สวัสดีค่ะ..วันนี้จะพาไปชมห้องตัวอย่างโครงการ The Room สุขุมวิท 38 ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 38 ใกล้ซอยทองหล่อและห่าง BTS ทองหล่อ 700 ม. เดินทางสะดวกไปขึ้นทางด่วนง่าย เป็นคอนโด High Rise ระดับ Super Luxury เน้นความเป็นส่วนตัวและพื้นที่ใช้สอยภายในห้อง โครงการจะเป็นอย่างไรเราไปชมกันค่ะ
Fact @ 12 March 2019
- The Room Sukhumvit 38 (เดอะ รูม สุขุมวิท 38 )
- บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน)
- SUPER LUXURY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ในเขต : ซอยสุขุมวิท 38 เขตคลองเตย
- คอนโด High Rise 26 ชั้น 1 อาคาร 229 ยูนิต
- ที่จอดรถประมาณ 80 % ไม่รวมจอดซ้อนคัน
- ที่ดินประมาณ 2-1-12.8 ไร่
- เริ่มก่อสร้าง : ก.ค. 2561
- คาดว่าจะแล้วเสร็จ : Q1/2564
- 1 Bedroom : 43.4-69.5 ตร.ม.
- 2 Bedrooms : 69-90.9 ตร.ม.
- ฝ้าเพดานสูง 2.7 เมตร
- ราคาห้องเริ่มต้น 9.9 ล้านบาท
- ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ 210,000 บาท/ตร.ม.
- EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : EIA approved
- เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
- Call Center : 1198
ทำเลที่ตั้ง
พิกัด : 13.716960, 100.579955
โครงการ The Room สุขุมวิท 38 ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 38 ห่าง BTS ทองหล่อ 700 ม. เป็นทำเล “ย่านทองหล่อ” ฝั่งตรงข้ามซอยทองหล่อ หรือซอยสุขุมวิท 55 ที่เรียกได้ว่าเป็นทำเลทองของสุขุมวิทช่วงกลางที่มีความเจริญสูง สำหรับทำเลที่ตั้งของโครงการนั้น ซอยสุขุมวิท 38 จะมีความแตกต่างจากซอยอื่นๆเพราะซอยสุขุมวิท 38 บรรยากาศภาพรวมภายในซอยโดยส่วนมากจะเป็นบ้านพักอาศัยเดิมในพื้นที่ เป็นบ้านพักอาศัยส่วนบุคคลเป็นส่วนใหญ่ ทำให้ได้ความเงียบสงบในการอยู่อาศัยแม้จะอยู่ใจกลางเมืองก็ตาม ไม่มีรถวิ่งไปมาพลุกพล่านเหมือนซอยสุขุมวิทอื่นๆทางฝั่งเลขคู่ แต่ก็เดินทางสะดวกเพราะเป็นซอยที่มีถนนซอยย่อยเชื่อมต่อไปยังซอยสุขุมวิท 40 ได้ ซึ่งทำให้สามารถไปถนนพระราม 4 ไปขึ้นทางด่วนได้ง่าย
ส่วนความอุดมสมบูรณ์โดยรอบพื้นที่โครงการนั้น เนื่องจากเป็นซอยที่โดยส่วนมากเป็นบ้านพักอาศัย จะมีร้านอาหาร และร้านกาแฟบ้างภายในซอย แต่ถ้าเป็นพวกร้านสะดวกซื้อก็ต้องออกมาบริเวณหน้าปากซอย แต่ถ้ามองในภาพรวมของพื้นที่โครงการ แค่ข้ามฝั่งไปทางทองหล่อ ก็เรียกว่ามีให้เลือกครบและหลากหลาย ทั้งร้านค้า ร้านอาหาร หรือจะข้ามไปยังพร้อมพงษ์ที่มีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ สถานศึกษา และโรงพยาบาล ก็ถือว่าทำได้ไม่ได้ยาก เนื่องจากไม่ได้มีระยะทางที่ไกลจนเกินไป อีกทั้งยังมีรถไฟฟ้าถัดไปเพียงสถานีเดียว หรือจะมาทางฝั่งพระราม 4 ก็ได้
สำนักงานขายของโครงการจะตั้งอยู่บริเวณพื้นที่โครงการเลยนะคะ ภายในซอยสุขุมวิท 38 เข้ามาจากปากซอยประมาณ 700 m.
เข้ามาด้านในสำนักงานขายภายในจะมีโมเดลของโครงการ และห้องตัวอย่างทั้งหมด 2 ห้อง เปิดให้ชมแล้ว มีพนักงานขายคอยแนะนำและให้ข้อมูลของโครงการอยู่
โมเดลของโครงการ จำลองรูปแบบของอาคาร ที่ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 38 ซึ่งจะเห็นแนวคิดในการออกแบตัวอาคารในลักษณะ Corner Unit ที่จะใช้ผนังร่วมกันน้อยที่สุด เพิ่มความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัย
โครงการ The Room สุขุมวิท 38 เป็นคอนโด High Rise สูง 26 ชั้น 1 อาคาร 229 ยูนิต ใช้แนวคิดในการออกแบบโครงการ Design space for serenity inside โดยเน้นรายละเอียดการออกแบบ ตอบโจทย์การอยู่อาศัยเป็นคอนโดที่อยู่สบายเหมือนบ้าน เน้นพื้นที่ห้องขนาดใหญ่ พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้นตั้งแต่ 43.4-90.9 ตร.ม. เน้นการออกแบบตัวอาคารให้มีรายละเอียดเพื่อส่งเสริมการอยู่อาศัย เช่น
- การวางแนวอาคารในทิศเหนือ-ใต้ เพื่อหลบแดดทำให้อาคารไม่ร้อนและรับลมตามธรรมชาติได้ดี
- การวางห้องพักอาศัยแบบ Corner Unit กว่า 90% ดีไซน์เพื่อใช้ผนังร่วมกันน้อยที่สุด เพิ่มความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัย
- การวางผังอาคารโดยใช้นวัตกรรมการถ่ายเทอากาศ Air Post และ Corridor Air Flow ช่วยเติมอากาศดีและถ่ายเทอากาศเสียภายในห้องพักอาศัยและอาคารได้
- ในแต่ละชั้นจะมีจำนวนยูนิตน้อย เพียง 3 – 15 ยูนิต/ชั้น และใช้ระบบลิฟต์เฉพาะชั้นเพื่อความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัย
พื้นที่ส่วนกลาง Facilities ของโครงการ ประกอบด้วย
- ชั้น 1 : Grand Lobby
- ชั้น 4 : Swimming Pool & Jacuzzi /Fitness / Steam Room
- ชั้น 5 : Social Lounge & Meeting Room
- ชั้น 15 , 18 , 25 : Sky Garden & Multi-Function Garden
โดยโครงการมีการจัดพื้นที่สีเขียว ทำเป็นแนวต้นไม้ใหญ่หน้าโครงการ มีระยะห่างจากหน้าโครงการถึงตัวอาคาร 22 เมตร พื้นที่สีเขียวจะช่วยปกป้องฝุ่นละอองและเสียงรบกวน และจัดสวนหย่อมรอบโครงการเพื่อความร่มรื่น และมีระบบรักษาความปลอดภัยด้วย 24 hours security guards ระบบเข้าออกโครงการแบบ Easy Pass พร้อม 24 hrs. self-service smart locker เพื่อความสะดวกของลูกบ้าน ในส่วนของที่จอดรถ ทางโครงการจะจัดที่จอดรถไว้ประมาณ 80% ไม่รวมจอดซ้อนคัน โดยเป็นระบบจอดแบบปกติ Conventional parking บนอาคาร 3 ชั้นและชั้นใต้ดิน 3 ชั้น
เริ่มกันที่ห้องแบบ 2 Bedroom ขนาด 79.4-79.5 ตารางเมตร ขายแบบ Fully Fitted แบ่งพื้นที่ใช้งานหลักๆเป็น 6 ส่วน ได่แก่ ห้องครัว ห้องนั่งเล่น ส่วนรับประทานอาหาร ห้องน้ำ ห้องนอน 2 ห้อง และระเบียง เริ่มจากบริเวณด้านหน้าของตัวห้องก่อนเข้าห้องจะมีช่องสำหรับเก็บของที่ผนังด้านข้าง เมื่อเข้ามาในตัวห้องแล้วส่วนแรกจะเป็นครัว ออกแบบเป็นพื้นที่ครัวปิด แยกโซนด้วยวัสดุปูพื้นด้วยกระเบื้อง ครัวลักษณะนี้สามารถประกอบอาหารจริงจังได้ไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นและควัน ถัดจากส่วนครัวจะเป็นพื้นที่รับประทานอาหารสามารถตั้งโต๊ะแบบ 4 ที่นั่งได้สบายๆ โดยจะเชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่น และริมสุดของตัวห้องจะเป็นพื้นที่ระเบียง และมีการแบ่งพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้า และ Condensing unit ไว้เป็นสัดส่วนห้องนี้จะได้แสงธรรมชาติและวิวแบบมุมกว้างจากหน้าต่างและประตูบานเลื่อนกระจกที่สูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน
อีกฝั่งของตัวห้องจะเป็นส่วนพักอาศัยแบ่งเป็นห้องนอน 2 ห้องนอน โดยห้องนอนใหญ่จะมีห้องน้ำในตัวภายในห้อง ส่วนห้องนอนรอง จะต้องเดินออกมาใช้ห้องน้ำอีกห้องด้านนอก ซึ่งใช้รวมกับส่วนของห้องนั่งเล่น สำหรับห้องน้ำในห้องนอนใหญ่ จะเป็นแบบ Sexy Bath ที่มองเห็นภายในห้องนอน ได้แสงจากห้องนอนได้ความโปร่งโล่งมากขึ้น ส่วนห้องนอนอีกห้องเหมาะสามารถตั้งเตียงขนาด 5 ฟุต หรือจะปรับการใช้งานเป็นห้องอเนกประสงค์ก็ได้ มีหน้าต่างเปิดรับลมและได้แสงธรรมชาติจากภายนอกเช่นกัน
เร่ิมจากประตูทางเข้าด้านหน้าห้องจะได้เป็นประตูไม้สำเร็จรูปปิดผิวลามิเนต High Pressure Laminate พร้อมอุปกรณ์ Digital Door Lock สังเกตทางด้านข้างของประตู จะติดตั้งระบบระบายอากาศ Air Post (Generation 2) และช่องระบาย Air Flow ที่ผลิตจาก Steel Powder Cost ทำให้ลมสามารถไหลเวียนเข้าสู่ตัวห้องได้ พร้อมไฟหน้าประตูทางเข้าเป็นระบบ Sensor เปิด-ปิด อัตโนมัติ
เข้ามาในตัวห้องแล้วส่วนแรกทางขวามือจะเป็นครัวปิด ทางเข้าใกล้ประตูมีชุดตู้สำหรับเก็บของ ส่วนครัวออกแบบเป็นพื้นที่ครัวปิดมีฉากบานเลื่อนกระจกกั้นพื้นที่เป็นสัดส่วน ใช้วัสดุปูพื้นภายในห้องหลักๆจะเป็นพื้นไม้ลามิเนต หนา 12 mm. โทนสีอ่อนช่วยให้ห้องดูกว้างมากยิ่งขึ้น มีความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานที่ 2.7 m.
ออกแบบเป็นพื้นที่ครัวปิด แยกโซนด้วยวัสดุปูพื้นด้วยกระเบื้อง Porcelain ผิวแม็ท ครัวลักษณะนี้สามารถประกอบอาหารจริงจังได้ไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นและควัน พื้นที่ครัวค่อนข้างกว้างใช้งานได้สะดวก การเลือกกั้นพื้นที่ด้วยกระจกทำให้พื้นที่ภายในดูโปร่งโล่งมากยิ่งขึ้นแม้จะเป็นครัวปิดก็ตาม ตรงข้ามกับส่วนครัวทางโครงการจะมีชุดตู้รองเท้า บานทึบกรุ HPL (High Pressure Laminate) ลายไม้ และบานกระจกเงาสียูโรเกรย์ ติดตั้งให้พร้อมใช้งาน
ทางโครงการจะติดตั้งชุดครัวทั้งเตาไฟฟ้าและดูดควัน ของ Smeg ให้พร้อมใช้งาน แบ่งการใช้งานเป็นลักษณะตัว U ใช้งานได้เต็มพื้นที่ หน้าบานชุดตู้ล่าง ของ Alvic เป็น High Performance Surface Panels with UV-coated มีความสวยงาม ผิวสัมผัสเรียบเนียน และ Top เคาน์เตอร์ครัวและผนังครัวเป็น หินควอตช์ ไซล์สโตน พร้อมร่องมือจับติดตั้งไฟ LED
อีกฝั่งของครัวจะเว้นพื้นที่ไว้สำหรับตั้งตู้เย็นขนาดใหญ่ได้ พื้นที่ที่เหลือโดยรอบจะทำเป็นชุดตู้แบบ Built in สูงจนถึงฝ้าเพดาน โดยหน้าบานชุดตู้ด้านบนจะเป็นของ Alvic และหน้าบานลามิเนตลายไม้ มีทั้งแบบบานเปิด ลิ้นชัก และชั้นวางของที่สามารถดึงลงมาเก็บของได้ ช่วยเพิ่มการใช้งานและที่เก็บของหลากหลายแบบ
ถัดจากส่วนครัวจะเป็นพื้นที่รับประทานอาหารสามารถตั้งโต๊ะแบบ 4 ที่นั่งได้สบายๆ โดยจะเชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่น บริเวณนี้ยังคงปูพื้นด้วยพื้นไม้ลามิเนต หนา 12 mm. ต่อเนื่องมาจากทางเข้าด้านหน้าตัวห้อง
ห้องนั่งเล่นพื้นที่กว้างใช้งานได้สะดวก สามารถวางชุดโซฟาขนาดใหญ่ พื้นที่กว้างขวางสามารถเลือกทีวีขนาดใหญ่ได้ อีกทั้งห้องยังได้แสงธรรมชาติจากประตูบานเลื่อนกระจกทางด้านข้างตัวห้องทำให้ห้องมีความโปร่งโล่งมากยิ่งขึ้น สำหรับฝ้าเพดานภายในห้องบริเวณนี้จะมีการซ่อนไฟและวางตำแหน่งของดวงไฟให้เหมือนกับห้องตัวอย่าง มีความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานที่ 2.7 m.
ฝั่งตรงข้ามบริเวณห้องนั่งเล่นทางโครงการจัดเป็นชั้นวางของ ทีวี และฉากตกแต่งไว้ให้ดูเป็นไอเดียการใช้งาน ซึ่งมีพื้นที่ค่อนข้างกว้างสามารถเลือกทำชุดตู้และชั้นวางของตามแนวผนังได้ เราสามารถเลือกตกแต่งตามการใช้งานได้เองค่ะ
ถัดมาเป็นพื้นที่ส่วนระเบียง จัดพื้นที่มาค่อนข้างกว้างสามารถออกไปยืนใช้งานได้จริง สามารถตั้งชุดโต๊ะเก้าอี้เล็กๆได้ ติดราวระเบียงเป็นกระจกนิรภัย Laminated Glass ทำให้เมื่อมองจากภายในห้องออกมา จะได้วิวแบบมุมกว้างไม่มีราวระเบียงบังวิว พื้นตรงส่วนระเบียงจะเป็นกระเบื้องลายไม้เหมาะกับการใช้งานภายนอก
อีกฝั่งของพื้นที่ระเบียงมีการแบ่งพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้า และ Condensing unit ไว้เป็นสัดส่วน พร้อมประตูระแนงเหล็กปิดเพื่อความเรียบร้อย
มองย้อนกลับเข้ามาภายในห้อง จะเห็นพื้นที่ที่สามารถใช้งานเชื่อมถึงกัน มีความต่อเนื่องในการใช้งานไล่มาจากส่วนครัว จนถึงที่บริเวณห้องนั่งเล่น พื้นที่ที่ให้มาถือว่าค่อนข้างกว้าง ทำให้สามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่การใช้งานได้ง่าย ระบบปรับอากาศภายในห้องจะเป็นระบบ Conceal Type โดยจะมีระบบหมุนเวียนอาคารซ่อนไว้บริเวณรางม่านติดกับประตูและหน้าต่างของตัวห้อง
อีกฝั่งของตัวห้องจะเป็นส่วนพักอาศัยทั้งหมด แบ่งเป็นห้องนอน 2 ห้องนอน และห้องน้ำทางซ้ายมือ โดยห้องนอนทุกห้องจะมีประตูกั้นแบ่งพื้นที่ใช้งานเป็นสัดส่วน เพิ่มความเป็นส่วนตัวในการใช้งาน
เดินเข้ามาจะเจอกับห้องน้ำห้องแรกทางซ้ายมือ ภายในจัดเป็นห้องน้ำกลางให้ใช้สำหรับห้องนอนรองและส่วนห้องนั่งเล่น มีการแยกส่วนเปียกและส่วนแห้งไว้อย่างชัดเจน วัสดุภายในพื้นห้องน้ำเป็นกระเบื้อง Porcelain ผิวแม็ทลายหินอ่อน ซึ่งมีคุณสมบัติในการดูดซึมของน้ำต่ำเพียง 0.05% หรือไม่มีการดูดซึมน้ำเลยก็ว่าได้ และมีความแข็งแรงทนทานสูง ในส่วนของโถสุขภัณฑ์ เป็นของ American standard ส่วน Top เคาน์เตอร์ห้องน้ำเป็นหินควอตซ์เทียม (Composite Quartz) ของ KASCH
ส่วนเปียกมีพื้นที่ใช้งานได้สะดวกติดตั้งฉากกั้นด้วยกระจกใส Tempered Glass ของ Kasch มีฝักบัวอาบน้ำและ Rain Shower พร้อมอุปกรณ์อาบน้ำต่างๆของ Kasch เช่นกัน โดยทางโครงการจะติดตั้งระบบทำนำ้อุ่นไว้ให้ บริเวณส่วนอาบจะซ่อนไฟไว้ด้านข้าง ทำให้แสงในห้องน้ำดูนุ่มนวลขึ้นเหมือนตามห้องตัวอย่างทั้งหมด
ถัดมาที่ห้องนอนรอง พื้นที่ภายในห้องสามารถตั้งเตียงขนาด 5 ฟุตได้ มีหน้าต่างกระจกและหน้าต่างบานกระทุ้งสามารถปิดรับลม พร้อมม่าน ทำให้ได้แสงธรรมชาติหรือเปิดรับลมได้ ส่วนห้องนอนรองจะต้องเดินออกมาใช้ห้องน้ำอีกห้องด้านนอก ซึ่งใช้รวมกับส่วนของห้องนั่งเล่น
มาที่ห้องนอนใหญ่จะมีแนวทางเดินเชื่อมต่อเข้าไปพื้นที่ด้านใน โดยจะต้องผ่านบริเวณที่เป็นส่วน Walk in Closet ของตัวห้องก่อนทางขวามือ และทางเข้าห้องน้ำที่อยู่ภายในห้องทางซ้ายมือ สำหรับวัสดุปูพื้นภายในห้องหลักๆจะเป็นพื้นไม้ลามิเนต หนา 12 mm. โทนสีอ่อนต่อเนื่องมาจากห้องนั่งเล่นด้านนอก มีความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานที่ 2.7 m.
ภายในห้องนอนใหญ่ พื้นที่สามารถวางเตียงขนาดใหญ่ได้ มีพื้นที่โดยรอบใช้งานได้สะดวก สำหรับห้องแบบ 2 Bedroom ตำแหน่งของห้องนอนใหญ่จะอยู่ในตำแหน่งด้านริมของตัวอาคาร ทำให้ห้องนอนได้หน้าต่างบานใหญ่เต็มพื้นที่ มีความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานของตัวห้องแบบ Full Height ช่วยให้แสงธรรมชาติเข้ามาได้ความโปร่งโล่ง มองเห็นวิวได้เต็มที่ และสามารถเปิดระบายอากาศรับลมถ่ายเทได้ดี
มองย้อนกลับเข้ามาภายในห้อง จะเห็นพื้นที่ที่สามารถใช้งานเชื่อมถึงกัน มีความต่อเนื่องในการใช้งานไล่มาจากส่วนห้องน้ำ Walk in Closet จนถึงที่บริเวณห้องนอน พื้นที่ที่ให้มาถือว่าค่อนข้างกว้าง ทำให้สามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่การใช้งานได้ง่าย ระบบปรับอากาศภายในห้องจะเป็นระบบ Conceal Type โดยจะมีระบบหมุนเวียนอาคารซ่อนไว้บริเวณรางม่านติดกับหน้าต่างของตัวห้องเช่นกัน
ทางด้านข้างมีผนังกระจกจากห้องน้ำเป็นแบบ Sexy Bath ทางฝั่งห้องนอน ทำให้ภายในห้องน้ำได้แสงจากภายนอกดูโปร่งโล่งมากขึ้น
ถัดมาจะเป็นห้องน้ำ ซึ่งมีการแยกส่วนเปียกและส่วนแห้งไว้อย่างชัดเจน วัสดุภายในพื้นห้องน้ำเป็นกระเบื้อง Porcelain ผิวแม็ทลายหินอ่อน ในส่วนโถสุขภัณฑ์เป็นของ American standard ส่วน Top เคาน์เตอร์ห้องน้ำเป็นหินควอตซ์เทียม (Composite Quartz) ของ KASCH พร้อมพื้นที่สำหรับวางของใช้ต่างๆด้านล่างเคาน์เตอร์ ส่วนกระจกจะทำเป็นชุดตู้ Built in สามารถเปิดด้านในเป็นชั้นวางของใช้ได้
ส่วนเปียกติดตั้งอ่างอาบน้ำ Shower Bath สำเร็จรูป และมีฝักบัวอาบน้ำและ Rain Shower พร้อมอุปกรณ์อาบน้ำต่างๆของ Kasch เช่นกัน มีอ่างอาบน้ำอะคริลิกพ่นทับไฟเบอร์เพื่อความแข็งแรง ออกแบบเฉพาะโครงการ The Room สุขุมวิท 38 โดย Kasch มีฉากกั้นกระจกใส Tempered Glass ของ Kasch โดยกั้นส่วนเปียกด้วยกระจกสูงถึงฝ้าเพดาน
ห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 44 – 44.3 ตารางเมตร โครงการขายแบบ Fully Fitted พร้อมอยู่ ห้องรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าแบบตอนลึก แบ่งพื้นที่ใช้งานหลักๆเป็น 5 ส่วน ได่แก่ ห้องนั่งเล่น ห้องครัว ห้องน้ำ ห้องนอน และระเบียง โดยห้องนี้จะเน้นการแบ่งพื้นที่การใช้งานที่ชัดเจนเป็นสัดส่วน เร่ิมจากเมื่อเข้ามาในห้องจะเป็นห้องนั่งเล่น พื้นที่กว้างสามารถวางโซฟาขนาดใหญ่ได้ ถัดมาเป็นห้องครัว ซึ่งมีระยะที่สามารถแบ่งโซนทำเป็นครัวปิดได้ กรณีเน้นทำอาหารที่มีกลิ่นครัว ส่วนพื้นที่ระเบียงจากอยู่ติดกับส่วนครัว ช่วยในเรื่องการเปิดระบายอากาศและกลิ่นจากส่วนครัวได้ดี และมีการแบ่งพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้า และ Condensing unit ไว้เป็นสัดส่วน
อีกฝั่งของตัวห้องจะเป็นส่วนพักอาศัยแบ่งเป็นห้องนอนและห้องน้ำ โดยวางตำแหน่งของห้องนอนไว้ชิดริมอาคารทำให้ห้องนอนได้หน้าต่างบานใหญ่เต็มพื้นที่ อีกทั้งมีกระจกเข้ามุมระหว่างห้องนอนและห้องนั่งเล่น ช่วยให้พื้นที่ภายในดูโปร่งไม่ทึบตันจากผนังทึบ ส่วนห้องน้ำจะอยู่ด้านในของห้องนอน ช่วยในเรื่องความเป็นส่วนตัวและสะดวกในการใช้งาน แต่กรณีมีแขกมาห้อง จะใช้งานห้องน้ำจะต้องเดินผ่านห้องนอนของเรา อาจเสียความเป็นส่วนตัวไปบ้าง ซึ่งเราอาจใช้วิธีการทำฉากหรือม่านกั้นบริเวณส่วน Walk in Closet ไว้บริเวณด้านหน้าทางเข้าห้องน้ำ ก็จะสามารถบังสายตาได้
เร่ิมจากประตูทางเข้าด้านหน้าห้องจะได้เป็นประตูไม้สำเร็จรูปปิดผิวลามิเนต High Pressure Laminate พร้อมอุปกรณ์ Digital Door Lock พร้อมไฟหน้าประตูทางเข้าเป็นระบบ Sensor เปิด-ปิด อัตโนมัติ เมื่อเข้ามาในห้องจะเป็นห้องนั่งเล่น เน้นการแบ่งพื้นที่การใช้งานที่ชัดเจนเป็นสัดส่วนและเชื่อมต่อกับส่วนทานอาหาร ตรงยาวไปจนถึงส่วนครัวและระเบียงของตัวห้อง ทำให้มีการระบายอากาศจากช่องระบาย Air Flow ที่บริเวณประตูหน้าห้องได้ดี ลมสามารถไหลเวียนเข้าสู่ตัวห้องได้
ห้องนั่งเล่นพื้นที่กว้างใช้งานได้สะดวก สามารถวางชุดโซฟาขนาดใหญ่ พื้นที่กว้างขวาง มีระยะในการดูทีวี สามารถเลือกทีวีขนาดใหญ่ได้ สำหรับฝ้าเพดานภายในห้องบริเวณนี้จะมีการซ่อนไฟและวางตำแหน่งของดวงไฟให้เหมือนกับห้องตัวอย่าง ปูพื้นด้วยพื้นไม้ลามิเนต หนา 12 mm. มีความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานที่ 2.7 m. ทำให้ห้องมีความโปร่งโล่งมากยิ่งขึ้น
ฝั่งตรงข้ามบริเวณห้องนั่งเล่นทางโครงการจัดเป็นชั้นวางของ ทีวี ตกแต่งไว้ให้ดูเป็นไอเดียการใช้งาน ในห้องจริงจะได้ชุดตู้รองเท้า บานทึบกรุ HPL (High Pressure Laminate) ลายไม้ และบานกระจกเงา สียูโรเกรย์
ถัดมาจะเป็นพื้นที่สำหรับวางชุดโต๊ะทำงาน วางโต๊ะทานอาหาร หรือจะปรับเปลี่ยนทำเป็นชั้นวางของก็ได้ ซึ่งมีระยะเพียงพอไม่รบกวนการใช้งานในส่วนอื่นๆของตัวห้อง ทางโครงการจะมีฉากกั้นพื้นที่ระหว่างห้อครัวไว้ให้เป็นเฟรมกระจกพิเศษแบบบางความสูงถึงฝ้าเพดานให้
พื้นที่ภายในห้องถือว่าค่อนข้างกว้าง ทำให้สามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่การใช้งานได้ง่าย ระบบปรับอากาศภายในห้องจะเป็นระบบ Conceal Type โดยจะมีระบบหมุนเวียนอาคารซ่อนไว้บริเวณรางม่านติดกับประตูและหน้าต่างของตัวห้อง
ถัดมาเป็นห้องครัวจัดมาให้เป็นครัวเปิดมีระยะการใช้งานไม่อึดอัด สามารถแบ่งโซนทำเป็นครัวปิดได้ กรณีเน้นทำอาหารที่มีกลิ่นครัว ส่วนพื้นที่ระเบียงจากอยู่ติดกับส่วนครัว ช่วยในเรื่องการเปิดระบายอากาศและกลิ่นจากส่วนครัวได้ดี
ทางโครงการจะติดตั้งชุดครัวทั้งเตาไฟฟ้าและดูดควัน ของ Smeg ให้พร้อมใช้งาน หน้าบานชุดตู้ล่าง ของ Alvic เป็น High Performance Surface Panels with UV-coated และ Top เคาน์เตอร์ครัวและผนังครัวเป็น หินควอตช์ ไซล์สโตน พร้อมร่องมือจับติดตั้งไฟ LED
อีกฝั่งของครัวจะทำเป็นเคาน์เตอร์และตู้ Built in สำหรับวางของและเก็บของ มีให้เลือกใช้ทั้งแบบบานเปิดและลิ้นชักพร้อมร่องมือจับติดตั้งไฟ LEDโดยชุดตู้แบบ Built in จะสูงจนถึงฝ้าเพดาน บานชุดตู้เป็นของ Alvic เช่นกัน ด้านข้างทำเป็นเคาน์เตอร์สำหรับทานอาหารไว้ให้
ชั้นวางของด้านบนภายในจะสามารถดึงลงมาเก็บของได้ เป็นระบบโช๊คลดการกระแทก สามารถหยิบของในชั้นวางสูงๆได้สะดวก อีททั้งช่วยเพิ่มพื้นที่การใช้งานได้มากขึ้น
จากส่วนครัวจะเชื่อมต่อออไปยังระเบียงของตัวห้อง โดยจะมีประตูบานเลื่อนอลูมิเนียมพร้อมกระจกสีเทาตัดแสง ช่วยกรองแสงและสะท้อนแสงที่ส่องเข้ามาในตัวห้อง
ถัดมาเป็นพื้นที่ส่วนระเบียง จัดพื้นที่มาให้สามารถออกไปยืนใช้งานได้จริง ติดราวระเบียงเป็นกระจกนิรภัย Laminated Glass ทำให้เมื่อมองจากภายในห้องออกมา จะได้วิวในมุมมมองที่ไม่มีราวระเบียงบังวิว พื้นตรงส่วนระเบียงจะเป็นกระเบื้องลายไม้เหมาะกับการใช้งานภายนอก
อีกฝั่งของพื้นที่ระเบียงมีการแบ่งพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้า และ Condensing unit ไว้เป็นสัดส่วน พร้อมประตูระแนงเหล็กปิดเพื่อความเรียบร้อย
อีกฝั่งของตัวห้องจะเป็นห้องนอนและห้องน้ำโดยห้องนอนทุกห้องจะมีประตูกั้นแบ่งพื้นที่ใช้งานเป็นสัดส่วน เพิ่มความเป็นส่วนตัวในการใช้งาน อีกทั้งมีกระจกเข้ามุมระหว่างห้องนอนและห้องนั่งเล่น ช่วยให้พื้นที่ภายในดูโปร่งไม่ทึบตัน
ห้องนอนพื้นที่ภายในที่จัดมาให้ค่อนข้างกว้างใช้งานได้สะดวก สามารถวางเตียงขนาดใหญ่ได้ มีพื้นที่โดยรอบ สำหรับวัสดุปูพื้นภายในห้องเป็นพื้นไม้ลามิเนต หนา 12 mm. และมีความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานที่ 2.7 m. ห้องจึงมีความโปร่งโล่ง
ตำแหน่งของห้องนอนจะอยู่ชิดริมอาคาร อีกทั้งหน้าต่างในห้องนอนจะได้หน้าต่างบานใหญ่แบบ Full Height พร้อมกระจกเข้ามุมทางขวามือ ช่วยให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาได้ความโปร่งโล่ง มองเห็นวิวได้กว้างมากขึ้น และสามารถเปิดระบายอากาศรับลมถ่ายเทได้ดี
มองย้อนกลับเข้ามาภายในห้อง จะเห็นพื้นที่ที่สามารถใช้งานเชื่อมถึงกัน มีความต่อเนื่องในการใช้งานไล่มาจากส่วนห้องน้ำ Walk in Closet จนถึงที่บริเวณห้องนอน ระบบปรับอากาศภายในห้องจะเป็นระบบ Conceal Type โดยจะมีระบบหมุนเวียนอาคารซ่อนไว้บริเวณรางม่านติดกับหน้าต่างของตัวห้อง
สำหรับตู้เสื้อผ้าทางโครงการจะมีให้พร้อมใช้งาน วัสดุหน้าบานเป็นประตูกระจก Euro bronze ใส เฟรมอลูมีเนียม ภายในตู้กรุเมลามีนลายผ้า ลิ้นชักกรุ HPLลายไม้พร้อม TOP กระจก Euro bronze ใสเหนือAccessories Drawers พร้อมราวแขวน ไม้โอ๊คแท้ ขอบโลหะ
ถัดมาจะเป็นห้องน้ำ ซึ่งมีการแยกส่วนเปียกและส่วนแห้งไว้อย่างชัดเจน วัสดุภายในพื้นห้องน้ำเป็นกระเบื้อง Porcelain ผิวแม็ทลายหินอ่อน ส่วนกระจกจะทำเป็นชุดตู้ Built in ด้านในเป็นชั้นวางของใช้ได้ อ่างล้างหน้าTop เคาน์เตอร์เป็นหินควอตซ์เทียม (Composite Quartz) ของ KASCH พร้อมพื้นที่สำหรับวางของใช้ต่างๆด้านล่างเคาน์เตอร์ โถสุขภัณฑ์เป็นของ American standard ส่วนอุปกรณ์อาบน้ำต่างๆ ของ Kasch
ส่วนเปียกติดตั้งอ่างอาบน้ำ Shower Bath สำเร็จรูป ตัวอ่างเป็นอะคริลิกพ่นทับไฟเบอร์ออกแบบเฉพาะโครงการ The Room สุขุมวิท 38 โดย Kasch ที่น่าสนใจคือการใช้งานที่จะมีประตูเปิด-ปิดได้ ทำให้ใช้งานได้ง่ายและปลอดภัยมากขึ้น
สำหรับผู้ที่สนใจโครงการ The Room สุขุมวิท 38 ตอนนี้โครงการมี Sale Gallery เปิดชมห้องตัวอย่างแล้วนะคะ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถดูได้ที่ คลิกที่นี่ หรือโทร 1198
สำหรับรีวิวฉบับเต็มมีให้ชมกันอย่างแน่นอน อดใจรอกันอีกสักนิดค่ะ
สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )
