รีวิวฉบับที่ 2576 พามาชม ชาโตว์ อินทาวน์ รัชโยธิน (Chateau in Town Ratchayothin) คอนโด Low Rise สร้างเสร็จพร้อมอยู่ใจกลางรัชโยธิน ราคาเริ่มต้น 2.39 ล้านบาท* โครงการตั้งอยู่ในซอยพหลโยธิน 30 ขับรถเชื่อมต่อถนนพหลโยธินได้ง่าย ทั้งยังใกล้ BTS รัชโยธินในระยะ 1.2 กิโลเมตร ซึ่งหลายๆคนอาจจะคุ้นเคยกับแบรนด์ “ชาโตว์ อินทาวน์” บนทำเลย่านนี้อยู่แล้ว เพราะโครงการนี้เปิดตัวมาเป็นโครงการที่ 5 สำหรับ Highlights ที่น่าสนใจจะมีอะไรบ้าง เราได้สรุปมาให้ชมดังนี้ค่ะ
- ทำเล : โครงการตั้งอยู่ในซอยพหลโยธิน 30 ซึ่งใช้ถนนเสนานิคม 1 เป็นถนนหลักในการเข้า – ออก เชื่อมต่อถนนพหลโยธินและลาดพร้าววังหินได้ ทั้งยังมีรถไฟฟ้าสายสีเขียวให้เลือกใช้บริการ จัดเป็นทำเลที่เดินทางง่าย ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกของคนเมืองแบบครบครัน
- แปลนห้องหน้ากว้าง : ได้ Living Area ขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับคนที่ชอบบรรยากาศโปร่งโล่ง ฟังก์ชันภายในกั้นมาให้เป็นสัดส่วน ครัวปิดทุกยูนิต ห้อง 2 Bedroom ขนาด 44 – 48 ตร.ม. วางเตียงขนาด 5 ฟุตได้ทั้ง 2 ห้อง ในราคาเริ่มต้น 3.49 ล้านบาท* ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับครอบครัวที่มีสมาชิก 3 – 4 คน
- เฟอร์ครบพร้อมอยู่ : รูปแบบการขายเป็น Fully Furnished ได้เฟอร์ครบทั้ง Built – in และลอยตัว อีกทั้งยังได้ Promotion เครื่องใช้ไฟฟ้า ฟูกนอนขนาด 5 ฟุต รางม่านพร้อมผ้าม่านทั้งทึบและโปร่ง Digital Door Lock ระบบ Home Automation และ IP Camera เรียกได้ว่าจัดเต็ม แค่หิ้วกระเป๋ามาก็เข้าอยู่ได้เลย
ข้อมูลโครงการ
ชาโตว์ อินทาวน์ รัชโยธิน (Chateau in Town Ratchayothin) ณ วันที่ 19 กรกฎาคม 2566
ชื่อโครงการ | ชาโตว์ อินทาวน์ รัชโยธิน (Chateau in Town Ratchayothin) |
ชื่อผู้ประกอบการ | บริษัท พระยาพาณิชย์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (กลุ่มบมจ. CMC) |
SEGMENT CLASS | MAIN CLASS (รายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2021 ) |
โครงการตั้งอยู่ | ซอยพหลโยธิน 30 เขตจตุจักร |
ที่ดิน | 2 – 1 – 41.2 ไร่ |
ประเภทคอนโด | Low Rise 8 ชั้น 2 อาคาร |
จำนวนยูนิต | ห้องพักอาศัย 309 ยูนิต – อาคาร A จำนวน 84 ยูนิต – อาคาร B จำนวน 225 ยูนิต |
ยูนิตต่อชั้นสูงสุด | 33 ยูนิต |
ที่จอดรถ | 124 คัน คิดเป็น 40% (รวมจอดซ้อนคันและ Automatic Parking) |
เริ่มก่อสร้าง | ปี 2564 |
คาดว่าจะแล้วเสร็จ | สร้างเสร็จพร้อมอยู่ |
ประเภทห้องพัก |
|
ฝ้าเพดานสูง | 2.40 เมตร |
ราคาเริ่มต้น | 2.39 ล้านบาท |
ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ | ประมาณ 80,000 บาท/ตร.ม. |
ช่วงราคาต่อตารางเมตร(ต่ำสุด-สูงสุด) | n/a บาท |
EIA (ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) | ผ่านแล้ว |
เว็บไซต์โครงการ | คลิกที่นี่ |
Call Center | 1172 กด 30 / 094-464-2121 |
ทำเลที่ตั้ง
พิกัด Google Maps : 13.832259 , 100.578991
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
แผนที่จากทางโครงการแสดงตำแหน่งของ ชาโตว์ อินทาวน์ รัชโยธิน (Chateau in Town Ratchayothin) โดยที่ตั้งของโครงการอยู่ในซอยพหลโยธิน 32 หรือซอยเสนานิคม 1 แยก 12 ห่างจาก BTS สถานีรัชโยธินประมาณ 1.2 กิโลเมตร การเดินทางด้วยรถยนต์สามารถขับไปออกถนนใหญ่ได้หลายเส้นทาง โดยใช้ถนนพหลโยธินมุ่งหน้าห้าแยกลาดพร้าว ผ่านอารีย์ ไปจนถึงอนุสาวรีย์ฯได้ หรือจะใช้ถนนภายในซอยวิ่งทะลุไปออกลาดพร้าววังหินได้เลย
หากจะวิ่งออกนอกเมืองก็สามารถใช้ถนนวิภาวดีรังสิตวิ่งไปงามวงศ์วาน ดอนเมือง , หลักสี่ , สะพานใหม่ ไปรังสิตได้ หรือมุ่งหน้าเข้าเมืองใช้ถนนรัชดาภิเษก ขับเชื่อมต่อ พระราม 9 ไปอโศกได้ง่าย ถ้าไปโซนรามอินทรา , รามคำแหง , มีนบุรี ก็ใช้ถนนเกษตรนวมินทร์วิ่งสบายๆ จึงจัดเป็นทำเลที่เป็น Node หลักในการขับเชื่อมต่อเข้า – ออกเมืองได้หลากหลาย สะดวกสบายมากทีเดียวค่ะ
แต่ก็อย่างที่ทราบกันดีว่าการจราจรในย่านนี้ค่อนข้างจะติดขัด จึงอาจต้องเผื่อเวลาในการเดินทางสักหน่อย หรือใครอยากเลี่ยงปัญหาการจราจร ตัวโครงการก็อยู่ใกล้รถไฟฟ้าสายสีเขียวอย่าง BTS สถานีรัชโยธิน โดยรอบๆก็มีรถ 2 แถว รถแท็กซี่หรือวินมอเตอร์ไซต์ให้เลือกใช้บริการอยู่เยอะแยะเลยนะคะ และโครงการก็มีรถตุ๊กๆวิ่งรับ – ส่งที่สถานีรถไฟฟ้าด้วย สามารถเลือกใช้บริการได้อย่างสะดวกเลย
ย่านนี้จัดว่าเป็นโซนที่มีความอุดมสมบูรณ์สูงทีเดียว ทั้งอยู่ใกล้อาคารสำนักงานขนาดใหญ่หลายแห่ง และใกล้กับมหาวิทยาลัยอย่างเกษตรศาสตร์อีกด้วย จึงทำให้รอบๆมีร้านค้า ร้านอาหารขึ้นให้เลือกหลากหลาย โดยเฉพาะบริเวณเส้นพหลโยธินที่ติดกับแนวรถไฟฟ้า หรือจะเป็นฝั่งลาดพร้าววังหิน ก็มี Community Mall และ Hypermarket ให้ออกไปเลือกจับจ่ายใช้สอยกันได้ ส่วนห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆในย่านนี้เช่น Major รัชโยธิน , Central ลาดพร้าว , Union Mall หรือในวันหยุดชิวๆอยากจะไปเดินตลาดหรือออกกำลังกาย ก็มีสวนจตุจักรที่นั่งรถไฟฟ้าไปแค่ไม่กี่สถานีก็ถึงแล้วค่ะ
การเดินทางไปโครงการ ชาโตว์ อินทาวน์ รัชโยธิน สามารถเลือกใช้ได้หลายเส้นทาง ด้วยที่ตั้งโครงการอยู่ในซอยที่เชื่อมต่อกับถนนหลักได้หลายสาย อาทิ จากถนนพหลโยธินขับทะลุไปลาดพร้าววังหินได้เลย โดยเส้นทางที่เราเลือกใช้วันนี้จะมาจากถนนงามวงศ์วานผ่านหน้ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ก่อนจะเลี้ยวเข้าสู่ถนนพหลโยธิน ซึ่งเป็นถนนเส้นหลัก ขับไปตามแนวรถไฟฟ้าแล้วเลี้ยวซ้ายเพื่อเข้าสู่ถนนเสนานิคม 1 จากหน้าถนนประมาณ 1.2 กิโลเมตร ก็จะถึงทางเข้าโครงการค่ะ
เส้นทางการเดินทาง
ถนนพหลโยธินมุ่งหน้าไปตามแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียว
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ ชาโตว์ อินทาวน์ รัชโยธิน ส่วนใหญ่จะเป็นอาคารพักอาศัยสูงตั้งแต่ 2 ชั้นจนถึงอาคารสูง 28 ชั้น และพื้นที่ดินเปล่า บรรยากาศในซอยค่อนข้างคึกคัก มีรถยนต์ขับผ่านอยู่ตลอดทั้งวัน โดยที่ตั้งโครงการจะอยู่ตรงจุดตัดซอยพหลโยธิน 32 และซอยพหลโยธิน 30 ทำให้มีถนนอยู่ด้านข้างโครงการทั้ง 2 แนว แต่โครงการมีทางเข้า – ออกทางเดียวติดกับซอยพหลโยธิน 30 เพื่อให้ง่ายต่อการรักษาความปลอดภัย
- ทิศเหนือ ติดกับ ซอยพหลโยธิน 30 หรือซอยอาลาดิน ฝั่งตรงข้ามเป็นอาคารสูง 4 ชั้น
- ทิศตะวันออก ติดกับ ซอยพหลโยธิน 32 ฝั่งตรงข้ามเป็นบ้านพักอาศัยสูง 1 – 2 ชั้นและอาคารพักอาศัยสูง 8 ชั้น
- ทิศใต้ ติดกับ ที่ดินเปล่า
- ทิศตะวันตก ติดกับ ซอยส่วนบุคคล และบ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้น
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
ห้างสรรพสินค้า / ตลาด
- ตลาดบางเขน ~ 950 เมตร
- เมเจอร์รัชโยธิน ~ 1.5 กิโลเมตร
- ตลาดวังหิน ~ 1.7 กิโลเมตร
- เซ็นทรัลลาดพร้าว ~ 2.9 กิโลเมตร
- ยูเนี่ยนมอลล์ ~ 3.4 กิโลเมตร
- สวนรถไฟ ~ 4.2 กิโลเมตร
- ตลาดนัดจตุจักร ~ 5.9 กิโลเมตร
- ตลาดโชคชัยสี่ ~ 6.5 กิโลเมตร
โรงพยาบาล
- โรงพยาบาลเปาโล เกษตร ~ 1.2 กิโลเมตร
- โรงพยาบาลวิภาวดี ~ 4.2 กิโลเมตร
- โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ประชาชื่น ~ 6.6 กิโลเมตร
โรงเรียน
- มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทร์เกษม ~ 2.6 กิโลเมตร
- โรงเรียนหอวัง ~ 3.0 กิโลเมตร
- มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ~ 3.1 กิโลเมตร
- มหาวิทยาลัยศรีปทุม ~ 3.9 กิโลเมตร
- โรงเรียนเซนต์จอห์น ~ 3.9 กิโลเมตร
อาคารสำนักงาน
- กรมพัฒนาที่ดิน ~ 1.3 กิโลเมตร
- ธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ ~ 1.6 กิโลเมตร
- ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ ~ 2 กิโลเมตร
- กรมวิทยาศาสตร์ทหารบก ~ 2 กิโลเมตร
- ศาลยุติธรรม ~ 2.8 กิโลเมตร
- กระทรวงพลังงาน ~ 3.5 กิโลเมตร
- สำนักงานใหญ่ ปตท. Energy Complex ~ 5.9 กิโลเมตร
การเดินทาง
- BTS รัชโยธิน ~ 1.2 กิโลเมตร
- ทางด่วนอุตราภิมุข ~ 4.5 กิโลเมตร
รายละเอียดโครงการ
ชาโตว์ อินทาวน์ รัชโยธิน (Chateau in Town Ratchayothin) เป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น 2 อาคาร บนเนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ แบ่งเป็นอาคาร A จำนวน 84 ยูนิตและอาคาร B 225 ยูนิต รวมเป็น 309 ยูนิต โดยการออกแบบโครงการมาในสไตล์ Modern – British ได้กลิ่นอายแบบอังกฤษ เพิ่มดีเทลการตกแต่งเล็กๆด้วยบัวปูนปั้นและกระเบื้องลายแพทเทิร์นที่ให้ความรู้สึกคลาสสิค ปัจจุบันโครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่ บรรยากาศของจริงจะเป็นยังไงบ้าง ไปชมกันค่ะ
เริ่มกันที่ Masterplan ของโครงการ ทางเข้า – ออกหลักจะอยู่ด้านข้างติดกับซอยพหลโยธิน 30 เชื่อมต่อกับซอยเสนานิคม 1 ซึ่งใช้ขับออกไปถนนพหลโยธินและลาดพร้าววังหินได้ เมื่อเข้ามาภายในโครงการจะเจอกับพื้นที่ Drop off จอดส่งคนได้ด้านหน้า ก่อนไปวนจอดที่ด้านหลัง การสัญจรเป็นแบบทางเดียว โดยพื้นที่จอดรถจะมีทั้งแบบในร่มและ outdoor คิดเป็น 40% หรือ 124 คัน (รวม Auto Parking , จอดซ้อนคัน) และมี EV Charger มาให้ด้วย 2 Slots ที่ด้านหน้าอาคารเลย ไม่ต้องขับเข้าไปจอดรวมด้านใน
Lobby ของอาคาร A และ B จะแยกใช้งานเป็น 2 จุด อาคารที่อยู่ติดกับทางเข้าจะเป็นอาคาร A ด้านหน้ามีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่เป็นวิวส่วนกลางของอาคาร ซึ่งได้มาถึง 2 สระ ที่ชั้น 1 และชั้นดาดฟ้าของอาคาร A ได้วิวแบบเปิดโล่ง ส่วนอาคาร B ที่มีจำนวนยูนิตเยอะกว่า จะมีส่วนกลางให้ลูกบ้านใช้งานได้ที่ชั้น 8 ประกอบด้วย Active Fitness Room , Changing Room , Steam & Sauna แยกชาย – หญิง , Co – Kitchen Area , Co – Working Space , Living Area และชั้นดาดฟ้าที่มีสวนหย่อมไสตล์ British พร้อมโซนนั่งเล่นพักผ่อนได้
ทางเข้าโครงการแยกเป็น 2 ฝั่ง มีป้อมรปภ.อยู่ด้านหน้าคอยรักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกแก่ลูกบ้าน การเข้า – ออกใช้ระบบ Bluetooth ควบคู่กับไม้กั้นกระดกอัตโนมัติ โดยจะมีกล้อง CCTV คอยบันทึกภาพอยู่ด้วย
พื้นที่จอดรถด้านหน้าโครงการ
พื้นที่จอดรถ outdoor จะอยู่ด้านหน้าอาคาร ถนนตรงกลางค่อนข้างกว้าง รถสามารถขับเข้า – ออกได้สะดวก ส่วน EV Charger จะจัดมาให้ 2 Slots อยู่ที่ด้านหน้าเช่นเดียวกัน พื้นที่จอดรถในร่มอยู่ใต้อาคารทั้ง A และ B รวม Auto Parking คิดเป็น 40% เมื่อเทียบกับโครงการที่อยู่ไม่ไกลจากรถไฟฟ้า ก็ถือว่าให้มาค่อนข้างเยอะค่ะ
สระว่ายน้ำกลางโครงการ ได้เป็นระบบเกลือขนาด 4.50×20.00 เมตร ลึก 1.20 เมตร ใช้ว่ายน้ำออกกำลังกายแบบจริงจังได้เลย
บรรยากาศพื้นที่สวนบริเวณชั้น 1
รอบๆเป็นพื้นที่สวน ตกแต่งมาในสไตล์ British Garden มีพุ่มไม้เป็นแนวช่วยบังสายตา เพิ่มความเป็นส่วนตัว ด้านข้างมี Pavilion จัดเป็นมุมพักผ่อน ได้บรรยากาศศาลาในสวนอังกฤษ
Living Area ติดกับสระว่ายน้ำบริเวณอาคาร A
ติดกับสระว่ายน้ำเป็น Living Area มีชุดโซฟาขนาดใหญ่และโต๊ะเก้าอี้จัดมาให้ลูกบ้าน ใช้นั่งเล่นระหว่างรอคนใช้งานสระ หรือใช้เป็นมุมรับแขกจากภายนอกก็สะดวก
ทางเข้าอาคาร B เชื่อมต่อจากส่วนกลาง
อาคาร A และ B มี Lobby , Mailbox แยกใช้งาน ลิฟต์โดยสารได้ 2 ตัวต่ออาคาร อาคาร A จำนวน 84 ยูนิต คิดเป็นสัดส่วน 42 : 1 อาคาร B จำนวน 225 ยูนิต คิดเป็น 112 : 1 ถือว่าพอใช้งานได้ในคอนโดระดับ Low Rise ส่วนการใช้เข้า – ออกใช้ระบบคีย์การ์ด เพื่อความปลอดภัยค่ะ
ขึ้นมาดูพื้นที่ส่วนกลางที่ชั้น 8 จัดเป็น Facilites หลักของโครงการ ซึ่งก็ให้มาครบครันตามมาตรฐาน ทางเข้า – ออกแยกจากส่วนพักอาศัยชัดเจน ภายในมีทั้ง Co – Working Space , Co – Kitchen Area , Fitness โดยจากชั้นนี้จะมีบันไดให้เดินขึ้นไปใช้งานสวนชั้นดาดฟ้าได้เลย
โถงลิฟต์ชั้น 8 ของอาคาร B มีประตูกั้นส่วนพักอาศัยแยกเป็นสัดส่วน ได้ความปลอดภัยและเป็นส่วนตัว
บรรยากาศภายในดูโปร่งโล่ง การจัดฟังก์ชันเป็นแบบ Open Plan สามารถเดินเชื่อมต่อกันได้
ด้านหน้าจัดเป็นโซน Living ได้โซฟาขนาดใหญ่แบบ Private Pod ใช้นั่งเล่น , นอนเล่นได้บรรยากาศสบายๆ
บรรยากาศส่วน Co - Kitchen Area
ส่วน Co – Kitchen Area ได้เคาน์เตอร์ และโต๊ะบาร์จัดมาให้พร้อมใช้งาน ชวนเพื่อนๆมานั่งเล่นสังสรรค์กันได้ หรือใครที่นั่งทำงาน อ่านหนังสือจนล้า ก็แวะมาทานขนมเติมพลังกันที่โซนนี้ได้
บรรยากาศส่วน Co - Working Space
Co – Working Space จัดมาเป็นโต๊ะรูปตัว C ขนาดใหญ่ จะมาใช้งานแบบเดี่ยวหรือกลุ่ม ก็สามารถจับจองพื้นที่กันได้ ด้านหน้าเป็นผนังกระจก Frameless แบบเต็มบาน ได้บรรยากาศเปิดโล่ง มองไปเห็นส่วนกลางด้านล่าง และ Sky Walk ที่เดินเชื่อมต่อจากอาคาร A
บรรยากาศส่วน Fitness
Fitness จัดอุปกรณ์มาให้ครบครันทั้ง Cardio และ Weight Trainning พื้นที่ในห้องได้มาค่อนข้างกว้าง แบ่งเป็นโซนจัดกิจกรรมเพิ่มได้หลากหลาย ทั้งคลาสโยคะหรือคลาสเต้นก็ได้
ห้องน้ำส่วนกลางมาพร้อม Suana แยกชาย - หญิง
ห้องน้ำส่วนกลางจะอยู่ติดกับ Fitness ภายในมีตู้ Locker ไว้สำหรับเก็บเสื้อผ้าหรืออุปกรณ์ได้ มีห้องอาบน้ำและ Suana แยกชาย – หญิงมาให้ เลือกใช้งานได้ตามสบาย
จากชั้น 8 มีบันไดขึ้นไปยังชั้นดาดฟ้า ซึ่งด้านบนก็มี Sky Walk เชื่อมต่อไปที่อาคาร A ได้ ลูกบ้านสามารถเดินข้ามมาใช้งานง่าย
บรรยากาศสวนชั้นดาดฟ้า ตกแต่งมาเป็น British Garden รอบๆมีแนวต้นไม้ให้ความสดชื่น และมีมุมนั่งเล่นที่ขึ้นมาทานอาหาร จัดปาร์ตี้ BBQ ในวันหยุดกันแบบชิลๆได้
British Garden บริเวณชั้นดาดฟ้า
จากอาคาร B เดินผ่าน Sky Walk มายังอาคาร A ได้ง่าย โดยในอาคารนี้จะมี Facilities ที่น่าสนใจอย่างสะว่ายน้ำอยู่ด้วย
สระว่ายน้ำชั้นดาดฟ้าบนอาคาร A
สระว่ายน้ำชั้นดาดฟ้าอาคาร A เป็นระบบเกลือ รูปทรงตัว L ความยาวรวม 40 เมตร มาพร้อมระบบ Jacuzzi ใช้นั่งแช่ชมวิวเมืองจากมุมสูง ก็ได้บรรยากาศพักผ่อนไปอีกแบบนะคะ
แปลนชั้นพักอาศัย
ส่วนพักอาศัยใน ชาโตว์ อินทาวน์ รัชโยธิน ชั้นพักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 1 – 8 ในอาคาร A ได้มาแบบเต็ม Floor ส่วนชั้น 8 ของอาคาร B จะมีส่วนกลางแทรกเข้ามาด้วย แต่จะมีประตูแยกจากส่วนพักอาศัยชัดเจน โดยการจัดวางอาคารจะวางขนานไปกับทิศเหนือ – ใต้ ทำให้มีห้องที่หันหน้าไปทางทิศตะวันออกและตะวันตกอยู่บ้าง แต่ฝั่งที่ตรงกับทิศตะวันตกจะเป็นผนังทึบ จึงทำให้แดดไม่ได้ส่องผ่านเข้ามาในห้องโดยตรง
เริ่มที่อาคาร A ซึ่งมีจำนวนยูนิตน้อยกว่า ก็จะได้จุดเด่นในเรื่องความเป็นส่วนตัว การจัดทางเดินภายในอาคาร ยังเป็นแบบ Single Corridor คือจะไม่มีห้องฝั่งตรงข้าม เหมาะกับคนที่ไม่ชอบความพลุกพล่าน รูปแบบห้องมีให้เลือกครบทั้ง 1 Bedroom และ 2 Bedroom โดย 2 Bedroom จะเป็นห้องมุมทั้งหมด (กรอบสีแดง) สำหรับคนที่อยากได้วิวส่วนกลาง ก็มีห้องขนาดเริ่มต้น 26.50 ตร.ม. และห้อง 2 Bedroom 44.00 – 48.00 ให้เลือกค่ะ
อาคาร B มีลักษณะเป็นรูปทรงตัว L ห้อง 2 Bedroom จะเป็นห้องมุม (กรอบสีแดง) มีเพียง 2 ยูนิตต่อชั้นเท่านั้น โดยจะหันหน้าไปทางทิศเหนือ ส่วนที่เหลือเป็นห้อง 1 Bedroom ที่มีให้เลือกตั้งแต่ไซต์เริ่มต้นไปจนถึง 36 ตร.ม.เลยค่ะ สำหรับฝั่งที่ไม่ได้วิวส่วนกลาง ติดกับโครงการเป็นที่ดินเปล่า และที่พักอาศัยแนวราบ ทำให้ได้วิวแบบเปิดโล่ง
ส่วนตัวเรามองว่าจุดเด่นของแต่ละอาคาารค่อนข้างชัดเจน สำหรับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัว ออกจากลิฟต์ไม่อยากเดินไกล ก็จะเลือกเป็นอาคาร A แต่สำหรับใครที่ชอบใช้ Facilities โครงการ ก็เลือกเป็นอาคาร B ที่สามารถเดินขึ้นไปใช้ส่วนกลางได้ง่าย แต่ยังคงได้ความเป็นส่วนตัว
บรรยากาศโถงทางเดินภายในอาคาร A
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
อาคาร A
- Lobby / Mailbox
- สระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 4.5×20.00 เมตร ลึก 1.20 เมตร พร้อมมุม Living Area
- สระว่ายน้ำระบบเกลือ ความยาว 40 เมตร ลึก 1.20 เมตร แบ่งเป็นสระเด็กขนาด ขนาด 3.00 เมตร ลึก 0.60 เมตร , ระบบ Jacuzzi ชั้น Rooftop
- British Garden ชั้น 1 และชั้น Rooftop
อาคาร B
- Lobby / Mailbox
- Active Fitness Room
- Changing Room
- Steam & Sauna
- Co – Kitchen Area
- Co – Working Space
- Living Area
- Tuk Tuk Shuttle Service รับ – ส่ง BTS รัชโยธิน
- ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
- อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 77 : 1
- อัตราส่วนลิฟต์ตึก A 42 : 1
- อัตราส่วนลิฟต์ตึก B 112 : 1
- ที่จอดรถประมาณ 124 คันคิดเป็น 40% (จอดซ้อนคันและ Automatic Parking)
- EV Charger 2 Slots
- Free Wireless Internet ที่ Lobby และสระว่ายน้ำชั้นดาดฟ้า
- ระบบรักษาความปลอดภัยในอาคาร CCTV / Key Card
- ระบบ Bluetooth เข้า – ออกโครงการ
แบบห้อง
รูปแบบห้องในโครงการ ชาโตว์ อินทาวน์ รัชโยธิน จะมีให้เลือก 2 แบบ โดยขายเป็น Fully Furnished ได้เฟอร์ครบ เข้าอยู่ได้เลย มาพร้อม Promotion ของตกแต่งและเครื่องใช้ไฟฟ้า ในราคาแพคเกจเริ่มต้น 2.39 ล้านบาท* พื้นที่ใช้สอยของทั้ง 2 อาคารจะแตกต่างกันเล็กน้อย โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ค่ะ
อาคาร A
- 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 26.50 – 34.00 ตร.ม.
- 2 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 44.00 – 48.00 ตร.ม.
อาคาร B
- 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 26.50 – 36.00 ตร.ม.
- 2 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 46 ตร.ม.
วัสดุในห้อง
- วัสดุพื้นกระเบื้องไวนิลลายไม้
- รูปแบบการขาย Fully Furnished (ชั้นวางทีวี , โซฟา 2 ที่นั่ง , โต๊ะกลาง , โต๊ะรับประทานอาหาร 2 ที่นั่ง , ตู้เสื้อผ้า , ฐานเตียง 5 ฟุตพร้อมฟูก)
- Digital Door Lock ระบบ Finger Scan / Key Card /Application / Password / กุญแจ
- Home Automation
- IP Camera 1 จุด
- สวิตช์และปลั๊กไฟ จาก ยี่ห้อ Panasonic
ห้องครัว
- วัสดุพื้นห้องครัว กระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60×60 เซนติเมตร
- ท็อปเคาน์เตอร์หินสังเคราะห์สีขาว
- หน้าบานปิดผิวด้วย HPL (Semi – Glosss)
- Hob , Hood และ Sink จาก HAFELE
- Promotion เครื่องใช้ไฟฟ้า (ไมโครเวฟ , เครื่องซักผ้า)
ห้องน้ำ
- วัสดุพื้นห้องน้ำ เซรามิก ขนาด 60×60 เซนติเมตร
- อ่างล้างมือและสุขภัณฑ์จากยี่ห้อ COTTO / ฝักบัวจาก Schon
- ฉากกั้นอาบน้ำ กระจกเทมเปอร์ 3 ตอน
- Promotion เครื่องทำน้ำอุ่น
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
1 Bedroom 26.50 ตร.ม.
จุดเด่นของรูปแบบห้องในโครงการนี้คือ แปลนห้องหน้ากว้าง ได้บรรยากาศโปร่งโล่ง ซึ่งพบได้น้อยกว่าแปลนแบบตอนลึก ได้ข้อดีคือพื้นที่ใช้งานเช่น Corridor ในห้องได้ขนาดมาค่อนข้างกว้าง อย่างรูปแบบที่เราจะพามาชมกันคือ ห้อง 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 26.50 ตร.ม. ด้านหน้าติดกับทางเข้าเป็น Common Area ขนาดใหญ่ จัดเป็นมุมนั่งเล่นวางโต๊ะตรงกลางแล้วยังเหลือทางเดินรอบๆให้ใช้งานได้สะดวก โต๊ะรับประทานอาหารวางเข้ามุมเป็นสัดส่วนอยู่ติดกับห้องครัวแบบปิดเชื่อมต่อกับระเบียง ประตูห้องนอนเป็นบานเลื่อนกระจกอยู่เยื้องกับประตูทางเข้าห้อง ติดกันเป็นห้องน้ำที่โถงด้านนอกได้ความสะดวกและเป็นส่วนตัว
เริ่มที่ประตูทางเข้า บริเวณพื้นมีการทำขอบขึ้นมาเล็กน้อย ช่วยปิดรอยต่อวัสดุให้ดูเรียบร้อย และช่วยป้องกันฝุ่นผงจากด้านนอกที่จะกระเด็นเข้ามาในห้องได้ มีตาแมวและ Digital Door Lock ติดตั้งมาให้พร้อมใช้งาน
เข้ามาในห้อง จะเจอส่วนนั่งเล่นเป็นอันดับแรก ด้วยลักษณะแปลนที่เป็นหน้ากว้าง ทำให้ได้ช่องแสงขนาดใหญ่มาถึง 2 จุด ทั้งจากห้องนอนและห้องครัว ช่วยให้บรรยากาศยิ่งดูโปร่งโล่ง
พื้นที่ใช้งานส่วนนั่งเล่น
จะเห็นได้ว่าพื้นที่ด้านหน้าโซฟากว้างมาก ระยะถึงหน้าทีวีได้มาประมาณ 4 เมตร ฝั่งพื้นที่นั่งเล่นจะได้เฟอร์ลอยตัวอย่างโซฟา 2 ที่นั่งและโต๊ะกลางด้านหน้ามาด้วย ส่วนฝั่งที่ตั้งทีวีจะได้ตู้วางทีวีและโต๊ะรับประทานอาหาร 2 ที่นั่ง โดยของจริงที่ได้ในห้องมาตรฐานจะมีรูปให้ชมด้านล่างนะคะ
พื้นถึงฝ้าสูง 2.40 เมตร วัสดุพื้นเป็นไวนิลลายไม้ มีคุณสมบัติยืดหยุ่น ทนต่อความชื้นได้ดี ทำความสะอาดง่าย รอยต่อแผ่นเรียบสนิท ช่วยลดปัญหาแบคทีเรียสะสมตามร่องยาแนวได้ เหมาะกับครอบครัวที่มีเด็กหรือผู้สูงอายุ เพราะเป็นวัสดุที่มีการยึดเกาะดี ทำให้ไม่ลื่นเมื่อพื้นเปียก และให้สัมผัสนุ่ม สบายเท้า
ส่วนนั่งเล่น จัดเป็นมุมรับประทานอาหาร
ห้องมาตรฐานจะได้โต๊ะรับประทานอาหารพร้อมเก้าอี้ 2 ตัว วางไว้ติดกับห้องครัว ใช้งานสะดวก ภายในห้องได้ IP Camera 1 จุด ฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสีขาว ติดตั้งมาให้พร้อมไฟดาวน์ไลท์และอุปกรณ์ป้องกันอัคคีภัย
ห้องครัวและห้องนอนกั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจกขนาดใหญ่ ช่วยนำแสงจากภายนอกให้ส่องเข้ามาในห้องได้อย่างทั่วถึง ทำให้ดูโปร่งและกว้างมากขึ้น
ห้องครัวแบ่งฟังก์ชันเป็น 2 ฝั่ง แยกพื้นที่วางตู้เย็น และเคาน์เตอร์สำหรับเตรียมอาหารใช้งานได้สะดวก โดยส่วนครัวได้เป็นแบบปิดติดระเบียง เหมาะกับคนชอบทำอาหาร ที่นอกจากจะได้พื้นที่ใช้งานเยอะแล้ว ยังไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นฟุ้งกระจายอีกด้วย
เคาน์เตอร์ครัว Built - in จากโครงการ
เคาน์เตอร์ครัวได้เป็น Built – in เต็มผนังจากโครงการ ท็อปเป็นหินสังเคราะห์สีขาว หน้าบานกรุด้วย HPL สีเดียวกัน โดยโครงการติดตั้ง Hob , Hood และอ่างล้างจานจากยี่ห้อ Hafele มาให้ ด้านบนเป็นตู้เก็บของติดตั้งชั้นและหน้าบานมาเรียบร้อย พร้อมช่องใส่ไมโครเวฟ
ด้านล่างเป็นตู้เก็บของใต้อ่างล้างจาน มีลิ้นชักและช่องใส่เครื่องซักผ้า ใช้งานได้ภายในห้อง ไม่ต้องออกไปนอกระเบียง โดยตอนนี้โครงการก็มีโปรโมชันเครื่องใช้ไฟฟ้ามาให้ด้วย อย่างเครื่องซักผ้าและไมโครเวฟ ในราคาแพคเกจ 2.39 ล้านบาท* ก็ถือว่าให้มาคุ้มค่าพอสมควรเลย
เคาน์เตอร์ครัว Built - in จากโครงการ
ห้องครัวอีกฝั่งเป็นช่องใส่ตู้เย็นกว้างประมาณ 0.71×1.73 เมตร ด้านบน Built – in เป็นตู้เก็บของเพิ่มให้อีกจุด พื้นที่ใช้งานตรงกลางกว้าง 1 เมตร ปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ 60×60 เซนติเมตร ใช้งานและเช็ดทำความสะอาดได้ง่าย
พื้นที่ใช้งานส่วนระเบียง
ระเบียงกั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจก 3 ตอน พื้นที่ด้านนอกขนาด 0.81×1.47 เมตร พอเอาเครื่องซักผ้าไว้ด้านใน ก็ใช้งานได้แบบเต็มที่เลย จะใช้เป็นพื้นที่ซักล้าง วางราวตากผ้าก็ง่าย มีก็อกน้ำติดผนังและชั้นวางติดตั้งมาให้เรียบร้อย
ห้องน้ำอยู่บริเวณส่วนนั่งเล่น แยกพื้นที่ส่วนเปียกและส่วนแห้งมาให้ชัดเจน กระจกในห้องได้มาแบบเต็มบาน ช่วยทำให้ห้องดูกว้างมากขึ้น
อุปกรณ์ภายในห้องน้ำ
การตกแต่งและสุขภัณฑ์ได้มาแบบครบชุดจากยี่ห้อ COTTO เหมือนในห้องตัวอย่าง อ่างล้างมือเป็นแบบฝังเคาน์เตอร์ ทำให้รอบๆมีพื้นที่ให้วางของใช้เล็กๆได้ ด้านหลังยังมี Low Wall และช่องเก็บของบนผนังมาให้ เหมาะกับคนที่มีของใช้กระจุกกระจิกในห้องน้ำเยอะ
ส่วนอาบน้ำได้ฉากกั้นกระจกเปลือยเป็นแบบบานเปิด มือจับใช้เป็นราวไว้แขวนผ้าเช็ดตัวได้ โดยโครงการติดตั้งมาให้ทุกยูนิตเลย
อุปกรณ์ภายในส่วนอาบน้ำ
ฝักบัวได้ทั้ง Hand Shower และ Rain Shower จากยี่ห้อ Schon เลือกใช้งานได้ตามชอบเลย ส่วนยืนอาบได้ขนาด 0.79×0.95 เมตร บริเวณพื้นมีการทำขอบเล็กน้อย เพื่อป้องกันน้ำไหลออกสู่ภายนอก ฝ้าเพดานเป็นฉาบเรียบทาสีขาว มีไฟดาวน์ไลท์ 2 จุด และพัดลมระบายอากาศติดตั้งมาให้
ห้องนอนมีประตูบานเลื่อนกระจกกั้นมาให้เป็นสัดส่วน ภายในได้ฐานเตียงมาพร้อมฟูกนอนขนาด 5 ฟุต ด้านข้างติดกับหน้าต่างขนาดใหญ่ มีผ้าม่านมาให้ทั้งทึบและโปร่งจากโครงการ ส่วนปลายเตียงเป็นพื้นที่แต่งตัว ได้ตู้เสื้อผ้าแบบบานเปิดมาด้วย
พื้นที่ใช้งานภายในห้องนอน
ห้องตัวอย่างวางเตียงชิดกับหน้าต่างเหลือพื้นที่ด้านข้าง 18 เซนติเมตร อีกฝั่งวางตู้ข้างเตียงได้กว้างประมาณ 77 เซนติเมตร ตู้เสื้อผ้าที่ได้จะเป็นแบบบานเปิด มาให้เสมอกับผนัง ทำให้สามารถใช้งานพื้นที่ด้านหน้าได้เต็มที่ ไม่มีมุม มีช่อง ดูเรียบร้อย
ระบบ Home Automation
เทคโนโลยีภายในห้องที่แถมมายังมี Home Automation ที่ได้มา 2 จุด ที่ภายในห้องนอนและส่วนนั่งเล่น ใช้ควบคุมระบบไฟภายในห้อง ส่วนสวิตช์และปลั๊กได้จากยี่ห้อ Panasonic
สำหรับภาพเฟอร์นิเจอร์จริงในห้องมาตรฐาน สามารถเลือนดู Gallery ด้านล่างได้เลยค่ะ
เฟอร์นิเจอร์ที่ได้จากโครงการภายในห้อง 1 Bedroom
1 Bedroom 34.26 ตร.ม.
ถัดมาเป็นห้อง 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 34.26 ตร.ม. ซึ่ง Layout จะแตกต่างกับขนาดเริ่มต้นชัดเจน ตั้งแต่ส่วนครัวและห้องน้ำที่จะขยับมาอยู่ด้านหน้าติดกับทางเข้า แยกพื้นที่พักผ่อนและ service เป็นสัดส่วน พื้นที่นั่งเล่นและห้องนอนกั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจกขนาดใหญ่ ซึ่งจุดเด่นของห้องนี้เรามองว่าอยู่ที่ระเบียง ที่ได้มาเป็นหน้ากว้างเท่ากับขนาดห้อง ทำให้เปิดรับลมและแสงได้แบบเต็มที่
ด้านหน้าเป็นห้องครัวแบบปิด ได้มาขนาดค่อนข้างกว้าง ฝั่งนึงเป็นเคาน์เตอร์ครัว Built – in จากโครงการ อีกฝั่งจัดเป็นมุมเก็บของวางตู้รองเท้า หรือใครอยากจะ Built – in เพิ่มแบบเต็มผนังเหมือนกับอีกฝั่ง จัดเป็นมุมเตรียมอาหารหรือตู้เก็บของเพิ่มก็สะดวกเลยค่ะ
เคาน์เตอร์ครัว Built – in จากทางโครงการได้มาแบบเต็มผนัง มีชั้นวาง ลิ้นชัก และตู้เก็บของพร้อมหน้าบานติดตั้งมาให้เรียบร้อย ด้านข้างเป็นช่องใส่ตู้เย็นขนาด 0.75×1.73 เมตร ได้อ่างล้างจาน เตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันจากยี่ห้อ Hafele พร้อมเครื่องซักผ้าด้านในมาด้วย
พื้นที่ใช้งานภายในห้องน้ำ
ห้องน้ำอยู่ติดกับส่วนครัว ได้มาเป็นแบบหน้ากว้าง การตกแต่งและวัสดุก็จะเหมือนกับห้องที่แล้วเลย ภายในแยกส่วนเปียกส่วนแห้งมาให้ชัดเจน ทำความสะอาดและใช้งานได้ง่าย ติดกับอ่างล้างมือมีปลั๊กพร้อมกรอบกันน้ำมาให้ ส่วนอาบน้ำได้ขนาด 0.80×1.11 เมตร เปิด – ปิดใช้งานประตูกระจกได้สะดวก
ส่วนนั่งเล่น ระยะจากโซฟาถึงหน้าทีวีกว้างประมาณ 3.88 เมตร สามารถติดตั้งทีวีขนาด 50″ ได้เลย ตรงกลางวางโซฟา Shape ตัว L ขนาด 3 ที่นั่งพร้อมโต๊ะด้านหน้าสบายๆ
พื้นที่ใช้งานส่วนนั่งเล่น
ติดกับส่วนนั่งเล่นเป็นห้องนอนกั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจก 3 ตอนขนาดใหญ่ ให้ความรู้สึกเชื่อมต่อกัน ทั้งแสงและอากาศสามารถถ่ายเทภายในห้องได้อย่างทั่วถึง
ภายในห้องนอน ตรงกลางวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้ สำหรับใครที่อยากเหลือพื้นที่ทั้ง 2 ฝั่งไว้วางชั้นหรือตู้ข้างเตียง ด้านข้างเป็นประตูบานเลื่อนกระจกคู่ ที่ใช้เปิดออกไปใช้งานระเบียงด้านนอกได้ ให้ความรู้สึกเปิดโล่งและวิวที่กว้างมากขึ้น
พื้นที่ใช้งานภายในห้องนอน
ปลายเตียงติดตั้งตู้เสื้อผ้ามาให้ ด้านข้างจะวางทีวีหรือจัดเป็นมุมโต๊ะเครื่องแป้ง ก็สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามการใช้งานเลย โดยพื้นที่ปลายเตียงได้มากว้างประมาณ 1 เมตร ยืนใช้งานได้อย่างสะดวก
พื้นที่ใช้งานภายในห้องนอน
ด้านนอกเป็นระเบียงขนาดใหญ่ได้พื้นที่มา 1.02×3.80 เมตร ซึ่งถือเป็นขนาดที่กว้างเท่ากับความกว้างห้อง สำหรับใครที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศก็สามารถจัดพื้นที่ระเบียงให้เป็นส่วนนั่งเล่นเพิ่มอีกจุดของห้องก็ได้นะคะ
2 Bedroom 44.43 ตร.ม.
2 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 44.43 - 44.47 ตร.ม.
รูปแบบ 2 Bedroom ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 3.49 ล้านบาท ในอาคาร A จะได้เป็นห้องมุมทุกยูนิต การจัด Layout จะแตกต่างกันเล็กน้อยที่ตำแหน่งของระเบียง ส่วนในห้องตัวแปลนจะได้มาเป็นแบบกว้าง ส่วนนั่งเล่นติดกับหน้าต่าง ตรงกลางเป็นพื้นที่วางโต๊ะทานอาหารได้ขนาด 4 ที่นั่ง ในห้องนอนทั้ง 2 ห้องสามารถวางเตียง 5 ฟุตได้สบายๆ ภายในมีส่วนแต่งตัวและมุมอเนกประสงค์ รองรับครอบครัวที่มีสมาชิก 2 – 4 คนได้เลย
ภายในห้องมาตรฐาน : 2 Bedroom 44.43 - 44.47 ตร.ม.
แปลนห้องพักอาศัยอาคาร B
1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 26.13 - 26.88 ตร.ม.
รูปแบบห้องพักอาศัยในอาคาร B จะมีห้อง 1 Bedroom และ 2 Bedroom เหมือนกับอาคาร A เลย แตกต่างกันที่บางห้องจะปรับเปลี่ยนไปตามรูปทรงของอาคาร ซึ่งมีลักษณะเป็นตัว L แต่ฟังก์ชันและพื้นที่ใช้สอยจะใกล้เคียงกับอาคาร A เลย
ราคา
ชาโตว์ อินทาวน์ รัชโยธิน (Chateau in Town Ratchayothin) ราคา ณ วันที่ 19 กรกฎาคม 2566
- 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายใน 26.50 – 36.00 ตร.ม.
– ราคาเริ่มต้น 2.39 ล้านบาท* - 2 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายใน 44.00 – 48.00 ตร.ม.
– ราคาเริ่มต้น 3.49 ล้านบาท* - รูปแบบการขาย Fully Furnished
- ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.40 เมตร
- มีรถ Tuk Tuk Shuttle Service รับ – ส่ง BTS รัชโยธิน
- จอง 5,000 บาท *ฟรีทำสัญญา
- ค่ากองทุน 250 บาท/ตร.ม.
- ค่าส่วนกลาง 50 บาท/ตร.ม./เดือน
- Promotion ลงทะเบียน รับส่วนลด 200,000 บาท
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
บทสรุป
ทำเล :
โครงการ ชาโตว์ อินทาวน์ รัชโยธิน (Chateau in Town Ratchayothin) อยู่ในทำเลเมืองโซนรัชโยธิน ที่ตั้งของโครงการอยู่ในซอยเสนานิคม 1 แยก 12 เชื่อมต่อถนนพหลโยธินและลาดพร้าววังหินได้ การเดินทางจัดว่าสะดวกสบาย เพราะเป็นทำเลที่สามารถขับไปเชื่อมต่อกับถนนหลักได้อีกหลายสาย อาทิ ถนนงามวงศ์วาน , ถนนเกษตรนวมินทร์ , ถนนรัชดาภิเษก เข้า – ออกเมืองไปโซน CBD ได้ง่าย
มีตัวเลือกเป็นรถไฟฟ้าสายสีเขียวให้เลือกใช้บริการ โดยสถานีที่ใกล้ที่สุดคือ BTS รัชโยธิน นั่งไปเรียน , ทำงานหรือหาของกินได้อย่างสะดวก ใกล้โรงพยาบาล มหาวิทยาลัย สำนักงาน และห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ของย่านอย่าง Major รัชโยธิน , Central ลาดพร้าว เหมาะกับวัยทำงานที่มองหาคอนโดใกล้รถไฟฟ้า อยู่ในโซนเมือง แต่มีราคาที่จับต้องง่ายค่ะ
การเดินทางโดยใช้รถ :
จัดว่าเหมาะกับทำเลในย่านนี้ทีเดียวค่ะ ด้วยทำเลที่อยู่ถัดเข้าไปในซอย การใช้รถส่วนตัวจึงค่อนข้างสะดวกกว่า ที่ตั้งของโครงการอยู่บริเวณจุดตัดระหว่าง 2 ซอย คือซอยเสนานิคม 1 แยก 12 และซอยพหลโยธิน 30 ซึ่งสามารถใช้เป็นทางลัดไปเชื่อมต่อกับถนนลาดพร้าวได้ง่าย โดยที่จอดรถของโครงการจัดมาให้ 40% มีทั้งแบบในร่มและด้านนอกอาคาร ซึ่งก็ถือว่าจัดมาให้ค่อนข้างเยอะสำหรับคอนโดที่อยู่ใกล้รถไฟฟ้า
การเดินทางโดยไม่ใช้รถ :
การเดินทางโดยรถสาธารณะก็ทำได้ง่าย ด้วยทำเลโครงการที่อยู่ในเมือง จึงมีทั้งรถสองแถว แท็กซี่ วินมอเตอร์ไซต์ให้เลือกใช้หลากหลาย ทั้งยังอยู่ใกล้รถไฟฟ้า BTS รัชโยธิน 1.2 กิโลเมตร เดินทางเข้า – ออกเมืองไปสยาม อโศก สีลม ได้ง่าย ซึ่งทางโครงการก็มีรถ Tuk Tuk Shuttle Service วิ่งรับ – ส่งที่สถานีเลย
วัสดุ :
โครงการขายแบบ Fully Furnished ได้เฟอร์ครบทั้ง Built – in และลอยตัว ได้เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวอย่างเครื่องซักผ้า , ไมโครเวฟ , Hob&Hood จาก Hafele เคาน์เตอร์ได้ท็อปหินสังเคราะห์ ติดตั้งหน้าบานมาให้ดูเรียบร้อย ห้องนอนได้ฟูกนอนขนาด 5 ฟุต ผ้าม่านทึบและโปร่ง ในห้องน้ำได้สุขภัณฑ์จาก COTTO พร้อมฉากกั้นอาบน้ำต เทคโนโลยีในห้องยังมี Home Automation , IP Camera และ Digital Door Lock
การออกแบบโครงการ :
การออกแบบมาในสไตล์ Modern British ได้กลิ่นอายคลาสสิคแบบอังกฤษ โครงการแบ่งเป็น 2 อาคาร ซึ่งมีจุดเด่นแตกต่างกันชัดเจน โดยอาคาร A มีจำนวน 84 ยูนิต เน้นความเป็นส่วนตัว การออกแบบภายในได้ทางเดินแบบ Single Corridor โดยใน 1 ชั้นมีเพียง 12 ยูนิตเท่านั้น อาคาร B จำนวน 225 ยูนิต รูปทรงอาคารเป็นตัว L ทางเดินเป็น Double Corridor ซึ่งจุดเด่นของอาคารนี้ อยู่ที่สามารถเดินมาใช้งานพื้นที่ส่วนกลางได้ง่าย ซึ่งจะอยู่ที่ชั้น 8 และชั้นดาดฟ้าของอาคาร B
การออกแบบพื้นที่ใช้สอย :
รูปแบบห้องใมีให้เลือก 2 แบบ คือ 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 26.50 – 36.00 ตร.ม. และ 2 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 44.00 – 48.00 ตร.ม. ลักษณะแปลนได้มาเป็นแบบหน้ากว้าง ให้ความรู้สึกโปร่งโล่ง ฟังก์ชันจัดมาให้เป็นสัดส่วน รอบๆยังเหลือพื้นที่ใช้งานได้แบบหลวมๆ ไม่อึดอัด ส่วนครัวได้เป็นแบบปิดทุกยูนิต รูปแบบห้อง 2 Bedroom ส่วนนั่งเล่นอยู่ติดหน้าต่าง ห้องนอนได้มาขนาดใหญ่ วางเตียง 5 ฟุตได้ทั้ง 2 ห้อง เทียบกับราคาเริ่มต้น 3.49 ล้านบาท* ก็จัดว่าคุ้มค่าเลยนะคะ
สาธารณูปโภค :
ส่วนกลางให้มาค่อนข้างครบเลยสำหรับคอนโด Low Rise ที่มีจำนวนยูนิตไม่มาก รองรับได้ทั้งกิจกรรมแบบ indoor และ outdoor สระว่ายน้ำก็ได้มาถึง 2 สระ จากชั้นดาดฟ้าสามารถใช้ Sky Walk เดินเชื่อมต่อกันได้ โดย Facilities หลักจะอยู่ที่ชั้น 8 ของอาคาร B ประกอบด้วย Co – Kitchen , Co – Working และ Fitness ใช้งานร่วมกันได้ทั้ง 2 อาคาร ซึ่งก็จัดว่าเพียงพอต่อจำนวนยูนิตค่ะ
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 80,000 บาท/ตร.ม. , 19 กรกฎาคม 2566
- ทำเล 7.75/10 – เดินทางง่าย ใกล้แหล่งความอุดมสมบูรณ์สูง
- เดินทางด้วยรถ 8/10 – เชื่อมต่อกับถนนหลักได้หลายสาย
- ไม่ใช้รถ 7.75/10 – ใกล้รถไฟฟ้า 1.2 กิโลเมตร มีรถรับ – ส่งจากโครงการ
- วัสดุ 8.25/10 – ให้มาค่อนข้างดี เหมาะสมกับราคา
- แบบ 8/10 – แปลนห้องหน้ากว้าง ฟังก์ชันเป็นสัดส่วน
- สาธารณูปโภค 8/10 – เหมาะสมกับการใช้งาน ได้สระว่ายน้ำ 2 สระ
- MAIN CLASS
- 7.95 / 10.00
ชาโตว์ อินทาวน์ รัชโยธิน เหมาะกับใคร
โครงการ ชาโตว์ อินทาวน์ รัชโยธิน (Chateau in Town Ratchayothin) เหมาะกับคนที่ต้องการคอนโดในย่านรัชโยธิน เดินทางเข้า – ออกเมืองได้ง่าย ราคายังสามารถจับต้องได้ อยู่ใกล้รถไฟฟ้า ออกไปหาของกินง่าย ต้องการตึกเสร็จ พร้อมเข้าอยู่ได้เลย ได้เฟอร์ครบ มีงบประมาณ 2 – 4 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือน 15,981 – 23,336 บาท / เดือน
ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc