Niche Mono พระราม 9 เป็นคอนโดใหม่จาก SENA ที่มาในทำเลพระราม 9 ใกล้โซนเหม่งจ๋าย แต่สิ่งที่ดึงดูดเรามากที่สุดเป็นเรื่องราคาค่ะ เพราะที่นี่เปิดราคา Presale มาที่ 1.79 ล้านบาท แล้วขายพร้อมเฟอร์นิเจอร์ไปอีกแบบ Fully Furnished ไปเลย ส่วนห้องที่ราคานี้ก็จะเป็น 1 Bedroom ขนาดประมาณ 25 ตร.ม. แต่จัดพื้นที่เป็นสัดส่วน ครัวก็ได้เตา ไม่เหมือนโครงการล้านกว่าบาทอื่นๆ ที่เราเคยเจอนะคะ จุดที่น่าสนใจของโครงการจะมีดังนี้ค่ะ

  • ทำเล : ที่ตั้งโครงการจะอยู่ในซอยพระราม 9 ซอย 17 ซึ่งจะอยู่ใกล้กับถนนประดิษฐ์มนูธรรม ถือว่าเป็นพระราม 9 ชั้นในที่เชื่อมต่อไปยังพระราม 9 เอกมัย เหม่งจ๋ายได้ไม่ยากค่ะ และในอนาคตบริเวณนี้จะมีรถไฟฟ้าสายสีส้มสถานีวัดพระราม 9 มาเปิดไม่ไกลจากโครงการ มี Shuttle van รับส่งนะ
  • ราคา : ที่นี่จะเริ่มต้นอยู่ที่ 1.79 ล้านบาทเป็นห้อง 1 Bedroom ส่วนห้อง 2 Bedrooms ราคาเริ่มต้นที่ 4.49 ล้านบาท และขายแบบ Fully Furnished ด้วย เรามองว่าเป็นราคาที่ตั้งมาให้หยิบจับได้ง่ายนะคะ ส่วนดีไซน์ต่างๆ ก็ทำออกมาดูดี น่าอยู่อาศัยเลย
  • แบบห้อง : ตัวห้องจะออกแบบมาค่อนข้างเป็นสัดเป็นส่วน เหมาะสมกับฟังก์ชันการใช้งาน ซึ่งทางเสนาจะมี Concept “Made from her” หรือการออกแบบที่คิดมาละเอียดในแบบฉบับของผู้หญิง ทำให้การลงดีเทลของห้อง และของเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ จะมีลูกเล่นที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตอยู่นะ
  • การจัดเก็บค่าส่วนกลาง : โครงการนี้จะมีตัวเลือกให้สำหรับคนที่ใช้ส่วนกลางและไม่ใช้ส่วนกลาง โดยคนที่ไม่ต้องการใช้ส่วนกลางจะเก็บเงินอยู่ที่ 27 บาท/ตร.ม.​ ส่วนคนที่ต้องการใช้ส่วนกลางจะจัดเก็บที่ 49 บาท/ตร.ม.​ ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลือกให้กับคนที่ไม่ได้ใช้อยู่แล้วสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายรายเดือนเพิ่มได้ค่ะ

ข้อมูลโครงการ

Niche Mono Rama 9 (นิช โมโน พระราม 9)  ณ วันที่ 28 ตุลาคม 2564

 ชื่อโครงการ  Niche Mono Rama 9 (นิช โมโน พระราม 9)
 ชื่อผู้ประกอบการ  บริษัท เสนา เอชเอชพี 9 จำกัด
 SEGMENT CLASS  MAIN CLASS (รายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2021 )
 โครงการตั้งอยู่  ถนนพระราม 9 ซอย 17 เขตห้วยขวาง
 ที่ดิน  4-2-26 ไร่
 ประเภทคอนโด  Low Rise 8 ชั้น 2 อาคาร
 จำนวนยูนิต  410 ยูนิต
 ยูนิตต่อชั้นสูงสุด  32 ยูนิตที่อาคาร B
 ที่จอดรถ  149 คันคิดเป็น 36% รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 42.2%
 เริ่มก่อสร้าง  ปี 2565
 คาดว่าจะแล้วเสร็จ  ปี 2566
 ประเภทห้องพัก
  • 1 Bedroom Lite ขนาด 25.83 – 26.75 ตร.ม.
  • 1 Bedroom ขนาด 28.61 – 30.22 ตร.ม.
  • 1 Bedroom plus ขนาด 32.38 – 33.74 ตร.ม.
  • 2 Bedrooms ขนาด 54.8 – 56.5 ตร.ม.

 ฝ้าเพดานสูง  2.40 เมตร
 ราคาเริ่มต้น  1.79 ล้านบาท (ราคาโปรโมชัน Pre-sale)
 ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ  ประมาณ 88,000 บาท/ตร.ม.
 ช่วงราคาต่อตารางเมตร(ต่ำสุด-สูงสุด)  n/a
 EIA (ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม)  อยู่ระหว่างการประเมิน
 เว็บไซต์โครงการ https://bit.ly/3ieVFYX
 Call Center  1775 กด 68

ทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.761930, 100.594298
หรือสามารถ : คลิกที่นี่ / Sales Gallery : คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการค่ะ

ที่ตั้งโครงการ Niche Mono พระราม 9 จะตั้งอยู่ในซอยพระราม 9 ซอย 17 ค่ะ ซึ่งเป็นโซนพระราม 9-เหม่งจ๋ายนะ จะอยู่ด้านหลังศูนย์แพทย์พัฒนา และใกล้ๆ กับวัดพระราม 9 ค่ะ โซนนี้ถือว่าเป็นทำเลใจกลางเมืองหนึ่งก็ว่าได้ค่ะ ค่อนข้างใกล้กับเอกมัย-ทองหล่อ และวน loop ถนนรอบๆไปยังถนนรัชดาฯได้ง่าย แม้ตัวโครงการจะอยู่ในซอย แต่ซอยนี้ก็เป็นซอยที่เชื่อมต่อถนนใหญ่ได้หลายเส้น เช่น ถนนใหญ่อย่างถนนพระราม 9 ถนนประดิษฐ์มนูธรรม หรือว่าถนนประชาอุทิศ เหมาะสำหรับคนที่ใช้รถส่วนตัวเป็นหลักนะ เนื่องจากถนนใหญ่ที่ใกล้ๆ เป็นถนนที่มีรถสาธารณะอย่างรถเมล์น้อยสายน้อยรอบ รถสาธารณะอื่นๆก็ต้องอาศัยพึ่งพา taxi, พี่วินมอเตอร์ไซค์หรือว่าเรียกผ่าน application เอาค่ะ และในอนาคตที่รถไฟฟ้าสร้างเสร็จ ทางโครงการจะมี Shuttle van service รับส่งที่สถานีวัดพระราม 9 ด้วยค่ะ ถือเป็น benefit สำหรับคนที่เน้นใช้รถสาธารณะมากขึ้นด้วยนะ คาดว่าจะเปิดใช้งานรถไฟฟ้าพอพอกับที่โครงการสร้างเสร็จค่ะ

ส่วนเรื่องการจราจรเราอยากจะบอกว่าความที่เป็นทำเลในเมือง ทำให้ช่วงเช้าก่อนเข้างานหรือว่าช่วงเย็นหลังเลิกงานก็จะมีช่วงเวลาที่รถติดพอสมควรเลย แนะนำว่าถ้าอยู่ที่นี่มีจักรยานหรือมอเตอร์ไซค์ใช้งานก็สะดวกนะคะ เพราะสามารถขับเลี่ยงรถติดได้ ไปซื้อของกินโซนเหม่งจ๋ายก็หาที่จอดได้ไม่ยาก คล่องตัวสูงดีค่ะ

ในส่วนของสถานที่สำคัญหรือความอุดมสมบูรณ์โดยรอบ ถ้าจะมองหาของกินระยะใกล้ จะมีอยู่ 2 โซนให้เลือกนะคะ คือจะมาทางฝั่งพระราม 9 แถว KPN ก็พอมี 7-eleven บ้าง แต่ถ้าจะให้มีตัวเลือกเยอะก็ไปทางเหม่งจ๋าย ตรงนั้นจะมีตัวเลือกเยอะกว่ามากเลยค่ะ ส่วนในระยะที่ไกลขึ้นมาหน่อยเรามองว่าสามารถไปห้างทางโซนรัชดาฯได้ อย่าง the street , esplanard หรือว่า central พระราม 9 ก็อยู่ไม่ไกล หรือจะไปใช้ชีวิตไลฟ์สไตล์เก๋ไก๋โซนเอกมัยทองหล่อก็ถือว่าใกล้มากเช่นกันนะ

สำหรับสถานที่ทำงาน เรามองว่าโครงการนี้เหมาะกับคนที่ทำงานในโซนเหม่งจ๋ายหรืออยู่แถวนี้อยู่แล้ว อาจจะเป็นบุคลากรที่ทำงานในโรงเรียนนานาชาติก็ได้ หรือว่าจะเป็นมนุษย์เงินเดือนที่ทำงานในออฟฟิศแถวถนนรัชดาฯ ถ้าจะเลือกโครงการนี้เพื่อซื้อไว้อยู่เองก็น่าสนใจทั้งในเรื่องราคาที่หยิบจับต้องง่าย ทำเลที่หาของกินสะดวก และมีตัวเลือกในการเข้าออกโครงการเยอะค่ะ

เส้นทางการเดินทาง

การเดินทางไปโครงการในครั้งนี้เราจะเลือกใช้เส้นทางจากถนนพระราม 9 จากบริเวณแยกผังเมืองไปยังโครงการนะคะ โดยเส้นทางนี้ก็จะผ่านทั้งตัว sale gallery ด้วยค่ะ บรรยากาศเส้นทางเป็นอย่างไร ไปชมกัน

แผนที่เส้นทางไปโครงการ Niche Mono พระราม 9

Image 1/10
จากแยกพระราม 9 ขับตรงมาอย่างเดียวเลยค่ะ

จากแยกพระราม 9 ขับตรงมาอย่างเดียวเลยค่ะ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

เราลองดูบรรยากาศรอบๆที่ตั้งโครงการในปัจจุบันกันค่ะ

Image 1/8
ปัจจุบันโครงการล้อมรั้วเอาไว้แล้วค่ะ

ปัจจุบันโครงการล้อมรั้วเอาไว้แล้วค่ะ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

  • Golden Place สาขาพระราม 9 ~ 900 m.
  • Donki mall ทองหล่อ ~ 4.1 km.
  • J-Avenue ทองหล่อ ~ 4.5 km.
  • The Street รัชดา ~ 4.7 km.
  • Fortune Town ~ 4.8 km.
  • Esplanade รัชดา ~ 5.3 km.
  • Central Festival Eastville ~ 5.5 km.
  • Big C Extra รัชดาภิเษก ~ 5.7 km.
  • Central Plaza พระราม 9 ~ 5.8 km.

โรงพยาบาล

  • คลินิกศูนย์แพทย์พัฒนา (ประตูทางเข้าทางด้านหลัง) ~ 500 m.
  • โรงพยาบาลปิยะเวช ~ 3.1 km.
  • โรงพยาบาลกรุงเทพ ~ 3.6 km.
  • โรงพยาบาลพระราม 9 ~ 4.1 km.
  • โรงพยาบาลสมิติเวช ~ 5 km.

โรงเรียน

  • โรงเรียนสมาคมไทย-ญี่ปุ่น ~ 0 m.
  • Regent International School ~ 1.2 km.
  • KIS International School ~ 2.2 km.
  • มหาวิทยาลัยรามคำแหง ~ 4.6 km.
  • โรงเรียนเซนต์ดอมินิก ~ 5.5 km.
  • มหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒ ~ 6.8 km.

สถานที่ราชการ / อื่นๆ

  • การรถไฟขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ~ 2.3 km.
  • วัดพระราม 9 ~ 2.5 km.
  • บริษัท อสมท. จำกัด (มหาชน) ~ 3.8 km.
  • ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ~ 4.5 km.
  • กระทรวงวัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ~ 4.5 km.
  • MRT ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ~ 4.7 km.

รายละเอียดโครงการ

Niche Mono พระราม 9 เป็นคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น 2 อาคาร ตั้งอยู่บนที่ดินขนาดประมาณ 4 ไร่ครึ่ง รวมห้องพักอาศัยทั้งหมด 410 ยูนิต

โครงการนี้ออกแบบมาใน Concept : being swagg, being smart & cool โดยต้องการสร้างให้ Niche Mono พระราม 9 เป็นคอนโดที่สามารถอยู่และใช้ชีวิตสนุกและสมาร์ทได้ภายในตัวค่ะ

จาก Concept ของโครงการจะแตกออกมาเป็น 4 เรื่องคือ

  1. Swag & Smart GENERATION : สื่อถึง target หรือกลุ่มลูกค้าที่โครงการมองว่าต้องการออกแบบให้รองรับกับคนรุ่นใหม่ Gen Y ที่อาจจะเพิ่งเริ่มต้นทำงาน ที่ชอบความสนุกสนาน อยากได้ความสดใหม่ เป็นตัวของตัวเอง
  2. Swag & Smart LOCATION : โดยคนกลุ่มนี้จะมองหาที่อยู่อาศัยที่สะดวก ซึ่ง Niche Mono พระราม 9 จะมีทำเลที่อยู่ใจกลางเมือง ใกล้รถไฟฟ้าสายสีส้ม เชื่อมต่อไปยังโซนอื่นๆได้สะดวก
  3. Swag & Smart DESIGN : ซึ่งแบบห้องที่ได้และดีเทลในการออกแบบก็จะต้องตอบรับการใช้ชีวิตสำหรับคนกลุ่มนี้เช่นกัน เช่น การมีพื้นที่หรือเฟอร์นิเจอร์ที่สามารถปรับฟังก์ชันใช้งาน ทำงาน พักอาศัยได้
  4. Swag & Smart LIFESTYLE : เมื่อรวมรูปแบบโครงการกับที่ตั้งแล้วที่นี่จะต้องตอบโจทย์เรื่อง lifestyle การใช้ชีวิตของคนได้ เช่น ชอบความสนุกใกล้ห้าง ใกล้โรงพยาบาลแต่ก็ยังต้องการพื้นที่ส่วนตัวที่สงบค่ะ

ซึ่งนี่จะเป็น Concept ที่โครงการตั้งโจทย์เอาไว้นะ เราลองไปดูกันต่อว่าเมื่อออกมาเป็นแบบโครงการหรือว่าแบบห้องแล้วจะออกมาเป็นอย่างไร

master plan

มาดู master plan ของโครงการกันค่ะ ที่ดินของโครงการนี้จะไม่ได้อยู่ติดกับพระราม 9 ซอย 17 นะ แต่จะมีถนนทางเข้าก่อนที่จะถึงที่ดินโครงการ ซึ่งทางด้านหน้าจะเป็นที่ดินเปล่าของทางเสนาซึ่งวางแผนไว้ว่าจะเป็นอีก 1 โครงการคอนโดในอนาคตค่ะ โดยจุดเด่นของ Niche mono พระราม9 ที่อยู่ลึกเข้ามาแน่นอนว่าจะได้เรื่องความ Private หรือว่าเป็นส่วนตัวมากกว่าอีกโครงการที่อยู่ด้านหน้านะ เพราะจะไม่มีรถผ่านไปมาใกล้กับห้องพักอาศัย ส่วนทางด้านหลังโครงการจะเป็นคลอง ฝั่งตรงกันข้ามเป็นสวนสุขภาพห้วยขวาง ดังนั้นน่าจะมีบรรยากาศที่ดูแล้วใกล้ชิดกับธรรมชาติมากกว่าโครงการที่อยู่ทางด้านหน้าแน่นอน

ในการวางผังอาคารจะแบ่งออกเป็น 2 อาคาร  ตึก A จะอยู่ใกล้กับทางเข้า และตึก B จะอยู่อีกฝั่งค่ะ ทั้งคู่จะมีผังเป็นรูปตัว L วางตัว interlock กันและเกิด court หรือพื้นที่ว่างระหว่างอาคารเป็นส่วนกลางนะ

ภาพจำลองบรรยากาศจากทางด้านหลังของโครงการ จะอยู่ติดกับคลอง โดยจะออกแบบพื้นที่ทางด้านหลังเป็นสวนภายในโครงการ เชื่อมต่อไปกับสวนสุขภาพห้วยขวางที่อยู่ตรงข้ามคลองได้ด้วย และจะมี Jogging track ให้ออกกำลังกายสำหรับคนรักสุขภาพค่ะ

Facility

Niche Mono พระราม 9 มีการจัดเก็บค่าส่วนกลางที่ค่อนข้างแปลกใหม่เลยค่ะ โดยจะมีอัตราจัดเก็บอยู่ 2 แบบที่ไม่เท่ากัน สำหรับคนที่ใช้พื้นที่ส่วนกลางจะคิด 49 บาท/ตร.ม. ส่วนคนที่ไม่ใช้ส่วนกลางจะคิดที่ 27 บาท/ตร.ม. ถือว่าเป็นตัวเลือกสำหรับคนที่ยังไงก็ไม่ได้ใช้ส่วนกลางอยู่แล้วหรือว่านักลงทุนที่ซื้อห้องแล้วอยากขายต่อก็สามารถเลือกจ่ายค่าส่วนกลางแบบ 27 บาท/ตร.ม. ได้ค่ะ โดยคนที่จ่ายแบบเต็มอัตราก็สามารถใช้พื้นที่ส่วนกลางได้ทั้งหมด แต่สำหรับคนที่เลือกแบบไม่ใช้จะได้เพียงที่จอดรถและสวนที่อยู่ทางด้านหลังนะคะ

ในส่วนของรายละเอียดต่างๆ เช่น ถ้าเราอยากปล่อยเช่าเราสามารถจ่ายที่ 27 บาท/ตร.ม. ก่อนได้ไหม แล้วถ้าเกิดผู้เช่าอยากใช้ส่วนกลางค่อยมาจ่ายที่ 49 บาท/ตร.ม. หรือในกรณีที่ถ้ามีคนเลือกที่จะไม่ใช้งานส่วนกลางกันเยอะ จะมีการคิดค่าส่วนกลางคนที่ใช้งานเพิ่มรีเปล่า? รายละเอียดตรงนี้อาจจะต้องสอบถามกับทางโครงการหรือว่าเป็นการตัดสินใจร่วมของลูกบ้านหลังจากจัดตั้งนิติบุคคลอีกทีนะคะ แต่ถ้ามองว่าค่าส่วนกลางสามารถทดแทนค่าฟิตเนสรายเดือน หรือค่ากาแฟที่เราไปใช้เป็นสถานที่ทำงานที่ร้าน เปลี่ยนมาเป็นจ่ายค่าส่วนกลางแทน คิดคร่าวๆก็จ่ายเพิ่มประมาณ 600 บาท/เดือน (ห้อง 1 bedroom lite) ก็ถือว่าคุ้มค่าอยู่นะคะสำหรับเรา

สำหรับการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางจะอยู่ที่ชั้นล่างทั้งหมดค่ะ โดยจะมีที่จอดรถให้ใต้อาคารและด้านนอก รวม 149 คัน หรือประมาณ 42.2% ถือว่าเหมาะสำหรับโครงการที่ใกล้รถไฟฟ้า(ที่นี่คาดว่าจะสร้างเสร็จพร้อมกันกับที่รถไฟฟ้าจะเริ่มใช้งาน และมีรถรับ-ส่งที่สถานี) ทางด้านหลังของโครงการจะจัดไว้เป็นสวน พร้อมกับ jogging track ยาว 80 เมตร ทั้งสองส่วนนี้ (ที่จอดรถและสวน) คนที่จ่ายค่าส่วนกลาง 27 บาท/ตร.ม.สามารถมาใช้งานได้ค่ะ

ตรงกลางระหว่างอาคารจะเป็นสระว่ายน้ำ และมีการจัดพื้นที่รอบๆเป็นมุมพักผ่อน นั่งเล่น ใน pavillion ที่จัดไว้ให้ได้ ส่วนภายในตัวอาคาร จะมีการออกแบบพื้นที่ co-working เอาไว้ให้ทั้ง 2 อาคารค่ะ และใต้อาคาร A จะมีห้องฟิตเนสอยู่ ส่วนอาคาร B จะมี main lobby และห้องนิติบุคคลค่ะ

ภาพจำลองบรรยากาศพื้นที่ส่วนกลางระหว่างอาคาร ตัวสระว่ายน้ำจะอยู่ตรงกลาง โดยพื้นที่ตรงนี้แม้จะอยู่ระดับเดียวกันกับที่จอดรถแต่ก็จะเห็นว่าแยกพื้นที่ออกจากกันด้วยแนวพุ่มไม้ค่ะ เพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับคนที่มาใช้งานสระได้

สระว่ายน้ำจะใช้เป็นระบบเกลือ ขนาด 19×9 เมตร มีการแบ่งสระเด็กและสระผู้ใหญ่

ริมสระน้ำจะมีมุม pavillion อยู่ค่ะ มานั่งเล่นริมสระพักผ่อนได้นะ ดูจากภาพ Tive ก็ถือว่าสวยงามดีค่ะ

รอบๆ สระก็จะมีแนวต้นไม้ปลูกอยู่ สร้างบรรยากาศให้พื้นที่ส่วนกลางดูร่มรื่นนะคะ ห้องที่หันหน้าเข้ากลางโครงการก็จะได้วิวที่ดูร่มรื่นด้วยค่ะ

ภาพจำลองบรรยากาศภายใน Co-working โดยส่วนที่เป็น co-working นี้จะมีอยู่ทั้งอาคาร A และ อาคาร B เลยค่ะ เป็นส่วนที่เหมาะสำหรับคนในยุคนี้ที่ต้อง Work from home กันมากขึ้น บางคนอยู่ในห้องนานๆ แล้วเบื่อหรืออึดอัด ก็ไม่ต้องไปนั่งที่ร้านกาแฟไหน สั่ง delivery มาจิบกาแฟทำงานที่คอนโดได้เลยค่ะ

บรรยากาศภายในฟิตเนส เราจะเห็นว่าพื้นที่ส่วนกลางของที่นี่จะเน้นการเลือกใช้โทนสีที่สดใส เพื่อตอบโจทย์กับกลุ่มคน Gen Y ค่ะ

ภาพจำลองบรรยากาศห้องพักและสระว่ายน้ำที่อยู่ตรงกลางระหว่างอาคาร ถือเป็นภาพที่อยากให้เห็นว่าอยู่คอนโดราคาเริ่มต้นล้านกว่าบาทใจกลางเมืองก็สามารถได้วิวแบบนี้นะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • First AID
  • Laundry
  • Co-working
  • Fitness
  • Swimming pool ระบบเกลือขนาด 19×9 เมตร ลึก 1.2 เมตร สระเด็กลึก 0.65 เมตร
  • Leisure Lawn
  • Pavillion
  • Jogging Track 80 เมตร
  • Wifi internet บริเวณพื้นที่ส่วนกลาง
  • Digital service : Smart Locker
  • Shuttle Van Service รถไฟฟ้าสายสีส้ม สถานีวัดพระราม 9
  • EV Charger
  • ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
  • อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 102: 1
  • ที่จอดรถประมาณ 149 คันคิดเป็น 36% (ถ้ารวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 42.2%)

ระบบรักษาความปลอดภัย

  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและกล้องวงจรปิด 24 ชั่วโมง
  • ระบบ Access Control และลิฟต์แบบ lock ชั้น
  • CCTV ผ่าน Apps SENA 360

ผังชั้นพักอาศัยในโครงการ

ชั้นพักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 2 ถึงชั้น 8 ของอาคารเลยค่ะ โดยจะใช้เป็นระบบลิฟต์ล็อกชั้นนะคะ ใครที่อยู่อาคารไหนก็จะขึ้นไปได้เฉพาะอาคารและชั้นที่ตัวเองอยู่เท่านั้นค่ะ

master plan + วิว

ตัวโครงการ Niche Mono พระราม 9 จะแบ่งเป็น 2 อาคาร โดยทั้ง 2 อาคารนี้จะมีผังรูปตัว L วางตัว interlock กันเกิดเป็นที่ว่างตรงกลางเป็นพื้นที่ส่วนกลางอย่างที่เล่าไปค่ะ ดังนั้นห้องพักอาศัยจะมีทั้ง 2 ด้าน ฝั่งที่หันหน้าเข้ากลางโครงการก็จะได้วิวพื้นที่ส่วนกลางไป ส่วนฝั่งที่หันออกนอกโครงการก็จะมีวิวต่างๆ ดังภาพด้านบนนะ ทั้ง 2 ฝั่งต่างก็มีข้อดีข้อเสียอยู่ อย่างห้องที่ได้วิวส่วนกลาง มองออกไปก็จะเจอกับห้องฝั่งตรงข้าม อาจจะรู้สึกสูญเสียความเป็นส่วนตัวได้บ้าง แต่ถ้าเป็นห้องที่หันไปทางคลอง วิวอาจไม่สวยเท่าในโครงการ แต่ก็จะมองออกไปได้ระยะไกลกว่า ได้วิวที่โปร่งโล่งกว่าค่ะ ทั้งนี้รอบๆ ตัวโครงการปัจจุบันยังไม่มีอาคารสูงขึ้นเลยนะ เรามองว่าได้ความเงียบสงบดีค่ะ

ผังอาคาร A ชั้น 2-8

ที่อาคาร A ชั้นพักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 2-8 ทุกชั้นจะเหมือนกันหมดค่ะ มี 25 ห้องต่อชั้น มีลิฟต์อยู่ตรงมุมอาคาร 2 ตัว ส่วนทางเดินจะเป็นแบบ Double corridor มีห้องพักอาศัยอยู่ทั้ง 2 ฝั่งทางเดิน แต่ก็ออกแบบมาให้ประตูแต่ละห้องไม่ตรงกันนะคะ และทุกปลายทางเดินก็จะมีหน้าต่างเป็นช่องแสงและช่วยระบายอากาศบริเวณทางเดินหน้าห้องได้ด้วย ในเวลากลางวันบางจุดอาจจะไม่ต้องเปิดไฟ ประหยัดค่าใช้จ่ายส่วนกลางได้ค่ะ

รูปแบบการวางตำแหน่งห้อง ห้องเริ่มต้น 1 bedroom lite(สีส้ม) จะอยู่ใกล้กับลิฟต์ และอยู่ในโซนที่หันออกไปเจอโกดังด้านข้าง ส่วนห้อง 1 bedroom ปกติ จะหันอยู่ตรงกลางในด้านขวาของผังตัว L มีทั้งหันเข้าและหันออกนอกโครงการค่ะ ห้องที่มีจำนวนเยอะที่สุดจะเป็น 1 Bedroom plus  ส่วนห้อง 2 Bedroom จะได้อยู่ที่ตำแหน่งมุมอาคารไป

Image 1/2
อาคาร B ชั้น 2-3

อาคาร B ชั้น 2-3

ส่วนอาคาร B จะแบ่งผังเป็น 2 ส่วน ที่ชั้น 2-3 จะไม่มีห้องแบบ 1 bedroom plus ส่วนชั้น 4-8 จะมีห้องทุกแบบให้เลือกค่ะ โดยอาคารนี้จะเน้นไปที่ห้อง 1 bedroom แบบปกติ ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ฝั่งด้านยาวของแปลนหันออกไปยังบ้านริมน้ำข้างๆและคลองนะคะ

แบบห้อง

ในส่วนรูปแบบห้องของ Niche Mono พระราม 9 จะทำออกมาทั้งหมด 4 แบบหลัก ดังนี้ค่ะ

  • 1 Bedroom Lite ขนาด 25.83 – 26.75 ตร.ม.
  • 1 Bedroom ขนาด 28.61 – 30.22 ตร.ม.
  • 1 Bedroom plus ขนาด 32.38 – 33.74 ตร.ม.
  • 2 Bedrooms ขนาด 54.8 – 56.5 ตร.ม.

ห้องเริ่มต้นจะเป็น 1 Bedroom ที่กั้นพื้นที่เป็นสัดส่วน เพื่อความสะดวกในการอยู่อาศัย และมีห้องแบบ 2 Bedrooms รองรับคนที่อยากอยู่เป็นครอบครัวใจกลางเมือง โดยโครงการนี้จะขายพร้อมเฟอร์นิเจอร์แบบ Fully Furnished และมี Key Concept ในการออกแบบคือ “Made From Her” ซึ่งเป็น concept หลักของทางเสนาอยู่แล้วด้วยค่ะ

คำว่า Made from her นั้นจะสื่อถึงการออกแบบที่ละเอียดในแบบฉบับของผู้หญิง ลองนึกภาพคุณแม่ที่คอยดูแลทุกดีเทลของลูกๆ ก็ได้ค่ะ การออกแบบของเสนาก็เช่นกัน “Made from her” แต่ก็ made for everyone นะคะ (อันหลังเราเติมเอง) ส่วนตัวเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ที่เลือกใช้ภายในห้องจะต่อยอดมาจาก Geo fit+ ซึ่งเป็นกระบวนการต่อยอดความคิดเห็นของลูกบ้านจากทางบริษัท ฮันคิว ฮันชิน (ญี่ปุ่น) มาปรับใช้ในการออกแบบเฟอร์นิเจอร์ ตอบรับการอยู่อาศัย ส่วนตัวเราชอบการออกแบบของญี่ปุ่นอยู่แล้ว เนื่องจากที่อยู่อาศัยของที่ญี่ปุ่นมักจะมีขนาดเล็ก ทำให้การออกแบบ Gimmick ต่างๆ ของเฟอร์นิเจอร์จะต้องตอบโจทย์ฟังก์ชันที่ไม่ใช่แค่หนึ่งฟังก์ชัน แต่จะต้องพลิกแพลงเป็นอย่างอื่นได้ เช่น ฐานเตียงมีที่เก็บกระเป๋า หัวเตียงใช้วัสดุที่นุ่ม นอนพิงอ่านหนังสือก่อนนอนได้ เป็นต้นค่ะ

ส่วนห้องตัวอย่างที่เราจะพาไปชมกันในรีวิวนี้จะมีอยู่ 2 ห้อง เป็นห้อง 1 Bedroom ขนาดประมาณ 28 ตร.ม. และห้อง 1 Bedroom Plus ขนาดประมาณ 32 ตร.ม.ค่ะ แต่ก่อนที่จะไปชมห้องตัวอย่าง เราลองไปดูวัสดุที่ได้ภายในห้องกันนะคะ

รายการวัสดุที่ได้ในห้อง

  • โครงสร้างผนัง ก่ออิฐ ฉาบเรียบ ทาสี
  • พื้นครัว กระเบื้องแกรนิตโต้
  • พื้นห้องน้ำและระเบียง กระเบื้องเซรามิก
  • พื้นห้องนอนและห้องนั่งเล่น ลามิเนตหนา 8 มม.
  • ครัวได้เตาและเครื่องดูดควันของ Teka ส่วนอ่างล้างจานได้ของ Hafele
  • สุขภัณฑ์ในห้องน้ำได้ของ COTTO

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ


1 Bedroom ขนาด 28.5 – 29 ตร.ม.

ห้องแรกที่จะพาไปดูเป็นห้อง 1 Bedroom ขนาดประมาณ 28-29 ตร.ม. ตัวห้องนี้มีการจัดวาง layout ของห้องเอาไว้ค่อนข้างน่าสนใจเลยทีเดียว ไปดูแปลนห้องกันค่ะ

ตัวห้องนี้จะเป็นห้องตอนลึก แต่ก็แบ่งพื้นที่ออกเป็นสองฝั่งซ้ายขวานะคะ เมื่อเข้ามาภายในห้องจะเป็นพื้นที่ห้องนั่งเล่นต่อเนื่องไปกับห้องนอนที่อยู่ทางด้านในติดระเบียง โดยทั้งสองส่วนนี้จะแยกออกจากกันด้วยประตูบานเลื่อนกระจก เพื่อให้ห้องนั่งเล่นยังพอได้รับแสงธรรมชาติ และเราก็สามารถเปิดประตูต่อเนื่องเพื่อระบายอากาศได้ในวันที่อากาศดี

พื้นที่อีกฝั่ง(ขวามือ)จะเป็นส่วน service ของห้อง เริ่มจากห้องครัวที่ได้เป็นครัวปิด ทำอาหารได้เต็มที่ไม่ต้องกลัวกลิ่นควันลอยคลุ้งไปทั่วห้อง มีห้องน้ำ และจุดเด่นคือมีพื้นที่ walk-in closet หรือมุมแต่งตัวขนาดใหญ่พอดูหน้าห้องน้ำ ตรงนี้เราชอบที่การออกแบบเราสามารถเปิดประตูห้องน้ำและหน้าต่างเพื่อระบายความชื้นของห้องน้ำได้ระยะไม่ไกลมาก แต่ก็มีจุดที่อาจจะขัดใจบางคนอยู่คือตรงทางเข้าห้องน้ำที่จะต้องผ่านเตียงผ่านโซนแต่งตัวเข้ามา ในกรณีที่มีเพื่อนมาเยี่ยมเราก็อาจจะต้องจัดห้องจัดเตียงให้ดูเรียบร้อยหน่อยค่ะ

ห้องนี้ขายเป็นแบบ Fully furnished ตัวเฟอร์นิเจอร์ที่ได้ก็จะตามนี้เลยค่ะ

มาดูที่ห้องตัวอย่างกันเลยค่ะ เข้ามาภายในห้องเราจะเจอกับพื้นที่นั่งเล่นเป็นอันดับแรก ภายในห้องจะมีความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานอยู่ที่ 2.4 เมตร ถือว่าเป็นระยะมาตรฐาน ได้ผนังฉาบเรียบทาสีขาว ไฟดาวน์ไลท์(แต่จำนวนอาจจะไม่เท่าห้องตัวอย่างนะ) ได้พื้นห้องเป็นลามิเนตค่ะ

พื้นที่ส่วนนี้จะลึกประมาณ 3.1 เมตรจะมีโซฟาและโต๊ะพับที่อยู่ติดผนังให้มาค่ะ

ตัวโต๊ะนี้จะเป็นโต๊ะที่พับได้นะคะ เราสามารถพับเพื่อประหยัดพื้นที่ได้ เผื่อวันไหนอยากปูเสื่อโยคะออกกำลังกายก็ทำได้เลย นอกจากนั้นก็จะมีพื้นที่เก็บของกระจุกกระจิกให้มาเพียบ และมีพื้นที่ด้านบนวางหนังสือ หรือว่ารูปภาพตกแต่งห้องเพิ่มเติมได้อีก เหมาะสำหรับคนที่ต้องการมุมทำงาน มีพื้นที่วางเครื่องเขียนได้จุใจเลยค่ะ หรือว่าจะประยุกต์ใช้โต๊ะตรงนี้เป็นพื้นที่กินข้าวด้วยก็ได้ เพียงแค่เราหาเก้าอี้มาเพิ่มก็จบแล้วนะมุมนี้

ถัดเข้ามาจะเป็นตำแหน่งของโซฟา โดยตัวโซฟาจะยาว 1.5 เมตร นั่งได้ 2 คนสบายๆนะ อาจจะหา coffee table เล็กๆ มาวางเพิ่มหน้าโซฟาก็ยังได้ค่ะ

ตัวโซฟาเองก็มี Gimmick อยู่ 2 จุด อันดับแรกคือที่วางแขนด้านข้างจะมีที่เก็บของอยู่ อาจจะเก็บพวกรีโมทต่างๆ หรือว่าหนังสือได้ และอีกจุดคือมีโต๊ะหมุนพ่วงมา เผื่อนอนดู netflix อยู่ก็วางแก้วน้ำ จานขนม หรือว่าจะใช้แทนโต๊ะทำงานเปลี่ยนอิริยาบถก็ได้เช่นกันค่ะ

ฝั่งตรงข้ามกับโซฟาจะมีชั้นวางทีวีให้มา เป็นชั้นวางที่มีความยาวประมาณ 1.5 เมตร โดยด้านในออกแบบให้เป็นที่เก็บรองเท้าไปในตัวค่ะ แน่นอนว่าคนเราไม่ได้มีรองเท้าแค่คู่เดียวเนอะ คู่ไหนไม่ใช้บ่อยอาจจะใส่กล่องมาเก็บไว้ตรงนี้ได้

ทางฝั่งนี้ก็จะมีห้องครัวอยู่ด้านหลังค่ะ

ประตูเข้าครัวจะเป็นบานเลื่อนกระจก 3 ตอนนะ เปิดสุดก็ดูเดินเข้าออกสบาย และพอเลือกใช้เป็นบานเลื่อนกระจกแทนบานทึบก็ช่วยให้ภายในครัวดูกว้างขึ้นด้วยค่ะ

ภายในห้องครัวจะเปลี่ยนวัสดุพื้นเป็นกระเบื้อง เพื่อให้ง่ายในการทำความสะอาดคราบเขม่าควัน หรือน้ำมันที่เปรอะเปื้อนจากการทำอาหารด้วยนะ

ภายในห้องจะแบ่งเป็นสองฝั่งมีทางเดินตรงกลาง ทั้งฝั่งซ้ายและขวาดูจากห้องตัวอย่างจะมีพื้นที่เหลือข้างๆ เคาน์เตอร์และตู้เย็นอยู่ เรามองว่าเป็นมุมสำหรับวางถังขยะหรืออุปกรณ์ทำความสะอาดบ้านได้นะ

มาดูครัวกันค่ะ ภายในครัวขนาดอาจจะไม่ใหญ่มากแต่ก็มีฟังก์ชันมาให้ครบเลย อย่างเตาไฟฟ้าก็จะได้ของ Teka และมีอ่างล้างจานมากให้เป็นของ Hafele

นอกจากนั้นก็จะมีชั้นวางของทั้งบนและล่างสามารถเก็บภาชนะ อุปกรณ์ครัว เครื่องปรุงต่างๆได้อยู่นะคะ ส่วนไมโครเวฟก็มีช่องวางเรียบร้อยอยู่ที่เคาน์เตอร์ล่าง

มาดูที่ห้องนอนกันต่อค่ะ ตัวห้องนอนจะถูกแบ่งจากห้องนั่งเล่นด้วยประตูบานเลื่อนกระจก 3 ตอนนะคะ

เมื่อเข้ามาจะเป็นเตียงนอนก่อน แล้วด้านข้างเตียงนอนจะเป็นระเบียง ซึ่งเรามองว่าดีค่ะ เพราะว่าเตียงนอนจะได้ไม่อยู่ชิดกับผนังภายนอกมากเกินไป ลดความร้อนที่จะแผ่เข้ามารบกวนการนอนด้วย

ภายในห้องนอนก็จะได้ฐานเตียงมาให้ค่ะ โดยฐานเตียงก็จะออกแบบให้มีช่องสามารถเก็บของอย่างกระเป๋าเดินทางได้นะ

ยังไม่พอค่ะ คือตรงหัวเตียงจะออกแบบให้มีพนักพิง เราสามารถหาโต๊ะหัวเตียงเล็กๆ มาวางเหมือนในห้องตัวอย่าง ก่อนนอนก็จุดเทียนหอม นั่งพิงหัวเตียงอ่านหนังสือผ่อนคลายก่อนนอนได้ด้วย

พื้นที่ตรงนี้จะลึกประมาณ 2.5 เมตร ทำให้ข้างๆ เตียงเหลือพื้นที่ไม่มาก พอเดินได้นะคะ แต่อาจจะจัดวางฟังก์ชันอื่นเพิ่มไม่ได้แล้ว

ประตูที่พาเราออกไปยังพื้นที่ระเบียงจะเป็นประตูบานเลื่อนกระจกแบบ 3 ตอนเช่นกันค่ะ

พื้นที่ระเบียงเรามองว่ากว้างอยู่นะคะ เป็นมุมสำหรับซักผ้าตากผ้า และวาง condensing unit แอร์ โดยพื้นที่ตรงนี้จะมีการเดินงานระบบไฟฟ้า ระบบประปามารองรับเครื่องซักผ้าแล้ว

ออกมาจากระเบียงเราไปดูพื้นที่ส่วนอื่นๆกันต่อค่ะ

เดินมาฝั่งหน้าห้องน้ำกันบ้าง ตรงนี้จะเป็นโซนแต่งตัวที่เป็นไฮไลท์ของห้อง type นี้เลยก็ว่าได้

ห้องแต่งตัวนี้จะอยู่ติดกับหน้าต่างบานใหญ่เป็นช่องแสงให้กับพื้นที่แต่งตัวได้ดี

ทางโครงการจะมี built-in ตู้เสื้อผ้ามาให้แบบนี้ จะไม่มีหน้าบานนะ กว้าง 1.5 เมตร ให้ช่องเก็บของและราวแขวนเสื้อผ้าต่างๆ มาเยอะเหมือนกันค่ะ ตรงนี้ถ้าใครอยากได้แบบมีหน้าบานตู้ก็สามารถหาช่างมาติดเพิ่มได้นะคะ หรือถ้าง่ายกว่านั้นก็หาเป็นม่านมารูดปิดเปิดก็ได้ค่ะ ได้บรรยากาศอีกแบบ

อีกมุมตรงนี้จะไม่ได้ให้อะไรมานะ แต่เราสามารถจัดเป็นมุมโต๊ะเครื่องแป้งก็ดี ได้แสงธรรมชาติ แต่งหน้าง่าย หรือจะจัดเป็นมุมโต๊ะทำงานที่เป็นส่วนตัวมากขึ้นได้ค่ะ

มองย้อนกลับไปในห้องเราจะเจอกับห้องน้ำนะคะ

ภายในห้องน้ำจะให้สุขภัณฑ์หลักๆมาครบครัน

อ่างล้างหน้าได้ของ Cotto มีผนังด้านหลังก่อแบบ low wall ให้เราสามารถวางข้างของเครื่องใช้ได้

ส่วนโถสุขภัณฑ์ก็จะได้เป็นของ Cotto เช่นกันค่ะ มีสายฉีดชำระและที่ใส่กระดาษทิชชูมาให้พร้อม

ด้านในสุดจะเป็นโซนอาบน้ำ ได้ฝักบัวแบบมือจับ hand shower มี junction box เตรียมไว้เผื่อใครจะติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นก็จะได้ทำได้ง่าย

ห้องอาบน้ำจะไม่ได้ให้ฉากกั้นกระจกมานะคะ เราอาจจะติดตั้งเพิ่มเป็นฉากกั้นหรือหาผ้าม่านอาบน้ำมาติดก็ได้ค่ะ ส่วนบริเวณพื้นจะมีธรณีก่อสูงขึ้นมา กันน้ำในโซนอาบน้ำไหลมายังพื้นที่อื่นๆ ภายในห้องน้ำนะ

จบห้องตัวอย่างแรกแล้วค่ะ ห้องนี้จะมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 2.29 ล้านบาท เพื่อนๆ ชอบห้องนี้ไหมคะ?


1 Bedroom Plus ขนาด 32-33.5 ตร.ม.

ห้องตัวอย่างแบบที่ 2 ที่จะพาไปดูเป็นห้อง 1 Bedroom plus ขนาดประมาณ 32-33 ตร.ม.ค่ะ ห้องนี้ราคาโปรโมชันเริ่มต้นช่วง presale อยู่ที่ 2.59 ล้านบาทนะคะ ขายพร้อมเฟอร์นิเจอร์เช่นเคย

ผังห้องจะเป็นห้องหน้ากว้างค่ะ แบ่งพื้นที่ออกเป็นสองฝั่งซ้ายขวาเช่นกัน เราว่าห้องนี้ออกแบบมาค่อนข้างลงตัวเลย พื้นที่แยกเป็นสัดส่วนใช้งานสะดวก เริ่มต้นคือห้องครัว ซึ่งเราจะได้เป็นครัวปิดและมีห้องน้ำอยู่ข้างๆ ถือว่าเป็นโซน Service ของห้องไปในตัว เป็นโซนนี้อาจจะมีทั้งกลิ่นควันเกิดขึ้นง่าย พอตั้งอยู่แยกจากห้องนอนและห้องนั่งเล่นก็ช่วยให้กลิ่นห้องน้ำ หรือกลิ่นจากการทำอาหารไม่รบกวนพื้นที่ส่วนอื่นค่ะ ถัดเข้ามาจะเป็นห้องนั่งเล่นที่วางมุมกินข้าวและโซฟาพักผ่อนได้กำลังพอดี โดยที่ด้านในสุดของห้องจะเป็นห้องอเนกประสงค์ พื้นที่อาจจะไม่ใหญ่มาก แต่ก็รองรับการจัดเป็นห้องออกกำลังกาย ห้องทำงานในช่วงที่หลายบริษัทยังต้อง work from home กันแบบต่อเนื่องได้ค่ะ ส่วนของห้องนอนนั้นจะแยกมาอีกฝั่ง มีระเบียงภายในตัว มีขนาดกว้างขวางนะ อยู่สบายค่ะ

ส่วนเฟอร์นิเจอร์ที่ได้ในห้องจะตามนี้เลยนะคะ มีความแตกต่างจากห้องก่อนอยู่ตรงโต๊ะกินข้าวที่จะได้แบบ 2 ที่นั่งแทนโต๊ะพับ กับตู้เสื้อผ้าที่จะได้แบบมีหน้าบานปิดค่ะ

มาดูที่ห้องตัวอย่างกันค่ะ เข้ามาภายในห้องส่วนแรกจะเป็นห้องครัวอย่างที่บอกไป พื้นตรงนี้จะเลือกใช้เป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ ง่ายในการทำความสะอาด

ครัวจะแบ่งเป็นสองฝั่ง ลึกจากทางเข้าไปประมาณ 1.5 เมตร ฝั่งขวาเป็นเคาน์เตอร์ครัว ส่วนทางซ้ายมือจะเป็นตำแหน่งวางตู้เย็นและทางเข้าห้องน้ำค่ะ

เคาน์เตอร์ครัวที่ให้มาจะขนาดไม่ใหญ่มาก แต่ฟังก์ชันครบครันนะ

ชั้นเก็บของบนล่างให้มาเยอะ จัดเก็บเครื่องครัวและอุปกรณ์ครัวได้เต็มที่เลยค่ะ ข้างๆเคาน์เตอร์เราจะเป็นที่วางอุปกรณ์ทำความสะอาดเพิ่มได้นะ

ส่วนบนเคาน์เตอร์จะได้อ่างล้างจานของ Hafele และเตาไฟฟ้าพร้อมที่ดูดควันของ Teka ค่ะ

ฝั่งที่อยู่หน้าห้องน้ำจะเป็นตำแหน่งที่ตั้งใจจะให้วางตู้เย็นนะ ถ้าสังเกตดูจะเห็นว่ามีพัดลมดูดอากาศอยู่หน้าห้องน้ำด้วย ช่วยระบายอากาศหรือควันที่เกิดขึ้นภายในครัวได้ค่ะ (ในห้องน้ำก็จะมีอีกตัวนะ)

เข้ามาดูภายในห้องน้ำกันต่อค่ะ การจัดวาง layout ห้องน้ำจะคล้ายกับห้อง 1 Bedroom ที่พาไปดูกันก่อนหน้า ระหว่างครัวกับห้องน้ำจะมีธรณีประตูก่อสูงจากระดับพื้นขึ้นมา กันน้ำหรือความสกปรกต่างๆ ภายในห้องน้ำไม่ให้ไหลเปื้อนออกมายังครัวค่ะ สะดวกเวลาทำความสะอาดอีกด้วยนะ

อ่างล้างหน้าจะได้ของ Cotto พร้อมกับกระจกเงา ขนาดเหมือนในห้องตัวอย่างเลย ส่วนด้านข้างจะมีช่องเล็กๆวางพวกผ้าขนหนูหรืออุปกรณ์อาบน้ำได้นะ

โถสุขภัณฑ์จะได้ของ  Cotto เช่นกัน มีสายฉีดชำระและที่ใส่กระดาษชำระติดมาข้างๆพร้อมค่ะ

ส่วนพื้นที่อาบน้ำด้านในจะอยู่แยกเป็นสัดส่วน มีขอบพื้นยกสูงขึ้นแยกพื้นที่ส่วนเปียกและแห้ง แต่ตรงนี้จะไม่มีฉากกั้นอาบน้ำให้มานะคะ ติดเป็นม่านอาบน้ำเพิ่มในภายหลังก็ได้ค่ะ

Image 1/2
ระหว่างครัวและห้องนั่งเล่นจะมีประตูบานเลื่อนกระจกสองตอนคั่นกลาง ทำให้แสงจากภายนอกยังพอส่องเข้ามายังครัวได้บ้างนะคะ

ระหว่างครัวและห้องนั่งเล่นจะมีประตูบานเลื่อนกระจกสองตอนคั่นกลาง ทำให้แสงจากภายนอกยังพอส่องเข้ามายังครัวได้บ้างนะคะ

มาดูโซนต่อมากันค่ะ พื้นที่ห้องนั่งเล่นจะรวมกับพื้นที่กินข้าว รูปร่างพื้นที่จะเป็นแนวลึกเข้าไปนะ มีขนาดพื้นที่ประมาณ 3.1 เมตร

วัสดุพื้นจะเปลี่ยนจากกระเบื้องแกรนิตโต้ เป็นลามิเนตลายไม้ ให้ห้องได้บรรยากาศอบอุ่นมากขึ้น

โต๊ะกินข้าวจะอยู่ใกล้กับครัว ทำอาหารเสร็จก็ยกมาวางบนโต๊ะได้เลย หรืออาจจะใช้โต๊ะเป็นพื้นที่เตรียมอาหารเพิ่มก็ได้นะคะ ส่วนโซฟาจะอยู่ติดข้างๆ กัน

ตัวโต๊ะกินข้าวที่โครงการให้มาจะเป็นแบบ 2 ที่นั่ง จัดเข้ามุมพอดี ประหยัดพื้นที่ค่ะ

แต่ถ้าเลื่อนเก้าอี้ออกมาใช้งานก็จะเห็นว่าไม่เกะกะทางเดินนะ ถ้าอยู่กันสองคน คนนึงนั่งกินข้าวอยู่ อีกคนจะเดินเข้า-ออกห้องก็ถือว่าไม่เกะกะค่ะ โต๊ะนี้นอกจากจะเป็นโต๊ะกินข้าวแล้ว เรามองว่าสามารถปรับใช้เป็นโต๊ะทำงานด้วยก็ได้นะ

มาดูมุมพักผ่อนกันบ้างค่ะ ตรงนี้เราจะได้โซฟากับชั้นวางทีวี ดีไซน์และฟังก์ชันเหมือนกับห้องที่พาไปดูก่อนหน้า

โซฟาขนาด 2 ที่นั่งจัดเข้ามุมพอดีกับพื้นที่

มี gimmick ตรงพนักวางแขนที่เปิดขึ้นมาเป็นช่องเก็บของ เก็บรีโมทต่างๆได้ และมีโต๊ะหมุนเพิ่มมาให้ใช้งานค่ะ

ส่วนชั้นวางทีวีก็จัดมาให้ขนาดพอดีกับผนังห้องเลย ถือว่าเป็นข้อดีอย่างหนึ่งของโครงการที่ขายแบบ fully furnished นะ

ช่องใต้ชั้นวางทีวีก็เป็นช่องเก็บรองเท้าได้ค่ะ

เดินผ่านประตูบานเลื่อนกระจกเข้าไปในสุดจะเป็นห้องอเนกประสงค์นะคะ พอเลือกใช้เป็นกระจกก็ช่วยให้ห้องดูกว้างขึ้น เชื่อมต่อถึงกันได้ดี

ภายในห้องมีขนาดไม่ใหญ่มาก ประมาณ 2.90×1.50 เมตร

ห้องนี้ถ้าจะวางเตียงเล็กๆก็สามารถวางได้นะคะ แต่เรามองว่าเป็นพื้นที่ที่เหมาะกับการทำเป็นห้องทำงาน หรือว่าจะจัดเป็นห้องออกกำลังกายก็ได้ค่ะ

เป็นห้องที่อยู่ติดกับหน้าต่าง ระบายอากาศได้ดี แสงธรรมชาติเข้าเยอะ เป็นพื้นที่อเนกประสงค์ที่หลายคนอยากได้หลังจากที่ต้องเรียนหรือทำงานที่บ้านเป็นเวลานาน

ถ้าผู้อ่านมีพื้นที่ตรงนี้จะจัดเป็นห้องอะไรกันคะ คอมเมนท์บอกกันมาได้นะ

ห้องต่อไปที่จะไปดูเป็นห้องนอนค่ะ ตำแหน่งจะอยู่อีกฝั่งของห้องนะ

ประตูเข้าห้องนอนจะค่อนข้างแปลก ที่เราเคยเห็นจะเป็นห้องนอนประตูทึบ หรือไม่ก็ห้องนอนที่ทั้งผนังเป็นกระจกไปเลย ไม่ค่อยเจอห้องที่ออกแบบให้เป็นผนังทึบครึ่ง กระจกครึ่งแบบนี้เท่าไหร่

ไม่ใช่ว่าไม่ดีนะคะ เราว่าการใช้ประตูบานเลื่อนกระจกก็ช่วยให้พื้นที่ทั้งภายในห้องนอนและห้องนั่งเล่นดูกว้างขึ้น แต่ถ้าใครอยากให้ห้องนอนเป็นส่วนตัวมากขึ้นก็อาจจะหาสติกเกอร์ขุ่นมาติดที่กระจกแทนได้ค่ะ

เข้ามาภายในห้องจะเจอกับโซนแต่งตัวก่อนเลย พื้นที่ดูกว้างอยู่นะ ถ้าทางซ้ายมือเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง มีกระจกเงา ก็มีระยะสำหรับยืนส่องได้ทั้งตัวอยู่ค่ะ

โดยมุมแต่งตัวนี้จะให้ตู้เสื้อผ้า built-in มา ส่วนมุมโต๊ะเครื่องแป้งต้องหามาเพิ่มเอาเองนะ

มุมสำหรับโต๊ะเครื่องแป้งขนาดกำลังดี หาขอมาติดที่ผนังเอาไว้แขวนกระเป๋าเพิ่มได้

ตู้เสื้อผ้าจะได้เป็นบานเปิดสวิง มีระยะให้ยืนเปิดได้ ไม่ต้องคอยหลบค่ะ

ข้างในตู้เสื้อผ้าก็จะมีราวแขวนและชั้นวางของต่างๆ แบบในรูปเลย

มาดูที่ส่วนพักผ่อนกันต่อ ดูแล้วได้ความสงบเป็นส่วนตัวมากขึ้นนะคะ

ดีไซน์ของเตียงที่ให้ใต้เตียงก็มีมุมสำหรับเก็บของ เก็บพวกกระเป๋าเดินทางแบบ hard case ได้

หัวเตียงมีพนัก นอนพิงนั่งพิงอ่านหนังสือ ดูซีรีส์จาก ipad ก่อนนอนได้เลย

ถ้าใครอยากติด tv ในห้องนอนอาจจะเลือกแบบแขวนที่ผนังเอานะคะ เพราะปลายเตียงเหลือที่ขนาดพอดีเดินค่ะ

ห้องนอนจะมีระเบียงอยู่ข้างๆ เข้า-ออกผ่านประตูบานเลื่อนกระจก 3 ตอนนะ

ขนาดระเบียงถือว่ากว้างอยู่ค่ะ ใครรักต้นไม้ก็สามารถจัดมุมปลูกผัก ปลูกไม้กระถางเล็กๆได้นะ

อีกฝั่งจะเป็นมุมซักล้าง วางเครื่องซักผ้าได้

นอกจากนี้ก็จะเป็นตำแหน่งวางแอร์ ซึ่งเราอาจจะติดกริลเพื่อเบี่ยงลมร้อนจาก condensing unit ของแอร์ออกไปนอกตัวอาคารได้ บริเวณระเบียงจะได้ไม่ร้อนมากด้วยค่ะ

นี่ก็เป็นห้องตัวอย่างแบบ 1 bedroom plus ค่ะ ห้องตัวอย่าง 2 ห้องที่ไปดู เพื่อนๆ ชอบห้องไหนมากกว่ากันคะ?

แบบแปลน

Type A

แบบนี้จะเป็นแบบห้องขนาดเริ่มต้นของโครงการ Niche Mono พระราม9 ค่ะ ขนาดอยู่ที่ราวๆ 25-26 ตร.ม.โดยราคาโปรโมชันที่ขายในช่วง Pre-sale จะอยู่ที่ 1.79 – 2.49 ล้านบาท

สำหรับแบบห้องจะมีให้เลือกอยู่ 2 แบบ ซึ่งทั้ง 2 แบบนี้จะมี Concept ในการออกแบบผังห้องคล้ายกันคือ ได้ครัวที่อยู่ติดกับระเบียง >> เพื่อให้ระบายอากาศจากการทำอาหารได้ง่าย ได้ห้องนอนปิด เพื่อที่การใช้งานจะแยกเป็นสัดส่วนใช้งานได้สะดวก

จุดที่แตกต่างกันจะเป็นรูปร่างของห้อง แบบ A1 จะได้เป็นห้องหน้ากว้าง(รูปร่างสี่เหลี่ยมจัตุรัส) ทำให้พื้นที่ภายในห้องนอนดูกว้าง มีปลายเตียงที่กว้าง แต่ถ้าเป็นห้อง A2 จะเป็นห้องแนวลึก (รูปร่างสี่เหลี่ยมผืนผ้า) ห้องนี้จะมีข้อดีที่พื้นที่ห้องนั่งเล่นจะดูลึกกว่า ฟังก์ชันอย่างโต๊ะทำงานก็จะมาอยู่ตรงนี้ปรับใช้เป็นโต๊ะกินข้าวได้ไปในตัว

ส่วนตัวเราจะชอบรูปแบบห้องที่เป็นห้องหน้ากว้างแบบ A1 มากกว่านะคะ แต่ดูแล้วในแง่การใช้งาน ถ้าใครเป็นสายกินแบบ A2 อาจจะสะดวกกว่าในเรื่องนี้ค่ะ


TYPE B

แบบ B ยังเป็นห้อง 1 Bedroom เช่นกันค่ะ เป็น Type ของห้องตัวอย่างที่เราพาไปดูกันนั่นเอง โดยราคาของ Type B นี้จะอยู่ในช่วง 2.29 -2.82 ล้านบาท

สำหรับ Type B ก็จะมีผังให้เลือกอยู่ 2 แบบเช่นกัน ถ้าดูจากรูปร่างผังจะค่อนข้างคล้ายกันเลยค่ะ คือเป็นห้องตอนลึกรูปร่างสี่เหลี่ยมผืนผ้าเหมือนกัน แต่ในการจัด Layout ของห้องจะมีจุดที่แตกต่างกันอยู่

ห้อง B1 หรือว่าห้องตัวอย่างที่เราไปดูกัน ห้องนี้ layout ค่อนข้างน่าสนใจ เพราะสามารถเพิ่มพื้นที่ห้องแต่งตัวเป็นโซนออกมาให้ แถมอยู่หน้าห้องน้ำ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการพื้นที่เก็บของ แต่งตัวเยอะ แต่ก็มีข้อเสียเล็กน้อยตรงที่ห้องน้ำจะต้องเข้าจากห้องนอนที่ต้องการความเป็นส่วนตัวมาก จึงไม่เหมาะกับคนที่หวงความเป็นส่วนตัวและมีเพื่อนมาเยี่ยมเยียนบ่อยค่ะ

ส่วนห้อง B2 ถือว่าเป็นแปลนที่ดูมาตรฐานนะ ได้ครัวที่อยู่ติดกับระเบียงเหมาะสำหรับระบายอากาศเวลาทำอาหาร พื้นที่ส่วนอื่นๆก็แยกเป็นสัดส่วน ห้องน้ำอยู่นอกห้องนอน เป็นห้องที่ใช้งานสะดวก รองรับแขกสบายค่ะ


TYPE C

ห้องนี้จะเป็นห้อง 1 Bedroom Plus ซึ่งเป็นห้องตัวอย่างที่พาไปชมกันมาด้วยค่ะ โดยราคาจะอยู่ที่ 2.59-3.14 ล้านบาท

อย่างที่ไปดูกันมา เรามองว่าเป็นห้องที่ออกแบบมาค่อนข้างลงตัวเลย เป็นห้องหน้ากว้างที่แยกแต่ละพื้นที่เป็นสัดส่วน ใช้งานได้ดี และมีห้องอเนกประสงค์เพิ่มมาด้วย ถ้ามีงบประมาณเพิ่มขึ้นหน่อยอยากได้พื้นที่เผื่อเอาไว้รองรับการจัดเป็นมุมทำงานหรือว่ามุมออกกำลังกาย เราว่าห้อง Type นี้เหมาะเลยค่ะ


TYPE D

Type นี้จะเป็นห้อง 2 Bedrooms เหมาะสำหรับครอบครัวเริ่มต้น หรือครอบครัวที่สมาชิก 2-3 คนโดยเฉพาะเลยค่ะ ใครที่อยากได้บ้านใจกลางเมืองในงบประมาณที่ไม่สูง ห้องนี้ก็ถือว่าตอบโจทย์นะคะ ราคาโปรโมชันเริ่มต้นอยู่ที่ 4.49 – 5.28 ล้านบาท

สำหรับห้องนี้จะมี layout ให้เลือกอยู่ 2 แบบค่ะ เป็นห้องหน้ากว้างทั้งคู่เลย โดยการจัดพื้นที่จะต่างกันตรง D1 จะเข้ามาสู่ตัวห้องตรงกลาง แล้วห้องนอนแยกอยู่ 2 ฝั่ง แต่ว่าห้อง D2 จะเข้าทางมุม ส่วนพื้นที่ห้องนอนจะแยกรวมกันไว้ที่ฝั่งเดียว ซึ่งในแง่ความเป็นส่วนตัวห้องแบบ D2 จะค่อนข้างดีกว่า เช่นถ้าลูกๆ ดู netflix อยู่ในห้องนั่งเล่น แต่พ่อแม่นอนหลับอยู่ เสียงจากห้องนั่งเล่นก็จะรบกวนไม่มากเท่าห้องแบบ D1 ค่ะ

แต่ห้องแบบ D1 ก็ไม่ใช่จะไม่ดีนะ ห้องนี้ก็มีจุดเด่นตรงที่ขนาดของห้องนอน ถ้าสังเกตดูห้องนอนเล็กก็จะมีพื้นที่ภายในห้องเยอะกว่า D2 ส่วน master bedroom ก็จะได้มุม walk-in closet ที่เป็นสัดส่วนกว่า ดูประหยัดทางเดินได้ดีกว่า จึงเหมาะสำหรับคนที่อยากได้พื้นที่ใช้สอยภายในห้องนอนที่เยอะขึ้น มีผนังเพิ่มมุมวางของเยอะขึ้นนั่นเองค่ะ

ราคา

Niche Mono พระราม 9 ราคา ณ วันที่ 28 ตุลาคม 2564

  • 1 Bedroom Lite ขนาด 25.83 – 26.75 ตร.ม. ราคาขายเริ่มต้น 1.79 ล้านบาท
  • 1 Bedroom ขนาด 28.61 – 30.22 ตร.ม. ราคาขายเริ่มต้น 2.29 ล้านบาท
  • 1 Bedroom plus ขนาด 32.38 – 33.74 ตร.ม. ราคาขายเริ่มต้น 2.59  ล้านบาท
  • 2 Bedrooms ขนาด 54.80 – 56.50 ตร.ม. ราคาขายเริ่มต้น 4.49 ล้านบาท

  • รูปแบบการขาย Fully Furnished
  • ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.40 เมตร
  • shuttle van service
  • จอง 1,990 บาท
  • ผ่อนดาวน์เริ่มต้น 3,900 บาท
  • ผ่อนดาวน์ 18 งวด
  • ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลางจัดเก็บ 2 อัตรา 27 บาทต่อตร.ม./เดือน สำหรับคนที่ไม่ใช้ส่วนกลาง และ 49 บาทต่อตร.ม./เดือน สำหรับคนที่ใช้ส่วนกลาง

ในส่วนของโปรโมชันจะแบ่งเป็นสองส่วนค่ะ
1. Promotion ทั่วไป
– ลงทะเบียนรับส่วนลดสูงสุด 200,000 บาท
– ฟรีเฟอร์นิเจอร์
– ฟรีค่าใช้จ่ายวันโอน
– ฟรีค่าส่วนกลาง 1 ปี
2. Promotion พิเศษเฉพาะวัน Pre-sale 20-21 พ.ย.นี้
– 1 Bedroom ราคาเริ่มต้น 1.79 ล้านบาท
– จองทุกยูนิต 1,990 บาท
– ผ่อนเริ่มต้น 3,900 บาทต่อเดือน
– ฟรี เครื่องใช้ไฟฟ้า 3 รายการ (TV, ตู้เย็น และเครื่องซักผ้า)
– Cash back (ขึ้นอยู่กับแบบห้อง)

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

บทสรุป

ทำเล :
ที่ตั้งโครงการจะอยู่ในซอยพระราม 9 ซอย 17 เป็นทำเลที่ใกล้กับเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา ซึ่งตรงนี้จะยังไม่มีคอนโดเกิดขึ้นมาก แต่ก็ถือว่าเป็นทำเลที่น่าสนใจเพราะในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีส้มเปิดให้ใช้งานไม่ไกล ตัวสถานีจะอยู่ใกล้กับปากซอยพอดีทำให้อนาคตโซนนี้น่าจะมีความเจริญเติบโตได้อีกค่ะ

ทำเลนี้เป็นทำเลที่เชื่อมต่อไปได้ทั้งถนนพระราม 9 ถนนเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา และถนนประชาอุทิศ (โซนเหม่งจ๋าย) ในแง่การหาอาหารการกินในระยะใกล้ๆ เราแนะนำให้ไปที่เหม่งจ๋ายจะมีตัวเลือกเยอะและหลากหลายมากเลยนะคะ แต่ถ้าอยากไป hang out ก็สามารถไปได้ทั้งโซนรัชดาฯ-พระราม 9 ตรงนั้นก็จะมีทั้ง The street รัชดา, Central พระราม 9 ให้เลือก นอกจากนี้ก็ยังเป็นทำเลที่เดินทางไปยังเอกมัยและทองหล่อได้ง่ายมาก (เข้าจากฝั่งถนนเพชรบุรีตัดใหม่) ทำให้ที่ตั้งโครงการนี้ถือว่ามีความอุดมสมบูรณ์ค่อนข้างสูงเลย แต่อาจจะเป็นความอุดมสมบูรณ์ในระยะที่ต้องใช้พาหนะในการเดินทางนะ

การเดินทางโดยใช้รถ :
ตัวโครงการ Niche mono พระราม 9 ถือว่าตั้งอยู่ในโซนพระราม 9 ชั้นในที่เข้าออกได้ทั้งจากถนนพระราม 9 ถนนประดิษฐ์มนูธรรม ถนนเทียมร่วมมิตร และถนนประชาอุทิศ ถือว่ามีตัวเลือกในการเดินทางเยอะ เหมาะสำหรับคนที่ใช้รถยนต์ส่วนตัวเลยค่ะ แต่ก็อาจจะมีปัญหาเรื่องรถติดบางช่วงเวลาเช่นกัน แต่ก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้สำหรับโซนใจกลางเมืองนะ

มาดูที่สัดส่วนที่จอดรถที่ให้มาอยู่ที่ประมาณ 42% ถือว่าไม่เยอะเท่าไหร่ เหมาะกับโครงการที่อิงการใช้งานรถไฟฟ้ามากกว่า ซึ่งที่นี่ก็จะมีรถ Shuttle van service ไปส่งที่สถานีรถไฟฟ้า จึงอาจจะพอทดแทนกันได้ค่ะ อีกเรื่องที่เราคิดว่าเหมาะคือถ้าใครทำงานอยู่โซนพระราม 9 เหม่งจ๋าย และใช้รถมอเตอร์ไซค์ส่วนตัว โครงการนี้ก็ถือว่าสะดวกเลยนะ

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ :
ตัวโครงการอยู่ในซอยที่ลึกเข้ามาหน่อย อาจจะหารถสาธารณะใช้งานได้ไม่เท่ากับถนนสายหลัก ดังนั้นถ้ามองในแง่การเข้ามายังโครงการเราว่าไม่ลำบากมาก จะเรียกแท็กซี่หรือวินมอเตอร์ไซค์ก็มีทุกปากซอย แต่ถ้าจะออกจากโครงการแล้วไม่มีรถ ก็จะมีตัวเลือกแรกคือ Shuttle van service ที่จะพาเราไปส่งที่รถไฟฟ้าสายสีส้ม สถานีวัดพระราม 9 หรือตัวเลือกที่ 2 คือการหาพี่วินมอเตอร์ไซค์ที่ขับผ่านหน้าโครงการให้ไปส่งที่ถนนใหญ่เส้นต่างๆ หรือตัวเลือกสุดท้ายคือเรียกใช้บริการผ่านทาง application ต่างๆ แทนค่ะ

วัสดุ :
ถ้าจะหาว่าคอนโดในโซนพระรามเก้าที่ราคาเริ่มต้น 1 ล้านปลายๆ เรามองว่าหายากเลยทีเดียวค่ะ พอมาเจอกับ Niche Mono พระราม 9 ที่ขายแบบ Fully furnised อีกด้วย เราเลยอยากรู้เลยว่าวัสดุที่ให้มาจะได้อะไรบ้าง ซึ่งเท่าที่ดูเรามองว่ารวมๆ ก็ถือว่าเหมาะสมกับราคานะคะ ซึ่งการเลือกใช้ก็ถือว่าเข้ากับฟังก์ชันที่ใช้งานอยู่ เช่น พื้นห้องนอน พื้นห้องนั่งเล่นได้ลามิเนตลายไม้ พื้นครัวที่อาจจะต้องทนรอยขีดข่วนหน่อยก็ใช้เป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ ส่วนห้องน้ำทั้งพื้นผนัง และพื้นของระเบียงจะเป็นกระเบื้องเซรามิก เน้นการทำความสะอาดที่ง่ายแทน ส่วนชุดครัวได้ Teka กับ Hafele ตามมาตรฐาน ห้องน้ำสุขภัณฑ์ส่วนใหญ่ใช้ของ Cotto เป็นหลักค่ะ

การออกแบบ :
ในการออกแบบรูปลักษณ์อาคารหรือว่าตัวสถาปัตยกรรมเราถือว่าธรรมดานะคะ ไม่ได้มี concept ที่ดูหวือหวาอะไร แต่การตกแต่งภายในของพื้นที่ส่วนกลางจะเน้นโทนสีที่ดูสดใสมากขึ้น ดูวัยรุ่น วัยเริ่มต้นทำงานหน่อย เหมาะกับกลุ่ม Gen Y ที่วางไว้เป็นกลุ่ม target ส่วนที่เราชอบจะเป็นการออกแบบห้องพักอาศัย และ เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ที่จัดห้องออกมาฟังก์ชันเป็นสัดส่วน มีดีเทลที่เหมาะกับการใช้งาน แบบเพิ่งเข้าใจว่า concept อย่าง Made from her กับ กระบวนการ Geofit+ ที่ทางเสนาพูดถึงมาหลายโครงการมันเวิร์คแบบนี้นี่เอง

สาธารณูปโภค :
สำหรับพื้นที่ส่วนกลางที่นี่จะมีความแปลกตรงที่จะมีการเก็บค่าส่วนกลางอยู่ 2 อัตรา สำหรับคนที่ไม่เน้นการใช้งานก็จะเก็บที่ 27 บาทต่อตารางเมตร โดยจะใช้ได้แค่สวนทางด้านหลัง และมีที่จอดรถให้ 1 คัน ส่วนคนที่ต้องการใช้ส่วนกลางด้วยจะคิดค่าส่วนกลางที่ 49 บาทต่อตารางเมตรค่ะ ซึ่งส่วนกลางที่ให้มาก็จะมีอย่าง ฟิตเนส สระว่ายน้ำ co-working space ที่สามารถทดแทนการไปนั่งร้านกาแฟหรือค่าบริการฟิตเนสรายเดือนแทนได้ค่ะ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 88,000 บาท/ตร.ม., 28 ตุลาคม 2564

  • ทำเล 7.5/10 – เข้าซอยพระราม 9
  • เดินทางด้วยรถ 8/10 – เข้าออกถนนได้หลายเส้น แต่สัดส่วนที่จอดรถไม่มาก
  • ไม่ใช้รถ 7/10 – เข้าซอยไปต้องต่อรถไปขึ้นรถไฟฟ้าหรือรถสาธารณะอื่นๆ
  • วัสดุ 8.5/10 – ได้ Fully furnished คุ้มราคา
  • แบบ 8.5/10 – แบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วน ฟังก์ชันเหมาะสมสำหรับใช้งาน
  • สาธารณูปโภค 8/10 – มีมาให้ครบ ดีไซน์สดใส

  • Main CLASS
  • 7.8 / 10.00

Niche Mono พระราม 9 เหมาะกับใคร?

โครงการนี้เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดในโซนพระราม 9-เหม่งจ๋ายอยู่นะคะ อาจจะเป็นคนที่ทำงานในโซนนี้อยู่แล้ว หรือว่าเป็นคนที่เริ่มต้นทำงานที่อยากได้คอนโดอยู่ใจกลางเมือง ซึ่งโครงการนี้ตอบโจทย์เรื่องทำเลกับราคา เพราะในทำเลนี้หาคอนโดที่ราคาเริ่ม 1 ล้านกว่าบาทยาก และเป็นโครงการที่ขายพร้อมเฟอร์นิเจอร์อีก แต่สิ่งที่ต้องแลกก็คือที่ตั้งที่จะอยู่ลึกเข้าไปในซอยซักหน่อย ถ้าไม่มีรถส่วนตัวก็อาจจะต้องเดินทางหลายต่อ เช่น มอเตอร์ไซค์ไปรถไฟฟ้า เป็นต้น แต่ก็เป็นคอนโดที่มีการออกแบบผังห้องที่ดี มีดีเทลที่เหมาะกับการอยู่อาศัยไม่น้อยค่ะ ถ้าใครมีงบ 2-3 ล้านบาท อยู่ 1-2 คนก็น่ามาดูนะ และก็มีห้องไม่เกิน 5 ล้านบาทอยู่กันเป็นครอบครัวได้ค่ะ


ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc