รีวิวฉบับที่1811 … ผ่านมา 2 ปีแล้ว ที่รถไฟฟ้า 2 สาย สายสีม่วงและสายสีน้ำเงินเดินทางเชื่อมต่อกันได้เป็นที่เรียบร้อยที่สถานีเตาปูน Interchange วันนี้ผมจะพาทุกคนมาดูโครงการตึกเสร็จที่ใกล้กับสถานีนี้เพียง 120 เมตร กับโครงการ The Rich Park 2 เตาปูน Interchange ซึ่งในรีวิวนี้เราจะพาไปอัพเดทดูสภาพโครงการกันว่าเมื่อสร้างเสร็จมาประมาณ 5 ปีแล้วจะเป็นอย่างไรกันบ้างทั้งตัวโครงการเเละพื้นที่รอบๆ ไปติดตามอ่านกันได้เลยครับ
Fact @ 13 February 2019
- The Rich Park 2 Taopoon-Interchange (เดอะริช พาร์ค 2 เตาปูน-อินเตอร์เชนจ์)
- บริษัท ริชี่เพลซ 2002 จำกัด (มหาชน)
- UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ในเขต :ถนนประชาราษฎ์ สาย 2 เขตบางซื่อ
- คอนโด High Rise 26 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้องพักทั้งหมด 720 ยูนิต และ Shop House 14 ยูนิต รวม 734 ยูนิต
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 34 ยูนิต
- ที่จอดรถประมาณ 40% ไม่รวมจอดซ้อนคัน
- ที่ดินประมาณ 3-0-64.6ไร่
- เริ่มก่อสร้าง : 1 เมย. 2556
- แล้วเสร็จ : 2557
- Type A 1 Bedroom ขนาด 28 – 30 ตรม.
- Type B 1 Bedroom ขนาด 28 – 30 ตรม.
- ฝ้าเพดานสูง 2.4 เมตร
- ตอนเปิดตัวราคาเฉลี่ยตร.ม.ละ 76,000 บาท
- ปัจจุบันราคาเริ่มต้น 2.49 ล้านบาท
- ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ AVERAGE ประมาณ 97,000 บาท/ตร.ม.
- เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
- โทร : 02-912-9440
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างครับ
พิกัด : 13.806228, 100.528944
แผนที่จากทางโครงการครับ แสงถึงทำเลที่ตั้งในย่านเตาปูน ก่อนจะเข้าไปถึงรายละเอียดขอพูดถึงความเป็นมาของทำเลบริเวณนี้กันสักหน่อย เดิมทีทำเลบางซื่อ-เตาปูน-บางโพ เป็นชุมชนค้าขายเก่าแก่มาเนิ่นนานทีเดียว โดยเป็นย่านที่ขายเฟอร์นิเจอร์ และงานไม้ขนาดใหญ่และเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่ง คนย่านนี้จึงเป็นกลุ่มคนมีกำลังซื้อสูง ก่อนรถไฟฟ้าจะมาแถวนี้ก็อาศัยอยู่กันตามบ้าน ตึกแถวแนวราบ พอรถไฟฟ้ามาก็ได้รับการต้อนรับค่อนข้างดีทีเดียว
ทำเลที่ตั้งโครงการอยู่บนถนนใหญ่ใกล้กับแยกเตาปูน ถนนประชาราษฎร์สาย 2 ซึ่งเป็นถนนที่เชื่อมต่อกับถนนหลายๆสายบริเวณนี้ ไม่ว่าจะเป็น ถนนกรุงเทพฯ-นนทบุรี ถนนประชาราษฎร์สาย 1 ถนนเทอดดำริ ถนนประชาชื่น ซึ่งสามารถเชื่อมต่อไปยังถนนสายอื่นๆ ได้อีกมากมาย ข้อดีของการอยู่ติดถนนใหญ่คือสังเกตเห็นได้ไม่ยาก เข้าออกสะดวก ใช้บริการรถสาธารณะได้ง่าย สำหรับทำเลนี้คงต้องบอกว่าจุดเด่นจริงๆ คงหนีไม่พ้นสถานีรถไฟฟ้า เตาปูน Interchange ซึ่งอยู่ในระยะเดิน ใช้งานได้สะดวก
การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว ถือว่าสะดวกเหมือนกัน เพราะถนนประชาราษฎร์สาย 2 เป็นถนนที่เชื่อมต่อกับถนนอีกหลายสาย จึงทำให้มีเส้นทางในการเข้าถึงโครงการที่หลากหลาย นอกจากนั้นซอยย่อยข้างๆโครงการ ก็สามารถทะลุไปยังถนนใกล้เคียงได้อีกด้วย อีกเหตุผลคือการเดินทางสาธารณะบริเวณนี้มีค่อนข้างหลากหลาย ทั้ง รถไฟฟ้า รถประจำทาง และเรือ จึงทำให้ช่วยลดปัญหารถติดไปได้บ้างไม่มากก็น้อย
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ เริ่มจากพระเอกของเราก่อนเลย รถไฟฟ้า MRT สถานีเตาปูน Interchange ซึ่งเป็นสายต่อเติมมาจากสถานีบางซื่อ Interchange จุดเชื่อมกันระหว่างรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่วิ่งมาจากบางใหญ่ กับ สายสีน้ำเงินที่วิ่งมาจากจรัญฯ ซึ่งตัวสีน้ำเงินจะไปมุดลงใต้ดินเข้าเมืองอีกที สำหรับรถสาธารณะบนท้องถนนอื่นๆ ทั้งรถประจำทาง แท็กซี่ พี่วินมอเตอร์ไซค์ ก็สามารถเรียกใช้ได้ง่าย เพราะตัวโครงการติดถนนใหญ่ มีผ่านไปมาตลอด
นอกจากนั้นทางฝั่งทิศตะวันตก มีแม่น้ำเจ้าพระยาที่อยู่ห่างจากโครงการไปประมาณ 1 กิโลเมตร ตรงนั้นที่ท่าเรือบางโพที่สามารถสัญจรตามแม่น้ำได้ โดยเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจในการเดินทางเช่นกัน
ด้วยความที่เป็นชุมชนเก่าแก่มาแต่เดิม ทำให้มีข้อได้เปรียบในเรื่องของความอุดมสมบูรณ์โดยรอบ พื้นที่นี้ถือว่ามีความอุดมสมบูรณ์มากและกระจายตัวออกเป็นหลายจุด ในย่านเตาปูนยาวไปจนถึงบางโพมีทั้งตลาด ร้านค้า ร้านอาหาร เรียงรายตามตึกแถว และแผงลอยริมถนนค่อนข้างเยอะ ส่วนร้านสะดวกซื้อก็มีให้เห็นเรื่อยๆไม่ขาด (โครงการเรามีประกบซ้ายขวาเลย) ที่สำคัญพึ่งเปิดใหม่เลยมี Gateway บางซื่อที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 550 เมตร มีทั้งของกิน ของใช้ และโรงภาพยนต์ขนกันมารอให้บริการมากมาย หรือหากจะซื้อของในห้างสรรพสินค้าก็มี Tesco Lotus บริเวณแยกประชาชื่น หรือจะขยายออกไปยังตลาดนัดจตุจักร ตลาดอตก. เซ็นทรัลลาดพร้าว และ Union Maill ก็ไม่ได้ไกลจนเกินไป
ขอบคุณภาพจาก Facebook official page ของ Gateway at Bangsue
ขอพูดถึง Gateway บางซึ่งสักนิดนึงนะครับ เนื่องจากเป็นห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ที่พึ่งเปิดตัวไปเมื่อปลายพฤศจิกายนที่ผ่านมานี้เอง เดิมทีคนแถวนี้จะอิงห้างสรรพสินค้า ก็ต้องไปถึงเซ็นทรัลลาดพร้าว หรือโซนปิ่นเกล้าไปเลย ซึ่งปัจจุบันนี้คนแถวนี้ก็ยิ้มกันออกแล้ว นอกจากไม่ต้องไปไกล ที่นี่มีให้เรียกว่าครบครับ ทั้งอาหารการกินแบบร้านตามห้าง ร้านค้าต่างๆ รวมไปถึงความบันเทิง อย่างโรงภาพยนต์ และกิจกรรมสนุกสนานต่างๆมากมายภายใน
พื้นที่ข้างในมีหลายชั้นมากๆ พื้นที่ค้าขายของเค้าเยอะจริงๆ นับว่าความสะดวกและความบันเทิงมีอยู่ครบครัน ตั้งแต่ชั้นล่างๆเลยจะเน้นขายอาหารเป็นหลัก มี Supermarket บูธขายอาหาร ร้านกาแฟ ร้านขนม หลากหลายเเบรนด์ แบบที่ห้างใหญ่ใจกลางเมืองมีที่นี่ก็มีเช่นกัน มี Starbucks 2 ชั้น เเถมยังมี Food court ที่ออกแบบที่นั่งรับประทานและตัวร้านได้ดูน่าสนใจราวกับเป็น Co-working space เลยครับ การออกแบบในหลายๆส่วนของที่นี่จะดูสนุกสนาน Shopping ที่นี่ก็มีเเบรนด์เสื้อผ้า Fast fashion อย่าง H&M หรือจะเป็นเสื้อผ้าเรียบง่าย Everyday looks อย่าง Uniqlo ก็มีร้านที่นี่ สามารถมาอัพเดทเทรนกันได้ตลอด และสำหรับครอบครัวที่มีลูกเล็กเด็กแดง ผมว่าพื้นที่หลายๆส่วนของห้างนี้มีโซนที่ทำขึ้นมาเพื่อน้องๆโดยเฉพาะ ทั้ง Game center และสวนสนุก ก็ถือเป็นตัวเลือกของพ่อแม่ในการพาลูกๆมาเที่ยวเล่นทำกิจกรรมในวันหยุดสุดสัปดาห์ได้ และที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้คือ ที่นี่มีโรงหนังในเครือ Major Cineplex ด้วย และยังมี Fitness ของ Jetts ที่เปิดให้เล่นตลอด 24 ชม. ใครที่อยู่คอนโดแล้วอยากออกกำลังกาย แต่ติดที่ว่ากลับบ้านดึกตลอด ก็มาเล่นกันที่นี่เเทนได้เลย
ชั้นล่างของที่นี่จะมี Supermarket ชื่อว่า Big-C Foodplace ที่ Gateway บางซื่อ เป็น Big-C ที่ดูไฮโซขึ้นมาหน่อย สินค้าที่ขายการออกแบบพื้นที่ นับว่าเป็นน้องๆของ Tops supermarket หรือ Gourmet market ได้เลย เรียกได้ว่ามีสถานที่สำหรับซื้อของสด ของกินปรุงสำเร็จ ของใช้ต่างๆใกล้ตัว มีตัวเลือกหลากหลายด้วยครับ
มาต่อกันที่การเดินทางไปโครงการกันเลย วันนี้ผมจะพาไปเส้นทางที่เรียกว่าเป็นเส้นทางที่สะดวกที่สุดในการเดินทางไปยังโครงการ โดยใช้รถไฟฟ้า MRT สถานีเตาปูน Interchange นั่นเอง เริ่มต้นด้วยการออกมาที่ประตูทางออกหมายเลข 1 จากนั้นเดินตรงมาเรื่อยๆบนถนนประชาราษฎร์สาย 2 ฝั่งไปท่าเรือบางโพ อีกประมาณ 120 เมตร ก็จะพบตัวโครงการอยู่ทางซ้ายมือครับ
เนื่องจากเป็นสถานี Interchange กับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน จึงมีขนาดสถานีค่อนข้างใหญ่ สะดวกสบายเลยทีเดียว เดินออกมาทางประตูทางออกหมายเลข 1 จากนั้นเดินตรงไปเรื่อยๆ เลยครับ
เมื่อเดินออกมา บริเวณด้านหน้าจะมีตำแหน่งอยู่ใต้แนวรถไฟฟ้า ทำให้เป็นพื้นที่กว้างที่มีหลังคา ไม่ต้องกลัวแดดหรือฝนเลยครับ มีทางให้เลือกเดิน 2 ฝั่ง ก็คือฝั่งซ้ายจะโล่งหน่อย วันไหนอากาศแจ่มใสก็เดินรับแดดรับลมกันไป ส่วนฝั่งขวาติดถนน มีแนวรถไฟฟ้าอยู่ด้านบน กันฝนได้
มาทางฝั่งด้านขวาริมถนนกันนะครับ เดินตรงต่อไปเรื่อยๆเลย บริเวณนี้จะมีพี่วินมาจอดรอ ถ้าจะไปโครงการเราไม่ต้องใช้ครับ เดินได้เลยใกล้มาก
เดินเลยออกมาจะมีตำแหน่งของพี่วินให้เห็นครับ ซึ่งบริเวณนี้เป็นทางเดินค่อนข้างโล่ง เพราะตัวแนวรถไฟฟ้ายกสูง อาจจะต้องระวังฝนสาด ถ้าเดินทางทุกวันแนะนำให้พกร่มดีกว่าครับ
เดินเลยต่อมาจะมี 7-eleven อยู่ที่หัวมุมตึกแถว ใช้งานสะดวกดีนะครับ สำหรับซื้อของตอนออกจากโครงการและแวะซื้อได้ตอนขากลับเข้าตัวโครงการ บริเวณนี้มีทางเท้ายกสูงจากพื้นถนน มีความกว้างขนาดประมาณ 2 -3 เมตรให้เดิน สะดวก ปลอดภัยครับ
เดินพ้นแนวตัวตึกแถวมาก็จะพบโครงการ The Rich Park เตาปูน-Interchange อยู่ทางซ้ายมือครับ ถือว่าใกล้นะ เหงื่อยังไม่ทันออกเลยถึงซะแล้ว
**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะครับ
ตัวโครงการพื้นที่ประมาณ 3 ไร่กว่าๆ มีลักษณะเป็น 4 เหลี่ยมผืนผ้า แต่มีพื้นที่ยื่นออกมาอีกนิดหน่อย ทำให้ตัวอาคารวางเป็นตัว L ตามลักษณะของพื้นที่ โดยพื้นที่รอบข้างส่วนใหญ่เป็นตึกแถวและพื้นที่พักอาศัย ยกเว้นฝั่งทิศตะวันออกที่มีอาคารชีวาทัย สูง 26 ชั้น ซึ่งจะเป็นฝั่งเดียวที่โดนบล็อควิว ไปดูรายละเอียดในแต่ละฝั่งกันครับ
ทิศเหนือ – เป็นทิศที่อยู่หน้าโครงการ ซึ่งจะหันหน้าให้กับถนนประชาราฎษร์สาย 2 และแนวรถไฟฟ้า ถัดไปฝั่งตรงข้ามคือตึกแถว แน่นอนครับ.. สิ่งที่มาพร้อมถนนใหญ่คือเสียงและฝุ่น ทางฝั่งนี้คงจะพูดได้ว่ามีเสียงดังและวุ่นวายที่สุดจากทั้ง 4 ฝั่ง แต่ก็จะได้วิวที่มี movement เห็นความเคลื่อนไหว และบรรยากาศเมืองมากกว่าฝั่งอื่นๆนั่นเอง
ทิศตะวันออก – เป็นฝั่งที่โดนบล็อควิวมากที่สุด แต่ก็ไม่ใช่ในระยะประชิดนะ มีแนวอาคารตึกแถวกั้นไว้ ซึ่งทำให้ยังได้รับลมและวิวจากด้านข้างอยู่บ้าง เป็นอาคารชีวาทัยสูง 26 ชั้นเท่ากันกับโครงการเรา ซึ่งก็บังวิวไปเยอะพอสมควร
ทิศใต้ – เป็นวิวพื้นที่พักอาศัย ที่มีอาคาร 4-6 ชั้นบ้าง แต่ไม่อยู่ในระยะประชิด และไม่ส่งผลมากนักเพราะตัวห้องพักอาศัยของโครงการเริ่มต้นที่ชั้น 5 จึงทำให้ทิศใต้เป็นวิวที่มองเห็นค่อนข้างโล่ง ไปไกลถึงในตัวเมืองเลย นอกจากนั้นฝั่งนี้ยังเป็นทิศที่รับแดดและความร้อนสูง เหมาะกับคนที่ไม่ค่อยอยู่ห้องในช่วงเวลากลางวันครับ
ทิศตะวันตก – เป็นทิศที่เห็นโค้งแม่น้ำเจ้าพระยา ในระยะประชิดไม่มีอะไรขึ้นมาบังเลยครับ แต่ห่างออกไปประมาณ 300 เมตร จะมีอาคาร The Stage สูง 36 ชั้น ที่และที่ประมาณ 500 เมตร จะมี The Tree สูง 39 และ 40 ชั้น 2 อาคาร บังอยู่บ้างในบางจุด ทำให้ไม่ได้วิวโล่งไปซะทีเดียว แต่ก็ยังสามารถเห็นแม่น้ำเจ้าพระยาได้อยู่นะ
หน้าโครงการมีพื้นที่กว้างเหมือนกันนะ ยกระดับสูงขึ้นจากพื้นที่ภายนอก แยกทางเข้าออกคนละเลนชัดเจน พร้อมรั้วกั้นไม้กระดกอัตโนมัติ ก่อนจะเข้าไปภายในโครงการไปดูพื้นที่รอบๆกันก่อนนะ
ไปดูพื้นที่ฝั่งทางไปท่าเรือบางโพกันก่อนนะครับ ลองเดินไปดูกันเลย
ที่หน้าโครงการเลยจะมีที่นั่งให้สำหรับรอรถประจำทาง มีหลังคาและไฟส่องสว่างติดตั้งให้เรียบร้อยเลย
ติดๆกันคือสะพานลอยข้ามฝั่ง ถือว่าสะดวกนะ อยู่หน้าโครงการไม่กี่ก้าวเอง สำหรับคนที่เดินทางโดยรถสาธารณะเข้าเมืองเป็นประจำ ก็สะดวกทีเดียว
เป็นสะพานลอยแบบไม่มีหลังคา แต่มีเสาไฟส่องสว่างให้นะ ซึ่งถ้าใครใช้เป็นประจำก็แนะนำให้พกร่มด้วยครับ
มองลงไปฝั่งหน้าโครงการ จะเห็นจุดกลับรถเพื่อวนเข้าโครงการอยู่นะ ไม่ไกล ประมาณ 100 เมตร
ลงมาฝั่งตรงข้ามมีร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาเจ้าเก่าตั้งรอรับเลย 2 ร้าน ถือว่าสะดวกเหมือนกันนะ มาฝากท้องกันได้
ลองเดินดูแถวนี้กันหน่อย ผมเดินไปฝั่งมุ่งหน้าไปท่าเรือบางโพนะครับ มีแนวตึกแถวเป็นร้านค้าร้านอาหารหลากหลายเลยครับ ของใช้ทั่วไป ของกินตั้งแต่อาหารสัตว์ จนถึงอาหารคน ฮ่าๆ
เลยแนวตึกแถวมาจะมีซอย ภายในมีร้านอาหารหลายร้านเหมือนกันนะ ก๋วยเตี๋ยว ส้มตำ อาหารตามสั่ง มีพี่วินตั้งอยู่บริเวณนี้ด้วยครับ
กลับมายังฝั่งโครงการ ลองเดินตรงต่อไปหน่อยดีกว่า มีป้ายบอกทางว่าจะมีซอยลัดไปยังถนนประชาราษฎร์สาย 1 ด้วยแฮะ
เดินลงสะพานลอยมา ฝั่งซ้ายมือในรูปที่เป็นพุ่มไม้ ยังเป็นรั้วโครงการเราอยู่เลย ด้านหน้ามีซอยที่ติดกับโครงการ ชื่อซอยสะพานขาว ซึ่งจะสามารถไปทะลุกับถนนประชาราษฎร์สาย 1 ได้ เป็นถนนที่ตั้งฉากกับถนนหน้าโครงการของเรา (ประชาราษฎร์สาย 2)
ซอยสะพานขาวสามารถไปทะลุกับถนนประชาราษฎร์สาย 1 ได้ ต้นซอยมีร้านค้าร้านอาหารอยู่บ้าง บรรยากาศภายในซอยค่อนข้างเงียบสงบ เป็นบ้านพักอาศัยซะส่วนใหญ่ ปะปนไปกับร้านค้าร้านอาหาร เนื่องจากเป็นซอยที่ใช้ลัดเลาะจึงมีความคึกคักกว่าซอยปกติทั่วไป
ถนนประชาราษฎร์สาย 1 เป็นถนนที่สามารถไปเชื่อมกับ ถนนทหาร ซึ่งจะไปต่อกับถนนประดิพัทธ์ หรือถนนสามเสน ที่จะลงไปถนนราชวิถีได้ หรือจะไปฝั่งด้านบนก็จะเชื่อมกับ ถนนวงศ์สว่าง สะพานพระราม 7
เดินเลยซอยสะพานขาวมามี 7 eleven อีกจุด ถือว่าใกล้ตัวโครงการเหมือนกัน พร้อมร้านค้าแผงลอยเต็มเลย
เลยมามีพี่วินให้บริการอีกจุด เรียกได้ว่า ทั้งซ้ายและขวาของโครงการประกบไปด้วย 7 eleven และ พี่วิน ระยะใกล้พอกัน เลือกใช้ไม่ถูกเลย
เดินเลยต่อมาเป็นแนวตึกแถวมีทั้งร้านค้า ร้านอาหารยาวไปตลอดแนวถนนประชาราษฎร์สาย 2 เลยก็ว่าได้
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- Gateway บางซื่อ ~ 550 m.
- ตลาดบางโพ ~ 900 m.
- ตลาดเตาปูน ~ 2 km.
-
โลตัส เตาปูน ~ 2.2 km.
- บริษัทเครือซิเมนท์ไทย ~ 3 km.
- โรงเรียนสตรีนนทบุรี ~ 3.9 km.
- มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ~ 4.2 km.
- บิ๊กซี วงศ์สว่าง ~ 4.6 km.
- โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ~ 5.1 km.
- ตลาด อตก. ~ 5.2 km.
- ตลาดนัดจตุจักร ~ 5.4 km.
- โรงพยาบาลนนทเวช ~ 8.0 km.
-
เดอะมอลล์งามวงศ์วาน ~ 8.1 km.
- Central Plaza Ladprao ~ 8.2 km.
- Union Mall ~ 8.9 km.
-
เมเจอร์รัชโยธิน ~ 9.3 km.
-
มหาวิทยาลัยราชภัฎจันทรเกษม ~ 10.5 km.
-
กระทรวงสาธรณสุข ~ 10.7 km.
มาเริ่มกันที่ผังพื้น Master Plan กันก่อนเลย เป็นผังพื้นชั้น 1 ที่มีดีเทลเยอะพอสมควร ตัวอาคารถูกออกแบบเป็นตัว L ตามพื้นที่โครงการ เป็นอาคารเดี่ยว พื้นที่จอดรถจะอยู่ที่ชั้น 1-4 ส่วนห้องพักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 5 ตัวอาคารมีร้านค้า 14 ร้าน มีทางเข้าออกอาคาร 3 ทาง จะอธิบายไปทีละส่วนนะครับ
การเดินรถภายในโครงการ – ทางเข้าออกโครงการมีทางเดียวทางถนนประชาราษฎร์สาย 2 ภายในเป็นการเดินรถทางเดียวรอบตัวอาคาร มีพื้นที่จอรถใต้อาคาร และริมรั้วโครงการ พร้อมทั้งจุดขึ้น-ลงอาคารเพื่อจอดรถอยู่ทางทิศตะวันออก
ทางเข้าออกตัวอาคาร – จัดแบบออกเป็น 3 ทางหลักๆ ดังนี้
- ทางเข้าออกฝั่งหน้าตัวอาคาร : เป็นทางเข้าสำหรับเดินเท้า เข้าออกตัวอาคาร จะเข้าทางด้านหน้าทางเข้าออกโครงการ เดินผ่านแนวร้านซ้ายขวาเข้ามาภายในจนสุดแล้วเลี้ยวขวาเข้า Lobby
- ทางเข้าออกฝั่งด้านทิศตะวันออก : เป็นทางเข้าออกสำหรับ Drop Off ซึ่งจะมีที่ให้รถมาจอดรับหรือส่งคน จากนั้นเลี้ยวต่อเพื่อขึ้นไปยังพื้นที่จอดรถที่ชั้น 2-4 ทางด้านข้าง หรือจะวนรถออกนอกโครงการก็ได้ ทางเข้าออกทางฝั่งนี้เดินเข้ามาจะพบกับ Lobby อยู่ด้านหน้า หากจะไปร้านค้าต่างๆ ต้องเลี้ยวขวาจะเจอทางเดินยาวที่มีร้านค้าประกบทั้งสองฝั่งซ้ายขวา
- ทางเข้าจากที่จอดรถใต้อาคารฝั่งทิศตะวันตก : เป็นทางเข้าออกสำหรับขนของหรือ service หรือขนของ แต่ก็เปิดให้เข้าออกได้ตลอดนะ มีตำแหน่งใกล้โถงลิฟต์ สามารถเอารถเข้ามาจอดใกล้ๆประตูได้ ด้านหน้าทางเข้าเป็นที่จอดรถจักรยานยนต์ใต้อาคาร
พื้นที่ภายในอาคาร – ประกอบไปด้วยพื้นที่หลักๆ แต่มีความพิเศษกว่าโครงการอื่นๆนะ เนื่องจากเป็นโครงการที่มียูนิตค่อนข้างเยอะ เลยจัดพื้นที่ส่วนกลางที่คอยอำนวยความสะดวกทั่วไปมาค่อนข้างเยอะ ไปดูกันเลยครับ
- ร้านค้า 14 ยูนิต : ประกอบไปด้วยตั้งแต่ร้านกาแฟ, ร้านขายของทั่วไป ขนม นม เนย, ร้านซักรีด, ห้องสอนพิเศษ, Sales Gallery (ในอนาคตน่าจะเป็นร้านค้าอีกร้าน) และร้านค้าว่างที่ยังปล่อยให้เช่าอยู่ เรียงรายทั้งสองข้างทางเดิน และด้านใน
- Lobby : เป็นอีกส่วนที่ผมชอบนะ จัดมาให้มีขนาดค่อนข้างใหญ่ และแบ่งออกเป็น 3 พื้นที่หลักๆภายใน ส่วนเคาน์เตอร์หน้าทางเข้าโถงลิฟต์, พื้นที่นั่งด้านหน้าตรงกลาง lobby, พื้นที่นั่งด้านหลัง จะได้ความเป็นส่วนตัวมาขึ้นมีตู้กดน้ำให้ด้วย
- ส่วน Back Of House : ประกอบไปด้วย ห้องนิติบุคคล, Mail Box, ห้องน้ำแยกชายหญิง เป็นสัดส่วนดี
- โถงลิฟต์ : ภายในมีลิฟต์โดยสาร 3 ตัว และลิฟต์ขนของอีก 1 ตัว มีห้องซักผ้าให้ด้วย เป็นเครื่องซักผ้าแบบหยอดเหรียญ สะดวกดีนะครับสำหรับการซักผ้าลงมาเอาผ้า ก็ไม่ต้องออกไปไกล
มาดูภาพจริงกันบ้างนะครับ บริเวณหน้าโครงการ มีทางเข้าออกที่ถูกจัดไว้ดูดีทีเดียว สภาพยังดีมีการดูแลรักษาความสะอาดเรียบร้อย ไม่มีอะไรเสียหาย
มีพื้นที่สำหรับทางเดินเข้าออกแยกจากทางเข้าออกรถยนต์ชัดเจน ไม่มีประตูกั้นและไม่ต้องใช้ระบบอะไรในการเข้าออก ซึ่งอาจจะดูไม่ปลอดภัย แต่มีตำแหน่งอยู่บริเวณหน้าป้อม รปภ. ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ดูแลตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมทั้ง CCTV ก็ช่วยให้อุ่นใจขึ้นมาได้บ้างครับ
สำหรับทางเดินคน เดินเข้ามาก็ข้ามถนนมาเดินขึ้นอาคารได้เลย ที่เห็นตรงหน้าคือแนวร้านค้า มีซอยทางเดินให้เดินเข้าไป จะมีร้านค้าขนาบข้างซ้ายขวา เดี๋ยวผมจะพาไปดูอีกที ไปดูเส้นทางเดินรถกันก่อนนะครับ
สำหรับรถยนต์ จะมีทางเข้าออกแยกชัดเจน เป็นรั้วกั้นไม้กระดกอัตโนมัติ เข้าออกด้วยระบบ Keycard Access แบบ Easy Pass สะดวกไม่ต้องเปิดกระจกมาทาบบัตร สามารถเข้าออกได้เลย นอกจากนั้นยังมี CCTV ให้ด้วยทั้งทางเข้าและทางออก
สำหรับทางฝั่งนี้ก็มีทางเดินเท้าให้เช่นกัน ซึ่งจะอยู่ห่างจากป้อมรปภ.สักหน่อย บริเวณนี้จะเป็นทางเดินริมสวนข้างโครงการ เข้าไปทางด้านใน มีเสาไฟให้แสงสว่างตลอดแนวทางเดิน
สำหรับรถยนต์ที่เข้ามา ก็ขับวนตามทางไปเลยครับ มีพื้นที่จอดรถใต้อาคารให้ด้วยครับ
ตรงมาเรื่อยๆจะเจอทางเลี้ยวซ้าย ซึ่งจะไปยังพื้นที่จอดรถด้านในบนอาคารที่ชั้น 2-4 หรือจะวนออกจากโครงการก็ได้ ส่วนที่หัวมุมฝั่งขวามือ จะเป็นจุด Drop Off สำหรับรับส่งคนที่บริเวณนี้ มีที่จอดรถตามแนวใต้อาคาร
ฝั่งซ้ายมือคือพื้นที่นั่งเล่นข้างโครงการ มีน้ำพุ และสวน สร้างบรรยากาศให้กับพื้นที่บริเวณนี้
ฝั่งตรงข้ามน้ำพุคือ Drop Off ที่ผมบอก เป็นอีกหนึ่งทางเข้าตัวอาคารครับ แต่เสียดายที่ไม่มีชายคายื่นออกมารับ ทำให้หากฝนตกอาจจะใช้งานรับส่งคนลำบากซักหน่อย ก่อนจะเข้าไปภายในอาคาร ขออนุญาติพาไปวนรอบภายนอกโครงการและที่จอดรถบนอาคารให้เสร็จก่อนนะครับ
ด้านในมีที่จอดจักรยานให้ด้วยนะ
วนกันต่อตามแนวรอบตัวอาคารนะครับ ตามทางไปเลย จะสังเกตเห็นแนวต้นไม้ตามริมขอบอาคารและต้นไม้ที่ปัจจุบันเติบโตสวยงาม ช่วยบังสายตาและสร้างบรรยากาศให้โครงการเป็นอย่างดีทีเดียว
พอเลี้ยวตามทางมาจะพบทางขึ้นลงพื้นที่จอดรถภายในโครงการที่ชั้น 2-4 ครับ ถูกแยกออกเป็นทางขึ้น และทางลงชัดเจน ถือว่าปลอดภัยทีเดียว
สำหรับชั้นจอดรถจะมีทางขึ้นลงแบบที่บอกไปเมื่อสักครู่ ทางฝั่งทิศตะวันออกของอาคาร แยกกันชัดเจน ขึ้นมาแล้วเลี้ยวขวาเพื่อวนรถทางเดียวหาที่จอด วนขึ้นชั้นต่อไป มีพื้นที่ส่วนโถงลิฟต์อยู่ที่ชั้นบนครับ เข้าได้เลย ด้วยระบบ Keycard
ขึ้นมาที่ชั้น 3 ก็เป็นการวนรถทางเดียวเช่นกันครับ มีโถงลิฟต์ที่ตำแหน่งเดียวกัน ส่วนฝั่งทิศตะวันออกมีห้องที่เป็นส่วนพื้นที่ของทางโครงการ และบันไดหนีไฟครับ
เมื่อขึ้นมาชั้น 4 จะเหมือนกับชั้น 3 ทุกอย่าง แต่ห้องทางฝั่งทิศตะวันออกจะหายไปครับ
ทางขึ้นที่จอดรถมีแสงธรรมชาติในตอนกลางวันและไฟส่องสว่างให้ในตอนกลางคืน ขนาดทางขึ้นลงค่อนข้างกว้าง สะดวกและปลอดภัยครับ
ขึ้นมาที่ขั้นที่จอดรถเป็นการเดินรถทางเดียว จอดได้ทั้งสองฝั่งซ้ายขวา พื้นและเพดานเป็นคอนกรีตขัดเรียบ มีช่องแสงค่อนข้างเยอะ ที่รอบนอกอาคารทั้งหมด และไฟส่องสว่างให้เป็นจุดๆ
มีทางขึ้นลงแต่ละชั้นก็เป็นการเดินรถทางเดียว ขนาดกว้างทีเดียว ปลอดภัยครับ
จากที่จอดรถมีโถงลิฟต์ให้เข้าถึงได้เลย ด้วยระบบ Keycard จะเชื่อมต่อกับพื้นที่อื่นๆของโครงการได้ง่ายเลยทีเดียว
ภายในเป็นโถงลิฟต์ที่มีช่องแสงขนาดใหญ่ พร้อมเปิดรับลมระบายอากาศได้ มีลิฟต์โดยสารให้ใช้ 3 ตัว
กลับออกมาที่ด้านหลังโครงการ เป็นการเดินรถทางเดียวเช่นเดิม มีที่จอดรถใต้แนวอาคาร อีกฝั่งเป็นรั้วโครงการที่ถูกปกคลุมด้วยต้นไม้ พร้อมไฟสนามตามแนวรั้ว
ตรงต่อมาทางฝั่งทิศตะวันตกจะมีพื้นที่จอดรถริมรั้วให้สำหรับ visitor หรือจอดชั่วคราว และจะมีพื้นที่สำหรับเทียบเพื่อ service บริเวณทางเข้าออกอาคารจุดที่ 3 ที่ผมอธิบายไปในสวนของผังพื้นชั้น 1
เลยต่อมาจะมีทางให้เลี้ยวเข้าไปสำหรับจอดรถ และเอารถเข้าไปเทียบบริเวณทางเข้าออกได้ ครับ ลองเลี้ยวเข้าไปดูกัน
เป็นพื้นที่จอดรถจักรยานยนต์ และสามารถนำรถยนต์เข้ามาเทียบเพื่อ service ได้จากทางเข้าออกอาคารทางนี้
มีพื้นที่สำหรับจอดรถชั่วคราว เพื่อ service สามารถเข้าออกอาคารได้จากทางนี้ด้วยเช่นกัน ใช้ระบบ keycard ในการเข้าถึง มีทางลาดสำหรับรถเข็นไว้ให้พร้อมเลย
กลับมาดูกันที่ฝั่งทางเข้าบริเวณ Drop Off ของอาคารกันนะครับ ทางนี้ถือเป็นทางเข้าหลักของอาคาร บริเวณนี้มีทางลาดสำหรับรถเข็นให้ด้วยเช่นกัน เข้าไปดูภายในกันเลยครับ
เดินเข้ามา 2 ข้างทางจะถูกขนาบข้างด้วยน้ำทั้งซ้ายและขวา สร้างบรรยากาศให้กับพื้นที่บริเวณนี้ได้ดีทีเดียว
ทางซ้ายมือมีร้านค้าขนาดใหญ่ ที่ปัจจุบันไม่มีร้านเปิดทำการนะครับ สำหรับใครที่สนใจก็สามารถเข้ามาติดต่อนิติบุลคลได้เลย
ที่ด้านหน้าคือทางเข้า Lobby ครับ ส่วนทางฝั่งขวามือคือซอยที่จะสามารถเชื่อมต่อกับทางเข้าอาคารสำหรับทางเดินเท้า ซึ่งจะเข้ามาทางนี้นั่นเอง ก่อนจะเข้าไปภายใน Lobby เราลองเลี้ยวขวาไปดูร้านค้าต่างๆกันก่อนนะ เขาให้มาเยอะทีเดียว
เป็นทางเดินยาว ที่ประกบด้วยร้านค้าทั้งสองฝั่งซ้ายขวา ซึ่งตัวร้านค้าเป็นกระจกทั้งหมด และจะมีช่องแสงทั้งสองฝั่ง ทำให้พื้นที่บริเวณนี้สว่างตลอดในช่วงเวลากลางวัน
ร้านแรกเป็นทางฝั่งด้านนี้คือร้านกาแฟครับ มีพื้นให้นั่งเล่น ทำงานภายในได้นะ
ถัดมาเป็นพื้นที่ว่างให้เช่า ปัจจุบันมีตู้ให้กดน้ำอยู่ภายในนะ
ฝั่งตรงข้ามเป็นร้านทำผมและทำเล็บ ตอบโจทย์สาวๆได้เป็นอย่างดีเลย
ต่อไปเป็นร้าน ซัก อบ รีด ใครที่ขี้เกียจซักผ้าเอง หรือไม่มีเวลา ก็สามารถมาใช้บริการได้เลยนะ
ฝั่งตรงข้ามเป็นห้องว่างให้เช่าครับ
ถัดมาเป็นห้องสำหรับเก็บของของร้านขายเสื้อผ้า ซึ่งมีรับเย็บผ้าภายในด้วยนะ สำหรับซ่อมแซมเสื้อผ้าต่างๆ
ถัดมาอีกเป็นร้านขายเสื้อผ้าที่บอกครับ
ฝั่งตรงข้ามเป็นร้านเปล่าให้เช่าครับ
ถัดมาอีกก็เป็นร้านเปล่าให้เช่าเช่นกัน
ถัดต่อมาอีกก็เป็นร้านเปล่าให้เช่าอีก
ถัดมาจนสุดทางเดิน ร้านแรกของฝั่งนี้ จะเป็น Sales Gallery ครับ
ที่หน้าสุดของฝั่งตรงข้าม Sales Gallery เป็นร้านค้าและร้านอาหาร มีขายน้ำและอาหารตามสั่ง ไม่อยากออกไปด้านนอกก็แวะมาฝากท้องกันได้ครับ
โถงต้อนรับด้านหน้าสำหรับทางเข้าแบบทางเดินเท้าเข้ามาครับ ซึ่งจะเชื่อมต่อกันกับทางเข้าส่วน Drop Off หลังจากดูร้านค้ากันหมดแล้ว วนกลับเข้าไปดูภายใน Lobby กันเลยครับ
ภายใน Lobby มีขนาดค่อนข้างใหญ่ และอย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้ว่าภายในแบ่งออกเป็นหลายพื้นที่ มีการแยกส่วน Back Of House ชัดเจน ไปดูกันก่อนเลย เลี้ยวซ้ายจากภายในรูปครับ
เป็นทางเดินเข้าไปยังพื้นที่ภายในของโครงการ ซึ่งจะมีประตูกั้นแบ่งส่วน และช่วยรักษาความปลอดภัยไว้ด้วย
เดินเข้าไปส่วนแรกจะเป็นพื้นที่ Mail Box ครับ ทั้งฝั่งซ้ายและขวา ถือว่าจัดพื้นที่ไว้เป็นสัดส่วนดีนะ มีประตูกั้นให้ความเป็นส่วนตัวแก่ลูกบ้าน
ตรงต่อเข้ามาจะมีพื้นที่ส่วน นิติบุคคล และฝั่งตรงข้ามคือห้องน้ำครับ
เป็นห้องน้ำแยกชายหญิงขนาดสำหรับใช้ได้หลายคนทีเดียว
ภายในห้องน้ำค่อนข้างใหญ่ มีห้องน้ำย่อย 3 ห้อง อ่างล้างมือ 2 อ่าง
ภายใน Lobby ส่วนแรก มีขนาดค่อนข้างกว้าง มี Partition ลายไม้ และต้นไม้เทียมแบ่งกั้นพื้นที่ภายใน พื้นถึงฝ้ามีระยะสูงกว่าปกติ ทำให้ดูกว้างและไม่อึดอัด
อีกฝั่งของ Partition คือ พื้นที่นั่งเช่นเดียวกัน จะมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น มีตู้กดน้ำให้ด้วยนะ
ส่วนด้านในเป็นส่วนของเคาน์เตอร์เจ้าหน้าที่ ซึ่งจะมีพื้นที่นั่งให้ด้วยด้านข้าง
ที่ด้านหน้ามี TV ที่เอาไว้บอกรายละเอียดและแจ้งข่าวสารโครงการครับ พร้อมประตูทางเข้าระบบ Keycard
ภายในโถงลิฟต์มีส่วนของห้องซักผ้า ปั่นผ้าให้ ภายในมีพื้นที่ให้กดน้ำด้วย ข้อดีคืออยู่ไม่ไกลลิฟต์ ทำให้เวลาเอาผ้าลงมาซัก แล้วต้องลงมาเอา ไม่ต้องเดินออกไปไหนไกลครับ สะดวกดี
โถงลิฟต์มีช่องแสงให้ พร้อมบานกระทุ้งขนาดใหญ่ 2 บาน ทำให้ในช่วงเวลากลางวันจะได้แสงสว่างจากภายนอกตลอดทั้งวัน ไม่ต้องเปิดไฟเลยครับ ภายในโถงลิฟต์ประกอบด้วยลิฟต์โดยสาร 3 ตัว และลิฟต์ service 1 ตัวครับ โดยอัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการอยู่ที่ 245 : 1 ซึ่งถือว่าเยอะ ค่อนข้างหนาแน่นทีเดียว
ภายในลิฟต์เป็นแบบล็อคชั้น มี CCTV รักษาความปลอดภัยให้ด้วยนะ
ขึ้นมาดูกันต่อที่ชั้น 5 ซึ่งเป็นชั้นพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ และก็เป็นชั้นแรกของพื้นที่พักอาศัยด้วยเช่นกัน โดยภายในมีพื้นที่พักอาศัยของชั้นนี้จะมีทั้งหมด 28 ยูนิต มีลักษณะเป็นแนวตัว L ทำให้มีโถงทางเดิน 2 ฝั่ง ส่วนพื้นที่ส่วนกลางจะอยู่ตรงกลางระหว่างพื้นที่ทั้งอาศัยทั้ง 2 รับวิวหน้าโครงการ และฝั่งทิศตะวันออก
โถงลิฟต์ – ตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างพื้นที่พักอาศัยทั้ง 2 ฝั่ง และพื้นที่ส่วนกลางด้วยเช่นกัน ถือว่าเป็นตำแหน่งที่เหมาะสม สามารถเข้าถึงทุกตำแหน่งได้ง่าย ภายในยังมีประตูแบ่งกั้นความเป็นส่วนตัวชัดเจน เข้าออกด้วยระบบ Keycard ทำให้สามารถแบ่งพื้นที่ความเป็นส่วนตัวของห้องพักอาศัยกับพื้นที่ส่วนกลางได้ชัดเจน
โถงทางเดิน – มีลักษณะเป็นตัว L เป็นแบบ Double Corridor จะมีแนวห้องพักประกบซ้ายขวา ที่ปลายโถงทางเดินแต่ละฝั่งมีช่องแสง ที่สามารถระบายอากาศได้ด้วย ทำให้พื้นที่โถงทางเดินได้รับแสงในเวลากลางวัน ไม่ต้องเปิดไฟช่วยมากนัก ประหยัดไฟดีครับ ซึ่งจะมีผลในเรื่องของค่าส่วนกลาง
พื้นที่ส่วนกลาง – แยกออกมาจากพื้นที่พักอาศัย มีประตูกั้นแบ่งชัดเจน ภายในประกอบไปด้วย ห้องอาบน้ำแยกชายหญิง, สระว่ายน้ำ ระบบเกลือ ขนาด 25 x 12 เมตร พร้อมสระเด็กในตัว, ห้องออกกำลังกาย, พื้นที่สวนริมสระว่ายน้ำ ซึ่งบริเวณนี้เป็นวิวให้กับห้องพักอาศัยฝั่งหันหน้าไปยังทิศตะวันออก ซึ่งจะโดนอาคารข้างเคียงบล็อควิวด้วย นอกจากนั้นยังได้ตัวอาคารของโครงการทางฝั่งทิศใต้และทิศตะวันตกช่วยบังแดดช่วงบ่ายให้ ทำให้สามารถใช้งานพื้นที่บริเวณนี้ได้เร็วยิ่งขึ้น ไม่ร้อน
มุมมอง – สำหรับมุมมองต่างๆของชั้นนี้ (และชั้นบนด้วยเช่นกัน) ออกแบบมาใช้ได้เลย แก้ไขปัญหาฝั่งที่โดนบล็อควิวได้ดี ไปดูแต่ละฝั่งกันครับ
- ทิศเหนือ : เป็นทิศที่อยู่ติดถนนใหญ่ จะได้วิวของถนนและแนวรถไฟฟ้า ซึ่งถือเป็นวิวเมือง มี ความเคลื่อนไหว ดูไม่น่าเบื่อ หลายๆคนก็ชอบวิวลักษณะนี้ ซึ่งจะมีข้อเสียคือเสียงดังและฝุ่นแต่ห้องพักอาศัยเริ่มที่ชั้น 5 ก็ไม่ค่อยได้ผลกระทบเรื่องฝุ่นนัก ทางโครงการมีห้องที่หันไปทางทิศนี้ แต่จะอยู่ทางด้านใน ซึ่งจะได้วิวของสระว่ายน้ำด้วย ร่นระยะเข้ามาเยอะ ทำให้ลดปัญหาเรื่องเสียงและฝุ่นไปได้ดีทีเดียว
- ทิศตะวันออก : เป็นทิศที่โดนอาคาร 26 ชั้นบล็อควิว ทางโครงการก็เลยจัดพื้นที่ส่วนกลางให้เป็นวิวฝั่งทางทิศนี้แทนซะเลย ข้อดีคือมีวิวส่วนกลางให้ดู และได้ระยะร่นจากแนวอาคารข้างเคียงมาเพิ่ม ทำให้ได้วิวในระยะไกลเพิ่มมากขึ้น แต่ข้อเสียก็คือจะได้รับผลกระทบเรื่องความเป็นส่วนตัวจากพื้นที่ส่วนกลาง ทั้งเสียง และมุมมอง จะตากผ้า หรือจะทำอะไรหลังห้องก็อาจจะเขิลๆสักหน่อย
- ทิศใต้ : เป็นทิศที่โล่งและไม่ยุ่งกับใครมากที่สุด ไม่มีอาคารสูงบัง เห็นวิวไกลถึงในตัวเมืองเลยครับ แต่ก็เป็นฝั่งที่ได้รับความร้อนสูงเช่นกัน
- ทิศตะวันตก : วิวฝั่งนี้เป็นโค้งแม่น้ำเจ้าพระยา จะเรียกว่าเป็นฝั่งที่สวยที่สุดก็ได้ แต่อาจจะไม่ได้โล่งมากนัก เพราะมีอาคาร สูง 39/40 ชั้น 2-3 ตึก ตั้งอยู่ห่างออกไปประมาณ 300 เมตร แต่ด้วยระยะที่ไกล จึงยังทำให้วิวที่โล่งอยู่นะ มีห้องฝั่งที่ติดถนนหน้าโครงการ อาจจะได้รับผลกระทบเรื่องเสียงจากถนนใหญ่ด้วยเล็กน้อย
เมื่อออกจากโถงลิฟต์มา หันหน้าเข้าพื้นที่ส่วนกลาง จะเห็นการแบ่งแยกส่วนเป็นอย่างดีทีเดียวครับ พื้นที่พักอาศัยมีประตูปิดเรียบร้อย เข้าออกด้วยระบบ Keycard ส่วนพื้นที่ส่วนกลางก็มีประตูปิด ทำให้สามารถควบคุมการใข้งานได้ พื้นที่ส่วนกลางเปิดปิด 8 โมงเช้า ถึง 4 ทุ่ม
อีกฝั่งนึงของห้องพักอาศัยก็มีประตูปิดกั้นให้เช่นกันครับ
เข้ามายังพื้นที่รับรองของพื้นที่ส่วนกลาง มีขนาดกว้างดีนะ พื้นที่ลักษณะนี้ไม่ได้มีให้ในทุกโครงการ ให้มาก็ถือว่าดีครับ สำหรับนั่งรอ นัดพบ หรือหลบฝน
เมื่อเดินออกมาจะพบพื้นที่โล่งกลางแจ้ง เป็นสระว่ายน้ำ มีทางเดินและพื้นที่ริมสระสำหรับนอนพักผ่อน อาบแดด เดินไปเดินมาก็ได้ มีขนาดกว้างมากพอ
สระว่ายน้ำเป็นสระน้ำล้น ขนาด 25 x 12 ลึก 1.20 เมตร ทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า แต่ก็ไม่เหลี่ยมซะทีเดียวผสมฟอร์มวงกลมเข้าไปให้ดูไม่น่าเบื่อ สามารถว่ายน้ำออกกำลังกายได้จริง นอกจากนั้นภายในสระยังมีพื้นที่สระเด็กในตัวด้วย ใช้ได้หลายช่วงวัยทีเดียว
ทางขึ้นลงสระ มีที่สระเด็กด้วยนะของฝั่งนี้ ภายในสระลึก 85 เซนติเมตร มีจุดขึ้นลงอีกจุดที่ริมสุดของสระใหญ่นะครับ
ด้านริมสุดของสระมีพื้นที่ Landscape ที่จัดไว้ให้รับวิวโดยรอบโครงการ และพื้นที่สระว่ายน้ำด้วย บรรยากาศดีทีเดียวครับ
พื้นที่ข้างๆ มีขนาดค่อนข้างเยอะ เดินไปมาได้สบาย ไม่เบียดพื้นที่กับเตียง ด้านหลังมีพื้นที่ภายในอาคารด้วย ส่วนแรกนี้เป็นห้องน้ำแยกชายหญิงครับ
ภายในห้องน้ำค่อนข้างกว้าง ใช้ได้หลายคนพร้อมๆกันนะ
มีห้องน้ำแยก และห้องอาบน้ำ ขนาดใหญ่ ใช้สบาย
อีกฝั่งมีโถปัสสวะ ล็อคเกอร์ให้ ส่วนด้านในเป็นอ่างล้างมือครับ จำนวนและขนาดอาจจะไม่มากนัก แต่ก็ถือว่ามีมาให้ใช้ และใช้ได้หลายคนพร้อมๆกัน
อีกห้องข้างๆเป็นห้องกระจกใส ภายในเป็นห้องออกกำลังกาย มีเวลาเปิดปิดชัดเจน 8 โมงเช้าถึง 4 ทุ่ม พร้อมพื้นที่ส่วนกลางส่วนอื่นๆ
ภายในเป็นห้องออกกำลังกายขนาดใหญ่ มีทั้งส่วนของ Cardio ในช่วงแรก รับวิวสระว่ายน้ำและพื้นที่ภายนอก
พื้นที่ด้านในเป็นอุปกรณ์ออกกำลังกายแบบ Body Weight แยกส่วนกันชัดเจน รับวิวสระว่ายน้ำและสวนด้านนอกเช่นกัน
พื้นที่ส่วนกลางจะมีส่วนที่ติดกับห้องพักอาศัยด้วยเช่นกัน ทางโครงการก็จัดต้นไม้เป็นแนวให้ช่วยบังสายตา ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ช่วยได้ในเรื่องของมุมมองเบื้องต้นนะครับ อาจจะต้องติดม่านทึบช่วยด้วยภายในห้อง ส่วนผลกระทบเรื่องเสียงก็อาจจะเลี่ยงได้ยากสักหน่อย ถือซะว่าแลกกับความใกล้พื้นที่ส่วนกลาง เข้าถึงง่าย ใช้งานสะดวก กับได้วิวสระว่ายน้ำเหมือนมีสระอยู่หลังบ้านตัวเอง ใครที่ชื่นชอบการใช้งานพื้นที่ส่วนกลางก็เหมาะกับห้องตำแหน่งนี้ครับ
ข้ึนมาที่ชั้น 6-25 ซึ่งเป็นชั้นที่เหลือของโครงการ จะมีห้องพักอาศัยชั้นละ 34 ยูนิต ซึ่งถือว่าเยอะเหมือนกันนะ โดยห้องทั้งหมดเป็นห้อง 1 Bedroom รูปแบบที่เยอะที่สุดคือห้อง Type A เกือบทั้งหมด ส่วนห้องหน้ากว้างแบบ Type E และ Type C อยู่ที่มุมอาคารอย่างละ 1 ห้อง / ชั้น เหมาะกับคนที่เน้นรับวิวภายนอก รับได้มากถึง 2 ฝั่ง ห้องทรงลึกหน้าแคบ Type B จะมีอยู่ที่ฝั่งทิศใต้ 5 ยูนิต และริมถนนหน้าโครงการ 2 ยูนิต ห้องแบบนี้จะรับความร้อนไม่เยอะ เหมาะกับการวางไว้ทางทิศใต้แล้วครับ โดยรวมแล้วถือว่ามีให้เลือกหลากหลายแบบเหมือนกันนะ ส่วนมุมมองก็จะมีลักษณะคล้ายกับชั้น 5 เลยครับ
ส่วนด้านบนสุดชั้น 26 จะมีห้องพักอาศัยเพียง 12 ห้อง เป็นชั้นที่ได้ความเป็นส่วนตัวที่สุด ห้องพักอาศัยรับวิวทิศใต้และทิศเหนือทั้งหมด นอกจากนั้นแล้วยังมีพื้นที่สวนรอบๆให้อีกนะ ไปดูส่วนพื้นที่พักอาศัยกันต่อเลย
โถงลิฟต์สำหรับชั้นพักอาศัย ก็มีลักษณะเป็นเหมือนโถงลิฟต์ชั้น 1 ครับ มีช่องแสง 1 ช่องตรงกลาง พร้อมบานกระทุ้ง 2 บาน เปิดระบายอากาศได้ ประกอบด้วยลิฟต์โดยสาร 3 ตัว ลิฟต์ ขนของ 1 ตัวครับ ตกแต่งด้วยพื้นแกรนิตโต้สีและผนังฉาบเรียบทาสี โทนสีสว่างดูสบายตา
โถงทางเดินเป็นแบบ Double Corridor มีห้องประกบซ้ายขวา เป็นทางเดินตัว L พื้นเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้เช่นเดิม มีไฟ Downlight ตามแนวทางเดินครับ แต่ที่ริมทางเดินแต่ละฝั่งมีช่องแสงให้ เป็นแบบบานกระทุ้ง ระบายอากาศได้ด้วย ทำให้ในช่วงกลางวันไม่ต้องเปิดไฟเลยครับ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- Lobby
- Mailbox
- สระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 25 x 12 เมตร ลึก 1.20 เมตร พร้อมสระเด็กในตัว ลึก 0.85 เมตร
- ห้องซาวน่า
- ห้องออกกำลังกาย
- สวนหย่อมรอบโครงการ
- ลิฟต์โดยสาร 3 ตัว
- อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 245 : 1
- Service Lift 1 ตัว
- ที่จอดรถประมาณ 40 % รวมจอดซ้อนคัน
- ระบบ CCTV / Access Card
- ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง
มาดูที่ห้องแบบแรกกัน ซึ่งเป็นแบบที่มีเยอะที่สุดในโครงการ เป็นห้อง 1 Bedroom Type A ขนาด 28-30 ตร.ม. ลักษณะห้องเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่ด้านยาวและด้านกว้างไม่ต่างกันมากนัก ตัวห้องเป็นโครงสร้างก่ออิฐฉาบปูน ซึ่งไม่ค่อยจะได้เห็นกันนักในช่วงหลังๆมานี้ ส่วนใหญ่สมัยนี้เขานิยมใช้เป็นโครงการ Precast กันหมดแล้ว ซึ่งแบบก่ออิฐฉาบปูนจะมีข้อได้เปรียบตรงที่สามารถทุบ เจาะ ต่อเติมได้ นอกจากนั้นยังมีคุณสมบัติไม่อมความร้อนเท่าผนัง Precast ที่เป็นคอนกรีตทั้งแผ่น ภายในห้องจึงจะเย็นมากกว่านะ ลักษณะพื้นที่ภายในห้องออกแบบมาแบ่งจัดสัดส่วนชัดเจนดี ให้มาแบบ Fully Furnished ซึ่งเป็นเฟอร์นิเจอร์ Built-in ที่มีฟังค์ชั่นในการใช้พื้นที่เล็กๆได้คุ้มค่า เช่นโต๊ะกินข้าวที่เป็นลิ้นชักจากเคาน์เตอร์ครัว หรือที่เก็บของใต้เตียง และส่วนอื่นๆอีกมากมาย พื้นที่ภายในแยกส่วนพื้นที่ Common Area และ Living Area ชัดเจน ขอแบ่งพื้นภายในออกเป็น 5 ส่วน
เมื่อเปิดประตูเข้าไปภายในห้อง จะพบกับส่วนครัวก่อนเลย ซึ่งจะได้มาเป็นครัวเปิด ไม่มีฉากกั้นให้นะ อาจจะต้องระวังเรื่องกลิ่นและควันที่จะไปรบกวนส่วนต่างๆของห้องบ้างนะ แต่ไม่ได้มีเตาและเครื่องดูดควันมาให้นะครับ ฝั่งตรงข้ามเป็นห้องน้ำหนึ่งเดียวของห้อง มีตำแหน่งอยู่ข้างในห้อง เข้าถึงง่าย แต่ระบายอากาศยากสักหน่อย ต้องเปิดประตูและใช้พัดลมดูดอากาศช่วย เข้าไปต่อในส่วนด้านในจะเป็นห้องนั่งเล่น ติดกับระเบียง จึงเป็นช่องแสงหลักให้กับห้อง ภายนอกระเบียงมีพื้นที่พอสมควร เป็นทั้งที่แขวน Condensing Unit และวางเครื่องซักผ้าที่ด้านใต้ นอกจากนั้นยังมีพื้นที่สำหรับตากผ้า และยืนสูดอากาศได้ ด้านข้างมีห้องนอนของห้องนี้ ขนาดใหญ่พอสมควร วางเตียงขนาด 5 ฟุตและมีพื้นที่โดยรอบเตียงเหลือวางโต๊ะหัวเตียงได้ มีช่องแสงที่ริมหน้าต่าง ได้วิว เปิดรับลมระบายอากาศ อีกฝั่งด้านในตัวห้องมีพื้นที่สำหรับวางโต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้าให้ แต่จะเข้าห้องน้ำต้องเดินออกไปด้านนอก อาจจะเสียความเป็นส่วนตัวและความสะดวกไปบ้างนะครับ
ประตูเข้าห้องเป็นประตูไม้สำเร็จรูปสีขาว พร้อมก้านโยกสแตนเลสครับ ที่พื้นที่ขอบไม้ยกขึ้น ทำให้ป้องกันสิ่งสกปรกจากโถงทางเดินเข้าไปภายในห้องครับ
เมื่อเปิดประตูมาจะพบกับห้องครัวก่อนทางฝั่งซ้ายมือ ภายในห้องมีระดับพื้นถึงฝ้า 2.4 เมตร พื้นปิดผิวด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ ผนังเป็นฉาบเรียบทาสีพร้อมบัวเชิงผนัง ห้องจัดมาให้แบบ Fully Furnished ได้เฟอร์นิเจอร์ที่ถูกออกแบบมาให้เข้ากับพื้นที่ห้อง มีรูปแบบสีสันที่เข้ากันกับตัวห้อง ดูดีทีเดียว
ฝั่งหน้าประตูมีทั้ง Pantry ที่ทางโครงการจัดมาให้ และอีกฝั่งเป็นห้องน้ำ ซึ่งจัดว่าเข้าถึงได้ง่าย แต่บริเวณหน้าประตูไม่มีพื้นที่สำหรับวางรองเท้า ทำให้อาจจะต้องหามาวางกันเอาเองนะ ไปดูรายละเอียดของ Pantry กันก่อน
ห้องครัวจะได้มาเป็น Pantry แบบเปิด ต้องระวังกลิ่นและควันไปรบกวนส่วนอื่นด้วยนะ Pantry ที่ทางโครงการให้มามี 3 ส่วน ด้านบน เคาน์เตอร์กลาง และส่วนตู้บานด้านล่าง พร้อมเว้นที่วางทีวีข้างๆไว้ให้ด้วยครับ ไปดูรายละเอียดแต่ละส่วนกันเลยครับ
ด้านบนสุดเป็นหน้าบานเปิดสำหรับเก็บของ มีหลายช่องเลยทีเดียว หน้าบานวัสดุเป็นเมลามีนไม่ได้เป็น solf-close นะครับ จะปิดก็ต้องระวังนิดนึง
เคาน์เตอร์ครัวให้มาเป็นแนวยาวปิดผิวด้วยหินแกรนิต มีอ่างล้างหน้า พื้นที่ทำครัว ไม่ได้มี Hob & Hood มาให้ ด้านในมี Backsplash เป็นกระเบื้องให้ ทำความสะอาดง่าย
อ่างล้างหน้าเป็นสแตนเลสหลุมเดี่ยว อยู่ที่มุมเคาน์เตอร์ ไม่ต้องกลัวน้ำจะกระเด็นไปเลอะส่วนอื่นมาก ใช้งานสะดวก
ส่วนชั้นล่างมีตู้บานเปิด 3 ส่วน ส่วนใต้อ่างเป็นพื้นที่กว้าง สำหรับเก็บของขนาดใหญ่ได้ ส่วนตรงกลางเป็นลิ้นชักไว้แยกเก็บของแต่ละประเภท ส่วนด้านขวาเป็นโต๊ะรับประทานอาหารสำหรับ 2 คน พับเก็บข้างในได้
โต๊ะทานข้าวเป็นแบบสไลด์เปิดล้อจะถูกเลื่อนตามโต๊ะสไลด์เข้าไปหลบอยู่ใต้เคาน์เตอร์ครับ ทำให้ได้พื้นที่หน้าเคาน์เตอร์สำหรับเดินเข้าออกมากยิ่งขึ้น
ฝ้าเพดานจุดนี้เป็นแบบฉาบเรียบทาสี พร้อมไฟ Downlight 1 ดวง
ฝั่งตรงข้ามพื้นที่ครัวคือห้องน้ำหนึ่งเดียวของห้องนี้ เป็นห้องตอนลึกลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า จัดสัดส่วนแห้งเปียกมาให้ดีทีเดียว
พื้นที่ภายในกว้างพอสมควร ใช้งานได้สะดวกสบาย มีการเรียงลำดับ อ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์ และส่วนอาบน้ำตามลำดับ ส่วนอาบน้ำมีฉากกั้นอาบน้ำให้ แบ่งส่วนชัดเจนดีครับ
อ่างล้างหน้ายี่ห้อ Charmer เป็นอ่างอะคริลิคแบบแขวนลอย มาพร้อมกระจกเงา 4 เหลี่ยมผืนผ้าแนวตั้งขนาดประมาณ 1.20 x 0.70 เมตร
อ่างล้างหน้ามีพื้นที่วางของโดยรอบ แต่หลักๆแล้วคงวางด้านบนและฝั่งชิดผนัง วางได้เยอะอยู่เหมือนกันครับ
โถสุขภัณฑ์ของ American Standard แบบ 2 ชิ้น มาพร้อมสายชำระและที่ใส่กระดาษชำระ ติดตั้งในตำแหน่งที่เหมาะสม พร้อมใช้งานครับ
สายชำระและที่ใส่กระดาษชำระจาก American Standard เป็นพลาสติก และเซรามิคสีขาว ให้มาเข้ากับรายละเอียดต่างๆภายในห้องน้ำ
ด้านข้างมีช่องสำหรับเก็บของและอุปกรณ์ต่างๆภายในห้องน้ำ เช่นอุปกรณ์ทำความสะอาด
ส่วนอาบน้ำมีการยกขอบขึ้นมาประมาณ 6 เซนติเมตร กั้นแบ่งส่วนด้วยฉากกั้นอาบน้ำแบบบานสไลด์ เพื่อให้น้ำไม่กระเด็นออกมาเลอะส่วนอื่นๆ ฉากกั้นลักษณะนี้จะมีส่วนที่ทำความสะอาดได้ยากหลายส่วน เก็บสะสมเชื้อโรคได้ง่าย และอายุในการใช้งานอาจจะไม่มากนัก ต้องหมั่นทำความสะอาด และดูแลบ่อยๆนะครับ
ฉากกั้นมีที่จับชัดเจน ใช้งานสะดวก
พื้นที่อาบน้ำขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ เพียงพอต่อการใช้งาน 1 คนสบายๆครับ มีจุดระบายน้ำที่มุม
ส่วนอาบน้ำเป็นแบบ Hand Shower จาก Hafele พร้อมที่วางสบู่ ติดตั้งไว้ให้ ปัจจุบันมีแพคเกจโปรโมชั่นช่วงเดือน ก.พ. – มี.ค. ปี 2562 นะครับ ให้เครื่องทำน้ำอุ่นมาด้วย พร้อมใช้งาน
ขนาด Hand Shower พอดีมือ ปรับรูปแบบการไหลของน้ำได้หลากหลาย แล้วแต่ความชอบ
ฝ้าเพดานเป็นแบบฉาบเรียบทาสี พร้อมไฟ Downlight 2 ดวง มีพัดลมดูดอากาศให้ด้วย
ออกจากห้องน้ำมาดูส่วนอื่นกันต่อ ส่วนต่อไปเป็นส่วนสุดท้ายของพื้นที่ Common Area ด้านในสุด คือพื้นที่นั่งเล่นครับ มีตำแหน่งติดระเบียง ทำให้ได้ช่องแสงขนาดใหญ่ เป็นช่องแสงหลักให้กับตัวห้อง
มีระยะดูทีวีอยู่ที่ประมาณ 2.5 เมตร ควรใช้ทีวีตั้งแต่ขนาด 32 – 55 นิ้ว ระยะกำลังดูสบายครับ พื้นที่ขนาดไม่ใหญ่มากนัก วางโซฟาขนาด 2-3 คน มาให้พร้อมกับชั้นวางทีวี
โซฟาที่ได้มาจะเป็นโซฟาขนาดเล็กสำหรับ 2 ที่นั่ง มีรูปแบบและสีสันเข้ากับส่วนอื่นๆของห้องครับ ไม่โดดหนีกันมากนัก
ส่วนชั้นวางทีวี ก็ให้มา 3 ส่วน บน กลาง ล่าง ส่วนบนจะเป็นบนเปิดขึ้น ไม่มีโช๊คให้นะ ทำให้ไม่สามารถเปิดค้างได้ ต้องเอามือนึงจับไว้ ก็เรียบร้อยดี ส่วนช่วงกลางเป็นช่องเก็บของไม่มีหน้าบาน ด้านล่างเป็นลิ้นชักสำหรับใส่อุปกรณ์ต่างๆ ตัวเคาน์เตอร์ยกสูงจากพื้น เพื่อกันความชื้นและง่ายต่อการทำความสะอาด
ส่วนนี้เป็นฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสีเช่นกัน พร้อมไฟ Downlight 2 ดวง
ด้านในสุดเป็นประตูบานสไลด์ที่ไปเชื่อมต่อกับส่วนระเบียง เป็นกระจกใสรับแสงได้เยอะทีเดียวไปดูด้านนอกกันครับ
ที่ด้านล่างพื้นมีขอบยกสูงขึ้นประมาณ 10 เซนติเมตร เพื่อกันน้ำและสิ่งสกปรกเข้ามาภายในห้อง
พื้นที่นอกระเบียงมีขนาดไม่กำลังพอดี ด้านบนแขวน Condensing Unit ด้านล่างวางเครื่องซักผ้า ส่วนพื้นที่ที่เหลือก็สามารถออกไปยืนพร้อมตะกร้าผ้าได้ เข้าออกหมุนตัวสะดวก ไม่แคบจนเกินไปครับ
ด้านบนแขวน Condensing Unit 2 ตัว ผ้าเป็นดานฉาบเรียบทาสี ให้ไฟกิ่งมา 1 ดวง
กลับเข้ามาภายในห้อง ไปดูพื้นที่ Living Area กันต่อเลยครับ
ห้องนอนหนึ่งเดียวของห้อง เขาจัดพื้นที่มาให้เยอะพอสมควรเลยนะ วางเตียง 5 ฟุตแล้วยังเหลือพื้นที่เดินได้รอบ ไม่แคบจนเกินไป ที่ิริมผนังมีช่องแสงมาให้ 4 บาน เป็นบาน Fixed 2 และบานกระทุ้ง 2 สำหรับเปิดรับลม ระบายอากาศภายในห้อง
ที่ปลายเตียงสามารถติดทีวีแบบแขวนได้ เดินสายมาไว้ให้เรียบร้อย ยังเหลือพื้นที่พอให้เดินไปมา ตัวโครงการให้ชั้นวางทีวีมา ทั้งชั้นวางของด้านบน และชั้นใต้ทีวี
พื้นที่ปลายเตียงยังเหลือให้เดินได้อยู่นะ อาจจะต้องเอียงเล็กน้อย แต่ก็ยังไม่ชิดจนเกินไป
ที่ด้านในห้องมีช่องแสงอย่างที่บอกไป 4 บาน เป็นบาน Fixed 2 บานด้านล่าง และบานกระทุ้งใหญ่ 2 บานด้านบน ช่วยระบายอากาศ รับลมภายในห้อง
พื้นที่ด้านข้างนี้ก็ถือว่าเหลือเยอะนะ วางโต๊ะหัวเตียงสบายๆ มายืน มานั่งบริเวณนี้ได้
มองย้อนกลับไปทางฝั่งประตูเข้าห้อง มีตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้ง Built-in เข้ามาให้พร้อมเรียบร้อยเลย
พื้นที่บริเวณด้านนี้กว้างพอสมควร วางโต๊ะหัวเตียงแล้วก็ยังสามารถใช้งานตู้เสื้อผ้าได้
ใต้เตียงเป็นลิ้นชักเก็บของ ที่ทางโครงการออกแบบเฟอร์นิเจอร์มาให้ ถือว่าใช้พื้นที่ได้คุ้มค่านะ
ตู้เสื้อผ้าถือว่าดีที่ออกแบบเป็นบานสไลด์มาให้ อาจจะเปิดได้ทีละฝั่งก็จริง แต่ช่วยประหยัดพื้นที่หน้าตู้ไปได้เยอะ เหมาะกับห้องที่มีขนาดพื้นที่ไม่ใหญ่มาก เน้นการใช้งานที่คุ้มค่า ภายในตู้แบ่งออกเป็นซ้ายกับขวา ลักษณะพื้นที่ภายในไม่เหมือนกัน ฝั่งซ้ายด้านบนเป็นช่องใหญ่รวมกันทั้งซ้ายและขวาสำหรับเก็บของขนาดใหญ่ พวกกระเป๋าเดินทาง ส่วนกลางเป็นราวแขวนเสื้อ ที่เชื่อมต่อกันกับด้านขวา ส่วนด้านล่างจะมีลิ้นชักสำหรับแยกเก็บของแต่ละประเภท ฝั่งขวาคล้ายกับฝั่งซ้าย เพียงแต่ด้านล่างจะโล่ง เก็บรองเท้า หรือกระเป๋าได้เพิ่ม
มีไฟภายในตู้ด้วย เป็นระบบถ้าเปิดตู้ไฟก็จะติดให้เอง ที่หน้าบานมีที่จัดให้ขนาดไม่ใหญ่มากนัก ไม่ต้องกังวลว่าจะไปเกี่ยวหรือไปโดน แต่ใช้งานได้ดี ถนัดมือ
โต๊ะเครื่องแป้งอยู่หลังประตู ขนาดกำลังดีสำหรับสาวๆ มาพร้อมลิ้นชัก 2 ตัว ตอนใช้งานควรล็อคประตูห้องไว้ด้วยนะครับ ต้องระวังในกระณีที่นั่งใช้งานโต๊ะเครื่องแป้งอยู่แล้วมีคนเปิดประตูเข้ามา จะกระแทกเอาได้
ฝ้าเพดานเป็นแบบฉาบเรียบทาสี พร้อมไฟ Downligh 2 ดวงครับ ปัจจุบันมีแพคเกจโปรโมชั่นช่วงเดือน ก.พ. – มี.ค. ปี 2562 นะครับ ให้เครื่องปรับอากาศมาด้วย พร้อมใช้งาน
มาดูห้องที่ 2 กันครับ เป็นอีกห้องที่มีจำนวนมากที่สุดรองจาก Type A เมื่อสักครู่ นั่นก็คือห้อง 1 Bedroom Type B ขนาด 28-30 ตร.ม. พื้นที่ภายในมีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าตอนยาว หน้าไม่กว้างนัก ประมาณ 3.5 เมตร ห้องลักษณะนี้จะอยู่ทางทิศใต้ จำนวน 5 ห้อง / ชั้น และทิศเหนือฝั่งหันหน้าไปทิศตะวันออก 2 ห้อง / ชั้นห้องตอนลึกจะเน้นพื้นที่ภายในห้อง รับความร้อนน้อย ซึ่งก็เหมาะที่จะอยู่ทางฝั่งทิศใต้ ภายในแบ่งพื้นที่ชัดเจน แยกออกเป็น 5 ส่วน
เปิดประตูเข้ามาจะเป็นส่วนครัวเปิดและห้องน้ำประกบซ้ายขวาเหมือนกับห้องที่แล้ว ซึ่งจะให้มาทั้งเซทแบบเดียวกันเช่นเดิม ส่วนต่อไปภายในห้องจะเป็นห้องนั่งเล่นที่มีพื้นที่รับประทานอาหารอยู่ข้างๆส่วน Pantry ครัว พื้นที่ห้องนั่งเล่นส่วนนี้จะแตกต่างจากของห้องที่แล้ว ตรงที่เข้ามุม ไม่ต้องมีทางเดินตัดผ่าน จะได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่า (ห้องที่แล้วต้องเดินผ่านห้องนั่งเล่นเพื่อไปยังพื้นที่ระเบียงซักล้าง) ส่วนต่อไปเป็นห้องนอน ซึ่งจะถูกแบ่งกั้นด้วย Partition ที่มี กระจก บาน Fixed และประตูกระจก เพื่อให้แสงจากริมผนังด้านในห้องนอน เข้ามาสู่พื้นที่ภายในห้องได้ด้วย เมื่อเข้าไปยังห้องนอนจะมีพื้นที่กำลังพอดีนะ วางเตียง 5 ฟุตแล้วเดินได้รอบ ด้านในห้องมีตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งจัดมาให้ ผนังเป็นบาน Fixed และบานกระทุ้งแบบเดิม สำหรับระบายอากาศและรับแสงสู่ตัวห้อง ด้านข้างมีพื้นที่ระเบียงขนาดเล็ก สำหรับวาง Condensing Unit และ เครื่องซักผ้า แต่จะมีพื้นที่เหลือค่อนข้างน้อยนะ
ที่พื้นที่ขอบไม้ยกสูงขึ้นมาเช่นเดิม เพื่อป้องกันฝุ่นจากโถงทางเดินเข้าไปในห้องครับ
เปิดประตูเข้ามาภายในห้องจะพบส่วนด้านหน้าเป็นลักษณะเดียวกันกับห้องนั้นเลยครับ คือจะมี Pantry มาให้ ตรงข้ามกันกับห้องน้ำ มีลักษณะเรียกว่าเหมือนกันทุกอย่างเลยก็ว่าได้
ประตูห้อง HDF ขนาด 0.9 x 2.00 เมตร เปิดเข้ามาเจอส่วนของครัวและห้องน้ำเหมือนกับของห้องก่อนหน้านี้ บริเวณนหน้าประตูไม่มีพื้นที่ไว้สำหรับวางรองเท้า อาจจะต้องร่นเข้ามาใช้พื้นที่ภายในของห้อง เพื่อวางชั้นรองเท้าต่างๆ อาจจะต้องระวังเรื่องความสกปรกด้วยนะครับ
พื้นที่ครัวเป็นลักษณะเดียวกันกับห้องก่อนหน้านี้ครับ แต่ไม่มีโต๊ะที่อยู่ใต้เคาน์เตอร์ให้แล้ว หน้าบานต่างๆเป็นเมลามีนทั้งหมด มี 3 ระดับ ด้านบน เคาน์เตอร์กลาง และบานเปิดและลิ้นชักด้านล่าง
หน้าบานด้านบนเปิดได้แบบเดิมครับ มีช่องเก็บของภายในค่อนข้างเยอะ เป็นชุดเดียวกันกับห้องก่อนหน้านี้
เคาน์เตอร์กลาง top หินแกรนิต ขนาดเล็กลง เพราะไม่มีโต๊ะทานข้าวที่ให้มากับเคาน์เตอร์แล้ว แต่ก็มีขนาดเพียงพอต่อการใช้งาน ไปเน้นเป็นพื้นที่ภายในห้องซะมากกว่า
พื้นที่ด้านล่างจะเหลือแค่พื้นที่ใต้อ่าง และลิ้นชักเก็บของเท่านั้น แต่ครัวแบบไม่ได้มี Hod & Hood มาให้ ถ้าใครไม่ได้ทำอาหารอะไรจริงจังมากนัก ก็ถือว่าช่องเก็บของให้มาเพียงพอนะ
ส่วนนี้ให้ฝ้าเพดานแบบฉาบเรียบและไฟ Downlight 1 ดวง
ส่วนต่อมาคือห้องน้ำครับ เป็นห้องลักษณะแตกต่างจากห้องก่อนหน้านี้ แต่อุปกรณ์ภายในหน้าตาเหมือนกันนะ เพราะประตูเข้าอยู่กลางห้องน้ำ ขณะที่เปิดประตูอาจจะดูพื้นที่ภายในอึดอัดไปซะหน่อย แต่พอปิดประตูก็ใช้งานได้สะดวกเป็นปกติครับ
อ่างล้างหน้าอะคริลิค มีพื้นที่วางของด้านข้างตลอดแนว มาพร้อมกระจกเงาขนาดใหญ่ทีเดียว
โถสุขภัณฑ์ American Standard มาพร้อมสายชำระและที่ใส่กระดาษชำระติดตั้งพร้อมใช้งาน ด้านหลังเป็นผนังปูกระเบื้องโมเสกให้ด้วย
พื้นที่อาบน้ำขนาดกำลังดี มีฉากกั้นอาบน้ำให้พร้อม ที่พื้นที่ขอบยกขึ้นประมาณ 6 เซนติเมตร กันน้ำออกมาเลอะพื้นที่ภายนอก
Hand Shower จาก Hafele มาพร้อมที่วางสบู่ และเครื่องทำน้ำอุ่น (โปรโมชั่น)
ฝ้าเพดานเป็นฉาบเรียบทาสี พร้อมไฟ Downlight 2 ดวง กับพัดลมดูดอากาศ 1 ตัว
ส่วนต่อมาคือพื้นที่ของห้องนั่งเล่น รวมถึงมีพื้นที่รับประทานอาหารในนั้นด้วย พื้นที่ส่วนนี้ถือว่าจะมาเป็น 2 ฝั่ง มีทางเดินเข้าห้องนอนตัดผ่านตรงกลาง ข้อดีคือส่วนของพื้นที่นั่งเล่น ดูทีวีจะไม่ถูกรบกวน ไม่โดนเดินตัด ถูกจัดเข้ามุมเป็นสัดส่วน และพื้นที่รับประทานอาหารก็มีขนาดใหญ่กว่าของห้องที่แล้ว จะเติมโต๊ะอีกตัวที่อีกฝั่งของโต๊ะ หรือจะดึงออกมาจากผนังแล้วนั่ง 4 ฝั่ง ก็สามารถครับ
พื้นที่ห้องนั่งเล่นเป็นสัดส่วน ไม่ถูกรบกวน ภายในมีขนาดไม่มากนัก วางโซฟาขนาด 2 ที่นั่ง ได้ ต่ออีกตัวที่ฝั่งด้านนอกนี้ได้ด้วยนะ
ระยะดูทีวีอยู่ที่ประมาณ 2.3 เมตร เหมาะกับทีวีขนาด 35-45 นิ้วครับ
พื้นที่นั่งเล่นมีชั้นดูทีวีให้มาด้วย ลักษณะเหมือนเดิมเลยครับ มี 3 ช่วง บน กลาง ล่าง เป็นบานปิด และช่องเก็บของ เลือกใส่ของได้หลายอย่างเลยทีเดียว
ฝ้าเพดานส่วนนี้เป็นแบบฉาบเรียบทาสี พร้อมไฟ Downlight 2 ดวง
ฝั่งตรงข้ามเป็นพื้นที่รับประทานอาหาร ซึ่งมีพื้นที่กว้างและค่อนข้างหลากหลาย สามารถจัดได้หลายรูปแบบ ปรับเปลี่ยนได้
ไปสู่ส่วนต่อไปคือห้องนอนครับ เป็นห้องริมอาคาร ทำให้มีช่องแสง ซึ่งจะถูกส่งต่อผ่านมาทางด้านในนี้ด้วยเช่นกัน ผ่านกระจกและประตูใส ที่ออกแบบไว้ให้สำหรับรับแสงเข้ามาในจุดนี้อยู่แล้ว
ภายในห้องนอนเป็นห้องขนาดวางเตียง 5 ฟุต มีพื้นที่รอบเตียงเดินได้สะดวก ฟังค์ชั่นในห้องให้มาครบสำหรับห้องนอน มีพื้นที่ตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้ง และสามารถออกระเบียงได้ ไปดูกัน
พื้นที่ภายในห้องค่อนข้างเยอะ มีพื้นที่ข้างเตียงวางโต๊ะหัวเตียงได้ เข้าออกสะดวก พร้อมทั้งมีโต๊ะเครื่องแป้งให้ด้วย สามารถใช้งานได้สะดวกนะ พื้นที่เยอะทีเดียว หรือจะวางเป็นโต๊ะใหญ่ ไม่เอาโต๊ะหัวเตียงก็ได้นะ
พื้นที่ปลายเตียงสามารถติดทีวีแขวนผนังได้ มีชั้นวางทีวีมาให้ด้วย ซึ่งถ้าหากติดทีวีที่ผนังจะได้ชั้นวางทีวีไว้วางของมากขึ้น แต่มีข้องเสียที่ ผนังทำให้กำจัดขนาดทีวี เลือกทีวีขนาดใหญ่มากไม่ได้ แค่นั้นเองครับ
ส่วนอีกฝั่งก็สามารถวางโต๊ะหัวเตียงได้เช่นกัน มีสวิทช์ไฟไว้ให้สำหรับชาจแบทด้วยนะ หรือจะยืนดูวิวก็สามารถนะ
ส่วนต่อไปคือฝั่งริมผนัง ซึ่งเป็นช่องแสงหลักของห้องครับ สามารถส่องเข้าไปยังพื้นที่ภายในของห้องได้ นอกจากนั้นยังมีส่วนของระเบียงอยู่ภายในห้องนี้ด้วย
พื้นที่ระเบียงเป็นบานกระจกสไลด์ข้างครับ เข้าออกได้สะดวกนะ
มีบานล็อค และที่พื้นมีขอบยกสูงขึ้นประมาณ 10 เซนติเมตร ช่วยกันน้ำและฝุ่นไม่ให้เข้าห้อง
พื้นที่ระเบียงเป็นพื้นที่แขวน condensing unit ด้านบน ส่วนด้านล่างเป็นพื้นที่วางเครื่องซักผ้า ซึ่งถ้าผมจะติดก็คงติดที่การซักผ้า อย่างแรกคือเสียงของเครื่องซักผ้า ซึ่งอาจจะรบกวนพื้นที่ห้องนอน และต้องแบกผ้าเข้าออกผ่านห้องนอน อาจจะเสียความเป็นส่วนตัวไปบ้าง
ด้านบนเป็นพื้นที่แขวน Condensing Unit 2 ชั้น พร้อมไฟโคมติดผนังมาให้ครับ
มองย้อนกลับเข้ามาภายในห้อง จะมีส่วนของตู้เสื้อผ้าที่เรายังไม่ได้พูดถึง และกระจกบานใหญ่ที่ทำหน้าที่ส่องแสงธรรมชาติเข้าไปภายในตัวห้อง
ตู้เสื้อผ้าเป็นตู้บานสไลด์ข้าง ช่วยประหยัดพื้นที่หน้าตู้ แต่จะเปิดได้แค่ทีละบานนะ
ข้างๆคือหน้าต่างขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อพื้นที่ห้องนอนกับห้องนั่งเล่น ด้านบนมีพื้นที่สำหรับติดม่านได้ด้วย เพื่อแบ่งพื้นที่ความเป็นส่วนตัว โต๊ะเครื่องแป้งด้านข้างก็ให้มาด้วย ซึ่งจริงๆมีพื้นที่สำหรับขยับขยายให้เป็นโต๊ะใหญ่ได้นะ เผื่อจะใช้นั่งทำงาน อ่านหนังสือด้วย
ภายในห้องนอนให้ฝ้าเพดานมาแบบฉาบเรียบทาสี พร้อมไฟ Downlight 2 ดวงครับ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 13 February 2019
- ห้อง 1 Bedroom ทิศตะวันตก ขนาด 28.21 ตร.ม. ชั้น 15 ห้อง 1503 ราคา 2.59 ล้านบาท
- ห้อง 1 Bedroom ทิศตะวันตก ขนาด 28.16 ตร.ม. ชั้น 18 ห้อง 1806 ราคา 2.65 ล้านบาท
- Fully Furnished
- ฝ้าเพดานสูง 2.4 เมตร
- Kitchen & Sink
- จอง 5,000 บาท
- ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
- ค่าส่วนกลาง 32 บาท/ตร.ม./เดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ
ทำเล – สำหรับทำเลของโครงการอยู่บนถนนใหญ่ ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับถนนอื่นๆในระแวกนี้ได้ค่อนข้างเยอะ เดินทางได้หลากหลาย และมีความอุดมสมบูรณ์สูงทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน ตั้งแต่อาหารตามตึกแถว แผงลอยต่างๆ ไปจนถึงห้างสรรพสินค้า Gateway หรือจะออกไปวงนอกฝั่งลาดพร้าว หรือไปทางจรัญฯก็ถือว่าไม่ได้ไกลจนเกินไป เดินทางสะดวก นอกจากนั้นทำเลนี้ยังเรียกได้ว่ามีข้อได้เปรียบหลักๆในเรื่องของการเดินทาง เพราะอยู่ห่างจาก MRT เตาปูน เพียง 120 เมตร เป็นสถานี Interchange ไปได้หลากหลายเลยทีเดียว ยิ่งไปกว่านั้นยังมีการเดินทางอีกรูปแบบที่ไม่ได้จะมีกันบ่อยนัก คือการเดินทางด้วยเรือ ท่าเรือบางโพห่างจากโครงการเพียง 1 กิโลเมตร นั่งวินไป 20 บาท ก็สามารถขึ้นเรือได้แล้ว เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการเดินทาง ซึ่งอย่าลืมว่าการสัญจรทางนี้ ไม่ติดเหมือนรถ ค่อนข้างที่จะควบคุมเวลาได้ และมีจุดสำคัญๆหลายจุดของกรุงเทพฯ ที่สามารถไปถึงได้ทางเรือ
การเดินทางโดยใช้รถ – ติดถนนใหญ่ทำให้เดินทางได้สะดวก เข้าออกได้ง่าย และเป็นจุดสังเกต จะบอกทางใครก็ไม่ใช่เรื่องยาก ตัวโครงการตั้งอยู่บนถนนประชาราษฎร์สาย 2 ซึ่งเป็นถนนที่เชื่อมต่อกับถนนหลายๆสายบริเวณนี้ ไม่ว่าจะเป็น ถนนกรุงเทพฯ-นนทบุรี ถนนประชาราษฎร์สาย 1 ถนนเทอดดำริ ถนนประชาชื่น ซึ่งสามารถเชื่อมต่อไปยังถนนสายอื่นๆ ได้อีกมากมาย ทำให้มีตัวเลือกในการใช้เข้าถึงโครงการได้หลายทาง ซอยสะพานขาว ที่อยู่ข้างโครงการสามารถไปทะลุออกถนนประชาราษฎร์สาย 1 ได้ ฝั่งด้านหน้าโครงการจะมีจุดกลับรถที่ไม่ไกลจากโครงการนัก ทั้งฝั่งมาจากทางบางโพ และจะกลับรถเข้าเมือง ภายในโครงการให้ที่จอดรถมา 40% ไม่รวมซ้อนคัน ซึ่งอาจจะดูน้อย แต่ทำเลที่่ตั้งโครงการติด MRT เตาปูน อิงการเดินทางสาธารณะเป็นหลัก ทำให้มีลูกบ้านภายในที่ไม่ค่อยมีรถส่วนตัวกัน และจากที่ผมได้มีโอกาสเดินเข้าไปสำรวจและสอบถามมา ที่จอดรถเท่านี้ถือว่าเพียงพอสำหรับโครงการนี้ครับ มีให้ใช้ตลอด
การเดินทางโดยไม่ใช้รถ – เรียกได้ว่าเป็นจุดเด่นของโครงการ เพราะทำเลที่ตั้งห่างจาก MRT เตาปูนเพียง 120 เมตร เดินไม่ถึงสองนาทีก็ถึง เป็นสถานี Interchange สายต่อเติมมาจากสถานีบางซื่อ Interchange จุดเชื่อมกันระหว่างรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่วิ่งมาจากบางใหญ่ กับ สายสีน้ำเงินที่วิ่งมาจากจรัญฯ ทำให้เราสามารถเลือกเดินทางได้หลากหลาย นอกจากนั้นการอยู่ติดถนนใหญ่ทำให้สามารถใช้งานรถสาธารณะอื่นๆได้ง่าย เช่น มีวินมอเตอร์ไซค์ประกบที่ซ้ายและขวาของโครงการ หน้าโครงการมีป้ายรถประจำทาง รวมถึงสะพานลอยที่ข้ามไปใช้ฝั่งตรงข้ามได้ แท็กซี่มีวิ่งผ่านไปมาตลอด และสุดท้ายมีท่าเรือบางโพห่างออกไปประมาณ 1 กิโลเมตร ให้เป็นอีกตัวเลือกในการเดินทางครับ
วัสดุ – ตัวโครงสร้างเป็นก่ออิฐฉาบปูน ซึ่งจะอมความร้อนน้อยกว่าโครงสร้าง Pre-cast เป็นห้องที่ขายแบบ Fully Furnished ได้เฟอร์นิเจอร์ Built-in มาให้ ซึ่งก็ถูกออกแบบมาให้ใช้กับพื้นที่ภายในห้อง อาทิเช่น โต๊ะรับประทานอาหารที่สไลด์เก็บใต้เคาน์เตอร์ครัวได้ เตียงที่มีที่เก็บของด้านใต้ ชั้นวางทีวีพอดีขนาดพื้นที่ ตู้เสื้อผ้าบานสไลด์ข้างที่ช่วยประหยัดพื้นที่หน้าตู้ โต๊ะเครื่องแป้งพอดีกับพื้นที่ ก็ถือว่าคิดและออกแบบมาแล้วให้ใช้ในพื้นที่จำกัดได้คุ้มค่าที่สุด ส่วนภายในห้องวัสดุที่ได้มาก็จะค่อนข้างตามระดับราคา ภายในพื้นหลักๆเป็นพื้นกระเบื้องแกรนิตโต้ เฉพาะห้องนอนเป็นไม้ลามิเนต ส่วนห้องน้ำจะเป็นกระเบื้องเซรามิค ทั้งพื้นและผนัง มีกระเบื้องโมเสกมาผสมนิดหน่อย สุขภัณฑ์เป็นของ American Standard ได้ฉากกั้นอาบน้ำแบบสไลด์ข้าง และ Hand Shower ของ Hafele ภายในครัวเป็นครัวเปิด ไม่มีฉากกั้นให้ Top เคาน์เตอร์หินแกรนิต หน้าบานต่างๆ เป็นเมลามีน ถือว่ามาตราฐานทั่วๆไป
การออกแบบ – ตัวโครงการถือว่าวางผังมาได้ดี ที่ชั้น 1 มีการเข้าออกหลายทาง คำนึงถึงความสะดวกในการวนของรถ เนื่องจากเป็นโครงการใหญ่ก็ถือว่าสะดวก ส่วนร้านค้าให้มาเยอะดีช่วยอำนวยความสะดวกได้เยอะทีเดียว ตำแหน่งของร้านค้าคนนอกเข้าไปใช้งานไม่ได้ได้ความเป็นส่วนตัวดี Lobby ขนาดใหญ่ พร้อมแยกส่วนหลังบ้านออกไปชัดเจน พวก Mail Box, นิติบุคคล และห้องน้ำ ซึ่งช่วยให้ลูกบ้านได้ความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น ตัวโถงลิฟต์ได้ช่องแสงทุกชั้น โถงทางเดินมีช่องแสงให้ที่ปลายทั้ง 2 ฝั่ง ก็ช่วยให้ไม่ต้องใช้ไฟเยอะในช่วงกลางวัน ส่วนพื้นที่ส่วนกลางมีการเข้าออกและเวลาเปิด-ปิดที่แน่นอน แบ่งส่วนกับพื้นที่พักอาศัยชัดเจน เข้าถึงได้ด้วย Keycard ส่วนที่เป็นพื้นที่กลางแจ้งตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของโครงการ ทำให้ได้แนวอาคารฝั่งทิศใต้และทิศตะวันตกช่วยบังแดดให้ สามารถใช้งานได้เร็วขึ้น
การออกแบบห้องพักอาศัยทำได้ค่อนข้างดี มีห้องหลักๆ 2 แบบ แต่ก็มีรูปแบบอื่นเสริมตามแนวอาคาร แบบละไม่กี่ห้องต่อชั้น แต่ก็ถือว่ามีมาให้เลือกหลากหลาย ห้องหลักๆคือส่วนที่เราได้ไปดูกันมา มีการจัดพื้นที่ภายในได้ดีนะ เป็นสัดส่วน ได้ครัวเปิดแต่ไม่ได้มี Hob&Hood มาให้ เน้นทำอาหารเบาๆ ห้องน้ำก็มีตำแหน่งเข้าถึงได้ง่าย แต่การอยู่ภายในอาคารอาจจะต้องระวังเรื่องความชื้น และการระบายอากาศ ต้องพึ่งพัดลมดูดอากาศ หรือเปิดประตูช่วย พื้นที่ภายในส่วน Common Area ขนาดไม่ใหญ่มาก เหมาะกับการใช้งาน 1-2 คน ทั้งสองห้องมีการเน้นให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาด้านในได้ ส่วนห้องนอนจะมีการแยกส่วนชัดเจน และทั้งสองห้องจะได้แสงธรรมชาติเช่นกัน ภายในห้องจัดพื้นที่ไว้ลงตัวกับเฟอร์นิเจอร์ที่ออกแบบมา สามารถใช้งานได้ง่าย
สาธารณูปโภค – ขอพูดถึงส่วนชั้น 1 ก่อนนะ ด้านล่างนี้ให้ร้านค้ามาเยอะทีเดียวถึง 14 ยูนิตแต่ก็ไม่ได้มีเปิดตลอด ผลัดเปลี่ยนหน้ากันไป ซึ่งก็มีให้ก็ย่อมต้องดีกว่าไม่มี ทั้งร้านค้า ร้านกาแฟ ซักรีด ทำผมทำเล็บ ก็ช่วยอำนวยความสะดวกได้เยอะนะ ส่วนชั้น Main Facilities จริงๆ จะอยู่ที่ชั้น 5 ประกอบไปด้วย สระว่ายน้ำ ห้องฟิตเนต ห้องซาวน่า ห้องน้ำแยกชายหญิง ถ้าเทียบกับจำนวนยูนิต ก็ถือว่าจัดมาให้ไม่เยอะมาก แต่ก็ครบนะ เริ่มที่มีประตูกั้นแบ่งส่วนชัดเจน ส่วนแรกเป็นพื้นที่รับรอง สำหรับนั่งคอย หรืออ่านหนังสือทำงานก็ได้ เพื่อแบ่งไปยังส่วนอื่นๆต่อ ห้องน้ำแยกชายหญิง มีซาวน่าด้านใน ส่วนห้องออกกำลังกายได้ขนาดใหญ่พอสมควร รับวิวสระว่ายน้ำ และพื้นที่กลางแจ้งมีสระว่ายน้ำ และสวนรอบๆ ก็ได้แนวอาคารช่วยบังแดดช่วงบ่าย ใช้งานได้ดี รับวิวโล่ง อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการอยู่ที่ 245 : 1 ซึ่งถือว่าเยอะ ค่อนข้างหนาแน่นทีเดียว โดยรวมสภาพโครงการถือว่าดูดีนะ ไม่มีอะไรเสียหาย มีการจัดการค่อนข้างเรียบร้อยครับ
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับช่วงราคา AVG 97,000 บาท/ตร.ม., 13 February 2019
- ทำเล 8.25/10 – ใกล้รถไฟฟ้า และ Gateway บางซื่อ ของกินระยะเดินหาง่าย เดินทางสะดวก
- เดินทางด้วยรถ 8/10 – ติดถนนใหญ่ เข้าถึงได้หลายช่องทาง ใกล้จุดกลับรถ พื้นที่ภายในมีที่จอดรถเหลือให้ใช้แน่นอน
- ไม่ใช้รถ 8.5/10 – 120 เมตร จากสถานีเตาปูน Interchange ติดถนนใหญ่ หน้าโครงการมีป้ายรถเมล์ ห่างจากท่าเรือบางโพ 1 กม.
- วัสดุ 7.75/10 – Fully Furnished เฟอร์นิเจอร์ Built-in ที่ออกแบบมากับพื้นที่ภายในห้อง ส่วนอื่นๆ ตามมาตรฐาน
- แบบ 7.5/10 – มีแบบห้องให้เลือกหลายแบบ ตัวอาคารเข้าออกได้หลายทาง เน้นความสะดวก พื้นที่ส่วนกลางถูกแบ่งชัดเจน มีแนวอาคารบังแดดตอนบ่ายให้
- สาธารณูปโภค 7.25/10 – มีร้านค้าให้เยอะ พื้นที่ส่วนกลางดูแลดี แต่อาจจะน้อยไปหน่อยถ้าเทียบกับจำนวนยูนิต ลิฟต์ค่อนข้างหนาแน่น
- MAIN CLASS
- 8.00 / 10.00
BOTTOM LINE
The Rich Park 2 เตาปูน Interchange เป็นโครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่ ใกล้รถไฟฟ้า เหมาะสำหรับผู้อยู่อาศัยเดิมในพื้นที่บริเวณนี้หรือโซนนนทบุรี เดินทางสะดวก รวมถึงคนที่ทำงานบริเวณแถบบางซื่อ-เตาปูน-ประชาชื่น ห้อง 1 Bedroom อยู่ 1-2 คน มีงบประมาณประมาณ 2.5 – 4 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนที่ราวๆ 17,000 – 28,000 บาท