blue สุขุมวิท 105 คอนโด Low Rise แบรนด์ใหม่ที่สร้างเสร็จพร้อมอยู่ล่าสุด จาก Grand Unity ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 105 (ลาซาล) เป็นทำเลที่น่าสนใจและน่าอยู่อาศัยจากความอุดมสมบูรณ์ที่ครบ และยังสามารถเดินทางเข้าเมืองได้สะดวกอีกด้วย โครงการมาพร้อมสไตล์โดดเด่นทั้งส่วนกลางและห้องพักอาศัย จัดมาให้ครบแบบพร้อมอยู่ ปัจจุบันราคาเริ่มต้นที่ 1.79 ล้านบาท* โดยมี Highlights ของโครงการ ดังนี้
- ทำเล : ตั้งอยู่ใจกลางซอยลาซาล ตรงข้ามโรงเรียนลาซาล ความอุดมสมบูรณ์ครบ ใกล้ห้างสรรพสินค้าและคอมมูนิตี้มอล์ หาของกินของใช้ง่าย
- การเดินทาง : เข้าเมืองได้ง่าย มีทางลัดเข้า-ออกถนนใหญ่ได้หลายเส้นทาง ทั้งถนนสุขุมวิท ถนนศรีนครินทร์ และถนนบางนา-ตราด มีตัวเลือกไปใช้รถไฟฟ้าได้ 2 สายทั้ง BTS แบริ่ง และสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) สถานี ศรีลาซาล พร้อมบริการ Shuttle Service
- ส่วนกลาง : จัดส่วนกลางที่ยาวต่อเนื่องกันได้ขนาดใหญ่ แบ่งฟังก์ชันและแยกโซนได้ดีน่าใช้งาน ตอบโจทย์ทั้งสายออกกำลังกาย ทำงานและสายพักผ่อน
- ห้องพักอาศัย : ได้ความเป็นส่วนตัว เน้นพื้นที่ใช้สอยอยู่สบาย ได้ครัวปิดทุกแบบ จัดมาให้แบบ Fully Furnished พร้อมเข้าอยู่
ข้อมูลโครงการ
blue Sukhumvit 105 (บลู สุขุมวิท 105) ณ วันที่ 14 มีนาคม 2566
ชื่อโครงการ | blue Sukhumvit 105 (บลู สุขุมวิท 105) |
ชื่อผู้ประกอบการ | บริษัท แกรนด์ ยูนิตี้ ดิเวลล็อปเมนท์ จํากัด |
SEGMENT CLASS | MAIN CLASS (รายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2021 ) |
โครงการตั้งอยู่ | ซ.สุขุมวิท 105 (ลาซาล 57) เขต บางนา |
ที่ดิน | 3-1-18 ไร่ |
ประเภทคอนโด | Low Rise 8 ชั้น 2 อาคาร |
จำนวนยูนิต | 387 ยูนิต (แบ่งเป็น อาคาร A = 202 ยูนิต, อาคาร B = 185 ยูนิต) |
ยูนิตต่อชั้นสูงสุด | 29 ยูนิต ที่อาคาร A |
ที่จอดรถ | 135 คัน (จอดซ้อนคันประมาณ 23 คัน) หรือคิดเป็น 41% แบบรวมจอดซ้อนคัน |
เริ่มก่อสร้าง | ปี 2565 |
คาดว่าจะแล้วเสร็จ | สร้างเสร็จพร้อมอยุ่ |
ประเภทห้องพัก |
|
ฝ้าเพดานสูง | 2.5 เมตร |
ราคาเริ่มต้น | 1.79 ล้านบาท* |
ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ | ประมาณ 86,000 บาท/ตร.ม. |
ช่วงราคา(ต่ำสุด-สูงสุด) | 1.79 – 3.29 ล้านบาท* |
EIA (ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) | ผ่านแล้ว |
เว็บไซต์โครงการ | https://grandunity.co.th/th/blue-sukhumvit-105 |
Call Center | 02-652-4000 |
ทำเลที่ตั้ง
พิกัด Google Maps : 13.659356, 100.631668
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
โครงการ blue สุขุมวิท 105 ตั้งอยู่ใจกลางซอยลาซาล ตรงข้ามโรงเรียนลาซาล ติดถนนหลักสัญจรง่าย มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ มีทางลัดเชื่อมต่อกับถนนใหญ่ได้ 3 สายทั้งสุขุมวิท ศรีนครินทร์ และบางนา-ตราด การเดินทางเข้าเมืองทำได้ง่าย ใกล้ทางด่วนและมีรถไฟฟ้าให้ใช้งาน 2 สาย
โครง blue สุขุมวิท 105 การตั้งอยู่ใจกลางซอยลาซาล บริเวณตรงข้ามกับโรงเรียนลาซาลพอดี ซึ่งถือว่าเป็นโซนที่อุดมสมบูรณ์มากๆของซอยเลยก็ว่าได้เพราะมีทั้งโรงเรียนนานาชาติ ร้านสะดวกซื้อ ตลาด และคอมมูนิตี้มอลล์อย่าง Lasalle’s Avenue และดาดฟ้า อีกทั้งยังอยู่ใกล้กับห้าง Central บางนา ทำให้เรื่องอาหารการกินนี่ไม่ต้องห่วงเลย รวมถึงทำเลย่านนี้ก็ยังมีอาคารสำนักงานต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Central City Tower , ภิรัชทาวเวอร์ และไบเทค บางนา เป็นต้น
สำหรับถนนซอยลาซาล (หรือสุขุมวิท 105) บริเวณกลางซอยไปจนถึงท้ายซอยฝั่งศรีนครินทร์ จะเป็นถนนเส้นใหญ่ที่สัญจรได้ง่ายกว่าฝั่งสุขุมวิท อีกทั้งยังมีทางลัดไปเชื่อมต่อกับถนนสำคัญๆถึง 3 สาย (สุขุมวิท, ศรีนครินทร์, บางนา-ตราด) และยังมีรถไฟฟ้า 2 สาย ที่ใช้เดินทางเข้าเมืองได้สะดวกมากๆอีกด้วย นั่นจึงทำให้ที่ตั้งของโครงการนี้ เป็นอีกหนึ่งทำเลที่น่าสนใจของย่านมากๆทีเดียว
โดยซอยลาซาลจะมีทางลัดที่สามารถเชื่อมต่อถนนใหญ่ และเข้า-ออกได้หลายเส้นทาง ดังนี้
- ถนนสุขุมวิท : เป็นเส้นทางหลักที่สามารถมาขึ้นรถไฟฟ้า BTS ได้ ระยะทางประมาณ 3.7 km. (โดยทางโครงการจะมี Shuttle Service ไป-กลับ BTS แบริ่ง ให้บริการด้วยนะ)
- ถนนศรีนครินทร์ : เป็นเส้นทางที่ใกล้ที่สุด สามารถเข้าเมืองไปทางบางกะปิ และยังมาขึ้นรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) ได้ในระยะทางประมาณ 1.2 km. ซึ่งปลายปี 65 นี้ก็คาดว่าจะเริ่มเปิดให้ใช้งานบางส่วนแล้วด้วย
- ถนนบางนา-ตราด : ใช้ทางลัดผ่านซอยลาซาล 55 และซอยบางนา-ตราด 30 ซึ่งความพิเศษของซอยนี้คือสามารถขึ้นสะพานกลับรถไปยังห้าง Central บางนา หรือจะไปขึ้นทางด่วนบูรพาวิถี แล้วมุ่งหน้าออกไปทางชลบุรีได้
- ถนนบางนา-ตราด : ซอยลาซาล 23 เป็นอีกหนึ่งเส้นทางที่มักนิยมใช้มาออกถนนบางนา-ตราด โดยจะเหมาะกับคนที่ต้องการเดินทางไปใช้ทางด่วนเฉลิมมหานคร บริเวณสี่แยกบางนา หรือจะมาไบเทคและอาคารภิรัชทาวเวอร์ก็ได้
เส้นทางจากโครงการไปทางด่วนบูรพาวิถี ระยะทางประมาณ 3.5 km.
- ทางด่วนที่ใกล้โครงการที่สุดคือ ทางด่วนบูรพาวิถี สามารถใช้ซอยลาซาล 55 เพื่อไปลัดออกถนนบางนา-ตราด แล้วขึ้นสะพานกลับรถไปขึ้นทางด่วนตรงหน้าห้างเซ็นทรัลได้ ในระยะทางประมาณ 3.5 km. สามารถออกเมืองไปทางชลบุรีได้
- ทางด่วนเฉลิมมหานคร ห่างจากโครงการประมาณ 5.4 km. สามารถเข้าเมืองไปทางพระราม 4 – สาทร – เพลินจิต หรือจะไปเชื่อมต่อกับทางด่วนศรีรัช และทางด่วนฉลองรัชก็ได้
เส้นทางการเดินทาง
สำหรับการเดินทางในวันนี้จะใช้เส้นทางจากถนนสุขุมวิท ผ่านมาถึงรถไฟฟ้า BTS สถานีบางนา แล้วเลี้ยวซ้ายซอยสุขุมวิท 105 หรือซอยลาซาล จากนั้นก็ตรงเข้ามาในซอยเรื่อยๆได้เลย เลี้ยวขวาตามเส้นทาง ระยะทางประมาณ 3.6 km. ก็จะเจอกับที่ตั้งโครงการอยู่ทางซ้ายมือ
เริ่มจากใช้เส้นทางจากถนนสุขุมวิทผ่านมาถึงรถไฟฟ้า BTS สถานีบางนา แล้วเลี้ยวซ้ายซอยสุขุมวิท 105 หรือซอยลาซาล
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
ที่ตั้งโครงการจะอยู่ติดถนนหลักลักษณะที่ดินจะเป็นตอนลึกเข้าไปด้านใน ดังนั้นวิวที่ได้รับส่วนใหญ่จึงจะเป็นด้านข้างทางทิศตะวันตกและตัะวันออกเป็นหลัก ส่วนมากจะเป็นชุมชนแนวราบและซอยลาซาล 57 ค่อนข้างเงียบสงบไม่วุ่นวาย แต่เพราะอยู่ติดกับถนนหลักด้านหน้า ทำให้สามารถเดินไปจับจ่ายใช้สอย หรือไปใช้บริการรถสาธารณะได้สะดวก เรามาดูว่าแต่ละด้านของที่ดินติดกับอะไรบ้าง
- ทิศเหนือ : ติดกับ ที่ว่างและบ้าน 2 ชั้น
- ทิศใต้ : ติดกับ ถนนลาซาล และฝั่งตรงข้ามเป็นโรงเรียนลาซาล
- ทิศตะวันออก : ติดกับ ที่ว่างและชุมชนแนวราบ
- ทิศตะวันตก : ติดกับ ซอยลาซาล 57 เป็นซอยตัน ฝั่งตรงข้ามเป็นที่ว่างและคอนโดสูง 8 ชั้น
ตรงข้ามกับที่ตั้งโครงการจะเป็นโรงเรียนลาซาล
บรรยากาศโดยรอบโครงการ
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ
ห้างสรรพสินค้า / ตลาด
- ตลาดถนอมทรัพย์ ~ 110 m. (ระยะเดิน)
- ตลาดนัดลาซาล 48 ~ 240 m. (ระยะเดิน)
- Lasalle’s Avenue ~ 1.3 km.
- Makro ~ 2 km.
- Big C ~ 2.1 km.
- Dadfa ~ 2.2 km.
- Central บางนา ~ 3.4 km.
- ตลาดต้นไทร ~ 3.8 km.
- JAS URBAN ~ 3.8 km.
- Seacon Square ~ 5.5 km.
- Paradise Park ~ 5.6 km.
- Mega Bangna ~ 8.9 km.
โรงพยาบาล
- โรงพยาบาลศิครินทร์ ~ 1.7 km.
- โรงพยาบาลไทยนครินทร์ ~ 3.8 km.
- โรงพยาบาลสินแพทย์ ศรีนครินทร์ ~ 4.1 km.
โรงเรียน
- โรงเรียนลาซาลกรุงเทพ ~ 100 m. (ระยะเดิน)
- โรงเรียนบางกอกพัฒนา ~ 1.3 km.
- Thai-Singapore International School ~ 2.6 km.
- St. Andrews International School ~ 4.2 km.
- St Joseph Bang Na School ~ 5 km.
- วิทยาลัยดุสิตธานี ~ 5.9 km.
- Berkeley International School ~ 7 km.
- วิทยาลัยเทคโนโลยีอรรถวิทย์พณิชยการ ~ 7 km.
สถานที่ทำงาน
- Central City Tower ~ 3.3 km.
- CenterPoint Entertainment ~ 3.6 km.
- ไบเทค บางนา ~ 4.4 km.
- อาคารภิรัชทาวเวอร์ ~ 4.4 km.
- Interlink Tower Bangna ~ 5.6 km.
รายละเอียดโครงการ
โครงการ bule สุขุมวิท 105 เป็นคอนโด Low Rise 2 อาคาร และมีจำนวนทั้งหมด 387 ยูนิต ตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 3-1-18 ไร่ โดยปัจจุบัน bule สุขุมวิท 105 ถือเป็นโครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่โครงการล่าสุดของทาง Grand Unity ที่ได้ทำคอนโดแบรนด์ใหม่นี้ออกมา
ซึ่งคำว่า “bule” ก็หมายถึง “สีฟ้า” และทำให้นึกถึงสายน้ำ ดังนั้นการดีไซน์ของ Facade ภายนอกอาคาร จะมีลักษณะเป็นเหมือนคลื่นน้ำ ที่มีส่วนโค้งเว้ายื่นออกมา เป็นลูกเล่นที่ค่อนข้างแตกต่างจากโครงการในย่านเดียวกัน แถมยังมีผลต่อพื้นที่การใช้งานในห้องพักอาศัยอีกด้วย โดยโครงการนี้จะมี Highlights ที่น่าสนใจ ได้แก่
- ส่วนกลางยาวตั้งแต่ด้านหน้าโครงการไปจนถึงด้านหลัง ทำให้มีขนาดใหญ่และใช้งานต่อเนื่องกันได้ดี แถมยังได้พื้นที่สีเขียวแนวยาวตลอดแนวอาคารทั้ง 2 อาคาร
- แบ่งโซนการใช้งาน Facilities ชัดเจน โดยอาคาร A จะเน้นทำงานและรับแขก ส่วนอาคาร B จะเป็นแนว Active เน้นออกกำลังกาย รวมถึงมีประตูกั้นจากส่วนพักอาศัย เพื่อความเป็นส่วนตัวและปลอดภัยด้วย
- แยกทางเข้า-ออกคนละจุด ทำให้การสัญจรของรถยนต์ทำได้ง่าย ไม่ต้องวนรถหรือสวนทางกันด้านใน
- มีตำแหน่งห้องที่ผนังติดห้องข้างๆด้านเดียวให้เลือกเยอะ จึงค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัว
ส่วนรายละเอียดต่างๆของโครงการในแต่ละชั้น และส่วนกลางเมื่อสร้างเสร็จแล้วจะเป็นอย่างไร ไปชมกันได้เลยค่ะ
Master Plan ของโครงการ จะมีทางเข้า-ออกจากซอยลาซาล 57 ที่อยู่ด้านข้าง และแบ่งทางเข้า-ออกจากกันชัดเจน โดยที่จอดรถจะอยู่ใต้อาคารทั้งหมด 135 คัน (จอดซ้อนคันประมาณ 23 คัน) หรือคิดเป็น 41% แบบรวมจอดซ้อนคัน ถือว่ามีมาให้เยอะพอสมควร
ที่น่าสนใจก็คือ พื้นที่ส่วนกลางทั้งหมดจะอยู่ทางด้านข้างของอาคาร โดยจะเน้นเป็นพื้นที่สีเขียว และมีความยาวต่อเนื่องกันตลอดแนวอาคารทั้ง 2 อาคาร จึงทำให้ดูแล้วมีขนาดค่อนข้างใหญ่ดี สามารถเดินไปใช้งานได้อย่างต่อเนื่องกัน หรือหากใครที่ชอบใช้ Facilities ไหนเป็นประจำ ก็อาจเลือกพักอาศัยที่อาคารนั้นๆได้เลย จะได้สามารถมาใช้งานได้สะดวกมากขึ้น เช่น อาคาร A จะเป็นแนวนั่งทำงานพักผ่อน และยังใช้เป็นส่วนต้อนรับแขกได้อีกด้วย ส่วนอาคาร B จะเป็นแนว Active เน้นกิจกรรมออกกำลังกายเป็นหลัก
ขึ้นมาที่ชั้น 2 แต่ละอาคารก็จะมี Facilities ที่ใช้งานต่อเนื่องมาถึงด้านบนได้ โดยจะแยกออกจากโซนห้องพักอาศัยชัดเจนด้วยประตู Key Card Access เพื่อความเป็นส่วนตัวและปลอดภัย ซึ่งถ้าใครที่ชอบใช้งานส่วนกลางเหล่านี้บ่อยๆ ก็อาจเลือกอยู่อาศัยที่ชั้นนี้ได้สามารถเดินมาใช้งานได้สะดวกมากขึ้น
ชั้น 4 จะเป็นอีกหนึ่งชั้นที่ยังคงมีส่วนกลางให้ใช้งาน แต่ก็จะเป็น Pocket Garden เล็กๆ ให้เราได้ขึ้นมานั่งพักผ่อน หรือชมวิวแบบสงบๆได้ เพราะจะไม่ค่อยวุ่นวายเหมือนส่วนกลางชั้นอื่นๆมากนัก
บริเวณทางเข้าโครงการ
โครงการแยกทางเข้า-ออกคนละจุด ทำให้การสัญจรของรถยนต์ทำได้ง่าย ไม่ต้องวนรถหรือสวนทางกันด้านใน เริ่มที่บริเวณทางเข้าโครงการจะมีรปภ. คอยช่วยอำนวยความสะดวก ติดไม้กระดกระบบ RFID สำหรับลูกบ้านสามารถเข้า-ออกได้สะดวก และมีกล้อง CCTV คอยบันทึกการเข้า-ออกไว้
บริเวณด้านหน้าโครงการจะมีแนวทางเดิน สามารถเดินเข้าโครงการทางด้านในได้
จากแนวทางเดินจะเชื่อมมาที่ทางเข้าของอาคาร A และมีแนวทางเดินเชื่อมต่อไปด้านในโครงการได้ โดยบริเวณนี้จะมีประตูแบ่งโซนการใช้งานไว้เป็นสัดส่วน
เข้ามาที่อาคาร A ทางด้านหน้าจะเป็นส่วน Co-Working Space โดยจะแบ่งเป็น 2 ชั้น ลักษณะแบบ Double Volume มีบันไดเชื่อมต่อไปด้านบนได้
มาที่ชั้นล่างก่อน จะเป็นทางเข้าเชื่อมต่อมาจากที่จอดรถ บริเวณนี้จะมีห้อง Laundry
, Smart Locker และห้องน้ำ ในส่วนของ Smart Locker ไว้ให้บริการฝากของต่างๆได้หลากหลายขนาด ซึ่งจะเชื่อมต่อกับ Application บนโทรศัพท์มือถือได้ สามารถเช็คได้ว่ามีของมาฝากส่งไว้หรือยัง
ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะเป็นพื้นที่นั่งพักผ่อนเป็นพื้นที่ฝ้าเพดานสูง Double Volume พร้อมกับช่องแสงขนาดใหญ่ทางด้านข้าง บรรยากาศจึงโปร่งโล่งดีมากๆ
จากพื้นที่ Co-Working Space จะมีบันไดเพื่อเดินเชื่อมไปส่วนกลางอื่นๆในชั้นนี้ โดยในอาคาร A จะเป็นแนวนั่งทำงานพักผ่อน
เดินขึ้นมาจะมีห้อง Meeting room ไว้ให้ใช้งาน ทางโครงการจัดเตรียมพื้นที่ไว้ให้พร้อม มีกระดานให้ใช้งาน ห้องติดเครื่องปรับอากาศไว้ให้เรียบร้อย
Co-Working Space
ถัดมาจะเป็นห้อง Co-Working Space ซึ่งจะมีโซฟานั่งเล่นกระจายตัวอยู่หลายจุด สามารถมานั่งเล่นพักผ่อน นั่งทำงาน หรือเอาไว้ใช้รับรองแขกภายนอกได้ด้วย
Game Room
เดินขึ้นมาจากห้อง Co-Working Space จะเป็นห้อง Game Room ให้ขึ้นมาใช้เวลาพักผ่อนเล่นเกมส์ต่างๆได้ โดยโครงการจะเตรียม Air Hockey Table , Table Football ไว้ให้
มากันที่อาคาร A เริ่มจากทางเข้าจากส่วนที่จอดรถ บริเวณนี้จะมีห้อง Laundry
, Mail Room และห้องน้ำ ของอาคารนี้เตรียมไว้ให้
Mail Room ของอาคาร A จะมีช่องจดหมายเฉพาะห้องของลูกบ้านอาคาร A เท่านั้น โดยแยกโซนกันระหว่าง 2 อาคาร เพื่อให้สามารถรับจดหมายได้สะดวกมากขึ้น
ถัดเข้ามาจะเป็นส่วน Lobby ของอาคาร A จัดชุดโซฟาให้นั่งได้สบายๆ ได้วิวบรรยากาศพื้นที่สวนสีเขียวที่อยู่ทางด้านข้างของตัวอาคารไปด้วย
จาก Lobby เพื่อจะไปโถงลิฟต์ ขึ้นไปชั้นบนของอาคาร จะมีระบบ Access Control ผ่านเข้า-ออกอาคารเป็นระบบ Facescan เพื่อความปลอดภัย
เข้ามาก็จะเป็นโถงลิฟต์ของอาคาร A โดยจะมีลิฟต์โดยสารให้ใช้งาน 2 ตำแหน่ง บริเวณโถงลิฟต์จะได้แสงธรรมชาติ สว่างโปร่งโล่ง ช่วงเวลากลางวันจึงไม่ต้องเปิดไฟก็ใช้งานได้
แนวทางเดินพื้นที่สีเขียวทางด้านข้างของอาคาร
ถัดมาจะพามาเดินดูบรรยากาศของพื้นที่สีเขียวทางด้านข้างของอาคาร ซึ่งออกแบบเป็นแนวทางเดินเชื่อมต่อไปถึงอาคาร B ได้ โดยตลอดทางก็จะมีที่นั่งพักผ่อน ทางเดินและปลูกต้นไม้ให้ความร่มรื่นตลอดทาง และมี Badminton Court แบบกลางแจ้งให้เรามาเล่นออกกำลังกายกันได้
มากันที่อาคาร A เริ่มจากทางเข้าจากส่วนที่จอดรถ บริเวณนี้จะมีห้อง Laundry
, Mail Room และห้องน้ำ ของอาคารนี้เตรียมไว้ให้ เช่นกัน
Lobby อาคาร B
ส่วน Lobby ของอาคาร B จัดชุดโซฟาให้นั่งได้หลากหลาย ได้วิวบรรยากาศพื้นที่สวนสีเขียวที่อยู่ทางด้านข้างของตัวอาคารเช่นกัน
Mail Room ของอาคาร B
ทางด้านข้างจะเป็น Mail Room ของอาคาร B มีประตูทางเข้าแยกไปส่วนของโถงลิฟต์ โดยจะมีระบบ Access Control ผ่านเข้า-ออกอาคารเป็นระบบ Facescan เพื่อความปลอดภัย
จาก Lobby อาคาร B จะสามารถเดินขึ้นไปในใช้งานชั้น 2 ได้ โดยอาคาร B จะเน้นเป็นแนว Active เน้นเป็นสายออกกำลังกาย
Fitness
ภายใน Fitness มีเครื่องออกกำลังกายครบ พื้นที่ใช้งานค่อนข้างกว้างใช้งานได้สะดวก
Fitness
เดินขึ้นมาชั้นบนก็จะมีเครื่องเล่นหลากหลายชิ้น ให้เลือกใช้งานตามความชอบ พร้อมกับช่องแสงขนาดใหญ่ ที่สามารถออกกำลังกายไปและชมวิวภายนอกไปด้วยได้
เดินออกมาที่ด้านนอกของอาคาร B ก็จะเจอกับสระว่ายน้ำแบบกลางแจ้งของโครงการ
บริเวณสระว่ายน้ำ ซึ่งนอกจากจะมีความเป็นส่วนตัวแล้ว ยังช่วยทำให้ห้องพักอาศัยด้านบน สามารถชมวิวผืนน้ำของสระได้ดีมากขึ้นอีกด้วย
สระว่ายน้ำกลางแจ้งความยาว 7.8 x 35 m. ที่สามารถว่ายน้ำออกกำลังได้แบบจริงจัง
พร้อมพื้นที่นั้งพักผ่อนริมสระ ช่วงเช้าของวันจะได้แนวร่มจากตัวอาคารพอดี สามารถมาว่ายน้ำได้สบายๆ แดดไม่ร้อน
ติดกันจะเป็นสระน้ำตื่น สามารถให้เด็กๆมาใช้งานเป็นสระว่ายน้ำเด็กได้ หรือมานั่งแช่น้ำหย่อนใจได้
พื้นที่นั่งพักผ่อนริมสระว่ายน้ำ จะมีให้เลือกหลากหลายอยู่รอบๆสระ
พื้นที่นั่งพักผ่อนริมสระว่ายน้ำ จะมีให้เลือกหลากหลายอยู่รอบๆสระ
ห้องน้ำหญิง
ในชั้นนี้จะมี มีห้องน้ำ-อาบน้ำ (แยกชาย-หญิง) ไว้ให้พร้อมใช้งาน สามารถเดินจากสระว่ายน้ำ หรือ Fitness มาใช้งานได้สะดวกมากๆ ภายในมีห้องน้ำและห้องอาบน้ำ มีเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า และ Locker เตรียมไว้ให้ครบ
ห้องน้ำชาย
ภายในแบ่งพื้นที่เป็นห้องน้ำ ห้องน้ำชายจะเพิ่มส่วนโถสุขภัณฑ์ชาย มาให้เพื่อความสะดวกในการใช้งาน
แนวทางเดินพื้นที่สีเขียวทางด้านข้างของอาคาร B
บรรยากาศของพื้นที่สีเขียวทางด้านข้างของอาคาร B ออกแบบเป็นทางเดินเชื่อมต่อไปถึงอาคาร A ทางด้านหน้าได้ โดยปลูกต้นไม้ให้ความร่มรื่นตลอดทาง ปลายสุดทางเดินจะเป็น Calorie Counting Steps เป็นบันไดที่เดินเชื่อมต่อขึ้นไปยังสระว่ายน้ำที่อยู่บนชั้น 2 มีการออกแบบโดยเล่นสีสันของบันไดให้มีความสดใสและน่าถ่ายรูปเล่นสวยๆ พร้อมเพิ่มตัวเลขนับแคลอรี่ให้ดูกันเล่นๆอีกด้วย
เรามาดูชั้นพักอาศัยโดยจะจัดให้เป็นห้องพักทั้งหมดแบบเต็ม Floor โดยอาคาร B จะมีห้องในชั้นอยู่ที่ 27 ห้อง/ชั้น ซึ่งน้อยกว่าอาคาร A อยู่ที่ 29 ห้อง/ชั้น บวกกับตำแหน่งของอาคารที่อยู่ถัดเข้ามาในซอย ห่างจากถนนหลักพอสมควร เลยทำให้มีความเงียบสงบและเป็นส่วนตัวมากกว่า ในเรื่องการวางตำแหน่งห้องพัก ส่วนมากห้องที่หันไปทางทิศตะวันตกจะเป็นห้องไซส์ใหญ่ ข้อดีคือเป็นด้านที่สามารถมองเห็นส่วนกลางสวยๆได้ดี ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่สีเขียวและสระว่ายน้ำ ซึ่งถ้าใครชอบวิวไหนก็ลองเลือกตามที่ถูกใจกันได้ ส่วนห้องทางทิศตะวันออกที่รับวิวชุมชนภายนอก ส่วนใหญ่จะเป็นห้องไซส์เล็กที่ราคาจับต้องได้ง่ายกว่า และตำแหน่งห้องที่น่าสนใจอื่นๆจะมีดังนี้
- กรอบสีแดง : เป็นห้องพักเดียวที่ไม่มีผนังติดกับเพื่อนบ้านเลย ซึ่งดูเผินๆก็จะมีความเป็นส่วนตัวค่อนข้างสูง แต่ตำแหน่งจะอยู่ใกล้โถงลิฟต์ ข้อดีคือเดินมาใช้ลิฟต์ได้ง่านสะดวก แต่ก็จะมีโอกาสที่เราจะได้ยินเสียงของลิฟต์หรือคนที่มาใช้งานขึ้น-ลงได้ง่ายด้วยเช่นกัน
- กรอบสีส้ม : เป็นตำแหน่งห้องตรงสุดทางเดิน และมีผนังติดกับห้องข้างๆนแค่ด้านเดียว แน่นอนว่าเราจะได้ความเป็นส่วนตัวในระดับหนึ่ง แต่ด้วยตำแหน่งที่อยู่ด้านหน้าสุดของโครงการ อาจได้ยินเสียงรถจากถนนได้บ้าง แต่ถ้าใครไม่ซีเรียสเรื่องเสียงล่ะก็ เรายังจะได้วิวที่เปิดโล่งของถนนหลัก และโรงเรียนลาซาลที่อยู่ฝั่งตรงข้ามด้วยนะ
- กรอบสีน้ำเงิน : เป็นตำแหน่งห้องที่มีผนังติดกับห้องข้างๆแค่ด้านเดียวเช่นกัน ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะอยู่ติดกับบันไดหนีไฟ จึงค่อนข้างได้ความเป็นส่วนตัวมากๆเลยทีเดียว
โถงลิฟต์ในส่วนพักอาศัย
บริเวณโถงลิฟต์และแนวทางเดินในส่วนพักอาศัย โดยแนวทางเดินจะเป็นทางยาวโดยมีห้องพักขนานอยู่ทั้งสองด้าน ติดไฟทางเดินแบบ Downlight มีหน้าต่างช่วงเวลากลางวันจึงไม่ต้องเปิดไฟ สามารถเปิดเพื่อให้ลมพัดผ่านถ่ายเทอากาศบริเวณนี้ได้ มีทางหนีไฟ และติดอุปกรณ์ตรวจจับควัน กริ่งสัญญาณแจ้งเตือนฉุกเฉิน และอุปกรณ์ระบบ Sprinkle ไว้ให้เรียบร้อย
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
อาคาร A
ชั้น 1
- Lobby
- Mail Room
- Co-Working Space
- Meeting Room
- Garden
- Laundry
- Smart Locker
- EV Charger 1 ตำแหน่ง
- Badminton Court
ชั้น 4
- Multi Garden
- Game Room
อาคาร B
ชั้น 1
- Lobby
- Mail Room
- Laundry
- Swimming Pool ขนาด 7.8 x 35 m.
- บันได Calorie Counting Steps
- Fitness
- ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
- อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 96 : 1
- อัตราส่วนลิฟต์ตึก A 101 : 1
- อัตราส่วนลิฟต์ตึก B 92 : 1
- ที่จอดรถประมาณ 135 คัน (จอดซ้อนคันประมาณ 23 คัน) หรือคิดเป็น 41% แบบรวมจอดซ้อนคัน
- ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ CCTV / Key Card / RFID
แบบห้อง
รูปแบบห้องพักอาศัยของโครงการ blue สุขุมวิท 105 จัดรูปแบบห้องมาค่อนข้างหลากหลาย ตอบโจทย์การอยู่อาศัยและการใช้งานในหลายประเภท มีจุดเด่นสำคัญได้แก่
- เน้นห้องหน้ากว้าง เน้นความโปร่งโล่งด้วยการกั้นผนังกระจกตรงกลางห้อง
- ตัวเลือกห้องที่ออกแบบเพิ่มพื้นที่อเนกประสงค์ในรูปแบบของห้อง Plus ให้ใช้งานได้หลากหลายและเป็นสัดส่วนมากยิ่งขึ้น
- ได้ช่องหน้าต่างบานใหญ่ เพิ่มช่องแสงด้านข้างคล้าย Bay Window ช่วยเปิดมุมมองให้ดูกว้างมากขึ้น
- ด้วยดีไซน์การออกแบบ Facade ของอาคาร เลยทำให้ระเบียงของห้องพักมีพื้นที่ใช้สอยตรงส่วนโค้งเว้าเพิ่มขึ้น (ไม่ได้อยู่ในโฉนด แต่ใช้งานได้เหมือนเป็นพื้นที่ห้องตัวเอง)
- เฟอร์นิเจอร์ Fully Furnished พร้อมเข้าอยู่ เป็นแบบ Multi-Function สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้
แบบห้องของโครงการนี้มีให้เลือก 2 Type หลักๆ ขายแบบ Fully Furnished ขาดแค่ฟูกที่นอน กับเครื่องใช้ไฟฟ้าก็สามารถเข้าอยู่ได้เลย ประกอบด้วย
- 1 Bedroom ขนาด 24.30 -32.60 ตร.ม.
- 1 Bedroom Plus ขนาด 32 – 35.70 ตร.ม.
1 Bedroom Type A ขนาด 24 – 24.5 ตร.ม. เป็นห้องไซส์เล็กสุดของโครงการ ขนาดเหมาะกับอยู่อาศัย 1-2 คน กำลังดี ภายในแบ่งฟังก์ชันเป็นสัดส่วนชัดเจน ใช้การกั้นห้องนอนและส่วนห้องนั่งเล่นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ ทำให้ได้บรรยากาศที่สว่างและโปร่งโล่งดี แถมยังมีห้องครัวปิดขนาดใหญ่ที่อยู่ติดกับระเบียง จึงเหมาะกับคนที่ชอบทำอาหารทานเอง พื้นที่ในครัวมีพื้นที่ให้วางเครื่องซักผ้า อันนี้ดีนะไม่ต้องไปวางที่ระเบียงตากแดดตากฝน ประตูทางเข้าห้องน้ำจะอยู่ภายในห้องครัว ซึ่งเราสามารถเปิดเชื่อมต่อกับประตูระเบียง เพื่อระบายอากาศ/กลิ่น/ความชื้นได้ตลอดเวลา โดยแยกจากพื้นที่โซนพักผ่อนส่วนอื่นในห้องได้อย่างเป็นสัดส่วน พื้นที่ระเบียงมีขนาดเหมาะกับการใช้งาน สำหรับตากผ้า แขวน Condensing Unit ของเครื่องปรับอากาศได้
เริ่มจากประตูหน้าห้องได้บานไม้ปิดผิวด้วยลามิเนตทำสีขาว มือจับของจริงเป็น Digital Door Lock ของ ICON บริเวณประตูทางเข้าจะทำตัวจบระหว่างพื้นห้องด้านในไว้ให้เรียบร้อย เพื่อป้องกันฝุ่นจากแนวทางเดิน
ถัดเข้ามาด้านในตัวห้องจะเป็นพื้นที่ของห้องนั่งเล่นของตัวห้อง ตัวห้องค่อนข้างโปร่งโล่งเพราะได้แสงธรรมชาติจากประตูบานเลื่อนกระจกส่องเข้ามาถึงด้านใน ปูพื้นด้วยพื้นไม้ลามิเนต ภายในห้องจะมีความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.5 m.
เมื่อเข้ามาด้านในบริเวณด้านหลังประตูจะติด Door Stopper ไว้ที่พื้นด้านล่างเพื่อป้องกันประตูเปิดแล้วชนกับชุดตู้ด้านข้าง เป็นตู้ Built-in ที่สูงจากพื้นถึงฝ้า มีหน้าบานปิดให้เรียบร้อย สามารถเก็บรองเท้าหรือของอื่นๆได้หลากหลาย
ถัดเข้ามาจะเป็นส่วนห้องนั่งเล่นสามารถตั้งชุดโซฟา 2-3 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะรับแขกได้ ส่วนระยะห่างจากโซฟาถึงตำแหน่งติดตั้งทีวี อยู่ที่ประมาณ 2.65 m. ในระยะประมาณนี้เราสามารถเลือกทีวีขนาด 40″- 45″ กำลังดี
การใช้งานส่วนต่างๆภายในห้องใช้การกั้นพื้นที่ระหว่างห้องนั่งเล่น และห้องนอนด้วยประตูบานเลื่อนกระจกตรงกลางห้อง ช่วยทำให้ห้องยังได้แสงธรรมชาติ ตัวห้องจะดูกว้าง โปร่งโล่งมากขึ้น
โครงการใช้บานเลื่อนแบบ 2 ตอน เป็นกระจกใสช่วยทำให้ห้องดูโปร่งโล่งมากขึ้น กรอบจะเป็นอลูมิเนียมสีดำปกติ และใช้เป็นกระจกนิรภัย Tempered Glass ที่แตกแล้วจะเป็นเมล็ดข้าวโพดใช้งานได้อย่างปลอดภัย เราสามารถติดม่านเพิ่มเติมหากต้องการใช้งานเป็นส่วนตัวมากขึ้นได้
เข้ามาด้านในสุดจะเป็นห้องนอนพื้นที่ภายในสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุต แล้วเหลือพื้นที่รอบเตียงใช้งานได้สะดวก การวางตำแหน่งห้องนอนลักษณะนี้ จะมีข้อดีตรงตำแหน่งห้องนอนจะอยู่ฝั่งริมติดหน้าต่าง ทำให้สามารถเปิดรับลมและแสงธรรมชาติได้ดี
มีระยะระหว่างด้านข้างเตียงฝั่งประตูบานเลื่อนกว้างประมาณ 50 cm. มีพื้นที่ให้วางชั้นวางของเล็กๆข้างเตียง มีปลั๊กไฟและช่องเสียบ usb เตรียมไว้ให้ ฐานเตียงด้านหนึ่งยังมีลิ้นชักให้เก็บของข้างใต้ได้
ปลายเตียงนอกจากจะแขวนทีวีติดผนัง เพื่อนอนดูบนเตียงสบายๆได้แล้ว โครงการจะมี Built-in ตู้เสื้อผ้าซ่อนไว้ในผนังด้วย ซึ่งทำให้ดูเป็นระเบียบเรียบร้อย และไม่เกะกะพื้นที่ทางเดินรอบเตียง
ส่วนระยะระหว่างปลายเตียงถึงผนัง กว้างประมาณ 70 cm.เป็นระยะที่ใช้งานเดินได้สะดวก ส่วนระยะข้างเตียงถึงหน้าต่างกระจก กว้างประมาณ 15 cm. ค่อนข้างพอดีใช้งานให้ยืนเปิดหน้าต่างได้แบบพอดีๆ
ถัดมาเป็นส่วนครัวปิด มีประตูกระจกบานเลื่อนกั้นแบบนี้ ทำให้ช่วยป้องกันกลิ่น/ควันจากการทำอาหาร ไม่ให้ลอยฟุ้งเข้ามาในห้องได้ แต่แสงยังสามารถส่องผ่านเข้ามาด้านใน ทำให้ห้องดูสว่างและโปร่งโล่งมากขึ้นได้ โดยจะเป็นประตูแบบแขวนไว้ด้านบน จึงไม่มีรางบนพื้นมาทำให้เดินสะดุดหรือเก็บฝุ่น
โครงการออกแบบพื้นที่ครัวปิดขนาดเหมาะกับการใช้งาน ตำแหน่งครัวอยู่ติดกับระเบียง ซึ่งเราสามารถเปิดประตูเพื่อระบายกลิ่น/ควันออกไปภายนอกโดยตรงได้เลย จึงเป็นแบบห้องที่เหมาะกับคนชอบทำอาหารจริงจังได้
โครงการออกแบบพื้นที่ครัวให้สามารถใช้งานเป็นส่วนทานอาหารได้ด้วย พื้นที่ภายในครัวประมาณ 2.2 x 1.65 m. มีระยะให้ยืนทำครัวได้ใช้งานได้สะดวก ปูพื้นด้วยกระเบื้องทั้งหมดเหมาะกับการใช้งานสามารถทนความชื้น เช็ดถูทำความสะอาดได้ง่าย
ชุดครัวแบบ Built-in หน้าบานลามิเนตสีขาวทั้งชุด โดยแบ่งการใช้งานตัวตู้ด้านบนทั้ง 2 ฝั่ง แบ่งเป็นช่องเก็บของ 2 ระดับให้ตั้งไมโครเวฟได้ ด้านล่างชุดครัวมีพื้นที่สำหรับเก็บของเช่นกัน และแบ่งช่องให้ตั้งเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้าได้เท่านั้น ซึ่งการออกแบบให้ตั้งเครื่องซักผ้าไว้ในส่วนครัวลักษณะนี้จะช่วยประหยัดพื้นที่ระเบียง และเป็นการรักษาตัวเครื่องซักผ้าไม่ต้องตั้งที่ระเบียงตากแดดตากฝน
ส่วนเคาน์เตอร์ครัวเราจะได้ Built-in มาแบบนี้เลย Top เคาน์เตอร์ครัวเป็นเมลามีน ที่อาจต้องระวังเรื่องความชื้นและความร้อนกันสักนิดนึง โดยเราจะได้ Hob&Hood ของ Hafele แต่จะไม่ได้มี Backsplash ตรงผนังมาให้นะ เวลาทำอาหารก็ระวังเลอะกันนิดนึง หรืออาจติดตั้งเพิ่มเติมเองก็ได้ เพื่อที่จะได้ทำความสะอาดได้ง่าย
จากส่วนครัวจะเชื่อมต่อไปยังส่วนระเบียงได้ เป็นบานเลื่อนกระจก เปิดระบายอากาศ รับลมและแสงธรรมชาติได้เต็มที่
ส่วนระเบียงปูพื้นกระเบื้องเซรามิค ผนังฉาบปูนทาสี พื้นที่ระเบียงมีขนาดประมาณ 1.65 x 0.70 m. พื้นที่พอดีใช้งาน ใช้เป็นพื้นที่ซักล้างและตากผ้าเล็กๆ ส่วนฝ้าเพดานระเบียงจะไว้แขวน Condensing air ช่วยประหยัดพื้นที่ระเบียงได้
พื้นที่ระเบียงจะมีการติดระแนงสีดำ ช่วยป้องกันนก บินเข้ามาทำรัง หรือรบกวนพื้นที่ระเบียง เวลาตากผ้าก็ไม่ต้องกังวลว่าจะปลิวหาย เป็นแผงบังสายตา บังแสงแดดบางส่วนได้อีกด้วย
ถัดมาเป็นห้องน้ำตำแหน่งจะอยู่ติดดกับส่วนครัวด้านในของตัวห้อง ห้องน้ำจะเป็นห้องน้ำสำเร็จรูป เวลาเดินเข้าจะมีระดับยกขึ้นมา เก็บงานทำขอบตัวจบระหว่างพื้นห้องน้ำและพื้นที่ห้องด้านในให้เรียบร้อย ปัจจุบันห้องน้ำสำเร็จรูปพัฒนาระบบต่างๆในการใช้งานได้ไม่แตกต่างจากห้องน้ำปกติแถมยังลดความเสี่ยงของการรั่วซึมในแต่ละจุด
สนใจอ่านบทความ “ห้องน้ำสำเร็จรูป” แตกต่างจากห้องน้ำทั่วไปอย่างไร ? คลิกที่นี่
ภายในห้องน้ำจัดแบ่งการใช้งานส่วนเปียกและส่วนแห้ง สามารถใช้งานได้สะดวกมีการแบ่งโซนไว้ชัดเจนดี วัสดุปูพื้นและผนังเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ทั้งหมด ให้ชุดอ่างล้างหน้าพร้อมกระจกเงา และให้สุขภัณฑ์พร้อมอุปกรณ์ต่างๆภายในห้องน้ำครบ
ผนังติดกระจกเงาแนวยาวตลอดแนวผนัง การติดกระจกแบบนี้นอกจากจะใช้งานสะดวกแล้วยังช่วยทำให้พื้นที่ห้องน้ำดูกว้างขึ้น
ติดตั้งชุดอ่างล้างหน้า และอุปกรณ์ก็อกน้ำ ของ Hafele มีพื้นที่ให้วางของเหนืออ่างได้ ส่วนใต้อ่างล้างหน้ามีตู้ Built In ของ Hafele สามารถเก็บของใช้ต่างๆได้เช่นกัน
ถัดมาเป็นชุดโถสุขภัณฑ์ เป็นของ Hafele และติดตั้งอุปกรณ์อื่นๆ ได้แก่ ที่ใส่กระดาษชำระ ไว้ที่ผนังด้านหลังในระยะที่หยิบใช้งานได้สะดวกไว้ให้พร้อมใช้งาน
ชุดอุปกรณ์สายชำระ ที่ใส่กระดาษทิชชู เป็นของ Hafele เช่นกัน
พื้นที่สำหรับอาบน้ำจะอยู่ด้านในสุดมีฉากกั้นเป็นบานเลื่อนกรอบบานอลูมิเนียมสีขาว Tempered Glass แบบ 3 ตอนมาให้ เวลาเปิดเต็มบานจะทำให้มีช่องทางเดินเข้าออกมากขึ้น พื้นที่อาบน้ำมีขนาด 1 x 0.9 m. โดยจะยกขอบขึ้นมาเพื่อป้องกันน้ำไหลไปโดนส่วนแห้ง
ติดอุปกรณ์ชุดอาบน้ำ ของ Hafele ที่สามารถปรับความแรงของสายน้ำตอนเปิดใช้งานได้ ที่ผนังด้านข้างจะมีพื้นที่ให้วางของใช้ต่างๆได้ แต่โครงการจะไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่นให้ ต้องติดตั้งเองภายหลัง โดยโครงการจะทำช่อง Junction งานระบบไว้ให้
ส่วนเพดานห้องน้ำของจะเป็นฝ้าฉาบเรียบทาสีพร้อมติดไฟแบบดาวน์ไลท์ 2 ตำแหน่ง และพัดลมดูดอากาศให้ค่ะ
ส่วนอุปกรณ์ปลั๊กไฟ และสวิตช์ไฟภายในห้องจริงทั้งหมดจะใช้ของ Schneider
1 Bedroom Plus Type C ขนาด 31.50 – 35.50 ตร.ม. เป็นห้องไซส์ใหญ่ของโครงการ ที่เหมาะกับคนต้องการ “ห้องอเนกประสงค์” เอาไว้ทำฟังก์ชันอื่นๆเพิ่มเติมตาม Lifestyle ของแต่ละคนได้ครับ เช่น ห้องทำงานช่วง WFH หรืออาจเป็นห้องแต่งตัวของสาวๆ ห้องสตูดิโอไว้ Live สดขายของออนไลน์ รวมไปถึงอาจห้องนอนเล็กของลูกน้อยก็ได้
อีกหนึ่งจุดเด่นคือภายในห้องสามารถจัดฟังก์ชันแยกโซนใช้งาน ออกจากโซนพักผ่อนได้อย่างเป็นสัดส่วน โดยเราสามารถระบายอากาศของครัวและห้องน้ำ ผ่านทางห้องอเนกประสงค์ได้ง่ายๆ ด้วยการเปิดประตูเชื่อมต่อออกไปทางระเบียง ซึ่งก็จะทำให้กลิ่น/ควัน/ความชื้น สามารถระบายออกไปได้ง่าย โดยไม่รบกวนพื้นที่ส่วนพักผ่อนอื่นๆของห้อง
เปิดเข้ามาส่วนแรกจะเป็นส่วนของห้องนั่งเล่น และส่วนทางอาหารโดยจะเป็นพื้นที่รวมกันอยู่ในโซนเดียวกัน พื้นบริเวณนี้จะปูด้วยพื้นด้วยพื้นไม้ลามิเนต ภายในห้องจะมีความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.5 m. ตัวห้องค่อนข้างโปร่งโล่งเพราะได้แสงธรรมชาติจากประตูบานเลื่อนกระจกส่องเข้ามาถึงด้านใน
เมื่อเข้ามาด้านในบริเวณด้านหลังประตูจะติด Door Stopper ไว้ที่พื้นด้านล่างเพื่อป้องกันประตูเปิดแล้วชนกับชุดตู้ด้านข้าง เป็นตู้ Built-in ที่สูงจากพื้นถึงฝ้า มีหน้าบานปิดให้เรียบร้อย สามารถเก็บรองเท้าหรือของอื่นๆได้
ถัดเข้ามาจะเป็นส่วนห้องนั่งเล่นสามารถตั้งชุดโซฟาแบบยาว พร้อมโต๊ะรับแขกได้ ส่วนระยะห่างจากโซฟาถึงตำแหน่งติดตั้งทีวี อยู่ที่ประมาณ 2.54 m. ในระยะประมาณนี้เราสามารถเลือกทีวีขนาด 40″- 45″
สำหรับโซฟาเราจะได้เป็นโซฟาเล็กๆ ที่มาวางต่อกันกลายเป็นตัวยาวแบบนี้ ซึ่งนอกจากจะใช้นอนดูทีวีได้สบายๆแล้ว ยังใช้นั่งทานอาหารหรือทำงานตรงโต๊ะอเนกประสงค์เพิ่มได้อีกด้วย
ภายในห้องใช้การกั้นพื้นที่ระหว่างห้องนั่งเล่น และห้องนอนด้วยประตูบานเลื่อนกระจก กรอบจะเป็นอลูมิเนียมสีดำปกติ และใช้เป็นกระจกใสนิรภัย Tempered Glass ที่แตกแล้วจะเป็นเมล็ดข้าวโพดใช้งานได้อย่างปลอดภัย
เข้ามาด้านในสุดจะเป็นห้องนอนพื้นที่ภายในสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุต แล้วเหลือพื้นที่รอบเตียงใช้งานได้สะดวก การวางตำแหน่งห้องนอนลักษณะนี้ จะมีข้อดีตรงตำแหน่งห้องนอนจะอยู่ฝั่งริมติดหน้าต่าง ทำให้สามารถเปิดรับลมและแสงธรรมชาติได้ดี
โครงการจะมี Built-in มาให้โดยจะมีความสูงถึงระดับฝ้าเพดานสามารถเก็บของได้เต็มที่ ภายในแบ่งช่องสำหรับราวแขวน ลิ้นชักเล็ก และมีพื้นที่วางของด้านบนเช่นกระเป๋าเดินทางได้อีกด้วย
มีระยะระหว่างด้านข้างเตียงฝั่งประตูบานเลื่อนกว้างประมาณ 1 m. ใช้งานยืนแต่งตัวหน้าตู้เสื้อผ้าได้สะดวก บริเวณฐานเตียงด้านหนึ่งยังมีลิ้นชักให้เก็บของข้างใต้ได้
ส่วนระยะระหว่างปลายเตียงถึงผนัง กว้างประมาณ 60 cm. ส่วนระยะข้างเตียงถึงหน้าต่างกระจก กว้างประมาณ 50 cm. เป็นระยะที่ใช้งานเดินได้สะดวก
ปลายเตียงจะมีแนวผนังให้แขวนทีวีติด แนะนำให้แขวนติดกับผนังตามแบบห้องตัวอย่างเพราะจะช่วยให้มีพื้นที่เหลือรอบเตียงเดินใช้งานได้สะดวกมากขึ้น
ถัดมาเป็นส่วนครัวปิด มีประตูกระจกบานเลื่อนกั้นแบบนี้ ทำให้ช่วยป้องกันกลิ่น/ควันจากการทำอาหาร ไม่ให้เข้ามาในห้องได้ แต่แสงยังสามารถส่องผ่านเข้ามาด้านใน ทำให้ห้องดูสว่างและโปร่งโล่งมากขึ้นได้ โดยจะเป็นประตูแบบแขวนไว้ด้านบน จึงไม่มีรางบนพื้นมาทำให้เดินสะดุดหรือเก็บฝุ่น
ภายในห้องครัวจะได้ชุดครัวก็จะได้ Built-in มาเหมือนกับห้องที่แล้ว เพียงแต่จะมีขนาดใหญ่ขึ้นเล็กน้อย พื้นเป็นกระเบื้องให้เช็ดทำความสะอาดได้ง่าย โดยมีขนาดพื้นที่ใช้สอยกว้างประมาณ 1.8 x 1.65. m. สามารถใช้งานได้สบายๆ
ชุดครัวแบบ Built-in หน้าบานลามิเนตสีขาวทั้งชุด โดยแบ่งการใช้งานตัวตู้ด้านบนทั้ง 2 ฝั่ง แบ่งเป็นช่องเก็บของ 2 ระดับให้ตั้งไมโครเวฟได้ ด้านล่างชุดครัวมีพื้นที่สำหรับเก็บของเช่นกัน และแบ่งช่องให้ตั้งเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้าได้เท่านั้น การตั้งเครื่องซักผ้าไว้ในส่วนครัวลักษณะนี้จะช่วยประหยัดพื้นที่ระเบียง และเป็นการรักษาตัวเครื่องซักผ้าไม่ต้องตั้งที่ระเบียงตากแดดตากฝน
ส่วนเคาน์เตอร์ครัวเราจะได้ Built-in มาแบบนี้เลย Top เคาน์เตอร์ครัวเป็นเมลามีน ที่อาจต้องระวังเรื่องความชื้นและความร้อนกันสักนิดนึง โดยเราจะได้ Hob&Hood ของ Hafele แต่จะไม่ได้มี Backsplash มาให้หรืออาจติดตั้งเพิ่มเติมเองก็ได้ เพื่อที่จะได้ทำความสะอาดได้ง่าย
ส่วนอีกด้านของห้องครัวจะเป็นห้องอเนกประสงค์ ซึ่งจะกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ ทำให้มีความโปร่งโล่งและได้แสงสว่างส่องผ่านเข้ามาถึงด้านในได้ รวมถึงเรายังสามารถเปิดประตูเชื่อมต่อกับระเบียง เพื่อระบายอากาศออกสู่ภายนอกโดยตรงได้อีกด้วย
มาที่ห้องอเนกประสงค์ภายในเราสามารถจัดเป็นห้องอะไรก็ได้ ขนาดพื้นที่ของห้องจะกว้างประมาณ 2.3 x 1.8 m. ซึ่งก็พอที่จะวางเตียง 3.5 ฟุตกับตู้เสื้อผ้าเล็กๆอีกใบ เพื่อทำเป็นห้องนอนที่ 2 สำหรับลูกหรือแขกได้ หรือจะทำเป็นห้องทำงานช่วง WFH ที่มีความเป็นส่วนตัว ทำเป็นห้องแต่งตัว โดยพื้นบริเวณนี้จะเป็นพื้นไม้ลามิเนตทั้งหมด
ห้องอเนกประสงค์จะได้ความโปร่งโล่ง น่าใช้งานเพราะจะได้แสงสว่างจากระเบียงที่อยู่ด้านข้างแบบนี้
ส่วนระเบียงภายนอกจะมีขนาดประมาณ 2.2 x 0.7 m. สามารถออกมาใช้งานเป็นพื้นที่ซักล้างและตากผ้าเล็กๆ ส่วนฝ้าเพดานระเบียงจะไว้แขวน Condensing air ช่วยประหยัดพื้นที่ระเบียงได้
ถัดมาเป็นห้องน้ำตำแหน่งจะอยู่ติดดกับส่วนครัวด้านในของตัวห้อง ห้องน้ำจะเป็นห้องน้ำสำเร็จรูป เวลาเดินเข้าจะมีระดับยกขึ้นมา เก็บงานทำขอบตัวจบระหว่างพื้นห้องน้ำและพื้นที่ห้องด้านในให้เรียบร้อย
ภายในห้องน้ำจัดแบ่งการใช้งานส่วนเปียกและส่วนแห้ง สามารถใช้งานได้สะดวกมีการแบ่งโซนไว้ชัดเจนดี วัสดุปูพื้นและผนังเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ทั้งหมด ให้ชุดอ่างล้างหน้าพร้อมกระจกเงา และให้สุขภัณฑ์พร้อมอุปกรณ์ต่างๆภายในห้องน้ำครบ
ผนังติดกระจกเงาแนวยาวตลอดแนวผนัง ติดตั้งชุดอ่างล้างหน้า และอุปกรณ์ก็อกน้ำ ของ Hafele ส่วนใต้อ่างล้างหน้ามีตู้ Built-in สามารถเก็บของใช้ต่างๆได้ ถัดมาเป็นชุดโถสุขภัณฑ์ และติดตั้งอุปกรณ์ๆ เป็นของ Hafele เช่นกัน
พื้นที่สำหรับอาบน้ำจะอยู่ด้านในสุดมีฉากกั้นเป็นบานเลื่อนกรอบบานอลูมิเนียมสีขาว Tempered Glass แบบ 3 ตอนมาให้ เวลาเปิดเต็มบานจะทำให้มีช่องทางเดินเข้าออกมากขึ้น พื้นที่อาบน้ำมีขนาด 1 x 0.85 m. โดยจะยกขอบขึ้นมาเพื่อป้องกันน้ำไหลไปโดนส่วนแห้ง
ด้านในติดอุปกรณ์ชุดอาบน้ำ ของ Hafele ที่สามารถปรับความแรงของสายน้ำตอนเปิดใช้งานได้ ที่ผนังด้านข้างจะมีพื้นที่ให้วางของใช้ต่างๆได้ แต่โครงการจะไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่นให้ ต้องติดตั้งเองภายหลัง โดยโครงการจะทำช่อง Junction งานระบบไว้ให้
ส่วนเพดานห้องน้ำของจะเป็นฝ้าฉาบเรียบทาสีพร้อมติดไฟแบบดาวน์ไลท์ 2 ตำแหน่ง และพัดลมดูดอากาศให้
1 Bedroom Type B ขนาด 28 – 28.5 ตร.ม. จุดเด่นหลักๆของห้องนี้คือ Common Area ที่มีขนาดใหญ่และหน้ากว้างมากๆ โดยเราจะได้เฟอร์นิเจอร์โซฟาแบบ Multi-Function ที่สามารถจัดและปรับเปลี่ยนฟังก์ชันตามความต้องการได้หลากหลาย และมีการกั้นห้องนอนด้วยประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ เลยทำให้ได้บรรยากาศที่สว่างและโปร่งโล่งดีทีเดียว
อีกทั้งยังมีการออกแบบที่น่าสนใจในอีกหลายจุด ไม่ว่าจะเป็นหน้าต่างในห้องนอน ที่ได้เพิ่มช่องแสงด้านข้างเข้ามา ซึ่งช่วยเปิดมุมมองให้กว้างและโปร่งโล่งมากขึ้น รวมถึงยังมีการเว้าผนังเพื่อซ่อนตู้เสื้อผ้าเอาไว้ด้านใน เลยไม่ต้องวางเกะกะพื้นที่ใช้สอยในห้องนอน ทำให้ดูเป็นระเบียบเรียบร้อยมากขึ้น สุดท้ายคือครัวปิดที่อยู่ติดกับระเบียง จึงเหมาะกับคนที่ชอบทำอาหารจริงจังทานเอง เพราะสามารถเปิดประตูระเบียงเพื่อระบายอากาศได้เต็มที่
1 Bedroom Type B ขนาด 28 – 28.5 ตร.ม.
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่า
ราคา
blue สุขุมวิท 105 ราคา ณ วันที่ 14 มีนาคม 2566
- 1 Bedroom ขนาด 24 – 32.5 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.79 ล้านบาท*
- 1 Bedroom Plus ขนาด 31.5 – 35.5 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.59 ล้านบาท*
- Promotion : ฟรีทุกค่าใช้จ่าย*
- รูปแบบการขาย Fully Furnished
- ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.5 เมตร
- Kitchen & Sink / ท็อปหินสังเคราะห์
- Hob & Hood / ของยี่ห้อ Hafele
- มีรถ Shuttle Service ไป-กลับ BTS แบริ่ง
- จอง 2,500 บาท
- ทำสัญญา 2,500 บาท
- ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
- ค่าส่วนกลาง 45 บาท/ตร.ม./เดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้
บทสรุป
ทำเล : ตั้งอยู่ใจกลางซอยลาซาล มีความอุดมสมบูรณ์ หาของกินได้ง่าย เพราะมีทั้งตลาด ร้านสะดวกซื้อ และคอมมูนิตี้มอลล์ ใกล้สถานศึกษาชื่อดังหลายแห่ง โดยเฉพาะโรงเรียนลาซาลที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ที่สามารถเดินข้ามสะพานลอยไปเรียนได้เลย รวมถึงโรงเรียนนานาชาติอื่นๆ ก็มีอยู่ทั้งในซอยลาซาล-แบริ่งนี้ด้วยเช่นกัน ซึ่งการใช้ชีวิตของทำเลโครงการนี้ จะอิงไปทางศรีนครินทร์และบางนา-ตราดเป็นหลัก จะค่อนข้างสะดวกที่สุด ความน่าสนใจในแง่ที่อยู่อาศัย ถือเป็นโครงการใหม่พร้อมอยู่ล่าสุดในเวลานี้ เหมาะกับคนที่กำลังมองหาคอนโดใหม่มือ 1 ที่สามารถเข้าอยู่ทันทีในราคาเริ่มต้นไม่ถึง 2 ล้านบาท
การเดินทางโดยใช้รถ : ซอยลาซาล (หรือ สุขุมวิท 105) เป็นถนนที่มีทางลัดสามารถเชื่อมต่อกับถนนหลักได้หลายเส้นทาง ทั้งถนนสุขุมวิท ถนนศรีนครินทร์ และถนนบางนา-ตราด อย่างซอยลาซาล 55 ก็สามารถเชื่อมต่อกับซอยบางนา-ตราด 30 และไปออกตรงสะพานกลับบรถพอดี ทำให้สามารถข้ามไปฝั่งเซ็นทรัลได้สะดวกมาก อีกทั้งยังมีทางด่วนให้ใช้เข้า-ออกเมืองได้อีกด้วย ทั้งทางด่วนฉลองรัช และทางด่วนบูรพาวิถี ที่ห่างจากโครงการประมาณ 3.5 – 5.4 km. ส่วนที่จอดรถของโครงการจะมีอยู่ 135 คัน (จอดซ้อนคันประมาณ 23 คัน) หรือคิดเป็น 41% แบบรวมจอดซ้อนคัน
การเดินทางโดยไม่ใช้รถ : มีตัวเลือกในการเดินทางที่หลากหลาย ด้วยทำเลที่เป็นย่านชุมชน ตังโครงการติดถนนหลักทำให้มีรถสาธารณะต่างๆให้เลือกเยอะ หรือจะไปใช้รถไฟฟ้า จะมีอยู่ถึง 2 สาย ทั้งสายสุขุมวิทสีเขียว BTS แบริ่ง และสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) สถานี ศรีลาซาล ซึ่งจะอยู่บริเวณหน้าปากซอยทั้ง 2 ฝั่ง สามารถใช้เข้าเมืองได้ง่ายมากขึ้น อีกทั้งทางโครงการเองก็ยังมี Shuttle Service ไป-กลับ BTS แบริ่ง เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกเพิ่มให้อีกด้วย
การออกแบบโครงการ : จำนวนห้องพักอาศัยทั้งหมด 387 ยูนิต ถือว่าเป็นโครงการขนาดกลางๆ แต่สามารถจัดพื้นที่ส่วนกลางให้มีขนาดใหญ่และน่าใช้งานได้ โดยการจัดตำแหน่ง Facilities ก็ค่อนข้างน่าสนใจ เพราะเค้าจะวางเป็นแนวยาวต่อเนื่องกันที่ด้านข้างอาคาร อีกทั้งยังสามารถแบ่งโซนแยกการใช้งานได้ดีอีกด้วย ในด้านการวางผังอาคารจะมีทางเข้า-ออก 2 จุด ทำให้รถสามารถสัญจรได้สะดวกมากขึ้น แต่ก็แลกกับต้องเพิ่มระบบรักษาความปลอดภัยอีกสักหน่อย ส่วนห้องพักอาศัยก็มีตำแหน่งที่น่าสนใจเยอะ หลักๆคือห้องไซส์ใหญ่หันหน้ารับวิวที่มองเห็นส่วนกลางได้ และอีกด้านจะเป็นห้องไซส์เล็กที่ราคาจับต้องได้ง่ายกว่า ซึ่งจะมองเห็นวิวชุมชนแนวราบข้างเคียงเป็นหลักแทน นอกจากนี้ก็ยังมีตำแหน่งห้องที่เป็นส่วนตัวให้เลือกเยอะอีกด้วย เพราะมีหลายยูนิตที่อยู่ติดกับบันไดหนีไฟ และมีผนังติดกับห้องข้างๆแค่ด้านเดียว
การออกแบบห้องพัก : มีแบบห้องตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยทั้งอยู่คนเดียว อยู่กันเป็นคู่ ไปจนถึงครอบครัว 2-3 คน จัดรูปแบบห้องใช้งานลงตัว แยกโซนการใช้งานได้เป็นสัดส่วน ทุกห้องจะมีฟังก์ชันค่อนข้างลงตัว เลือกใช้ประตูภายในห้องเป็นบานเลื่อนใช้งานง่าย และเกิดการเชื่อมต่อกันของพื้นที่ได้ดี ช่วยทำให้ห้องโปร่งโล่งมากขึ้น ออกแบบพื้นที่ห้องอเนกประสงค์ให้จัดเป็นพื้นที่ทำงานหรือห้องนอนเล็กเพิ่มได้ วางเครื่องซักผ้าไว้ในห้องแทนที่ไปไว้ระเบียง ส่วน Condensing Unit ของแอร์จะแขวนอยู่ด้านบนช่วยทำให้ใช้พื้นที่ระเบียงได้มากขึ้น ได้ครัวปิดเหมาะกับคนชอบทำอาหารหมดกังวลเรื่องกลิ่นควัน
วัสดุ : ขายแบบ Fully Furnished ให้มาครบพร้อมหิ้วกระเป๋าเข้าอยู่ ที่เป็นจุดเด่นคือการออกแบบเฟอร์นิเจอร์มาให้เข้ากับห้องแต่ละแบบได้ลงตัวพอดี สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันการใช้งานแบบ Multi-Function ได้เคาน์เตอร์ครัวที่แบ่งช่องให้วางเครื่องซักผ้าได้ช่วยประหยัดพื้นที่ เน้นพื้นที่เก็บของ ทั้งลิ้นชักใต้เตียง ตู้สำหรับเก็บของ/รองเท้า ที่สูงถึงระดับฝ้าเพดานใช้งานได้คุ้มค่า ภายในห้องได้ช่องแสงในห้องนอนก็มีขนาดใหญ่และโปร่งโล่งดี มีการใช้ประตูบานเลื่อนเป็นกระจกนิรภัย Tempered Glass เพื่อให้ใช้งานได้อย่างปลอดภัยและไม่เป็นอันตราย
สาธารณูปโภค : ถือว่าให้มาเยอะเหมาะสมกับจำนวนยูนิต โดยความน่าสนใจคือ การวางผังโครงการที่จัดพื้นที่ส่วนกลาง ให้มีความยาวต่อเนื่องกันไปตลอดแนวด้านข้างอาคาร ตั้งแต่ด้านหน้าสุดไปจนถึงด้านหลัง จึงทำให้กลายเป็นพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ ใช้งานได้ต่อเนื่องกันดี แยกประเภทของ Facilities ไว้แต่ละอาคารชัดเจนดี อาคาร A จะเน้นทำงานและรับแขก ส่วนอาคาร B จะเป็นแนว Active เน้นออกกำลังกาย ซึ่งฟังก์ชันที่มีถือว่าให้มาครบ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่นั่งทำงานอย่าง Co-Living Space และ Co-Working Space รวมถึงพื้นที่ออกกำลังกายทั้งสระว่ายน้ำและ Fitness แต่ที่โดดเด่นมากๆก็คือ บรรยากาศของสวนที่ร่มรื่น และยังมี Badminton Court ให้ใช้งานอีกด้วย
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 86,000 บาท/ตร.ม.,14 มีนาคม 2566
- ทำเล 8.25/10 – ใจกลางซอยลาซาล อุดมสมบูรณ์ หาของกินง่าย ใกล้โรงเรียนในระยะเดิน บรรยากาศน่าอยู่อาศัย
- เดินทางด้วยรถ 8/10 – มีทางลัดเชื่อมต่อถนนหลักหลายเส้นทาง และไม่ไกลจากทางด่วน
- ไม่ใช้รถ 8/10 – มีรถไฟฟ้า 2 สายให้ใช้ เรียกรถสาธารณะง่าย พร้อม Shuttle Service ไป-กลับ BTS
- วัสดุ 7.5/10 – Fully Furnished พร้อมเข้าอยู่ ช่องแสงใหญ่ เฟอร์นิเจอร์แบบ Multi-Function
- แบบ 7.75/10 – จัดฟังก์ชันดี เป็นส่วนตัว เน้นบรรยากาศโปร่งโล่ง ได้ครัวปิดทุกแบบ
- สาธารณูปโภค 8/10 – แบ่งโซนการใช้งานได้ดี ฟังก์ชันหลากหลายน่าใช้งาน
- MAIN CLASS
- 8 / 10.00
blue สุขุมวิท 105 เหมาะกับใคร
โครงการ blue สุขุมวิท 105 เหมาะกับคนที่กำลังมองหาคอนโดพร้อมอยู่ในซอยลาซาล เดินทางสะดวกหาของกินของใช้ได้ง่าย มีตัวเลือกในการเดินทางไปใช้รถไฟฟ้าได้ 2 สาย จัดส่วนกลางที่แบ่งโซนมาดี ขนาดใหญ่ มีฟังก์ชันครบ ส่วนตัวห้องพักจะเน้นพื้นที่ใช้สอยเป็นสัดส่วน ได้ความโปร่งโล่ง ชอบทำครัวได้ครัวปิดในทุกแบบ โดยมีงบประมาณระดับ 1.79 – 2.59 ล้านบาท* หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 13,000 – 18,000 บาท/เดือน ยังไงก็ลองพิจารณากันดูนะคะ
ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc