รีวิวฉบับที่ 2786 เราอาสาพาทุกคนไปดูโครงการ Aspire Itsaraphap Station (แอสปาย อิสรภาพ สเตชั่น) คอนโด Low Rise 5 ชั้นและ 8 ชั้น จาก AP ทำเลใกล้ MRT อิสรภาพ 400 m. ในราคาเริ่มต้น 2.60 ล้านบาท เราลิส Highlights ที่น่าสนใจไว้ให้เรียบร้อย จะมีอะไรบ้างไปชมกันเลยค่ะ
- ใกล้รถไฟฟ้า : ประมาณ 400 m. จากสถานีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินสถานีอิสรภาพ ถือว่าอยู่ในระยะเดินไหว ทำให้เดินทางไปไหนมาไหนสะดวกมากๆเลยค่ะ
- ใกล้ท่าเรือ : เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการเดินทาง ที่อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 750 m. มีทั้งเรือด่วนเจ้าพระยาและเรือข้ามฟาก ทำให้ไปฝั่งพระนครและไปสถานที่อื่นๆเรียบแม่น้ำได้ง่ายขึ้น
- ไม่ไกลจากสถานศึกษาชื่อดังหลายแห่ง : ในละแวก 3 km. มีโรงเรียนชื่อดังอยู่หลายแห่งเช่น โรงเรียนทวีธาภิเศกและโรงเรียนศึกษานารี ผู้ปกครองสามารถไปรับ-ส่งได้สบายๆ
- Sky Facility : เนื่องจากพื้นที่บริเวณนี้อยู่ในเขตเมืองเก่า ซึ่งโครงการอยู่พ้นอณาเขตพอดีทำให้เราเห็นวิววัดอรุณฯแบบไม่มี อาคารสูงมาบดบังเลยค่ะ
- มีห้องหน้ากว้างให้เลือกทุก Type : ได้แสงสว่างทั่วทั้งห้อง ห้องจึงดูโปร่งโล่งมากขึ้น
ข้อมูลโครงการ
Aspire Itsaraphap Station (แอสปาย อิสรภาพ สเตชั่น) ณ วันที่ 27 พฤศจิกายน 2567
ชื่อโครงการ | Aspire Itsaraphap Station (แอสปาย อิสรภาพ สเตชั่น) |
ชื่อผู้ประกอบการ | บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จํากัด (มหาชน) |
SEGMENT CLASS | MAIN CLASS (รายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2023 ) |
โครงการตั้งอยู่ | ถนนวังเดิม เขตบางกอกใหญ่ |
ที่ดิน | 3-0-93.30 ไร่ |
ประเภทคอนโด | Low Rise 2 อาคาร สูง 5 และ 8 ชั้น |
จำนวนยูนิต | 270 ยูนิต และ 1 ร้านค้า (อาคาร A 100 ยูนิต อาคาร B 170 ยูนิต) |
ที่จอดรถ | 105 คัน ประมาณ 39% |
เริ่มก่อสร้าง | ปี 2567 |
คาดว่าจะแล้วเสร็จ | Q 1 ปี 2569 |
ประเภทห้องพัก |
|
ราคาเริ่มต้น | 2.6 ล้านบาท |
ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ | 100,000 บาท/ตร.ม. |
EIA (ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) | ผ่านแล้ว |
เว็บไซต์โครงการ | คลิกที่นี่ |
Call Center | 1623 |
Line | คลิกที่นี่ |
ทำเลที่ตั้ง
Highlight
- ใกล้ MRT อิสรภาพ : ประมาณ 400 m. ซึ่งเป็นระยะที่เดินได้ไหว ทำให้ลูกบ้านเดินทางไปยังโซนต่างๆของเมืองสะดวกมากขึ้น
- ใกล้ท่าเรือวัดอรุณ : เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการเดินทาง ที่อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 750 m. มีทั้งเรือด่วนเจ้าพระยาและเรือข้ามฟาก ทำให้ไปฝั่งพระนครและไปสถานที่เรียบแม่น้ำได้ง่ายขึ้น
- ไม่ไกลจากสถานศึกษาชื่อดังหลายแห่ง : เช่น โรงเรียนทวีธาภิเศกที่ห่างออกไปเพียง 850 m. หรือโรงเรียนศึกษานารีที่อยู่ห่างจากโครงการแค่ 1.7 km. ผู้ปกครองสามารถไปรับ-ส่งได้สบายๆ
พิกัด Google Maps : 13.74111744190507, 100.48512807262904
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
แผนที่จากทางโครงการ Aspire Itsaraphap Station (แอสปาย อิสรภาพ สเตชั่น) ค่ะ
โครงการ Aspire Itsaraphap Station (แอสปาย อิสรภาพ สเตชั่น) ตั้งอยู่ติดถนนวังเดิม ซึ่งเป็นถนนสายสั้นๆที่เชื่อมต่อกับถนนอิสรภาพและถนนอรุณอมรินทร์ เพื่อให้เข้าใจง่ายๆ เราขออธิบายโซนของถนนทั้ง 2 สายก่อนนะคะ โซนอรุณอมรินทร์จะเป็นเขตพื้นที่วังเก่า จึงมีวัด , โบราณสถานหลายแห่ง รวมถึงอาคารเก่าแก่ที่เป็นสถานที่ราชการด้วย ทำให้พื้นที่ในโซนนี้ไม่มีตึกสูงเลยค่ะ ส่วนใหญ่จะเป็นอาคารพักอาศัยและอาคารพาณิชย์ที่สูงไม่เกิน 4 ชั้น ส่วนโซนฝั่งอิสรภาพจะมีความเป็นเมืองมากขึ้น มีที่พักอาศัยที่เป็นตึกสูง และแหล่งความอุดมสมบูรณ์อยู่กระจัดกระจาย
จากโครงการสามารถเข้าถึงแหล่งความอุดมสมบูรณ์ได้ไม่ยากเลยค่ะ เพราะบนถนนอิสรภาพห่างจากทำเลโครงการประมาณ 1.6 km. เท่านั้น มีซูเปอร์มาเก็ตขนาดใหญ่อย่าง Big C อิสรภาพอยู่ ลูกบ้านสามารถหาของกินของใช้ได้ไม่ยากเลยค่ะ แต่ถ้าใครอยากจะเดินช้อปปิ้งห้างใหญ่ๆ ก็มีทั้ง Icon Siam และ The Mall ท่าพระที่อยู่ในระยะ 3.8-4.8 km.
ทำเลตรงนี้ ถือว่ามีตัวช่วยในการเดินทางหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้า MRT ที่ห่างออกไป 400 m. เดินไปใช้บริการได้ง่ายๆ หรือ ท่าเรือวัดอรุณที่ห่างจากโครงการ 750 m. เราสามารถใช้ข้ามฟากไปฝั่งพระนคร ซึ่งบริเวณนั้นจะเป็นท่าเตียน นอกจากนี้ยังมีเรือด่วนเจ้าพระยาที่แล่นไปตามแนวแม่น้ำ หากลูกบ้านเรียนที่มหาวิทยาลัยศิลปากร หรือ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ก็สามารถลงที่ท่าช้างหรือท่าเตียนได้เลย ส่วนคนที่ต้องการไปโซนตลาดน้อย เอเชียทีคก็ใช้เรือด่วนเจ้าพระยาได้เช่นกัน
ส่วนคนที่ทำงานในโซนนี้เช่นบุคลากรในโรงพยาบาลศิริราชและโรงพยาบาลธนบุรี ก็สามารถเลือกพักอาศัยในโซนนี้ได้เช่นกัน เพราะเดินทางไปทำงานได้สะดวกมากๆ ไม่ว่าจะขับรถยนต์ส่วนตัวไป หรือนั่งรถสาธารณะอย่างรถเมล์และรถกระป้อ
เส้นทางการเดินทาง
เดินทางด้วยรถไฟฟ้า :
ตัวโครงการใกล้ MRT อิสรภาพประมาณ 400 เมตร ถือว่าเดินได้สบายๆเลย โดยเราสามารถเดินเลาะไปตามถนนใหญ่ทำให้ไม่เปลี่ยว เดินได้ปลอดภัยค่ะ หรือใครไม่อยากเดินจะเรียกพี่วินไปขึ้นรถไฟฟ้าก็ได้เช่นกันค่ะ MRT อิสรภาพเป็นรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ข้อดีคือเราไม่ต้องเปลี่ยนสายเพื่อเข้าตัวเมืองค่ะ หากขึ้นรถไฟฟ้าที่สถานีนี้ถัดไปเพียง 5-6 สถานีก็สามารถเข้าถึงตัวเมืองและแหล่งงานอย่างสามย่านและสีลมแล้วค่ะ หรือใครที่ทำงานโซน อโศก , พระราม 9 ก็สามารถนั่งรถไฟฟ้าไปทำงานได้ไม่ยากค่ะ
บรรยากาศรอบๆ MRT
ทางเดินจาก MRT มายังโครงการ ช่วงบริเวณถนนอิสรภาพนั้นเป็นฟุตบาทที่ยกระดับขึ้นมาจากถนน ที่เพิ่งจะปรับปรุงใหม่ทำให้มีขนาดกว้างทีเดียวและเดินได้สะดวกค่ะ โดยบริเวณนี้มีทั้งร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหารอยู่ตลาดแนวเลยค่ะ เราสามารถแวะซื้อของกินของใช้ก่อนกลับเข้าคอนโดได้ไม่ยาก เมื่อถึงสามแยกจะมีสะพานลอยให้คนใช้ข้ามถนนได้อย่างปลอดภัย ส่วนฟุตบาทฝั่งถนนวังเดิมจะแคบลงมาสักเล็กน้อย แต่ก็พอให้คนเดินสวนกันได้ ระหว่างทางช่วงนี้จะเป็นร้านขายของชำและร้านอาหารเก่าแก่อยู่ เรียกได้ว่าใครที่อยู่โครงการนี้ไม่ต้องห่วงเรื่องปากท้องเลยค่ะ
เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว :
สำหรับคนที่ใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก จะมีทางด่วนศรีรัชที่ใกล้ที่สุดประมาณ 5.7 km. ใช้เดินทางไปยังโซนจตุจักร , พญาไทและพระราม 9
เราจึงมองว่าโครงการนี้รองรับกลุ่มคน 3 กลุ่มเป็นหลักคือ กลุ่มคนที่ทำงานในเมืองโดยใช้รถไฟฟ้าเป็นหลัก , กลุ่มคนที่ทำงานในละแวกนี้ รวมถึงบุคลากรของโรงพยาบาลศิริราชด้วย และกลุ่มสุดท้ายคือคนที่ทำงานหรือเรียนฝั่งตรงพระนคร
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
ที่ตั้งโครงการ Aspire Itsaraphap Station (แอสปาย อิสรภาพ สเตชั่น) อยู่ระหว่างอาคารพาณิชย์ 2 ชั้นที่ส่วนใหญ่ทำเป็นร้านค้า ร้านอาหาร และคลองขนาดเล็ก , กรมช่างโยธาทหารเรือ โดยบรรยากาศรอบๆโครงการส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่ของชุมชนพักอาศัย , อาคารพาณิชย์ และที่ว่างรอการพัฒนา ซึ่งสรุปได้ดังนี้
บรรยากาศหน้าโครงการ
- ทิศเหนือ ติดกับ ชุมชนบ้าน 2-3 ชั้น
- ทิศตะวันออก ติดกับ อาคารราชการ 3-4 ชั้น , ชุมชนบ้าน 2-3 ชั้น
- ทิศใต้ ติดกับ อาคารราชการ 2 ชั้น
- ทิศตะวันตก ติดกับ อาคารราชการ 2-4 ชั้น , ที่ว่างรอการพัฒนา
Sale Gallery อยู่เยื้องๆกับที่ตั้งโครงการประมาณ 100 m.
Sale Gallery อยู่เยื้องๆกับที่ตั้งโครงการ ตัวอาคารมี 2 ชั้น ชั้นแรกจะเป็นคาเฟ่และร้านทำเล็บ ส่วน Sale Gallery จะอยู่ที่ชั้น 2 มีห้องตัวอย่างให้ดู 2 แบบคือ ห้อง 1 Bedroom Type C1M ขนาดพื้นที่โฉนด 31.00 ตร.ม. และห้อง 1 Bedroom Plus Type D2 ขนาดพื้นที่โฉนด 35.00 ตร.ม.
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
ห้างสรรพสินค้า / ตลาด
- SUSCO อิสรภาพ ~ 330 m.
- Big C อิสรภาพ ~ 1.6 km.
- ตลาดวังหลัง ~ 2.3 km.
- The Old Siam Plaza ~ 3.0 km.
- Icon Siam ~ 3.8 km.
- ตลาดพลู ~ 3.9 km.
- ตลาดสำเพ็ง ~ 3.9 km.
- The Mall Lifestore ท่าพระ ~ 4.8 km.
- เยาวราช ~ 4.9 km.
โรงพยาบาล
- โรงพยาบาลธนบุรี ~ 1.8 km.
- โรงพยาบาลตากสิน ~ 3.3 km.
- โรงพยาบาลศิริราช ~ 3.4 km.
- โรงพยาบาลสมิติเวช ธนบุรี ~ 3.9 km.
- โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า ~ 4.7 km.
โรงเรียน
- วิทยาลัยเทคโนโลยีพณิชยการราชดำเนิน ~ 700 m.
- โรงเรียนทวีธาภิเศก ~ 850 m.
- มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี ~ 1.2 km.
- โรงเรียนศึกษานารี ~ 1.7 km.
- โรงเรียนสตรีวัดระฆัง ~ 2.0 km.
- โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ~ 2.4 km.
- โรงเรียนราชินี ~ 2.6 km.
- มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ~ 5.2 km.
- มหาวิทยาลัยศิลปากร วังท่าพระ ~ 5.2 km.
การเดินทาง
- MRT อิสรภาพ ~ 400 m.
- ท่าเรือข้ามฟากวัดอรุณ ~ 750 m.
รายละเอียดโครงการ
Highlights :
- Sky Lounge : ได้วิววัดอรุณและเมืองเก่า แบบไม่มีอาคารสูงมาบดบัง
- อาคารรูปตัว L จำนวน 2 อาคาร : ล้อมส่วนกลาง ทำให้ได้วิวสวนและสระว่ายน้ำของส่วนกลาง
- ส่วนกลางกระจายอยู่หลายชั้น : ทำให้การใช้งานแต่ละส่วนไม่หนาแน่น
Aspire Itsaraphap Station (แอสปาย อิสรภาพ สเตชั่น) เป็นคอนโด Low Rise 2 อาคาร จาก AP ตั้งอยู่บนที่ดินขนาดประมาณ 3-0-93.30 ไร่ รวม 270 ยูนิตโดยแบ่งเป็นอาคาร A จำนวน 100 ยูนิต และอาคาร B จำนวน 170 ยูนิต เมื่อเทียบกับโครงการเพื่อนบ้านแล้ว โครงการนี้ถือว่ามีจำนวนยูนิตน้อยเป็นอันดับต้นๆเลยค่ะ ทำให้ลูกบ้านโครงการนี้ได้ความเป็นส่วนตัวในการพักอาศัย
มาดูรายละเอียดของโครงการกันค่ะ เริ่มจาก Masterplan ของโครงการ ชั้นแรกเป็นส่วนกลางทั้งหมด ไม่มีห้องพักอาศัยเลย เรามองว่าเป็นเรื่องดี เพราะลูกบ้านจะได้ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยมากขึ้น เราจะสังเกตได้ว่าทางเข้าโครงการมีความยาวพอสมควรซึ่งตรงนี้จะเป็นถนนภาระจำยอม ทางโครงการจึงตั้งซุ้มประตูลึกเข้าไปด้านในโครงการ ให้พ้นแนวถนนนี้ โครงการแยกซุ้มประตูโครงการออกจากบริเวณ Drop-off ทำให้รถวนส่งลูกบ้านได้ง่ายขึ้น ระหว่างโถงลิฟต์อาคาร A และ B จะมีทั้งห้องนิติบุคคลและร้านค้าอยู่ ทำให้ลูกบ้านทั้ง 2 อาคารมาติดต่อได้ง่าย สำหรับ Facility ส่วนกลางของชั้น 1 จะมี Lobby , สระว่ายน้ำและสวนอยู่บริเวณตรงกลางโครงการ เป็นบรรยากาศที่ดี นอกจากนี้ยังทำให้ลูกบ้านได้วิวส่วนกลางอีกด้วย แต่ละส่วนจะเป็นยังไงบ้าง ไปชมกันเลยค่ะ
โครงการออกแบบให้ Drop-off อยู่ก่อนถึงซุ้มประตู ทำให้แท็กซี่หรือรถของแขกสามารถวนส่งลูกบ้าน แล้วขับออกไปโดยไม่ต้องแลกบัตร สะดวกต่อการมารับ-ส่งลูกบ้านมากขึ้นค่ะ รถยนต์ที่จะผ่านเข้าซุ้มประตูต้องใช้ระบบ Katsan สแกนป้ายทะเบียนในการเข้า-ออก หมายความว่ารถยนต์ที่เข้าออกได้จะเป็นลูกบ้านเท่านั้น ส่วน Vistor ต้องใช้ระบบ VMS นัดหมายก่อนเข้าโครงการ หากไม่ได้นัดมาก่อนต้องแลกบัตรนะคะ สำหรับที่จอดรถภายในโครงการมี 105 คัน หรือประมาณ 39% เราสามารถเลือกจอดได้ทั้งที่จอดรถใต้อาคารและที่จอดรถกลางแจ้ง
Lobby ของโครงการใกล้จุด Drop-off ที่ชั้น 1 แขกของลูกบ้านสามารถมานั่งรอได้เลย โดยไม่ต้องผ่าน Access Control ทำให้ลูกบ้านไม่ต้องรีบลงมาเพื่อต้อนรับมากนัก เพราะมีที่ให้แขกคอย นอกจากนี้ลูกบ้านยังมาใช้นั่งพักผ่อนทำงาน เปลี่ยนบรรยากาศได้ด้วย แต่หากจะเข้าไปยังส่วนกลางอื่นๆของโครงการจะต้องใช้ระบบ Face Scan ทำให้พื้นที่ภายในจะมีแต่ลูกบ้านเท่านั้นที่เข้ามาได้ค่ะ
ลิฟต์ของโครงการแบ่งออกเป็นของอาคาร A และ B อาคารละ 2 ตัว ทำให้อัตราส่วนลิฟต์อาคาร A อยู่ที่ 50 : 1 และ 85 : 1 สำหรับอาคาร B ซึ่งถือว่าเป็นอัตราส่วนที่น้อยทีเดียวค่ะ ทำให้ลูกบ้านไม่ต้องรอลิฟต์นานเวลาขึ้น-ลงอาคาร โดยลูกบ้านจะต้องสแกนใบหน้าอีกรอบ เพื่อเข้าสู่โถงลิฟต์และใช้ลิฟต์ด้วย เพราะลิฟต์ของโครงการเป็นแบบล็อคชั้น เราสามารถไปได้เฉาะชั้นพักอาศัยของตัวเองและชั้นส่วนกลางเท่านั้น
บรรยากาศจำลองส่วนกลางบริเวณสระว่ายน้ำและสวนชั้น 1
สระว่ายน้ำ Outdoor เป็นระบบเกลือขนาดประมาณ 20 x 8 เมตร ลึก 1.20 เมตรพร้อม Jacuzzi สามารถใช้ออกกำลังกายแบบจริงจังได้เลย แต่น่าเสียดายที่โครงการไม่มีสระสำหรับเด็กมาให้ หากใครพาเด็กเล็กมาเล่นน้ำ ต้องดูแลอย่างใกล้ชิดนะคะ ตัวสระว่ายน้ำอยู่กลางโครงการ ซึ่งมีอาคารล้อมรอบทั้งหมด ทำให้ได้ร่มเงาจากอาคารบ้าง แต่แนะนำให้มาว่ายน้ำตอนเย็น เพราะแดดไม่ร้อนมากนัก รอบๆสระว่ายน้ำมีสวนส่วนกลางอยู่ด้วย ลูกบ้านสามารถลงมาพักผ่อนหย่อนใจได้
อาคาร A
แปลนชั้น 2-4
สำหรับอาคาร A มีรูปทรงคล้ายตัว L อยู่ทางทิศเหนือ ทำให้อาคารไม่ได้รับแดดโดยตรง จึงไม่รู้สึกร้อน อาคารนี้มี 100 ยูนิต ซึ่งน้อยกว่าอาคาร B ทำให้ลูกบ้านของอาคารนี้ได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่า โดยโซนพักอาศัยจะอยู่ตั้งแต่ชั้น 2 ขึ้นไป ชั้น 2-4 จะเป็นห้องพักอาศัยทั้งหมด ทำให้คนที่พักอาศัยในชั้นนี้ได้ความเป็นส่วนตัวเพราะไม่มีพื้นที่ส่วนกลาง คนที่พักชั้นอื่นๆจึงไม่สามารถเข้าถึงชั้นนี้ได้เลยค่ะ
ส่วนชั้น 5 จะมีทั้งโซนพักอาศัยและพื้นที่ส่วนกลางที่ประกอบไปด้วย Co-Working & Meeting Room , Sky Lounge , Terrace และสวนส่วนกลาง ที่แยกออกจากโซนพักอาศัยอย่างชัดเจน โดยโครงการจัดให้ส่วนกลางอยู่ติดโถงลิฟต์ ลูกบ้านจากชั้นอื่นๆเดินเข้าไปใช้งานส่วนกลางได้เลย ส่วนคนที่พักชั้นนี้จะต้องสแกนหน้าเพื่อเข้าไปยังโซนพักอาศัย เสริมความปลอดภัยให้กับลูกบ้านชั้นนี้ค่ะ Highlight ของ Facility คือส่วนกลางที่อยู่สูงกว่าอาคารรอบข้างทำให้ส่วนกลางโซนนี้มองเห็นวัดอรุณได้พอดีค่ะ
โซนพักอาศัยที่น่าสนใจเรามองว่ามีถึง 4 โซนด้วยกัน คือ
- โซนกรอบสีแดง เป็นโซนห้องพักที่อยู่ใกล้กับลิฟต์โดยสารสะดวกในการขึ้น-ลงอาคารมากที่สุด
- โซนกรอบสีน้ำเงิน เป็นโซนที่จะเห็นวิววัดอรุณ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของย่านวังเดิม แนะนำให้อยู่ชั้น 4-5 เพื่อจะได้เห็นวัดอย่างชัดเจนค่ะ
- โซนสีส้ม เป็นโซนที่ได้วิวส่วนกลางพอดี เป็นบรรยากาศที่ดีเวลามองลงมาค่ะ
- โซนสีเขียวเป็นห้องเดียวของชั้นที่ไม่มีห้องเพื่อนบ้านฝั่งตรงข้า ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นค่ะ
บรรยากาศจำลองห้อง Sky Lounge
ส่วนกลางทั้งหมดของชั้น 5 ไม่ว่าจะเป็น Co-Working & Meeting Room , Sky Lounge , Terrace หรือสวนส่วนกลางจะอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือใครตื่นเช้าๆจะมาดูพระอาทิตย์ขึ้นก็ได้นะ แต่ช่วงเวลาที่เราว่าเหมาะในการชมวิวพระปรางค์วัดอรุณคือช่วงเย็นหรือค่ำๆค่ะ เพราะเห็นพระปรางค์ชัดเจนมากๆ คนที่ชอบบรรยากาศย่านวังเก่าคงถูกใจมุมนี้น่าดู
อาคาร B
อาคาร B มีรูปทรงคล้ายตัว L เช่นกัน ต่างกันตรงที่อาคาร B วางทางทิศใต้ของโครงการ ซึ่งเป็นทิศที่ลมพัดผ่านพอดีค่ะ อาคารนี้จะมีโซนอาคารฝั่ง 5 ชั้นและฝั่ง 8 ชั้น โดยมีทั้งหมด 170 ยูนิต เรามองว่าอาคารนี้เหมาะกับคนที่ชอบออกกำลังกายเป็นหลักเพราะภายในอาคารมี Fitness อยู่ด้วย ซึ่งบริเวณนี้จะมีบันไดเชื่อมต่อไปยังสระว่ายน้ำ ทำให้ลูกบ้านอาคารนี้สามารถเข้าถึงสระว่ายน้ำได้ง่ายกว่าอาคาร A ส่วนโซนห้องพักอาศัยที่น่าสนใจมีดังนี้
- โซนกรอบสีม่วง ห้องหน้ากว้างมีข้อดีตรงที่มีฟังก์ชันที่ติดหน้าต่างเยอะ ทำให้แสงธรรมชาติเข้าห้องได้อย่างทั่วถึง ห้องจึงดูโปร่งโล่งมากกว่า
- โซนกรอบสีแดง จะใกล้กับโถงลิฟต์มากที่สุดทำให้ขึ้น-ลงอาคารได้สะดวก นอกจากนี้ยังใกล้กับส่วนกลางของชั้น อย่าง Fitness ด้วย เหมาะกับคนที่ชอบมาออกกำลังกายเลยค่ะ
- โซนสีส้ม เป็นโซนที่ได้ Benefit จากส่วนกลางมากที่สุดเพราะได้วิวสวนและสระว่ายน้ำส่วนกลางค่ะ
Fitness ของโครงการเปิดตั้งแต่ 6.00 – 23.00 น. พอให้คนทำงานที่กว่าจะกลับมาถึงห้องก็มืดค่ำเสียแล้วยังพอมีเวลาได้ออกกำลังกายอยู่บ้าง
แปลนชั้น 3-5
ชั้น 3-7 จะเป็นห้องพักอาศัยทั้งหมด ต่างกันตรงที่ชั้น 6-7 จะเหลือโซนพักอาศัยแค่ฝั่งเดียว คือฝั่งอาคาร 8 ชั้น เพราะว่าอาณาเขตตรงนี้อยู่นอกเหนือเขตเมืองเก่าพอดี จึงสามารถสร้างอาคารสูงขึ้นมาจากเดิมได้ โดยเราแบ่งโซนที่น่าสนใจของชั้นพักอาศัยได้ไว้ 4 โซนดังนี้
- โซนกรอบสีม่วง ซึ่งเป็น Rare item ของโครงการ เพราะเป็นห้องหน้ากว้าง ทำให้ได้รับแสงธรรมชาตมากกว่าห้องทั่วไป ห้องจึงดูโปร่งโล่ง
- โซนสีส้ม เป็นห้องพักที่หันเข้าหาส่วนกลาง ทำให้ได้วิวส่วนกลางสร้างบรรยากาศที่ดีให้แก่ลูกบ้าน เพียงเท่านี้ก็ดีแล้วใช่ไหมคะ แต่ถ้าเราอยู่โซนนี้บนชั้น 7 ก็จะมีสิทธิ์เห็นวิววัดอรุณเช่นกันนะ เพราะอาคารฝั่งนี้สูงกว่าอาคาร A
- โซนสีแดง เป็นโซนที่อยู่ใกล้โถงลิฟต์ เหมาะกับคนที่ต้องการความรวดเร็วในการขึ้น-ลงอาคาร
- โซนสีน้ำเงิน เป็นโซนห้องพักที่จะเห็นวิววัดอรุณตั้งแต่ชั้น 4 เลยค่ะ
ชั้นบนสุดของอาคาร B มีทั้งโซนพักอาศัยและส่วนกลางอย่าง Co-Working Space ซึ่งแยกสัดส่วนกันอย่างชัดเจน ห้อง Co-Working Space อยู่ติดโถงลิฟต์เห็นวิววัดอรุณในมุมสูงและไม่มีอาคารไหนมาบังเลยค่ะ เพราะอยู่ชั้นสูงสุดและติดกับเขตที่เป็นอาคารไม่สูง (4 ชั้น) ส่วนคนที่พักอาศัยชั้นถูกแยกออกมา กั้นด้วยประตูระบบสแกนหน้า ทำให้การใช้งานของคนที่พักอาศัยและคนที่มาใช้งานส่วนกลางไม่ปะปนกัน
โซนพักอาศัยที่น่าสนใจมี 4 โซนด้วยกัน
- โซนสีแดง เป็นโซนที่เข้า-ออกอาคารได้ไวสุดเพราะใกล้โถงลิฟต์
- โซนกรอบสีม่วง เป็นโซนที่มีห้องหน้ากว้างให้เลือก ซึ่งเป็นโซนที่แสงธรรมชาติเข้าถึงทุกฟังก์ชันของห้อง ห้องจึงดูโปล่งโล่ง
- โซนสีน้ำเงิน เป็นห้องที่เห็นวิววัดอรุณซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของย่านวังเดิม
- โซนสีส้ม เห็นทั้งวิวส่วนกลางที่อยู่ด้านล่างและวิววัดอรุณ ใครที่ชอบชมวิวไม่ว่าจะวิวเมืองหรือวิวสวน โซนนี้เหมาะสมที่สุดเลยค่ะ
Co-Working Space อยู่ด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ไม่โดนแดดโดยตรง จึงไม่ร้อนมากนัก มองออกไปจะเห็นวิวชั้นเมืองเก่าอย่างจัดเจน เพราะอาคารติดกับเขตเมืองเก่าที่อาคารมักสูงไม่เกิน 4-5 ชั้น เราจึงได้มองวิวอย่างไม่มีอะไรมาบดบัง
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- Lobby
- สวนหย่อมที่ชั้น 1, 5 (อาคาร A)
- สระว่ายน้ำระบบ เกลือ ขนาด 20 x 8 m. ลึก 1.20 m. พร้อม jacuzzi
- ห้องออกกำลังกาย
- The Sky Garden & Arun Terrace
- The Co-Op Society (Co-Working Space)
- Meeting Room
- ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
- อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 68 : 1
- อัตราส่วนลิฟต์ตึก A 50 : 1
- อัตราส่วนลิฟต์ตึก B 85 : 1
- ที่จอดรถประมาณ 105 คันคิดเป็น 39%
- ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ Katsan (สแกนป้ายทะเบียน) / VSM / Face Scan
แบบห้อง
Highlights :
- มีห้องหน้ากว้างให้เลือกทุก Type : ได้แสงสว่างทั่วทั้งห้อง ห้องจึงดูโปร่งโล่งมากขึ้น
- มีแบบห้องให้เลือกมากกว่า 21 แบบ : ตอบโจทย์การอยู่อาศัยที่หลากหลาย
ห้องพักอาศัยในโครงการ Aspire Itsaraphap Station (แอสปาย อิสรภาพ สเตชั่น) จะขายแบบ Fully Fitted จะได้เฟอร์นิเจอร์เฉพาะชุดครัวและวัสดุสุขภัณฑ์ในห้องน้ำ โดยมีราคาเริ่มต้น 2.6 ล้านบาท ซึ่งเป็นราคาที่จับต้องได้ง่ายเป็นอันดับต้นๆของคอนโดย่านนี้เลยค่ะ เรื่องรูปแบบห้องนั้น มีให้เลือกหลากหลายทีเดียว ทั้งห้องหน้ากว้างและห้องปกติ ตอบโจทย์การอยู่อาศัยและการใช้งานในหลายประเภท ไม่ว่าจะอยู่คนเดียว อยู่กันเป็นคู่หรืออยู่แบบครอบครัว 3-4 คน โดยที่แต่ละแบบมีให้เลือกดังนี้ค่ะ
Studio พื้นที่ใช้สอย 25.5 ตารางเมตร
ห้อง Studio
ห้อง 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 28 – 32 ตร.ม.
ห้อง 1 Bedroom
ห้อง 1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอย 35 – 40 ตร.ม.
ห้อง 1 Bedroom Plus
ห้อง 2 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 47.5 – 57.5 ตร.ม.
ห้อง 2 Bedroom
วัสดุภายในห้อง
– พื้นห้อง : พื้นลามิเนต หนา 8 mm.
– พื้นระเบียง : กระเบื้องเซรามิก ขนาด 30×30 cm.
– ผนังห้องฉาบเรียบทาสีขาว
– ประตู HDF
– เครื่องปรับอากาศแบบ Wall Type จาก Panasonic (จำนวนเครื่องขึ้นอยู่กับแบบห้อง)
วัสดุห้องครัว
– วัสดุพื้นห้องครัว : กระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60×60 cm.
– Top Counter ด้วยวัสดุหินสังเคราะห์ พร้อม Built-in เคาน์เตอร์, อ่างล้างจาน , Hob , Hood จาก Mex
– บานตู้เก็บของปิดผิวเมลานีน
– Backsplash กระเบื้องแกรนิตโต้
วัสดุห้องน้ำ
– พื้นและผนังห้องน้ำ : กระเบื้องเซรามิก ขนาด 60×60 cm.
– ก๊อกน้ำ, อ่างล้างมือ, โถสุขภัณฑ์และฝักบัว จาก COTTO
– บานตู้เก็บของปิดผิวเมลานีน
– ฉากกั้นกระจกอาบน้ำ จาก Cristina
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ห้องตัวอย่าง 1 Bedroom Plus D2 พื้นที่ใช้สอย 35 ตร.ม.
ห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 35 ตร.ม. เป็นห้องที่มีจำนวนมากเป็นอันดับที่ 2 ของโครงการและได้รับความสนใจจากผู้คนที่แวะเวียนเข้ามาชมโครงการมากที่สุดเลยค่ะ เหมาะกับการอยู่อาศัยแบบ 1-2 คน ปัจจุบันห้องนี้มีราคาเริ่มต้น 3.79 ล้านบาท
- ห้องครัวแบบเปิดขนาดเล็ก เหมาะกับคนที่ไม่ชอบทำอาหาร หรือทำไม่จริงจังมากนัก เน้นประกอบอาหารที่ไม่มีควันฟุ้งหรือกลิ่นฉุน
- ห้องนั่งเล่นอยู่โซนด้านใน เป็นห้องด้านใน ไม่อยู่ติดริมหน้าต่างหรือกำเเพง จะไม่ร้อนมากนัก แต่จะได้แสงสว่างธรรมชาติน้อยกว่า
- ห้องอเนกประสงค์ติดหน้าต่าง ได้รับแสงธรรมชาติ และเชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่นได้
- ห้องน้ำแบบ Jack And Jill เข้าถึงได้จากห้องนอนและห้องนั่งเล่น ทำให้เจ้าของห้องไม่เสียความเป็นส่วนตัวเวลาแขกจะเข้าห้องน้ำ
- ห้องนอนใหญ่ติดระเบียง วางเตียง 5 ฟุตได้และเหลือพื้นที่สำหรับวางตู้เสื้อผ้า นอกจากนี้ยังติดกับระเบียง ทำให้เจ้าของห้องสามารถเปิดประตูรับลม และมองวิวภายนอกจากห้องนอนได้เลย
ภายในห้องตัวอย่างจะเป็นอย่างไรบ้าง ไปชมกันเลยค่ะ
สิ่งแรกที่เราคิดหลังจากเดินเข้ามาให้ห้องตัวอย่างคือ นี่คือห้องขนาด 35 ตร.ม.จริงหรอ เพราะเรารู้สึกกว่ามันกว้างกว่านั้นซะอีก และทุกฟังก์ชันก็ถูกจัดไว้เป็นสัดส่วน โดยพื้นที่แรกที่เราจะเจอเมื่อเข้ามายังตัวห้องคือ ห้องครัวแบบเปิดและพื้นที่รับประทานอาหาร ส่วนพื้นที่ปูด้วยลามิเนต หนา 8 mm. ทำให้แข็งแรงมากกว่าแบบ 4 mm. ที่เป็นมาตรฐานทั่วไป
พื้นที่ห้องครัวมีขนาดไม่กว้างมากนัก เหมาะกับการช่วยกันทำอาหาร 1-2 คน ข้างๆเคาน์เตอร์มีพื้นที่ให้วางตู้เย็นได้ เวลาประกอบอาหารจะได้หยิบวัตถุได้สะดวก ทำให้การใช้งานต่อเนื่องดีค่ะ
ชุดครัว Built-in ในห้องครัวพร้อมตู้เก็บของด้านล่าง
ห้องครัวให้ Built-in Top เคาน์เตอร์ครัวเป็นหินสังเคราะห์ แข็งแรงทนความร้อน ทนต่อการขีดข่วน ทำความสะอาดง่าย ส่วนใต้เคาน์เตอร์ Built-in เป็นตู้เก็บของด้านล่าง ที่มีบานเปิดตู้เก็บของเป็นผิวเมลามีน ซึ่งอาจจะไม่ทนต่อความชื้นมากนัก เราต้องคอยเช็ดทำความสะอาดอยู่เสมอ
เคาน์เตอร์ครัวมีทั้งส่วนทำอาคาร เตรียมอาหารและซิงค์ล้างจาน
เคาน์เตอร์แบ่งเป็น 3 ส่วนคือส่วนแรกคือส่วนทำอาหาร ที่ให้เตาไฟฟ้าชนิด 2 หัวเตาพร้อมที่ดูดควันของ Mex ซึ่งเป็นระบบดูดควันออกไปภายนอกอาคาร กำจัดกลิ่นควันได้ดีกว่าระบบหมุนเวียนค่ะ ส่วน Backsplash กรุกระเบื้องให้แบบนี้เลย ทำความสะอาดได้ง่ายค่ะ ส่วนที่สองคือพื้นที่สำหรับเตรียมอาหารซึ่งมีขนาดเล็ก โครงการจึงให้ฝาปิดซิงค์ล้างจานมาครึ่งหนึ่ง ทำให้ได้พื้นที่เตรียมอาหารมากขึ้น ส่วนสุดท้ายคือซิงค์ล้างจานที่มีความลึก ล้างจานได้สะดวก น้ำไม่กระเด็นออกมาค่ะ
ด้านบนเคาน์เตอร์เป็นตู้เก็บของและช่องเก็บของ
นอกจากนี้โครงการจะ Built-in ตู้ลอยมาให้ใช้เก็บของเพิ่มเติมและมีช่องสำหรับวางไมโครเวฟมาให้ครบเลยค่ะ
ตรงข้ามกับโซนครัวเป็นพื้นที่สำหรับรับประทานอาหาร ช่วยให้การใช้งานต่อเนื่อง มุมนี้โครงการจัดเฟอร์นิเจอร์เข้ามุมช่วยใช้พื้นที่การใช้งานดูลงตัวมากขึ้น และประหยัดพื้นที่การใช้งาน
ถัดมาจากโซนครัวเป็นห้องนั่งเล่นที่มีขนาดประมาณ 2.25 x 2.4 m. มีความสูงพื้น-ฝ้าอยู่ที่ 2.60 m. สำหรับห้องนั่งเล่นมีระยะดูทีวีประมาณ 2.4 m. เหมาะกับการติดตั้งทีวีขนาด 46 นิ้ว มีพื้นที่พอที่จะวางโซฟา 3 ที่นั่งกับโต๊ะเล็กๆไว้วางของกินขณะดูทีวี
ห้องนั่งเล่นกับห้องอเนกประสงค์ปิดกั้นด้วยประตูบานเลื่อน 3 ตอน
ห้องนั่งเล่นสามารถเปิดเชื่อมต่อกับห้องอเนกประสงค์ได้ด้วยนะคะ โดยมีประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน จะสามารถเปิดได้กว้างกว่าแบบ 2 ตอน ทำให้แสงธรรมชาติเข้ามาถึงห้องนั่งเล่นด้วย ช่วยให้ห้องดูโปร่งมากขึ้น
ห้อง Type นี้ให้แอร์ Wall Type ของ Panasonic มาให้บริเวณห้องนั่งเล่นและห้องนอน ตามมาตรฐานโครงการระดับนี้
ห้องอเนกประสงค์มีขนาดประมาณ 2.15 x 2.4 m. ดูจากขนาดแล้วสามารถจัดเป็นห้องนอนเล็ก วางเตียงขนาด 3.5 ฟุตได้เลย หากวางชิดกำแพงด้านใดด้านหนึ่งจะช่วยประหยัดพื้นที่อีกด้วย หรือใครอยากจะจัดเป็นห้องทำงานแบบห้องตัวอย่างก็ได้นะคะ มีพื้นที่วางโซฟา 2-3 ที่นั่งได้ พร้อมมีพื้นที่ให้จัดเป็นมุมทำงานได้ด้วย
ถ้าอยู่กัน 2 คน แล้วคนหนึ่งจะทำงาน อีกคนจะดูทีวี ก็สามารถเปิดประตูบานเลื่อน เพื่อแยกโซนการใช้งานที่ชัดเจน และไม่รบกวนซึ่งกันและกันค่ะ
หน้าต่างที่ห้องอเนกประสงค์เป็นบานกระทุ้ง
ภายในห้องอเนกประสงค์มีหน้าต่างบานกระทุ้ง ข้อดีคือเราสามารถเปิดระบายอากาศได้ โดยฝุ่น , แมลงจะเข้ามาภายในห้องได้ยากกว่าหน้าต่างบานเปิด ที่สำคัญคือป้องกันฝนสาดเข้าห้องได้ดีกว่าหน้าต่างบานเลื่อนค่ะ
ห้องนอนกั้นห้องด้วยผนังทึบ ทำให้เราได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น โดยห้องนี้มีขนาดประมาณ 3.4 x 2.55 m. สามารถวางเตียง 5 ฟุตได้แล้วยังเหลือพื้นที่รอบๆเตียงอยู่ หากใครชอบดูทีวี แนะนำให้ติดตั้งทีวีแบบแขวนนะคะ ข้อดีของห้องนอนแบบนี้คือติดกับระเบียง สามารถออกไปสูดอากาศ รับลมได้
ประตูระเบียงเป็นประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน คนเดินออกไปใช้งานได้พอดี
ด้านในสุดของห้องเป็นระเบียง ซึ่งประตูให้มาเป็นบานเลื่อนแบบ 2 ตอนจึงเปิดได้กว้างประมาณ 0.75 m. พอให้เดินผ่านเข้าออกทีละคนได้ แนะนำให้ติดมุ้งลวดแบบจีบเพิ่มอีกหน่อย เพื่อช่วยกันยุงกันแมลง จะได้เปิดประตูรับลมได้นะคะ
พื้นระเบียงมีการลดระดับลงมาจากพื้นห้องเล็กน้อย กันฝุ่นและน้ำจากภายนอกไหลย้อน
ภายในห้องนอนระเบียงขนาดประมาณ 0.9 x 2.5 m. มีพื้นที่ให้วางเครื่องซักผ้าได้ แนะนำให้ติดราวตากผ้าแบบแขวนเพิ่มเติม ส่วน Condensing Unit จะแขวนไว้ด้านบนแล้วหันตัวเครื่องออกไปด้านนอกอาคาร ทำให้ใช้งานพื้นที่ส่วนอื่นได้เต็มที่ และคนที่ใช้งานระเบียงไม่ได้รับลมร้อนค่ะ
ภายในห้องนอนมีพื้นที่ให้จัดเป็นมุมแต่งตัว อยู่บริเวณหน้าห้องน้ำ ทำให้การใช้งานต่อเนื่อง เราสามารถอาบน้ำเสร็จแล้วออกมาแต่งตัวได้เลย
ห้องน้ำมีการยกขอบธรณีประตูขึ้นมา กันน้ำไหลย้อน
ห้องน้ำเป็นแบบ Jack and Jill เข้า-ออกได้ 2 ทาง ทำให้เจ้าของห้องเข้าถึงห้องน้ำได้ง่ายเวลานอน ในขณะเดียวกันแขกที่มาเยี่ยมเยียนก็เข้าห้องน้ำได้ โดยที่เจ้าของห้องไม่เสียความเป็นส่วนตัว ตัวห้องน้ำมีการยกขอบธรณีขึ้นมาเพื่อกันน้ำไหลออก แล้วยังช่วยให้เราสามารถทำความสะอาดห้องน้ำได้อย่างเต็มที่ ไม่ต้องกลัวว่าน้ำจะกระเด็นออกมาด้านนอกค่ะ
ห้องน้ำมีชุดสุขภัณฑ์ของ Cotto มาให้ครบตามมาตรฐาน
ภายในห้องน้ำแบ่งส่วนเปียกส่วนแห้งได้อย่างชัดเจน มี Built-in ชั้นวางของและสุขภัณฑ์ต่างๆ ไว้ครบครันตามห้องตัวอย่างเลยค่ะ
ฉากกั้นอาบน้ำเป็นบานเลื่อน 3 ตอนของ Cristina มีข้อดีที่เวลาเปิดใช้งานจะกว้างกว่าแบบ 2 ตอน เดินเข้า-ออกส่วนอาบน้ำได้สะดวกกว่า
พื้นที่ส่วนอาบน้ำ
พื้นที่อาบน้ำมีขนาด 0.85 x 1.05 เมตร ถือว่าอาบน้ำได้สะดวกดีค่ะ โครงการจะไม่ได้ติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นให้ แต่จะมี Junction ไว้ให้ ลูกบ้านต้องซื้อมาติดตั้งเองได้
ห้องตัวอย่าง 1 Bedroom C1M พื้นที่ใช้สอย 31 ตร.ม.
ห้อง 1 Bedroom เป็นห้องที่มีจำนวนมากที่สุดในโครงการ เหมาะกับการอยู่อาศัยแบบ 1-2 คน ปัจจุบันห้องนี้มีราคาเริ่มต้น 2.99 ล้านบาท
- Common Area ขนาดใหญ่ รวมพื้นที่นั่งเล่นและพื้นที่รับประทานอาหารเข้าด้วยกัน อยู่โซนด้านในของห้อง จะได้แสงธรรมชาติน้อยกว่า แต่ก็จะไม่อยู่ริมกำแพง หรือหน้าต่างทำให้ได้รับความร้อนในช่วงกลางวันน้อยกว่าเช่นกัน
- ห้องน้ำอยู่ใกล้ประตูห้อง เข้าถึงได้สะดวกเวลากลับเข้าคอนโดมา ภายในห้องน้ำมีการแยกโซนเป็นสัดส่วน
- ครัวแบบปิด ติดระเบียง สามารถทำอาหารได้จริงจัง โดยไม่มีกลิ่นไปรบกวนในส่วนพื้นที่พักผ่อนอื่นๆ เพราะมีประตูกั้นเป็นสัดส่วนและเปิดระบายกลิ่นควันทางระเบียงได้
- ห้องนอนใหญ่ ภายในจัดวางเตียง 5 ฟุตพร้อมพื้นที่แต่งตัว ภายในมีหน้าต่างบานใหญ่ สามารถมองวิวได้จากบนเตียงนอนเลย ส่วนประตูจะเป็นบานกระจกช่วยให้ห้องดูโปร่งโล่งไม่ทึบตัน ถ้าอยู่ 2 คนแนะนำให้ติดม่านเพิ่มเพื่อความเป็นส่วนตัวในแต่ละห้อง
เมื่อเขามาในตัวห้องเราจะยังไม่เจอห้องนั่งเล่นโดยตรงนะคะ แต่จะเจอพื้นสำหรับวางตู้เก็บของ หรือตู้รองเท้ากับห้องน้ำก่อน ช่วยบังสายตาก่อนถึง Common Area ทำให้เจ้าของห้องได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ตัวพื้นปูด้วยลามิเนต 8 mm. ทำให้แข็งแรงมากกว่าแบบ 4 mm. ที่เป็นมาตรฐานทั่วไป
พื้นที่หน้าประตูหลักเป็นพื้นที่สำหรับวางตู้เก็บของ แนะนำให้ทำเป็นตู้รองเท้าเพื่อจะได้เก็บและหยิบได้สะดวกเวลาเข้า-ออกห้องค่ะ
ห้องน้ำมีชุดสุขภัณฑ์ของ Cotto มาให้ครบตามมาตรฐาน
ห้องน้ำภายในห้องจัดแปลนมาเหมือนห้องน้ำห้อง 1 Bedroom Plus เลยค่ะ เพียงแต่มีทางเข้า-ออกเพียงทางเดียวเท่านั้น ภายในส่วนห้องน้ำแบ่งพื้นที่ภายในไว้เป็นสัดส่วน แยกส่วนเปียก-ส่วนแห้งได้อย่างชัดเจน ตัวห้องน้ำมีการยกขอบธรณีขึ้นมาเพื่อกันน้ำไหลออก แล้วยังช่วยให้เราสามารถทำความสะอาดห้องน้ำได้อย่างเต็มที่
ภายในห้องน้ำมีพื้นที่เก็บของมาให้ค่อนข้างเยอะค่ะ มีทั้งตู้เก็บของตรงกระจกและใต้ซิงค์ล้างจาน ทำให้เราเก็บอุปกรณ์อาบน้ำได้เป็นระเบียบ และหยิบมาใช้ได้ง่าย
Common Area อยู่โซนด้านในห้อง ทำให้แสงเข้าถึงน้อยกว่า อาจต้องเปิดไฟช่วยในบางเวลา แต่ก็จะไม่ร้อนเท่าห้องริมหน้าต่างหรือริมอาคาร ตัวห้องมีขนาดใหญ่มากเลยนะคะ มีระยะดูทีวีประมาณ 4 m. เหมาะกับการติดตั้งทีวีขนาดใหญ่ถึง 70 นิ้วเลยค่ะ เพื่อการรับชมที่ชัดเจน
พื้นที่ตรงนี้วางโซฟาได้ 3-4 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะเล็กสำหรับวางของกินเวลาดูทีวี ถ้าใครต้องการใช้พื้นที่ตรงนี้รับประทานอาหารไปด้วย แนะนำให้เลือกโต๊ะหน้าทีวีขนาดใหญ่และสูงขึ้นมาหน่อยค่ะ
ผนังที่เราติดตั้งทีวีเป็นผนังยาวต่อเนื่องมาตั้งแต่บริเวณหน้าห้อง ถ้าใครมีข้าวของอุปกรณ์ของใช้ในบ้านเยอะ แนะนำให้ Built-in เป็นตู้เก็บของยาวมาเลยค่ะ แต่ถ้าใครมีของสะสมจะทำเป็นตู้โชว์ก็ดีนะคะ
ห้องครัวเป็นแบบปิด กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน ช่วยกันกลิ่นควันไม่ให้ลอยออกไปส่วนอื่นๆของห้องพัก
ตามมาตรฐานภายในห้องครัวจะมีชุดครัว Built-in มาให้เหมือนในห้องตัวอย่าง ยกเว้นไมโครเวฟและตู้เย็น ภายในห้องครัวเหลือระยะทำครัวหรือเดินผ่าน 0.9 m. พอให้คนทำอาหารแล้วอีกคนเดินผ่านได้พอดี
ชุดครัว Built-in ในห้องครัวพร้อมตู้เก็บของด้านล่าง
ด้านล่างเคาน์เตอร์ครัวจะมีตู้เก็บช้อนส้อม และตู้เก็บของต่างๆ ให้ใช้งานกันได้พอสมควร
เคาน์เตอร์ครัวมีทั้งส่วนทำอาคาร เตรียมอาหารและซิงค์ล้างจาน
ในส่วนของเคาน์เตอร์ครัวแบ่งพื้นที่ใช้งานมาได้ครบซิงค์ล้างจาน, เตาไฟฟ้าพร้อมเครื่องดูดควันจาก Mex และมีพื้นที่รอบๆ ให้เตรียมอาหาร โดยโครงการให้ฝาปิดซิงค์ล้างจานมาครึ่งหนึ่ง ทำให้เราได้พื้นที่เตรียมอาหารเพิ่มค่ะ ส่วน Backsplash ที่ผนังหลังเคาน์เตอร์มาให้วัสดุเป็นกระเบื้อง ช่วยกันเปื้อนและทำความสะอาดได้ง่ายขึ้น
ด้านบนเคาน์เตอร์เป็นตู้เก็บของและช่องสำหรับวางไมโครเวฟ
นอกจากนี้โครงการจะ Built-in ตู้ลอยมาให้ใช้เก็บของเพิ่มเติมและมีช่องสำหรับวางไมโครเวฟมาให้ครบเลย
ติดกับห้องครัวเป็นระเบียง สามารถเปิดประตูเพื่อระบายอากาศได้เวลาทำอาหารค่ะ พื้นที่ระเบียงมีขนาดประมาณ 1.35 x 1.5 m. มีพื้นที่ให้วางเครื่องซักผ้าได้ แนะนำให้ติดตั้งราวตากผ้าแบบแขวน เพื่อประหยัดพื้นที่ค่ะ ส่วนพื้นระเบียงมีการลดระดับลงมาเล็กน้อย เพื่อกันน้ำไหลย้อนค่ะ
Condensing Unit จะแขวนไว้ด้านบน หันหน้าเข้าหาระเบียง โครงการจึงติดตั้ง Grill ที่ Condensing Unit ของแอร์ เพื่อให้ลมร้อนพัดออกไปด้านนอก ทำให้คนที่มาใช้งานพื้นที่ระเบียงไม่รู้สึกร้อน
ภายในห้องนอนกว้างพอสมควรเลยค่ะ สามารถวางเตียงนอนขนาด 5 ได้ แล้วยังเหลือพื้นที่จัดเป็นมุมทำงานได้ด้วย แต่ประตูห้องนอนเป็นกระจกแนะนำให้ติดตั้งผ้าม่าน เพื่อความเป็นส่วนตัวนะ
ภายในห้องมีหน้าต่างบานกระทุ้ง 2 บานให้เราพอเปิดระบายอากาศได้ ปลายเตียงเหลือพื้นที่ในเดินได้เล็กน้อย ถ้าใครชอบดูหนังแนะนำให้ติดตั้งทีวีแบบแขวนนะ
ข้างๆเตียงเหลือมุมให้จัดเป็นโต๊ะทำงาน หรือจะทำเป็นมุมแต่งตัวก็ดีนะคะ เพราะเป็นฝั่งที่ใกล้ห้องน้ำพอดี อาบน้ำเสร็จจะได้มาเปลี่ยนเสื้อผ้าแต่งตัวได้สะดวก
ราคา
Aspire Itsaraphap Station (แอสปาย อิสรภาพ สเตชั่น) ณ วันที่ 27 พฤศจิกายน 2567
- ห้อง Studio พื้นที่ใช้สอย 25.5 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.6 ล้านบาท
- ห้อง 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 28 – 32 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.99 ล้านบาท
- ห้อง 1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอย 35 – 40 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.79 ล้านบาท
- ห้อง 2 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 47.5 – 57.5 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 5.1 ล้านบาท
- รูปแบบการขาย Fully Fitted
- ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.60 เมตร
- Kitchen & Sink / ท็อปหินสังเคราะห์
- Hob & Hood / ของยี่ห้อ MEX
- จอง 10,000 บาท
- ทำสัญญา 10,000 บาท
- ดาวน์ 7% ผ่อนดาวน์ 13-17 งวด
- ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
- ค่าส่วนกลาง 59 บาท/ตร.ม./เดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
บทสรุป
ทำเล : Aspire Itsaraphap Station (แอสปาย อิสรภาพ สเตชั่น) ตั้งอยู่ติดถนนวังเดิม เชื่อมต่อไปได้ทั้งถนนอิสรภาพและถนนอรุณอมรินทร์ ใกล้แหล่งทำงานที่เป็นสถานที่ราชการหลายแห่ง เช่น กรมช่างโยธาทหารเรือ สถานีตำรวจนครบาลบางกอกใหญ่ รวมถึงโรงพยาบาลศิริราชและโรงพยาบาลธนบุรี ใครที่ทำงานในสถานที่เหล่านี้เดินทางไปทำงานได้สะดวกมากๆ นอกจากนี้ยังใกล้แหล่งความอุดมสมบูรณ์อย่าง Big C อิสรภาพ ลูกบ้านสามารถหาของกินของใช้ได้ง่าย ส่วนห้างใหญ่ที่ใกล้ก็มีทั้ง Icon siam และ The Mall ท่าพระ
การเดินทางโดยใช้รถส่วนตัว : จากโครงการสามารถไปยังถนนอิสรภาพและถนนอรุณอมรินทร์ได้ง่ายค่ะ ทำให้คนเดินทางไปโซน ศิริราช , ปิ่นเกล้า , วงเวียนใหญ่และคลองสานได้ง่าย นอกจากนี้ยังไม่ไกลจากทางด่วนศรีรัชมากนัก ใช้เดินทางไปยังโซนจตุจักร , พญาไทและพระราม 9 ได้ค่ะ
การเดินทางโดยไม่ใช้รถ : ทำเลนี้มีตัวช่วยในการเดินทางหลายหลากพอสมควรค่ะ โครงการนี้อยู่ใกล้ MRT อิสรภาพเพียง 400 m. เรียกว่าเดินไปใช้รถไฟฟ้าได้สบายๆ ข้อดีคือรถไฟฟ้าสายนี้เป็นสายสีน้ำเงิน นั่งต่อเดียวก็เข้าไปยังตัวเมืองได้แล้ว นอกจากนี้ยังมีท่าเรือตรงวัดอรุณ ที่มีทั้งเรือข้ามฟากและเรือด่วนเจ้าพระยาด้วย ใช้เดินทางไปท่าพระจันทร์ , ท่าเตียน , ท่าช้าง ซึ่งเป็นโซนที่ใกล้สถานศึกษาชื่อดังอีกหลายแห่ง เช่นมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และมหาวิทยาลัยศิลปากร ส่วนรถสาธารณะก็เดินไปใช้บริการได้ไม่ยากเพราะถนนอิสรภาพและถนนอรุณมีทั้งรถเมล์และรถกระป้อผ่านมากมาย
วัสดุ : ให้ตามมาตรฐานของระดับราคา ขายแบบ Fully Fitted ได้เฟอร์นิเจอร์บางส่วน คือเคาน์เตอร์ครัวและสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำ เหมาะกับคนที่ชอบตกแต่งและเลือกซื้อเฟอร์ฯ เองตามความชอบของผู้อยู่อาศัย ส่วนวัสดุอื่นๆให้มาตามมาตรฐานโครงการราคาระดับนี้
การออกแบบโครงการ : โครงการจัดผังได้ดีแบ่งแยกระหว่างรถที่มาส่งคนและรถของลูกบ้านอย่างชัดเจน การเข้าถึงส่วนกลางจะต้องมีการสแกนใบหน้าก่อนทุกจุด ทำให้ลูกบ้านได้ความปลอดภัย แต่ที่เราชอบคือโครงการออกแบบให้ส่วนกลางที่อยู่บนอาคารหันไปทางวิวเมืองเก่าทั้งหมด ทำให้ทั้งอาคาร A และ B เห็นวิววัดอรุณ โครงการออกแบบให้อาคาร A เหมาะกับคนที่ชอบทำงานและดูวิว เพราะมีทั้ง Co-Working Room , Meeting Room และ Terrace ส่วนอาคาร B เหมาะกับคนที่ชอบออกกำลังกายเพราะเข้าถึงฟิตเนสได้ง่ายกว่า
การออกแบบห้อง : ห้องในโครงการออกแบบมารองรับการอยู่อาศัยได้ 1 – 4 คน มีห้องหลากหลายขนาดให้เลือกสรร ตั้งแต่แบบ Studio , 1 Bedroom , 1 Bedroom Plus และ 2 Bedroom เราสามารถเลือกให้เหมาะสมกับจำนวนสมาชิกในบ้าน ภายในห้องมีการกั้นสัดส่วนอย่างชัดเจน เน้นพื้นที่ Common Area ที่มีขนาดใหญ่ซึ่งเป็นโซนที่คนอยู่มากที่สุดในแต่ละวันทำให้ รู้สึกว่าอยู่สบาย ห้อง 1 Bedroom ได้ครัวปิด ทำอาหารได้จริงจังไม่ต้องกลัวกลิ่นควันลอยไปที่อื่น ส่วนห้อง 1 Bedroom Plus ได้ห้องน้ำแบบ Jack & Jill เข้า-ออกได้ 2 ทาง เจ้าของห้องไม่เสียความเป็นส่วนตัวเวลาแขกมาใช้งาน
สาธารณูปโภค : โครงการกระจายส่วนกลางไว้ทั้ง 2 อาคารและหลายชั้น ทำให้การใช้งานไม่หนาแน่น Facility มีให้ครบตามมาตรฐาน ส่วนกลางอื่นๆอย่าง Co-Working Room , Meeting Room และ Terrace จะอยู่ชั้นบนสุดของอาคาร หันไปทางเมืองเก่า จึงได้วิววัดอรุณชัดเจนค่ะ
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 100,000 บาท/ตร.ม., ณ วันที่ 27 พฤศจิกายน 2567
- ทำเล 7.75/10 – ใกล้ศิริราชและ MRT อิสรภาพ
- เดินทางด้วยรถ 7.5/10 – จากโครงการเดินทางไปถนนอิสรภาพ และถนนอรุณอมรินทร์ได้ง่าย มีจุดขึ้นทางด่วนอยู่ไม่ไกลมากนัก
- ไม่ใช้รถ 7.75/10 – เดินไปรถไฟฟ้าได้ มีท่าเรืออยู่ใกล้ๆให้ใช้งาน
- วัสดุ 7.5/10 – Fully Fitted มาตรฐานตามระดับราคา
- แบบ 8/10 – มีให้เลือกกว่า 21 แบบ มีห้องหน้ากว้างให้เลือก
- สาธารณูปโภค 8.5/10 – ส่วนกลางเป็น Sky Facility
- MAIN CLASS
- 7.77 / 10.00
Aspire Itsaraphap Station (แอสปาย อิสรภาพ สเตชั่น) เหมาะกับใคร
โครงการ Aspire Itsaraphap Station (แอสปาย อิสรภาพ สเตชั่น) เหมาะกับคนที่ต้องการคอนโดโซนอิสรภาพใกล้โรงพยาบาลศิริราช ใกล้รถไฟฟ้า เดินทางไปโซนต่างๆของเมืองได้สะดวก เหมาะกับคนที่ทำงานตามแนวรถไฟฟ้า และโซนศิริราช , ปิ่นเกล้า ,วงเวียนใหญ่ ชอบโครงการที่มี Sky Facilities เน้นชมวิวเมืองเก่า ส่วนห้องพักมีให้เลือกหลายแบบตั้งแต่ Studio , 1 Bedroom , 1 Bedroom Plus และ 2 Bedroom อาศัยได้ 1-4 คน มีงบประมาณเริ่ม 2.6 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนเริ่มต้นประมาณ 18,200 บาท/เดือน
Think of Living รวบรวมมาให้แล้ว!
โครงการเปิดใหม่ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮมและคอนโดมิเนียม ในทำเลทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ในทุกๆเดือนย้อนหลัง ใครที่กำลังมองหาบ้านห้ามพลาด อาจจะมีโครงการในราคาและทำเลที่เพื่อนๆ ตามหาอยู่ก็เป็นได้นะ
เข้ามาชมบทความรายเดือนได้เลย คลิกที่นี่