รีวิวโครงการ

คิด.เรื่อง.อยู่ Ep.657 – The Base เพชรบุรี – ทองหล่อ คอนโดแต่งครบ พร้อมอยู่จาก แสนสิริ

12 ตุลาคม 2022

อ่านรีวิวล่าสุด

The Base เพชรบุรี – ทองหล่อ จาก แสนสิริ คอนโด High Ries ที่อยู่ติดถนนเพชรบุรีตัดใหม่ เป็นคอนโดสร้างเสร็จพร้อมอยู่โครงการล่าสุดในทำเลนี้ ปัจจุบันราคาเริ่มต้นเพียง 3.29 ล้านบาท โดยมี Highlights ของโครงการ ดังนี้

  • ทำเล : เดินทางสะดวกติดถนนหลัก ฝั่งขาเข้าเมืองไปพร้อมพงษ์ อโศก ได้ง่าย และใกล้ซอยทองหล่อ มีตัวเลือกในการเดินทางไปใช้รถไฟฟ้าได้
  • การออกแบบ : ออกแบบสไตล์ Modern เรียบเท่ น่าอยู่อาศัย มีตัวเลือกห้องพักหลากหลายขนาด เน้นพื้นที่ใช้สอยอยู่สบาย ตอบโจทย์ทั้งอยู่อาศัยคนเดียว เป็นคู่ ไปจนถึงครอบครัวขนาดเล็ก
  • พื้นที่ส่วนกลาง : ออกแบบมาหลากหลายถึง 4 ชั้น เอาใจคนชอบใช้ส่วนกลางโดยเฉพาะ เน้นโซนพื้นที่ทำงานเหมาะกับคนที่ต้อง WFH ได้ความเป็นส่วนตัว ได้สวนสีเขียวทั้งชั้นบนและชั้นล่าง ได้วิวเมืองแบบมุมสูง

ข้อมูลโครงการ

THE BASE Phetchaburi – Thonglor (เดอะ เบส เพชรบุรี – ทองหล่อ) ณ วันที่ 9 มีนาคม 2565

 ชื่อโครงการ  THE BASE Phetchaburi – Thonglor (เดอะ เบส เพชรบุรี – ทองหล่อ)
 ชื่อผู้ประกอบการ  บริษัท สิริ สมาร์ท ทู จำกัด
 SEGMENT CLASS  UPPER CLASS (รายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2021 )
 โครงการตั้งอยู่  ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ เขตห้วยขวาง
 ที่ดิน  ประมาณ 2 ไร่
 ประเภทคอนโด  High Rise 36 ชั้น
 จำนวนยูนิต  498 ยูนิต
 ยูนิตต่อชั้นสูงสุด   17 ยูนิต
 ที่จอดรถ  218 คัน หรือคิดเป็น 44% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน)
 เริ่มก่อสร้าง  ปี 2563
 คาดว่าจะแล้วเสร็จ  ปี 2565
 ประเภทห้องพัก
  • 1 Bedroom ขนาด 27.25 – 29.25 ตร.ม.
  • 1 Bedroom ขนาด 31.75 – 40 ตร.ม.
  • 2 Bed 1 Bath ขนาด 45.75 ตร.ม.
  • 2 Bed 2 Bath ขนาด 61.25 ตร.ม

 ฝ้าเพดานสูง  2.6 เมตร
 ราคาเริ่มต้น  3.29 ล้านบาท (Promotion)
 ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ  ประมาณ 115,000 บาท/ตร.ม.
 ช่วงราคาต่อตารางเมตร(ต่ำสุด-สูงสุด)  n/a
 EIA (ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม)  สร้างเสร็จพร้อมอยู่เดือน พ.ค.
 เว็บไซต์โครงการ http://siri.ly/sqzbZ83
 Call Center  1685

ทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.745139, 100.582194

หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการ

“ถนนเพชรบุรีตัดใหม่” เป็นถนนคู่ขนานกับถนนเส้นหลักอย่าง ถนนสุขุมวิท ซึ่งมีรถไฟฟ้าสายสีเขียววิ่งผ่าน และมีความเจริญค่อนข้างมาก โดยถนนเพชรบุรีก็มีเส้นทางสามารถเชื่อมต่อกับถนนสุขุมวิทได้หลากหลาย ทั้งซอยเอกมัย – ทองหล่อ, ซอยเพชรบุรี 38 และถนนอโศกมนตรี ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นซอยที่เจริญและมีราคาที่ดินสูงทั้งสิ้น รวมถึงมีคอนโดระดับ Luxury มากมาย ที่สร้างขึ้นมาเพื่อตอบสนอง Lifestyle คนที่ต้องการใช้ชีวิตในเมือง และใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆอย่างแท้จริง แต่ถ้าเราลองขยับออกมาที่ถนนลูกพี่ลูกน้องอย่าง “ถนนเพชรบุรี” ก็ยังมีคอนโดที่ราคายังสามารถหยิบจับเป็นเจ้าของได้อยู่ ถึงแม้จะไม่ได้อยู่ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกในระยะเดินได้ง่าย แต่ก็สามารถเดินทางไปถึงได้ไม่ยากเลย

โครงการ The Base เพชรบุรี – ทองหล่อ ตั้งอยู่ติดถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ซึ่งจะอยู่เลยซอยทองหล่อมาหน่อยนึง และไม่ไกลจากทางด่วนฉลองรัช อีกทั้งยังเป็นฝั่งขาเข้าเมือง ซึ่งทำให้เราสามารถไปพร้อมพงษ์ อโศก และพญาไทได้ง่าย แต่ความอุดมสมบูรณ์ในระยะเดินจะไม่ค่อยมีมากนัก ส่วนใหญ่จะเป็นแนว Street food พวกร้านอาหารข้างทาง และร้านสะดวกซื้อก็มีพอสมควรนะ เพราะแถวๆนี้ก็มีอาคารสำนักงาน โรงงาน และโรงพยาบาลกรุงเทพตั้งอยู่ ซึ่งร้านค้าเหล่านี้ก็เป็นแหล่งพึ่งพิงให้กับคนที่ทำงานย่านนี้ แน่นอนว่ารวมถึงโครงการของเราก็ได้รับประโยชน์เช่นกัน

และเนื่องจากโครงการตั้งอยู่ติดริมถนนใหญ่ จึงทำให้สามารถเรียกรถสาธารณะ เช่น รถแท็กซี่ได้ง่าย ส่วนป้ายรถเมลล์ก็อาจต้องเดินต่อกันอีก 300 m. (เส้นสีแดง) แต่ถ้าเราเดินมาที่วินมอไซค์ตรงท้ายซอยทองหล่อ ระยะ 450 m. (เส้นสีเขียว) ก็จะสามารถนั่งวินมอไซค์นี้เพื่อไปขึ้น BTS ทองหล่อ ที่บริเวณปากซอยได้ หรือถ้าใครที่ต้องการเดินทางด้วยเรือโดยสาร ก็จะมีท่าเรือทองหล่ออยู่ในระยะ 550 m. (เส้นสีส้ม) สามารถนั่งไปประตูน้ำ – รามคำแหง – บางกะปิ ได้เลยนะ

ส่วนการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว จะมีทางด่วนฉลองรัชให้ใช้อยู่ใกล้ที่สุดโดยถ้าเราต้องการลงใต้ไปทางบางนา-ดาวคะนอง ก็สามารถมาขึ้นที่ด่านพัฒนาการ 1 ได้ ในระยะ 4.5 km. ได้ โดยจุดกลับรถอยู่หน้าโครงการ เลยไปแค่ 850 เมตร

แต่ถ้าเราต้องการขึ้นทางด่วนไปพระราม 9 – ลาดพร้าว – รามอินทรา ก็สามารถมาขึ้นทางด่วนฉลองรัชที่ด่านพระราม 9 ได้ ในระยะ 4.4 km.

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะ

ลักษณะของที่ดินเป็นแปลงสี่เหลี่ยมผืนผ้ามีทางเข้า-ออกอยู่ติดกับถนนเพชรบุรีตัดใหม่ โดยตัวอาคารจะอยู่ลึกเข้ามาจากถนนหลักประมาณ 43 m. สภาพแวดล้อมรอบๆโครงการ ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัยเดิมในพื้นที่ คอนโด ร้านค้าและตึกแถวต่างๆ วิวหลักของอาคารจะหันออกไปทั้ง 4 ทิศโดยรอบ โดยจะมีอาคารสูงที่อยู่ในระยะที่มองเห็นคือทางทิศตะวันออกและทิศใต้ แต่ก็ไม่ได้อยู่ในระยะประชิด  เรามาดูว่าแต่ละด้านของที่ดินติดกับอะไรบ้าง

  • ทิศเหนือ – ติดกับ ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ อาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น
  • ทิศตะวันออก – ติดกับ ที่ว่าง เลยถัดไปเป็นคอนโด The Niche Pride 33 ชั้น
  • ทิศใต้ – ติดกับ ที่ว่าง คลองแสนแสบ เลยถัดไปเป็นอาคาร J.C. TOWER สูง 20 กว่าชั้น
  • ทิศตะวันตก – ติดกับ อาคารสูง 4 ชั้น และโชว์รูม Nissan

Image 1/4
วิวทางทิศเหนือมองเห็นถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ระยะไกลจะเป็นวิวเมืองทางฝั่งพระราม 9

วิวทางทิศเหนือมองเห็นถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ระยะไกลจะเป็นวิวเมืองทางฝั่งพระราม 9

Image 1/19
เริ่มจากด้านหน้าโครงการจะติดกับถนนเพชรบุรีแบบนี้เลย ส่วนฝั่งตรงข้ามส่วนใหญ่จะเป็นอาคารสูงไม่เกิน 8 ชั้น

เริ่มจากด้านหน้าโครงการจะติดกับถนนเพชรบุรีแบบนี้เลย ส่วนฝั่งตรงข้ามส่วนใหญ่จะเป็นอาคารสูงไม่เกิน 8 ชั้น

สภาพแวดล้อม

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

  • ดิ เอ็มโพเรียม ~ 3.4 km.
  • Rain Hill ~ 3.6 km.
  • ดิ เอ็มควอเทียร์ ~ 3.7 km.
  • J Avenue ทองหล่อ ~ 3.8 km.
  • The Common ทองหล่อ ~ 3.9 km.
  • Terminal 21 ~ 4.9 km.

โรงพยาบาล

  • โรงพยาบาลกรุงเทพ ~ 2.5 km.
  • โรงพยาบาลพระราม 9 ~ 3.1 km.
  • โรงพยาบาลสมิติเวช (สุขุมวิท) ~ 3.2 km.
  • โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ~ 3.5 km.
  • โรงพยาบาลคามิลเลียน ~ 4.4 km.

โรงเรียน

  • มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว.) ~ 2.5 km.
  • โรงเรียนสาธิต มศว ประสานมิตร ~ 3.4 km.
  • Bangkok Prep School ~ 4.1 km.
  • โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย ~ 4.7 km.

อาคารสำนักงาน

  • Bangkok Tower ~ 300 m.
  • อาคารอิตัลไทยทาวเวอร์ ~ 950 m.
  • Thai Summit ~ 1.9 km.
  • สิงห์ คอมเพล็กซ์ ~ 1.9 km.
  • Interchange Tower ~ 3.4 km.
  • Exchange Tower ~ 3.6 km.
  • โอเชียนทาวเวอร์ ~ 4.2 km.

รายละเอียดโครงการ

โครงการ The Base เพชรบุรี – ทองหล่อ เป็นคอนโด High Rise สูง 36 ชั้น จำนวน 498 ยูนิต ตั้งอยู่บนที่ดินประมาณ 2 ไร่ และมีการออกแบบเป็นสไตล์ Modern มีการใช้สีพื้นของอาคารเป็นสีเทาตัดด้วยกรอบอาคารสีเหลือง-ทอง ที่มาจากแนวคิด “Trophy of Life รางวัลชีวิต” สะท้อนถึงความสำเร็จของชีวิตในการมีบ้านของกลุ่มคนรุ่นใหม่ โครงการยังเน้นความเป็นธรรมชาติของโครงการโดยเน้นพื้นที่สีเขียวที่ให้ร่มรื่นสอดแทรกไว้ในส่วนต่างๆ ภายในยังตกแต่งด้วยวัสดุธรรมชาติประเภทไม้ แล้วมีการเล่นสีสันให้โดดเด่นไม่น่าเบื่อในแต่ละโซน ซึ่งนอกจากนี้ยังมี Sky Facilities และ Roof Top Gardenให้ขึ้นไปใช้งานได้อีกด้วย ซึ่งถ้าใครเริ่มสนใจกันแล้ว ก็ตามไปชมรายละเอียดในแต่ละจุดกันเลย

เริ่มกันที่ Master Plan กันก่อนทางเข้า-ออกจะมีอยู่แค่จุดเดียว แต่แบ่งเป็นทางรถยนต์กับทางคนเดินชัดเจนเพื่อความปลอดภัย ส่วนรถยนต์จะมีระบบเข้าออกแบบระบบ RFID และมีกล้อง CCTV บันทึกการเข้า-ออกไว้ เส้นทางเดินรถจะก็จะเป็นแบบ One way วนไปทางซ้าย เพื่ออ้อมไปขึ้นที่จอดรถด้านข้างอาคารอีกฝั่ง หรือจะวน Drop Off ส่งคนตรงด้านหน้าก่อนก็ได้ จะเห็นว่าตัวอาคารจะมีระยะ Set back เข้ามาจากถนนหลักประมาณ 43 m. มีพื้นที่สีเขียวกั้นและช่วยเพิ่มความร่มรื่นไว้ให้ช่วยให้พื้นที่ด้านในอาคารได้ความเป็นส่วนตัวจากถนนหลักทางด้านหน้าทั้งเรื่องฝุ่นและเสียงจากการจราจร

นอกจากนี้ยังมีการแยกอาคาร Clubhouse ออกมาไว้ที่ด้านหน้าอีกด้วย โดยจะเป็น Shop ร้านสะดวกซื้อในอนาคต ซึ่งคนภายนอกก็สามารถเข้ามาใช้งานได้ หรือลูกบ้านจะเดินมาจากอาคารด้านในก็สะดวก ส่วนที่ชั้น 2 ก็จะมี Co – Working Space ที่ให้เฉพาะลูกบ้านมาใช้นั่งทำงาน หรือประชุมกันได้แบบจริงจัง แต่จะยังได้ความเป็นส่วนตัวอยู่ เพราะส่วนชั้น 2 Co – Working Space จะต้องสแกนการเข้า-ออก ให้เฉพาะลูกบ้านใช้งานเท่านั้น

นอกจากนี้ยังมี Lobby หลักใต้อาคารพักอาศัยด้านใน ซึ่งแบ่งเป็นพื้นที่ Co-Living Space ให้ได้มานั่งเล่นและอ่านหนังสือกันได้เช่นกัน

อาคาร Clubhouse จะอยู่บริเวณด้านหน้าใกล้กับทางเข้า-ออกโครงการ ออกแบบเป็นอาคารกระจกโอบล้อมด้วยสวนสีเขียวโดยจะมีทางเดินของคนแยกออกมาให้เดินได้ปลอดภัย โดยโครงการจะปลูกต้นไม้ประดับไว้ทางด้านหน้าและตลอดแนวทางเดิน ทำหน้าที่เป็นส่วนต้อนรับ ปรับอารมณ์เวลากลับมาจากด้านนอกให้สดชื่นได้อีกด้วย โดยชั้นล่างจะเป็นร้านสะดวกซื้อ

ในส่วนของชั้นบนเป็น Co-Working Space แยกมาจากอาคารหลักเพื่อความเป็นส่วนตัว การแยกส่วนกลางออกมาในลักษณะนี้จะช่วยลดความหนาแน่นในการใช้งาน และสามารถได้วิวสวนทางด้านหน้าโครงการไปด้วยระหว่างใช้งานไปด้วยได้

Image 1/9
อาคาร Clubhouse จะอยู่บริเวณด้านหน้าโครงการ

อาคาร Clubhouse จะอยู่บริเวณด้านหน้าโครงการ

Image 1/5
สวนด้านหน้าโครงการ Stylish Cafe Garden

สวนด้านหน้าโครงการ Stylish Cafe Garden

อีกสิ่งหนึ่งที่อยากให้สังเกตของสวนด้านหน้า Stylish Cafe Garden โดยจะทำเป็นพื้นที่นั่งเล่นแบบ Outdoor ให้คนที่มาใช้งาน Clubhouse สามารถออกมานั่งเล่นเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศได้ ส่วนคนที่อยู่ Creative Co – Working ชั้น 2 ก็ยังได้ชมวิวไปด้วย อีกฝั่งของด้านหน้าโครงการก็จะเป็น Refresh Garden เน้นปลูกต้นไม้ให้ร่มเงาร่มรื่น มีที่นั่งพักผ่อน อีกทั้งต้นไม้พวกนี้ยังทำหน้าที่พรางสายตา ให้กับพื้นที่ภายในโครงการได้อีกด้วย

Image 1/5
เริ่มที่บริเวณด้านหน้าทางเข้าโครงการจะมีรปภ. คอยช่วยอำนวยความสะดวก แบ่งช่องทางเข้า-ออก โครงการไว้สองฝั่ง

เริ่มที่บริเวณด้านหน้าทางเข้าโครงการจะมีรปภ. คอยช่วยอำนวยความสะดวก แบ่งช่องทางเข้า-ออก โครงการไว้สองฝั่ง

ถัดเข้ามาที่ถนนด้านในจากทางเข้าโครงการจะมีไม้กั้นกระดกระบบ RFID ที่สามารถเปิดแบบอัตโนมัติจึงไม่ต้องเปิดกระจกลงมาให้แดดร้อนหรือเปียกฝน  ส่วนถ้าใครที่ขับรถ จะมาส่งคนที่ Drop Off หน้า Lobby ก่อน หรือจะวนรถไปทางซ้ายเพื่อไปขึ้นชั้นจอดรถเลยก็ได้ สามารถจอดได้ประมาณ 44% แบบไม่รวมซ้อนคัน มีจุดบริการ EV Charger Station สำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้าให้

เข้ามาที่อาคารด้านในส่วนแรกที่เจอจะเป็นส่วน Lobby Lounge จัดที่นั่งพักผ่อนแบบ Semi-Outdoor บริเวณนี้สามารถใช้เป็นพื้นที่รับรองแขกของลูกบ้านก่อนได้ โดยที่ไม่ต้องสแกนเข้ามาในอาคารด้านใน

Image 1/8
ส่วน Waiting Area จะมีเคาน์เตอร์ของเจ้าหน้าที่คอยให้บริการ

ส่วน Waiting Area จะมีเคาน์เตอร์ของเจ้าหน้าที่คอยให้บริการ

ถัดเข้ามาในส่วน Waiting Area ด้านในอาคาร มีการตกแต่งแบบเรียบง่าย และใช้สีแนว Earth tone ที่เป็นวัสดุลวดลายธรรมชาติ ทั้งพื้นลายหินและไม้ ทำให้รู้สึกอบอุ่นและเป็นธรรมชาติมากขึ้น ภายในจัดเป็นพื้นที่นัดพักผ่อนสำหรับลูกบ้าน โดยด้านในสุดจะเป็น Mail Room และ Smart Locker ให้สามารถฝากรับของชิ้นใหญ่ๆได้ มีส่วนนิติบุคคล ห้อง Laundry Room และ Delivery Pickup Area สามารถรับส่งของจาก Messenger ได้โดยไม่ต้องเข้ามาด้านในอาคาร เหมาะกับการใช้ชีวิตแบบ New Normal ในตอนนี้ ส่วนด้านในสุดจะเป็นโถงลิฟต์ โดยมีลิฟต์โดยสาร 3 ตัว และมี Service Lift 1 ตัว แยกไว้ให้ใช้งาน

Image 1/2
Co – Living Area

Co – Living Area

ถัดมาอีกฝั่งของตัวอาคารทางด้านหน้าจะเป็นส่วน Co – Living Area ภายในส่วนใหญ่จะจัดเป็นชุดโซฟาให้นั่งได้สบายๆ แต่ก็มีชุดโต๊ะเก้าอี้ให้ได้เลือกใช้งานกันได้ด้วยเช่นกัน และบรรยากาศการตกแต่งก็รู้สึกถึงกลิ่นอายแบบ Cozy มากขึ้น ซึ่งจะมีการสอดแทรกสีสันสดใส ที่ดูแล้วสนุกสนาน ไม่น่าเบื่อ

แปลนชั้น 6 เป็นชั้นที่มีทั้งห้องพักอาศัย และ Facilities รวมอยู่ในชั้นเดียวกัน แต่จะแยกส่วนออกจากกันด้วยประตูกระจก ซึ่งต้องใช้ Key Card Access เพื่อความเป็นส่วนตัว โดยห้องพักของชั้นนี้จะเหมาะกับคนที่ชอบใช้พื้นที่ส่วนกลางบ่อยๆ รวมถึงยังได้โถงทางเดินแบบ Single Corridor อีกด้วย ส่วน Facilities ของชั้นนี้จะเป็นแนว Active Zone ประกอบด้วย Lap Pool และ Fitness ซึ่งจะมีห้องน้ำและห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าให้บริการในชั้นนี้ด้วย สามารถใช้งานได้สะดวกมากเลยทีเดียว

Image 1/2
บริเวณโถงลิฟต์ที่ชั้น 6 เพื่อแยกไปส่วนกลางและส่วนห้องพักอาศัย

บริเวณโถงลิฟต์ที่ชั้น 6 เพื่อแยกไปส่วนกลางและส่วนห้องพักอาศัย

Image 1/9
สระว่ายน้ำแบบเปิดโล่ง มีความยาว 28 m.

สระว่ายน้ำแบบเปิดโล่ง มีความยาว 28 m.

มาที่ส่วนกลางในชั้น 6 จะเจอกับสระว่ายน้ำแบบเปิดโล่ง มีความยาว  28 m. สามารถว่ายน้ำออกกำลังกายได้จริง พร้อมสระเด็กทางด้านข้าง และมีพื้นที่ให้นั่งพักผ่อนริมสระ บริเวณสระว่ายน้ำจะมีบางส่วนที่อยู่ใต้อาคารจะได้ร่มเงา ทำให้ช่วงเวลากลางวันก็สามารถมาใช้งานสระว่ายน้ำได้แดดไม่ร้อน ส่วน Fitness จะอยู่ติดกับสระว่ายน้ำ มีเครื่องออกกำลังกายให้เลือกใช้งานหลากหลาย มีห้องน้ำ-อาบน้ำ แยกชาย-หญิงไว้ให้พร้อมใช้งาน บริเวณภายนอกรอบๆสระว่ายน้ำจะมีการปลูกต้นไม้ต้นใหญ่และไม้ประดับต่างๆ เพื่อให้เกิดความร่มรื่น แล้วยังได้บรรยากาศที่เป็นธรรมชาติอีกด้วย

Image 1/11
ห้อง Fitness จะมีอุปกรณ์ให้เลือกใช้งานหลากหลาย

ห้อง Fitness จะมีอุปกรณ์ให้เลือกใช้งานหลากหลาย

ตั้งแต่ชั้น 7 – 35 จะเป็นชั้นพักอาศัยทั้งหมดแต่จะแบ่งออกเป็น 2 ช่วงคือ ชั้น 7 – 12 จะมีห้องพัก 17 ห้อง/ชั้น โดยจะวางโถงลิฟต์ค่อนไปทางซ้ายของอาคาร จึงทำให้ห้องที่อยู่ทางขวาสุดอาจต้องเดินไกลสักหน่อยนะ ซึ่งโครงการนี้มีอัตราส่วนลิฟต์อยู่ที่ 166 : 1 ถือว่าหนาแน่นอยู่เหมือนกัน แต่จะมีตำแหน่งห้องที่น่าสนใจดังนี้

  • กรอบสีส้ม : เป็นห้อง 27.25 ตารางเมตร ซึ่งเป็นขนาดเล็กสุดของโครงการ ถือว่าเป็น Rare item ที่มีเพียงชั้นละห้องเท่านั้น ทั้งโครงการจึงมีเพียง 6 ยูนิต ราคาเริ่มต้นหยิบจับง่าย
  • กรอบสีเขียว : เป็นห้องขนาด 40 ตารางเมตร ซึ่งได้วิวของสระว่ายน้ำเป็นแนวยาวสวยเลย มีแค่ตำแหน่งชั้นละห้องเหมือนกัน ทั้งหมดมีแค่ 6 ยูนิตเท่านั้น ตำแหน่งจะอยู่ติดกับโถงลิฟต์
  • กรอบสีชมพู : เป็นห้องขนาด 45.75 ตารางเมตร ซึ่งเป็นรูปแบบ 2 Bed 1 Bath เพียง 1 ห้อง/ชั้นเท่านั้น โดยชั้นล่างๆจะได้วิวสระว่ายน้ำ ส่วนชั้นสูงๆจะได้วิวเปิดโล่งทางทิศเหนือ

Image 1/3
โถงลิฟต์ในส่วนพักอาศัย

โถงลิฟต์ในส่วนพักอาศัย

โถงลิฟต์และแนวทางเดินในส่วนพักอาศัย โดยแนวทางเดินจะเป็นทางยาวโดยมีห้องพักขนานอยู่ทั้งสองด้าน ติดไฟทางเดินแบบ Downlight มีหน้าต่างช่วงเวลากลางวันจึงไม่ต้องเปิดไฟ สามารถเปิดเพื่อให้ลมพัดผ่านถ่ายเทอากาศบริเวณนี้ได้ และติดอุปกรณ์ตรวจจับควัน กริ่งสัญญาณแจ้งเตือนฉุกเฉิน และอุปกรณ์ระบบ Sprinkle ไว้ให้เรียบร้อย

แปลนชั้น 13 – 35 ลักษณะจะเหมือนกับแปลนเมื่อสักครู่เลย เพียงแต่ห้องในกรอบสีแดงเมื่อสักครู่นี้ ที่เคยเป็นห้องเล็ก 2 ห้อง จะถูกรวมกันเป็นห้องใหญ่ห้องเดียว เป็นแบบ 2 Bed 2 Bath ขนาด 61.25 ตารางเมตร ซึ่งจะมีเพียง 1 ห้อง/ชั้น และยังทำให้มีเพื่อนบ้านในชั้นลดลงเหลือ 16 ห้องด้วย

แปลนชั้น 36 เป็นอีกชั้นที่มี Facilities อยู่ร่วมกับห้องพักอาศัยแต่ก็แยกโซนเอาไว้ให้แล้วเรียบร้อย ซึ่งชั้นนี้จะเน้นเป็นการพักผ่อนและชมวิว มีทั้ง Sky Lounge และ Sky Theatre ให้ได้ใช้งานกัน โดยทางโครงการตั้งใจนำเสนอตำแหน่งพื้นที่ตรงส่วนนี้ เพื่อให้ Take View ฝั่ง RCA ซึ่งค่อนข้างเป็นพื้นที่เปิดโล่ง ไม่โดนบล็อควิวเลย

Image 1/8
Sky Lounge

Sky Lounge

Sky Lounge ซึ่งโดยรอบจะเป็นผนังกระจก ทำให้สามารถ Take View ระยะไกลได้ ซึ่งเค้าได้เตรียมชุดโซฟาไว้ให้ และตรงกลางยังมีโต๊ะพูลให้ได้เล่นกันอีกด้วย ติดกันจะเป็นห้อง Sky Theatre ภายในมีจอทีวี TV QLED 85 นิ้ว กับโซฟาชุดใหญ่ ให้ขึ้นมานั่งเล่นเกมส์ ดูหนัง หรือดูซีรี่ย์กันได้นะ

แปลนชั้นดาดฟ้า Rooftop Garden ทุกคนมาสามารถขึ้นมาใช้งานชั้นนี้ได้ด้วยลิฟต์โดยสาร ไม่ต้องเดินขึ้นบันไดมาเองให้เมื่อย ซึ่งพื้นที่ด้านบนนี้ส่วนใหญ่ก็จะเป็นสวนให้ขึ้นมาชมวิวได้ แต่จะสามารถแบ่งฟังก์ชันที่แตกต่างกัน ได้แก่

  • Sansiri Backyard Garden พื้นที่ปลูกผักสวนครัวปลอดสารพิษ Edible Garden ภายใต้การดูแลของนิติบุคคล มีตั้งแต่เรือนเพาะชำต้นอ่อน แปลงปลูกผัก ไม้เลื้อยต่างๆ ที่ลูกบ้านสามารถเก็บไปประกอบอาหารได้จริง
  • Outdoor Lounge & Pantry พื้นที่สำหรับจัดเลี้ยง สังสรรค์ นั่งรับประทานอาหารได้ เพราะมีมุม Pantry อ้างล้างจานและพื้นที่ให้จัดเตรียมอาหาร พร้อมชมวิวเมืองแบบมุมสูงไปด้วย
  • Sunset & Sunrise Space พื้นที่สวนทางทิศตะวันตก พร้อมที่นั่งพักผ่อน ปูพื้นหญ้า ให้เราได้นั่งชมบรรยากาศยามพระอาทิตย์ตกได้

Image 1/8
ชั้นดาดฟ้า Rooftop Garden

ชั้นดาดฟ้า Rooftop Garden

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

ชั้น G

  • Clubhouse
  • Shop
  • Co-Working Space
  • Garden
  • Lobby
  • Co-Living Area
  • Waiting Area
  • ห้องน้ำ Universal
  • ห้องนิติ
  • Mail Room
  • Laundry Room
  • EV Charger Station

ชั้น 6

  • Swimming Pool ยาว 28 m.
  • Kids Pool
  • Fitness Room
  • Changing Room

ชั้น 36

  • Sky Lounge
  • Sky Theatre

ชั้น Rooftop

  • Rooftop Garden
  • Sansiri Backyard Garden
  • Outdoor Lounge & Pantry
  • Sunset & Sunrise Space

อื่นๆ

  • ลิฟต์โดยสาร 3 ตัว/อาคาร
  • อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 165 : 1
  • ใช้งานลิฟต์ระบบ Key Card
  • Service Lift 1 ตัว
  • ที่จอดรถประมาณ 218 คัน หรือคิดเป็น 44% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน)
  • Shuttle Service รับส่งที่สถานีรถไฟฟ้า
  • เข้า-ออกอาคารระบบ Face scan
  • ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ CCTV / Key Card / ระบบ RFID
  • พนักงานรักษาความปลอดภัย 24 ชม.

 

แบบห้อง

รูปแบบห้องพักอาศัยของโครงการ The Base เพชรบุรี – ทองหล่อ จัดรูปแบบห้องมาค่อนข้างหลากหลายทีเดียว ตอบโจทย์การอยู่อาศัยและการใช้งานในหลายประเภท ตั้งแต่อยู่กันเป็นคู่ ไปจนครอบครัวขยายพ่อแม่ลูก โดยจะเน้นไปที่ห้อง 1 Bedroom และ 2 Bedroom มีแบบห้องหลากหลายและมีหลายขนาดให้เลือกตามการใช้งาน ได้แก่

  • 1 Bedroom ขนาด 27.25 – 29.25 ตร.ม.
  • 1 Bedroom ขนาด 31.75 – 40 ตร.ม.
  • 2 Bed 1 Bath ขนาด 45.75 ตร.ม.
  • 2 Bed 2 Bath ขนาด 61.25 ตร.ม

โครงการนี้ขายรูปแบบ Fully Fitted ที่โครงการมีให้ ได้แก่ ชุดครัว เครื่องปรับอากาศ ห้องน้ำได้เหมือนในห้องตัวอย่างติดตั้งมาให้พร้อมใช้งาน ส่วนวัสดุภายในห้องพักอาศัย ได้แก่

  • พื้นห้อง : พื้นไม้ลามิเนต
  • พื้นครัว : กระเบื้องเซรามิค
  • พื้นและผนังห้องน้ำ : กระเบื้องแกรนิตโต้
  • ชุดครัว อ่างล้างจาน อุปกรณ์ก็อก ของ Mex
  • ชุดครัว Hob&Hood ของ Mex
  • Top ครัว : หินแกรนิตสีดำ
  • วัสดุหน้าบานตู้ชุดครัว : เมลามีน
  • กรอบหน้าต่างอลูมิเนียมทำสีดำ พร้อมกระจกเขียวตัดแสง
  • โถสุขภัณฑ์ อ่างล้างหน้า อุปกรณ์ก็อกน้ำ และฝักบัวอาบน้ำ ของ Cotto
  • ที่ใส่กระดาษชำระ ราวแขวนผ้า ของ VRH
  • บานเลื่อนส่วนอาบน้ำ กรอบบานอลูมิเนียมกระจกเทมเปอร์

แปลนแบบ 1 Bedroom ขนาดประมาณ 31.75 – 32.50 ตร.ม. เป็นขนาดห้องที่ถือว่าให้พื้นที่ใช้งานมาค่อนข้างเยอะ สามารถจัดการใช้งานภายในห้องในส่วนต่างๆได้ง่ายอยู่อาศัยจริงไม่อึดอัด ตัวห้องออกแบบให้เหมาะอยู่อาศัย 1-2 คนกำลังดี โดยเปิดประตูมาเป็นพื้นที่ครัวเปิด ซึ่งมีระยะให้เรากั้นประตูบานเลื่อนกระจกเพิ่มเป็นครัวปิดได้  มีพื้นที่ให้เก็บของหรือทำเป็นชั้นหรือตู้ใส่ของ ที่เก็บรองเท้าใกล้กับประตูทางเข้า ผ่านโซนครัวเข้ามาจะเป็นส่วนของห้องนั่งเล่น และส่วนรับประทานอาหาร จัดระยะการใช้งานแบ่งโซนได้ดี วางโซฟาแบบนั่ง 2 คน พร้อมพื้นที่เหลือวางโต๊ะกลางได้ ริมห้องมีประตูบานเลื่อนกระจกขนาดใหญ่เชื่อมต่อกับส่วนระเบียงช่วยให้รับแสงได้เต็มที่ หรือเปิดรับลมระบายอากาศในห้องได้ พื้นที่ระเบียงมีขนาดเหมาะกับการใช้งาน สำหรับวางเครื่องซักผ้า ตากผ้า แขวน Condensing Unit ของเครื่องปรับอากาศได้

ห้องนอนและห้องน้ำอยู่อีกฝั่งของตัวห้อง กั้นผนังเป็นสัดส่วนและเป็นส่วนตัวดี มีพื้นที่ให้วางตู้เสื้อผ้าอยู่หน้าห้องน้ำให้ใช้งานได้ต่อเนื่องกัน ส่วนห้องน้ำก็แบ่งพื้นที่ส่วนเปียกส่วนแห้งมาให้เป็นสัดส่วน แต่เวลาใช้งานต้องเดินผ่านห้องนอนเท่านั้น ซึ่งถ้าใช้งานเองก็ไม่เป็นไร แต่ถ้ามีแขกมาจะต้องเดินผ่านห้องนอนซึ่งอาจจะเสียความเป็นส่วนตัวได้

เริ่มจากหน้าทางเข้าห้องกันเลยค่ะ สำหรับประตูหน้าห้องเป็นประตูสำเร็จรูป พร้อมอุปกรณ์ Digital door lock ของ Yale

บริเวณประตูทางเข้าจะยกขอบเป็นธรณีประตูขึ้นมาเล็กน้อย เพื่อป้องกันฝุ่นจากแนวทางเดิน ทำตัวจบระหว่างพื้นห้องด้านในไว้ให้เรียบร้อย

เมื่อเปิดเข้ามาจะเจอกับส่วนครัว ปูพื้นบริเวณนี้ด้วยกระเบื้องเซรามิค ซึ่งเหมาะกับการทำอาหารทนความชื้นและทำความสะอาดได้ง่าย มีระยะให้ยืนทำครัวกว้างประมาณ 1.8 m. เราสามารถกั้นทำเป็นบานเลื่อนเพิ่มเติมได้ให้เป็นครัวปิดเพื่อป้องกันกลิ่นและควันจากส่วนครัวได้

อีกจุดเด่นของนี้ก็คือพื้นที่เก็บของซึ่งจำเป็นมากสำหรับคนที่อยู่อาศัยในคอนโด โดยใกล้กับประตูทางเข้าจะมีพื้นที่เว้าเข้าไปในผนัง เราสามารถทำเป็นชุดตู้ built in สำหรับเก็บรองเท้า หรือของใช้ต่างๆ พื้นที่ค่อนข้างสามารถเก็บของชิ้นใหญ่ๆได้จริง

อีกฝั่งจะเป็นพื้นที่สำหรับชุดครัวทางโครงการจะให้ชุดครัวมาตราฐานแบบ Built In วัสดุหน้าบานตู้ชุดครัวเป็นเมลามีน จะเป็นแบบและสีตามนี้เลยค่ะ มีพื้นที่ทางด้านข้างให้วางตู้เย็นขนาดกลางได้ใช้งานได้ต่อเนื่องกันดี

ชุดครัวแบบ Built-in ออกแบบมาให้พอดีกับขนาดของส่วนครัว โดยแบ่งการใช้งานตัวตู้ด้านบนแบ่งเป็นช่องเก็บของ 2 ระดับ มีช่องที่มีหน้าบานตู้ปิดให้เรียบร้อย ด้านล่างชุดครัวมีพื้นที่สำหรับเก็บของ และแบ่งช่องให้ตั้งไมโครเวฟได้

ถัดมาเป็นส่วนสำหรับประกอบอาหาร โดยโครงการจะติดตั้ง เตาไฟฟ้า Induction พร้อมเครื่องดูดควัน และอ่างล้างจาน 1 อ่าง ของ Mex เครื่องดูดควันติดระบบดูดออกภายนอกห้องไว้ให้ ส่วน Top ครัวเป็นหินแกรนิตสีดำ มีความแข็งแรง ทนต่อรอยขีดข่วนได้ค่อนข้างดีเหมาะกับการประกอบอาหาร

ถัดเข้ามาด้านในตัวห้องจะเป็นพื้นที่ของห้องนั่งเล่น ส่วนรับประทานอาหาร จะเชื่อมต่อกับระเบียงของตัวห้อง ได้แสงธรรมชาติช่วยเพิ่มความโปร่งโล่งในการใช้งาน ปูพื้นด้วยพื้นไม้ลามิเนต ภายในห้องจะมีความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.6 m.

หากวางชุดโซฟาไว้ทางฝั่งใกล้กับหน้าต่างบานเลื่อนประจก จะช่วยให้มีพื้นที่ตรงกลางห้องใช้งานได้กว้างขึ้น สามารถวางชุดโต๊ะทานอาหาร หรือวางเป็นโต๊ะทำงานติดผนังแบบห้องตัวอย่างได้สบายๆ

ส่วนห้องนั่งเล่นสามารถตั้งชุดโซฟา 2 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะรับแขกได้ ส่วนระยะห่างจากโซฟาถึงตำแหน่งติดตั้งทีวี อยู่ที่ประมาณ 2.2 m. ในระยะประมาณนี้เราสามารถเลือกทีวีขนาด 40″- 45″ ใช้งานได้กำลังดีค่ะ

ประตูบานเลื่อนไปส่วนระเบียงจะได้แบบบานเลื่อน 3 ตอนช่วยให้เวลาเปิดใช้งานได้กว้างมากกว่าแบบ 2 ตอน เป็นบานเลื่อนอลูมิเนียมสีดำพร้อมกระจกเขียวตัดแสง ช่วยให้ห้องได้แสงธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ หรือเปิดรับลมและระบายอากาศได้สะดวก

ส่วนระเบียงปูพื้นกระเบื้องเซรามิค ผนังฉาบปูนทาสี พื้นที่ระเบียงมีขนาดประมาณ 2.5 x 0.90 m. พื้นที่พอดีใช้งาน ใช้เป็นพื้นที่ตั้งเครื่องซักผ้า ซักล้างและตากผ้าได้ โดยทางโครงการจะต่อท่อไว้ให้เราติดตั้งก็อกน้ำเพิ่มเติมได้ และมีปลั๊กไฟแบบมีฝาครอบกันน้ำมาให้ค่ะ

ส่วนระเบียงอีกฝั่งจะใช้วิธีแขวน Condensing air ไว้ที่เพดานระเบียงช่วยประหยัดพื้นที่ระเบียงให้ตั้งเครื่องซักผ้าไว้ด้านล่างได้

วิวจากชั้น 22 จากห้องตัวอย่าง มองเห็นแนวคลองแสนแสบและวิวเมืองทางฝั่งสุขุมวิท

สำหรับพื้นที่ห้องนอนจะอยู่อีกฝั่งของตัวห้อง การจัดพื้นที่แบบนี้จะช่วยเรื่องความเป็นส่วนตัวในการใช้งานเพราะมีประตูกั้นแบ่งพื้นที่การใช้งานไว้เป็นสัดส่วนไม่รบกวนกัน

ภายในห้องนอนถือว่าใช้งานไม่อึดอัด ตั้งเตียงนอนขนาด 5 ฟุตได้ มีพื้นที่เหลือโดยรอบเตียง ตำแหน่งห้องนอนจะอยู่ฝั่งริมติดหน้าต่างทำให้เปิดรับลมและแสงธรรมชาติได้ดี

ส่วนระยะทางเดินระหว่างปลายเตียงถึงผนัง กว้างประมาณ 45 cm. แนะนำให้ติดทีวีไว้ที่ผนัง จะช่วยให้มีพื้นที่เดินได้สะดวก ส่วนระยะระหว่างด้านข้างเตียงถึงผนังฝั่งหน้าต่างกว้างประมาณ 55 cm. สามารถยืนเปิดหน้าต่างได้สะดวก

อีกฝั่งของตัวห้องวางตู้เสื้อผ้า ตำแหน่งของตู้เสื้อผ้าจะอยู่หน้าทางเข้าห้องน้ำพอดี ช่วยให้ใช้งานได้ต่อเนื่องกัน มีระยะให้ใช้งานค่อนข้างกว้าง

ภายในห้องน้ำจัดแบ่งการใช้งานส่วนเปียกและส่วนแห้งเป็นสัดส่วน พื้นที่จัดมาสามารถใช้งานได้สะดวกแบ่งโซนชัดเจน วัสดุปูพื้นและผนังเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ทั้งหมด ทางเข้าห้องน้ำจะลดระดับ 3 cm. มีตัวจบระหว่างพื้นที่ห้องด้านในเรียบร้อย

ติดตั้งชุดตู้กระจกและอ่างล้างหน้ามาให้พร้อมใช้งานเป็นตู้แบบ Built in สามารถเปิดหน้าบานกระจกเพื่อเก็บของใช้ต่างๆด้านในได้

โครงการติดตั้งชุดอ่างล้างหน้าและอุปกรณ์ก๊อก ของ Cotto มีพื้นที่ให้วางของเหนืออ่างได้

อีกฝั่งจะเป็นชุดโถสุขภัณฑ์ เป็นของ Cotto และติดตั้งอุปกรณ์อื่นๆ ได้แก่ ที่ใส่กระดาษชำระ ไว้ที่ผนังด้านข้างให้พร้อมใช้งาน

อุปกรณ์ภายในห้องน้ำ เช่น ที่ใส่กระดาษชำระ และราวแขวนผ้าจะเป็นของ VRH ติดตั้งในตำแหน่งที่ใช้งานได้สะดวก ผนังทางด้านข้างจะทำเป็นช่องไว้สำหรับเก็บของใช้ต่างๆได้

พื้นที่สำหรับอาบน้ำจะอยู่ด้านในสุดมีฉากกั้นเป็นบานเลื่อน 3 ตอนมาให้ เป็นบานเลื่อนอลูมิเนียม กระจกเทมเปอร์ ของ Shower King

พื้นที่ยืนอาบน้ำ มีขนาดประมาณ 1.3 x 0.90 m. สามารถยืนอาบน้ำได้ ไม่อึดอัด โดยจะยกขอบขึ้นมาเพื่อป้องกันน้ำไหลซึมมายังส่วนแห้งในห้องน้ำ

โครงการติดอุปกรณ์ชุดอาบน้ำครบชุดของ Cotto แต่โครงการจะไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่นให้ ต้องติดตั้งเองภายหลัง โดยโครงการจะทำช่อง Junction งานระบบไว้ให้ ที่ผนังด้านข้างจะมีพื้นที่ให้วางของใช้ต่างๆได้

ส่วนเพดานห้องน้ำของจะเป็นฝ้าฉาบเรียบทาสีพร้อมติดไฟแบบดาวน์ไลท์ 2 ตำแหน่ง และพัดลมดูดอากาศให้ค่ะ

ส่วนอุปกรณ์ปลั๊กไฟ และสวิตช์ไฟภายในห้องจริงทั้งหมดจะใช้ของ Bticino

ห้องแบบ 2 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 45.75 ตร.ม. เข้ามาจะเจอกับโถงทางเข้าของตัวห้อง ตรงข้ามประตูทางเข้าจะมีพื้นที่ให้ทำเป็นตู้เก็บของและรองเท้าวางใกล้กับทางเข้าให้หยิบใช้งานได้สะดวก ถัดมาครัวเปิดที่แบ่งโซนการใช้งานไว้เป็นสัดส่วนอยู่ใกล้กับส่วนระเบียงของตัวห้องทำให้ได้แสงธรรมชาติและเปิดระบายกลิ่นและอากาศได้สะดวก  ถัดเข้ามาเป็นพื้นที่ห้องนั่งเล่น และส่วนรับประทานอาหาร บริเวณนี้ค่อนข้างโปร่งโล่งเพราะได้แสงสว่างจากหน้าต่าง 2 ฝั่งในห้อง

ส่วนห้องนอนและห้องน้ำอยู่อีกฝั่งของตัวห้อง ห้องนอนทั้ง 2 ห้องมีประตูแบ่งไว้ให้ใช้งานเป็นส่วนตัว ทุกห้องอยู่ติดฝั่งริมอาคารทำให้ได้แสงสว่างห้องจึงดูโปร่งโล่ง ห้องนอนใหญ่สามารถเชื่อมต่อกับห้องน้ำของตัวห้องได้ ส่วนห้องน้ำก็มีการแบ่งพื้นที่ส่วนเปียกส่วนแห้งมาให้เป็นสัดส่วน การที่มีประตูสามารถเปิดใช้งานได้ทั้งจากห้องนอนและโถงหน้าห้องจะช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวในการใช้งาน เวลามีแขกมาบ้านแล้วต้องการใช้ห้องน้ำก็ไม่ต้องให้เดินผ่านห้องนอนของเรา

เข้ามาในห้องส่วนแรกจะเป็น Foyer ที่โถงทางเข้าของตัวห้อง ซึ่งจะช่วยบังสายตาไม่ให้เห็นห้องที่อยู่ทางด้านใน เป็นพื้นที่แยกไปส่วนต่างๆของตัวห้องอีกที

บริเวณโถงด้านหน้าทางเข้าจะมีพื้นที่ให้ทำชุดตู้หรือชั้นวางของได้ เราสามารถทำเป็นชุดตู้สูงจากพื้นที่ระดับฝ้าเพดาน ใช้เป็นที่เก็บรองเท้า และของใช้ต่างๆได้แบบในห้องตัวอย่าง

ถัดเข้ามาในห้องส่วนแรกที่เจอจะเป็นส่วนครัวเปิด บริเวณนี้นะปูพื้นด้วยกระเบื้องเซรามิคเหมาะกับการทำอาหารเช็ดถูได้ง่าย โดยทางโครงการจะมีชุดครัวมาให้พร้อมใช้งาน มีพื้นที่สำหรับตู้เย็นทางด้านข้าง เชื่อมต่อกับส่วนครัวเปิดระบายอากาศได้ง่าย

ชุดครัวแบบ Built-in ออกแบบมาให้พอดีกับขนาดของส่วนครัว วัสดุหน้าบานตู้ชุดครัวเป็นเมลามีนโดยแบ่งการใช้งานตัวตู้ด้านบนแบ่งเป็นช่องเก็บของ 2-3 ระดับ มีช่องที่มีหน้าบานตู้ปิดให้เรียบร้อย ด้านล่างชุดครัวมีพื้นที่สำหรับเก็บของ และแบ่งช่องให้ตั้งไมโครเวฟได้

ถัดมาเป็นส่วนสำหรับประกอบอาหาร โดยโครงการจะติดตั้ง เตาไฟฟ้า Induction พร้อมเครื่องดูดควัน และอ่างล้างจาน 1 อ่าง ของ Mex เครื่องดูดควันที่ติดระบบดูดออกภายนอกห้องไว้ให้ ส่วน Top ครัวเป็นหินแกรนิตสีดำ

จากส่วนครัวจะมีประตูกระจกเปิดไปส่วนระเบียงของตัวห้องได้ ทำให้ส่วนครัวได้แสงธรรมชาติ หรือจะเปิดรับลมระบายอากาศขณะทำครัวก็ได้

ส่วนระเบียงปูพื้นกระเบื้องเซรามิค ผนังฉาบปูนทาสี พื้นที่ระเบียงมีขนาดประมาณ 1 x 1.5 m. พื้นที่พอดีใช้งาน ใช้เป็นพื้นที่ตั้งเครื่องซักผ้า ซักล้างและตากผ้าได้ โดยทางโครงการจะต่อท่อไว้ให้เราติดตั้งก็อกน้ำเพิ่มเติมได้ และมีปลั๊กไฟแบบมีฝาครอบกันน้ำมาให้ค่ะ

กลับเข้ามาด้านในตัวห้องจะเป็นส่วนรับประทานอาหารและส่วนห้องนั่งเล่น ได้แสงธรรมชาติจากหน้าต่างทั้ง 2 ฝั่ง ช่วยเพิ่มความโปร่งโล่ง ปูพื้นด้วยพื้นไม้ลามิเนต ภายในห้องจะมีความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.6 m.

พื้นที่ค่อนข้างกว้างสามารถวางชุดโต๊ะทานอาหารแบบ 4 ที่นั่งได้สบายๆ ตำแหน่งอยู่ใกล้ส่วนครัวใช้งานได้ต่อเนื่องกัน ใกล้หน้าต่างได้แสงธรรมชาติมองเห็นวิวภายนอก

ส่วนห้องนั่งเล่นสามารถตั้งชุดโซฟา 2 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะรับแขกได้ ส่วนระยะห่างจากโซฟาถึงตำแหน่งติดตั้งทีวี อยู่ที่ประมาณ 2.3 m. ในระยะประมาณนี้เราสามารถเลือกทีวีขนาด 40″- 45″ ใช้งานได้กำลังดีค่ะ

บรรยากาศภายในห้องนี้จะแยกโซนจากห้องนอนไว้เป็นสัดส่วนดี ได้ความโปร่งโล่งได้วิว 2 ทิศทาง เปิดหน้าต่างระบายอาการถ่ายเทได้ดี

ถัดมาอีกฝั่งของตัวห้องจะเป็นห้องนอน 2 ห้อง และห้องน้ำ การจัดพื้นที่แบบนี้จะช่วยเรื่องความเป็นส่วนตัวในการใช้งานเพราะมีประตูกั้นแบ่งพื้นที่การใช้งานไว้เป็นสัดส่วนไม่รบกวนกัน

เริ่มจากห้องนอนรอง พื้นที่สามารถตั้งเตียงนอนได้ มีพื้นที่ให้โต๊ะเครื่องแป้ง โต๊ะทำงานและชั้นวางของ พื้นที่ค่อนข้างกว้างสามารถจัดการใช้งานได้สะดวก มีหน้าต่างได้แสงธรรมชาติเปิดรับลมได้

อีกฝั่งของตัวห้องจะมีพื้นที่สำหรับวางตู้เสื้อผ้า ซึ่งจะเสมอไปกับแนวผนัง ช่วยให้เราสามารถใช้งานพื้นที่ภายในห้องได้เต็มที่

มาต่อกันที่ห้องนอนใหญ่ ภายในห้องนอนถือว่าใช้งานไม่อึดอัด ตั้งเตียงนอนขนาด 5 ฟุตได้ มีพื้นที่เหลือโดยรอบเตียง ตำแหน่งห้องนอนจะอยู่ฝั่งริมติดหน้าต่างทำให้เปิดรับลมและแสงธรรมชาติได้ดีเช่นกัน

มีระยะทางเดินระหว่างปลายเตียงถึงผนัง กว้างประมาณ 50 cm. แนะนำให้ติดทีวีไว้ที่ผนัง จะช่วยให้มีพื้นที่เดินได้สะดวก ส่วนระยะระหว่างด้านข้างเตียงถึงผนังฝั่งหน้าต่างกว้างประมาณ 60 cm. สามารถยืนเปิดหน้าต่างได้สะดวก

อีกฝั่งของตัวห้องวางตู้เสื้อผ้า ตำแหน่งของตู้เสื้อผ้าจะอยู่หน้าทางเข้าห้องน้ำพอดี ช่วยให้ใช้งานได้ต่อเนื่องกัน มีระยะให้ใช้งานค่อนข้างกว้างใช้งานสะดวก

ภายในห้องน้ำจัดแบ่งการใช้งานส่วนเปียกและส่วนแห้งเป็นสัดส่วน พื้นที่จัดมาสามารถใช้งานได้สะดวกแบ่งโซนชัดเจน วัสดุปูพื้นและผนังเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ทั้งหมด ให้ชุดอ่างล้างหน้าพร้อมกระจกเงา และให้สุขภัณฑ์พร้อมอุปกรณ์ต่างๆภายในห้องน้ำครบ โดยทางเข้าห้องน้ำจะเข้าได้ 2 ทาง ทั้งจากห้องนอนใหญ่และโถงทางเข้าหน้าห้อง ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวในการใช้งาน เวลามีแขกมาบ้านแล้วต้องการใช้ห้องน้ำก็ไม่ต้องให้เดินผ่านห้องนอนของเรา

โครงการติดตั้งชุดอ่างล้างหน้าและอุปกรณ์ก๊อก ของ Cotto มีพื้นที่ให้วางของเหนืออ่างได้ ให้ชุดตู้กระจก Built in สามารถเปิดหน้าบานกระจกเพื่อเก็บของใช้ต่างๆด้านในได้

อีกฝั่งจะเป็นชุดโถสุขภัณฑ์ เป็นของ Cotto และติดตั้งอุปกรณ์อื่นๆ ได้แก่ ที่ใส่กระดาษชำระ ราวแขวนผ้าเช็ดตัว ของ VRH ไว้ที่ผนังด้านหลังให้พร้อมใช้งาน

พื้นที่สำหรับอาบน้ำจะอยู่ด้านในสุดมีฉากกั้นเป็นบานเลื่อน 3 ตอน เป็นบานเลื่อนอลูมิเนียม กระจกเทมเปอร์ ของ Shower King พื้นที่ยืนอาบน้ำ มีขนาดประมาณ 1.1 x 1 m. สามารถยืนอาบน้ำได้ ไม่อึดอัด โดยจะยกขอบขึ้นมาเพื่อป้องกันน้ำไหลซึมมายังส่วนแห้งในห้องน้ำ

ติดอุปกรณ์ชุดอาบน้ำครบชุดของ Cotto แต่โครงการจะไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่นให้ ต้องติดตั้งเองภายหลัง โดยโครงการจะทำช่อง Junction งานระบบไว้ให้ ที่ผนังด้านข้างจะมีพื้นที่ให้วางของใช้ต่างๆได้

ส่วนเพดานห้องน้ำของจะเป็นฝ้าฉาบเรียบทาสีพร้อมติดไฟแบบดาวน์ไลท์ 2 ตำแหน่ง และพัดลมดูดอากาศให้

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคา

The Base เพชรบุรี – ทองหล่อ ราคา ณ วันที่ 9 มีนาคม 2565

  • 1 Bedroom ขนาด 27.25 – 29.25 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.29 ล้านบาท
  • รูปแบบการขาย Fully Fitted
  • กรณีต้องการเฟอร์นิเจอร์ 1 Bedroom เพิ่ม 70,000 – 90,000 บาท / 2 Bedroom เพิ่ม 130,000 – 140,000 บาท
  • ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.60 เมตร
  • Kitchen & Sink / ยี่ห้อ MEX ท็อปหินแกรนิตสีดำ
  • Hob & Hood / ยี่ห้อ MEX
  • มีรถ Shuttle service ไปกลับ MRT เพชรบุรี, BTS ทองหล่อ
  • จอง 5,000 – 10,000 บาท
  • ทำสัญญา 10,000 – 20,000 บาท
  • ดาวน์ n/a% ผ่อนดาวน์ n/a งวด
  • ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 63 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

บทสรุป

ทำเล : โครงการ The Base เพชรบุรี – ทองหล่อ ตั้งอยู่ติดถนนเพชรบุรีตัดใหม่ เป็นขาเข้าเมือง ซึ่งตรงไปยังพร้อมพงษ์ อโศก ประตูน้ำ หรือพญาไทได้ง่าย เหมาะกับคนที่ทำงานในย่านนี้ แต่ถ้าเป็นเรื่องความอุดมสมบูรณ์ของถนนเส้นนี้จะยังมีไม่มากส่วนใหญ่จะเป็นอาคารสำนักงานมากกว่า มีโรงพยาบาลกรุงเทพและ RCA อยู่ไม่ไกล แต่ก็มีร้านอาหารแนว Street food และร้านสะดวกซื้อให้เดินไปได้อยู่บ้าง และถ้าเป็นห้างใหญ่ๆจะต้องพึ่งพิงห้างบนถนนสุขุมวิทและในซอยเอกมัย – ทองหล่อเป็นหลัก ซึ่งก็อยู่ไม่ไกลนัก สามารถเดินทางไปได้สะดวกอยู่เหมือนกัน

การเดินทางโดยใช้รถ : ถึงแม้ทางด่วนฉลองรัชจะอยู่ไม่ไกลจากโครงการ ประมาณ 4.5 km. แต่ก็จำเป็นต้องไปกลับรถมาก่อน 850 m. ซึ่งรถก็ค่อนข้างติดพอสมควร จึงต้องเผื่อเวลาในการเดินทางสักหน่อย แต่ถ้าเป็นขากลับนี่จะเดินทางได้ง่ายเพราะเมื่อลงทางด่วนแล้วสามารถตรงมายังโครงการได้เลย หรือถ้าใครทำงานในเมืองก็สามารถขับรถตรงเข้าเมืองได้ทันที โดยโครงการนี้มีที่จอดรถ 44% ถือว่าให้มากลางๆ และมีที่จอดรถ EV Charger Station รองรับการใช้รถยนต์ไฟฟ้าเตรียมไว้ให้ด้วย

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ : โครงการอยู่ติดถนนใหญ่ สามารถเรียกรถสาธารณะอย่างแท็กซี่ได้ง่าย หรือถ้าจะนั่งรถเมล์ก็มีป้ายรถเมล์อยู่ห่างไปประมาณ 300 m. มีสะพานลอยให้ข้ามถนนได้ไม่อันตราย แล้วถ้าเป็นวินมอไซค์ ก็จะมีทั้งตรงสะพานลอย และท้ายซอยทองหล่อในระยะ 450 m. ที่สามารถนั่งวินมาลงปากซอย เพื่อมาใช้รถไฟฟ้า BTS ทองหล่อได้ รวมถึงมีท่าเรือทองหล่อเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งในการเดินทางได้ ในระยะ 550 m. อีกด้วย โครงการมีบริการ Shuttle service ไปกลับ MRT เพชรบุรี, BTS ทองหล่อ วิ่งเป็นรอบๆในแต่ละวันให้เลือกใช้ด้วยนะ

วัสดุ : ให้ครบเหมาะสมกับการใช้งานในแต่ละส่วน จัดมาแบบ Fully Fitted มีชุดครัว เครื่องปรับอากาศ ห้องน้ำได้เหมือนในห้องตัวอย่าง มี Digital door lock ได้ชุดครัว Built in พร้อมชุดเตา-ที่ดูดควันต่อท่อออกนอกอาคาร ได้ Top ครัวหินแกรนิต ให้สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ในห้องน้ำของ Cotto และ VRH พื้นภายในห้องแยกประเภทตามการใช้งาน ห้องครัวได้พื้นกระเบื้องเซรามิค ส่วนห้องนั่งเล่น ห้องนอน เป็นพื้นไม้ลามิเนต ห้องน้ำกระเบื้องแกรนิตโต้ ให้หน้าต่างกระจกและประตูบานเลื่อนช่วยให้ห้องไม่มืดทึบ และติดไฟแบบ Downlight ให้ทั้งหมด

การออกแบบโครงการ : มีสไตล์และแนวคิดในการออกแบบที่ชัดเจน Modern Design เน้นความเรียบเท่ แต่ยังแทรกความเป็นธรรมชาติ ด้วยพื้นที่สีเขียวในพื้นที่ส่วนกลาง แยกอาคาร Clubhouse ที่มีทั้งร้านค้า และ Co-Working Space จัดพื้นที่สีเขียวไว้ทางด้านหน้าช่วยเรื่องบรรยากาศที่ดีและช่วยพรางสายตาให้เกิดความเป็นส่วนตัวได้ เน้นการกระจาย Facilities ออกเป็นหลายๆชั้น เพื่อลดความหนาแน่นของการใช้งาน และมี Sky Facilities ให้ขึ้นไปชมวิวมุมสูงได้อีกด้วย วิวส่วนใหญ่ได้วิวเปิดโล่งจะมีเฉพาะวิวทางฝั่งทิศตะวันออกที่มองเห็นคอนโดเพื่อนบ้าน แต่ก็ไม่ได้อยู่ในระยะประชิด ตัวอาคารจะอยู่ในทิศที่ทำส่วนกลางได้แดดร่มตลอดทั้งวัน ลูกบ้านสามารถใช้โซน Outdoor ไม่ว่าจะเป็นสวนตรง Clubhouse ที่ชั้น 1 หรือสระว่ายน้ำชั้น 6 ได้แบบทั้งวัน

การออกแบบห้อง : มีแบบห้องหลากหลายตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยได้หลายกลุ่ม ทั้งอยู่คนเดียว อยู่กันเป็นคู่ ไปจนครอบครัวพ่อแม่ลูก จัดรูปแบบห้องใช้งานลงตัว แยกโซนการใช้งานได้เป็นสัดส่วนดี พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้นที่ 27.25-61.25 ตร.ม อยู่สบายๆไม่อึดอัด เน้นความเป็นส่วนตัว ห้องนอนกั้นด้วยผนังทึบแยกออกไปชัดเจน แต่จะไม่มีการกั้นเป็นครัวปิด เพราะต้องการความโปร่งโล่งภายในห้อง ออกแบบให้มีพื้นที่ให้ทำเป็นตู้หรือชั้นเก็บของได้ ซึ่งสำคัญมากสำหรับชาวคอนโดที่มีของใช้เยอะแต่มีพื้นที่ใช้งานจำกัด ตัวห้องทุกแบบเน้นให้ส่วนพักผ่อนทั้งห้องนั่งเล่นและห้องนอนอยู่ในตำแหน่งที่ได้แสงธรรมชาติเปิดรับรับลมระบายอากาศได้ดี ช่วยให้ห้องน่าอยู่อาศัยมากขึ้น

สาธารณูปโภค : ให้มาค่อนข้างหลากหลายเพียงพอต่อการใช้งาน และเมื่อเทียบกับจำนวนยูนิตที่ว่าน้อยกว่าโครงการข้างเคียง เราถือว่าจัดมาให้เยอะเหมือนกัน และเน้นกระจายการใช้งาน เริ่มตั้งแต่ Clubhouse หน้าโครงการจะมีทั้งร้านค้า และ  Co – Working Space รวมถึงมี EV Charger Station ให้ด้วย ส่วนในอาคารชั้น 1 จะมีทั้ง Lobby และ Co-Living Space สำหรับลูกบ้านแยกออกมาต่างหาก ชั้น 6 เป็น Swimming Pool และ Fitness ส่วนชั้น 36 จะมี Sky Lounge กับ Sky Theatre ที่ไปพักผ่อนและได้ชมวิวเมืองได้ และชั้น Rooftop Garden พื้นที่สีเขียวที่เน้นพื้นที่พักผ่อน จัดปาร์ตี้ มี Hidden Backyard ให้มาปลูกและเก็บผักไปประกอบอาหารกันได้

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 115,000 บาท/ตร.ม., 9 มีนาคม 2565

  • ทำเล 7.75/10 – ติดถนนเพชรบุรี ฝั่งเข้าเมือง ใกล้ทองหล่อ แต่ยังหาของกินในระยะเดินได้ยาก
  • เดินทางด้วยรถ 7.75/10 – อยู่ฝั่งขาเข้าเมือง ไม่ไกลจากทางด่วน ที่จอดรถปานกลาง 44% มี EV Charger Station
  • ไม่ใช้รถ 7.5/10 – มีให้เลือกหลากหลาย ไปใช้รถไฟฟ้าได้ โครงการมี Shuttle Service รับส่ง
  • วัสดุ 7.75/10 – ใช้วัสดุดีเหมาะสมกับการใช้งาน Fully Fitted ได้ของบางส่วน ต้องแต่งเองเพิ่ม
  • แบบ 8.5/10 – เป็นส่วนตัว มีฟังก์ชันห้องและตำแหน่งน่าสนใจหลายจุด
  • สาธารณูปโภค 8.25/10 – ส่วนกลางหลักมีให้ครบ เข้าถึงและใช้งานง่าย เน้นพื้นที่ทำงาน กระจายไม่หนาแน่น ได้วิวมุมสูง

  • MAIN CLASS
  • 7.9 / 10.00

The Base เพชรบุรี – ทองหล่อ เหมาะกับใคร

โครงการ The Base เพชรบุรี – ทองหล่อ เหมาะกับคนที่ต้องการคอนโดในเมืองใกล้ทองหล่อ ติดถนนหลักเดินทางสะดวก มีตัวเลือกไปใช้รถไฟฟ้าได้ ส่วนกลางน่าใช้งานได้วิวมุมสูง มีห้องหลากหลายจัดห้องลงตัว มีงบเริ่มต้น 3.29 ล้านบาท* หรือมีกำลังผ่อนเริ่มต้นประมาณ 23,000 บาท/เดือน ยังไงก็ลองพิจารณากันดูนะคะ


ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc