไปทีละอย่างนะครับ ตอนนี้ผมรวบรวมข้อมูลกว้างๆเท่าที่ทราบก่อน
13/07/2013 ทางโครงการเปิดให้ชมห้องตัวอย่าง สำหรับลูกค้าที่ลงทะเบียนไว้ ผมเลยถือโอกาสแวะมาดู สำนักงานขาย และเก็บรายละเอียดเพิ่มเติม มา update เป็นรีวิวฉบับเต็มนะครับ
หน้าตาตึกด้านหน้า เห็นเรียบๆ แบบนี้ดูเผินๆ ไม่น่าจะแตกต่างจาก โครงการย่านนี้นะครับ แต่ขอบอกว่า เขามีของแปลกมีแอบไว้ด้านใน เดี๋ยวจะค่อยๆ พาไปดูครับ
ด้านข้างตึก นี่เป็นด้านทิศใต้นะครับ
Panoramic Living Lounge และพื้นที่ส่วนกลางด้านใน ที่ทำมาใหญ่กว่าโครงการ High Rise Unit เยอะๆ หลายโครงการซะอีก ที่เขาทำมาแบบนี้ เพื่อให้มันดูน่านั่งในทุกๆมุม และแต่ละมุม ก็มี Privacy พอสมควร … ตรงนี้ใช้ได้ทั้ง รับแขก คุยงาน อ่านหนังสือ มีพวกเครื่องขายขนมและเครื่องดื่มบริการ 24 ชั่วโมงด้วย … อ่อ ตรงกลางที่เห็นเป็นตู้กระจกนั่น ข้างในเป็นต้นไม้นะครับ
ด้านนี้เป็นโซฟาตัวยาว นังได้หลายคน ถัดไปทางขวาสุดนั่น ส่วน Library ที่พื้นที่เชื่อมกัน
ดาดฟ้าด้านบน จัดเป็นสวนเต็มพื้นที่ และมี Private Sky Terrace นั่งเล่นนอนเล่นได้ เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ส่วนกลางที่ เน้นการกระจายการใช้งาน ให้ใช้พร้อมกันได้หลายๆคน
Fitness ที่ชั้น 2 วางทิศใต้ ติดกับสระว่ายน้ำ
สระว่ายน้ำระบบเกลือที่ชั้น 2
ผังโครงการชั้น 2 (ชั้นอื่นๆ ยังไม่เปิดให้ดู) จะค่อยๆอธิบายให้ฟังนะครับ …. ด้านหน้าของโครงการเป็นคลอง ทางโครงการมีสะพานข้ามคลองส่วนตัวเข้าออกโครงการ จอดรถที่ใต้อาคารในชั้น 1 ชั้น 2 เป็นชั้น Facility หลัก มี Panoramic Living Lounge อยู่ทางขวามือซึ่งเป็นทิศเหนือ นั่งได้ทั้งวัน ไม่ร้อนด้านนี้เป็นโซนกิจกรรมสงบ อ่านหนังสือ จิบกาแฟ นั่งเล่นเน็ตฟรีกันไป (โปรดสังเกตกลางห้องมีต้นไม่อยู่ต้นนึง)… ส่วนซ้ายมือ เป็นทิศใต้ ด้านนี้ได้ลม โครงการเขาออกแบบจัดวาง Facility พวกที่เป็นกิจกรรม ใช้แรง อย่างสระว่ายน้ำ พื้นที่นอนกลิ้งเกลือกอาบแดด และ Fitness ไว้ด้านนี้… ชั้นนี้มีห้องอยู่ 22 ห้อง มีห้องพิเศษที่เป็นของแปลกอยู่ 9 ห้อง ห้องเหล่านี้ จะมีระเบียงใหญ่มาก ใหญ่กว่าห้องนอนซะอีก สามารถปลูกต้นไม้ขนาดย่อมๆหรือจะจัดสวนก็ได้เลย เพราะเป็นพื้นที่เปิดรับแสง
อ้อในโครงการ และในห้อง เขาติดระบบมาให้หลายอย่างนะครับ กลัวจะลืม เดี๋ยวสรุปให้ฟังอีกที
- Sound Touch Audio : เป็นระบบ Bluetooth เชื่อมกับ IPhone หรือ อื่นๆ เพื่อเปิดเพลงฟังในห้องได้เลย ตัวโครงการติดตั้งระบบและลำโพงให้ทุกห้องเรียบร้อย แถมฟรีทุกห้องนะไม่ใช่ Option ที่ต้องจ่ายเงินเพิ่ม
- Private Security System : ระบบดูทีวีวงจรปิดในตำแหน่งสำคัญๆ ผ่านโทรศัพท์มือถือ ซึ่งดีกว่า VDO Door Phone ที่เอาไว้ดูได้แค่คนเข้ามาหาที่ห้องนะครับ อันนี้ติดให้ทุกห้อง ไม่ใช่ Option ที่ต้องจ่ายเงินเพิ่มเหมือนกัน
- Digital Door Lock : ของ SAMSUNG ใช้ได้ทั้ง Card และกดรหัส
- USB & WIFI Port : ติด WIFI ให้แล้วทุกห้อง ใช้ได้เลยไม่ต้องติดเพิ่ม และมี Port USB ในห้องให้เรียบร้อย
- RCD kitchen set : “Handmade Furniture Made to Order” ชุดครัว Hand Made ของ RCD ซึ่ง Spec ค่อนข้างดี
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- Lobby & Lounge ที่ชั้น 2
- สระว่ายน้ำระบบเกลือที่ชั้น 2
- ห้องออกกำลังกาย
- สวนบนดาดฟ้า และรอบอาคาร
- Sky Terrace ที่ชั้นดาดฟ้า
- ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว อัตราส่วนลิฟท์ 103:1
- ที่จอดรถ รวมซ้อนคัน 40%
- ระบบ CCTV / Access Card / ดูผ่านมือถือ
- Shuttle Service บริการรถรับส่งลูกบ้าน
Product Walkthrough
ห้องตัวอย่างเปิดให้ชมแล้ว เดี๋ยวเราไปดูห้องและวัสดุกันครับ
โถงหน้าห้องตัวอย่างทั้งสองห้อง
ผังห้องหลักของที่โครงการจะเป็นห้อง 2 แบบคือ 1 Bedroom 27 ตรม และ 1 Bedroom 32.5 ตรม นะครับ
ผังห้อง Type A1 เป็นห้อง 1 Bedroom 27 ตรม เขาขายแบบ Fully Furnished นะครับ มีติด Digital Door Lock ให้เรียบร้อย ตัวห้องนี้จะเป็นห้องแนวลึก วางห้องน้ำไว้ทางหน้าห้องด้านซ้าย ขวามือเป็น Pantry และที่วางทีวี ตัวโซฟานั่งดูทีวีอยู่กลางห้อง ระยะดูทีวีสามเมตร ใส่ทีวีตัวใหญ่ได้ถึง 50 นิ้ว ข้อเสียของพื้นที่ตรงนี้คือ ไม่มีพื้นที่วางโต๊ะทานข้าวแบบตั้งประจำ ต้องใช้โต๊ะพับ หรือไม่ก็ต้องนังกินที่โซฟา… ตัวห้องนอน กั้นด้วบชุดประตูกระจกบานเลื่อน ห้องนอนนี้ถ้าไม่ติดทีวีปลายเตียง อยากจะแนะนำให้ขยายขนาดตู้เสื้อผ้านะครับ ตู้แค่นี้เกรงว่าสาวๆอาจจะใส่ไม่พอ…ห้องนี้ได้ระเบียงยาวตลอดแนวห้อง แต่เป็นระเบียงแนวแคบหน่อย
ป้ายหน้าห้อง A1 เป็นห้อง 1 Bedroom ขนาด 27 ตารางเมตร
ประตูหน้าห้อง เป็นประตูขนาดใหญ่กว่าปกติเล็กน้อย สี หน้าตา และรูปแบบประตู เป็นแบบนี้เลยครับ
ตัวประตูจะติด Digital Door Lock ของ SAMSUNG มาให้ทุกห้อง เป็นรุ่น ที่หน้าตาแบบนี้เลย รุ่นนี้ เราสามารถใช้ card แตะ หรือจะกดรหัสก็ได้ ในกรณีลืมหยิบ Card มา
พื้นห้อง ที่เห็นเป็นลายไม้ เค้าให้มาเป็น พื้นไวนิล นะครับ … จะแตกต่างจากพื้นลามิเนต เพราะพื้นไวนิล จะไม่กลัวน้ำ และไม่กลัวความชื้น ไม่เป็นเชื้อรา เอาน้ำราด หรือทำน้ำหก ก็ไม่ต้องกลัวพื้นหลุดล่อน พื้นบวม แต่อย่างใด … เจ้าของโครงการร้อยทั้งร้อย รู้ว่าไวนิลดีกว่าลามิเนตทั้งนั้น แต่ไม่กล้าเอามาติดในโครงการกัน เพราะกลัวผู้บริโภคไม่รู้จักและรับไม่ได้ กะอีกข้อคือราคามันแพงกว่าลามิเนตครับ พูดถึงเกรดทั่วไปนะ ไม่ใช่พวก spec พิเศษ
หน้าตาพื้นไวนิล เวลาไปดูห้องตัวอย่าง ให้ลองสัมผัสอย่างใกล้ชิดนะครับ มันจะมี Texture พวกรอยและร่องเล็กๆ เวลาเดินเหยียบให้อารมณ์คล้ายไม้ ผิวหน้า เขาจะยืดหยุ่นคล้ายยาง ไม่แข็งเหมือนลามิเนต เวลาเป็นรอย หรือโดนขีดข่วน หรือโดนของแข็งหล่นใส่ จะไม่แตกเหมือนกระเบื้อง หรือลามิเนต … ลองเอาเล็บจิ้มๆดูได้
ประตูด้านใน
ตัว Digital Door Lock ด้านใน ที่มีระบบ Lock อีกหนึ่งชั้น ป้องกันอันตรายที่ไม่คาดคิด จากคนที่รู้รหัส เปิดเข้ามาในช่วงเวลาที่เราต้องการ โลกส่วนตัว 🙂
โครงการนี้เขาให้เฟอร์นิเจอร์แบบ Fully Furnished นะครับ แต่ของตกแต่ง และของบางอย่างเขาไม่ได้ให้ เพื่อป้องกันการเข้าใจผิดกันว่าอะไรให้ อะไรไม่ให้ .. ของที่ให้จะติดโลโก้ B Campus ครับ
ตู้เก็บของ และเก็บรองเท้า Built มาให้ วางอยู่ติดประตู … ชุดเฟอร์ ที่ให้ รวมถึง Pantry จะเป็นของ RCD ซึ่งออกแบบพิเศษ ให้กับโครงการ เพราะมันต้องวางให้มันพอดีกับพื้นที่แต่ละส่วนของห้องนะครับ
ภาพรวมพื้นที่ในห้องน้ำ ซึ่งห้องน้ำห้องนี้ ได้สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ ตามแบบที่เห็น
อ่างล้างหน้า มีตู้เก็บของด้านล่างของ Mogen
โถสุขภัณฑ์ ของ Mogen
ตัวพื้นที่ห้องน้ำค่อนข้างเล็ก Shower Box เลยต้องเบียดๆกับอ่างล้างหน้าแบบนี้
พื้นที่ยืนอาบน้ำ คนตัวใหญ่ size XXL คงอึดอัดหน่อยนะ
โครงการติด ฉากกั้นอาบน้ำมาให้เรียบร้อย เป็นของ Shower King
ฝักบัว และลายกระเบื้อง .. แหม่ แต่ที่วางสบู่ เล็กไปหน่อยไหมครับ … คงต้องติดเพิ่มสินะ เดี๋ยวนี้คนเขาอุปกรณ์อาบน้ำน้อยๆที่ไหน สบู่ล้างหน้า, ครีมอาบน้ำ, แชมพู, ครีมนวด, แลคตาซอย… แถมถ้าอยู่กันสองคน ดันใช้คนละยี่ห้ออีกนะ… เยอะ
ไปดูในห้องกันต่อนะครับ ตัว Living Area จะเป็นพื้นที่ส่วนนั่งเล่น ดูทีวี กินข้าว และทำอาหาร .. ส่วนห้องนอนกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน เพื่อให้แสงธรรมชาติ ส่องเข้ามาได้ ห้องจะได้ไม่อับทึบ … ส่วนถ้าต้องการความเป็นสัดส่วนและส่วนตัว ก็ติดม่านที่ประตูกระจกนะครับ
ผนังด้านนี้ จะวาง เครื่องใช้ ไว้เป็นสัดเป็นส่วนด้านเดียว
Pantry และพื้นที่วางตู้เย็น คงทำครัวหนักไม่ได้นะครับห้องนี้ อย่างมากก็ แม่บ้านไมโครเวฟ หรือพวกอาหารที่ปรุงหรือทำง่ายเช่น Sandwish และ มาม่า … ผมถนัดอย่างหลังมากกว่า
พื้นที่ Counter Top ของ Pantry by RCD
ระยะดูทีวีของห้องนี้ประมาณ 2 เมตรนิดๆ วางทีวีขนาด 40 นิ้วได้ เต็มที่ พอดีๆ
โซฟา และโต๊ะกลาง ที่คงต้องกลายมาเป็นโต๊ะอาหารไปด้วย เพราะห้องนี้ ไม่มีที่วางโต๊ะทานข้าวครับ … ถ้าเราไม่นั่งทานที่โซฟา ก็คงต้องใช่้โต๊ะทานข้าวแบบพับได้เอานะ
โซฟาอีกมุม
ชั้นวางทีวี และชั้นวางของเหนือทีวี นี่ก็ Built มาให้แบบนี้
มองย้อนออกไป ที่ด้านหน้าห้อง
ชุดประตูกระจกบานเลื่อนกรอบอลูมิเนียมพ่นทราย Spec ดูดี กว่าระดับราคา ลองสัมผัสด้วยตัวเองดูได้นะครับ ส่วนตัวรางที่วางอยู่บนพื้น … มันผิด Spec เพราะของจริง จะไม่มีขอบชันขึ้นมา จะแบนเรียบไปกับพื้นห้องเลย เวลาเดิน ไม่ต้องกลัวสะดุด
ห้องนอน ได้เตียง แต่ไม่ได้ฟูก เพราะแต่ละคน ชอบฟูกไม่เหมือนกัน ต้องเลือกเอง
ปลายเตียง วางตู้เสื้อผ้ามาให้ ซึ่งอาจจะเล็กเกินไปสำหรับสาวๆหลายๆคน และมีวางโต๊ะอเนกประสงค์ไว้ให้ด้วย ตรงปลายเตียงนี้ จะเอาทีวีมาแขวนผนังก็ยังทำได้นะครับ
ตู้เสื้อผ้า และโต๊ะทำงานอเนกประสงค์
ระเบียงจะเป็นระเบียงแนวยาว ตลอดความยาวห้อง ตัวระเบียงกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ที่วางอยู่บนธรณีก่อ สูงพอประมาณ เดินเข้าเดินออกระวังจะสะดุด
ชุดประตูกระจกบานเลื่อน และความสูงของขอบ
พื้นที่ระเบียง ได้ยาวก็จริง แต่ค่อนข้างแคบ เวลาจะหาเครื่องซักผ้ามาวาง ต้องวัดพื้นที่ดีๆ ข้อดีของระเบียงยาวแบบนี้ คือตากผ้าชิ้นใหญ่อย่าง ผ้านวม หรือผ้าปูที่นอนได้นะครับ
คอมแอร์ ใช้แขวนผนังคู่กันแบบนี้ และเป่าลมร้อนออกด้านนอกอาคาร มีระแนงบังให้ดูเรียบร้อยขึ้นเมื่อมองจากภายนอก
ระบบ Sound System และหน้าตาสวิทช์ไฟที่ ติดมาให้ ตัวโครงการจะติด USB Port มาให้ด้วย แต่วันที่ผมมาดู ดันลืมมองหา เลยไม่ได้ถ่ายรูปมาให้ดู
หน้าตาตัวควบคุมระบบ Sound System ที่ให้เราเปิดเพลงในห้อง ได้จาก source ทั้ง USB, SD Card และ Bluetooth เวลาเรามีเพลงอยู่ใน Ipod, Iphone ก็สั่ง Sync กันกับ ระบบ แล้วเปิดเพลงจาก IPhone ได้เลย
ตัวโครงการจะติดลำโพง ไว้ให้เรียบร้อยแล้ว เป็นลำโพงฝังฝ้า ติดมาให้ 2 ตัว ในห้องนั่งเล่น และในห้องนอน
แอร์ แถมมาให้ 2 ตัว เป็น Daikin นะครับ
ผังห้อง Type B1 เป็นห้อง 1 Bedroom 32.5 ตรม ขายแบบ Fully Furnished เช่นกัน ติด Digital Door Lock ให้เรียบร้อย เปิดประตูมาจะเป็นส่วน Living Area ที่สมบูรณ์กว่าห้อง 27 ตรมมาก มีชุดโซฟาดูทีวี มีโต๊ะทานข้าว มีโต๊ะทำงานอเนกประสงค์… ตัวห้องนอน กั้นด้วยชุดประตูกระจกบานเลื่อน ภายในห้องนอนจะแคบยาว ถ้าจะติดทีวีต้องแขวนผนังเท่านั้น…ห้องนี้ได้ครัวปิดติดระเบียง ที่มีพื้นที่พอสมควร
ป้ายหน้าห้อง B1 ห้อง 1 Bedroom 32.5 ตารางเมตร
เปิดประตูเข้ามาเป็นพื้น ไวนิล แบบเดียวกันทั้งโครงการ
ห้องนี้จะใหญ่กว่าห้องแรก การจัดวางพื้นที่ในห้อง เลยทำออกมาได้ โล่งสบายกว่านะครับ
ด้านในห้อง
ระบบ Sound System ที่ติดมาให้เช่นเดียวกัน
ระยะดูทีวี ประมาณ 2 เมตรนิดๆ วางทีวี 40 นิ้วก็พอนะครับ
ชุดโซฟานั่งดูทีวี
ชุดชั้นวางทีวี และตู้ Built in ของ RCD ที่โครงการติดตั้งมาให้ สังเกตป้ายโลโก้โครงการนะครับ สำหรับแยกแยะว่าอะไรให้ อะไรไม่ให้ พวกอุปกรณ์ตกแต่งนี่ ไม่ให้แน่ๆอยู่แล้ว
ตู้เก็บของและเก็บรองเท้า Built มาให้สูงชิดฝ้าเลย
เปิดให้ดู ภายในตู้
ห้องนอน ยังกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนนะครับ
โต๊ะทานข้าว ตัวเล็กน่ารัก วางอยู่ระหว่างโซฟา กับประตูกระจกกั้นห้องนอน ออกจะเล็กไปหน่อยนะครับ วางถ้วยมาม่าได้สองชามเอง
ประตูกระจกบานเลื่อนกั้นห้องนอน
ชุดบานเลื่อน อลูมิเนียมพ่นทราย Spec เดียวกับห้องแรก
เค้า Seal มาค่อนข้างดีนะครับ ถ่ายให้ดู ความเรียบร้อยของกรอบวงกบอลูมิเนียมที่ติดขนๆนี่ไว้ด้วย
ห้องนอน วางเตียงมาไว้ให้เรียบร้อย ตรงหัวเตียงมันเป็นเสายื่นออกมาเล็กน้อย ก็เลยต้องวางเตียงตามแนวนี้ จะลงตัวพอดี
ปลายเตียงเหลือระยะเดินผ่าน แค่นี้ ถ้าจะแขวนทีวีที่ผนัง ก็เล็งตำแหน่งกันดีๆนะครับ เวลาเดินผ่านจะได้สะดวกหน่อย
ตู้เสื้อผ้าวางไว้ด้านหัวเตียง
หัวเตียงข้างที่ติดกับหน้าต่าง มีพื้นที่พอวางโต๊ะอเนกประสงค์ตัวเล็กๆได้ เอาไว้วางอุปกรณ์เครื่องมือประจำกาย เช่น มือถือ กระเป๋าตังค์ กุญแจ
หน้าต่างห้องนอน ห้องนี้ จะเป็นแบบพิเศษ คือมีส่วน Bay window (กระจกเข้ามุม) เวลานอนอยู่บนเตียง แล้วมองออกไปด้านนอก จะไม้มุมมองที่กว้างขึ้น… แต่การติดม่าน จะต้องติดม่านพับ หรือมู่ลี่ลักษณะแบบนี้นะครับถึงจะลงตัว
พื้นที่หน้า ห้องน้ำและห้องครัว พอจะวางโต๊ะอเนกประสงค์ ได้ตัวนึง
ตำแหน่งวางโต๊ะ ออกแบบมาให้วางได้พอดีเป๊ะ ไม่ขวางประตูห้องน้ำ
พื้นห้องน้ำเป็นกระเบื้องกันลื่น และ ลดระดับเล็กน้อย
ภาพรวมพื้นที่ห้องน้ำ ส่วน Spec วัสดุ จะเหมือนกับห้องแรก
พื้นที่ยืนอาบน้ำ และโครงการติด ฉากกั้นอาบน้ำมาให้เรียบร้อย
พื้นที่ห้องครัว … ห้องนี้ได้เป็นครัวปิด แต่ระยะยืนค่อนข้างจะแคบนะ ยืนทำอาหารหรือล้างจานคนเดียวเหงาๆ ก็พอได้อยู่
รูปแบบของ Pantry ห้องนี้จะออกแบบมาแตกต่างจากห้องแรก โดย เอาไมโครเวฟไปวางด้านบน ยังดีที่ไม่สูงมาก ไม่งั้นสาวๆ สูงไม่เกินเมตรครึ่ง นี่ หยิบลำบากแน่
ครัวนี้จะเชื่อมกับระเบียง สามารถเปิดให้ลมพัดผ่านระบายอากาศได้แบบนี้ …
Counter Top พื้นที่ พอได้ แต่ ทำอาหารจริงจังลำบาก
ตู้เก็บของด้านบน ปริมาตรการเก็บ พอจะกักตุนอาหารได้หลายมื้ออยู่
ตู้เย็นวางติดประตูทางออกระเบียง โครงการออกแบบมาให้วางได้พอดีเป๊ะ แต่จะดูอึดอัดคับแคบหน่อยนะ
เปิดประตูตู้เย็นให้ดู เปิดได้นะ ไม่ติดขัดอะไร แต่การหยิบของอาจจะไม่สะดวกเท่าไร
ประตูเดินออกไประเบียงค่อนข้างเล็กนะ ส่วนพื้น ห้องครัวพื้นเป็นกระเบื้อง ต่อให้น้าสาดเข้ามาจากระเบียงก็ไม่ต้องกังวล
ระเบียง แขวนคอมแอร์ คู่กันแบบนี้
พื้นที่ระเบียงห้องนี้
ตัวหน้าต่างเข้ามุม ที่ห้องนอน เปิดรับวิวและแสงธรรมชาติได้มากขึ้น
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 25/07/2012
- Studio เนื้อที่ 23-26 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 1.35 ล้านบาท หรือ 58,700 บาทต่อตารางเมตร
- 1 Bedroom เนื้อที่ 27-28.2 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 1.65 ล้านบาท หรือ 61,000 บาทต่อตารางเมตร
- 1 Bedroom เนื้อที่ 32.5-34.5 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 1.99 ล้านบาท หรือ 61,230 บาทต่อตารางเมตร
- 1 Bedroom เนื้อที่ 39.2-47.2 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 1.99 ล้านบาท หรือ 50,760 บาทต่อตารางเมตร (เป็นห้องระเบียงใหญ่ Type พิเศษ)
- 2 Bedroom เนื้อที่ 40.6-47 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 2.35 ล้านบาท หรือ 57,880 บาทต่อตารางเมตร
- 3 Bedroom เนื้อที่ 68 – 69 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 4.35 ล้านบาท หรือ 63,970 บาทต่อตารางเมตร
- Fully Furnished
- เพดานสูง 2.4 เมตร
- จอง 10,000 บาท
- ทำสัญญา 40,000 บาท
- ดาวน์ประมาณ 10% ผ่อนดาวน์ 18 งวด
- ค่ากองทุน 500 บาทต่อตารางเมตร
- ค่าส่วนกลาง 40 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน
เจาะลึกรวบยอด
B Campus ประชาชื่น เป็นอีกหนึ่งโครงการที่จัดเต็มมาก เมื่อเทียบกับระดับราคาที่ขาย ซึ่งจุดสำคัญคงอยู่ที่ตัวทำเลโครงการ เพราะย่านประชาชื่น เป็นย่านที่อยู่อาศัยดั้งเดิม ไม่ใช่ย่านที่ทำเล Hot อย่าง โครงการเกาะแนวรถไฟฟ้านะครับ … ตัวโครงการอยู่ติดถนนใหญ่ประชาชื่น ใกล้แยกพงษ์เพชร ไม่ได้เข้าซอย จึงค่อนข้างจะปลอดภัยกว่าโครงการที่เข้าซอยลึก หรือมีจุดเปลี่ยว โครงการ อิงอยู่กับ The Mall – Lotus – Home Pro และโรงพยาบาล นนทเวช แบบพอเดินมาได้ ที่ระยะ 450 เมตร ความอุดมสมบูรณ์จัดอยู่ในระดับอุดมสมบูรณ์มาก … อย่างไรก็ดีสภาพแวดล้อมรอบๆ ตัวโครงการ มีเรื่องที่ต้องพิจารณา อยู่สองสามประเด็นคือ … คลองระบายน้ำหน้าโครงการ ที่ถ้าน้ำน้อย หรือน้ำไม่ค่อยไหลนี่ มีกลื่นแน่นอน, สายไฟแรงสูงที่พาดผ่านด้านหลังโครงการ, และปั๊มแก๊ส ที่อยู่ใกล้กับด้านหน้าโครงการ… ผมจึงแนะนำว่า ถ้าไปดูห้องตัวอย่าง แล้วอย่าลืม เดินดูทำเล และสภาพแวดล้อมด้วยนะครับ ถ้าไปคนเดียวก็ให้เจ้าหน้าที่เขาพาไปเดินดูล่ะ อย่าไปเดินคนเดียว เขากำลังมีงานก่อสร้างอยู่ครับ
การเดินทางโดยใช้รถ สะดวกมาก เพราะไปมาได้หลายทาง แถม ทางเลี่ยงทางลัดด้านหลังยังไปทะลุทะลวง เข้าออกได้ หลายจุดอีกต่างหาก มีทางด่วนอยู่ใกล้ๆ (ด่านงามวงศ์วาน) และยังเลือกขึ้นลงเพื่อหลบรถติดได้หลายจุด (ด่านประชาชื่น, ด่านรัชวิภา, ด่านแจ้งวัฒนะ) ตัวโครงการจริงอยู่ห่างจากแยกพงษ์เพชร ประมาณ 200 เมตร ดังนั้นสามารถเลี้ยวขวาออกจากโครงการ มาติดไฟแดงแยกพงษ์เพชรได้ โดยไม่กระชั้นจนเกินไป… แต่ข้อเสียของการใช้รถส่วนตัวสำหรับโครงการนี้ก็มีเหมือนกันนะครับ คือย่านนี้ รถจะติดหน้า The Mall เป็นบางวันและเวลา ต้องรู้จังหวะ และเลี่ยงเป็น ไม่งั้นโดนติดหนึบๆเหมือนกัน และอีกข้อคือจำนวนที่จอดรถที่ให้มา 40% ลูกบ้านและนิติบุคคล ต้องบริหารจัดการกันให้ดีเลยล่ะ
การเดินทางโดยไม่ใช้รถ กลับเป็นจุดแข็งของโครงการนี้ … จริงอยู่ โครงการไม่ได้อยู่ติดรถไฟฟ้า … แต่รถไฟฟ้าไม่ใช่คำตอบเสมอไปนะครับ สำหรับคนไม่ใช้รถใน ชุมชนย่าน ประชาชื่น ชินเขต งามวงศ์วาน และซอยสามัคคี เค้าใช้เครือข่ายรถตู้หน้า The Mall งามวงศ์วานกัน เป็น คิวรถตู้ที่ใหญ่ที่สุดของย่านนี้ ไปมันแทบจะทุกจุดสำคัญในกรุงเทพ ตั้งแต่อนุเสาวรีย์ บางกะปิ ยันบางแค ก็ยังไป … จากโครงการ เดินออกด้านหลังไปตามซอยด้านหลังโครงการนี่แค่ 300 เมตรก็ถึงคิวรถตู้แล้วครับ… สำหรับคนไม่ใช้รถตู้ ก็เลือกได้ครบ ทั้ง พี่วิน ที่อยู่ด้านหน้าเยื้องๆกับโครงการ , ป้ายรถเมล์ที่เดียวกะพี่วินนั่นแหละ, รถสองแถว ที่วิ่งวนตลอดเวลา, และ Taxi ที่เดินออกมาด้านหน้าก็เรียกได้แล้ว แถมเรียกได้ 24 ชั่วโมงแบบง่ายๆด้วย เพราะ อานิสงค์ของปั๊มแก๊สด้านหน้าโครงการนี่แหละ … ทำให้พี่ๆ Taxi ทั้งหลายที่ต้องมาใช้บริการผ่านหน้าโครงการตลอดเวลา… คนไม่ใช้รถ สามารถเดินไป The Mall, Lotus, Home Pro ได้ไม่ลำบากนะครับ
การออกแบบโครงการ ผมขอไม่พูดถึงความสวยความงามเช่นเคยนะครับ เพราะคนเราชอบไม่เหมือนกัน โครงการทำออกมาเป็น Low Rise 8 ชั้น โดยเน้นความเป็น “CAMPUS” ซึ่งคือการ ให้อารมณ์ความรู้สึก อยู่สบายๆ และใช้งานได้ 24 ชั่วโมง เราเลยเห็นการให้พื้นที่ส่วนกลางค่อนข้างมาก และออกแบบให้ กระจายๆการใช้งานกันไป ทำให้ใช้งานพร้อมกันได้หลายๆคน ตัวรูปแบบห้อง ออกแบบมาค่อนข้างลงตัวดี แต่จะมีข้อติติงก็คือ ห้องเป็นห้องแนวลึก ซึ่งจะจัดให้ลงตัว สวยและอยู่สบายได้ยากกว่าห้องแนวหน้ากว้าง…โครงการเลยแก้ปัญหาให้ด้วยการจัด Full Fur แบบออกแบบพิเศษมาให้เรียบร้อย ซึ่งคนชอบก็ดีไป แต่คนไม่ชอบ ก็ต้อง แก้ไขรื้อเปลี่ยนใหม่ ลำบากเหมือนกัน
วัสดุอุปกรณ์ ของที่ให้มา เรียกว่า จัดเต็มมากเมื่อเทียบกับระดับราคา 50,000 – 60,000 บาทต่อตารางเมตรนะครับ ซึ่งเมื่อพิจารณา ถึงของที่ให้ ตั้งแต่ Digital Door Lock, พื้นไวนิล ไม่ใช่ลามิเนต, Full Fur RCD พร้อมแอร์สองตัวของ Daikin, ชุดสุขภัณ์ของ MOGEN, ฉากกั้นอาบน้ำ, งานกระจก+อลูมิเนียม และวัสดุ finishing ต่างๆ ไม่คุ้มก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้วครับ
Facility สิ่งอำนวยความสะดวกที่ให้มา อยากให้พิจารณาเรื่องความปลอดภัยก่อนความสะดวกอื่นๆ … โครงการติด CCTV รอบโครงการและแต่ละชั้น โดยเชื่อมระบบ เป็น Online ให้ลูกบ้านสามารถ ใช้มือถือดู CCTV จุดสำคัญ เช่น โถงหน้าลิฟท์, แต่ละชั้น และหน้าทางเข้าโครงการ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง แปลว่าจะมีลูกบ้าน ช่วยๆกันดูแลความเรียบร้อยของโครงการ และแต่ละคนสามารถดูจุดต่างๆเพื่อความปลอดภัยของตัวเองได้อีกด้วย… เช่น ขณะนี้ กิ๊กคนสุดท้องกะลังนั่งหน้าบูดอยู่ที่ Lobby ดังนั้น… อย่าเพิ่งกลับไปที่ห้องจะดีกว่า… ระบบนี้ ดีต่อการพักอาศัยร่วมกันของคนหมู่มากนะครับ แม้ต้องแลกมาด้วยการเสีย Privacy บ้าง แต่ก็น่าจะคุ้มค่าและน่าสนับสนุนให้เป็นมาตรฐานของทุกๆโครงการต่อไป
สิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ เช่น ส่วน Lobby & Lounge ขนาดใหญ่ และมี vending machine ขายขนมกะเครื่องดื่ม ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง Sky Lounge ที่ชั้นดาดฟ้า ก็นั่งเล่นรับวิวเปิดโล่งได้, สระระบบเกลือ และ Fitness (แม้จะเล็กไปหน่อย) และมี Shuttle Service รถรับส่งไว้คอยให้บริการด้วย
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับราคา 60,000 บาทต่อตารางเมตร, 13/07/2013
- ทำเล 8.0/10 – ทำเลสะดวกและอุดมสมบูรณ์ เหมาะกับคนย่านนี้ แต่สถาพแวดล้อมรายรอบ ยังไม่สมบูรณ์
- เดินทางด้วยรถ 7.5/10 – ทางเลี่ยงทางลัดทางด่วน สะดวกมาก แต่ที่จอดรถน้อยไปหน่อย
- ไม่ใช้รถ 8.5/10 – สะดวก ปลอดภัย และเหมาะกับคนไม่ใช้รถมาก แต่ไม่ใกล้รถไฟฟ้า
- วัสดุ 9.0/10 – กล้าให้ จัดมาเยอะ และคุ้มเกินราคา
- แบบ 8.0/10 – แบบห้องยังมีไม่ลงตัวบ้าง แต่รูปแบบโดยรวมของโครงการ สามารถใช้งานส่วนกลางได้พร้อมกันหลายคนจริง
- สาธารณูปโภค 8.0/10 – ให้มาเยอะ น่าใช้ สำหรับโครงการ Low Rise ถือว่าดีมากพอสมควร แต่เมื่อเทียบกับโครงการใหญ่ๆ จะสามารถจัด Facility ได้เยอะกว่านี้
- ECONOMY CLASS
- 8.15 / 10.00
BOTTOM LINE
B Campus ประชาชื่น เหมาะกับคนที่มองหาบ้านในย่านนี้ ชอบโครงการติดถนนใหญ่ คำนึงถึงปลอดภัยและความอุดมสมบูรณ์รายล้อมโครงการ ใกล้ห้าง เดินทางสะดวก เป็นคนที่ เลือกของมองที่คุณภาพ และความคุ้มค่า ที่เราใช้จริง ไม่ยึดติดกับของ Brand Name มีงบประมาณ 1.4 – 4.4 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนระดับ 9,000 – 30,000 บาท
ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้ผมหน่อยนะครับ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปครับ