รีวิวโครงการ
28 Chidlom : The Sneak EP.93
16 มกราคม 2021
รีวิวฉบับที่ 1280 … สวัสดีค่ะ วันนี้จะพาไปชม 28 Chidlom คอนโดหรูตัวใหม่จาก Sc Asset เป็น 1 ใน 3 ในกลุ่ม “Limited Luxury Collection” ตั้งอยู่ใจกลางเมืองบนถนนชิดลมแท้ๆ บนที่ดินแพงที่สุดในประเทศไทยและเป็นทำเลที่หาที่ดินมาพัฒนาเป็นโครงการได้ยาก ใกล้แหล่งอำนวยความสะดวกชั้นนำต่างๆ ห่างจาก BTS ชิดลมประมาณ 280 เมตร โดยชื่อโครงการมาจากบ้านเลขที่ 28 นั่นเอง เค้าจะทำออกมาเป็นแบบไหนตามไปชมกันเลยค่ะ
Fact @ 2 February 2017
- 28 Chidlom (ทเวนตี้เอท ชิดลม)
- SC Asset Corporation Plc.
- ULTIMATE CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ในเขต : ปทุมวัน
- คอนโด High Rise 2 อาคาร จำนวนรวม 427 ยูนิต : The Villa สูง 20 ชั้น 184 ยูนิต , The Tower สูง 47 ชั้น 243 ยูนิต
- ที่จอดรถประมาณ 358 คันคิดเป็น 84% ไม่รวมจอดซ้อนคัน
- ที่ดินประมาณ 3-0-24 ไร่
- เริ่มก่อสร้าง : พฤศจิกายน ปี 2559
- คาดว่าจะแล้วเสร็จ : ปี 2563
- Studio 33 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 11 ล้านบาท (10 ยูนิต)
- 1 Bedroom 40-50 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 14 ล้านบาท
- 2 Bedroom 69-91 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 22 ล้านบาท
- 3 Bedroom 120-200 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 49 ล้านบาท
- Penthouse 100-190 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 42 ล้านบาท
- ฝ้าเพดานสูง 3.10 เมตร
- ราคาห้องเริ่มต้น 14 ล้านบาท (1 Bedroom)
- ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ 350,000 บาท/ตร.ม.
- ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรต่ำสุด-สูงสุด n/a บาท/ตร.ม.
- EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : ผ่านแล้ว
- อ่านรีวิวทำเลโครงการ 28 Chidlom (คลิกที่นี่)
- เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
- Call Center : 1749
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างค่ะ
พิกัด : 13.746526, 100.544257
ตัวรีวิวทำเลแบบละเอียดทางทีมงานได้ทำไปแล้ว ดังนั้นเราจะเริ่มในส่วนของโครงการเลยนะคะ สามารถเข้าไปอ่านได้โดยคลิ๊กที่นี่
แผนที่จากทางโครงการค่ะ
เอาแผนที่มาให้ดูกันอีกรอบนะคะ โครงการตั้งอยู่บนถนนชิดลมซึ่งเป็นถนนระยะสั้นๆประมาณ 600 เมตร มีลักษณะเป็นทาง one-way ทำเลโดยรอบเป็นจุดที่เรียกว่าเป็น CBD (central business district) แห่งหนึ่งของกรุงเทพจากความอุดมสมบูรณ์ในระยะเดินและเป็นพื้นที่ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นของ Lifestyle คนเมือง ใกล้ Central ชิดลม Central embassy ไกลออกไปหน่อยที่แยกราชประสงค์คือ Central world สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ นอกจากนั้นก็ยังมีโรงแรม อาคารสำนักงาน เช่น Park venture, เพลินจิต เซ็นเตอร์ มีโรงพยาบาลจุฬา โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ โรงเรียนมาแตร์เดอี จุฬาลงกรณ์ และอีกมากมาย โดยฝั่งตรงข้ามของแปลงที่ดินเองก็จะมี Neighborhood mall อย่าง McDonald’s ที่เปิด 24 ชั่วโมง และ 19 at chidlom มี starbuck ในระยะแค่ข้ามถนนเท่านั้น
ภาพมุมสูงที่แสดงให้เห็นภาพรวมของทำเล ว่าตั้งอยู่ใจกลางเมืองรายล้อมไปด้วยแหล่งอำนวยความสะดวก อย่าง ศูนย์การค้า อาคารสำนักงาน สวนสาธารณะ และ โรงแรม
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- Central ชิดลม – 180 เมตร
- โรงเรียนมาแตร์เดอี – 270 เมตร
- การไฟฟ้านครหลวง ชิดลม – 300 เมตร
- อาคารเมอร์คิวรี่ – 400 เมตร
- Central embassy – 500 เมตร
- ศูนย์การค้าเกษร – 550 เมตร
- Big C ราชดำริ – 750 เมตร
- Central world – 750 เมตร
- สวนลุมพินี – 1.4 กิโลเมตร
- RBSC – 1.8 กิโลเมตร
โครงการ 28 Chidlom เป็นคอนโด High Rise 2 อาคาร จำนวน 427 ยูนิต ตั้งอยู่ติดถนนชิดลมบนพื้นที่ 3-0-24 ไร่ การออกแบบงานสถาปัตยกรรมได้นำเอารูปทรงของ Jewel Box หรือ กล่องอัญมณี มาใช้ในการตกแต่ง Facade ของอาคาร โดยนำเอารูปทรงสี่เหลี่ยมที่ลดทอนมาจากกล่อง Jewel Box นั้นมาเรียงต่อแบบRandom ทำให้ตัวอาคารดูมีมิติ แบ่งอาคารออกเป็น 2 อาคาร เปิดพื้นที่ตรงกลางให้เป็นสวนหย่อมขนาดใหญ่ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากสภาพแวดล้อมเดิมของโครงการ “บ้านเลขที่ 28” ที่บรรยากาศร่มรื่น โดยจะมีการเก็บต้นไม้เดิมบางส่วนเอาไว้ด้วย
การดีไซน์ Facade ของอาคารจาก Concept “Jewel Box” ใช้รูปฟอร์มสี่เหลี่ยมเรียงสลับกัน ทำให้อาคารมีเอกลักษณ์ เน้นหน้าต่างบานใหญ่ให้เปิดรับวิวเมืองได้เต็มที่ค่ะ
โครงการแบ่งออกเป็นคอนโด High Rise 2 อาคาร อาคารที่อยู่ด้านหน้ามีชื่อว่า “The Villa” เป็นอาคารสูง 20 ชั้น 184 ยูนิต คาดว่าจะเปิดขายประมาณไตรมาสที่ 3 ส่วนอาคารที่อยู่ด้านหลัง ที่กำลังเปิดขายอยู่ในตอนนี้มีชื่อว่า “The Tower” เป็นอาคารสูง 47 ชั้น 243 ยูนิต
ทางเข้าออกของโครงการนี้อยู่ติดถนนชิดลม ซึ่งพอเข้ามาแล้วจะเจอกับอาคาร The Villa ก่อน พื้นที่ด้านหน้าจัดเป็นสวนหย่อม ที่จอดรถจะต้องขับเข้าไปจอดทางด้านใน
อาคาร The Villa นั้นเป็นคอนโดสูง 20 ชั้น ตอนนี้ทางโครงการยังไม่เปิดเผยข้อมูลนะคะ รู้แต่เพียงว่าจะเปิดขายราวๆไตรมาสที่ 3
สำหรับใครที่จะเอารถเข้ามาจอด รถจะวิ่งเป็น One way เข้ามาด้านในโครงการ จะเจอกับ Drop off ก่อน ซึ่งเราสามารถวนรถไปเข้าที่จอดรถของอาคาร The Villa ซึ่งเป็นช่องจอดแบบธรรมดาจอดได้ 222 คัน ส่วนถ้าตรงเข้าไปด้านในที่อาคาร The Tower ที่จอดรถจะเป็นระบบอัตโนมัติจอดได้ 136 คัน แบบไม่ Fix คัน ลูกบ้านจะจอดที่อาคารไหนก็ได้ รวมทั้งหมดจอดได้ประมาณ 84% แบบไม่รวมจอดซ้อนคัน ระยะห่างระหว่างอาคารทั้ง 2 ประมาณ 25 เมตร ตรงกลางเป็นสวนหย่อมค่ะ
ภาพจำลองบรรยากาศบริเวณ Drop off และสวนหย่อมของโครงการ จะเห็นว่าได้พื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่
Facilities ทางโครงการจะมี Lobby สระว่ายน้ำ ฟิตเนส แยกอาคารให้ นอกนั้น Facilities อื่นๆจะใช้ร่วมกันค่ะ สำหรับตอนนี้ จะพาไปชมเฉพาะในอาคาร The Tower ก่อนนะคะ โดยชั้นล่างมี Lobby & Reading Lounge การออกแบบภายในจะใช้รูปทรงสี่เหลี่ยมจาก Concept ของ Jewel Box มาตกแต่ง เน้นช่องแสงและหน้าต่างบานใหญ่ บริเวณผนังมีกรุหินอ่อนสีเขียว spider green
ชั้น12 มีพื้นที่ส่วนกลางคือ Heated Spa Pool และ Sauna & Steam
ส่วนชั้น 44 จะมี Sky Lap Pool , Kid’s Pool และ ฟิตเนสที่มี 2 ชั้น ยูนิตที่อยู่ชั้นเหนือกว่า Facilities ขึ้นไป ในชั้น 45 จะเป็นห้องแบบ Penthouse ส่วนชั้น 46-47 เป็นห้องแบบ Penthouse Duplex
สระว่ายน้ำระบบเกลือแบ่งออกเป็นสระผู้ใหญ่ขนาด 6.8 x 20 เมตร ลึก 1.2 เมตร สระเด็กขนาด 7.3 x 7.65 เมตร ลึก 0.6 เมตร บริเวณข้างๆสระจะมีศาลาที่สามารถเดินลงสระจากบริเวณนี้ได้เลย
ภาพจำลองบรรยากาศของสระค่ะ เนื่องจากอยู่บนชั้น 44 และดีไซน์ราวกันตกรอบสระเป็นกระจกใส จึงสามารถเปิดรับวิวเมืองแบบพาโนราม่าได้เต็มๆ
พอเห็นภาพโครงการคร่าวๆจากภาพจำลองบรรยากาศและโมเดลกันไปแล้ว เรามาดูผังรวมของโครงการต่อค่ะ จะเห็นว่าอาคารด้านหน้าคือ The Villa ส่วนอาคารด้านหลังคือ The Tower รถจะเดินทางเดียวเข้ามาจอดในอาคารโดย The Villa เป็นช่องจอดแบบธรรมดา ส่วน The Tower เป็นแบบอัตโนมัติ มีสวนขนาดใหญ่อยู่บริเวณด้านหน้าและตรงกลางโครงการ
บนชั้น 12 มี Heated Spa Pool และ Sauna & Steam
ในแต่ละชั้นจะมีจำนวนยูนิตไม่เยอะเพียงประมาณ 7 ยูนิตเท่านั้น จึงค่อนข้างเป็นส่วนตัว ห้อง 1 ห้องนอนทุกห้องหันหน้าไปทางทิศตะวันออก ส่วนห้องขนาดใหญ่จะอยู่วางให้อยู่บริเวณหัวมุมของอาคารเพื่อเปิดรับวิว 2 ด้าน ห้อง 1 ห้องนอนอยู่ตรงช่วงกลางของอาคาร พื้นที่โล่งๆที่ติดกับโถงลิฟต์เป็นพื้นที่สำหรับวาง Condensing Unit ของแอร์ทุกยูนิตรวมกัน ซึ่งข้อดีคือในห้องพักเราจะใช้พื้นที่ระเบียงได้เต็มที่ ลิฟต์โดยสารมี 4 ตัว ลิฟต์บริการอีก 1 ตัว อาคาร The Tower นี้มีอัตราส่วนลิฟต์เท่ากับ 49:1
แปลนชั้น 16 โดยภาพรวมแล้วคล้ายๆกันค่ะ มีต่างจากชั้นที่เอามาให้ดูก่อนหน้าตรงที่ตัวห้องจะมีการยื่น-หดผนังแตกต่างกันในลักษณะ Random
ชั้น 44 จะมี Sky Lap Pool , Kid’s Pool และ ฟิตเนสที่มี 2 ชั้น
ขึ้นมาถึงชั้น 44M จะมีพื้นที่ของฟิตเนสอีกชั้นหนึ่ง โดยในส่วนของฟิตเนสทั้ง 2 ชั้นจะมีการแบ่งออกเป็น โซนที่เน้นเครื่องเล่น และ โซนโยคะ
ปิดท้ายด้วยภาพวิวมุมสูงของโครงการค่ะ ประกอบการเลือกว่าใครชอบทิศไหน วิวไหน
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก (ของอาคาร The Tower เท่านั้น)
- Lobby & Reading Lounge
- Heated Spa Pool
- Sauna & Steam
- สระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 6.8 x 20 เมตร ลึก 1.2 เมตร (Sky Lap Pool ) , สระเด็กขนาด 7.3 x 7.65 เมตร ลึก 0.60 เมตร
- 2-storey Fitness 1 ห้อง
- สวนหย่อมรอบโครงการ
- ลิฟต์โดยสาร 4 ตัว/อาคาร
- อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ n/a: 1
- อัตราส่วนลิฟต์ตึก The Tower 49 : 1
- Service Lift 1 ตัว
- ที่จอดรถประมาณ 358 คันคิดเป็น 84% ไม่รวมจอดซ้อนคัน
- ระบบ CCTV / Access Card
สำหรับห้องตัวอย่างที่จะพาไปชมจะเป็นห้องที่อยู่ในอาคาร The Tower นะคะ ขายแบบ Fully Fitted ที่พิเศษหน่อยคือนอกจาก ชุดครัว สุขภัณฑ์ แอร์แล้ว เรายังได้ตู้เก็บของ ตู้เสื้อผ้า และ เครื่องใช้ไฟฟ้าบางรายการด้วย ไปชมกันเลยค่ะ
ห้องแรกคือ 1 Bedroom 46.36 ตร.ม. จัดแปลนมาเหมาะกับ Lifestyle คนเมือง แบ่งออกเป็น Public และ Private zone เข้าห้องมาจะเจอส่วนของครัวเปิดก่อน มีเคาน์เตอร์ครัวและตู้เก็บของฝั่งที่อยู่ตรงข้ามมาให้ ครัวลักษณะนี้เหมาะกับคนที่ชอบเตรียมอาหารเบาๆหรือซื้อกลับมารับประทานที่ห้อง พอถือของมาก็สามารถมาวางพักบริเวณเคาน์เตอร์หรือเอาใส่ตู้เก็บของได้เลย ถัดเข้าไปคือพื้นที่นั่งเล่นดูทีวี ติดกับหน้าต่างบานใหญ่ มีทางออกไปที่ระเบียง ส่วนพักผ่อนหรือห้องนอนจะอยู่อีกฝั่งหนึ่งของตัวห้อง มีตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้งอยู่บริเวณหน้าห้องน้ำ ในห้องน้ำมีทั้งพื้นที่ส่วนแห้งและส่วนเปียก
บานประตูหน้าห้องได้ขนาดใหญ่สูงถึง 2.8 เมตรเลยทีเดียว ก่อนที่จะเข้าตัวห้องจะมีส่วนที่เว้าเข้าไปหน่อยนึง เพื่อเพิ่มความ Privacy เวลาเปิดประตูเข้าออก
ด้านบนของบานประตูมีติดตั้งโช๊คอัพเพื่อเสริมความแข็งแรง ช่วยในการรับน้ำหนัก เนื่องจากเราได้ประตูเต็มบานขนาดค่อนข้างใหญ่
เราจะได้ Digital Door lock ยี่ห้อ Alpha ทำสีพิเศษเฉพาะโครงการนี้เท่านั้น
พื้นห้องจะมีการยกระดับสูงขึ้นมาเล็กน้อย จากพื้นบริเวณโถงทางเดินเพื่อกันฝุ่นเข้ามาในตัวห้อง
หน้าประตูมีแผงสวิทซ์ของ Schneider หน้าตาดูโมเดิร์น ตัวนี้จะเป็นสวิทซ์ Master ที่ควบคุมการทำงานเปิด ปิดของไฟทั้งหมดในห้องได้ คือ เข้าห้องมาอยากเปิดไฟตรงไหนบ้างก็กดตรงนี้ได้เลย
เข้ามาในห้องเราจะเจอกับส่วนของครัวก่อน ถัดเข้าไปด้านในจึงเป็นห้องนั่งเล่น ห้องนอนและห้องน้ำอยู่ทางฝั่งซ้าย ฝ้าเพดานห้องนี้จะสูง 3.10 เมตร
ครัวมีเคาน์เตอร์ครัวและตู้เก็บของ Built-in ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามมาให้ครบชุดตามแบบนี้เลย วัสดุตามในห้องตัวอย่างค่ะ
พื้นบริเวณครัวเป็นหินอ่อน Black Empelador ส่วนพื้นห้องนั่งเล่นจะเป็น Engineering Wood หนา 14 มม. ระหว่างวัสดุทั้งสองมีเส้นสแตนเลสเป็นตัวเก็บงานเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย
ตู้ Built-in ฝั่งตรงข้ามเคาน์เตอร์เราจะได้ตามนี้เลย วัสดุเป็นโครงไม้ปิดผิวด้วยวีเนียร์ ซ้ายสุดเป็นชั้นเก็บของ ตรงกลางมีช่องใส่เตาไมโครเวฟและเครื่องซักผ้า ทางด้านขวาเป็นตู้เย็น สำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าทางโครงการจะให้ เครื่องซักผ้า 2 in 1 ยี่ห้อ Electrolux หรือเทียบเท่า , ตู้เย็น Built-in ยี่ห้อ Electrolux หรือเทียบเท่า และ ไมโครเวฟของ Kuppersbusch
ตู้เย็นเป็นแบบ Built-in ยี่ห้อ Electrolux หรือเทียบเท่า ซ่อนอยู่ด้านในตู้ค่ะ
เคาน์เตอร์ครัว ตู้ด้านล่างวัสดุเป็นโครงไม้ปิดผิวด้วยวีเนียร์สีเดียวกับตู้ฝั่งตรงข้าม ตู้ด้านบนหน้าบานเป็นกระจกเงาตามในภาพ Top เป็น Composite marble ผลิตจากหินอ่อนธรรมชาติ นำมาบดย่อยผสมกับส่วนผสมอื่นๆ แล้วนำหินที่ได้จากการผสมไปอัด ในห้องสุญญากาศแรงดันสูง ทำให้ได้โทนสีที่ได้สม่ำเสมอ ไม่ต้องเสียเวลาคัดเฉดสีก่อนการติดตั้งเหมือนหินธรรมชาติ แข็งแรงและทนต่อสารเคมีและกรด-ด่างได้มากกว่า หมดปัญหาเรื่องความชื้น
ด้านข้างเคาน์เตอร์ครัวมีตู้เก็บของที่หน้าบานเป็นกระจกมาให้อีก ภายในเป็นชั้นปรับระดับได้
ด้านล่างอ่างล้างจานเป็นตู้ใช้เก็บของ มีถังขยะมาให้ด้วย
อ่างล้างจานเป็นของ Teka หรือ เทียบเท่า เป็นแบบติดตั้งอยู่ด้านล่าง Top เคาน์เตอร์ ส่วนก๊อกเป็นของ Grohe
เตาไฟฟ้าเป็นแบบ 2 หัวของ Kuppersbusch
เครื่องดูดควันตามนี้เลยค่ะ ของ Electrolux
ถัดจากครัวไปเป็นพื้นที่รับประทานอาหารและนั่งเล่น ด้านหลังเป็นกระจกบานใหญ่เปิดรับแสงธรรมชาติได้ดี บริเวณนี้ในห้องตัวอย่างเป็นการตกแต่งเพื่อจำลองบรรยากาศส่วนห้องมาตรฐานเราจะได้เป็นห้องโล่งๆนะคะ
ถัดจากเคาน์เตอร์ครัวมาจะมีพื้นที่สำหรับวางโต๊ะทานข้าวได้ประมาณ 2-3 ที่นั่ง บริเวณเคาน์เตอร์มีส่วนที่ยื่นออกมาสามารถใช้เป็นที่เตรียมหรือเสิร์ฟอาหารได้
มุมมองย้อนกลับไปที่บริเวณหน้าห้อง ฝ้าเพดานบริเวณครัวจะสูง 2.80 เมตร Drop ลงมาหน่อยเพื่อซ่อนงานระบบของที่แอร์แบบฝังใต้ฝ้า ส่วนฝ้าเพดานส่วนอื่นๆจะสูง 3.10 เมตร
ระยะดูทีวีของห้องนี้กว้างประมาณ 2.70 เมตร จัดชุดโซฟานั่งได้ประมาณ 4-5 คน
หน้าต่างเป็นแบบ Full – Height สูงจากพื้นถึงฝ้าเพื่อเปิดมุมมองให้รับวิวได้เต็มที่ ด้านข้างเป็นประตูทางออกไปที่ระเบียง กรอบอลูมิเนียม บานเป็นกระจกลามิเนต
ส่วนหน้าต่างจะให้กระจกเป็น insulate หรือกระจก 2 ชั้นที่มีช่องว่างระหว่างกระจก ซึ่งจะมีคุณสมบัติลดเสียงจากภายนอกอาคาร และลดการถ่ายเทความร้อนทำให้ประหยัดพลังงาน
ระเบียงมีขนาดประมาณ 3.10 x 0.90 เมตร ปูพื้นด้วยกระเบื้อง ราวกันตกสูงประมาณ 1.20 เมตร บริเวณผนังและฝ้าเพดานตกแต่งด้วยวัสดุเรียนแบบไม้จริงตามในภาพ สังเกตจะไม่มี Condensing unit ของแอร์เพราะทางโครงการจัดพื้นที่ให้อยู่รวมกันแล้วค่ะ เราจึงสามารถใช้ประโยชน์จากระเบียงได้เต็มที่
มีช่องระบายอากาศจากในอาคารมาที่บริเวณนอกอาคาร
ถัดจากห้องนั่งเล่นไปจะมีทางเข้าห้องนอน ในห้องมาตรฐานจะมีประตูมาให้ด้วยนะ
หน้าห้องมีสวิทซ์ติดตั้งอยู่ หน้าตาดูโมเดิร์นสวยดี
ห้องนอน ทางฝั่งขวาเป็นส่วนพักผ่อน ฝั่งซ้ายเป็นตู้เสื้อผ้า และทางไปห้องน้ำ
วางเตียงได้ขนาด King size ผนังข้างเตียงเป็นช่องแสงเต็มบาน มีบานหน้าต่างเปิดระบายอากาศได้ 1 บานอยู่ทางด้านขวา
ข้างๆเตียงมีพื้นที่เหลือฝั่งละประมาณ 80 cm. สามารถวางโต๊ะข้างเตียงได้ทั้ง 2 ฝั่ง
ปลายเตียงมีระยะจากเตียถึงตู้ประมาณ 60 cm.
อีกฝั่งเป็นทางไปห้องน้ำ ซึ่งบริเวณหน้าห้องน้ำจะมีตู้เสื้อผ้าแบบ Built-in และ โต๊ะเครื่องแป้งมาให้
ฝ้าเพดานบริเวณหน้าห้องน้ำมีการลดระดับเพื่อเดินงานระบบแอร์
ด้านหน้าทางเข้าห้องน้ำ ทางโครงการทำตู้เสื้อผ้าและชุดโต๊ะเครื่องแป้งแบบ Built-In มาให้ ระยะทางเดินตรงนี้ประมาณ 90 cm. ค่ะ
โต๊ะเครื่องแป้ง Built-In อยู่ข้างๆกับทางเข้าห้องน้ำ ด้านบนเป็นกระจกส่องหน้า ด้านล่างเป็นโต๊ะมีลิ้นชักมาให้เก็บของ
ลิ้นชักเปิดออกมาเก็บของได้ตามภาพ
ตู้เสื้อผ้าหน้าบานเป็นกระจกเงาแบบนี้เลย อาบน้ำเสร็จแล้วสามารถออกมาแต่งตัว ตรวจเช็คความเรียบร้อยบริเวณนี้ได้
ภายในตู้มีทั้งราวแขวนผ้า และลิ้นชักสำหรับใส่เสื้อผ้าแบบพับ
บรรยากาศภายในห้องน้ำค่ะ พื้นและผนังเป็นหินอ่อนทั้งหมด มีกั้นแยกพื้นที่ส่วนเปียกด้วยฉากกั้นอาบน้ำบานกระจกนิรภัย ด้านหลังมีติดกระจกเงาให้ด้วย
พื้นห้องน้ำลดระดับลงเล็กน้อย ธรณีใช้เป็นหินอ่อนลายเดียวกับพื้นค่ะ
Top เคาน์เตอร์เป็นหินจริงเช่นเดียวกัน ด้านล่างเป็นตู้เก็บของหน้าบานเปิดคู่ปิดผิวด้วยลามิเนต ถัดไปเป็นโถสุขภัณฑ์แบบแขวนผนัง ข้อดีคือสามารถทำความสะอาดด้านล่างได้ง่าย ด้านหลังที่เป็น Low Wall (ผนังก่อ) มีจุดกดชำระน้ำ และสามารถวางของใช้เล็กๆน้อยๆได้
เคาน์เตอร์ Top เป็นหินอ่อน Black Empelador อ่างล้างหน้าเป็นของ ToTo ส่วนก๊อกเป็นของ Grohe
โถสุขภัณฑ์เป็นแบบอัตโนมัติของ ToTo แบบแขวนผนัง ฝารองนั่งเป็นแบบ Washlet มีเฉพาะห้อง Master bedroom
บริเวณกระจกส่องหน้า มีบางช่วงเปิดออกมาเป็นตู้เก็บของได้ มีปลั๊กมาให้สำหรับใช้ต่อไดร์เป่าผมด้วย
พื้นที่ส่วนเปียกกั้นด้วยฉากกั้นอาบน้ำ ผนังและพื้นเป็นหินอ่อนเช่นกัน ฝักบัวมีทั้งแบบใช้มือจับและ Rain Shower
พื้นที่อาบน้ำมีขนาด 90 x 110 cm.
ฝักบัวแบบมือจับของ Grohe ผนังด้านข้างทำเป็นชั้นวางของ พวก สบู่ แชมพู
ซูมหน้าตาของฝักบัวค่ะ จับได้พอดีมือ
ถัดมาเป็น 2 ห้องนอน 73.53 ตร.ม. เข้าห้องมาจะเจอกับครัวก่อนเช่นกัน แต่จะมีพื้นที่ของโถงเพิ่มเข้ามา ผนังด้านข้างสามารถทำเป็นตู้เก็บของหรือตู้โชว์ได้ ทำให้ Space ตรงนี้ดู Grand ขึ้น ถัดเข้าไปเป็นพื้นที่ต่อเนื่องกันของพื้นที่นั่งเล่นและรับประทานอาหาร สามารถใช้เป็นพื้นที่รับรองแขกได้ ห้องนี้จะเน้นการใช้พื้นที่ในห้องให้คุ้มค่า ไม่ค่อยเน้นพื้นที่ระเบียงเท่าไหร่ ส่วนโซนพักผ่อนแยกอยู่ต่างหากอีกฝั่งหนึ่งจึงค่อนข้างเป็นส่วนตัว พอเดินเข้ามาทางฝั่งนี้จะเจอกับห้องนอนเล็กก่อน ห้องน้ำอยู่ถัดมาซึ่งจะสามารถใช้เป็นห้องน้ำแขกด้วย ถัดเข้ามาด้านในสุดเป็นห้องนอนใหญ่ ที่มีพื้นที่วางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งอยู่หน้าห้องน้ำเช่นเดียวกันกับแบบ 1 ห้องนอน
เข้ามาในห้องจะเจอส่วนโถงก่อนค่ะ ถัดเข้าไปเป็นครัว ห้องนี้สเปควัสดุต่างๆก็เหมือนกับห้อง 1 ห้องนอนนะ พื้นตรงครัวเป็นหินอ่อน ฺBlack Empelador
มุมมองย้อนกลับไปที่ประตู ตู้ทางฝั่งซ้ายทางโครงการไม่ได้ให้ แต่จะให้ตู้ทางฝั่งขวาที่หน้าบานเป็นกระจกเงานะ
ตู้ที่โครงการแถมให้เป็นตู้เก็บรองเท้า ซึ่งจำเป็นมากๆในคอนโดเพราะถ้าเก็บรองเท้าเข้าที่จะช่วยให้ห้องดูระเบียบเรียบร้อยขึ้นมาทันตาเลย หน้าบานได้เป็นกระจกเงาสามารถใช้ตรวจเช็คความเรียบร้อยก่อนออกนอกบ้านได้
ถัดเข้ามาจะเจอกับครัว ซึ่งเราจะได้ทั้งชุด+เครื่องใช้ไฟฟ้าตามนี้เลย วัสดุต่างๆเหมือนกันกับห้องก่อนหน้านะ คือตู้ปิดผิวด้วยวีเนียร์ Top เป็น Composite marble
มีลิ้นชักสำหรับเก็บของ และ ใต้อ่างล้างจานมีถังขยะมาให้
อ่างล้างจานของ Teka หรือ เทียบเท่า ขนาดใหญ่กว่าแบบ 1 ห้องนอนหน่อย ด้านข้างเป็นที่พักจาน ลดระดับลงจาก Top เล็กน้อย และมี Slope เพื่อให้น้ำไหลลงมาในอ่าง ก๊อกเป็นของ Grohe
ห้องนี้จะได้เครื่องใช้ไฟฟ้าเหมือนกับแบบ 1 ห้องนอนทุกอย่าง เพิ่มเติมคือเตาอบยี่ห้อ Kuppersbusch
ตู้ Built-in ที่อยู่ด้านหลังได้ตามนี้เลยค่ะ มีช่องเก็บของเยอะทีเดียว
ด้านข้างเราจะได้ตู้เก็บของหน้าบานกระจกอีก 1 ตู้
ด้านหน้าเคาน์เตอร์ครัวเป็นโต๊ะรับประทานอาหาร นั่งได้ประมาณ 4 ที่นั่ง พอทำหรือเตรียมอาหารเสร็จก็ยกมาเสิร์ฟได้สะดวก
ถัดเข้าไปด้านในเป็นพื้นที่นั่งเล่น ส่วนห้องนอนและห้องน้ำอยู่ทางฝั่งซ้ายค่ะ ทุกห้องของโครงการนี้จะแบ่งพื้นที่เป็น Public zone และ Private zone ชัดเจน ซึ่งดีตรงที่ถ้ามีแขกมาหาก็สามารถใช้พื้นที่บริเวณนี้ได้โดยไม่ไปรบกวนส่วนพักผ่อน
พื้นที่นั่งเล่นอยู่เชื่อมต่อกับพื้นที่รับประทานอาหาร โซนนี้ห้องจริงจะได้เป็นห้องโล่งๆนะ ผนังด้านหลังโซฟาเป็นหน้าต่างแบบ Full – Height สูงจากพื้นถึงฝ้า ทำให้เราชมวิวได้แบบเต็มๆ ฝั่งซ้ายคือทางไปห้องนอน
ระยะดูทีวีประมาณ 3 เมตร วางโซฟาได้แบบ 3 -4 ที่นั่ง + Armchair อีก 1 ตัว
ข้างๆชุดโซฟามีทางออกไประเบียงค่ะ เป็นประตูบานเลื่อน
พื้นที่ระเบียงห้องนี้เล็กกว่าห้อง 1 ห้องนอนหน่อยแต่กว้างพอสำหรับออกมายืนสูดอากาศ เราใช้พื้นที่ได้เต็มที่เพราะไม่ต้องเสียพื้นที่ให้กับ CDU แอร์
อีกฝั่งของตัวห้องจะเป็น Private zone ประกอบด้วยห้องน้ำ และ ห้องนอนอีก 2 ห้อง
จากโถงทางเดินเข้ามาจะเจอห้องนอนเล็กก่อน ด้านข้างเตียงมีหน้าต่างสูงจากพื้นถึงฝ้าเอาไว้นอนดูวิว หรือ เปิดระบายอากาศได้
ในห้องตัวอย่างพอวางเตียงไปแล้ว ทางฝั่งซ้ายมีระยะเหลือประมาณ 55 cm. ทางฝั่งขวาเหลือ 70 cm.
ห้องนี้ทางโครงการจะมีตู้เสื้อผ้าให้ด้วย วางอยู่ข้างๆเตียง
ตู้เสื้อผ้าด้านในมีแบ่งราวแขวนผ้าเป็น 2 ส่วน ถ้าเราอยากได้ชั้นเก็บของเพิ่มเติมก็สามารถซื้อที่เป็นลอยตัวมาวางเพิ่มได้
ห้องน้ำวัสดุและยี่ห้อของสุขภัณฑ์ต่างๆคล้ายกับห้องที่ผ่านมาค่ะ พื้นและผนังเป็นหินอ่อน ทางฝั่งซ้ายเป็นส่วนเปียกกั้นด้วยฉากกั้นอาบน้ำ ส่วนฝั่งขวาเป็นโถสุขภัณฑ์
ระหว่างภายในและภายนอกห้องน้ำ มีธรณีประตูเป็นหินอ่อนลายและสีเดียวกับภายในห้อง ยกสูงขึ้นมาเล็กน้อย
ที่พิเศษกว่าห้องอื่นๆหน่อย คือบริเวณหน้าบานตู้ข้างล่างอ่างล้างหน้า วัสดุจะใช้เป็นลามิเนตสีทองตัดกับTop ที่เป็นหินอ่อนสีดำ ช่วยเพิ่มความหรูหราให้กับตัวห้อง
กระจกส่องหน้าด้านหลังทำเป็นตู้มาให้ สามารถใช้เก็บของเล็กๆน้อยๆได้
พื้นที่อาบน้ำกั้นด้วยฉากกั้นอาบน้ำบานกระจกนิรภัย ห้องนี้จะไม่มี Rain shower มาให้
พื้นที่อาบน้ำขนาดประมาณ 90 x 100 cm.
ฝั่งตรงข้ามกับส่วนอาบน้ำเป็นตำแหน่งของสุขภัณฑ์ของ ToTo ชนิดแขวนผนัง ฝารองนั่งเป็นแบบ Washlet มีเฉพาะห้อง master bedroom ด้านหลังมีผนังก่อสามารถใช้วางของเล็กๆน้อยๆได้
มาดูต่อกันที่ห้องนอนใหญ่ค่ะ เข้ามาเราจะเจอกับส่วนพักผ่อน ข้างๆเตียงเป็นหน้าต่างบานใหญ่ ส่วนฝั่งซ้ายเป็นทางไปห้องน้ำ
ห้องนี้วางเตียงได้แบบ King size แล้วยังมีพื้นที่ด้านข้างเหลือทั้ง 2 ฝั่ง
ข้างเตียงทางฝั่งซ้ายมีส่วนที่ผนังเว้าเข้าไปตามโครงสร้างของผนังห้อง เราสามารถทำเป็นตู้วางของได้เหมือนในห้องตัวอย่างนะ หรือถ้าใครอยากได้ที่เก็บของเพิ่มเยอะๆก็ทำเป็นตู้บานใหญ่เต็มพื้นที่ไปเลยก็ได้
อีกฝั่งเป็นทางไปห้องน้ำ ระดับฝ้าเพดานบริเวณหน้าห้องน้ำจะต่ำหน่อยเพราะมีซ่อนงานระบบแอร์ไว้ค่ะ
บริเวณหน้าห้องน้ำเป็นตู้เสื้อผ้าแบบ Built-in และ โต๊ะเครื่องแป้ง ทางโครงการให้มาตามนี้เลย เว้นแต่ห้องจริงผนังจะทาสีขาว
ภายในตู้ค่ะ มีทั้งราวแขวนและลิ้นชักเอาไว้เก็บของ
ห้องน้ำในห้องนอนใหญ่บรรยากาศคล้ายกับห้องอื่นๆ ผนังด้านหลังมีติดตั้งกระจกเงามาให้แบบนี้เลย
อ่างล้างหน้าเป็นแบบผังในเคาน์เตอร์ โถสุขภัณฑ์เป็นแบบแขวน ข้างหลังเป็นผนังก่อที่ใช้วางของเล็กๆน้อยๆได้
พื้นที่อาบน้ำ มีทั้งฝักบัวธรรมดาและ Rain Shower
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 2 February 2017
- Studio 33 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 11 ล้านบาท
- 1 Bedroom 40-50 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 14 ล้านบาท
- 2 Bedroom 69-91 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 22 ล้านบาท
- 3 Bedroom 120-200 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 49 ล้านบาท
- Penthouse 100-190 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 42 ล้านบาท
- Fully Fitted
- ฝ้าเพดานสูง 3.10 เมตร
- Kitchen & Sink
- Hob & Hood
- จอง 100,000 – 500,000 บาท
- ทำสัญญา 300,000 – 1,000,000 บาท
- ดาวน์ 15% ผ่อนดาวน์ 32 งวด
- ค่ากองทุน 1,000 บาท/ตร.ม.
- ค่าส่วนกลาง 100 บาท/ตร.ม./เดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
28 Chidlom เป็นโครงการคอนโดระดับหรู ที่เปิดตัวใหม่ ขายแบบ Freehold ตั้งอยู่ในทำเลที่มีลักษณะเฉพาะคืออยู่บนถนนชิดลมแท้ๆ ซึ่งถนนเส้นนี้จะเป็นถนนที่เชื่อมระหว่างถนนเพลินจิตและถนนเพชรบุรี มีระยะสั้นๆประมาณ 600 เมตร เป็นทางแบบ one-way โดยรอบเป็นจุดที่เรียกว่าเป็น CBD (central business district) แห่งหนึ่งของกรุงเทพจากความอุดมสมบูรณ์ในระยะเดินและเป็นพื้นที่ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นของ Lifestyle คนเมือง ใกล้ Central ชิดลม Central embassy ไกลออกไปหน่อยที่แยกราชประสงค์คือ Central world สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ นอกจากนั้นก็ยังมีโรงแรม อาคารสำนักงาน เช่น Park venture, เพลินจิต เซ็นเตอร์ มีโรงพยาบาลจุฬา โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ โรงเรียนมาแตร์เดอี จุฬาลงกรณ์ ใกล้สถานทูตอเมริกา สวนลุมพินี และอีกมากมาย โดยฝั่งตรงข้ามของแปลงที่ดินเองก็จะมี Neighborhood mall อย่าง Mc donald ที่เปิด 24 ชั่วโมง และ 19 at chidlom มี starbuck ในระยะข้ามถนน ด้วยทั้งหมดที่กล่าวมานี้จึงทำให้ราคาที่ดินบริเวณนี้จัดว่าสูงที่สุดในประวัติการซื้อขาย และ ไม่ได้มีที่ดินเปล่าให้นำมาพัฒนาโครงการได้ง่ายๆ โครงการระดับ Ultimate ที่อยู่ในทำเลใกล้เคียง หรือเรียกว่าย่าน Central Lumpini จะมีอยู่บนถนนวิทยุ หลังสวน ราชดำริ ซึ่งก็จัดว่าเป็นทำเลเฉพาะเช่นเดียวกัน ดังนั้นโครงการในลักษณะนี้ก็จะจับกลุ่มลูกค้าเฉพาะที่อยากได้ Product ที่ Unique ใช้ความชอบและอารมณ์ในการตัดสินใจ ความคุ้มค่าด้านราคาไม่ใช่ปัจจัยหลักเพียงอย่างเดียวในการตัดสินใจซื้อ ส่วนโครงที่สร้างมานานแล้วในบริเวณใกล้เคียงจะมีอยู่ในซอยสมคิด
การเดินทางโดยใช้รถ เนื่องจากถนนชิดลมมีลักษณะเป็น One way ถ้ามาจากถนนเพลินจิต การเข้าถึงจะต้องไปวนซอยสมคิดมาออกที่ถนนชิดลม ซึ่งในช่วงเวลาที่รถติดหนักๆก็อาจจะมีความไม่สะดวกอยู่บ้าง แต่ถ้ามาจากถนนเพชรบุรีจะสามารถเลี้ยวเข้ามาได้เลย ซอยนี้เป็นเส้นทางที่ใช้ผ่านจากถนนเพชรบุรีช่วงอโศกเข้าถนนเพลินจิต-พระราม1 เพื่อเข้าห้างหรือไปทางสยาม โดยที่ต้นถนนชิดลมที่ต่อกับถนนเพลินจิตจะมีไฟเขียว-ไฟแดงทำให้อาจจะต้องรอหน่อย โดยจะห้ามเลี้ยวซ้ายเข้าถนนสุขุมวิท ทำได้แค่ตรงเข้าถนนหลังสวนที่เป็นถนน one-way เช่นกัน หรือเลี้ยวขวาไปยังถนนพระราม 1 หน้าสยามพารากอน ทางขึ้นทางด่วนตอนเหนือจะอยู่บนถนนเพลินจิตใกล้ๆกับทางลง แต่บนต้นถนนชิดลมจะห้ามเลี้ยวซ้ายดังนั้นต้องไปอ้อมนะคะ ส่วนทางลงทางด่วนถ้ามาจากทางใต้ของกรุงเทพจะอยู่บนถนนเพชรบุรีเลี้ยวซ้ายเข้าถนนชิดลมได้สบายๆ ส่วนทางขึ้นก็อยู่ข้างๆกันแต่เราก็ต้องไปอ้อมอีกคือเข้าถนนราชดำริ เลี้ยวขวาเข้าถนนเพชรบุรี ไปกลับรถ ทางขึ้นทางด่วนจะอยู่ทางซ้ายมือ ที่จอดรถจัดมาให้ได้ประมาณ 84% มีทั้งแบบอัตโนมัติและช่องจอดธรรมดา ด้วยตัวทำเลจะเน้นการใช้รถไฟฟ้ามากกว่า แต่ถ้าเทียบกับระดับราคาอาจจะน้อยไปหน่อยค่ะ
การเดินทางโดยไม่ใช้รถ มีสถานีรถไฟฟ้า BTS ชิดลมที่ใกล้ที่สุด โดยสามารถเลือกได้ว่าจะเดินลงมาที่บนทางเท้า แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนชิดลมเลยในระยะ 280 เมตร หรือจะเลือกเดินเข้า Central ชิดลม ตากแอร์นิดหน่อยแล้วลงบันไดเลื่อน ออกจากห้างมาบนถนนชิดลม ตัว BTS ชิดลมเองยังมี Skywalk เชื่อมกับ Mercury ville ศูนย์การค้าฝั่งตรงข้ามฝั่งถนนหลังสวน หรือตัว Central ชิดลมเองก็มีทางเชื่อมไป Central embassy ที่ Skywalkอีกเชื่อมกับ BTS เพลินจิต และยังเดินออกไปยังถนนวิทยุหรือ Park venture โดยที่พื้นยังไม่ต้องแตะถนน ไม่เสียค่าพี่วิน ไม่เสียเวลาเดินทางด้วยรถ นอกจากนี้ BTS ชิดลมยังเป็นสถานีถัดจาก BTS สยาม ซึ่งมี Skywalk เหนือแยกราชประสงค์เช่นกัน โดย BTS สยามเป็นสถานี Interchange กับสายสีลม สามารถไปออฟฟิศแถวสาทร หรือไปสุดสายที่ BTS บางหว้าได้เลย ส่วนแท๊กซี่ค่อนข้างหาง่ายมากเพราะถนนชิดลมค่อนข้างใหญ่ พี่วินจะอยู่ตามทางลง BTS ทางออกต่างๆและที่หน้าซอยสมคิด
วัสดุ ที่จัดมาถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี เป็น Fully Fitted ที่ให้ดีหน่อยมีเพิ่มตู้เก็บของ + ตู้เสื้อผ้าเข้ามา + เครื่องครัวครบชุดเข้ามา ประตูบานใหญ่ติด Digital Door Lock ของ Alpha , ครัว Top และกรุผนังด้วย composite stone, Built-in ตู้เก็บของ ตู้เก็บรองเท้าปิดผิวด้วยวีเนียร์ , ฝ้าเพดานที่สูง 3.10 เมตร มีการเก็บรายละเอียดงานพื้น , หน้าต่างที่ใช้กระจก 2 ชั้น , ก๊อกน้ำของ Grohe , เตาไฟฟ้า เตาอบ ไมโครเวฟ ของ kuppersbusch , ตู้เย็นและเครื่องซักผ้าแบบ Built-In ของ Electrolux , แอร์แบบฝังฝ้าทั้งหมด, งานพื้นมีทั้ง หินอ่อน Black Empelador , Engineer Wood หนา 14 มม. , ในห้องน้ำกรุผนังด้วยหินอ่อนด้วย
การออกแบบ งานสถาปัตยกรรมได้นำเอารูปทรงของ Jewel Box หรือ กล่องใส่อัญมณี มาใช้ในการตกแต่ง Facade ของอาคาร โดยนำเอารูปทรงสี่เหลี่ยมที่ลดทอนมาจากกล่อง Jewel Box นั้นมาเรียงต่อแบบRandom ทำให้ตัวอาคารดูมีมิติ แบ่งอาคารออกเป็น 2 อาคาร อาคารที่อยู่ด้านหน้ามีชื่อว่า “The Villa” อาคารที่อยู่ด้านหลังมีชื่อว่า “The Tower” เปิดพื้นที่ตรงกลางให้เป็นพื้นที่สวนขนาดใหญ่ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากสภาพแวดล้อมเดิมของโครงการ “บ้านเลขที่ 28” ที่บรรยากาศร่มรื่น โดยจะมีการเก็บต้นไม้เดิมบางส่วนเอาไว้ด้วย การวางผังในห้องพักแบ่งออกเป็น Private zone และ Public zone ชัดเจนซึ่งถือว่าดีในการอยู่อาศัยค่ะ
สาธารณูปโภค ทางโครงการมีสระว่ายน้ำ ฟิตเนส ล็อบบี้ แยกอาคารมาให้ นอกนั้น facilities อื่นๆ ใช้ร่วมกัน ตอนนี้เท่าที่ทราบข้อมูลจะมีในส่วนของ The Tower คือ Facilities ตรงกลางระหว่าง 2 อาคารมีสวนหย่อมขนาดใหญ่ ชั้นล่างมี Lobby & Reading Lounge การออกแบบภายในจะใช้รูปทรงสี่เหลี่ยมจาก Concept ของ Jewel Box มาตกแต่ง เน้นช่องแสงและหน้าต่างบานใหญ่ บริเวณผนังมีกรุหินอ่อนสีเขียว spider green ชั้น12 มีพื้นที่ส่วนกลางคือ Heated Spa Pool และ Sauna & Steam ส่วนชั้น 44 จะมี Sky Lap Pool , Kid’s Pool และ ฟิตเนสที่มี 2 ชั้น ส่วนของ The Villa ต้องรอดูอีกทีว่าจะเป็นแบบไหน
Judgement
ราคาของคอนโดนี้ถือเป็นระดับ ULTIMATE CLASS เนื่องมาจากต้นทุนค่าที่ดินในการพัฒนาโครงการค่อนข้างสูงจึงส่งผลให้ราคาขายมาอยู่ใน Class นี้ ซึ่งความคุ้มค่าด้านราคาไม่ใช่ปัจจัยหลักเพียงอย่างเดียวในการตัดสินใจซื้อ ความคุ้มค่าด้านอารมณ์คือปัจจัยหลักอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งตราบเท่าที่ทางเรายังไม่สามารถวัดค่ามาตรฐานทางอารมณ์ได้ ทาง Think of Living ขอไม่ให้คะแนนฟันธงในรีวิวเจาะลึกนะคะ เพราะมีตัวเปรียบเทียบน้อย เป็นสินค้าประเภท Unique เสียส่วนใหญ่ และเราก็เชื่อว่าลูกค้าที่พร้อมจะซื้อคอนโดระดับนี้ ไม่ตัดสินง่ายๆด้วยคะแนนแน่นอน
BOTTOM LINE
28 Chidlom เหมาะกับคนเฉพาะกลุ่มที่มองหาคอนโดใหม่ ระดับหรู ใจกลางเมืองที่อยู่บนถนนชิดลมแท้ๆ พื้นที่โดยรอบเป็นย่าน CBD มีความอุดมสมบูรณ์ครบ ซื้อความสะดวกสบายในการเดินทาง มีความชื่นชอบในรูปแบบและการออกแบบของอาคาร ชอบของแบรนด์เนม ยอมแลกด้วยราคาที่สูงหน่อย มีงบประมาณ 11 – 42 ล้านขึ้นไป
ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้หน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปค่ะ
สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )