โครงการ ONE ALTITUDE CHAROENKRUNG (วัน อัลติจูด เจริญกรุง) คอนโดระดับ LUXURY Class ที่มีการ Turnkey ระหว่าง Beauty Gems แบรนด์ผู้ผลิตและออกแบบอัญมณีที่มีชื่อเสียงระดับต้นๆ ของเมืองไทย และ Altitude Development
ความน่าสนใจของโครงการนี้คือคอนโดที่เน้นความเป็นส่วนตัวสูงด้วยจำนวนยูนิตทั้งโครงการ 85 ยูนิต และมี 7 ยูนิตต่อชั้นเท่านั้น นอกจากนี้คือเรื่องของ Facility ที่จัดมาให้ 7 ชั้น เพื่อให้เรามีพื้นที่ในการใช้งาน ทำกิจกรรมต่างๆ กับครอบครัว เพื่อนฝูง ได้เต็มที่มากกว่าแค่ในห้องพักอาศัยตัวเอง พร้อมที่จอดรถแบบ Auto Parking ร่วม 100%
การออกแบบสไตล์ ART DECO ผ่านแนวคิด DIAMOND EFFECT
สิ่งที่เป็นความท้าทายของโครงการระดับ Luxry Class ขึ้นไปไม่ว่าจะโครงการไหนก็ตาม นั่นคือเรื่องของแนวความคิดที่ส่งต่อมาถึงรูปลักษณ์อาคารและการออกแบบภายใน รวมถึงยังต้องมีความแตกต่างที่เป็นเอกลักษณ์ชัดเจน เพราะด้วย Consumer Target นั้นมักเป็นบุคคลที่ต้องการความพรีเมียมและแตกต่าง การซื้อที่อยู่อาศัยไม่ใช่เป็นเพียงปัจจัยสี่ปกติทั่วไป แต่เป็นการซื้อการอยู่อาศัยที่สะท้อนถึงตัวตนของตัวเองด้วยเช่นกันค่ะ
จากความต้องการและตัวตนของกลุ่มลูกค้าทางโครงการก็มีการนำสไตล์ ART DECO เข้ามาใช้เพราะศิลปะของ ART DECO นี้ลักษณะเด่นคือการใช้เส้นตรงเรียบง่าย สะอาดตา แต่ดูมั่นคง เส้นสายตรงนี้ดูมีความเคลื่อนไหวได้แม้จะเป็นเส้นที่ไม่อ่อนช้อย ดังนั้นภาพลักษณ์ที่ออกมาจึงดูหรูหรา สง่างาม เป็นรูปแบบศิลปะที่เป็นที่นิยมในฝั่งยุโรปและอเมริกา ยกตัวอย่าง CHRYSLER Building ที่มหานครนิวยอร์ก หรือ EASTERN COLUMBIA Building ที่ลอสแองเจลลิส รวมถึงที่ประเทศไทยก็มีอย่าง อนุเสาวรีย์ประชาธิไตย เป็นต้น
ถ้าจะว่าไปเพียงการออกแบบสไตล์ ART DECO นี้ก็อาจจะยังไม่สร้างความแตกต่างจากโครงการอื่นๆ ที่ใช้สไตล์นี้เข้ามาจับ ดังนั้นเรื่องของแนวคิดที่มา (Conceptual) ก็ต้องมีเช่นกัน ซึ่งโจทย์นี้ทางโครงการตั้งใจตีโจทย์ด้วยการออกแบบให้โครงการเป็นเหมือน 1 ใน The Collection ของสะสมอันมีค่าของตัวเอง ไม่ได้เป็นเพียงที่อยู่อาศัยเท่านั้น และส่วนใหญ่ของมีค่าที่เราสะสมก็มักจะเป็นเครื่องประดับหรือเครื่องเพชรต่างๆ จึงเป็นที่มาคือแนวคิด “DIAMOND EFFECT” ที่จะเห็นผ่าน Facade ตัวอาคารที่มีเหลี่ยมมุมเมื่อสะท้อนกับแสงแดดแล้วก็จะมีความระยิบระยับประกอบกับการใช้วัสดุที่มีความพิเศษ เช่น กระจกสี กระจกเงา
และอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ผู้อยู่อาศัยได้ Benefit จาก Facade ที่มีการเอียงเหลี่ยมมุมของผนังกระจกแบบนี้ก็ทำให้ได้มุมมองที่กว้างมากขึ้นและแตกต่างจากมุมมองตรงๆ แบบเดิม มีบางตำแหน่งห้องที่กระจกเฉียงไปทางแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้การมองเห็นวิวแม่น้ำดีมากขึ้นตามไปด้วย
Facility รวม 7 ชั้น พร้อมวิวแม่น้ำเจ้าพระยา
อีกหนึ่ง Highlight ของโครงการนี้คือพื้นที่ส่วนกลางที่จัดเต็มมาให้ถึง 7 ชั้นด้วยกัน โดยจะเน้น 4 ชั้นบนดาดฟ้าเป็นหลัก ที่ทางโครงการเลือกวางตำแหน่งของพื้นที่ส่วนกลางไว้ชั้นบนสุดแน่นอนว่าไม่ใช่แค่เรื่องของวิวมุมสูงเท่านั้น แต่การอยู่ชั้นสูงสุดนั้นที่สำคัญเลยคือสามารถเห็นแม่น้ำเจ้าพระยาได้ นับเป็นโครงการที่ได้วิวแม่น้ำเจ้าพระยาอีกหนึ่งโครงการในย่านนี้
และด้วยขนาดของส่วนกลางที่ให้มานั้น เมื่อเทียบกับจำนวนยูนิตเพียง 85 ยูนิตก็นับว่าให้มาเต็มที่ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ต่างๆ ของลูกบ้านที่อยู่อาศัยในโครงการ ด้วยรูปแบบของลูกบ้านแล้วมักจะต้องการพื้นที่ที่มากกว่าการอยู่อาศัย ควรจะมีพื้นที่ไว้สำหรับให้ลูกบ้านได้รองรับแขกพิเศษของตัวเอง มีพื้นที่สังสรรค์กับเพื่อนฝูงแบบ Private รวมถึงพื้นที่กิจกรรมภายในครอบครัวครบทุก Generations
ชั้น 1
บริเวณทางเข้า Lobby โครงการ เป็นรูปแบบโถงทางเดินกระจกให้ได้บรรยากาศความหรูหรา และหวือหวามากขึ้นเพราะทาง Interior เลือกใช้กระเบื้องมีลวดลายที่โดดเด่น ดีไซน์แบบเรขาคณิตที่น่าสนใจเชื่อมโยงกับ Lighting ด้านบนทรงสี่เหลี่ยมจตุรัสที่ได้กลิ่นอาย ART DECO มากขึ้น ผ่านประตูทางเข้าที่เลือกใช้วัสดุอย่าง Stainless เวลาสะท้อนกับแสงไฟแล้วเกิดการสะท้อนกลับของแสงไปมาตรงกับ Concept DIAMOND EFFECT นั่นเอง
เข้าสู่ Grand Lobby ที่มีการตกแต่งด้วยสไตล์ ART DECO คุมโทนขาว-ดำ Match เล่นลายเรขาคณิตให้ดูน่าสนใจและสีสันให้ดูหรูหราแต่ยังคงความเคร่งขรึมมากขึ้นด้วยสีเขียวเฉด Sacara-Mento เล่นขอบสีทอง
ความน่าสนใจของห้องนี้นอกเหนือจากงานออกแบบแล้วคือการมี Concerige ที่คอยต้อนรับและ Service อย่างดี เทียบเท่าโรงแรมระดับ Hi-End
ชั้น 2
ในชั้น 2 นี้มีห้อง Kid’s Room ที่ไม่ได้เป็นแค่ห้องขนาดเล็กเหมือนปกติทั่วไป แต่เป็นพื้นที่ขนาดใหญ่แบ่งโซนเล่นที่การเรียนรู้ของเด็กๆ โดยมีโซนนั่งเล่นเพื่อเด็กๆ เวลารวมตัวกันเล่นเกมส์ได้ มีมุมเป็นส่วนตัวไว้นั่งอ่านนิทาน และ Highlight คือ Ball Pool ไว้ให้เด็กๆ ได้ลงไปเล่นบอลกัน เรียกว่าเป็นพื้นที่ที่ฮอตฮิตสำหรับเด็กวัยขวบต้นๆ กันทีเดียว
ชั้น 3
Business Lounge & Meeting Room การออกแบบด้วยโทนสีเข้มเขียว-น้ำตาล-เทา เล่นไฟสี Warm Light ให้ความรู้สึกสุขุมสง่า และการจัดวางของชุดเฟอร์นิเจอร์เห็นได้ชัดว่ารูปแบบการทำงานหรือการพูดคุยงานธุรกิจจะไม่ได้เน้นโต๊ะทำงาน แต่เป็นชุดโซฟาไว้ให้นั่งสบายคุยธุกิจยาวๆ และมีการแบ่ง Zoning เป็นกลุ่ม เพื่อให้แต่ละกลุ่มมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้นระดับหนึ่ง
ชั้น 18
ภายในชั้น 18 ออกแบบให้มีห้อง Fitness Center ภายในตกแต่งด้วยพื้น Pattern หวือหวา พร้อมกับกระจกแบบ Full Height ให้เราสามารถออกกำลังกายพร้อมชมวิวถนนเจริญกรุงและวิวแม่น้ำ
ชั้น 19
บนชั้น 19 Highlight คือสระว่ายน้ำแบบ Infinity Edge Pool พร้อม Jacuzzi และ Sky River View Deck ที่มีขนาดขนานไปตามแนวตึกด้วยความยาวรวม 21 เมตร ให้เราได้ว่ายน้ำ แช่ตัว พักผ่อนมอง City View และแม่น้ำเจ้าพระยาอย่างเต็มที่รูปแบบ Panoramic การออกแบบส่วนของสระว่ายน้ำด้านล่างเลือกใช้เป็นกระเบื้องที่มีเส้นสายลวดลายโฉบเฉี่ยว
ชั้น 20
และชั้นบนสุดของอาคารจัดให้เป็นพื้นที่ของ Sky Bar & Tea Room เพื่อให้เป็นเสมือนบาร์ส่วนตัวที่เราสามารถมานั่งอิ่มเอมกับเครื่องดื่มพร้อมชมวิวมุมสูงจากชั้นบนสุดของอาคารได้ นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ให้เราได้เชิญเพื่อนหรือแขกคนพิเศษของ Hangout แบบ Exclusive เป็นหน้าเป็นตาของเจ้าของบ้าน และยังมีห้องซิการ์ที่เป็นอีกหนึ่ง Highlight ของบาร์เพื่อให้การปาร์ตี้ของเราสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น
ห้องพักอาศัยขนาดใหญ่และเป็นส่วนตัวด้วยจำนวน 85 ยูนิต (7 ยูนิตต่อชั้น)
2 Bedroom + Maid Quarter ขนาด 89 ตร.ม.
2 Bedroom + Maid Quarter พื้นที่ขนาด 89 ตร.ม. ความน่าสนใจของแบบนี้อย่างแรกคือเป็นห้องมุมที่ไม่ว่าจะเป็นห้องไหนก็ตามก็ได้วิวของตัวเอง ส่วนการจัดฟังก์ชันการใช้งานเน้นให้ความสำคัญกับพื้นที่ห้องนอนพอสมควร เพราะไม่ว่าจะเป็นห้องนอนใหญ่หรือห้องนอนเล็กก็จัดให้เป็นรูปแบบ Master Bedroom มีทางเข้าห้องน้ำภายในห้องนอน ส่วนอีกจุดที่เรามองว่าน่าสนใจคือการเชื่อมต่อระหว่างพื้นที่ครัว และพื้นที่นั่งเล่น เมื่อเป็นผืนเดียวกันแล้วทำให้บรรยากาศภายในห้องโปร่งโล่งดี ส่วนตำแหน่งของโถงทางเดินก่อนเข้าสู่ Common Area นั้นก็มีความกว้างที่สามารถจัดฟังก์ชันการใช้งานผนังด้านข้างได้ ทำให้สามารถใช้ประโยชน์จากพื้นที่ที่นับว่าเป็นส่วน Circulation ได้มากขึ้น ไม่ได้เป็นเพียงทางเดินทั่วไป
บรรยากาศบริเวณโถงทางเดินหน้าทางเข้าห้อง ในพื้นที่นี้มีความกว้างระดับหนึ่งให้เราสามารถ Built-in ชั้นวางของ วางรองเท้า หรือของสะสม ให้เป็นเสมือน Art Gallery ของตัวเองก่อนจะเข้าสู่พื้นที่นั่งเล่นได้เลย
พื้นที่ Common Area ออกแบบให้เป็นพื้นที่เปิดโล่งเชื่อมต่อกันระหว่างฟังก์ชันมุมนั่งเล่น รับประทานอาหาร และ Pantry ครัว ทำให้บรรยากาศในห้องนี้ดูกว้างขวางมากขึ้น ประกอบกับชุดหน้าต่าง-ประตูบานใหญ่สูงแบบ Full Height จึงช่วยดึงแสงธรรมชาติเข้ามาสู่ภายในได้ดี และมองวิวภายนอกได้เต็มที่
อีกมุมมองของพื้นที่นั่งเล่นนี้จะเห็นถึงการเชื่อมต่อไปยังระเบียงภายนอก สามารถออกไปนั่งเล่นจิบกาแฟ จิบชา ชื่นชมวิวภายนอกได้ดี
บรรยากาศภายในห้องที่ตกแต่งมาให้ดูสำหรับการจัดเป็นห้องทำงานคงจะดีไม่น้อยที่มีห้องทำงานแบบ Private พร้อมให้เราสามารถทำงานได้เต็มที่ ช่วงพักเบรคก็ยังได้วิวภายนอกให้พักสายตาด้วยชุดกระจกขนาดใหญ่พร้อมเปิดมุมมองภายนอกให้เต็มที่
อีกหนึ่งบรรยากาศของห้องทำงาน ซึ่งห้องนี้หากใครจะทำเป็นห้องนอนที่ 2 ก็ยังได้ด้วยขนาดพื้นที่และการออกแบบมาเพื่อรองรับเป็นห้องนอนที่ 2 ได้ ตอบโจทย์กับครอบครัวขนาดเล็กที่มีสมาชิกครอบครัว 3-4 คน
ห้อง Master Bedroom เป็น Highlight ของห้องพักอาศัยแบบนี้เลย นอกจากขนาดพื้นที่ใช้สอยแล้ว ตำแหน่งของห้องก็ยังเป็นห้องมุมที่ทำให้เราสามารถมองเห็นวิวภายนอกได้ถึง 2 ทางด้วยกัน
บรรยากาศบริเวณพื้นที่เตียงนอนที่กว้างขวางเพื่อให้เราใช้พื้นที่นี้ในการพักผ่อนได้อย่างเต็มที่
3 Bedroom + Maid Quarter ขนาด 133 ตร.ม.
ห้อง 3 Bedroom + Maid Quarter เน้นลักษณะห้องหน้ากว้าง จากแปลนแล้วเห็นถึงการให้ความสำคัญกับพื้นที่ภายในห้องนอน รวมถึงตำแหน่งห้องนอนก็ได้เป็นตำแหน่งมุมสามารถเปิดมุมมองได้กว้างมากขึ้น พร้อมกับ Walk-in Closet และ ห้องน้ำส่วนตัว ส่วนห้องนอนที่ 2 และห้องนอนที่ 3 ก็ได้ตำแหน่งที่อยู่ติดหน้าต่างเช่นกัน และขนาดของพื้นที่ก็สามารถรองรับการพักผ่อนได้เต็มที่ วางเตียงไซส์ใหญ่ได้ทั้ง 2 ห้อง
อีก Highlight ของแบบห้องนี้คือหารให้ความสำคัญกับส่วน Common Area ที่เชื่อมโยงพื้นที่มาตั้งแต่โถงทางเดิน เข้าสู่ Pantry ครัว มุมรับประทานอาหาร และพื้นที่นั่งเล่น เชื่อมไปยังระเบียงภายนอก การออกแบบพื้นที่ให้มีความเชื่อมโยงต่อกันแบบนี้นอกจากจะได้ความโปร่งโล่ง การใช้งานที่เชื่อมต่อกันแล้ว ก็ยังส่งเสริมให้สมาชิกในครอบครัวไม่ว่าจะอยู่บริเวณไหนมองเห็นกันและกัน พูดคุยกัน ได้ความใกล้ชิดมากขึ้น
บรรยากาศส่วนโถงทางเดินที่ได้ความโอ่โถงและความกว้างขวางมากกว่าการเป็นเพียงโถงทางเดินทั่วไป สามารถจัดฟังก์ชันการตกแต่งและใช้งานด้านข้างได้
บรรยากาศในส่วน Common Area ที่เชื่อมต่อกันระหว่าง Pantry ครัว มุมรับประทานอาหารและพื้นที่นั่งเล่น
ด้วยขนาดพื้นที่แล้วสามารถรองรับเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ได้เต็มที่
มุมมองจากพื้นที่นั่งเล่นมีระยะความกว้างพอสมควร ทำให้มีพื้นที่ที่เราสามารถตกแต่งสไตล์ความชอบของตัวเองเพิ่มไปอีกได้ ในผนังทั้งฝั่งโซฟาและฝั่งทีวี รวมถึงสามารถรองรับโต๊ะกลางขนาดใหญ่ใช้งานได้เต็มที่ โดยยังคงมีพื้นที่ทางเดินให้เดินได้ง่าย
ชุดประตูบานเลื่อนที่เชื่อมต่อมายังระเบียงได้เป็นสเป็คบานใหญ่ Full Height และเป็นบานเปิดคู่เท่านั้น ทำให้มีวงกบน้อยลง มุมมองของการมองวิวภายนอกก็มีวงกบที่มาขวางกั้นน้อยลงไป ส่วนระเบียงนี้ออกแบบให้มาใช้งานได้จริงด้วยพื้นที่ที่กว้างมากพอ สามารถรองรับชุดโต๊ะเก้าอี้ได้ ราวกันตกที่เป็นกระจกนั้นก็สร้างความโปร่งโล่งให้พื้นที่ระเบียงได้มากขึ้นและได้ความหรูหราอีกด้วย
บรรยากาศภายในห้องนอนใหญ่ หรือ Master Bedroom บริเวณพื้นที่เตียงนอนที่กว้างขวางมี Space ในการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้เต็มที่
ภายในห้องนี้ยังเชื่อมต่อไปยังโซน Walk-in Closet ส่วนตัวและห้องน้ำส่วนตัวเช่นกัน
บรรยากาศของห้องนอนที่ 2 ก็มีขนาดกว้างขวางไม่แพ้กัน โดยเฉพาะในโซนเตียงนอน และยังมีห้องน้ำในตัวรองรับการใช้งาน
สุดท้ายคือห้องนอนที่ 3 แม้จะขนาดเล็กที่สุดแต่ด้วยเนื้อที่แล้วสามารถรองรับเตียงขนาดใหญ่ได้ หรือถ้าใครที่ต้องการพื้นที่ทำงานเป็นสัดส่วน ห้องนี้ก็เหมาะกับการจัดให้เป็นห้องทำงานเช่นกันค่ะ
บทสรุป
โครงการ One Altitude เจริญกรุง เป็นโครงการที่มีความน่าสนใจในเรื่องของการออกแบบดีไซน์ที่เน้นความหรูหราภายใต้สไตล์ Art Deco พร้อมแนวคิด Diamond Effect ที่มีการบิดแกนกระจกภายนอกอาคารให้แต่ละห้องมีมุมมองที่แตกต่างกันไป นอกจากนี้อีกสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันสำหรับโครงการที่อยู่ในระดับ Luxury นั้นก็คือความเป็นส่วนตัว ซึ่งถ้าใครที่ชอบสังคมขนาดเล็ก ไม่ต้องการความพลุกพล่าน โครงการนี้ตอบโจทย์ได้ดีเพราะด้วยจำนวนยูนิตเพียง 89 ยูนิตและทั้งชั้นมีเพื่อนบ้านเพียง 7 ห้องเท่านั้น สุดท้ายคือ Facilities จัดเต็มรวม 7 ชั้น ซึ่งก็เห็นถึงความตั้งใจของโครงการที่ต้องการให้โครงการมีความ Exclusive มากขึ้น และสร้าง Value ให้ตรงกับ Character ของกลุ่มลูกค้า แม้จำนวนยูนิตไม่มากแต่ได้พื้นที่ส่วนกลางอย่างเต็มที่ ใช้งานได้จริง รับรองแขกคนพิเศษของลูกบ้านได้ พร้อมกับที่จอดรถ 100%
หากคุณผู้อ่านสนใจนัดเข้าชมโครงการ หรือลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษ โทร 02-821-5989