รีวิวฉบับที่ 1,998 .. วันนี้ผมมีตึกเสร็จในซอยสุขุมวิท 50 อย่าง SERIO สุขุมวิท 50 มาให้ชมกันครับ เป็นคอนโด Low Rise 2 อาคาร ที่มีจุดเด่นในเรื่องทำเลที่ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วน 2 สาย และ BTS อ่อนนุชเพียง 400 เมตร ภายในมีจำนวนยูนิตต่ออาคารเพียง 74 และ 77 ยูนิต มีแบบห้องให้เลือกหลากหลาย มาแบบ Fully Furnished พร้อมเข้าอยู่ ในราคาเริ่มต้น 2.69 ล้านบาท ตามผมเข้าไปดูรายละเอียดโครงการกันเลยครับ
Fact @ 20 November 2019
- Serio Sukhumvit 50 (เซอริโอ้ สุขุมวิท 50)
- บริษัท ไทยทวีพร ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด และ บริษัท ซีเอ็มเอ็ม กรุ๊ป จำกัด
- HIGH CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่: ถนนสุขุมวิท เขตคลองเตย
- ที่ดินประมาณ 1-2-6 ไร่
- คอนโด Low Rise 8 ชั้น 2 อาคาร 151 ยูนิต
- อาคาร A 77 ยูนิต
- อาคาร B 74 ยูนิต
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 11 ยูนิตที่อาคาร A, B
- ที่จอดรถประมาณ 77 คัน คิดเป็น 50% รวมจอดซ้อน
- เริ่มก่อสร้าง : เมษายน 2560
- แล้วเสร็จ : 2561
- Studio 21.66-21.7 ตร.ม. จำนวน 6 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 2.79 ล้านบาท
- 1 Bedroom 27.33-40.9 ตร.ม. จำนวน 131 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 3.39 ล้านบาท
- 2 Bedrooms 51.06-52 ตร.ม. จำนวน 14 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 5.99 ล้านบาท
- ฝ้าเพดานสูง 2.4 เมตร
- ราคาห้องเริ่มต้น 2.79 ล้านบาท
- ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ AVERAGE ประมาณ 128,257 บาท/ตร.ม.
- เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
- โทร : 082-425-8888
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างครับ
พิกัด Google Maps : 13.705413, 100.597359
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
แผนที่จากทางโครงการครับ
ทำเลที่ตั้งโครงการของโครงการตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 50 ซึ่งเป็นย่านที่พักอาศัยขนาดใหญ่แถบอ่อนนุช จะมีทั้งที่พักอาศัยแนวราบและคอนโดอยู่สลับกันให้เห็นเต็มไปหมด ในช่วงหลังๆมานี้ก็จะคึกคักไปด้วยคอนโดเนื่องจากความเจริญเริ่มกระจายตัวออกมาเรื่อยๆ ส่วนสภาพแวดล้อมโดยรวมอย่างที่ทราบกันดีว่าย่านอ่อนนุชนี้มีความอุดมสมบูรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ครบครัน และราคาก็ถูกลงมาหน่อย น่าคบหาเมื่อเทียบกับแถบถนนสุขุมวิทชั้นในอย่าง ย่านอโศก, ทองหล่อ, เอกมัย
สำหรับที่ตั้งโครงการ Serio สุขุมวิท 50 จะอยู่บริเวณช่วงต้นซอยสุขุมวิท 50 เลย เดินเข้ามาเพียงประมาณ 350 เมตร จากหน้าปากซอย ช่วงบริเวณที่ตั้งโครงการจะเป็นบ้านพักอาศัยและคอนโดซะเป็นส่วนใหญ่ ข้อดีของที่ตั้งโครงการนี้คือใกล้กับทางขึ้นลงทางด่วนฉลองรัช ไม่ไกลโลตัสและรถไฟฟ้า BTS อีกทั้งยังมีวินมอเตอร์ไซค์และแท็กซี่ให้ใช้งานได้ง่ายตลอดทั้งวัน แถมแถวนี้ถนนรอบๆสามารถพาเราเดินทางไปได้ค่อนข้างหลากหลาย
- ซอยสุขุมวิท 50 ก็จะพาเราไปออกยังถนนสุขุมวิทซึ่งเป็นเส้นทางของรถไฟฟ้า เชื่อมต่อไปใช้งานทางพิเศษฉลองรัชได้ง่าย และพาไปยังถนนทางรถไฟสายเก่าปากน้ำได้
- ถนนสุขุมวิท เป็นเส้นทางเดียวกันกับทางเดินรถไฟฟ้า จากถนนเส้นนี้สามารถพาเราเข้าเมืองไปยังสยามได้ หรือพาเราออกนอกเมืองไปยังบางนาได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังมีทางเเยกไปยังถนนต่างๆอีกหลายสาย เช่นที่ใกล้ๆโครงการเราก็จะมีถนนอ่อนนุช ถนนสุขุมวิท 71 หรือพระโขนงที่จะพาเราไปยังรามคำแหง หรือ ถนนเอกมัย ที่จะพาไปยังเอกมัย-รามอินทราได้
- ถนนทางรถไฟสายเก่าปากน้ำ ถนนเส้นนี้จะมีรถบรรทุกวิ่งผ่านเยอะหน่อย เพราะเป็นถนนที่ใกล้กับท่าเรือ สามารถใช้เดินทางไปยังโซนพระราม 4 หรือจะไปยังปากน้ำ สำโรง ปู่เจ้าได้
สำหรับการเดินทางแบบพึ่งพารถสาธารณะภายในซอยสุขุมวิท 50 ก็มีหลากหลายให้เลือกทั้ง รถสองแถว วินมอเตอร์ไซต์ แท็กซี่ และโครงการเรามีระยะห่างจาก BTS อ่อนนุชประมาณ 400 เมตร ถือว่าอยู่ในระยะเดินที่ใช้งานได้สะดวกครับ
อ่อนนุชเป็นทำเลที่มีทุกอย่างค่อนข้างพร้อม และอำนวยความสะดวกแก่การใช้ชีวิตในคอนโดได้ดี จึงมีโครงการใหม่ๆขึ้นมากมายหลายโครงการทั้งรอบๆรถไฟฟ้าเองและถนนใกล้เคียงให้เห็นกันอยู่ตลอด ด้วยความที่เป็นสุขุมวิทชั้นนอกเขยิบออกมาหน่อยสาธารณูปโภคอาจจะมีราคารองลงมาจากสุขุมวิทชั้นใน เช่น ร้านอาหาร ที่เที่ยว กินดื่มต่างๆ ซึ่งก็ไม่ได้เป็นปัญหาเพราะว่าก็ยังถือว่าออกมาจากสุขุมวิทชั้นในเพียงสถานีเดียว (หลังจากข้ามคลองพระโขนง) ส่วนความสะดวกในการจับจ่ายใช้สอยนั้นเรียกว่าสะดวกมากทีเดียว
สำหรับความอุดมสมบูรณ์นั้นอย่างที่บอกไปว่าย่านนี้เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยที่มีคอนโดอยู่เยอะมากทำให้มีพวก Hypermarket และ Community Mall ทยอยมาเปิดกันอย่างคึกคักมีทั้ง Tesco Lotus ที่อยู่ติด BTS อ่อนนุช ห่างจากโครงการเราประมาณ 300 เมตร อยู่ในระยะเดินใช้งานได้สะดวก, Big C Extra ในซอยอ่อนนุช รวมถึงตลาดสดที่อยู่ตรงข้ามด้วย ส่วน Community Mall จะมี 2 จุดที่ใกล้ๆคือ Phyll และ Century Movie Plaza เป็นแหล่งทานข้าวดูหนังที่ใกล้โครงการที่สุด แบบที่ไม่ต้องนั่งรถไฟฟ้าไปต่อที่ไหนเลย
แต่ถ้านับจากที่ตั้งโครงการเราเอง.. การจับจ่ายซื้อของหลักๆ ก็คงจะหนีไม่พ้น Tesco Lotus ที่ตั้งอยู่หน้าปากซอยโครงการ ซึ่งเป็นห้างค่อนข้างใหญ่ หากใครที่ชื่นชอบการทำอาหารเองก็จะมีตลาดสดอย่างตลาดอ่อนนุช และตลาดพระโขนงให้เลือกใช้บริการในระยะทางไม่ไกลมากนัก ถ้าเดินก็ประมาณ 850 ม.
วันนี้จะพาไปโครงการด้วยวิธีที่ง่ายที่สุด คือรถไฟฟ้า BTS สถานีอ่อนนุชนั่นเอง เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของโครงการเราเลยก็ว่าได้ เพราะมีระยะห่างเพียง 400 เมตร จากทางขึ้นลง BTS เริ่มต้นที่ลงจากสถานี เดินต่อไปบนถนนสุขุมวิทฝั่งมุ่งหน้าไปเอกมัยประมาณ 50 เมตร เพื่อเข้าซอยสุขุมวิท 50 จากนั้นเดินเข้าไปอีกประมาณ 350 เมตร จะเจอโครงการอยู่ติดถนนทางขวามือครับ ลองไปดูบรรยากาศกัน
เริ่มต้นที่ BTS สถานีอ่อนนุช เป็นสถานีที่ค่อนข้างคึกคักนะครับ เพราะมีที่พักอาศัยโดยรอบค่อนข้างเยอะ รวมไปถึงติดกับ Tesco Lotus ด้วยเช่นกัน
หลังจากลงจากขบวนรถมา ก็ให้ออกมาที่ประตูทางออกหมายเลข 2 นะครับ
ทางลงฝั่งนี้เป็นประตูที่ใช้เชื่อมต่อไปยัง Tesco Lotus ด้วยเช่นกัน สามารถซื้อของก่อนเข้าบ้านได้สะดวกเลย
ทีนี้ให้เราเดินลงทางขึ้นลงฝั่งทางมุ่งหน้าไปยังเอกมัยนะครับ
เมื่อลงมาแล้วก็เดินต่อไปบนถนนสุขุมวิทฝั่งมุ่งหน้าไปเอกมัยเลยครับ
หลังจากเดินมาประมาณ 50 เมตร ให้เลี้ยวเลี้ยวซ้ายเข้าซอยสุขุมวิท 50 เลยครับ
บริเวณหน้าปากซอยจะมีวินมอเตอร์ไซค์ให้บริการอยู่ด้วยค่อนข้างเยอะเลย
จากนั้นให้เดินเรียบ Tesco Lotus เข้าไปภายในเลยครับ หรือจะเดินฝั่งตรงข้ามก็ได้นะ แต่แนะนำว่าฝั่งนี้จะมีขนาดทางเดินที่กว้างกว่า และอีกอย่างคือมีแนวต้นไม้บังแดดให้ด้วย
ให้เราเดินตรงเข้าไปเรื่อยๆเลยครับ ไม่ต้องคิดอะไรมาก มีร้านคาเฟ่ ร้านค้ากระจายอยู่รอบๆทั้งสองฝั่ง รอให้ใช้บริการ เป็นร้านที่คอยอำนวยความสะดวกอยู่รอบๆ
เมื่อเดินเข้ามาสักพักจะมีคลองคางอยู่ด้วย มีสะพานข้ามคลอง ให้เราเดินต่อไปอีกนิดก็จะถึงแล้วครับ คลองนี้ไม่ได้ส่งกลิ่นหรือมลภาวะทางอื่นนะครับ
ข้ามสะพานมาไม่กี่เมตรก็เห็นแนวอาคาร Serio สุขุมวิท 50 อยู่ทางฝั่งขวามือแล้วล่ะครับ
เดินเข้ามาจากหน้าปากซอยประมาณ 350 เมตร ครับ แนวทางเดินฝั่งตรงข้ามอาคารที่เราเดินเข้ามาจะมีต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงาค่อนข้างเยอะ นะครับ แนะนำว่าถ้าเดินเข้ามาช่วงก่อนเที่ยงให้เดินเข้ามาแล้วค่อยข้ามถนนที่บริเวณหน้าโครงการแบบที่ผมพามาก็เดินสะดวกดีนะครับ ไม่ร้อน
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
มาดูพื้นที่รอบๆโครงการกันบ้างครับ ตัวโครงการของเรามีขนาดพื้นที่ประมาณไร่กว่าๆ เป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาวเข้าไป ภายในแบ่งออกเป็น 2 อาคาร ขนาดใกล้เคียงกัน แบ่งออกเป็นอาคาร B ทางฝั่งซอยสุขุมวิท 50 และอาคาร A อยู่ด้านในพื้นที่ โดยจะมีพื้นที่ส่วนกลางอยู่ตรงกลางระหว่างสองอาคาร จอดรถที่ชั้น 1 ทั้งหมด ห้องพักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 2
พื้นที่รอบโครงการส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่พักอาศัยทั้งหมด แบ่งออกเป็นคอนโดทางฝั่งทิศตะวันออก และบ้านพักอาศัยแนวราบทางฝั่งทิศเหนือและทิศตะวันตก ลองไปดูรายละเอียดแต่ละทิศดูนะครับ
- ทิศเหนือ – ของอาคาร B จะเป็นพื้นที่ส่วนกลางและอาคาร A ส่วนของอาคาร A จะเป็นพื้นที่ว่างและบ้านพักอาศัย 2 ชั้นครับ
- ทิศตะวันออก – ทั้งสองอาคารจะติดกับซอยตันเล็กๆ กว้างประมาณ 3 เมตร และ พื้นที่บ้านพักอาศัย 2 ชั้น สูงกว่ารั้วโครงการเล็กน้อย จึงไม่ส่งผลกับวิวของชั้นสูงทางฝั่งนี้เท่าไหร่
- ทิศใต้ – ของอาคาร B จะเป็นถนนสุขุมวิท 50 และพื้นที่โรงยิมมวย และพื้นที่ว่างฝั่งตรงข้าม ส่วนของอาคาร A จะเป็นพื้นที่ส่วนกลาง และอาคาร B ครับ
- ทิศตะวันตก – ทั้งสองอาคารจะติดกับ โครงการ Fair Tower เป็นอาคารสูง 12 ชั้น จึงทำให้วิวฝั่งนี้ค่อนข้างโดนบังทั้งหมด ทางโครงการจึงไม่ค่อยวางห้องพักอาศัยที่มีวิวทางฝั่งนี้เท่าไรนัก
มาลองดูพื้นที่รอบๆโครงการนี้กันครับ เริ่มจากลองเดินไปฝั่งปากซอยสุขุมวิท 50 ที่เราเดินเข้ามากันก่อนเลย
บริเวณนี้จะมีพื้นยกระดับให้เดินประมาณ 1 – 1.5 เมตร ไม่ค่อยกว้างนัก (สำหรับช่วงหน้าโครงการ) และเป็นแนวเสาไฟฟ้า ไม่มีร่มไม้ให้ร่มเงาเท่าไรนัก ผมจึงแนะนำให้เดินทางฝั่งตรงข้ามซะมากกว่า
เดินต่อมาจะมีซอยข้างโครงการ จะเห็นว่าเป็นซอยที่กว้างประมาณ 3 เมตร ภายในเป็นซอยตันโรยหินกรวดเข้าไปยาวจนถึงภายใน อีกฝั่งของรั้วกำแพงจะมีบ้านพักอาศัย 1-2 ชั้นครับ
ด้านในสุดจะเป็นอาคารพักอาศัย 1 ชั้น พื้นเทคอนกรีตแล้ว
กลับออกมาที่ซอยสุขุมวิท 50 ถัดจากซอยข้างโครงการมาก็จะมีรั้วบ้านพักอาศัย ที่เราเห็นติดกับซอยนั่นแหละครับ เป็นบ้านประมาณ 1-2 ชั้น เท่านั้น
เลยมาอีกก็จะเป็นทางสำหรับขึ้นลงทางด่วนพิเศษฉลองรัชครับ
จะมีคลองคางเรียบแนวถนนไปด้วยเช่นกันครับ
กลับมาดูฝั่งหน้าโครงการกันบ้าง จะมียิมสำหรับต่อยมวยออกกำลังกายและร้านอาหารอยู่ฝั่งตรงข้าม ให้ไปใช้งานกันได้
ลองไปดูฝั่งภายในซอยกันบ้างครับ ทางนี้ก็จะมีแนวทางเดินเข้าไปขนาดพอๆกันกับฝั่งเดินไปปากซอยเลย ฝั่งตรงข้ามจะมีแนวต้นไม้ให้ค่อนข้างร่มรื่นเลยทีเดียว
ติดกับโครงการเราเลยจะมีโครงการ Fair Tower สูง 12 ชั้น ยาวเข้าไปภายใน จึงทำให้วิวฝั่งทิศตะวันออกของโครงการเราจะโดนบังวิวทั้งหมด แต่ข้อดีของการอยู่ติดกับอาคารที่สูงกว่าคือจะทำให้ได้ร่มเงาของแนวอาคารนี้บังแดดให้ในช่วงบ่าย
เดินต่อเข้าไปภายในซอยจะเริ่มเงียบสงบมากขึ้น แต่มีแท็กซี่และวินมอเตอร์ไซค์ผ่านไปมาให้ใช้บริการได้ง่ายตลอดนะ ระยะทางเดินก็ไม่กว้างมากประมาณ 1.5 – 2 เมตร เริ่มมีต้นไม้ให้ร่มเงาบ้างแล้วครับ
ฝั่งตรงข้ามจะเป็นอาคารพักอาศัยและสำนักงาน 6 ชั้น ครับ
ถัดจากอาคาร Fair Tower มาหน่อยก็จะมี SAF Residence สูง 8 ชั้น แต่จะไม่มีผลกับวิวของเราแล้ว เพราะโดนบังไปตั้งแต่ Fair Tower 12 ชั้นแล้ว
ฝั่งตรงข้ามมีซอยบุญถม ซึ่งเป็นซอยตัน ภายในเป็นบ้านพักอาศัย ปากซอยจะมีร้านกาแฟให้บริการครับ
มุมมองทางฝั่งทิศใต้จากชั้น 7 อาคาร B – จะเป็นมุมมองไปยังฝั่งซอยสุขุมวิท 50 หน้าทางเข้าออกโครงการ จะเห็นยิมต่อยมวย มี Sale Gallery ของโครงการ Modiz บริเวณนี้ด้วย แต่ตัวอาคารของเขาไม่ได้อยู่ตรงนี้นะครับ วิวทางฝั่งนี้จึงจะค่อนข้างโล่งเลย
มุมมองทางฝั่งทิศตะวันออกจากชั้น 7 อาคาร B – ฝั่งนี้จะเป็นฝั่งที่ติดซอยและบ้านพักอาศัย เมื่อพื้นขึ้นมาด้านบนก็จัดว่ารับวิวได้ค่อนข้างโล่ง จะเห็นแนวถนนสุขุมวิท 50 อยู่นะ และกลุ่มอาคารโครงการ The Link ไกลๆ จัดว่าเป็นฝั่งที่มีห้องพักอาศัยเยอะ และรับวิวได้ค่อนข้างโล่ง
มุมมองทางฝั่งทิศเหนือจากชั้น 7 อาคาร A – ห้องพักอาศัยที่หันมารับวิวฝั่งนี้นั้นมีไม่เยอะ ซึ่งก็จะได้เป็นวิวโล่ง เพราะระยะประชิดจะเป็นพื้นที่พักอาศัยแนวราบทั้งหมด
มุมมองทางฝั่งทิศตะวันตกจากชั้น 7 อาคาร A – ฝั่งนี้เป็นอีกทิศที่ไม่ค่อยมีห้องพักอาศัยหันมามากนัก ซึ่งจะโดนบล็อควิวโดยโครงการ Fair Tower 12 ชั้นเกือบจะทั้งหมดครับ
มุมมองทางฝั่งทิศใต้จากชั้น 7 อาคาร A – จะเห็นอาคาร B ในระยะประมาณ 18 เมตร ซึ่งก็ไม่ได้มีระยะที่ใกล้จนเกินไปนัก ยังมีแสงและลมผ่านไปมาได้สะดวก รวมถึงการที่ตัวอาคารไม่ได้ใหญ่นักจึงทำให้สามารถได้รับวิวด้านข้างอยู่ด้วย
ส่วนถ้ามองลงไปด้านล่างก็เห็นพื้นที่ส่วนกลางของโครงการมาให้แทนสำหรับวิวทางฝั่งนี้ และทิศเหนือของอาคาร B
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- Tesco Lotus อ่อนนุช ~ 350 km.
- สถานี BTS อ่อนนุช ~ 400 m.
- Century The Movie Plaza Sukhumvit ~ 550 m.
- Phyll ~ 850 m.
- ตลาดสดอ่อนนุช ~ 850 m.
- สำนักงานเขตพระโขนง ~ 900 m.
- Big C Extra ~ 1 km.
- W Market ~ 1.4 km.
- Habito Mall ~ 1.4 km.
- Summer Hill ~ 1.5 km.
- Naiipa Art Complex ~ 1.6 km.
- มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ~ 2.3 km.
- โรงพยาบาล เทพธารินทร์ ~ 3.1 km.
- ท่าเรือคลองเตย ~ 3.8 km.
ต่อกันที่ภายในโครงการกันบ้าง พื้นที่โครงการอย่างที่บอกไปว่าเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาวเข้าไป แยกอาคารออกเป็น 2 อาคาร และมีอาคารพื้นที่ส่วนกลางอยู่ตรงกลาง จอดรถที่ชั้น 1 ทั้งหมด ห้องพักอาศัยจะเริ่มต้นที่ชั้น 2 แต่ละอาคารจะมีลิฟต์โดยสาร 2 ตัว และ บันไดหนีไฟ 2 จุด
อาคาร A – มีทั้งหมด 77 ยูนิต เป็นอาคารที่อยู่ด้านในพื้นที่โครงการ ทำให้จะได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่า เรื่องการเข้าถึงพื้นที่ส่วนกลางถ้าพูดถึงเรื่องระยะทั้งสองอาคารไม่ต่างกันมากนัก ที่จะแตกต่างคือถ้าเดินจากอาคาร A จะต้องเดินไปทางพื้นที่จอดรถ หรือภายนอกอาคาร แต่ถ้าไปจากอาคาร B จะออกจาก Lobby มาแล้วเจอเลย อีกอย่างคืออาคาร A จะมีจุด Drop Off ให้บริเวณหน้า Lobby ใต้แนวชายคา แต่จะมีขนาด Lobby ที่เล็กกว่าอาคาร B
อาคาร B – มีทั้งหมด 74 ยูนิต ตัวอาคารจะอยู่ฝั่งหน้าทางเข้าออกโครงการ ทำให้สามารถเข้าถึงได้ง่ายกว่า ในกรณีที่เดินเข้าออกก็ไม่ต้องเดินไกล อาคารนี้จะไม่มีจุด Drop Off ให้ แต่จะเป็นทางเดินเชื่อมต่อจากพื้นที่จอดรถแทน จุดที่แตกต่างอีกคือจะมี Lobby ที่มีขนาดใหญ่กว่าอาคาร A และใกล้กับพื้นที่ส่วนกลาง ทำให้สามารถเชื่อมต่อไปยังพื้นที่ส่วนกลางได้ง่ายกว่าเล็กน้อย รวมถึงพื้นที่จอดรถของอาคาร B จะมีช่องจอดแบบสองชั้นอยู่ 6 ช่อง (เดี๋ยวพาไปชมกัน)
พื้นที่ส่วนกลาง – พื้นที่ส่วนกลางของโครงการนี้จะรวมอยู่ที่จุดเดียว คือตรงกลางระหว่าง 2 อาคาร เป็นอาคาร 2 ชั้น และพื้นที่สระว่ายน้ำ ภายในจะประกอบไปด้วย สระว่ายน้ำและพื้นที่ริมสระ, ห้องนิติบุคคล, ห้องสมุด, ห้องน้ำแยกชาย-หญิง อย่างละห้อง และห้องออกกำลังกายที่ชั้น 2 ของอาคาร ก็จัดว่ามีมาให้ครบตามมาตรฐานการใช้งานทั่วไปนะครับ
ตัวโครงการเป็นอาคารสไตล์ Modern โทนสีขาว-เทา สร้างเสร็จมาเมื่อปีที่แล้วนะครับ สภาพโครงการปัจจุบันยังดูใหม่ทั้งพื้นที่ส่วนกลางและบรรยากาศต่างๆภายใน มีลูกบ้านเข้าอยู่กันพอสมควรแล้ว ซึ่งจำนวนห้องพักอาศัยที่ว่างก็มีเหลือไม่เยอะแล้วนะ
พื้นทางเข้าโครงการเป็นคอนกรีตพิมพ์ลาย บริเวณนี้จะเดินรถสวนกันเข้า-ออกนะครับ ตัวป้อมรปภ.จะอยู่ภายใน
เมื่อเข้ามาส่วนขวามือจะเป็นการเข้าจอดที่อาคาร B ซึ่งจะมีรั้วกั้นไม่กระดกอัตโนมัติ เข้าออกด้วยระบบ Keycard แบบ Easy Pass นะครับ ไม่ต้องเปิดกระจกออกมาเพื่อทาบบัตรอะไรทั้งนั้น ติดไว้กับตัวกระจกแบบทางด่วนก็ยกข้ึนให้เองเลย
ที่สำคัญคือที่นี่จะแยกพื้นที่จอดรถแต่ละอาคารกันชัดเจนนะครับ เพราะจะไม่สามารถเข้าถึงพื้นที่จอดรถของอีกอาคารที่เราไม่ได้อยู่อาศัยได้ ส่วนนี้จะช่วยให้ได้ความเป็นส่วนตัว และควบคุมการใช้งานได้ค่อนข้างชัดเจนนะครับ
เมื่อเข้ามาภายในจะเห็นข้อดีของการจอดที่ชั้น 1 ก็คือมีระยะพื้นถึงฝ้าค่อนข้างสูง ทำให้ได้แสงจากด้านข้างเยอะครับ ปลอดภัยและสะดวกสบาย
สำหรับอาคารนี้จะมีพื้นที่จอดรถแบบ 2 ชั้น อยู่ทั้งหมด 6 ช่อง บริเวณนี้จะมีทั้งหมด 4 ช่อง ซึ่งจะใช้ก็ต่อเมื่อพื้นที่จอดรถอื่นๆเต็ม
การทำงานของมันก็คือเมื่อมีรถมาจอดแล้วต้องการจะจอดเพิ่ม ก็ไปแจ้งนิติเพื่อมามากดปุ่มให้ ตัวพื้นจะถูกยกขึ้น ให้รถสามารถเข้าไปจอดได้ จากนั้นกดลง ก็จะมีคันนึงลงไปอยู่ด้านล่าง และอีกคันก็จอดอยู่ด้านบน ในกรณีที่ต้องการออกก็แจ้งนิติบุคคลมาจัดการให้ครับ จากที่สอบถาม พี่รปภ.มา บอกว่ายังไม่เคยได้ใช้จริงๆเลย เพราะรถไม่เต็มซะที
อีก 2 ช่องจะอยู่ด้านข้างทางฝั่งหน้าโครงการนะครับ ทำงานด้วยลักษณะเดียวกัน
พื้นที่ด้านในจะมีห้องเก็บของและห้องงานระบบทางฝั่งขวามือสุด ส่วนช่องซ้ายมือสุดจะเป็นทางเชื่อมต่อไปยังส่วนของ Lobby ครับ
เมื่อออกมา ด้านข้างทางเข้าที่จอดรถอาคาร B จะมีป้อม รปภ. ครับ ดูแลตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมพื้นที่จอดรถจักรยานยนต์ด้านข้าง
เมื่อเข้ามาด้านในพื้นโครงการจะไม่ได้เป็นคอนกรีตพิมพ์ลายแล้วนะ ก็ยังคงเป็นรถสวนกันสองทางเช่นเดิม
จะยังคงมีพื้นที่จอดรถอยู่ใต้อาคารด้วยนะครับส่วนนี้ เป็นพื้นที่จอดรถสำหรับ Visitor จำนวน 3 ช่อง
เมื่อมาถึงตรงจะพื้นที่จะเริ่มพบอาคารพื้นที่ส่วนกลาง และสระว่ายน้ำ ส่วนฝั่งซ้ายมือจะเป็นทางเข้าพื้นที่จอดรถของอาคาร A ก็จะมีส่วนรั้วกั้นไม้กระดกอีกส่วน
เป็นรั้วกั้นไม้กระดกแบบอัตโนมัติ และใช้การเข้าถึงด้วยระบบ Keycard แบบ Easy Pass เช่นเดิมครับ
ทางฝั่งอาคาร A ก็เช่นกันนะครับ จะสามารถจอดได้เฉพาะลูกบ้านที่อยู่ในอาคาร A เท่านั้น
เมื่อเข้ามาจะมีส่วน Drop Off ของอาคาร A เป็นส่วนที่อยู่ใต้ชายคา ทำให้สามารถใช้งานได้ง่ายสำหรับแดดแรงๆหรือฝนตก ซึ่งส่วน Drop Off แบบนี้อาคาร B จะไม่มีให้นะครับ แต่ก็มีส่วนอื่นที่มีข้อได้เปรียบมากกว่าอาคาร A อยู่เหมือนกัน
เข้ามาภายในจะเป็นพื้นที่จอดรถกลางแจ้ง ซึ่งของอาคาร B จะเป็นจอดใต้แนวอาคารทั้งหมด
ภายในอาคารจะเหลือที่จอดไม่เยอะนัก เพราะเป็นพื้นที่ของตัวอาคารด้วย
ภายในจะมีพื้นที่เชื่อมต่อไปยังส่วนกลางของโครงการครับ
อาจจะต้องเดินออกจากส่วนใต้แนวอาคารสักหน่อย ซึ่งถ้าฝนตกก็อาจจะต้องใช้ร่มกันบ้างนะครับ
ทีนี้มาดูพื้นที่ส่วนกลางของโครงการกันบ้างครับ จะมีตำแหน่งอยู่ระหว่างกลางของทั้งสองอาคาร ทำให้ในแต่ละอาคารฝั่งที่ต้องเห็นอีกอาคารก็จะได้เห็นวิวพื้นที่ส่วนกลางมาเพิ่มด้วย ส่วนนี้จะประกอบไปด้วย
- สระว่ายน้ำระบบเกลือ พร้อมสระเด็กและพื้นที่ริมสระ
- ห้องสมุด
- ห้องน้ำแยกชายหญิง
- ห้องออกกำลังกาย
- ห้องนิติบุคคล
เมื่อเดินขึ้นมาจะพบกับพื้นที่สระว่ายน้ำ เป็นพื้นที่เปิดโล่งที่ได้รับร่มเงาจากตัวอาคารโดยรอบ ทำให้สามารถใช้งานได้ค่อนข้างง่าย และหลากหลายเวลา
สระว่ายน้ำระบบเกลือระยะกว้างสุดประมาณ 10 x 7.3 เมตร ลึก 1.2 เมตร ส่วนนี้จะมีพื้นที่ริมสระสำหรับเดินได้ทั้งสองฝั่ง แต่ไม่รอบนะครับ รอบๆ มีแนวต้นไม้สำหรับช่วยสร้างบรรยากาศและบังสายตาให้ด้วย
ฝั่งด้านอาคาร A จะมีพื้นที่สำหรับวาง Sun Bed ให้ด้วย 3 ตัว
และมีพื้นที่ของสระเด็กให้ ลึก 0.6 เมตร พร้อมทางเดินขึ้นลงสระผู้ใหญ่
ส่วนฝั่งอาคาร B จะเป็นพื้นที่นั่งและมี Jet สำหรับนวดส่วนต่างๆ
ส่วนตัวอาคารชั้น 1 จะแบ่งออกเป็นส่วนของห้องนิติบุคคล และห้องสมุดครับ เป็นแนวกระจกที่ทำให้ดูโล่งและโปร่งมากยิ่งขึ้น
ภายในส่วนของห้องสมุดปัจจุบันเป็นส่วนของสำนักงานขายนะครับ ซึ่งถ้าปิดโครงการเมื่อไหร่จะเปลี่ยนเป็นห้องสมุด ขนาดภายในก็ไม่ได้กว้างนัก แต่สามารถมานั่งทำงานอ่านหนังสือรับวิวสระว่ายน้ำกันได้ หรือเป็นส่วนของ Lobby ของพื้นที่ส่วนกลางนี้ก็ว่าได้
ด้านข้างจะมีแนวทางเดินอ้อมไปด้านหลัง ซึ่งจะเป็นส่วนของห้องน้ำครับ
ตัวห้องน้ำเองจะอ้อมมาได้ทั้งสองฝั่งเลยนะ
เป็นส่วนของห้องน้ำแยกชายหญิงครับ ภายในจะมีให้ส่วนละหนึ่งห้อง มีลักษณะคล้ายกับห้องน้ำในห้องพักอาศัยที่รวมทั้งส่วนอาบน้ำและส่วนห้องน้ำไว้ภายในทั้งหมดใช้งานได้ทีละหนึ่งคนครับ
ทีนี้มาดูที่ชั้นสองกันบ้างนะครับ จะมีแนวบันไดขี้นไปด้านบนพร้อมราวจับ เป็นบันไดโปร่งทำให้ช่วยเรื่องของลมที่สามารถผ่านไปมาได้ และไม่ทำให้ดูทึบจนเกินไป
ด้านบนเป็นห้องออกกำลังกาย ที่จัดพื้นที่มาให้ค่อนข้างโล่งเหมือนกันนะ ที่สำคัญคือเป็นแนวกระจกรับวิวด้านล่างเต็มๆ
มีส่วนที่เป็นการออกกำลังกายแบบ Weight Training คือจะให้ส่วนของดัมเบลมาด้วย
นอกนั้นจะเน้นไปที่การออกกำลังกายแบบ Cardio เป็นหลัก ด้วยส่วนของ ลู่วิ่ง 2 ลู่ เครื่องปั่นจักรยาน 1 เครื่อง และเครื่องเดินวงรี 1 เครื่องครับ
ด้านบนนี้จะได้รับวิวสระว่ายน้ำด้านล่างนะครับ ค่อนข้างสวยงามเลยทีเดียว
เข้าไปดูภายในอาคารด้านข้างกันบ้างดีกว่า เริ่มที่อาคาร B ทางฝั่งหน้าพื้นที่โครงการเลยนะครับ
เป็นแนวทางเดินที่เชื่อมต่อไปยัง Lobby ลดระดับลงเล็กน้อย
ทางเข้า Lobby ของอาคารนี้จะอยู่ด้านข้าง หันหน้าให้พื้นที่ส่วนกลางครับ มีชายคาให้เล็กน้อย ด้านข้างที่เห็นเป็นช่องนั่นคือทางที่เชื่อมมาจากพื้นที่จอดรถ
Lobby ของอาคาร B จะมีขนาดใหญ่กว่าของอาคาร A เพราะมีพื้นที่นั่งเล่นภายในค่อนข้างเยอะ
ด้านในจะเป็นโถงลิฟต์ชั้น 1 ซึ่งจะมีช่องแสงให้ด้วยเช่นกันครับ ตกแต่งด้วยพื้นและผนังลายหินอ่อนเหมือนส่วน Lobby
เมื่อขึ้นมาที่ชั้นพักอาศัยด้านบนก็ยังคงมีช่องแสงให้นะครับ แต่จะเปลี่ยนสีกระเบื้องพื้นเป็นสีครีม ผนังเป็นฉาบเรียบทาสี
โถงทางเดินของห้องพักอาศัยจะมีบางส่วนที่เป็น Single Corridor ด้วยนะ
แต่ส่วนใหญ่จะเป็นแบบ Double Corridor นะครับ
สุดมุมทางเดินก็จะมีช่องแสงให้ พร้อมบานกระทุ้งที่สามารถเปิดรับลมระบายอากาศได้
ลองเข้าไปดูภายในอาคาร A กันบ้าง
ภายในจะมีขนาด Lobby ไม่กว้างเท่าอาคาร B แต่จัดว่ามีขนาดพอดีสำหรับใช้งาน รวมฟังก์ชัน เป็นทั้ง Lobby, โถงลิฟต์ และส่วนของ Mail Box ไว้ด้วยกัน มีโซฟาให้นั่งพักคอยได้ และลิฟต์โดยสาร 2 ตัว ซึ่งจะมีอัตราส่วนลิฟต์ทั้งอาคารอยู่ที่ 1 : 38.5 ยูนิต ซึ่งถิือว่าน้อย และได้ความเป็นส่วนตัวสูงเลย
อีกฝั่งจะมี Sofa ให้ตัวเดียวเท่านั้น พร้อมช่องแสงที่มองเห็นส่วนกลางของโครงการ
ลิฟต์ที่นี่จะเป็นแบบล็อคชั้นนะครับ ของ Schindler ปุ่มจะเป็นแบบ Touch Screen
เมื่อขึ้นมาด้านบน โถงลิฟต์ของอาคาร A จะได้ช่องแสงค่อนข้างใหญ่ เต็มแนว มีบานกระทุ้งให้สำหรับเปิดรับลมระบายอากาศ
ส่วนโถงทางเดินจะเป็น Double Corridor ทั้งหมดนะครับ
ที่มุมอาคารจะมีช่องแสงให้ด้านข้างด้วย จัดว่าดีนะครับที่พยามจะเปิดช่องแสงให้ด้วย ที่สำคัญคือเปิดเป็นช่องลมได้ด้วย ทำให้โถงทางเดินภายในเกิดการหมุนเวียนอากาศครับ
มาดูห้องพักอาศัยกันบ้างดีกว่า ผังห้องพักอาศัยของที่นี่จะเหมือนกันทั้งหมดตั้งแต่ชั้น 2-8 นะครับ ซึ่งจะมีรูปแบบห้องค่อนข้างหลากหลายตามตำแหน่งเลย โดยจะมีห้องพักอาศัยอาคารละ 11 ห้อง/ชั้น เท่ากัน
- อาคาร A – จะมีลักษณะตัวอาคารเป็นตัว L ซึ่งจะวางโถงลิฟต์ไว้ตรงกลาง ทำให้สามารถเข้าถึงได้ง่ายจากทุกพื้นที่วิวส่วนใหญ่จะเน้นไปที่ทิศเหนือ ทิศตะวันออก และทิศใต้ ส่วนฝั่งทิศตะวันตกที่ติดแนวอาคาร Fair Tower 12 ชั้น จะเปิดไปเพียง 2 ยูนิตเท่านั้น ซึ่งเป็นห้อง 1 Bedroom ขนาดเล็กประมาณ 27 ตร.ม. (สีม่วง) ตรงกลางอาคารส่วนใหญ่จะเป็นห้อง 1 Bedroom ขนาดประมาณ 32-37 ตร.ม. (สีฟ้า)
และมีห้องพิเศษที่จะมีเพียงชั้นละยูนิตที่มุมอาคาร เป็นห้อง 1 Bedroom ขนาด 41.24 ตร.ม. (ห้องสีเขียวฝั่งมุมอาคารทิศตะวันตก) และมุมอาคารอีกฝั่งที่เป็นห้อง 2 Bedroom ขนาด 49.99 ตร.ม. (ห้องสีแดง ฝั่งมุมอาคารทิศตะวันออก) และห้อง Studio ขนาดเล็ก 21.66-21.7 ตร.ม. (ห้องสีม่วงที่มุมอาคารฝั่งทิศตะวันตก) อย่างละ 1 ยูนิต
- อาคาร B – จะมีตัวอาคารเป็นลักษณะตัว T มีถึงลิฟต์ที่ปลาย ซึ่งจะมีห้องบางส่วนต้องเดินไกลหน่อย แต่ก็จะได้ความเป็นส่วนตัวเพิ่มมากขึ้น ระยะที่ไม่ต้องมีใครเดินผ่าน และจาก Single Corridor ด้วย อาคารนี้ปกติจะมีชั้นละ 11 ยูนิต แต่ที่ชั้น 2 จะมี 8 ยูนิต (เนื่องจากปรับแบบตอนก่อสร้างเล็กน้อย) จึงทำให้รวมมี 74 ยูนิต น้อยกว่าอาคาร A 3 ยูนิต วิวส่วนใหญ่จะรับ 3 ทิศหลักเหมือนกันกับอาคาร A จะมีห้อง 1 Bedroom ขนาด 29.64-29.47 ตร.ม. จะมีเพียง 2 ยูนิตเท่านั้นที่หันไปทางทิศตะวันออก ซึ่งเป็นฝั่งที่โดนบล็อควิว และส่วนใหญ่จะเป็นห้อง 1 Bedroom ขนาด 31.71-32.48 ตร.ม. (สีฟ้า)
ส่วนห้องพิเศษที่จะมีเพียงชั้นละ 1 ห้องของอาคารนี้จะเป็น ห้อง 1 Bedroom ขนาด 38.68 ตร.ม. (สีเหลืองทางทิศใต้) และ ห้อง 2 Bedroom ขนาด 50.75 ตร.ม. (สีแดงทางทิศตะวันออก) ที่มุมอาคารอย่างละห้อง
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- Lobby แยก 2 อาคาร
- Mailbox
- สระว่ายน้ำระบบ เกลือ ระยะกว้างสุดประมาณ 10 x 7.3 เมตร ลึก 1.2 เมตร
- สระเด็ก ลึก 0.6 เมตร
- ห้องออกกำลังกาย ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 5-6 เครื่อง
- ห้องสมุด
- ห้องน้ำแยกชายหญิง
- ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
- อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 37.75 : 1
- อัตราส่วนลิฟต์ตึก A 38.5 : 1
- อัตราส่วนลิฟต์ตึก B 37 : 1
- ที่จอดรถประมาณ 77 คันคิดเป็น 50% รวมจอดซ้อนคัน
- ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ CCTV / Key Card
มาดูส่วนห้องพักอาศัยกันบ้างนะครับ ปัจจุบันตัวโครงการเหลือห้องให้เลือกไม่เยอะมากแล้วนะ ซึ่งจะประกอบไปด้วย
- Studio 21.66-21.7 ตร.ม. จำนวน 6 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 2.79 ล้านบาท
- 1 Bedroom 27.33-40.9 ตร.ม. จำนวน 131 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 3.39 ล้านบาท
- 2 Bedrooms 51.06-52 ตร.ม. จำนวน 14 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 5.99 ล้านบาท
ทุกห้องขายในรูปแบบ Fully Furnished ที่จะได้มาค่อนข้างครบ หน้าตาตามห้องตัวอย่าง ตั้งแต่ ชุดครัว โต๊ะรับประทานอาหาร โซฟา ชั้นวางทีวี ตู้รองเท้า ตู้เสื้อผ้า ฐานเตียง 5 ฟุต และ โต๊ะหัวเตียง ส่วนวัสดุอื่นๆภายในห้องจะประกอบไปด้วย ประตูไม้สังเคราะห์พร้อม Digital Door Lock พื้นห้องเป็นไวนิล ผนังและฝ้าฉาบเรียบทาสี ส่วนห้องน้ำจะปิดผิวพื้นและผนังด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้แผ่นใหญ่ และระเบียงเป็นกระเบื้องเซรามิค อุปกรณ์และสุขภัณฑ์ในห้องน้ำเป็นของ Hafele หรือเทียบเท่า ได้ฉากกั้นอาบน้ำและเครื่องทำน้ำอุ่นมาด้วย เครื่องปรับอากาศจาก Daikin ไฟต่างๆเป็น Downlight ทั้งหมด ปลั๊กและสวิทช์เป็นของ Panasonic หรือเทียบเท่า
มาดูห้องพักอาศัยแบบที่มีเยอะที่สุดในโครงการกันครับ กับ 1 Bedroom ขนาด 31.70 ตร.ม. เป็นห้องที่มีลักษณะเป็น 4 เหลี่ยมผืนผ้า ที่จัดเฟอร์นิเจอร์มาให้ค่อนข้างลงตัวกับขนาดของพื้นที่ภายในห้อง ได้ห้องครัวเปิดช่วยทำให้ห้องดูโล่งและกว้างมากยิ่งขึ้น ที่เหมาะกับคนที่ไม่ค่อยทำอาหารมากนัก ส่วนทางเข้ามีตู้เก็บรองเท้ามาให้เรียบร้อย ทำให้ไม่ต้องไปรบกวนพื้นที่ภายในห้อง ห้องนอนจะได้เป็นห้องนอนปิด(ประตูทึบ) ได้ความเป็นส่วนตัว
พื้นที่ภายในแบ่งออกเป็น 5 ส่วน ห้องครัว ห้องน้ำ ห้องนั่งเล่น ห้องนอน และระเบียงซักล้าง เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะเจอกับเคาน์เตอร์ครัว รูปตัว L ที่เชื่อมต่อไปกับพื้นที่รับประทานอาหาร ฝั่งตรงข้ามจะตู้เก็บรองเท้าและห้องน้ำมาให้ ภายในห้องจะมีห้องนั่งเล่นที่ติดกับผนังอาคาร ทำหน้าที่เป็นช่องแสงหลักของห้อง เปิดรับลมระบายอากาศได้ ด้านข้างจะเชื่อมต่อไปภายในห้องนอน ที่มีพื้นที่สำหรับวางเตียง 5 ฟุตและได้โต๊ะหัวเตียงและตู้เสื้อผ้ามาให้ด้วย ภายในจะเชื่อมต่อไปยังระเบียงซักล้าง สำหรับออกมายืนรับลมและเป็นช่องแสงภายในห้องได้
เริ่มต้นหน้าห้องที่ประตูไม้สำเร็จรูปที่มาพร้อม Digital Door Lock ของ Yale ครับ
เมื่อเข้ามาภายใน ห้องจะมีขนาดความสูงอยู่ที่ 2.4 เมตร พื้นห้องเป็นไวนิล มีคุณสมบัติกันน้ำได้ดีกว่าลามิเนต แต่ผิวสัมผัสจะไม่เหมือนกับไม้จริงเท่า ส่วนผนังและฝ้าเป็นฉาบเรียบทาสี เข้ามาส่วนแรกที่เราจะเห็นกันหลักๆจะเป็นพื้นที่ครัวครับ มีลักษณะเป็นเคาน์เตอร์ตัว L
พื้นที่หน้าห้องหลักๆจะเป็นส่วนครัวครับ ฝั่งตรงข้ามจะเป็นห้องน้ำ ซึ่งจะมีตู้รองเท้าอยู่ด้านข้างให้ด้วย ช่วยให้สามารถจัดเก็บได้สะดวก ไม่ไปรบกวนพื้นที่ภายในห้อง
มาดูส่วนเคาน์เตอร์ครัวกันก่อนเลย เป็นเคาน์เตอร์ทรงตัว L ที่สามารถกั้นปิดก็ได้ แต่ถ้าใครที่ไม่ได้ชอบทำอาหารเป็นประจำ จะเปิดไว้แบบนี้ก็ทำให้ห้องดูโล่งดีเหมือนกัน
ด้านบนจะเป็นชั้นเก็บของขนาดใหญ่หน่อย ให้มาแบบนี้เลย
ส่วนกลางจะเป็นเคาน์เตอร์ทรงตัว L ข้อดีคือใช้งานได้สะดวกและมีพื้นที่สำหรับเตรียมอาหารค่อนข้างเยอะ ให้อ่างล้างจานและเตาไฟฟ้าพร้อมเครื่องดูดควันมาด้วย
เป็นเตาไฟฟ้ากับเครื่องดูดควันแบบหมุนวนภายในจาก TEKA ที่มาพร้อมผนังกระจก Backsplash ผิวมัน สามารถทำความสะอาดได้ง่าย และอ่างล้างจานสเตนเลสแบบหลุมเดี่ยวทรงสี่เหลี่ยมจาก TEKA เช่นกัน
ช่องด้านล่างจะมีช่องใหญ่ใต้อ่างล้างจาน ส่วนอีกฝั่งจะเป็นพื้นที่สำหรับใส่เครื่องซักผ้าครับ
ฝั่งตรงข้ามจะมีห้องน้ำ ซึ่งจะมีตู้เก็บรองเท้าที่ Built-in มาระนาบเดียวกับผนังดูเรียบร้อยดี เป็นช่องสำหรับวางรองเท้าก็ได้ หรือจะเก็บของทั่วไปก็ได้
ส่วนหน้าห้องนี้จะได้ไฟ Downlight 2 ดวง
มาดูห้องน้ำกันต่อเลย ฝั่งตรงข้ามห้องครัว หน้าตาดูดีใช้ได้เลยครับ ให้มาตามนี้ทุกอย่าง ยกเว้นอุปกรณ์ตบแต่งนะ พื้นและผนังจะเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้แผ่นใหญ่
พื้นที่ภายในค่อนข้างกว้าง ใช้งานได้สะดวก ระดับพื้นห้องน้ำจะลดลงจากภายในห้องเล็กน้อย
ให้กระจกเงาบานใหญ่มาให้แบบนี้เลยครับ พร้อมผนัง Low Wall ที่สามารถวางของได้ค่อนข้างเยอะ
อ่างล้างหน้าเซรามิคจาก Hafele มีพื้นที่วางของด้านข้างให้ค่อนข้างเยอะเลย หรือถ้าไม่พอก็ยังมีส่วนผนัง Low Wall ด้านหลังให้อีกนะ
ส่วนสุขภัณฑ์เป็นโถเซรามิคแบบชิ้นเดียว ซึ่งจะมีข้อดีคือรอยต่อน้อยทำให้ลดพื้นที่สะสมสิ่งสกปรกและแบคทีเรียได้ดีกว่าแบบ 2 ชิ้นทั่วไป (แยกตัวโถกับถังน้ำ) พร้อมอุปกรณ์ชำระล้างติดตั้งในตำแหน่งที่เหมาะสมพร้อมใช้งาน
ส่วนอาบน้ำจะให้ฉากกั้นอาบน้ำแบบนี้เลย เป็นฉากกั้นกระจกบานเปิด ผลักเข้าด้านใน มีราวจับให้เรียบร้อย
ภายในมีพื้นที่สำหรับอาบน้ำได้สบายๆ พร้อมชั้นวางของสำหรับวางอุปกรณ์อาบน้ำด้านข้าง
ส่วนอาบน้ำจะให้ทั้ง Hand Shower และ Rain Shower มาให้เลือกใช้ พร้อมที่วางสบู่ด้านข้าง แถมเครื่องทำน้ำอุ่นติดตั้งมาให้เรียบร้อยพร้อมใช้งานเลย
ฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสีพร้อมไฟ Downlight 2 ดวง และพัดลมดูดอากาศ
มาดูส่วนต่อไปภายในห้องครับ เป็นพื้นที่ห้องนั่งเล่น ที่จะรวมพื้นที่รับประทานอาหารไว้ด้วยเลย มีตำแหน่งอยู่ตรงกลางระหว่างพื้นที่นั่งเล่นและครัว ซึ่งจะช่วยให้สะดวกแก่การใช้งาน ควบคุมความสะอาดได้ง่าย ไม่ต้องถือไปมา
พื้นที่รับประทานอาหารที่จะได้มาจะเป็นแนวโต๊ะหันเข้าเคาน์เตอร์พร้อมเก้าอี้ 2 ตัว ซึ่งจะเหลือพื้นที่ด้านหลังค่อนข้างเยอะ ตรงนี้ถ้าใครรับแขกบ่อยจะเอาโต๊ะชุดนี้ออก (ย้ายไปพื้นที่ริมหน้าต่างในห้องนอน) และเปลี่ยนเป็นโต๊ะสี่เหลี่ยมสำหรับ 4 ที่นั่งก็ได้นะครับ มีพื้นที่รอบรับ จะสามารถนั่งทานข้าวแบบดูทีวีไปด้วยได้สะดวกด้วย
พื้นที่นั่งเล่นจัดเฟอร์นิเจอร์มาให้คือโซฟาแบบในชุด และชั้นวางทีวี ตรงนี้จะมีระยะดูทีวีค่อนข้างกว้าง ทำให้สามารถวางทีวีได้ขนาดใหญ่ แนะนำว่าถ้าติดทีวีแขวนผนัง จะได้พื้นที่วางของที่ชั้นวางทีวีเพิ่ม หรือจะเปลี่ยนเป็นโต๊ะกลางระหว่างทีวีและโซฟาสำหรับวางของก็ได้ครับ
ชุดโซฟาที่ได้จะหน้าตาแบบนี้เลย สามารถนั่งและนอนได้สบายๆ
ชั้นวางทีวีก็หน้าตาแบบนี้เลยครับ จะมีช่องเก็บของด้านล่างและลิ้นชักสำหรับแยกเก็บแต่ละชนิด
ที่ริมหน้าต่างจะให้แนวกระจกมาเต็มความสูงเลย (2.4 เมตร) แบ่งออกเป็น 3 ตอน มีบานกระทุ้งเปิดรับลมระบายอากาศได้
บริเวณนี้จะซ่อนรางม่านไว้ให้ด้วย แต่ม่านไม่ได้ให้มานะครับ
ฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสีพร้อมไฟ Downlight 4 ดวงครับผม ได้เครื่องปรับอากาศ Daikin มาด้วย
มาดูห้องด้านข้างกันต่อเลย จะเป็นห้องนอนประตูบานทึบ ซึ่งจะได้ความเป็นส่วนตัว อยู่ในตำแหน่งที่เข้าใช้งานห้องน้ำได้ง่าย
ภายในมีขนาดกำลังพอดี เหมาะสำหรับอยู่ 1-2 คน มีแนวกระจกให้แสงธรรมชาติภายใน ห้องนี้จะได้ฐานเตียง โต๊ะหัวเตียง ตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเครื่องแป้งหน้าตาแบบห้องตัวอย่างเลยครับ
เมื่อวางเตียงขนาด 5 ฟุตแล้วก็ยังเหลือพื้นที่ภายในห้องสำหรับเดินได้รอบ วางโต๊ะหัวเตียงได้ทั้งสองฝั่ง (มีมาให้ หน้าตาแบบนี้เลย) มีตู้เสื้อผ้ามาให้ซึ่งก็มีพื้นที่สำหรับยืนใช้งานได้สบายๆ
ที่ปลายเตียงมีสวิทช์สำหรับเตรียมแขวนทีวีติดผนังให้
ซึ่งถ้าติดแล้วอาจจะเดินปลายเตียงได้ลำบากสักหน่อย
ด้านข้างมีช่องเปิดกระจกบานสไลด์กรอบบาน Powder Coat กระจกเขียวใสตัดแสงพร้อมตัวล็อค 2 ชั้น
มียกระดับรางประตูสูงขึ้นเพื่อป้องกันน้ำและสิ่งสกปรกเข้าภายในห้อง พื้นที่ภายนอกไม่มานักสามารถออกไปยืนสูดอากาศรับลมได้
แขวน Condensing Unit 2 ตัว พร้อมแนวระแนงปิดให้เรียบร้อย มีไฟ Downlight มาให้ 1 ดวง
ภายในจะมีตู้เสื้อผ้า Built-in มาให้หน้าตาแบบนี้เลยครับ ดูเรียบร้อยและเนียนไปกับผนัง
จะเป็นบานสไลด์ที่สามารถเปิดได้ทีละบานเท่านั้น สามารถใช้งานได้สะดวก ข้อดีของบานสไลด์ คือไม่เปลืองระยะเปิดหน้าตู้
มีบานเปิดด้านในสำหรับเก็บของชิ้นเล็ก ด้านข้างมีโต๊ะเครื่องแป้งพร้อมเก้าอี้และแนวกระจกเงามาให้ด้วย
ห้องนอนจะได้ไฟ Downlight 2 ดวง พร้อมเครื่องปรับอากาศจาก Daikin ฝ้าฉาบเรียบทาสีเช่นเดิม
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 20 November 2019
- 1 Bedroom อาคาร B ชั้น 5 ห้อง B501 เนื้อที่ 27.33 ตร.ม. ราคา 3.38 ล้านบาท หรือ 122,531 บาท/ตร.ม.
- 1 Bedroom อาคาร B ชั้น 4 ห้อง B401 เนื้อที่ 27.33 ตร.ม. ราคา 3.28 ล้านบาท หรือ 120,589 บาท/ตร.ม.
- 1 Bedroom อาคาร B ชั้น 6 ห้อง B610 เนื้อที่ 28.68 ตร.ม. ราคา 3.55 ล้านบาท หรือ 124,195 บาท/ตร.ม.
- 1 Bedroom อาคาร A ชั้น 7 ห้อง A704 เนื้อที่ 31.7 ตร.ม. ราคา 3.9 ล้านบาท หรือ 123,600 บาท/ตร.ม.
- 1 Bedroom อาคาร A ชั้น 5 ห้อง A507 เนื้อที่ 32.24 ตร.ม. ราคา 3.93 ล้านบาท หรือ 122,295 บาท/ตร.ม.
- 1 Bedroom อาคาร B ชั้น 2 ห้อง B205 เนื้อที่ 36.96 ตร.ม. ราคา 4.34 ล้านบาท หรือ 118,120 บาท/ตร.ม.
- 1 Bedroom อาคาร B ชั้น 5 ห้อง B503 เนื้อที่ 40.87 ตร.ม. ราคา 5.07 ล้านบาท หรือ 124,316 บาท/ตร.ม.
- รูปแบบการขาย Fully Furnished
- ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.40 เมตร
- Kitchen & Sink / Top ครัวสอบถามทางโครงการอีกทีนะครับ
- Hob & Hood / ของยี่ห้อ TEKA
- จอง 10,000 บาท
- ทำสัญญา 0 บาท
- ค่ากองทุน 550 บาท/ตร.ม.
- ค่าส่วนกลาง 55 บาท/ตร.ม./เดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ
เพิ่มเติมข้อมูลการติดต่อ
– เบอร์โทร 098 841 5522 และ Line @ C1RE
– ลงทะเบียนรับส่วนลด : www.capital-th.com/serio
– Facebook : www.facebook.com/capitalone.thailand
– ตัวแทนขาย บริษัท แคปปิตอล วัน เรียลเอสเตท จำกัด
ทำเล : โครงการอยู่ในย่านอ่อนนุช จัดย่านพักอาศัยที่ได้รับความนิยมทำเลหนึ่ง เพราะสามารถเดินทางเข้าเมืองต่อเนื่องไปในย่านสุขุมวิทได้สะดวก ในย่านนี้จึงมีทั้งคนที่อยู่กันแต่เดิมและกลุ่มคนที่พึ่งย้ายเข้ามาอยู่เกาะตามแนวรถไฟฟ้า BTS ซึ่งที่พักอาศัยก็จะมีหลายหลากทั้งแนวราบและคอนโด ส่วนที่ตั้งโครงการจะอยู่ในซอยสุขุมวิท 50 ทำให้เข้าถึงและเป็นที่สังเกตได้ง่าย เรียกรถสาธารณะใช้งานสะดวก รอบบริเวณที่ตั้งโครงการจะเป็นบ้านพักอาศัยและคอนโดเกือบทั้งหมด สำหรับความอุดมสมบูรณ์ในย่านนี้ทั้งด้านอุปโภคบริโภคสูงพอตัวเรียกว่าหาของกินของใช้ไม่ยาก แหล่งจับจ่ายซื้อของหลักๆ ที่อยู่ใกล้ตัวโครงการก็คงจะเป็น Tesco Lotus ที่อยู่ในระยะเดินประมาณ 350 เมตร รวมไปถึงรถไฟฟ้าสถานีอ่อนนุชที่เดินไปใช้บริการได้ง่ายเพียงประมาณ 400 เมตร ก็มีให้เลือกใช้ได้ค่อนข้างครบ ทั้งวินมอเตอร์ไซค์และแท็กซี่มีผ่านไปมาในซอยตลอด
การเดินทางโดยใช้รถ : ตัวโครงการตั้งอยู่ติดถนนใหญ่อย่างซอยสุขุมวิท 50 ซึ่งเป็นซอยที่สามารถทะลุออกถนนได้หลากหลาย ทั้ง ถนนสุขุมวิท และถนนทางรถไฟสายเก่าปากน้ำ จึงทำให้สามารถเดินทางได้หลากหลายและเข้าถึงได้ง่าย ที่สำคัญคือใกล้กับจุดขึ้นลงทางขึ้นลงทางด่วน ทั้ง 2 สายคือ ทางด่วนฉลองรัช และทางด่วนเฉลิมมหานคร สำหรับใครที่ใช้รถยนต์ส่วนตัวและเดินทางด้วยทางด่วนเป็นประจำก็จัดว่าสะดวกเลย มีพื้นที่จอดรถให้ประมาณ 77 คันคิดเป็น 50% รวมจอดซ้อนคัน
การเดินทางโดยไม่ใช้รถ : ที่สะดวกที่สุดจะเป็น BTS อ่อนนุช ที่ห่างออกไปประมาณ 400 เมตร อยู่ในระยะเดิน ที่มีพื้นที่ทางเดินได้สะดวกสบาย นอกจากนี้ก็มีพี่วินที่อยู่ภายในซอยตามจุดต่างๆตลอด แถมภายในซอยสุขุมวิท 50 เองก็มีพี่วิน รถแท็กซี่ รถสองเเถว วิ่งรับ–ส่งอยู่ตลอดทั้งวันในซอย ให้เรียกใช้ได้ง่ายด้วย
วัสดุ : ให้มาแบบ Fully Furnished ได้ทั้งเฟอร์ Built-In และลอยตัว ได้ค่อนข้างเยอะ ชนิดที่เรียกว่า ขาดแค่ฟูกเตียงก็สามารถย้ายเข้ามาอยู่ได้เลย ตั้งแต่ ชุดครัว โต๊ะรับประทานอาหาร โซฟา ชั้นวางทีวี ตู้รองเท้า ตู้เสื้อผ้า ฐานเตียง 5 ฟุต และ โต๊ะหัวเตียง ส่วนวัสดุอื่นๆภายในห้องจะประกอบไปด้วย ประตูไม้สังเคราะห์พร้อม Digital Door Lock พื้นห้องเป็นไวนิล ผนังและฝ้าฉาบเรียบทาสี ส่วนห้องน้ำจะปิดผิวพื้นและผนังด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้แผ่นใหญ่ และระเบียงเป็นกระเบื้องเซรามิค อุปกรณ์และสุขภัณฑ์ในห้องน้ำเป็นของ Hafele หรือเทียบเท่า ได้ฉากกั้นอาบน้ำและเครื่องทำน้ำอุ่นมาด้วย เครื่องปรับอากาศจาก Daikin ไฟต่างๆเป็น Downlight ทั้งหมด ปลั๊กและสวิทช์เป็นของ Panasonic หรือเทียบเท่า
การออกแบบ : เป็นโครงการ Low Rise ที่แยกออกเป็น 2 อาคาร มีจำนวนยูนิตเพียงอาคารละ 77 และ 74 ยูนิต มีอัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 37.75 : 1 ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวค่อนข้างสูง แยกพื้นที่จอดรถแต่ละอาคารออกจากกันชัดเจน มีอาคารพื้นที่ส่วนกลางอยู่ตรงกลางอยู่ตรงกลางระหว่างสองอาคาร ทำให้สามารถเข้าใช้งานได้ง่ายและเป็นวิวให้พื้นที่ห้องพักอาศัยด้วย การวางห้องพักอาศัยของแต่ละอาคารจะค่อนข้างคำนึงถึงมุมมอง ทำให้มีรูปแบบห้องมากถึง 12 แบบ จะเน้นรับวิวทิศที่ค่อนข้างโล่ง ส่วนทิศที่มีอาคารสูงในระยะประชิดจะมีห้องพักอาศัยที่หันไปเพียงอาคารละ 2 ยูนิต/ชั้น เท่านั้น แยกพื้นที่ส่วนกลางและพื้นที่พักอาศัยออกจากกันอย่างชัดเจน ได้แนวอาคารพักอาศัยของเรา และอาคารข้างเคียงช่วยบังแดดให้กับพื้นที่ส่วนกลางให้ ทำให้สามารถใช้งานในช่วงบ่ายได้สะดวก
ห้องพักอาศัยจะมีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ ซึ่งแต่ละแบบถูกออกแบบมาให้เหมาะสมกับลักษณะพื้นที่มากที่สุด เช่นการวางห้องมุมที่มีขนาดใหญ่มากขึ้น จึงทำให้มีห้องแบบพิเศษที่มีเพียงชั้นละ 1 ห้อง ให้เห็นกันทั้งสองอาคาร ส่วนการขายในรูปแบบ Fully Furnished ของที่นี่ เขาก็ให้เฟอร์นิเจอร์ที่มีขนาดและลงตัวกับพื้นที่ห้อง ทั้ง Furniture Built-in และแบบลอยตัว มีสี ลวดลาย และประเภทวัสดุที่กลมกลืนกัน ทำให้สามารถตกแต่งได้ไม่ยาก
สาธารณูปโภค : โครงการนี้จะมีพื้นที่ส่วนกลางแยกกับอาคารพักอาศัยชัดเจน ช่วยแบ่งความเป็นส่วนตัวได้ดี เข้าถึงและดูแลจัดการพื้นที่ส่วนกลางได้ง่าย ซึ่งจะประกอบไปด้วย สระว่ายน้ำระบบเกลือที่มีระยะกว้างที่สุดอยู่ที่ประมาณ 10 x 7.3 เมตร ลึก 1.2 เมตร พร้อมสระเด็กและพื้นที่ริมสระ, ห้องสมุด, ห้องน้ำแยกชายหญิง, ห้องออกกำลังกาย, ห้องนิติบุคคล จัดว่ามีมาให้ครบตามมาตรฐาน เข้าออกตัวโครงการด้วยระบบ Keycard แบบ Easy Pass มีพื้นที่จอดรถให้ประมาณ 77 คันคิดเป็น 50% รวมจอดซ้อนคัน จัดเป็นโครงการใกล้แนวรถไฟฟ้าที่มีพื้นที่จอดมาให้พอสมควร
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 123,000 บาท/ตร.ม., 20 November 2019
- ทำเล 7.75/10 – อยู่ในซอยสุขุมวิท 50 ติดถนนใหญ่ 400 เมตร จากรถไฟฟ้า ใกล้ทางด่วน
- เดินทางด้วยรถ 8.25/10 – ใกล้ทางด่วน เชื่อมต่อได้หลายเส้นทาง ที่จอด 50% รวมจอดซ้อนคัน
- ไม่ใช้รถ 8/10 – ห่างจาก BTS อ่อนนุช 400 เมตร เดินได้ มีรถสาธารณะผ่านไปมาในซอยตลอดทั้งวัน
- วัสดุ 8/10 – Fully Furnished แต่งครบพร้อมอยู่ ให้มาสวยงาม เหมาะสมกับพื้นที่ห้อง
- แบบ 8/10 – แยกพื้นที่พักอาศัยและพื้นที่ส่วนกลางชัดเจน ยูนิตไม่เยอะได้ความเป็นส่วนตัว มีห้องให้เลือกหลายแบบ
- สาธารณูปโภค 7.5/10 – มีครบตามมาตรฐาน สระว่ายน้ำ ห้องออกกำลังกาย ห้องสมุด
- HIGH CLASS
- 7.9 / 10.00
BOTTOM LINE
โครงการ SERIO สุขุมวิท 50 เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดในย่านอ่อนนุช ติดถนนที่เป็นซอยใหญ่ แต่งครบพร้อมอยู่ เดินทางเข้าเมืองและใช้ทางด่วนได้สะดวก หรือจะใช้งานรถไฟฟ้าก็ง่าย ทำเลชุมชนหาของกินของใช้ง่าย มีห้องพักอาศัยให้เลือกหลายขนาด เหมาะกับอยู่คนเดียวหรือครอบครัวขนาดเล็ก-กลาง อยู่อาศัย 2-3 คน เน้นอความส่วนตัว มีส่วนกลางมี Facility หลักๆให้น่าใช้งานครบ มีงบประมาณ 2.69 ขึ้นไป หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 20,000 – 35,000 บาท/เดือน ยังไงก็ลองพิจารณากันดูนะครับ
ติดตามพวกเราได้ที่
Website : www.thinkofliving.com
Twitter : www.twitter.com/thinkofliving
YouTube : www.youtube.com/ThinkofLiving
Instagram : www.instagram.com/thinkofliving
Facebook : ThinkofLiving