รีวิวโครงการ

รีวิวตึกเสร็จ Attitude BU คอนโด Low Rise บนถนนพหลโยธิน-รังสิต ตรงข้าม ม.กรุงเทพ จาก The Urban Property [รีวิวฉบับที่ 2089]

24 มิถุนายน 2020

อ่านรีวิวล่าสุด

รีวิวฉบับที่ 1596… Attitude BU คือคอนโด Low Rise ตัวใหม่จาก The Urban Property ที่อยู่ในทำเลแบบเน้นใกล้สถานศึกษา อยู่ตรงข้าม ม.กรุงเทพ วิทยาเขตรังสิต ทำให้ตัวโครงการมีการออกแบบเพื่อตอบสนองต่อการอยู่อาศัยของเหล่าวัยรุ่น Gen ใหม่ โครงการนี้เลยให้ Facilities มาแบบจัดเต็ม เน้นพื้นที่ส่วนกลางเอาไว้นั่งทำงาน ประชุม พูดคุย และทำกิจกรรมกับเพื่อนๆ ส่วนทีเด็ดคือห้องพักอาศัยที่ออกแบบมาไม่เหมือนใครและยังไม่มีที่ไหนทำแบบนี้เลยครับ

Fact @ 1 June 2018

  • Attitude BU (แอททิจูด บียู)
  • The Urban Property
  • ECONOMY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ใน : อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี
  • คอนโด Low Rise 8 ชั้น 3 อาคาร 544 ยูนิต และร้านค้า 1 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 28 ยูนิตที่อาคาร C
  • ที่จอดรถประมาณ 131 คันคิดเป็น 24 % ไม่รวมจอดซ้อนคัน
  • ที่ดินประมาณ 3-2-0 ไร่
  • Studio Type A ขนาด 23.5 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.68 ล้านบาท
  • 1 Bedroom Type B ขนาด 27 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.74 ล้านบาท
  • 1 Bedroom Type C ขนาด 30 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.90 ล้านบาท
  • 1 Bedroom Plus Type E ขนาด 34.5 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.10 ล้านบาท
  • Creative Type E ขนาด 34.5 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.50 ล้านบาท
  • เริ่มก่อสร้าง : ปี 2561
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ : ปี 2563
  • ฝ้าเพดานสูง 2.4 เมตร
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ 70,000 บาท/ตร.ม.
  • อัพเดทราคาปัจจุบัน 18/05/2019

  • Studio Type A ขนาด 23.5 ตร.ม. ราคา 1.82 – 1.97 ล้านบาท หรือเฉลี่ย 77,000 – 83,000 บาท/ตร.ม.
  • 1 Bedroom Type B ขนาด 27 ตร.ม. ราคา 2.01 – 2.17 ล้านบาท หรือเฉลี่ย 74,000 – 80,000 บาท/ตร.ม.
  • 1 Bedroom Type C ขนาด 30 ตร.ม. ราคา 2.29 – 2.46 ล้านบาท หรือเฉลี่ย 74,000 – 80,000 บาท/ตร.ม.
  • 1 Bedroom Plus Type E ขนาด 34.5 ตร.ม. ราคา 2.66 – 2.83 ล้านบาท หรือเฉลี่ย 78,000 – 83,000 บาท/ตร.ม.

  • EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : ผ่านแล้ว
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • โทร  :  085-614-1944
  • เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ

    สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างครับ


    เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

    จากแผนที่จองทางโครงการจะเห็นว่าตัวโครงการอยู่ติดถนนใหญ่เลย และอยู่ตรงข้ามเยื้องๆกับม.กรุงเทพครับ

    โครงการ Attitude BU ตั้งอยู่บนถนนพหลโยธิน-รังสิต ฝั่งตรงข้ามเยื้องๆ กับ ม.กรุงเทพ วิทยาเขตรังสิต ถือเป็นทำเลที่สะดวกเอามากๆสำหรับนักศึกษาหรือบุคลากรในม.กรุงเทพ เพราะแค่เดินข้ามสะพานลอยเดินมาอีกหน่อยก็ถึงโครงการแล้ว การเดินทางโดยรถยนต์ สามารถเข้าถึงได้จากถนนพหลโยธิน-รังสิต ถ้ามาจากในเมืองจะต้องตรงไปขึ้นสะพานกลับรถที่ถนนเชียงราก-คลองหลวงเพื่อมาเข้าโครงการซึ่งอาจจะไกลหน่อย แต่ก็ใช้เวลาไม่นานเพราะโซนนี้เป็นถนนใหญ่ ถนนเส้นนี้สามารถใช้วิ่งตรงเข้าเมืองโดยเชื่อมต่อกับถนนวิภาวดีรังสิตผ่านดอนเมืองได้  ในทางกลับกันหากใช้ถนนพหลโยธิน-รังสิตขาออกจะเป็นทางไปรังสิตฝั่งคลองหลวงที่นอกจากจะมี ม.กรุงเทพแล้วยังมี ม.ธรรมศาสตร์ อีกด้วย ถ้าตรงต่อไปเรื่อยๆจะไปอยุธยาได้

    ถ้าวิ่งไปบนถนนรังสิต-นครนายก โซนคลองต่างๆ จะมีหมู่บ้าน ร้านค้าและร้านอาหารอยู่ค่อนข้างเยอะตรงต่อไปจะใช้ไปนครนายกได้ ส่วนถ้าต้องการไปเมืองทอง แจ้งวัฒนะ ปากเกร็ดก็ใช้เส้นทางไปออกถนนติวานนท์ได้เหมือนกัน รวมๆแล้วถือว่าการเดินทางด้วยรถยนต์ค่อนข้างสะดวกและเลือกใช้งานได้หลากหลาย สำหรับคนที่ใช้ชีวิตอยู่ในย่านนี้ จะเข้าเมืองหรือออกต่างจังหวัดก็ง่ายดี สำหรับทางด่วนก็สามารถไปขึ้นทางด่วนได้ที่ทางด่วนอุดรรัถยาครับ

    การเดินทางโดยไม่ใช้รถ เนื่องจากโครงการอยู่ติดถนนใหญ่จึงเรียกรถได้ง่าย มีวินมอเตอร์ไซค์และป้ายรถเมล์อยู่เลยไปประมาณ 120 เมตร ซึ่งมีระยะเดินอยู่ประมาณนึง สำหรับการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ จะมีรถตู้วิ่งรับส่งไปยังที่ต่างๆมีชุมทางอยู่ที่ Future Park รังสิต มีรถให้เลือกหลากหลายเส้นทางมาก หรือจะเรียกแท็กซี่ก็ได้ โดยปัจจุบันกำลังมีการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดง สถานีที่ใกล้ที่สุดคือ สถานี ม.กรุงเทพ นะครับ

    ความอุดมสมบูรณ์ในระยะใกล้ๆเนื่องจากเป็นโครงการอยู่ใกล้มหาวิทยาลัย จึงมีร้านค้า ร้านอาหารอยู่ค่อนข้างเยอะ หาของกินได้ทั้งกลางวันกลางคืน ที่ใกล้ที่สุดจะมีเต็นท์ขายอาหารที่มีชุดที่นั่งให้เราสามารถเดินลงไปหาอะไรทานได้ มี 7-11 และ มี Imagine Village ศูนย์การค้าที่อยู่ภายในมหาวิทยาลัยม.กรุงเทพ และแหล่งของกินที่เยอะสุด คือ ซอยรังสิตภิรมณ์ ข้างๆม.กรุงเทพ ถัดไปบริเวณรอบๆ ในโซนรังสิตจะมีอยู่สองจุดที่คึกคักหน่อยคือ เซียร์รังสิต ที่อยู่ตรงสนามกอล์ฟธูปะเตมีย์  ส่วนอีกจุดหนึ่งคือที่ถนนพหลโยธินเช่นกันแต่เลยมาหน่อยที่ Future Park รังสิตที่ นอกจากศูนย์การค้าใหญ่แล้ว ตามเส้นทางถนนรังสิต-นครนายกยังมีตลาดน้ำรังสิต, ตลาดที่เป็นตึกแถวอยู่ข้างทาง และห้างเล็กๆอย่าง Tesco Lotus และ BigC รวมถึงร้านขายของชำที่มีอยู่ประปราย

    การเดินทางวันนี้เราวิ่งมาจากถนนวิภาวดีรังสิต ตรงมาเรื่อยๆเข้าสู่ถนนพหลโยธิน-รังสิต มาจนถึงม.กรุงเทพ โครงการจะอยู่ฝั่งตรงข้าม เราต้องไปกลับรถบริเวณสะพานกลับรถที่ถนนเชียงราก-คลองหลวง แล้วตรงมาอีกหน่อยก็จะถึงโครงการ

    เราใช้ถนนวิภาวดีรังสิต วิ่งตรงมาเรื่อยๆจนเข้าถนนพหลโยธิน ทางฝั่งขวาจะเป็นเซียร์รังสิต ส่วนทางฝั่งซ้ายเป็น Big C

    ตรงมาอีกหน่อยจะเจอกับตลาดสี่มุมเมือง ที่มีขายทั้งผักและผลไม้

    ถัดมาทางฝั่งซ้ายจะเจอกับ  Makro เราจะตรงต่อไปครับ

    ถัดมาทางฝั่งขวาจะเป็น Major รังสิต และห้างคู่ใจของคนย่านนี้อย่าง ฟิวเจอร์ พาร์ค รังสิต

    ตรงมาอีกหน่อยจะเจอกับทางแยกซึ่งถ้าเราเบี่ยงไปทางซ้ายจะเป็นทางไปรังสิต-ปทุมธานี ถ้าตรงไปอีกหน่อยแล้วเลี้ยวขึ้นทางโค้งยกระดับจะวนไปเข้ารังสิต-นครนายก โซนคลองต่างๆ ส่วนโครงการของเราจะต้องตรงไป

    ถัดมาไม่ไกลกันจะมีห้างสรรพสินค้า Tesco Lotus

    โชว์รูมรถ ปั๊มน้ำมัน โรงงานทั้งขนาดใหญ่-ขนาดย่อม และร้านขายวัสดุก่อสร้าง เช่น บุญถาวร มีให้เห็นอยู่ตลอดทาง

    ตรงมาอีกนิดจะถึงม.กรุงเทพ วิทยาเขตรังสิต ซึ่งโครงการของเราจะอยู่ฝั่งตรงข้าม เดินข้ามสะพานลอยจากม.มาก็ถึงเลย

    จากนี้เราจะต้องไปหาที่กลับรถ พอเจอป้ายนี้ให้ขับตรงลอดสะพานยกระดับไป

    ลอดใต้สะพานมาซักระยะจะมีทางเบี่ยงซ้ายให้ขึ้นสะพานไปกลับรถ

    ตามป้ายมุ่งหน้าม.กรุงเทพไป

    พอลงมาจากทางโค้งยกระดับแล้ว ให้เราเลี้ยวซ้าย

    กลับเข้ามาสู่ถนนพหลโยธิน-รังสิต ขับตรงมาเรื่อยๆจะผ่าน Maga Home

    พอใกล้ๆกับโครงการจะเริ่มมี7-11 ปั๊มน้ำมัน ร้านค้า ร้านอาหารต่างๆ

    โดยโครงการจะอยู่ฝั่งตรงข้ามเยื้องๆกับ ม.กรุงเทพ

    ซึ่งโครงการที่อยู่ใกล้รั้วมหาวิทยาลัยจะมีข้อดีคือความอุดมสมบูรณ์ เพราะนอกจากภายนอกม.แล้ว ภายในม.กรุงเทพยังมี  Community Mall ที่ชื่อ Imagine Village ภายในมีร้านค้า ร้านอาหารมากมาย

    ตรงต่อมาจะเจอกับ 7-11 อีกจุดหนึ่ง บริเวณนี้จะมีเต็นท์ขายอาหารอยู่ด้วย บรรยากาศค่อนข้างคึกคัก ถัดจากสะพานลอยไปประมาณ 120 เมตรก็ถึงโครงการแล้วครับ

    มีป้ายรถเมล์อยู่บริเวณทางขึ้นสะพานลอย และ มีร้านค้า ร้านอาหารเล็กๆแบบนี้เยอะอยู่

    มีเต็นท์ขายอาหาร ภายในมีร้านอาหารตามสั่ง ร้านนม มีร้านทำผม ร้านถ่ายเอกสาร ฯลฯ มีชุดโต๊ะเก้าอี้มาให้ด้วย สามารถเดินลงมาทานข้าวได้สะดวก

    โครงการ Attitude Condo เป็นคอนโด Low Rise ตั้งอยู่บนที่ดินประมาณ 3-2-0 ไร่ ที่เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาวๆ สภาพแวดล้อมรอบๆส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัยแนวราบและอพาร์ทเม้นท์ ฝั่งตรงข้ามเป็นม.กรุงเทพ วิทยาเขตรังสิย โดยมีแต่ละด้านติดกับ

    • ทิศเหนือ – ที่ดินบุคคลอื่น
    • ทิศตะวันออก – ติดกับอพาร์ทเม้นท์
    • ทิศใต้ – ติดกับซอยคลองหลวง 52 และอพาร์ทเม้นท์
    • ทิศตะวันตก – ติดกับถนนพหลโยธิน-รังสิต ฝั่งตรงข้ามเป็นม.กรุงเทพ

    พอเลยจากป้ายระเมล์มานิดเดียวก็จะเจอสำนักงานขายแล้วครับ จุดเด่นของสำนำงานขายก็ง่ายมากเลยครับ เป็นหมีสีเหลืองยืนอยู่ด้านหน้าเลย

    พอหันหลังกลับไปมองจะก็เห็น ม.กรุงเทพอยู่ฝั่งตรงข้ามเยื้องไปหน่อย จากตรงนี้มีระยะเดินไปที่สะพานลอยประมาณ 120 เมตรพอดีๆ ช่วงกลางวันอย่าลืมพกร่มไปด้วยนะครับ แดดบ้านเรามันแรงอย่างไม่เกรงใจใครเลย

    พื้นที่โครงการถือว่าอยู่ติดซอยพอดีนะ และที่ดินของโครงการจะอยู่ลึกเข้าไปด้านในเลย ภายในซอยก็จะเป็นอพาร์ทเมนท์ซะเป็นส่วนใหญ่

    พื้นที่โครงการจะอยู่ติดซอยเข้าไปด้านในยาวๆแบบนี้นะครับ

     

    สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

    •  มหาวิทยาลัย

    •     มหาวิทยาลัยกรุงเทพ 0.3 กม.
    •     มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 1.2 กม.
    •     มหาวิทยาลัยรังสิต 9.5 กม.

  •    สนามบิน
    •     สนามบินดอนเมือง  13 กม.
    •     สนามบินสุวรรณภูมิ 49 กม.

  •    โรงพยาบาล
    •     โรงพยาบาลเปาโล รังสิต 6.1 กม.
    •     โรงพยาบาลบางกะกอก-รังสิต 10 กม.

  •    ศูนย์สินค้า
    •     Future Park 5.5 กม.
    •     Zpell   5.5 กม.
    •     ตลาดไท 6 กม.
    •     เซียร์รังสิต 8.8 กม.
    •     ตลาดนัดจตุจัก 29 กม.

  •    สถานีรถไฟฟ้า
    •     SRT Red line 2 กม. (สถานีอนาคต)

  •    โรงงานอุตสาหกรรม
    •     นิคมอุตสาหกรรมนวนคร 11 กม.

     


    เจาะลึกตัวโครงการ

    เข้ามาดูภายในสำนักงานขายจะเห็นว่าตัวสำนักงานขายมีการตกแต่งให้เข้ากับ Concept ของโครงการ ที่ต้องเน้นกลุ่มลูกค้าวัยเรียน วัยมันส์ นั่นเอง สีที่ใช้เลยเป็นสีสันที่ดูสดใสมีพลังงาน แนวคิดหลักในการออกแบบจะมีอยู่ 4 อย่างคือ Creativity มีพื้นที่ในการสร้างความคิดสร้างสรรค์ / Space & Time มีพื้นที่ให้สนุกได้ทุกเวลา / Explore ค้นหาสิ่งที่ตัวเองชอบ / Individual ไม่กลัวที่จะแตกต่าง ไหนๆ จะทำโครงการให้เด็กนักศึกษาอยู่แล้วก็ทางโครงการก็มีแนวคิดที่จะเล่นให้เต็มที่เลยครับ

    อย่างพื้นที่ในสำนักงานขายมีการทำโซนนั่งเล่นเป็นตัวอย่างมาให้ดูว่าเน้นความ สนุกสนาน และยังมีพื้นที่ให้นั่งทำงานได้อีกเพียบ เพื่อให้คนอยู่ที่นี่ Work & Play กันอย่างเต็มที่

    สำหรับส่วนที่เป็น Creative Lobby นั่นจะมีการทำพื้นที่นั่งพักผ่อนแบบเล่นระดับเอาไว้ให้ ที่เห็นนี่เป็นเพียงตัวอย่างส่วนหนึ่งที่ทางโครงการจำลองมาให้ดูนะครับ ในรายละเอียดของ ส่วนกลางๆอื่นๆจะค่อยๆอธิบายไปนะครับ

    ส่วนพื้นที่ของจริงจะเป็นแบบในภาพจำลองคือจะใหญ่กว่าในสำนักงานขาย

    เดี๋ยวเราไปดู Model กันต่อนะครับ ตัวโมเดลของที่นี่จะมีให้ดูทั้ง 3 อาคารเลยนะครับ

    ทั้ง 3 อาคารจะแบ่งเป็น Building A : Active ที่อยู่หน้าสุดของโครงการมี Co-Working Space และ Cafe อาคาร B : Creative  เป็นอาคารที่อยู่ตรงกลางมี Facility เยอะอยู่ที่ชั้น 2 และอาคาร C : Reflective เป็นอาคารอยู่ใกล้สระว่ายน้ำยาว 50 เมตร กว้าง 5 เมตร มี Sky Lounge ที่ชั้น 7

    บริเวณทางเข้าโครงการจะมี Drop-off เอาไว้มาส่งลูกบ้านที่ตรงจุดนี้ สำหรับการเดินรถภายในอาคารจะมีทางเดินรถอยู่ใต้ตึกทะลุไปจนถึงด้านใน สำหรับ Facilities ของโครงการจะไม่ได้เน้นให้อยู่ที่จุดๆเดียว แต่จะเน้นไปที่กระจายให้อยู่ในทุกอาคาร เพื่อให้ลูกบ้านแต่ละอาคารมีส่วนกลางใกล้ๆ ให้ใช้

    สำหรับที่อาคาร A จะมี Lobby แบบ Double Space ดีไซน์แบบเปิดโล่งและมีคาเฟ่ดีไซน์เก๋ๆ เอาไว้ให้นั่งชิวๆ คุยเล่นกันเพื่อน หรือนั่งทำงานก็ได้

    บรรยากาศภายในจะได้ประมาณนี้ครับ มีที่นั่งรองรับอยู่หลายรูปแบบ เผื่อว่ามีเพื่อนมาเป็นกลุ่มนั่งติวหนังสือ ทำงานกลุ่มกันก็ได้

    สำหรับอาคาร B และอาคาร C จะมีสระว่ายน้ำอยู่ด้านข้าง ซึ่งตัวสระจะลากยาวตั้งแต่ครึ่งของอาคาร B ไปจนเกือบสุดอาคาร C และชั้น 2 ของอาคาร B จะเป็น Play Zone มี Co-working Space และ Gym ขนาดใหญ่อยู่ด้วย การวางผังแบบนี้จะทำให้ส่วนกลางที่ชั้น 2 ได้วิวของสระว่ายน้ำ

    บรรยากาศภายในบางส่วนของพื้นที่ Co-working Space

    ตัวสระว่ายน้ำจะอยู่ในโซนอาคาร C ค่อนข้างเยอะได้ความยาว Olympic Size หรือยาว 50 เมตรและกว้าง 5 เมตร สามารถว่ายน้ำออกกำลังกายแบบจริงจังได้เลยครับ

    ภาพบรรยากาศจำลองพื้นที่สระว่ายน้ำ จะเห็นว่ามีความเป็นส่วนตัวพอสมควรเพราะทางโครงการลงต้นไม้ปิดทึบไว้ทั้ง 2 ด้านเลย

    สำหรับอาคาร C จะมีพื้นที่ Lobby ชั้นล่างที่ตกแต่งแบบให้นั่งทำงานได้เป็น Co-Living Space

    ส่วนที่ชั้น 7 จะมีพื้นที่ๆเรียกว่า Sky Lounge เป็นพื้นที่นั่งเล่นนั้งทำงานที่อยู่สูงที่สุดได้วิวแบบ Panorama เพราะมีกระจกรอบด้านเลย

    และ Highlight สุดท้ายของโครงการนี้คือชั้นดาดฟ้าที่มีพื้นที่ทำ กิจกรรม Out-Door ยกชั้นเลย และยังเดินเชื่อมต่อกันได้ทั้ง 3 อาคารอีกด้วย

    จากตัวโมเดลจะเป็นว่ามีการแบ่งพื้นที่ใช้งานออกเป็นหลายๆ ส่วนและมีลู่วิ่งไว้ออกกำลังกายโดยการวิ่งไปกลับ 1 รอบจะได้ระยะทางที่ 400 เมตร

    สำหรับลูกบ้านแต่ละอาคารสามารถเดินไปใช้งานแต่ละตึกได้ง่ายๆ เพราะทางโครงการมีทำทางเชื่อมไว้ให้อยู่แล้ว

    กิจกรรมชั้นดาดฟ้าเรียกว่าจัดเต็มมาครบไล่ไปตั้งแต่ Outdoor Lounge, Jogging Track, Boxing Ring, Futsal Court, Aerobic Field, และ Viewpoint Deck โดยสนามต่อยมวยนั้นยังไม่รู้ว่าหน้าตาแบบ Out-Door จะเป็นแบบไหนนะครับ

     

     

    มาดูผังโครงการชั้นล่างสุดกันก่อน สำหรับชั้นนี้ส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่จอดรถทั้งหมด และมีพื้นที่ส่วนกลางแทรกอยู่ตามอาคารต่างๆ อาคาร A ได้มีอธิบายไปแล้วว่ามีอะไรบ้าง มาดูในส่วนของอาคาร B กันต่อ อาคาร B นอกจากจะมี Creative Lobby แล้วยังมีห้องซ้อมดนตรีมาให้อีกด้วย ถูกใจวัยรุ่นแน่นอน

    สำหรับผังแต่ละอาคารเราจะเริ่มที่อาคาร A ก่อนนะครับ อาคาร A ชั้น 2 พื้นที่หน้าโครงการที่หันไปทางถนนใหญ่จะเป็นพื้นที่ Double Volume ของ Cafe และมีห้องพักอาศัยอยู่ด้านใน โดยห้องส่วนใหญ่ของทั้งโครงการจะเป็นแบบ Studio 23.5 ตร.ม.และแบบ 1 Bedroom 27.53 ตร.ม. พื้นที่พักอาศัยตรงนี้แยกส่วนกับพื้นที่ Facility อย่างชัดเจนนะครับ ไม่สามารถเดินเชื่อมถึงกันได้ ผู้พักอาศัยที่ชั้นนี้จะยังได้ความเป็นส่วนตัวอยู่นะ

     

    ผังอาคารชั้น 3 – 7 จะเป็นชั้นห้องพักอาศัยทั้งหมดแล้ว โดยห้องส่วนใหญ่ยังคงเป็นห้องแบบ 1 Bed 27 ตร.ม.และห้อง 30 ตร.ม. โดยห้องมีเป็นแบบ 34 ตร.ม. จะมีแค่ชั้นละ 2 ห้อง ซึ่งห้อง Type มีการจัดวางผังด้วยยูนิตพิเศษที่เรียกว่า E Creative ซึ่งเดี๋ยวผมจะพาไปดูนะครับ

     

     

    ในส่วนของอาคาร B ชั้น 2 จะเป็นห้องพักอาศัยประมาณครึ่งชั้น ส่วนอีกครึ่งชั้นจะเป็นพื้นที่ของ Facilities ทั้งหมดที่เรียกว่า Play Zone โดยจะมีตั้งแต่พื้นที่ Co-working Space ขนาดใหญ่ที่มีโต๊ะให้นั่งหลายแบบ ส่วนพื้นที่ออกกำลังกาย Gym จะมีทั้งโซน Weight Training, Functional Training, Bike Station และ Yoga Room และยังไม่หมดแค่นี้ ยังมีพื้นที่ โต๊ะปิงปองเอาไว้กับเพื่อนๆได้อีก และท้ายสุดคือมีห้อง Photo Studio เอาไว้ให้ฝึกถ่ายภาพกันด้วย

    ผังชั้น 3 จะมีพื้งพักแบบพิเศษที่มีระเบียงยื่นออกมาเพราะเป็นชั้นที่อยู่บนชั้น Facilities หลักพอดีและสัดส่วนห้องพักต่อชั้นอยู่ที่ 25 ยูนิตต่อชั้น ซึ่งน้อยกว่าอาคารแรกอยู่ 3 ยูนิต และมีจำนวนลิฟต์ 2 ตัวเท่ากัน

    ผังชั้น 4 – 7 จะเป็นชั้นพักอาศัยที่มีห้องพักเหมือนชั้น 3 แค่ไม่มีตัวระเบียงเท่านั้นเอง

    ผังอาคารชั้น 8 ยังคงมีห้องพักเหมือนกับชั้น 7 เลยครับ

    ผังอาคาร C ชั้น 2 จะมีห้องพักอาศัยทั้งหมด 26 ยูนิตต่อชั้น ซึ่งน้อยกว่าชั้นอื่นๆในตึกเดียวกัน 2 ยูนิตเพราะด้านขวาล่างที่ติดลิฟต์เป็นพื้นที่ Double Volume จาก Lobby

    พอขึ้นมาที่ชั้น 3 – 6 จำนวนยูนิตจะเพิ่มขึ้นมาอีก 2 ห้องก็คือห้องแบบ Type E ที่มุมขวาล่างซึ่งเป็นเป็นที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโครงการ

    ที่ชั้น 7 จำนวนห้องจะลดลงไป 2 ห้องเหมือนกันเพราะมีพื้นที่บางส่วนเป็นพื้นที่ของ Sky Lounge โดยลูกบ้านที่ชั้นนี้ยังคงมีความเป็นส่วนตัวอยู่เพราะมีประตูกั้นจากโถงลิฟต์ และลูกบ้านที่อยู่ชั้นนี้ก็ไม่ต้องเดินผ่านในส่วนของที่พักอาศัยด้วยครับ

    จำนวนยูนิตพักอาศัยของชั้นนี้จะอยู่ที่ 26 ยูนิตเช่นกันเพราะไม่มีห้องที่อยู่ตรงพื้นที่ Sky Lounge แล้ว แต่เป็นทางเดินขึ้นไปใช้ Facility ที่ชั้นดาดฟ้าครับ

     

    สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

    Indoor Creative Space

    • Co-Working Space
    • Co-Living Space
    • Co-Playing Space
    • Creative Space Lobby
    • Café
    • Gym (Fitness, Cycling, Yoga Studio)
    • Functional Training Zone
    • Music Room
    • Photo Studio
    • Multi-Purpose Room
    • Sky Lounge
    • Laundry

    Outdoor Creative Space

    • Swimming Pool 50 x 5 เมตร
    • Study Pavillion

    Rooftop Creative Space (ชั้น 8)

    • Outdoor Lounge
    • Jogging Track
    • Boxing Ring
    • Futsal Court
    • Aerobic Field
    • Viewpoint Deck

    • ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
    • อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 91 :  1
    • ไม่มี Service Lift
    • ที่จอดรถประมาณ 131 คันคิดเป็น 24 % ไม่รวมจอดซ้อนคัน
    • ระบบ CCTV / Access Card

     


    Product Walkthrough

    สำหรับห้องตัวอย่างห้องแรกจะเป็นห้องขนาด 27.5 ตร.ม.ที่มีจำนวนเยอะที่สุดในโครงการ สำหรับห้องนี้มีการจัดวางฟังก์ชันที่ลงตัวโดยมีพื้นที่นั่งดูทีวีขนาด 50″ ในระยะที่สบายๆตานะ ส่วนพื้นที่ทำงานกับโต๊ะกินข้าวจะอยู่ในจุดเดียวกัน มีขนาดที่วางโต๊ะนั่งกินข้าว 2 คนได้เลย ส่วนห้องนอนจะมีพื้นที่พอให้วางเตียง 5 แบบมีระยะเดินรอบเตียงได้ พร้อมกับมีตู้เสื้อผ้ามาให้ด้วย สำหรับห้องน้ำและห้องครัวจะถูกจัดไปอยู่แนวเดียวกันด้านขวามือ ห้องที่ติดระเบียงคือห้องครัวทำให้มีการระบายอากาศและความชื้นได้ดี ซึ่งการขายของโครงการนี้เป็นแบบ Fully Furnished ที่ให้เฟอร์ครบพร้อมอยู่และมีเครื่องใช้ไฟฟ้ามาให้ 3 ชิ้นด้วย

    หน้าตาเฟอร์นิเจอร์ของจริงที่ได้จะเป็นแบบนี้ครับ ซึ่งจะไม่เหมือนในห้องตัวอย่างซะทีเดียวนะ เดี๋ยวผมจะอธิบายไปด้วยในส่วนที่เฟอร์นิเจอร์ไม่ได้แถมเหมือนห้องตัวอย่างครับ

    ประตูห้องพักจะได้ขนาดมาตรฐานและตกแต่งด้วยสีเทาตามโทนสีของโครงการ

    กลอนประตูที่ได้จะเป็นแบบ Digital Door Lock ใช้รหัสกับ Password ได้

    เข้ามาภายในห้องจะเจอกับพื้นที่วางโซฟาซึ่งทางโครงการจะแถมโซฟาแบบ 2 ที่นั่งมาให้ด้วยซึ่งไม่ใช่ตัวนี้แต่เป็นแบบที่คล้ายๆกันนะครับ ผนังห้องฉาบเรียบทาสีขาวนะ ไม่ได้ทาสีชมพูแบบในห้องตัวอย่าง

    อย่างที่บอกไปว่าระยะดูทีวีกว้างประมาณ 2.5 เมตร ทำให้สามารถวางทีวีขนาด 50″ ได้เลยตู้วางที่วีที่ได้จะเป็นแบบที่คล้ายๆกับแบบนี้นะครับ พื้นห้องเป็นพื้นไวนิลนะครับมีความทนทานต่อความชื้นได้ดีแต่ผิวสัมผัสจะแตกต่างจากพื้นลามิเนตนิดหน่อย

    สำหรับพื้นที่ข้างๆโซฟาสำหรับปรับเปลี่ยนเป็นโต๊ะทำงานหรือโต๊ะกินข้าวก็ได้ ซึ่งเหมาะกับการใช้ชีวิตของกลุ่มเด็กนักศึกษาอยู่แล้ว ถ้าวันไหนเพื่อนๆมาก็สามารถจับกลุ่มทำงานกันที่โต๊ะนี้ได้ โดนเปลี่ยนแนวการหันโต๊ะเป็นอีกด้าน

    ถัดไปในส่วนของห้องนอน จะมีฉากกระจกกั้นเป็นบานเลื่อนมาให้ และสามารถเปิดสลับได้ทั้ง 2 ด้าน เพื่อใครอยากวางตู้เก็บของที่ปลายเตียงเพิ่มก็ยังทำได้ เพราะใช้ประตูที่ติดกับตู้เสื้อผ้าเข้าห้องนอนได้

    ตู้เสื้อผ้าที่แถมมาให้จะไม่ได้เคลือบเงาแบบนี้แต่เป็นสีด้านครับ ส่วนฐานเตียงจะมีขนาด 5′ และสูงกว่าห้องตัวอย่างขึ้นมาอีก 15 ซม.

    บานหน้าต่างที่ได้ก็เป็นบานใหญ่เกือบถึงพื้นช่วยให้ห้องนี้ได้รับแสงธรรมชาติเยอะขึ้น

    ถ้าวางเตียง 5′ แบบห้องตัวอย่างจะยังคงมีระยะเดินรอบๆเตียงได้อยู่ได้เวลาอยู่กัน 2 คนจะได้มีโต๊ะหัวเตียงไว้วางมือถือหรือข้าวของเล็กๆได้

    ภายในตู้เสื้อผ้าจะแบ่งชั้นบน-ล่างเอาไว้เก็บเสื้อผ้าแต่ไม่มีลิ้นชักมาให้นะ อันนี้ต้องรอดูแบบของจริงอีกทีว่าจะมีให้แบบไหน

    ต่อไปเราไปดุในส่วนของโซนห้องครัวกันต่อนะครับ ด้านขวามือเป็นห้องน้ำ ด้านซ้ายมือเป็นห้องครัวกับระเบียง

    ในส่วนของชุดครัวเราจะได้เป็นชุดมาแบบนี้เลย ที่ผมชอบคือมีการทำเคาน์เตอร์ลากยาวออกมาทำให้มีพื้นที่ใช้สอยตรงนี้มากขึ้น สามารถเพิ่มที่นั่งอ่านหนังสือติวก่อนสอบกับเพื่อนๆได้หลายคนเลย ผนังกันเปื้อนที่เป็นสีส้มอมชมพูอันนี้ได้ด้วยนะครับ และชั้นวางของด้านบนก็ได้ แต่ที่ไม่ได้คือผนังทาสีน้ำเงินซึ่งแนะนำว่าทำสีเพิ่มด้วยสีโทนนี้ก็ดีนะครับดูสวยดี อ่อ ไมโครเวฟกับตู้เย็นโครงการแถมให้ด้วยนะ

    ลิ้นชักเก็บของได้พอสมควรอาจจะไม่เยอะมากนัก ถ้าเก็บไม่พอก็เอาไปวางบนเคาน์เตอร์แทนนะ

    อ่างที่ได้มาเป็นอ่างทรงกลมซึ่งการใช้งานจริงอาจจะเล็กไปหน่อย ถ้าใครจะซื้อจานชามใบใหญ่ๆ มาใช้งาน อย่าลืมเช็กขนาดของอ่างก่อนนะเดี๋ยวเอาลงไปล้างไม่ได้

    ชั้นวางของด้านบนโครงการให้มานะ แต่ราวเหล็กสีดำที่เอาไว้แขวนของไม่ได้ให้มาด้วย

    สำหรับระยะเดินก็เป็นระยะที่เดินใช้งานได้สบายๆ

    สำหรับระเบียงอาจจะมีพื้นที่ตากผ้าได้น้อยหน่อย ถ้าใครกลัวไม่แห้งก็ให้แอร์ช่วยเป่าผ้าเอานะครับ ;p

    ขยับเข้ามาดูในห้องน้ำกันต่อ ตัวห้องน้ำจะมีการทำธรณีกั้นยกสูงขึ้นมาเลย และปูด้วยกระเบื้องเซรามิกลายเดียวกับพื้นห้องน้ำ

    ตัวอ่างล้างหน้าก็ได้มาเป็นเคาน์เตอร์พร้อมตู้เก็บของใต้อ่างแบบนี้เลย ซึ่งตัวผนังกระเบื้องที่ปูครึ่งนึงก็ได้แบบนี้ด้วย เป็นสีแนวน่ารักๆ หวานๆ นะ

    ในส่วนของฟังก์ชันและระยะการใช้งานถือว่าทำออกมาได้ดี ไม่มีระยะไหนที่ดูแปลกหรือใช้งานยาก

    สำหรับพื้นที่อาบน้ำจะมีฉากกระจกนิรภัยกั้นมาให้ด้วย และพื้นที่อาบน้ำที่ถือว่าใหญ่กำลังดีนะครับ อาบน้ำยืดแข้งยืดขาได้สบายๆ

    ชุดสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ที่ได้จะเป็นของ Mogen ทั้งหมด

    ต่อไปเรามาดูห้องที่เรียกว่าแปลก และกล้าที่จะแตกต่างมาก โดยห้องนี้เป็นห้องขนาดใหญ่ที่สุดของโครงการและเป็นห้องที่มีเตียงนอนถึง 4 เตียง เป็นห้องที่มีอยู่แค่ชั้นละห้อง แต่ผมชอบการวางผังห้องนี้นะครับ เพราะด้วยพื้นที่แค่ 34.5 ตร.ม. กลับทำให้นักศึกษาสามารถมาหารค่าเช่าอยู่กันได้  3- 4 คน และมีพื้นที่นั่งทำงาน มีตู้เก็บของ เก็บเสื้อผ้า แบบส่วนตัวแยกของใครของมัน ห้องน้ำถึงจะมีแค่ห้องเดียว แต่ก็สามารถใช้งานแยกจากกันได้ โดยรวมแล้วจัดห้องออกมาเจ๋งดีครับ เข้าไปแล้วไม่รู้สึกว่าแคบเท่าไหร่ แต่บางคนอาจจะคิดว่าเหมือนอยู่หอ หรืออยู่ Hostel ซึ่งผมมองว่าจะพูดแบบนั้นก็ได้แต่ก็เป็นการอยู่อาศัยที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า เพราะมีความปลอดภัยและมี Facilities ให้ใช้เยอะมากๆ

    ส่วนแรกของตัวห้องจะเป็นพื้นที่เก็บรองเท้าและเป็นเตียงนอน ถ้าใครซื้อห้องนี้ชุดเฟอร์นิเจอร์ด้านขวามือทางโครงการจะทำ Built-in มาให้แบบนี้เลยครับ

    สำหรับตู้เก็บรองเท้าทำให้ถือว่าดีแล้ว แต่น่าจะซอยชั้นให้ถี่ขึ้นเพื่อให้เก็บรองเท้าได้สะดวกมากขึ้น

    สำหรับเตียงนอนจะมีการแบ่งชั้นเตียงเป็นชั้นบนกับชั้นล่าง และมีม่านกั้นมาให้เรียบร้อย

    เท่าที่ลองปิดม่านดูก็ถือว่าปิดได้ดีระดับนึงเลยครับ

    เห็นเตียงแบ่งชั้นบนกับชั้นล่างแบบนี้แล้ว ผมเองก็อยากรู้ว่าความสูงมันจะพอใช้งานแค่ไหน ผมเลยไปนั่งอ่านหนังสือตรงนั้นดูก็ได้ผลลัพธ์อย่างที่เห็นครับ ด้วยความประมาณ 171 ซม. ก็นั่งได้หัวไม่ติดนะ

    ส่วนภายในจะมีปลั๊กไฟให้เสียบชาร์จมือถือ และมีโคมไฟเอาไว้นั่งอ่านหนังสือได้ ช่วงกลางๆเตียงก็มีชั้นวางมือถือเล็กๆ มาให้ ลองเอา S8+ ไปวางก็วางได้สบายๆ อย่างที่เห็นในภาพเลยครับ ส่วนปลายเตียงก็จะมีตู้เก็บของใช้ส่วนตัวเพิ่มมาให้ด้วย น่าเสียดายที่ไม่ได้ใส่กลอนมาให้ ถ้าใส่ไว้หน่อยก็จะช่วยให้การเก็บของมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น

    พื้นที่ระเบียงจะอยู่ที่ปลายเตียงของโซนนี้ และด้านขวามือเป็นพื้นที่ทำกิจกรรมต่างๆภายในห้อง

    พื้นที่ระเบียงจะใหญ่กว่าห้องแบบ 27 ตร.ม.อย่างขัดเจน แต่ลองจินตนาการว่าต้องตากผ้ากัน 4 คน ระเบียงก็จะดูแน่นๆไปเลย ก็แนะนำว่าซักผ้าบ่อยหน่อยอย่าดองให้ผ้ามันเยอะๆแล้วค่อยซัก เดี๋ยวไม่มีที่ตากนะ

    พื้นที่ส่วนกลางของห้องจะมีการแถมชุดโต๊ะทานอาหาร ซึ่งพอมาวางตรงกลางแบบนี้แล้วก็นั่งกินข้าว อ่านหนังสือกันได้ 4 คนนะ

    โซฟาที่ได้จะเป็นรูปตัว L ช่วยให้มีการใช้งานได้ดีขึ้น แต่จะไม่ได้เป็นแบบเหมือนในห้องตัวอย่างเป๊ะๆเลยนะครับ

    ช่องแสงที่ได้ยังคงได้หน้าต่างบานใหญ่เหมือนเดิม พอมีช่องแสงใหญ่แล้วทำให้ตัวห้องดูสว่างและโปร่งมากขึ้นด้วย

    พื้นเคาน์เตอร์ครัวจะเหมือนกับห้อง 27 เลยได้ครบชุดพร้อมผนังกันเปื้อน

    การใช้งานจะได้ตู้เก็บของเพิ่มมาอีกด้าน

    ชั้นวางทีวีจะถูกจัดตำแหน่งเอาไว้ผนังตรงกลางระหว่างโถงทางเดินเข้าห้อง กับโถงทางเดินในห้องน้ำ ซึ่งระยะตรงนั้นจะติดทีวีใหญ่มากไม่ได้นะครับ

    เดินเข้ามาภายในห้องน้ำ การแบ่งฟังก์ชันโซนเปียกกับแห้งจะแตกต่างจากทั่วๆไปนิดหน่อย เพราะตัวห้องน้ำกับห้องอาบน้ำจะแยกกันไปเลยเพื่อให้สะดวกต่อการใช้งานหลายๆ คน

    ส่วนตู้เสื้อผ้าก็แบ่งตู้ออกเป็น 4 ตู้ชัดเจน แบ่งกันเก็บของได้เป็นสัดส่วนที่ชัดเจนไม่ต้องมาวางของปนกัน

    ตัวอ่างล้างหน้าจะอยู่ตรงโซนตู้เสื้อผ้า ไม่ได้อยู่ในโซนห้องน้ำเหมือนทั่วๆไป

    ตัวก๊อกน้ำที่ได้ก็เปลี่ยนรุ่นเป็น Hafele สีดำ ดูทันสมัยมากขึ้น

    ห้องอาบน้ำจะแยกกับห้องน้ำเป็นสัดส่วนชัดเจนโดยห้องอาบน้ำจะอยู่ด้านขวามือและห้องน้ำอยู่ด้านในซ้ายมือ

    ตัวสีจะเปลี่ยนสีโทนกลางๆอย่างสีเทา แต่ยังคงการตกแต่งกระเบื้องในสไตล์เดิม ชุดอุปกรณ์และสุขภัณฑ์เป็นของ MOGEN เหมือนเดิมครับ

    **รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ

    สำนักงานขายเปิดทุกวันนะครับถ้าใครสนใจก็เข้ามาดูกันได้ตามเวลานี้เลย

     

    ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 1 June 2018 (ราคาที่ได้มาเป็นราคาเริ่มต้น ราคาห้องจริงจะสูงกว่านี้นะครับ)

    • Studio Type A เนื้อที่ 23.5 ตร.ม. ราคา 1.68 ล้านบาท หรือ 71,489 บาท/ตร.ม.
    • 1 Bedroom Type B เนื้อที่ 27 ตร.ม. ราคา 1.74 ล้านบาท หรือ 64,444 บาท/ตร.ม.
    • 1 Bedroom Type C เนื้อที่ 30 ตร.ม. ราคา 1.9 ล้านบาท หรือ 63,333 บาท/ตร.ม.
    • 1 Bedroom Plus Type E เนื้อที่ 34.5 ตร.ม. ราคา 2.1 ล้านบาท หรือ 60,869 บาท/ตร.ม.
    • Creative Type E เนื้อที่ 34.5 ตร.ม. ราคา 2.5 ล้านบาท หรือ 72,463 บาท/ตร.ม.

    • Fully Furnished
    • ฝ้าเพดานสูง 2.4 เมตร
    • Kitchen & Sink
    • ห้อง type A,B เงินจอง 10,000 บ ทำสัญญา 40,000 บ.
    • ห้อง type C,D,E เงินจอง 20,000 บ ทำสัญญา 40,000 บ.
    • ดาวน์ n/a% ผ่อนดาวน์ 18 งวด
    • ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
    • ค่าส่วนกลาง 45 บาท/ตร.ม./เดือน

    **ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ


    เจาะลึกรวบยอด

    ทำเล – โครงการ Attitude BU เป็นทำเลที่อิงสถานศึกษาเป็นหลัก เพราะอยู่ตรงข้ามเยื้องๆกับ ม.กรุงเทพ วิทยาเขตรังสิต ซึ่งสามารถเดินไปขึ้นสะพานลอยข้ามไปเข้ามหาวิทยาลัยได้เลย ซึ่งทำเลของโครงการก็ไม่ได้จำกัดแค่นักศึกษาหรือคนที่ทำงานอยู่ในม.รังสิต เท่านั้นนะ เพราะตัวโครงการอยู่ติดถนนใหญ่ ทำให้เดินทางสะดวกบวกกับราคาเริ่มต้นที่หยิบจับได้ง่ายทำให้คนที่ทำงานในย่านรังสิตก็สามารถอยู่ที่นี่ได้ ความอุดมสมบูรณ์รอบๆ คือข้อดีของโครงการที่อยู่ใกล้มหาวิทยาลัย เพราะหาของกินง่ายถ้าเน้นกินง่ายๆ ไปที่ซอยข้างๆ ม.กรุงเทพเลยครับ เป็นแหล่งร้านอาหารที่เยอะมาก มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ ร้านสะดวกซื้ออย่าง 7 Eleven ก็อยู่ตรงสะพานลอยนั่นแหละครับ ส่วนห้างใหญ่ใกล้สุดคงหนีไม่พ้น Future Park รังสิต ซึ่งใกล้ๆจะมีตลาดรังสิต และ Tesco Lotus ด้วย ถึงแม้โครงการจะปล่อยเช่าให้นักศึกษาได้ แต่ก็ต้องลองเปรียเทียบราคาเช่าในซอยข้างม.กรุงเทพด้วย แถวนั้นเป็นอพาร์เมนท์ทั้งซอย ซึ่งอัตราค่าเช่าถูกกว่า ซึ่งถ้าเป็นคอนโดจะได้เปรียบในเรื่องของความปลอดภัยและส่วนกลางที่ดีกว่า

    การเดินทางโดยใช้รถ – การเดินทางด้วยรถถือว่าทำได้สะดวกเพราะติดถนนใหญ่พหลโยธิน-รังสิต ถ้าจะวิ่งออกนอกเมืองทำได้ง่ายมากเลยครับ เพราะออกจากโครงการมานิดเดียวก็เจอสะพานกลับรถเลย ส่วนถ้าใครมาจากม.กรุงเทพจะมาโครงการก็ไปกลับรถตรงแยกที่ตัดกับถนนคลองหลวงได้เลย ตรงนั้นให้ขึ้นสะพานตามป้ายกรุงเทพครับ สำหรับทางด่วนจะมีทางยกระดับอุตราภิมุข ไว้วิ่งเข้าช่วงห้าแยกลาดพร้าว ดินแดงได้สะดวก

    การเดินทางโดยไม่ใช้รถ – เนื่องจากโครงการอยู่ตรงข้ามแบบเยื้องๆ กับม.กรุงเทพ ทำให้เดินไปเรียนได้ โดยการเดินไปสะพานลอยมีระยะอยู่ที่ประมาณ 120 เมตร ถ้าเดินตอนเช้าๆ หรือเย็นๆ คงไม่มีปัญหาแต่ถ้ามีคลาสเรียนตอนสายๆ แนะนำว่าเอาร่มติดมือไปด้วยนะ แดดบ้านเรามันแรงเอาเรื่องอยู่ครับ ส่วนวินมอเตอร์ไซค์กับป้ายรถเมล์จะอยู่ที่สะพานลอยที่เอาไว้ข้ามไปม.กรุงเทพครับ ถ้าจะเดินทางไปที่อื่นในย่านนี้วินรถตู้ถือเป็นอีกทางเลือกที่สะดวกเพราะมีวินใหญ่อยู่ที่ Future Park รังสิต มีจุดหมายปลายทางให้เลือกเยอะเลย ส่วนตัวเลือกในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีแดง สถานีม.กรุงเทพ

    วัสดุ – โครงการนี้ขายแบบ Fully Furnished ที่ได้เครื่องใช้ไฟฟ้ามาด้วยสามอย่าง ทีวี ไมโครเวฟ ตู้เย็น เหมาะสำหรับนักศึกษาเพราะไม่ต้องไปหาซื้อของเพิ่มเลย และเฟอร์นิเจอร์ที่แถมมาให้จะได้แบบที่เข้ากับ Concept ของโครงการด้วย ตัวพื้นได้พื้นไว้นิลที่ทนต่อความชื้นมากกว่าพื้นลามิเนต ส่วนชุดสุขภัณฑ์ได้ของ Mogen ทั้งหมด ได้ฉากกระจกกั้นอาบน้ำ ได้ชุดครัวเป็นปาติเกิ้ลปิดผิวด้วยเมลามีน บานเปิดได้ Soft Close ด้วย ได้ Digital Door Lock โดยรวมถือว่าค่อนข้างดี

    การออกแบบ – โครงการนี้เป็นโครงการที่มีแนวความคิดในการออกแบบชัดเจนมากๆ คือ ทำมาเพื่อตอบสนองนักศึกษาวัยรุ่น วัยเรียนที่กำลังมันส์กับการใช้ชีวิต จะเห็นได้ตั้งแต่การใช้สีที่เป็นแม่สีหลักๆ ครบทั้งหมด ทำให้บรรยากาศดูคึกคักและตื่นตัว ซึ่งผมมองว่าการแม่สีเยอะมาออกแบบนั้น การจะทำให้สวยนั้นยากอยู่นะครับ แต่โครงการนี้ก็ทำออกมาได้ดีทีเดียว โดยมีการให้พื้นที่ของแต่ละสีต่างกัน มีการนำไปใช้กับตัวโครงการทั้งภายนอก ภายใน รวมถึงห้องพักด้วย ผังอาคารออกแบบมาให้ตัวอาคารวางตามแนวที่ดินและใส่ส่วนกลางมาตามอาคารต่างๆ ทำให้เวลาเดินจากท้ายมาหน้าโครงการ ดูไม่ไกลและมีจุดที่น่าสนใจอยู่ตลอด

    ส่วนการออกแบบห้อง แบบห้องทั้งหมดจะเน้นการอยู่อาศัยสำหรับนักศึกษา เป็นแบบ Studio และ 1 Bedroom โดยมีห้องพิเศษ Type E ที่เรียกว่า Creative เป็นห้องที่แปลกและแตกต่างมากครับ คือทำห้องมาให้มีเตียงนอนที่นอนได้ 2 ชั้น 2 ชุดรวมเป็น 4 ที่นอน การจัดวางห้องทำได้น่าสนใจมากๆ เพราะเน้นการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันอารมณ์เหมือนอยู่หอในนิดๆ แต่มีพื้นกว้างกว่ามีส่วนกลางให้ใช้เยอะกว่า สำหรับห้อง 1 Bedroom ที่มีจำนวนเยอะสุดในโครงการถือว่าทำออกมาได้ลงตัวอยู่แล้ว มีฟังก์ชันในการใช้ชีวิตประจำวันครบถ้วนตามมาตรฐานห้อง 27 ตร.ม. ได้ระยะดูทีวีที่ดี มีห้องนอนแยกเป็นสัดส่วน ห้องครัวมีให้บานเลื่อนปิดมาให้ช่วยให้การใช้งานครัวทำได้สะดวกมากขึ้น

    สาธารณูปโภค – ให้มาเยอะและหลากหลาย แต่ไม่ได้จัดพื้นที่ส่วนกลางให้อยู่เป็นจุดเดียว โครงการจัดให้อยู่ตามอาคารต่างๆ เพื่อให้ลูกบ้านแต่ละอาคารมีส่วนกลางให้ใช้แบบใกล้ๆได้ สิ่งที่น่าเสียดายคือไม่ได้ให้สระว่ายน้ำมาที่ชั้นบน เหมือนเพื่อนบ้าน แต่ก็ยังได้ความยาวของสระที่ 50 เมตรเรียกว่าเป็น Olympic Size ได้เลย ส่วนกลางของที่นี่จะแบ่งออกเป็น 3 ส่วนด้วยกันคือแบบ Indoor, Out Door และ Rooftop ซึ่งแบบ Indoor นั้นประกอบไปด้วยห้องแนว Co-Working Space 3 จุด มี Café มี Gym(ห้องออกกำลังกาย) มีห้องซ้อมดนตรี มีห้อง Photo Studio มีห้องประชุม และห้อง Sky Lounge แบบ Out Door มีสระว่ายน้ำกับ Pavillion ส่วนชั้นดาดฟ้ามี Futsal Court, Boxing Ring, Jogging Track, Lounge และลานเล่น Aerobic

     

    Judgement

    การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

    ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

    เทียบกับราคา 70,000 บาท/ตร.ม., 1 June 2018

    • ทำเล 7.75/10 – ติดถนนใหญ่ ตรงข้ามเยื้องๆ ม.กรุงเทพ
    • เดินทางด้วยรถ 7.25/10 –  เข้าออกสะดวก ที่จอดรถน้อยไปหน่อย
    • ไม่ใช้รถ 7.25/10 – ใกล้สะพานลอยเดินไปได้
    • วัสดุ 8.0/10 – ให้มาแบบ Fully Furnished ได้เครื่องใช้ไฟฟ้าด้วย
    • แบบ 8.0/10 – ออกแบบสวย กระจายส่วนกลางให้ใช้ทุกตึก แบบห้องลงตัว
    • สาธารณูปโภค 8.0/10 – ให้มาเยอะและหลากหลาย เสียดายไม่ได้สระว่ายน้ำที่ชั้นบน

    • ECONOMY CLASS
    • 7.68 / 10.00

    BOTTOM LINE

    Attitude BU เป็นโครงการที่อยู่ในทำเลเฉพาะใกล้ม.กรุงเทพ เหมาะกับคนมองหาคอนโดติดถนนใหญ่พหลโยธินเน้นเข้าออกสะดวก มีของกินเยอะใกล้มหาลัย เผื่อปล่อยเช่าให้นักศึกษาได้ มีสมาชิกที่อยู่อาศัย 1-2 คนเน้นห้องขนาดเล็กพอดีๆ เน้นพื้นที่ส่วนกลางเยอะๆ มีหลากหลายกิจกรรมให้ทำ มีงบประมาณระดับ 1.6 –  2.5 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 11,000 – 20,000 บาท/เดือน