รีวิวห้องตัวอย่าง Reference สาทร – วงเวียนใหญ่ คอนโดใกล้ BTS วงเวียนใหญ่ 130 เมตร กับห้องขนาดเล็กที่ให้เฟอร์นิเจอร์แบบ Multi-Function ปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ จาก SC Asset

Reference Sathorn – Wongwianyai (เรฟเฟอเรนซ์ สาทร – วงเวียนใหญ่) ณ วันที่ 1 มิถุนายน 2565

Highlights :

• ใกล้รถไฟฟ้า BTS วงเวียนใหญ่ ในระยะเดินได้สบายๆเพียง 130 m.
• มีจุดกลับรถอยู่ห่างออกไปเพียง 160 m. สามารถกลับรถเพื่อขับรถข้ามสะพานตากสิน เข้าเมืองไปทางสีลม-สาทร-พระราม 4 ได้ง่าย ซึ่งเป็นย่าน CBD ที่เป็นแหล่งงานสำคัญของคนกรุงเทพฯ
• ตั้งอยู่ระหว่างความอุดมสมบูรณ์ของฝั่งสาทร และย่านฝั่งธน-วงเวียนใหญ่ ที่เราสามารถเดินทางไปจับจ่ายใช้สอยที่ห้างหรือตลาดได้สะดวกทั้งคู่

พิกัด Google Maps : 13.719898, 100.493898
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

โครงการ Reference สาทร – วงเวียนใหญ่ ตั้งอยู่ในซอยกรุงธนบุรี 2 บนถนนกรุงธนบุรี และไม่ไกลจากสะพานตากสิน ที่เราสามารถใช้ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อเข้าเมืองไปทางสีลม-สาทร-พระราม 4 ได้ไม่ยากเลยครับ ซึ่งจัดเป็นย่าน CBD ที่สำคัญ เพราะเต็มไปด้วยอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ โรงพยาบาล และโรงเรียนนานาชาติอีกหลายแห่ง

หรือหากเป็นย่านฝั่งธนเอง ก็จะมีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่อย่าง ICONSIAM และ The Mall ท่าพระ ให้เดินช้อปปิ้งกันเพลินๆได้ นี่ยังไม่รวมตลาดขนาดใหญ่ทั้งบริเวณตลาดพลู และแถวๆวงเวียนใหญ่ ที่เราสามารถเดินซื้อกับข้าวกลับมาทานที่บ้านกันได้ง่ายๆครับ

ซึ่งหากใครที่เน้นเดินทางเข้าเมืองด้วยรถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก ก็จะมีจุดกลับรถอยู่ห่างจากโครงการเพียง 160 m. เท่านั้นครับ ทำให้เราสามารถข้ามสะพานตากสินเพื่อเข้าเมืองได้สะดวกมากๆ

และอีกหนึ่งจุดเด่นของทำเลโครงการก็คือ “ใกล้รถไฟฟ้า BTS วงเวียนใหญ่” ในระยะเดินได้สบายๆเพียง 130 m. เท่านั้น ซึ่งเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกการเดินทางเข้าเมืองที่สะดวก โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการจราจรที่ติดขัดบนท้องถนน สามารถเข้าเมืองไปทำงานได้ง่าย หรือจะนั่งยาวจนสุดสายไปถึงสยามเลยก็ได้

รวมถึงยังสามารถเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสถานีอื่นๆอย่าง รถไฟฟ้าสายสีทองที่สถานีกรุงธนบุรี เพื่อไปยังห้าง ICONSIAM และรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีสีลม เพื่อไปแฮงค์เอาท์กับเพื่อนๆ ไปเดินเล่นออกกำลังกายที่สวนสาธารณะ หรือจะไปหาของอร่อยๆทานที่เยาวราชก็ได้ อีกทั้งบริเวณปากซอยก็ยังมีร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหารสตรีทฟู้ด และวินมอเตอร์ไซค์อีกด้วยครับ

ส่วนบรรยากาศระหว่างทางเดินจาก BTS มายังโครงการจะเป็นอย่างไร เราไปชมภาพใน Gallery กันได้เลยครับ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

บริบทรอบๆโครงการ ส่วนใหญ่จะเป็นชุมชนแนวราบดั้งเดิมของที่นี่ รวมถึงยังมีคอนโดสูงตัวเก่าๆอยู่บ้าง ซึ่งส่วนใหญ่ก็ไม่ได้อยู่ในระยะประชิดมากนัก โดยหากเป็นด้านหลังอาคารทางทิศใต้ ก็จะเป็นวิวที่ค่อนข้างเปิดโล่งมากที่สุด และมีโอกาสโดนบังวิวในอนาคตได้น้อยกว่าด้านอื่นๆครับ ส่วนวิวในทิศต่างๆจะสามารถสรุปได้ดังนี้

• ทิศเหนือ : เป็นทางเข้าหลักด้านหน้าโครงการ ติดกับ ถนนซอยกรุงธนบุรี 2 และชุมชนแนวราบ โดยจะหันหน้าไปทางถนนกรุงธนบุรี และมองเห็นรถไฟฟ้า BTS สถานีวงเวียนใหญ่
• ทิศใต้ : ติดกับ ชุมชนแนวราบ ระยะไกลอาจมองเห็นแม่น้ำเจ้าพระยา และสะพานกรุงเทพได้ด้วย
• ทิศตะวันออก : ติดกับ ชุมชนแนวราบ ระยะไกลมองเห็นแม่น้ำเจ้าพระยา และสะพานตากสิน
• ทิศตะวันตก :  ติดกับ คอนโด The Rich Sathon – Taksin สูง 23 ชั้น ระยะไกลสามารถมองไปทางตลาดพลู-ท่าพระได้

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ที่มาของแบรนด์ Reference เป็นอย่างไร?

เป็นคอนโดมิเนียมแบรนด์ใหม่จาก SC Asset ที่ทำมาเพื่อตอบโจทย์ Lifestyle ของคนรุ่นใหม่ Gen Y โดยเฉพาะงานดีไซน์และฟังก์ชันส่วนกลาง ที่เรียกได้ว่าจัดหนักจัดเต็มกว่าแบรนด์รุ่นพี่ที่ผ่านมาอย่างมาก ซึ่งทาง SC Asset ก็ได้ตั้ง Segment Position ของคอนโดแบรนด์ Reference ให้อยู่ระหว่างแบรนด์ Centric และ The Crest นั่นเองครับ

โดยโครงการแรกอย่าง Reference สาทร – วงเวียนใหญ่ ก็เป็นคอนโด High Rise จำนวน 2 อาคาร ที่มีความสูง 32 และ 51 ชั้น รวมแล้วมีเพื่อนบ้านทั้งหมด 815 ยูนิต ส่วนอาคารด้านหน้าสุดจะเป็น Commercial สำหรับยูนิตร้านค้า ที่มีความสูง 2 ชั้น ทั้งหมดตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 3-2-78.2 ไร่

ทำไมถึงต้องคอนเซ็ปต์ “ดวงจันทร์ (Moon)” ?

สำหรับโครงการนี้ที่มีทำเลอยู่ตรงระหว่าง “สาทร” และ “วงเวียนใหญ่” โดยมีแม่น้ำเจ้าพระยาคั่นกลาง ทางผู้ออกแบบจึงได้ Inspiration มาจาก Lifestyle การใช้ชีวิตของทำเลต่างๆเอาไว้ว่า

• ฝั่งสาทร : เป็นย่าน CBD ที่เราไปทำงาน ช้อปปิ้ง หรือใช้ชีวิตในช่วงเวลากลางวัน
• ฝั่งวงเวียนใหญ่ : เป็นย่านที่อยู่อาศัย ที่เราจะกลับบ้านมาเพื่อพักผ่อนในตอนกลางคืน

และถ้าพูดถึง “กลางคืน” ก็จะต้องนึกถึง “พระจันทร์” ซึ่งทางโครงการก็ได้หยิบยกเอาองค์ประกอบต่างๆของดวงจันทร์ มาใช้ในการออกแบบและตกแต่งบรรยากาศพื้นที่ส่วนกลาง จะสังเกตได้จากการใช้ผนังทรง Arch โค้ง หรือช่องแสงทรงครึ่งวงกลม ที่ล้วนแต่เป็นลักษณะของพระจันทร์ในช่วงเวลาต่างๆนั่นเองครับ (ข้างขึ้น-ข้างแรม)

ซึ่งหากใครได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมโครงการที่สำนักงานขาย ก็จะได้เห็นอาคาร Commercial ที่ตกแต่งด้วยผนังทรง Arch โค้งตามคอนเซ็ปต์ ดูคล้ายกับงาน Sculpture สวยๆแห่งหนึ่งเลยล่ะครับ

อีกทั้งผนังก็จะมีการพ่นทราย เพื่อให้ Texture ของผนังเกิดลวดลายที่ให้ความรู้สึกคล้ายกับพื้นผิวดวงจันทร์ รวมถึงยังใช้เป็นสีขาวขุ่น เพื่อให้ได้อารมณ์และบรรยากาศที่ใกล้เคียงมากขึ้นอีกด้วยครับ

สำหรับอาคาร Commercial แห่งนี้ในอนาคตจะเปลี่ยนจากสำนักงานขาย มาเป็น Foodland ซึ่งก็จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับคนที่พักอาศัยได้มากเลยทีเดียว ส่วนคาเฟ่และสวนเล็กๆบนชั้น 2 ก็จะยังคงมีอยู่เหมือนเดิม โดยที่คนภายนอกก็สามารถเข้ามาใช้บริการได้ด้วย เหมาะที่จะใช้เป็นจุดนัดพบปะและพูดคุยกับเพื่อนๆมากๆเลยครับ

นอกจากนี้ผมยังมีภาพบรรยากาศจำลอง ของพื้นที่ส่วนกลางอื่นๆภายในโครงการมาฝากกันด้วย จะเป็นอย่างไรก็สามารถคลิกชมใน Gallery ด้านล่างนี้ได้เลยนะ

**สำหรับรายละเอียดโครงการ Reference สาทร – วงเวียนใหญ่ ถ้าทีมงาน Thinkofliving ได้มีข้อมูลมากกว่านี้ หรือทางโครงการมีการปล่อยข้อมูลเพิ่มเติมอีกเมื่อไหร่ ทางเราจะรีบนำมาอัพเดทให้นะครับ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

Tower A

ชั้น 1

• Moon Lobby
• Lunar Lounge
• Commercial Unit (Shop 4)

ชั้น 10

• Cresent Pavilion
• Floating Terrace
• Play Yard

ชั้น 31

• Fitness
• Yoga
• Pilates
• Moon Deck

Tower B

ชั้น 1

• Orbit Co-Space

ชั้น 50

• Moon Cave Swimming Pool

ชั้น 51

• Fly-To-The-Moon Lounge
• Eclipse Onsen

Tower C

ชั้น 1

• Commercial Unit (Shop 1- 3)

ชั้น 2

• The Ref Roof Garden

• ลิฟต์โดยสาร n/a ตัว/อาคาร
• อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ n/a :  1
• Service Lift n/a ตัว
• ประมาณ 45% แบบไม่รวมจอดซ้อนคัน
• ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ  CCTV / Key Card / ระบบ RFID และ Smart Gate อ่านป้ายทะเบียนรถยนต์

Highlights :

• เน้นห้อง Studio และ 1 Bedroom ที่เหมาะกับการอยู่อาศัย 1 – 2 คนเป็นหลัก หรืออาจลงทุนปล่อยเช่าก็ดี ซึ่งมีราคาที่จับต้องได้ไม่ยากนัก
• ขายแบบ Fully Furnished ให้เฟอร์นิเจอร์มาครบพร้อมเข้าอยู่
• มีการออกแบบฟังก์ชันได้เป็นสัดส่วน และยังแฝงความ Multi-Function ให้เราสามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้หลากหลาย แถมยังเก็บของได้เยอะอีกด้วย
• สำหรับห้อง 2 Bedrooms ถือเป็นห้องหายาก (Rare Item) ที่ค่อนข้างมีน้อยเพียงชั้นละ 1 ห้องเท่านั้น ซึ่งเป็นห้องหน้ากว้างที่ได้บรรยากาศเหมือนอยู่บ้าน และเหมาะกับครอบครัวที่อาจมีลูกแล้วก็ได้ครับ

โดยแบบห้องของโครงการ Referance สาทร – วงเวียนใหญ่ จะมีให้เลือกทั้งหมด 4 Type ขายแบบ Fully Furnished คือให้เฟอร์นิเจอร์มาครบเหมือนห้องตัวอย่าง พร้อมหิ้วกระเป๋าเข้าอยู่ได้เลย ประกอบด้วย

• Studio ขนาด 24.19 – 27.94 ตร.ม.
• 1 Bedroom ขนาด 31.24 – 31.88 ตร.ม.
• 1 Bedroom Plus ขนาด 32.54 – 53 ตร.ม.
• 2 Bedrooms ขนาด 70.08 – 72.85 ตร.ม.

ซึ่งที่สำนักงานขายก็จะมีห้องตัวอย่างถึง 3 แบบ ให้เราได้ชมบรรยากาศของจริงกันเลยว่าใครถูกใจหรือเหมาะกับห้องแบบไหน หากพร้อมแล้วก็ตามไปชมกันได้เลยครับ

Studio ขนาด 24.19 – 27.94 ตร.ม. เป็นแบบห้องใหม่ที่น่าสนใจมากครับ ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าด้วยขนาดห้องเท่านี้ แต่ยังสามารถจัดให้มีพื้นที่ Walk-in Closet ให้เป็นสัดส่วนลงตัวได้ดีเลยทีเดียว รวมถึงยังมีการดีไซน์เฟอร์นิเจอร์ให้มีความ Multi-Function ที่สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้หลากหลาย และเก็บของได้เยอะมากๆอีกด้วย ถือเป็นห้องสตูดิโอที่มีจุดเด่นไม่เหมือนใครในย่านเลยครับ

โดยลักษณะจะเป็นห้องสี่เหลี่ยมผืนผ้าแบบตอนลึก ที่แบ่งโซนการใช้งานและโซนพักผ่อนออกจากกันชัดเจน อย่างพื้นที่ครัว พื้นที่แต่งตัว และห้องน้ำ จะนำมาไว้ที่บริเวณด้านหน้าสุด ซึ่งตรงจุดนี้เรายังสามารถกั้นผนังกระจก เพื่อทำครัวปิดเป็นสัดส่วนเพิ่มได้ด้วยนะครับ ส่วนฟังก์ชันที่เหลือจะมีพื้นที่ขนาดใหญ่ และเชื่อมต่อกับช่องหน้าต่างบริเวณด้านในสุด เลยทำให้มีความสว่างและโปร่งโล่งมากเลยทีเดียว

ดังนั้นห้องนี้จึงเหมาะกับการอยู่อาศัย 1 – 2 คนกำลังดี โดยอาจเป็นคนที่ชอบห้องกว้างๆ สามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่การใช้งานได้หลากหลาย และยังให้เฟอร์นิเจอร์ Built-in มาครบพร้อมเข้าอยู่ได้เลยครับ

เริ่มกันที่บริเวณหน้าห้องเราจะได้ประตูไม้บานทึบ พร้อมตาแมวและติดตั้ง Digital Door Lock มาให้แบบนี้ โดยที่ด้านในห้องก็จะมี Stopper อยู่หลังประตูด้วย เวลาเปิดประตูก็จะได้ไม่กระแทกกับผนังนั่นเองครับ

โดยมุมมองจากประตูหน้าห้อง เราจะเห็นเป็นโถงทางเดินที่ตรงไปยังระเบียง ซึ่งจะยังมองไม่เห็นพื้นที่ส่วนอื่นด้านใน เลยทำให้ผู้อยู่อาศัยยังคงได้ความเป็นส่วนตัวครับ

โดยพื้นที่ส่วนแรกจะเป็นฟังก์ชันครัวเปิด ซึ่งหากใครที่เป็นคนชอบทำอาหารทานเอง ก็สามารถกั้นผนังกระจกเพื่อทำเป็นครัวปิดเพิ่มเติมได้นะครับ เพราะเค้าได้ดีไซน์ฟังก์ชันให้มีระยะที่สามารถกั้นผนังเผื่อเอาไว้แล้วนั่นเอง

พื้นที่ครัวมีความกว้างประมาณ 1 m. สามารถยืนใช้งานหรือเดินผ่านได้สบายๆ โดยวัสดุปูพื้นจะเป็น SPC (Stone Plastic Composite) ลายไม้ธรรมชาติ ที่สามารถทนความชื้นและรอยขีดข่วนได้ดี มากกว่าพื้นไม้ลามิเนตหรือพื้นกระเบื้องยางทั่วไป

ชุดครัวทางซ้ายมือเราจะได้ Built-in ตามห้องตัวอย่างนี้เลยครับ ไม่ว่าจะเป็นผนังกระจก Backsplash ที่สามารถเช็ดทำความสะอาดได้ง่าย , Hob&Hood แบบดูดออกภายนอกจาก Hafele และ Top เคาน์เตอร์ครัวหินสังเคราะห์

แต่ที่ชอบมากๆก็คือ เค้าจะมีที่แขวนกระดาษชำระด้านบน และถังขยะในตู้ด้านล่างแถมมาให้ด้วย ซึ่งทำให้เราสามารถใช้งานได้สะดวก และประหยัดพื้นที่ใช้สอยได้ดีทีเดียว

อีกจุดหนึ่งที่ชอบก็คือ “อ่างล้างจานแบบมีฝาปิด” ซึ่งสามารถช่วยขยายพื้นที่ใช้งานเวลาทำครัวได้ดีเลยทีเดียวครับ

ติดกันจะเป็นช่องสำหรับวางตู้เย็น กว้างประมาณ 70 cm. และสูง 1.8 m. โดยด้านบนจะมีตู้เก็บของที่มีเบรกเกอร์อยู่ภายใน รวมถึงข้างๆก็จะเป็นตู้รองเท้า ซึ่งเราสามารถเก็บเข้าตู้ให้เป็นระเบียบเรียบร้อยได้หลายคู่เลยครับ

ฝั่งตรงข้ามจะเป็น Walk-in Closet ที่อยู่บริเวณหน้าห้องน้ำ มีพื้นที่ใช้งานกว้าง 80 cm. ซึ่งทางโครงการจะ Built-in ตู้เสื้อผ้ามาให้แบบนี้ พร้อมกับมีประตูบานเลื่อนให้สามารถเปิด-ปิดได้ เวลายืนแต่งตัวด้านในก็จะมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้นนั่นเองครับ

ภายในห้องน้ำเราจะได้สุขภัณฑ์จาก Kohler ครบตามนี้เลย โดยจะมีการแบ่งฟังก์ชันแยกเป็นสัดส่วนชัดเจน เริ่มจากพื้นที่ส่วนแห้งกว้างประมาณ 1.15 x 1.35 m.  ประกอบด้วยอ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์ ช่องเก็บของต่างๆ และกระจกเงาทรงครึ่งวงกลมแบบนี้ครับ

ส่วนพื้นที่ยืนอาบน้ำจะมีฉากกั้นกระจกนิรภัย Tempered Glass มาให้แบบนี้ ภายในกว้างประมาณ 80 x 80 cm. สามารถยืนใช้งานได้พอดีๆ

ฟังก์ชันอาบน้ำจะมีให้เลือกทั้ง Hand Shower และ Rain Shower ใครชอบอาบแบบไหนก็เลือกใช้อันนั้นได้เลย ซึ่งของจริงจะมี Junction Box สำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้ด้วยนะ และที่ผนังก็จะมีชั้นวางสบู่เล็กๆมาให้ด้วย แต่ถ้าใครที่มีอุปกรณ์เยอะหน่อย แล้วยังวางของไม่พอ ก็อาจหาชั้นวางมาติดตั้งเพิ่มเติมได้นะ

ถัดเข้ามาภายในจะเจอกับพื้นที่ขนาดใหญ่ของ Common Area ที่มีความโปร่งโล่งมากๆ โดยจะใช้งานร่วมกันทั้งพื้นที่นั่งเล่นและเตียงนอน ซึ่งถือเป็นจุดเด่นของห้อง Studio แบบนี้นั่นเองครับ โดยฝ้าเพดานจะสูงประมาณ 2.7 m. พร้อมกับได้แสงสว่างจากหน้าต่างและระเบียงถึง 2 จุดเลยทีเดียว

ส่วนแรกจะเป็นพื้นที่นั่งเล่นดูทีวี กว้างประมาณ 3.3 m. สามารถใช้ทีวีขนาดใหญ่ 50 – 60 นิ้วได้สบายๆ ซึ่งบริเวณกลางห้องจะเห็นว่ามีพื้นที่โล่งขนาดใหญ่มาก นั่นเป็นเพราะเค้ามีการซ่อนฟังก์ชันอีกส่วนหนึ่งเอาไว้ เป็นโต๊ะทานอาหารที่อยู่ภายในตู้เก็บของเหล่านี้นั่นเองครับ

ความพิเศษของตู้ใบนี้ไม่ใช่แค่เอาไว้ใช้เก็บของเท่านั้น แต่ยังสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันการใช้งานได้อีกด้วย (Multi-Function) โดยหากสังเกตดีๆจะเห็นว่า ในตู้ทางขวามือจะมีเก้าอี้ซ่อนอยู่ครับ

ส่วนตู้ทางซ้ายมือก็จะสามารถเลื่อนออกมาได้แบบนี้เลยครับ และเมื่อนำเก้าอี้ภายในตู้ออกมากางร่วมกัน ก็จะได้เป็นโต๊ะทานอาหารหรือโต๊ะอเนกประสงค์ไว้ใช้งานเพิ่มอีกหนึ่งฟังก์ชันกันแล้ว โดยเวลาที่เราไม่ได้ใช้งานก็สามารถพับเก็บเข้าไปในตู้ ซึ่งจะทำให้ได้ห้องที่กว้างขวางและโปร่งโล่งเหมือนเดิม แถมยังเป็นการประหยัดพื้นที่ภายในห้องที่เก๋ดีมากๆครับ

นอกจากนี้ยังมีการดีไซน์พื้นที่นั่งเล่นและเตียงนอน ให้กลายเป็นพื้นยกระดับที่มีความต่อเนื่องกันด้วย พร้อมกับมีลิ้นชักสำหรับเก็บของด้านล่างที่เยอะมาก โดยเราจะได้เฟอร์นิเจอร์ Built-in  และเบาะรองนั่งแบบในห้องตัวอย่างนี้เลยครับ นับว่าเป็นไอเดียการแต่งห้องที่น่าสนใจดีทีเดียว ซึ่งเราก็ไม่ค่อยได้เห็นในโครงการทั่วไปสักเท่าไหร่นัก

ส่วนฟูกที่นอนเราสามารถหาซื้อมาใช้ได้เองครับ เพราะแต่ละคนก็มีระดับความนุ่มที่ชอบไม่เหมือนกัน โดยสามารถวางเตียงบนพื้นยกระดับตรงริมหน้าต่างได้แบบนี้ เหมือนเป็นฟังก์แบบญี่ปุ่นเลยครับ ซึ่งเราก็สามารถนอนชมวิวไปด้วยได้สบายๆ

ส่วนระเบียงของห้องจะมีขนาดไม่ใหญ่มากนัก กว้างประมาณ 1.2 x 1.55 m. แต่ก็พอให้ใช้งานวางเครื่องซักผ้า และตากผ้าเล็กๆน้อยๆได้พอดีๆ แต่จุดที่ผมชอบมากๆคือ เราจะได้ประตูกระจกแบบบานเปิด ซึ่งสามารถปิดได้สนิทและเก็บเสียงได้ดีกว่าประตูกระจกบานเลื่อนแบบทั่วไปครับ

1 Bedroom ขนาด 31.24 – 31.88 ตร.ม. เป็นห้องสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่มีการแบ่งฟังก์ชันเป็นสัดส่วนมากขึ้น โดยพื้นที่ส่วนแรกเราจะได้ครัวปิดที่สามารถทำอาหารได้จริงจัง ซึ่งจะมีประตูกระจกบานเลื่อนคอยกันกลิ่น/ควันมาให้พร้อมใช้งาน จากนั้นถัดเข้ามาด้านในจะเป็นโต๊ะทานอาหาร และพื้นที่นั่งเล่นที่อยู่ติดกับระเบียงครับ ส่วนห้องนอนจะกั้นด้วยผนังทึบ เลยได้ความเป็นส่วนตัวมากๆ อีกทั้งยังมีพื้นที่แต่งตัวและห้องน้ำให้ใช้งานอยู่ภายในด้วย

ดังนั้นห้องนี้จึงเหมาะกับการอยู่อาศัย 1 – 2 คน ที่เน้นในเรื่องความเป็นส่วนตัวเป็นหลัก ได้พื้นที่ห้องนอนขนาดใหญ่ มีฟังก์ชันภายในให้ใช้งานครบครัน หรืออาจเป็นคนที่ชอบทำอาหารทานเอง และมีเพื่อนมาเที่ยวหาบ่อยๆก็ได้ ซึ่งเราจะไม่เสียความเป็นส่วนตัวภายในห้องนอนเลยนั่นเองครับ (เว้นซะแต่จะมีเพื่อนที่ขอเข้าห้องน้ำในบางครั้ง) โดยบรรยากาศของจริงจะเป็นอย่างไรเราไปชมกันเลย

เมื่อเปิดประตูเข้ามาในห้องก็จะเจอกับส่วนของครัวก่อน โดยเราจะได้ครัวปิดที่มีประตูกระจกบานเลื่อนติดตั้งมาให้แบบนี้เลยครับ

ซึ่งหากเราปิดประตูกระจกบานนี้ ก็จะช่วยป้องกันกลิ่น/ควัน ไม่ให้ฟุ้งเข้ามาภายในห้องได้ดี จึงสามารถทำอาหารได้อย่างจริงจัง อีกทั้งยังมีส่วนช่วยป้องกันเสียงรบกวน ที่อาจเกิดจากคนเดินผ่านไป-มาหน้าห้องได้อีกด้วย

จึงทำให้พื้นที่พักผ่อนภายในห้องมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ส่วนวัสดุปูพื้นจะเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้แบบนี้เลย สามารถเช็ดทำความสะอาดได้สบายๆ และมีความกว้างประมาณ 1.2 m.

บริเวณด้านหลังของประตูทางเข้า จะมีการ Built-in ช่องเก็บของและชั้นวางรองเท้ามาให้แบบนี้เลย ทำให้สามารถจัดเก็บเข้าตู้ได้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย

ส่วนเคาน์เตอร์ครัวทางด้านซ้าย จะได้ Built-in มาเหมือนกับห้องตัวอย่างก่อนหน้านี้เลยครับ แต่ที่เพิ่มเติมก็คือบริเวณฝั่งตรงข้าม โดยด้านบนจะมีตู้แขวนผนังให้เก็บของเพิ่มเติมได้ ส่วนด้านล่างก็จะเป็นพื้นที่วางของหรือประกอบอาหาร พร้อมกับมีพื้นที่วางเครื่องซักผ้าขนาดประมาณ 65 x 65 cm. และสูง 85 cm.

ถัดเข้ามาด้านในห้องจะเป็นพื้นที่โซฟาและโต๊ะทานอาหารครับ โดยวัสดุปูพื้นก็จะเปลี่ยนกลับมาเป็น SPC ลายไม้ จึงทำให้มีความสวยงามและเป็นธรรมชาติเหมือนเดิม

และเราจะได้ชุดเฟอร์นิเจอร์แบบที่เห็นในห้องตัวอย่างนี้เลยครับ ซึ่งจะเป็นที่นั่งตัวยาวที่มีลิ้นชักเก็บของข้างล่างได้ (คล้ายๆกับห้องสตูดิโอ) รวมถึงโต๊ะและเก้าอี้สำหรับทานอาหารแบบนี้ด้วยครับ

โดยระยะดูทีวีจะกว้างประมาณ 2.1 m. สามารถใช้ทีวีขนาด 40 – 50 นิ้วได้สบายๆ ซึ่งเรายังสามารถนั่งทานอาหารไปและดูทีวีไปด้วยได้แบบนี้ หรือจะใช้เป็นโต๊ะอเนกประสงค์นั่งทำงานอ่านหนังสือช่วง WFH ก็ได้เหมือนกัน

ติดกันจะเป็นประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ ที่ช่วยให้ห้องนี้มีความสว่างและโปร่งโล่งดี ภายนอกมีขนาดพื้นที่กว้างประมาณ 2.5 x 0.8 m. สามารถออกไปใช้งานได้สบายๆ อาจเอาไว้ตากผ้าเล็กๆน้อยๆ หรือจะปลูกต้นไม้ทำสวนเล็กๆก็ได้

มองย้อนกลับเข้ามาภายใน ซึ่งห้องนอนจะกั้นด้วยผนังทึบแบบนี้ จึงมีความเป็นส่วนตัวมากเลยทีเดียวครับ

ภายในห้องนอนมีขนาดใหญ่ โดยจะกินพื้นครึ่งหนึ่งของห้องเลยครับ จึงทำให้สามารถแบ่งฟังก์ชันการใช้งานได้เป็นสัดส่วนดีทีเดียว

เริ่มที่ด้านขวามือจะเป็นพื้นที่วางเตียงขนาด 5 ฟุต ซึ่งจะอยู่ใกล้กับช่องหน้าต่างบานใหญ่ สามารถนอนชมวิวสวยๆภายนอกได้สบายๆ หรือใครจะติดทีวีแขวนผนังตรงปลายเตียงเพิ่มด้วยก็ได้ครับ

โดยพื้นที่รอบเตียงจะกว้างประมาณ 40 – 60 cm. สามารถใช้งานขึ้น-ลงเตียง หรือเดินผ่านได้แบบพอดีตัว

ส่วนอีกด้านของห้องจะเป็นโต๊ะแต่งหน้าที่อยู่ติดกับตู้เสื้อผ้า มาพร้อมกับเก้าอี้สตูลและชั้นวางของเยอะเลยครับ รวมถึงมีกระจกเงาทรงครึ่งวงกลมติดมาให้ด้วยแบบนี้

พื้นที่แต่งตัวหน้าห้องน้ำกว้างประมาณ 80 cm. สามารถยืนใช้งานได้แบบพอดีๆ มีตู้เสื้อผ้ามาให้ 2 ด้าน ซึ่งเพียงพอสำหรับ 1 – 2 คนสบายๆครับ

ส่วนห้องน้ำก็จะมีการแบ่งฟังก์ชันเป็นสัดส่วนเหมือนเดิม โดยขนาดพื้นที่ส่วนแห้งจะกว้างประมาณ 1 x 2 m. มาพร้อมกับสุขภัณฑ์จาก Kohler

และพื้นที่ยืนอาบน้ำจะกว้างประมาณ 90 x 80 cm. สามารถยืนใช้งานได้พอดีๆ มีฉากกั้นอาบน้ำกระจกนิรภัย Tempered Glass และ Hand Shower & Rain Shower มาให้เหมือนเดิมครับ

2 Bedrooms ขนาด 70.08 – 72.85 ตร.ม. ถือเป็นห้องหายาก (Rare Item) ที่มีเพียงชั้นละ 1 ห้องเท่านั้น อีกทั้งยังเป็นห้องตรงมุมอาคารด้วยครับ เลยทำให้ภายในห้องนอนใหญ่เราจะได้หน้าต่างกระจกเข้ามุม (Bay Window) ที่มีความโปร่งโล่งและชมวิวได้กว้างมากขึ้น ซึ่งจุดเด่นของห้องนี้หลักๆคือ เป็นห้องหน้ากว้างที่ได้บรรยากาศเหมือนอยู่บ้าน โดยเฉพาะบริเวณ Common Area ที่มีขนาดใหญ่และกว้างขวางมาก แลกกับเราจะได้เป็นครัวเปิดเพื่อความโปร่งโล่งครับ

ส่วนห้องนอนและห้องน้ำจะมีโถงทางเดินแยกออกไปอีกด้านหนึ่ง จึงทำให้มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ซึ่งห้องนอนใหญ่จะมีห้องน้ำให้ใช้งานได้ในตัว ส่วนห้องนอนเล็กจะสามารถออกมาใช้ร่วมกับพื้นที่ส่วนกลางที่ด้านนอกได้ครับ ดังนั้นห้องนี้เหมาะกับการอยู่อาศัย 2 – 3 คน อาจเป็นครอบครัวที่มีลูกแล้ว หรือเป็นคนที่ต้องการห้องนอนเพิ่มอีกสักห้อง เพื่อใช้ทำเป็นห้องอเนกประสงค์เพิ่มเติม เช่น ทำงานส่วนตัว หรือปรับเป็นห้องอื่นๆตาม Lifestyle ได้หลากหลายเลยครับ

โดยบรรยากาศของจริงจะเป็นอย่างไร สามารถคลิกชมภาพใน Gallery ด้านล่างนี้กันได้เลย

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ

Reference สาทร – วงเวียนใหญ่ ราคา ณ วันที่ 1 มิถุนายน 2565

• Studio ขนาด 24.19 – 27.94 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.29 ล้านบาท

• รูปแบบการขาย Fully Furnished
• ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.7 เมตร
• Kitchen & Sink / ท็อปหินสังเคราะห์
• Hob & Hood / ของยี่ห้อ Hafele
• จอง 20,000 บาท
• ทำสัญญา 30,000 บาท
• ค่ากองทุน 550 บาท/ตร.ม.
• ค่าส่วนกลาง 70 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ

ความคิดเห็นของผู้เขียน

โครงการ Reference สาทร – วงเวียนใหญ่ เป็นคอนโดแบรนด์ใหม่จาก SC Asset ที่หันมาเน้นกลุ่มคนรุ่นใหม่ Gen Y กันมากขึ้น ซึ่งก็มักจะมีการประกอบอาชีพใหม่ๆ ที่กำลังเป็นเทรนด์ในสมัยนี้กันเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็น YouTuber , Vlogger , Influencer , Content Creator , ขายของออนไลน์ และธุรกิจ START UP ต่างๆ เป็นต้น

ดังนั้นคนกลุ่มนี้จึงมักจะมี Lifestyle และความต้องการที่แตกต่างไปจากเดิม ซึ่งทาง Reference ก็ได้จัดให้มีฟังก์ชันต่างๆภายในโครงการครบ เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของคนรุ่นใหม่ให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะพื้นที่ทำงาน พื้นที่สวน พื้นที่ออกกำลังกาย รวมถึงยังมีร้านค้าและคาเฟ่ ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกต่างๆได้ครบครัน

ในด้านของทำเลจัดว่าน่าสนใจดีทีเดียวครับ โดยจะตั้งอยู่บนถนนกรุงธนบุรี ไม่ไกลจากสะพานตากสิน และเราสามารถข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อเข้าเมืองไปทางสีลม-สาทร-พระราม 4 ได้สะดวกมากๆ ซึ่งเป็นย่าน CBD ที่เต็มไปด้วยอาคารสำนักงาน โรงพยาบาล โรงเรียนนานาชาติ และสถานบันเทิงต่างๆมากมาย อีกทั้งยังอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้า BTS วงเวียนใหญ่ ในระยะเดินได้สบายๆเพียง 130 m. ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการเดินทางเข้าเมืองได้สะดวก โดยไม่ต้องกังวลเรื่องรถติดเลยครับ

ส่วนตัวห้องพักก็มีมาให้เลือกถึง 4 แบบ ซึ่งจะมีจุดเด่นและเหมาะกับคนที่มี Lifestyle ที่แตกต่างกัน โดยจะเน้นเป็นห้องสำหรับการอยู่อาศัย 1 – 2 คนเป็นหลัก และมีการออกแบบพื้นที่ใช้สอยได้ Compact แต่ลงตัวมากๆ โดยเฉพาะห้อง Studio จะมีจุดที่น่าสนใจคือ “เฟอร์นิเจอร์ Built-in” ที่แฝงด้วยความ Multi-Function ให้เราสามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้หลากหลาย แถมยังเก็บของได้เยอะมากๆอีกด้วย และไม่น่าเชื่อว่าพื้นที่ห้องเพียงเท่านี้ ยังสามารถจัดให้มี Walk-in Closet ได้อีกด้วย นอกจากนี้ก็ยังมีทั้งห้องที่เน้นความเป็นส่วนตัว และห้องที่ให้อารมณ์เหมือนอยู่บ้านให้เลือกกันด้วยนะครับ

สำหรับคนที่สนใจปัจจุบันโครงการ Reference สาทร – วงเวียนใหญ่ จะมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 3.29 ล้านบาท และสามารถเข้าชมห้องตัวอย่างของจริงกันได้ที่ Slae Gallery ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ซึ่งหากทางทีมงาน Thinkofliving ได้ข้อมูลส่วนที่เหลือเพิ่มเติมเมื่อไหร่ จะรีบนำมาอัพเดทให้นะครับ

ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc