สร้างเสร็จพร้อมอยู่แล้วนะครับสำหรับโครงการ Savvi Phahol 2 คอนโด Low Rise 7 ชั้น ในทำเลกลางเมืองย่านอารีย์ มีบริบทโดยรอบที่เงียบสงบ แต่รายล้อมไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ครบครัน เป็นโครงการที่เน้นความเป็นส่วนตัวและการอยู่อาศัยอย่างสะดวกสบาย ด้วยจุดเด่นต่าง ๆ เหล่านี้ครับ

  • ทำเลและที่ตั้งของโครงการ – ค่อนข้างที่จะมีบริบทที่เงียบสงบเป็นพิเศษครับ เพราะรอบข้างมีแต่บ้านเดี่ยวหลังใหญ่ที่อยู่กันมานาน เป็นชุมชนเก่าที่ดูสงบเรียบร้อยและปลอดภัย แถมยังสามารถอิงความอุดมสมบูรณ์โดยรอบได้ง่าย เพียงแค่ออกมาไม่ไกลก็มีถนนพหลโยธิน, ถนนวิภาวดีรังสิต, BTS อารีย์ และฝั่งซอยอารีย์ต่าง ๆ
  • จำนวนยูนิตน้อย – ทั้งโครงการมีเพียง 64 ยูนิต เท่านั้น แถมยังให้พื้นที่จอดรถให้มาเยอะ ที่ 81% แบบ Automatic Parking ด้วย ค่อนข้างจะตอบโจทย์ความเป็นส่วนตัวและความสะดวกสบายได้ดีเลยครับ
  • มีรูปแบบห้องให้เลือกเยอะ – เพราะถูกออกแบบมาให้เหมาะสมตามตำแหน่งต่าง ๆ ของผังแต่ละชั้น ทำให้สามารถตอบโจทย์ได้หลากหลาย และเปิดรับช่องแสงได้ดี บวกกับความสูงห้องที่ 2.8 ม. ทำให้ห้องดูโล่งและกว้างกว่าคอนโด Low Rise ทั่วไป หรือโครงการส่วนใหญ่ในย่านนี้เลย
  • ทุกห้องขายในรูปแบบ Fully Furnished – และมี Built-in ครัวและตู้เสื้อผ้ามาให้ภายในห้องด้วย ข้อดีคือจะสามารถใช้พื้นที่ภายในห้องได้คุ้มค่า และการออกแบบก็สวยงามไปในทางเดียวกัน นอกจากนั้นวัสดุภายในห้องที่ได้ก็จัดว่าค่อนข้างดี เมื่อเทียบกับโครงการคู่แข่งในย่านนี้ครับ

ข้อมูลโครงการ

Savvi Phahol 2 (แซฟวี่ พหล 2) ณ วันที่ 20 สิงหาคม 2564

 ชื่อโครงการ  Savvi Phahol 2 (แซฟวี่ พหล 2)
 ชื่อผู้ประกอบการ  บริษัท ดิ เออเบิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด
 SEGMENT CLASS  UPPER CLASS (รายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2021 )
 โครงการตั้งอยู่  ถนนพหลโยธิน เขตพญาไท
 ที่ดิน  0-3-08.11 ไร่
 ประเภทคอนโด   Low Rise 7 ชั้น 1 อาคาร 64 ยูนิต
 จำนวนยูนิต  64 ยูนิต
 ยูนิตต่อชั้นสูงสุด   12 ยูนิต
 ที่จอดรถ  ประมาณ 52 คัน คิดเป็น 81% รวมจอดซ้อนคัน ( Automatic Parking)
 เริ่มก่อสร้าง   Q2 ปี 2019
 แล้วเสร็จ   Q1 ปี 2021
 ประเภทห้องพัก
  • 1 Bedroom 29.59 – 43.94 ตร.ม.จำนวน 33 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 3.69 ล้านบาท
  • 2 Bedrooms 45.56 – 80.11 ตร.ม. จำนวน 31 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 6.99 ล้านบาท

 ฝ้าเพดานสูง  2.5-2.8 เมตร
 ราคาเริ่มต้น  3.69 ล้านบาท
 ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ  ประมาณ 140,000 บาท/ตร.ม.
 ช่วงราคาต่อตารางเมตร(ต่ำสุด-สูงสุด)  n/a
 EIA (ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม)  สร้างเสร็จพร้อมอยู่
 เว็บไซต์โครงการ http://www.savvicondo.com/phahol2/
 Call Center  02-278-5644, 083-544-9466

ทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.777265, 100.546653
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการ Savvi Phahol 2 ครับ

ย่านอารีย์นั้นเดิมทีเป็นที่พักอาศัยเก่าแก่ของเหล่าข้าราชการระดับสูง ทำให้บริบทโดยรอบจะมีความเงียบและสงบเป็นพิเศษ ต่อมาพื้นที่ริมถนนพหลฯมีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องเรื่อย ๆ จนถึงปัจจุบัน ทำให้ทำเลนี้เป็นพื้นที่แหล่งงานที่สำคัญย่านนึงในกรุงเทพก็ว่าได้ มีอาคารสำนักงานค่อนข้างเยอะที่รายล้อมอยู่บริเวณรถไฟฟ้า หรือเรียงตามแนวถนนพหลโยธินยังไม่ได้นับสถานที่ทำงานที่ไม่ใช่อาคารสูงอื่น ๆ ในย่านนี้อีกนะครับ ส่วนใหญ่มักจะเป็นราชการและรัฐวิสาหกิจ อาทิเช่น กรมสรรพากร, กรมควบคุมมลพิษ, กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, กรมทรัพยากรน้ำ, กรมประชาสัมพันธ์, กรมธนารักษ์ และกระทรวงการคลัง เป็นต้น ซึ่งจะเห็นได้ชัดเลยว่าที่นี่เป็นหนึ่งในแหล่งงานสำคัญของกรุงเทพ จึงไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมพื้นที่บริเวณอารีย์-พหลโยธิน จึงมีความเจริญและความอุดมสมบูรณ์ที่ค่อนข้างคับคั่ง ไม่ว่าจะเป็นอาหารการกินที่หลากหลายประเภท คาเฟ่เก๋ๆ ชิคๆ มากมาย ตลอดจนร้านนั่งชิลยามค่ำคืน ที่มาเพื่อตอบสนองกลุ่มคนเหล่านี้ ซึ่งทำเลของโครงการก็ค่อนข้างสะดวกสำหรับการเข้าออกที่ทำงานในย่านนี้ พร้อมทั้งยังได้รับความเจริญทั้งจากทางฝั่งซอยอารีย์และตลอดแนวถนนพหลโยธินในช่วงนี้ด้วย ทำให้เป็นหนึ่งในย่านที่สามารถเดินเท้าได้สบาย ๆ เลยครับ

ทำเลที่ตั้งของโครงการ Savvi Phahol 2 อยู่ในซอยพหลโยธิน 2 เป็นซอยที่เชื่อมถนนพหลโยธินกับถนนวิภาวดีรังสิตเข้าด้วยกัน โดยจะมาออกบริเวณโรงพยาบาลทหารผ่านศึกบนถนนวิภาวดี ส่วนตัวผมว่าเป็นข้อดีหลัก ๆ เลยนะครับของทำเลนี้ เพราะนอกจากจะอิงอารีย์ ฝั่งพหลโยธินแล้ว ใครที่ทำงานบนถนนวิภาวดีรังสิต หรือรัชดาภิเษก ก็เป็นตัวเลือกที่ดีได้เหมือนกัน โดยซอยนี้เป็นเส้นทางที่มีรถวิ่งผ่านตลอดทำให้ค่อนข้างจะคึกคัก สำหรับพื้นที่ตัวโครงการจะอยู่ในซอยย่อยอีกที ระยะทางจากหน้าปากซอยถึงโครงการประมาณ 450 เมตร เน้นการใช้รถส่วนตัวเป็นหลักนะครับ แต่ทางโครงการก็มี Shuttle Service รับส่งให้ที่บริเวณ La Villa อารีย์ ในซอยนี้จะสามารถเชื่อมต่อกันตั้งแต่ซอยพหล 2, 4, 6, 8 ทะลุไปถึงถนนอินทามระ ใช้ออกถนนสุทธิสารได้

โดยในซอยอารีย์ฝั่งเลขคู่นี้สภาพแวดล้อมและบรรยากาศจะเป็นโซนที่อยู่อาศัย ค่อนข้างเงียบสงบกว่าพหลโยธินฝั่งเลขคี่ ที่จะมีร้านอาหาร ร้านค้า ร้านนั่งชิลต่างๆ ที่คึกคักกว่า แต่ฝั่งนี้ก็สามารถข้ามไปอิงความเจริญได้ไม่ยากครับ ในระยะเดินอาจจะไม่มีของกินและร้านค้าเยอะนัก แลกมากับบริบทที่เงียบสงบ แบบที่หาได้ค่อนข้างยากในทำเลใจกลางเมืองแบบนี้ และหากมองภาพกว้างออกมาหน่อยจะมีความอุดมสมบูรณ์ในพื้นที่ค่อนข้างสูงเลย ทั้งโรงพยาบาลพญาไท 2 แถวสนามเป้า และโรงพยาบาลราชวิถี, โรงพยาบาลพระมุงกุฏเกล้า หรือโรงพยาบาลรามาธิบดี ที่อยู่แถวอนุสาวรีย์ มีสถานศึกษาชื่อดังทั้งโรงเรียนมัธยมสามเสนวิทยาลัย, โรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก และมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย นอกจากนั้นก็จะมีสถานที่ราชการ กระทรวงการคลัง กรมประชาสัมพันธ์ ตึกออฟฟิสอย่างธนาคารออมสิน, ททบ 5, SM tower และอาคารสำนักงานหลายแหล่ง เช่น Pearl Bangkok, Exim Bank, SME Bank, IBM Tower, Phaholyothin Place, AIS Tower 1 และ 2 เป็นต้น

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

บริบทรอบข้างของโครงการ Savvi Phahol 2 จัดเป็นจุดเด่นนึงที่ผมชอบมากเลยครับ เพราะเมื่อเข้าถึงโครงการก็สัมผัสได้เลยถึงความเงียบสงบของชุมชนโดยรอบนี้ จะมีแต่บ้านหลังใหญ่ และค่อนข้างร่มรื่นเลยครับ ซึ่งเป็นสิ่งที่หาได้ไม่ง่ายนักในทำเลกลางเมืองแบบนี้ เพราะขับรถออกไปหน่อย ก็เจอถนนหลักอย่างพหลโยธิน, ถนนวิภาวดีรังสิต, อาคารสูง และร้านค้าร้านอาหารครบครันแล้วครับ

โดยรอบพื้นที่โครงการส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัยสูง 1-2 ชั้น ทางฝั่งทิศตะวันออกเฉียงเหนือและตะวันตกเฉียงใต้ซึ่งเป็นวิวหลัก 2 ฝั่งของโครงการ ส่วนด้านหน้าโครงการทิศตะวันตกเฉียงเหนือจะเป็นคอนโดสูง 8 ชั้น แต่ไม่ใช่วิวหลักของโครงการนะครับ (ห้องที่เห็นวิวฝั่งนี้จะมี 1-2 ยูนิต/ชั้น) และด้านหลังโครงการทิศตะวันออกเฉียงใต้จะมีอาคารพักอาศัยสูง 4 ชั้น ตั้งอยู่ (ห้องที่เห็นวิวฝั่งนี้จะมี 1 ยูนิต/ชั้น) ลองไปชมบรรยากาศกันครับ

Image 1/5
ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ : เป็นวิวหลักของโครงการครับ จะมีห้องที่เห็นวิวนี้ 5-7 ห้อง/ชั้น เป็นวิวโล่งที่ค่อนข้างเงียบสงบ มีพื้นที่สีเขียวร่มรื่นให้เห็นค่อนข้างเยอะ อีกทั้งบ้านเรือนข้าง ๆ ก็ค่อนข้างจะเงียบ ไม่วุ่นวาย เหมาะกับการเป็นพื้นที่พักอาศัยเป็นอย่างยิ่งเลยครับ

ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ : เป็นวิวหลักของโครงการครับ จะมีห้องที่เห็นวิวนี้ 5-7 ห้อง/ชั้น เป็นวิวโล่งที่ค่อนข้างเงียบสงบ มีพื้นที่สีเขียวร่มรื่นให้เห็นค่อนข้างเยอะ อีกทั้งบ้านเรือนข้าง ๆ ก็ค่อนข้างจะเงียบ ไม่วุ่นวาย เหมาะกับการเป็นพื้นที่พักอาศัยเป็นอย่างยิ่งเลยครับ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

  • La Villa Ari ~ 1 km.
  • Ari Hills ~ 1.4 km.
  • Aqua Mall ~ 1.9 km.
  • Aree Garden ~ 2.6 km.
  • Central ลาดพร้าว ~ 5.7 km.
  • Union Mall ~ 5.8 km.

โรงพยาบาล

  • โรงพยาบาลพญาไท 2 ~ 1.9 km.
  • โรงพยาบาลวิมุต ~ 2.5 km.
  • โรงพยาบาลเปาโล ~ 2.5 km.
  • โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ~ 3 km.
  • โรงพยาบาลราชวิถี ~ 3.8 km.
  • โรงพยาบาลรามาฯ ~ 4.3 km.

โรงเรียน

  • โรงเรียนสวนบัว ~ 1.9 km.
  • โรงเรียนสามเสนวิทยาลัย ~ 3.1 km.

สถานที่ราชการ

  • สนามฝึกซ้อมกอล์ฟ พล.ม.2 รอ. ~ 900 m.
  • BTS อารีย์ ~ 1 km.
  • อาคาร Exim bank ~ 1.7 km.
  • SM Tower ~ 2 km.
  • ททบ.5 ~ 1.6 km.
  • กรมประชาสัมพันธ์ ~ 2.5 km.
  • ธนาคารออมสิน สาขาใหญ่ ~ 2.6 km.
  • กระทรวงการคลัง ~ 2.8 km.
  • สวนจตุจักร ~ 4.3 km.

รายละเอียดโครงการ

โครงการเป็นอาคาร Low Rise 7 ชั้นครับ และที่เป็น 7 ชั้นก็เพราะภายในห้องแต่ละชั้นนั้นทำออกมาด้วยความสูง 2.8 เมตร (ซึ่งหากทำ 8 ชั้นจะเกินกฎหมายข้อบังคับของอาคาร Low Rise ที่ 23 เมตร) นี่เป็นจุดเด่นข้อนึงที่ทางโครงการยอมลดชั้นพักอาศัยเพื่อเพิ่มพื้นที่ความสูงภายในห้อง โดยต้องการให้เกิดความโปร่ง โล่ง และสอดคล้องกับบริบทภายนอกอาคาร

ตัวอาคารภายนอกจะมีการออกแบบด้วยสไตล์ Modern ที่ใช้จังหวะของเส้นตรงและสี่เหลี่ยมทำให้ภาพรวมดูเรียบง่าย แต่ไม่น่าเบื่อ เน้นใช้โทนสีขาว-เทา เพื่อตัดกับ Facade ที่ตกแต่งด้วยกระถางพุ่มไม้สีเขียวสดชื่น ให้เกิดความรู้สึกเหมือนนำธรรมชาติมาโอบล้อมอาคารไว้ ตามแนวคิดการออกแบบ Inside to Outside เพื่อให้รู้สึกถึงการเชื่อมต่อกันระหว่างพื้นที่ภายในห้องกับธรรมชาติภายนอก ด้วยช่องหน้าต่างกระจกที่ทั้งขนาดใหญ่และเข้ามุม ทำให้รับวิวและธรรมชาติส่วนนี้ได้อย่างเต็มที่

มาชมผังโครงการกันเลยครับ เริ่มที่ชั้น 1 จะเป็นส่วนพื้นที่ส่วนกลางและพื้นที่จอดรถ โดยทางเข้าออกจะค่อนข้างเข้าใจได้ง่ายครับ มี รปภ. ดูแลด้านหน้า ข้าง ๆ มีพื้นที่จอดรถของ Visitor ประมาณ 3-4 คัน เข้ามาจะมีพื้นที่จอดรถแบบปกติประมาณ 16 คัน จากนั้นจะมี Automatic Parking อีก 8 ช่องจอด รวมทั้งหมด 81% ครับ ซึ่งก็จัดว่าให้มาเยอะเลย หรือถ้าใครอยากใช้รถไฟฟ้า หรือจะไปเรียกรถสาธารณะ ทางโครงการก็มีรถกอล์ฟคอยให้บริการไปส่งที่ La Villa Ari ให้ด้วยนะครับ

ส่วนทางเข้าอาคารจะมี 2 จุด ที่ต้องเข้าด้วยระบบ Keycard ทั้งคู่ โดยทางแรกจะเป็นประตูใหญ่เข้ามาเจอ Lobby เป็นส่วนของทางเข้าหลัก ส่วนอีกประตูจะอยู่ตรงโถงลิฟต์ สำหรับใครที่จอดรถเสร็จแล้วอยากเข้าสู่โถงลิฟต์ได้เลยก็จะสะดวกเลยครับ ภายในพื้นที่ตัวอาคารจะเป็น Lobby ขนาดใหญ่ ที่แยกมุมพักผ่อนออกเป็นหลายจุด มีพื้นที่ภายนอกเชื่อมต่อไปยังสระว่ายน้ำและสวน ส่วนด้านในมีบันไดวนที่ไว้สำหรับขึ้นไปใช้งานพื้นที่ส่วนกลางที่ชั้น 2 ได้ เป็นการรวมพื้นที่ส่วนกลางไว้จุดเดียว ข้อดีคือจัดการดูแลรักษาและควบคุมความปลอดภัยได้ง่าย เป็นสัดส่วนที่แยกจากห้องพักอาศัยอย่างชัดเจนครับ เพราะทุกชั้นจะเป็นลิฟต์ล็อคชั้นทั้งหมด ทั้งนั้นจะไม่มีใครไปรบกวนชั้นอื่น ๆ ได้

พื้นที่ด้านหน้าจะเป็นคอนกรีตพิมพ์ลายครับ มีพี่ รปภ. คอยดูแลการเข้าออกและความปลอดภัยให้ตลอด 24 ชั่วโมง

ด้านข้างจะมีทางลาดสำหรับรองรับรถเข็น และพื้นที่จอดรถด้านข้างให้ด้วย

เข้ามาด้านในจะเจอทางเข้าหลักของตัวอาคารครับ และมีแนวที่จอดรถแบบ Conventional ทางฝั่งตรงข้าม

เลยเข้ามาอีกจะมีที่จอดรถแบบ Automatic Parking ทั้งหมด 8 ช่องจอด ขนาดแต่ละช่องจอดจะกว้าง 1.9 ม. สูง 1.55 ม. ยาว 5.2 ม. และรับน้ำหนักได้ 2.0 ตัน ครับ ตรงนี้จะใช้เวลารอรถในช่วงเวลาปกติประมาณ 1-3 นาที นะครับ จัดว่าก็เร็วและสะดวกดีเหมือนกัน ที่ผมชอบคือจะมีพี่รปภ.มาช่วยโบกรถดูแลในการเข้าออกให้เราด้วย ด้านข้างจะมีทางเข้าออกอีกทางที่ตรงเข้าโถงลิฟต์ได้เลยครับ

กลับมาที่ประตูหลัก เข้ามาจะเจอกับ Lobby ที่ให้บรรยากาศค่อนข้างเป็นกันเอง เหมือนโถงบ้านขนาดใหญ่ ที่แยกออกเป็นหลายมุมครับ มีช่องแสงขนาดใหญ่ด้านในที่ให้ความร่มรื่นจากต้นไม้ และสวนภายนอก รวมถึงยังเป็นวิวด้วยสระว่ายน้ำให้อีกเช่นกัน

มีมุมนั่งเล่นส่วนตัวริมสวนด้านนอก ตรงนี้จะเห็นวิวสระว่ายน้ำด้วย

หรือจะใช้เป็นโต๊ะสูงสำหรับนั่งคุยงานกันเป็นกลุ่ม หรือมานั่งทำงานกันบริเวณนี้ก็ได้นะครับ

ด้านในอีกจุดจะเชื่อมต่อกับกระจกฝั่งด้านหน้าทางเข้า เป็นมุมพื้นที่นั่งพักคอยสำหรับรอขึ้นรถได้

เดินออกมาดูข้างนอกกันหน่อยครับ จะเจอกับพื้นที่สระว่ายน้ำของโครงการ มีแนวทางเดินยาวเข้าไปยังพื้นที่สวนด้านในด้วย

อีกฝั่งจะมีเก้าอี้เตียงอาบแดดไว้ให้สำหรับนอนพักผ่อน วางของ หรือผู้ติดตาม

เป็นสระกลางแจ้งระบบเกลือขนาด 15 x 4.3 เมตร ลึก 1.2 เมตร ซึ่งเป็นขนาดที่สามารถว่ายออกกำลังกายได้นะครับ ด้านข้างจะมีแนวต้นไม้และกำแพงสูง ค่อนข้างร่มรื่นและได้ความเป็นส่วนตัวจากภายนอก

หรือจะแช่น้ำเล่นก็มีมุมให้ผ่อนคลายก็มีพื้นที่ให้ หรือจะเป็นด้านในที่จัดเป็นสระน้ำตื้นสำหรับขึ้นลงได้ หรือก็พอให้เด็กเล่นได้ด้วยนะครับ แต่ก็ควรมีผู้ใหญ่ดูแลอย่างใกล้ชิดนะ

ด้านในจะเป็นแนวทางเดินเข้าไปยังสวน พื้นที่ส่วนนี้ออกแบบให้แยกพื้นที่กันได้ดีเลย มีแนวระแนงที่ใช้สีขาวเพื่อตัดกับสีเขียวของต้นไม้ต่าง ๆ ภายในสวน ทำให้แบ่งความเป็นส่วนตัวแยกออกจากกันได้ แต่ยังได้รับความร่มรื่นด้านในอยู่

ส่วนแรกจะเป็นพื้นที่ล้างตัวที่มีแนวระแนงกั้นไว้ให้ เพื่อให้เป็นพื้นที่ปิดล้อมและใช้งานได้สะดวกมากยิ่งขึ้น

แต่ตรงนี้ไม่ได้มีส่วน Locker หรือห้องน้ำไว้ให้นะครับ ต้องเตรียมผ้าเช็ดตัวและชุดคลุมมาให้พร้อม เพื่อไม่ให้เปียกพื้นที่ภายในเวลาขึ้นลง

ด้านในมีส่วนของห้อง Steam Room และห้องน้ำมาให้ครับ

ห้อง Steam เป็นห้องขนาดไม่ใหญ่นัก มีที่นั่งสำหรับใช้งานได้ 1-2 คนต่อห้อง

เดินต่อเข้ามาด้านในจะเป็นแนวทางเดินยาวเข้าไปยังสวนด้านหลัง มีม้านั่งขนาบข้างทั้งสองฝั่ง ทำหน้าที่เหมือนเป็นประตูทางเข้าสู่สวนด้านในครับ

เข้ามาก็จะมีแนวทางเดินยาวเข้าไป จัดวางมุมที่นั่งเล่นไว้ตามทาง ซึ่งที่ชอบคือจะมีต้นไม้ขนาดใหญ่หลายต้น รวมถึงต้นไม้ตามแนวผนังที่ให้ร่มเงาได้จริงและสร้างบรรยากาศได้ดีเลย

เป็นมุมนั่งเล่นกลางแจ้งที่ค่อนข้างร่มรื่นครับ เข้ามุมได้ความเป็นส่วนตัวด้วย ในช่วงเช้า ๆ หรือเย็น ๆ สามารถมานั่งเล่น ทำงานได้นะ

อีกฝั่งนึงก็มีเช่นกันครับ และยังมีแนวทางเดินตรงต่อไปยังพื้นที่ด้านใน

เป็นสวนด้านในที่ทำออกมาในแนวเดิม ซึ่งจะเห็นว่าค่อนข้างร่มรื่นเลยครับ

ด้านในมีชุดโต๊ะที่สำหรับ 2-4 ที่นั่ง มาให้ 2 ชุด ด้วยจำนวนยูนิตที่ไม่เยอะนักของที่นี่ การวางมุมพักผ่อนเล็ก ๆ กระจายกันอยู่หลาย ๆ มุมจะช่วยให้สามารถใช้งานพร้อม ๆ กันได้หลายกลุ่ม โดยที่ไม่รบกวนกันครับ

ย้อนกลับมาที่ประตูทางเข้าหลักของตัวอาคาร ด้านข้างจะมีแนวบันไดวนให้ขึ้นไปยังพื้นที่ส่วนกลางด้านบนต่อครับ ไปชมกัน

ผังพื้นชั้น 2 ที่จะให้ดูหลัก ๆ คือส่วนของพื้นที่ส่วนกลางครับ โดยจะมีส่วนของห้อง Fitness, ห้อง Co-Working Space และห้องน้ำ ที่ไม่ได้เชื่อมกันกับห้องพักอาศัยในชั้น 2 นี้

โดยชั้น 2 จัดเป็นชั้นแรกที่มีห้องพักอาศัย โดยจะมีทั้งหมด 12 ยูนิต / ชั้น ซึ่งก็จัดว่าค่อนข้างน้อย ได้ความส่วนตัวสูงตาม Concept โครงการ โถงทางเดินจะเป็นแบบ Double Corridor ส่วนโถงลิฟต์จะวางตรงกลางแนวอาคาร ทำให้ใช้งานได้ง่ายจากทุกห้อง และแบ่งพื้นที่ห้องออกเป็น 2 ฝั่ง ซ้าย-ขวา ยิ่งเป็นการเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้ห้องพักอาศัยในแต่ละชั้นมากยิ่งขึ้น

การวางผังห้องของชั้นนี้จะเห็นว่าเขาเลือกวางห้อง 2 Bedroom ไว้ที่มุมหัวและท้ายอาคารอย่างละ 1 ยูนิต ส่วนนอกนั้นจะเป็นห้อง 1 Bedroom อีก 10 ยูนิต ครับ

เดินขึ้นมาจากบันไดวนจะเจอโถงบันไดที่แจกไปยัง 3 ส่วนพื้นที่ส่วนกลางของชั้นนี้ครับ ประกอบไปด้วย ห้อง Fitness, ห้อง Co-Working Space และห้องน้ำ ไปดูฝั่งซ้ายมือภายในภาพกันก่อนเลย

เป็นห้อง Co-Working Space ทางฝั่งด้านหน้าโครงการ จะเน้นพื้นที่นั่งพักผ่อนและทำงานเปิดรับวิวภายนอกด้วยกระจกบานใหญ่ จัดแยกมุมนั่งเพื่อแบ่งความเป็นส่วนตัวไว้ให้ 3 ส่วน

ส่วนอีกฝั่งจะเป็นพื้นที่นั่งสำหรับกลุ่มครับ ซึ่งจะได้รับวิวและแสงอย่างเพียงพอเช่นกัน ในการนั่งทำงานหรืออ่านหนังสือ

ออกมาที่โถงบันได ตรงกลางจะเป็นห้องนั่งสำหรับใช้งานร่วมกับพื้นที่ส่วนกลางที่ชั้น 1 ด้วย

ส่วนอีกห้องจะเป็นห้องออกกำลังกายครับ ลักษณะห้องจะเป็นตัว L ทำให้สามารถรับแสงได้เยอะเกือบจะรอบด้าน มีมุมนั่งพักให้ก่อนในช่วงทางเข้าออกห้อง ถัดไปเป็นส่วนออกกำลังกายแบบ Weight Training

จากนั้นก็เป็นเครื่องเล่นต่าง ๆ ที่จะเน้นไปทาง Cario Training ครับ จะได้แนวกระจกเงาที่ช่วยให้ห้องดูกว้างขึ้น และแนวกระจกที่รับวิวภายนอกทั้งด้านหน้าและด้านข้าง

เป็นห้องขนาดไม่ใหญ่ที่จัดออกมาได้ไม่ดูแคบจนเกินไป สามารถใช้งานพร้อม ๆ กันได้ประมาณ 3-5 คน

กลับลงมาที่ชั้น 1 ครับ แนวทางเดินจาก Lobby จะเรียบแนวสระว่ายน้ำไปยังโถงลิฟต์ด้านใน

ด้านในจะเป็นโถงลิฟต์ที่มีลิฟต์โดยสารให้ 2 ตัว โดยจะมีอัตราส่วนลิฟต์อยู่ที่ 1 : 32 ยูนิต ด้านข้างมี Mail Box ให้ด้วย ซึ่งไม่ได้เยอะนัก ทำให้ดูเป็นระเบียบและใช้งานง่าย ด้านในจะเป็นประตูซึ่งเป็นทางเข้าออกจากพื้นที่จอดรถอีกทางครับ

Image 1/3
ชั้น 3 : จะมีจำนวนทั้งหมด 12 ยูนิต นะครับ โดยแบ่งออกเป็น 1 Bedroom จำนวน 7 ยูนิต กระจายอยู่ทางฝั่งทิศตะวันตกเฉียงใต้ 5 ยูนิต และทิศตะวันออกเฉียงเหนือ 2 ยูนิต ส่วนห้อง 2 Bedroom จะมีทั้งหมด 5 ยูนิต ทางฝั่งทิศตะวันตกเฉียงใต้ 1 ยูนิต และทิศตะวันออกเฉียงเหนือ 4 ยูนิต จะเห็นได้ว่าเริ่มสูงขึ้นมาก็จะเพิ่มจำนวนห้อง 2 Bedroom มากยิ่งขึ้นครับ แต่ลักษณะของแต่ละรูปแบบห้องจะต่างกันไปนะครับ ผมว่าเป็นข้อดีมาก ๆ เพราะเพิ่มตัวเลือกที่จะตอบสนองความต้องการได้หลากหลายแบบยิ่งขึ้น อีกทั้งยังทำให้รูปแบบห้องเหมาะกับตำแหน่งนั้น ๆ ของตัวอาคาร

ชั้น 3 : จะมีจำนวนทั้งหมด 12 ยูนิต นะครับ โดยแบ่งออกเป็น 1 Bedroom จำนวน 7 ยูนิต กระจายอยู่ทางฝั่งทิศตะวันตกเฉียงใต้ 5 ยูนิต และทิศตะวันออกเฉียงเหนือ 2 ยูนิต ส่วนห้อง 2 Bedroom จะมีทั้งหมด 5 ยูนิต ทางฝั่งทิศตะวันตกเฉียงใต้ 1 ยูนิต และทิศตะวันออกเฉียงเหนือ 4 ยูนิต จะเห็นได้ว่าเริ่มสูงขึ้นมาก็จะเพิ่มจำนวนห้อง 2 Bedroom มากยิ่งขึ้นครับ แต่ลักษณะของแต่ละรูปแบบห้องจะต่างกันไปนะครับ ผมว่าเป็นข้อดีมาก ๆ เพราะเพิ่มตัวเลือกที่จะตอบสนองความต้องการได้หลากหลายแบบยิ่งขึ้น อีกทั้งยังทำให้รูปแบบห้องเหมาะกับตำแหน่งนั้น ๆ ของตัวอาคาร

มาดูผังส่วนห้องพักอาศัยของชั้นต่าง ๆ ภายในอาคารกันครับ

สำหรับโถงลิฟต์ด้านบนจะมีลักษณะนี้นะครับ ได้ช่องแสงค่อนข้างเต็มที่ ทำให้ภายในช่วงเวลากลางวันแทบไม่ต้องเปิดไฟเลย

โถงทางเดินจะเป็น Double Corridor มีห้องพักอาศัยทั้ง 2 ฝั่งครับ แต่ด้วยการวางตำแหน่งโถงลิฟต์ไว้ตรงกลาง ทำให้แบ่งโถงทางเดินออกไปเป็น 2 ฝั่ง ซ้ายและขวา มีฝั่งละประมาณ 5-6 ยูนิต/ชั้น ทำให้ก็ถือว่าน้อยเลยทีเดียว จัดว่าได้ความเป็นส่วนตัวสูงเลย

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • Serene Lobby Lounge
  • Urban Blue Swimming Pool
  • Light-filled Co-working Space
  • Tropical View Fitness
  • Secret Garden Lounge
  • Home Automation ภายในห้องพักอาศัย
  • Shuttle Service
  • ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว
  • อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 32 : 1
  • ที่จอดรถประมาณ 52 คันคิดเป็น 81% (Automatic Parking)
  • ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ Parking Gate, CCTV, Key Card

แบบห้อง

สำหรับโครงการ Savvi Phahol 2 นี้จะเน้นทั้งสองแบบห้องในอัตราส่วนพอ ๆ กันเลยครับ ซึ่งแต่ละแบบจะมีขนาดและผังให้เลือกหลายแบบเลย ประกอบไปด้วย

  • 1 Bedroom 29.59 – 43.94 ตร.ม.จำนวน 33 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 3.69 ล้านบาท
  • 2 Bedrooms 45.56 – 80.11 ตร.ม. จำนวน 31 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 6.99 ล้านบาท

โดยทุกรูปแบบห้องจะขายในรูปแบบ Fully Furnished และ Built-in ชุดครัวกับตู้เสื้อผ้ามาให้นะครับ ซึ่งจะได้เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวที่ต่างกันไปตามขนาดห้อง หลัก ๆ ก็ชุดโต๊ะรับประทานอาหาร โซฟา โต๊ะกลาง ชั้นวางทีวี และฐานเตียง สิ่งที่จะได้ภายในห้องจะประกอบไปด้วย Digital Door Lock พื้นกระเบื้องยางไวนิล พื้นครัวแกรนิตโต้ Top เคาน์เตอร์ครัวหินเทียม อ่างล้างจานของ Franke ที่มีฝาปิดเพิ่มพื้นที่ทำครัวได้ Hob&Hood ของ Franke ดูดออกไปภายนอก ผนังครัวกรุกระจกสีชาดำ หน้าบานตู้กระจกสีชาดำ ช่องหน้าต่างสูงจากพื้นถึงฝ้าและมีกระจกเข้ามุม Bay Window บานกรอบ Powder coat สีเทาเข้ม สุขภัณฑ์ในห้องน้ำเป็นของ Mogen และ American Standard ติดฉากกั้นอาบน้ำกระจกนิรภัย Tempered Glass เดินงานระบบท่อน้ำร้อนในผนัง พร้อมระบบ Home Automation และ Sensor ตรวจจับความเคลื่อนไหวพร้อมใช้งาน ได้เครื่องปรับอากาศแบบ Wall Type และระบบปรับอากาศแบบฝังฝ้า (Ceiling Concealed type)

มาดูห้องเริ่มต้นของโครงการนี้กันเลยครับกับ 1 Bedroom 29.62 ตร.ม. เป็นห้องที่แบ่งสัดส่วนภายในห้องออกมาได้ดีเลย จุดเด่นของห้องนี้ที่เห็นหลัก ๆ เลยคือได้ครัวปิดติดระเบียง ที่มีพื้นที่ภายในค่อนข้างกว้าง สามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารภายในได้ จุดเด่นอีกข้อคือได้พื้นที่ห้องนอนใหญ่ และได้ประตูปิดบานทึบ ข้อดีคือจะได้ความเป็นส่วนตัวจากห้องนั่งเล่นสูง เช่น เวลามีแขกมาที่ห้อง ห้องนอนก็จะได้ความเป็นส่วนตัวสูงขึ้น พื้นที่ภายในห้องนอนจะกว้างและค่อนข้างใหญ่ ได้กระจกเข้ามุมภายในที่เชื่อมกับระเบียงด้วย ช่วยเพิ่มมุมมองภายในห้อง และห้องน้ำของห้องนี้จะอยู่ภายในห้องนอน จะเหมาะกับคนที่ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในห้องนอนเป็นหลัก หรือไม่ค่อยรับแขกบ่อย เพราะจะเสียความเป็นส่วนตัวตรงที่ต้องเดินผ่านห้องนอนเพื่อมาเข้าห้องน้ำครับ ลองไปชมภายในห้องกัน

พื้นที่ห้องส่วนแรกจะเป็นส่วนของพื้นที่นั่งเล่นครับ เปิดประตูมาจะเจอกับชุดโซฟาและทีวี ซึ่งจะไม่เหมาะกับการวางโต๊ะกลางนัก เพราะต้องใช้เป็นพื้นที่แนวทางเดินกลางห้อง แต่แนวผนังด้านข้างฝั่งวางทีวีค่อนข้างกว้างครับ แนะนำให้ใช้เป็นโต๊ะข้างโซฟาสำหรับวางของแทนนะครับ

ระยะดูทีวีส่วนนี้จะมีระยะประมาณ 2.3 เมตร เหมาะกับการวางทีวีขนาด 46-52 นิ้วครับ

อย่างที่บอกไปว่าผนังฝั่งวางโซฟาจะมีระยะค่อนข้างยาว ทำให้สามารถวางโซฟายาวแบบ 3 ที่นั่งเหมือนห้องตัวอย่างได้สบาย ๆ แถมยังได้ชั้นวางของริมประตูด้วย แนะนำให้ส่วนหน้าห้องก็ควรจะมีชั้นวางรองเท้าด้วย เพราะไม่อย่างนั้นจะทำให้พื้นที่ภายในห้องสกปรกได้ง่าย

ผนังอีกฝั่งก็กว้างเช่นกัน สามารถ Built-in ทำชั้นวางของได้เยอะเลยนะครับ แนะนำให้ใช้เป็นทีวีแขวนผนัง เพื่อที่จะได้พื้นที่ทางเดินตรงกลางเพิ่ม

ด้านในห้องจะได้ช่องแสงหลักจากครัวด้านในครับ จะเป็นแนวประตูบานเลื่อน 2 บานขนาดใหญ่ เพื่อให้แสงเข้ามาถึงห้องนั่งเล่นกันได้อย่างเต็มที่ ด้านข้างจะมีประตูบานทึบเข้าสู่ส่วนของห้องนอน ไปดูห้องครัวกันก่อนครับ

ครัวมีขนาดค่อนข้างกว้างครับ ข้อดีคือเวลาประกอบอาคารก็สามารถทานด้านในและเก็บได้เลย ไม่ต้องกังวลกลิ่นและควันออกมารบกวนพื้นที่ภายในห้อง

พื้นที่ครัวจากเคาน์เตอร์ถึงผนังมีระยะประมาณ 2.15 x 1.50 เมตร ค่อนข้างกว้างครับ วางโต๊ะรับประทานอาหารได้หลายแบบเลย

Top เคาน์เตอร์ครัวเป็นหินเทียมซึ่งทนความร้อนและความชื้นได้ดี ได้ Hob&Hood ของ Franke เป็นแบบต่อท่อดูดควันออกสู่ภายนอก และมีอ่างล้างจานสเตนเลสของ Fanke พร้อมก๊อกน้ำทรงสูงแบบก้านโยกของ Hafele ซึ่งพิเศษคือมีจะแผ่นหินปิดตัวอ่างล้างจานมาให้เผื่อเวลาอยากจะใช้พื้นที่ประกอบอาหารเพิ่มเติมก็ยกมาปิดได้ ส่วนผนังด้านหลังจะเป็นกระจกสีชาดำแบบในห้องตัวอย่างเลย ข้อดีคือสวยและความสะอาดได้ง่ายครับ

ตู้ด้านบนและตู้ด้านล่างสามารถเก็บของได้เยอะพอสมควร ส่วนหน้าบานตู้ทั้งหมดจะติด Soft close มาทุกบานรวมถึงลิ้นชักด้านล่างก็ติดโช๊คมาให้ช่วยป้องกันการกระแทกได้ดี ที่ส่วนตัวผมชอบคือขอบปิดงานด้วยแผ่นอลูมิเนียมมาให้ดูดีเลยครับ

พื้นที่ระเบียงของห้องนี้ค่อนข้างกว้างครับ เพราะออกแบบมาไว้สำหรับวางเครื่องซักผ้าด้วย จะมีขนาดประมาณ 2.30 x 0.8 เมตร สามารถออกไปใช้งานได้สะดวก

ภายนอกระเบียงนี้ด้านข้างฝั่งซ้ายจะมีแนวกระจกเข้ามุมที่เชื่อมต่อกับพื้นที่ภายในห้องนอนให้ด้วย ช่วยให้แสงเข้าห้องนอนได้มากขึ้น และเปิดมุมมองให้กว้างยิ่งขึ้น ส่วนฝั่งด้านขวาจะมีพื้นที่ยื่นออกไปคือส่วนเก็บ Condensing Unit ซึ่งจะมีแนวระแนงปิดไว้ให้เรียบร้อยสวยงาม ตรงนี้จะช่วยให้เราใช้พื้นที่ระเบียงได้อย่างเต็มที่ ไม่ต้องวางหรือแขวนด้านบน ทำให้ได้แนวกระจกที่เชื่อมกับระเบียงสูงถึงฝ้าเลย เป็นดีเทลเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ให้ประโยชน์ภายในห้องได้เยอะจริง ๆ ครับ

เข้ามาดูภายในห้องนอนกันต่อครับ ห้องนี้ออกแบบมาให้ความสำคัญกับห้องนอนพอสมควรเลย เพราะจะมีส่วนที่น่าสนใจอยู่หลายส่วน ตั้งแต่ได้พื้นที่ภายในห้องค่อนข้างใหญ่ จัดพื้นที่ภายในได้หลากหลาย ได้แนวกระจกขนาดใหญ่และเข้ามุม อีกทั้งยังได้เป็นประตูบานทึบ แยกความเป็นส่วนตัวจากภายนอกได้ดีด้วยครับ

ด้านในจะได้ช่องแสงขนาดใหญ่ ที่เปิดให้เต็มหน้ากว้างห้องเลยครับ

นอกจากจะเต็มหน้ากว้างห้องแล้ว ยังได้กระจกเข้ามุมด้านข้างที่ช่วยรับแสงและเปิดมุมมองให้กว้างขึ้นแบบที่บอกไปด้วยครับ ผมว่าตรงนี้ต้องเป็นมุมโปรดของใครหลาย ๆ คนแน่นอน

ด้านในห้องจะมีตู้เสื้อผ้า Built-in มาให้ข้างทางเข้าห้องน้ำครับ ติดเครื่องปรับอากาศมาให้ 1 เครื่อง

ตู้เสื้อผ้าทรงสูงแบบหน้าบานเปิดสูงจากพื้นถึงฝ้าเลย จึงทำให้ใช้ประโยชน์พื้นที่แนวตั้งได้เต็มความสูง ซึ่งจะได้รูปร่างหน้าตาและวัสดุเหมือนในห้องตัวอย่างเลยนะ หน้าบานกระจกสีดำ มีช่องเก็บของด้านบนและลิ้นชักด้านล่างทำให้เก็บของได้เยอะพอสมควร พร้อมติดไฟส่องสว่างภายในตู้ให้อีกด้วย

ภายในห้องน้ำจะได้ขนาดค่อนข้างกว้างครับ ตกแต่งด้วยกระเบื้องแผ่นใหญ่ ทำให้จะมีรอยต่อน้อย ทำให้ไม่ค่อยมีร่องเก็บสะสมสิ่งสกปรก ช่วยให้ทำความสะอาดได้ง่ายครับ แต่งมาในโทนสีอบอุ่น

อ่างล้างหน้าของ Mogen ขนาดประมาณ 45 x 60 cm. ก็อกน้ำของ American Standard แบบก้านโยกใช้งานสะดวก และมีขอบด้านหลังใช้วางของเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้ ด้านข้างมีปลั๊กไฟแบบมีฝาครอบปิดช่วยป้องกันน้ำกระเด็นมาโดน ส่วนด้านล่าง Built ตู้มาให้เรียบร้อย สามารถเก็บของใช้จำเป็นภายในห้องน้ำได้ และยังสามารถติดตั้งเครื่องทำน้ำร้อนเอาไว้ใต้นี้ได้ด้วย เพราะห้องน้ำของโครงการนี้จะเดินงานระบบท่อน้ำร้อนแบบฝังผนังเอาไว้ให้ในตัวแล้วด้วย และด้านข้างมีโถสุขภัณฑ์ของ American Standard พร้อมติดสายชำระกับที่แขวนกระดาษชำระมาให้พร้อมใช้งาน

ห้องอาบน้ำจะได้ฉากกั้นกระจกมาให้ พื้นที่ภายในประมาณ 1 x 0.8 เมตร ซึ่งค่อนข้างกว้างครับ ที่ผมชอบคือผนังจะได้พื้นที่วางอุปกรณ์อาบน้ำมาให้พร้อม ไม่ต้องวางชั้นหรือแขวนให้ยุ่งยาก ส่วนอาบน้ำจะได้ทั้ง Hand Shower และ Rain Shower มาให้เลือกใช้ได้ทั้งสองอย่างเลย

ห้อง 2 Bedroom ขนาด 58.19 ตร.ม. ที่ตั้งอยู่ทางฝั่งด้านหน้าโครงการ จุดเด่นของห้องนี้คือเป็นห้องมุมที่เปิดรับช่องแสงเยอะ จัดสรรพื้นที่ภายในห้องได้ดีทีเดียวครับ เริ่มตั้งแต่ส่วนแรกของห้องที่เป็นห้องนั่งเล่น ที่รวมพื้นที่รับประทานอาหารและครัวเปิดอยู่บริเวณนี้ด้วย เป็นพื้นที่กว้างที่ได้ช่องแสงขนาดใหญ่ จากนั้นจึงแจกไปยังส่วนห้องพักอาศัยด้านในอีก 2 ห้อง โดยจะมีห้องน้ำตรงกลางสำหรับห้องนอนรองและพื้นที่ส่วนด้านนอกนี้ครับ ส่วนห้องนอนหลักจะได้ห้องน้ำในตัว ห้องนี้จะเป็นห้องเปล่าที่ได้ Built-in เคาน์เตอร์ครัวมาให้นะครับ ยังไม่ได้วางเฟอร์นิเจอร์ที่โครงการให้นะครับ ลองไปชมกัน

Image 1/12
เปิดประตูเข้ามาจะเจอกับพื้นที่ Living Room โล่งขนาดใหญ่ ที่สามารถเลือกจัดได้หลากหลายเลย

เปิดประตูเข้ามาจะเจอกับพื้นที่ Living Room โล่งขนาดใหญ่ ที่สามารถเลือกจัดได้หลากหลายเลย

จะพาไปชมกันเร็ว ๆ อีกสักหนึ่งห้องนะครับ เป็นห้องที่ได้รูปถ่ายสวย ๆ มาจากทางโครงการ ห้อง 2 Bedroom 2 Bathroom ขนาด 80.11 ตร.ม. ที่มีจุดเด่นที่เป็นห้องมุมแบบหน้ากว้าง ทำให้สามารถรับแสงได้เยอะ มีพื้นที่ห้องนั่งเล่นตรงกลางที่รวมทั้งพื้นที่นั่งเล่น รับประทานอาหาร ครัว และระเบียงอยู่ในพื้นที่เดียว และทำหน้าที่เป็นตัวแจกไปยังเป็นห้องนอน 2 ฝั่งซ้ายขวา โดยห้องนอนหลักจะมีห้องน้ำในตัวและได้ระเบียงส่วนตัวภายในห้อง ส่วนห้องนอนรองก็สามารถเข้าห้องน้ำได้จากภายในห้องนอนเลยเช่นกันครับ

Image 1/12
เปิดประตูห้องเข้ามาจะเจอกับส่วนของ Living Room ขนาดใหญ่ ที่รวมหลายฟังก์ชันไว้ด้วยกัน

เปิดประตูห้องเข้ามาจะเจอกับส่วนของ Living Room ขนาดใหญ่ ที่รวมหลายฟังก์ชันไว้ด้วยกัน

Image 1/8
ห้อง 2BR-9

ห้อง 2BR-9

รูปแบบของเฟอร์นิเจอร์จริงที่จะได้ในแต่ละรูปแบบห้องครับ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ

ราคา

Savvi Phahol 2 ราคา ณ วันที่ 21 สิงหาคม 2564

  • 1 Bedroom 29.59 – 43.94 ตร.ม.จำนวน 33 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 3.69 ล้านบาท
  • 2 Bedrooms 45.56 – 80.11 ตร.ม. จำนวน 31 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 6.99 ล้านบาท
  • รูปแบบการขาย Fully Furnished
  • ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.80 เมตร
  • Kitchen & Sink / ท็อปหินสังเคราะห์
  • Hob & Hood แบบต่อท่อออกภายนอก / ยี่ห้อ Franke
  • มีรถ Shuttle Service ไปกลับ La Villa อารีย์ (ติด BTS อารีย์)
  • จอง 10,000 – 20,000 บาท
  • ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 70 บาท/ตร.ม./เดือน

* ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ

บทสรุป

ทำเล : โครงการ Savvi Phahol 2 อยู่ในซอยพหลโยธิน 2 ที่เป็นทางยกระดับเชื่อมถนนพหลโยธินกับถนนวิภาวดีรังสิต ถือเป็นซอยทางลัดที่สำคัญ และทำให้โครงการนี้สามารถอิงได้ทั้ง 2 ถนนสายหลักนี้เลย โดยตัวโครงการจะอยู่ภายในซอยย่อยเข้าไปอีกประมาณ 450 m. บริบทของซอยฝั่งเลคคู่เป็นทำเลที่เงียบสงบเหมาะแก่การอยู่อาศัย ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านของข้าราชการชั้นสูง ซึ่งจะค่อนข้างสงบเรียบร้อยและปลอดภัย ในระยะเดินจะมีร้าน Cafe อยู่บ้าง แต่อาจจะไม่ได้มีให้เลือกเยอะนัก ที่ใกล้สุดคือเซเว่นจะอยู่ปากซอยพหล 2 ในระยะ 450 m. แต่ถ้าขยับออกไปก็สามารถอิงความอุดมสมบูรณ์ของย่านพหล – อารีย์ได้สะดวก เช่น คอมมูนิตี้มอลล์ La Villa ที่ที่ปากซอยพหล 6 ที่ทางโครงการมีรถกอล์ฟวิ่งรับส่งให้ตามความต้องการ (ห่างจากโครงการประมาณ 1 km.) ถ้าข้ามฝั่งไปซอยเลขคี่จะเป็นโซนที่คึกคักมากกว่าเพราะเต็มไปด้วยอาคารสำนักงานขนาดใหญ่จึงทำให้มีร้านค้าร้านอาหารมากมาย

การเดินทางโดยใช้รถ : จุดเด่นของทำเลซอยพหลโยธินฝั่งเลขคู่คือสามารถลัดเลาะไปออกถนนหลักได้หลายเส้นทาง เป็นทำเลที่ตั้งอยู่ระหว่างทางด่วนทั้ง 2 ฝั่งคือทางยกระดับอุตราภิมุขบนถนนวิภาวดีกับทางพิเศษศรีรัชบนถนนพระราม 6 ซึ่งเราสามารถเดินทางไปใช้ทางพิเศษเหล่านี้ได้สะดวกในระยะเพียง 2 – 3 km. บวกกับอยู่ในซอยย่อยจึงเป็นทำเลที่เหมาะกับการใช้รถมากกว่า ที่จอดรถประมาณ 81% รวมจอดซ้อนคัน (มี Automatic Parking) ถือว่าให้มาเยอะพอสมควรเลยครับ

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ : บนถนนพหลโยธินมีรถไฟฟ้า BTS วิ่งผ่าน ซึ่งสถานีที่ใกล้ที่สุดคือ BTS อารีย์ อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 1 km. ถึงจะไม่ใช่ระยะเดินได้สะดวก แต่ทางโครงการก็มีรถกอล์ฟรับส่งให้ หรือถ้าจะเดินทางเองก็สามารถเรียกพี่วินจากปากซอยติดกับสถานีรถไฟฟ้าเข้ามาโครงการได้ แต่ขาออกมาจากคอนโดจะหารถยากหน่อยเพราะเป็นทำเลในซอยไม่ค่อยมีรถสาธารณะวิ่งผ่าน แต่เรียกรถเข้ามารับก็ไม่ใช่เรื่องยากครับ

วัสดุ : ทุกรูปแบบห้องจะขายในรูปแบบ Fully Furnished และ Built-in ชุดครัวกับตู้เสื้อผ้ามาให้นะครับ ซึ่งจะได้เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวที่ต่างกันไปตามขนาดห้อง หลัก ๆ ก็ชุดโต๊ะรับประทานอาหาร โซฟา โต๊ะกลาง ชั้นวางทีวี และฐานเตียง สิ่งที่จะได้ภายในห้องจะประกอบไปด้วย Digital Door Lock พื้นกระเบื้องยางไวนิล พื้นครัวแกรนิตโต้ Top เคาน์เตอร์ครัวหินเทียม อ่างล้างจานของ Franke ที่มีฝาปิดเพิ่มพื้นที่ทำครัวได้ Hob&Hood ของ Franke ดูดออกไปภายนอก ผนังครัวกรุกระจกสีชาดำ หน้าบานตู้กระจกสีชาดำ ช่องหน้าต่างสูงจากพื้นถึงฝ้าและมีกระจกเข้ามุม Bay Window บานกรอบ Powder coat สีเทาเข้ม สุขภัณฑ์ในห้องน้ำเป็นของ Mogen และ American Standard ติดฉากกั้นอาบน้ำกระจกนิรภัย Tempered Glass เดินงานระบบท่อน้ำร้อนในผนัง พร้อมระบบ Home Automation และ Sensor ตรวจจับความเคลื่อนไหวพร้อมใช้งาน ได้เครื่องปรับอากาศแบบ Wall Type และระบบปรับอากาศแบบฝังฝ้า (Ceiling Concealed type)

การออกแบบ : ส่วนตัวผมชอบที่ทางโครงการนำจุดเด่นของทำเลที่ตั้งมาต่อยอดความเงียบสงบและเป็นส่วนตัว ด้วยจำนวนยูนิตที่น้อยเพียง 64 ยูนิต เป็นข้อดีหลัก ๆ ของโครงการเลยก็ว่าได้ จากส่วนตัวผมที่ได้เข้าไปที่โครงการ อย่างแรกที่รู้สึกได้คือค่อนข้างเงียบสงบและเป็นส่วนตัวจริง ๆ ไม่มีเสียงดังและความวุ่นวายของถนนพหลโยธินให้เห็นเลย ทั้งที่เข้ามาภายในซอยแค่ไม่กี่ร้อยเมตร สามารถออกไปอิงความเจริญรอบ ๆ ของทำเลนี้ได้ง่ายและสะดวก อีกอย่างที่ผมชอบคือทั้งที่เป็นคอนโด Low Rise และพื้นที่ดินขนาดไม่ใหญ่ แต่มีการนำธรรมชาติเข้ามาภายในโครงการค่อนข้างเยอะ ทั้งการออกแบบระเบียง Facade ที่มีกระถางพุ่มไม้ให้ตามชั้นต่าง ๆ มีการเล่นมิติของกระถางเพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับโครงการในส่วนของห้องพักอาศัย พื้นที่สวนด้านล่างก็จัดมาให้ค่อนข้างเต็มที่ ต้นไม้ใหญ่และเยอะ เป็นวิวที่ดีและร่มรื่นให้กับห้องพักอาศัยด้านบน พื้นที่โดยรอบก็ค่อนข้างร่มรื่นและเงียบสงบ ส่วนการวางผังของโครงการก็แยกส่วนกลางออกจากส่วนพักอาศัยอย่างชัดเจน และคำนึงถึงบริบทโดยรอบได้ดี ทำให้มีรูปแบบห้องให้เลือกเยอะในแต่ละตำแหน่งของตัวอาคาร โดยทั้งโครงการมีจำนวนห้องพักเพียง 64 ยูนิต และมีจำนวนยูนิตต่อชั้นสูงสุดเพียง 12 ยูนิตเท่านั้น รวมถึงอัตราส่วนลิฟต์ก็มีแค่ 1 : 32 ยูนิต จึงได้ความเป็นส่วนตัวสูง

ส่วนห้องพักอาศัยก็จัดพื้นที่ภายในห้องมาสูง 2.8 เมตร ซึ่งจัดว่าหาได้ยากในโครงการย่านนี้ พื้นที่ภายในห้องก็วางผังมาค่อนข้างดี โดยเฉพาะการให้เฟอร์นิเจอร์และ Built-in จะช่วยให้สามารถใช้พื้นที่ภายในห้องได้คุ้มค่า เพราะถูกคิดและออกแบบมาเพื่อห้องนั้น ๆ ฟังก์ชันห้องก็มีให้เลือกเยอะ ทั้งครัวปิด-เปิด เป็นต้นครับ นอกจากนั้นยังมีกระจกเข้ามุมมาให้ในแต่ละตำแหน่งของห้องต่าง ๆ ช่วยให้ห้องดูกว้าง รับแสงและมุมมองได้มากยิ่งขึ้น เป็นอีกหนึ่งอย่างที่ทางโครงการเน้นให้ในแต่ละห้องเลยครับ

สาธารณูปโภค : ให้มาครบตามมาตรฐานและเหมาะสมกับจำนวนยูนิต เริ่มที่ Lobby เชื่อมต่อกับ Fitness และ Co-Working Space ที่อยู่ชั้นบน และสระว่ายน้ำ สวน และ Steam Room ที่อยู่ด้านนอก โดยใช้ผนังโดยรอบเป็นกระจกเพื่อให้เกิดการเชื่อมต่อระหว่างพื้นที่ภายในกับธรรมชาติภายนอก ทุกพื้นที่จำเป็นต้องใช้ Keycard ในการเข้าถึง เพื่อความปลอดภัยและเป็นส่วนตัวครับ


Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 140,000 บาท/ตร.ม., 20 สิงหาคม 2564

  • ทำเล 7.5/10 – อยู่ฝั่งซอยเลขคู่ที่มีความอุดมสมบูรณ์น้อยกว่าฝั่งเลขคี่ แต่ได้ความเงียบสงบมาทดแทน
  • เดินทางด้วยรถ 8/10 – ค่อนข้างสะดวก มีเส้นทางลัดหลายทาง ที่จอดรถให้เยอะ
  • ไม่ใช้รถ  7.25/10 – ทำเลในซอย เรียกรถสาธารณะยากหน่อย ห่าง BTS 1 km. แต่มีรถกอล์ฟรับส่ง
  • วัสดุ  8/10 – ให้เหมาะสมกับการใช้งาน เฟอร์นิเจอร์ให้ Fully Furnished มี Home Automation
  • แบบ 8/10 – ยูนิตน้อย ได้ความเงียบสงบและเป็นส่วนตัว จัดผังอาคารได้ดี ห้องมีให้เลือกเยอะ
  • สาธารณูปโภค 7.25/10 – ให้มาครบตามมาตรฐานและเหมาะสมกับจำนวนยูนิต

  • UPPER CLASS
  • 7.63 / 10.00

Savvi Phahol 2 เหมาะกับใคร

โครงการ Savvi Phahol 2 เหมาะกับคนที่ต้องการคอนโดในย่านอารีย์ ที่เน้นความเงียบสงบและเป็นส่วนตัว เดินทางด้วยรถส่วนตัวเป็นหลัก แต่ก็มีรถไฟฟ้าเป็นทางเลือกเสริมในการเดินทางได้  ไม่ได้เน้นการใช้งานพื้นที่ส่วนกลางนัก แต่มีให้ใช้ได้ครบตามมาตรฐาน อยากได้โครงการพร้อมอยู่ที่ไม่ต้องแต่งห้องเพิ่มเยอะนัก ห้องเน้นเปิดช่องแสงเยอะและเพดานสูง ในงบประมาณระดับ 4 – 8 ล้าน หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 28,000 – 56,000 บาท/เดือน


ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc