รีวิวฉบับย่อ 633 … หลังจากที่เปิดตัวกันไปสดๆร้อนๆเมื่อวานนี้ (22 ก.ค. 57) กับคอนโดสุดหรูแห่งใหม่ของกรุงเทพมหานคร, ริมแม่น้ำเจ้าพระยา และติดห้าง The IconSiam นั่นก็คือ Magnolias Waterfront Residences จาก Magnolia นั่นเองครับ (อ่านข่าวเปิดตัวตรงนี้) ซึ่งก็มีกระแสให้ได้ยินกันมาตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว หลายๆคนคงจะอยากเห็นว่า เจ้า Magnolias นี่จะทำออกมาหน้าตาเป็นยังไง ห้องตัวอย่างเป็นแบบไหน ซึ่งเมื่อวานนี้เค้าก็เปิดสำนักงานขายและห้องตัวอย่างให้สื่อมวลชนได้เข้าไปชมกันแล้วเป็นที่เรียบร้อย และผม Mr.Boom ก็จะพาไปรีวิวให้ดูกันครับ ซึ่งจริงๆแล้วก็อย่าเรียกว่ารีวิวเลย เพราะบทความอันนี้ต้องยอมรับเลยว่าผมเขียนแบบเร่งรีบมากกกก และตัดรายละเอียดออกไปหลายส่วนอยู่ ขอเรียกว่า รีวิวฉบับย่อ+เร็วทันใจ ละกัน เพื่อที่จะได้เอาภาพถ่ายชุดแรกของห้องตัวอย่างของโครงการมาลงให้ได้ดูกันก่อนใครนะฮะ เพราะโครงการเขาจะเปิดขายอย่างเป็นทางการในปลายสัปดาห์นี้แล้ว (สำหรับลูกค้าที่ Register ก่อน) ใครที่กำลังเล็งไว้จะได้มาดูได้จากตรงนี้ก่อนว่าเราจะไปเจอกับอะไรบ้างในสำนักงานขาย ส่วนรีวิวฉบับเจาะลึกต้องบอกว่าขอให้อดใจรอกันอีกซักนิดนะฮะ รับรองว่าทีมงานเราไปจัดเต็มมาให้อ่านกันแน่ๆ แต่ตอนนี้ข้อมูลอีกหลายส่วนยังไม่สามารถเผยแพร่ได้ครับ จึงต้องขอเอาภาพคร่าวๆมาลงเรียกน้ำย่อยกันก่อนนะฮะ เดี๋ยวจานหลักจะตามมาทีหลัง ไปดูพร้อมๆกันเลยครับ
Fact @ 22 June 2014
- Magnolias Waterfront Residences ICONSIAM (แมกโนเลียส์ วอเตอร์ฟรอนท์ เรสซิเดนซ์ ณ ไอคอนสยาม)
- บริษัท ดิ ไอคอนสยาม เรสซิเดนซ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด
- ULTIMATE CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ในเขตคลองสาน ถนนเจริญนคร
- คอนโด High Rise 70 ชั้น 379 ยูนิต (สำหรับเฟสแรก)
- ที่ดินประมาณ 7-2-63 ไร่
- ที่จอดรถยนต์เกิน 100%
- คาดว่าจะแล้วเสร็จ กันยายน 2560
- Studio ไม่มี
- 1 Bedroom 60 – 79 ตารางเมตร 203 ยูนิต
- 2 Bedrooms 95 – 126 ตารางเมตร 107 ยูนิต
- 3 Bedrooms 144 – 222 ตารางเมตร 61 ยูนิต
- Duplex / Sky Villa 238 – 346 ตารางเมตร 8 ยูนิต
- ฝ้าเพดานสูง 3 เมตร
- ราคาต่อตารางเมตร 230,000 – 360,000 บาทต่อตารางเมตร (ณ วันที่ทำข่าว)
- ราคาเริ่มต้น 12 – 125 ล้านบาท (Fully Fitted)
- Official Website
- โทร 02-118-2211
ก่อนอ่านต่อ ขอบอกก่อนนะครับว่าในรีวิวฉบับเร็วทันใจนี้เราจะไม่มีบทวิเคราะห์ทำเล หรือตัวโครงการ หรืออะไรยังไงใดๆนะครับ เอารูปมาให้ดูเน้นๆก่อนเลย ที่ตั้งของโครงการอย่างที่เคยอธิบายไปในบทความเก่าๆแล้ว คือตัว Magnolias Waterfront Residences จะอยู่ในโครงการ ICONSIAM ครับ ซึ่งจะเป็นห้างสรรพสินค้าสุดหรูแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ โดยโครงการทั้งหมดตั้งอยู่บนถนนเจริญนครครับ ตัวที่ดินมีด้านหน้าติดถนนใหญ่ และด้านหลังติดแม่น้ำเจ้าพระยา ส่วนข้างๆโครงการเป็นโรงแรม Millennium Hilton ซึ่งอยู่ติดกันเลย
เริ่มจากหน้าตาภายนอกของสำนักงานขายก่อน ซึ่งผมไม่สามารถถ่ายให้เห็นเต็มๆทั้งตึกได้ เพราะเดี๋ยวผมจะถอยหลังตกแม่น้ำไปซะก่อน ด้านหลังที่เห็นเป็นตึกสูงๆนั่นคือโรงแรม Millennium Hilton ครับ เราเข้าไปดูข้างในกัน
เข้ามาข้างในสำนักงานขายแล้ว เรียกได้ว่าจัดเต็มกันตั้งแต่รอบสื่อฯเลย ข้างในสนง.ทำเพดานสูงแบบ Double Volume โดยมีโถงตรงกลางเป็นจุดที่เอาไว้วางตัวโมเดลของโครงการ ตกแต่งด้วยโคมไฟ Chandelier ขนาดใหญ่ที่อยู่ข้างบน
พอเข้ามาแล้วเราจะเห็นแบบจำลองแผนที่กรงุเทพมหานคร ส่วนที่เป็นแม่น้ำเจ้าพระยาโซนเจริญนคร-เจริญกรุงนี้ครับ ซึ่งโครงการลงทุนสร้างมันขึ้นมาเพื่อให้มองเห็นได้ว่า ที่ตั้งของโครงการนั้นอยู่ตรงไหน มีอะไรรายล้อมอยู่บ้างในปัจจุบัน และหน้าตาของ ICONSIAM และ Magnolias เมื่อเสร็จสมบูรณ์แล้ว จะให้อารมณ์ออกมาเป็นแบบไหน เมื่อเปรียบเทียบกับสภาพแวดล้อม
ตัวโมเดลนี้ยังอธิบายด้วยว่า ทำเลที่โครงการตั้งอยู่ จะอยู่พอดีกับส่วนที่เป็นโค้งของแม่น้ำเจ้าพระยา ให้เราสามารถที่จะคาดเดาได้คร่าวๆว่า วิวที่จะมองออกไปจากโครงการ จะเห็นเป็นประมาณไหน จากทิศไหนของโครงการ
ส่วนตัวโมเดลจริงๆของโครงการ วางอยู่ตรงนี้ครับ ใต้โคมไฟ Chandelier พอดีเลย
ตัวโมเดลของโครงการ หน้าตาแบบนี้ครับ โครงการมี 2 ตึก แต่ปัจจุบันที่เปิดตัวออกมามีเพียงตึกทางซ้ายที่สูงกว่าตึกเดียว และเป็นตึกแรกครับ ซึ่งจะมีความสูง 70 ชั้น ส่วนตึกที่ 2 ที่อยู่ทางขวาที่เตี้ยกว่า ปัจจุบันยังไม่มีรายละเอียดออกมาครับว่าจะมีรูปแบบโครงการเป็นแบบไหน
ที่ดินของโครงการยาวมาจากด้านหน้าที่ติดถนน ลึกเข้ามาจนถึงด้านหลังที่เป็นแม่น้ำเจ้าพระยา
ตัว Fin สีเหลืองที่อยู่ตรงกลางของตัวตึก เป็น Element ที่จะสร้างความโดดเด่นให้กับตัวตึก โดยของจริงเค้ากะว่าจะทำให้มันเป็นสีทองครับ แล้วจะมีความเงา ให้มี Effect สามารถสะท้อนแสงให้เกิดเป็นประกายได้ แต่ยังไม่ได้สรุปนะครับว่าจะทำออกมาด้วยวัสดุอะไรแบบไหน อันนี้คือที่เค้าเล่าให้ฟังนะครับ เดี๋ยวจะหาว่าผมโม้ไปเรื่อย 555+ อ้อ … แล้วสังเกตเห็นตรงกลางมั้ยครับ มันจะมียูนิตพิเศษที่อยู่ระหว่าง Fin สีเหลืองอันนั้นอยู่ ซึ่งจะเป็นยูนิตตรงมุมของตึกพอดี และมีเพียงไม่กี่ยูนิตเท่านั้น (ได้ยินว่าขายหมดให้กับลูกค้า VIP ไปแล้วด้วยนะ)
ส่วนอันนี้อีกตึกนึง ซึ่งก็มี Fin เหลืองๆเหมือนกัน แต่ตึกนี้ Details ยังไม่สรุปนะครับ เราจะข้ามไปก่อน
อันนี้เป็นด้านหลังของตัวตึกทั้งสองครับ ซึ่งที่นี่จะหันด้านหลังของตึกไปทางถนน และหันหน้าของตัวตึกไปทางแม่น้ำ ซึ่งก็จะเห็นแบบนี้บ่อยๆสำหรับโครงการริมน้ำลักษณะนี้ ซึ่งมันจะสลับกับคอนโดทั่วๆไปที่ไม่ติดแม่น้ำ และมักจะหันหน้าตึกเข้าหาถนนครับ
ทางเข้าของโครงการแค่ตัดถนนจากด้านหน้า เข้าไปยังด้านหลังเท่านั้น ไม่ได้มีอะไรมาก แต่ดูจากโมเดลแล้ว ตัวถนนที่ตัดเข้ามาก็น่าจะกว้างไม่ใช่เล่นเหมือนกัน ส่วนพื้นที่ว่างๆทางขวาสีเทาๆนั่นก็จะเป็นขอบเขตของห้าง ICONSIAM ครับ โดยจะไปเชื่อมกับตัวคอนโดทางด้านหลัง ส่วนที่เป็นทางเดินริมน้ำ
ให้ดูด้านหน้าตึกแบบเต็มๆอีกที
ด้านล่างของตึก จะมีส่วนที่เป็นชั้นที่จอดรถ และชั้น Podium ด้วย แต่เป็น Podium ที่ไม่ใหญ่มากนัก
มองจากด้านบนลงมาจะเห็นว่าชั้น Podium จะเป็นพวก Facilities สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, Pool Deck และจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆที่มารวมกันอยู่ที่ชั้นสองชั้นนี้ ถ้าสังเกตจะเห็นว่าเพดานของชั้น Facilities นี้ดูเหมือนจะเป็น Double หรือ Triple Volume ด้วยนะครับ … แต่แปลว่าเราคงจะไม่ได้มี Sky Facilities ลอยฟ้าที่อยู่ชั้นสูงๆให้ได้เห็นกันนะครับ แหม่ แอบเสียดายอยู่เหมือนกัน
ส่วน Facilities ที่อยู่ริมน้ำ ก็จะมีพวกสวนสาธารณะ ที่ถูกจัด Landscape เอาไว้ให้มีลักษณะไล่ระดับลงไปจากตัวตึกไปยังแม่น้ำนะครับ และจะมีส่วนที่เป็นทางเดินริมน้ำด้วย
ทางเดินริมน้ำจะเชื่อมออกมาจากตัวตึก ไปยังส่วนที่เป็นท่าเรือส่วนตัวของตึก และยังเป็น River Walkway ที่สามารถเดินเชื่อมจากตึกของ Residences ไปยังห้าง ICONSIAM ได้ด้วย
เราดูโมเดลกันคร่าวๆแค่นี้ก่อน ต่อไปไปดูห้องตัวอย่างกันบ้างดีกว่า
ห้องตัวอย่างขอเริ่มจากห้องแรกที่เป็น 1-Bedroom “Reflection Zone” ห้องมุม Type AC ขนาด 79.14 ตารางเมตรกันก่อนนะครับ อ่านไม่ผิดหรอกครับ ห้องนี้คือ 1-Bedroom ขนาด 79 ตารางเมตร! ซึ่งเรียกได้ว่า ใหญ่กว่าห้อง 2 Bed ของคอนโดหลายๆโครงการในสมัยนี้ซะอีก ซึ่งฟังก์ชั่นของห้องนี้ก็จัดมาเต็มที่เลยสำหรับการเป็น 1-Bedroom
ถ้าดูจาก Floorplan จะเห็นว่า ระเบียงเป็นส่วนที่ใหญ่มากและกินพื้นที่ไปประมาณ 10-15% ของขนาดห้องเลยก็ว่าได้ ส่วนฟังก์ชั่นของห้อง จะเห็นว่าส่วนที่เป็นด้านหน้าห้องเป็นส่วนที่วางห้องน้ำกับห้องครัว โดยให้ห้องน้ำอยู่ด้านซ้ายที่ติดกับห้องนอน เป็นห้องน้ำแบบ 4 Fixtures มีทั้งอ่างอาบน้ำและ Shower Box, และครัวอยู่หน้าห้องทางขวา ติดกับส่วนรับประทานอาหาร, ซึ่งส่วนรับประทานอาหารนี้ จะเป็นจุดที่มีการแบ่ง Space เอาไว้ให้อย่างชัดเจน สามารถใช้งานได้ Full Function โดยไม่ไปกินพื้นที่ส่วนอื่น, พื้นที่โซฟานั่งดูทีวี และ พื้นที่ห้องนอนจะวางอยู่ตรงข้ามกัน และเป็นส่วนที่วางอยู่ติดกับระเบียงห้องทั้งคู่ เพื่อให้สองส่วนนี้สามารถรับวิวธรรมชาติจากภายนอกได้เต็มที่ แต่จะสังเกตว่าห้องนอนกับห้องนั่งเล่นจะมีผนังกั้นตรงกลางแค่บางส่วน แต่จะมีส่วนให้เปิดเชื่อมเข้าหากันได้ ทำให้เวลาเราอยู่ในห้องนอน(หรือห้องนั่งเล่นก็ตาม) เราจะยังสามารถมองเห็นวิวที่ระเบียงได้ชัดเจนอยู่ตลอดเวลาในมุมที่กว้างขึ้น, และสุดท้าย พื้นที่ระหว่างห้องน้ำ กับห้องนอน จะมีห้องเล็กๆส่วนที่เว้าเข้าไป เป็นห้องเอนกประสงค์ที่สามารถทำเป็น Walk-in Closet ได้ สำหรับคุณผู้หญิง หรือจะเป็นห้องทำงานสำหรับคุณผู้ชายก็ได้เหมือนกัน
เริ่มตั้งแต่ประตูห้อง แบบ Oversized ติดตั้ง Digital Doorlock ของ Yale มาให้เรียบร้อย
เข้ามาในห้องแล้วส่วนแรกที่เจอ จะเป็นชุดครัวชุดนี้ ซึ่งเป็นชุดที่เค้าแถมมาให้เลย เป็นครัว Built-in จาก Varenna Poliform (เป็นแบรนด์ที่ Poliform ไปซื้อมาอีกที) ซึ่งทำมาให้เข้ารูปผนังห้องแบบนี้
ให้ดูชุดครัวชัดๆ ลืมบอกว่าห้องนี้ มีระยะความสูงพื้นถึงฝ้า อยู่ที่ 3 เมตรครับ แต่ส่วนครัวนี้จะ Drop ลงมาอยู่ที่ประมาณ 2.80 เมตรนะ
ตู้เก็บรองเท้าวางอยู่หน้าห้อง ติดกับชุดครัว
ตู้เย็น Built-in ซ่อนไว้ในชุดครัว เป็นของ SIEMENS นะครับ
ลิ้นชักเก็บอุปกรณ์ เครื่องครัวต่างๆ ข้างในกรุด้วยไม้จริงนะครับ 😀
อ่างน้ำแบบฝัง ของ Foster
ก็อกน้ำของ Foster เหมือนกัน
เตาอบ+ไมโครเวฟแบบฝังลงไปกับชุดครับ เป็นแบบใช้ได้ 2 ระบบ จะไมโครเวฟก็ได้ จะเป็นเตาอบก็ได้
ต่อมาจากส่วนครัวเป็นพื้นที่ Dining & Living ห้องนี้เป็นห้องมุม ดังนั้นจะมีผนังกระจกช่องแสงด้านข้างด้วย ให้แสงส่องเข้ามาทางด้านข้างของตัวห้อง
พื้นที่ส่วน Dining ถือว่าจริงจังมากสำหรับห้อง 1-Bedroom เพราะพื้นที่ขนาดนี้ สามารถวางโต๊ะกินข้าวแบบ 4 ที่นั่งได้, สามารถวางชั้นวางของอีกด้านหนึ่งได้ และยังมีพื้นที่เหลือให้คนเดินผ่านตรงกลางได้อีก แถมฟังก์ชั่น Dining นี้ จัดแยกออกมาจากส่วนที่เป็น Living และ Kitchen คือไม่ไปกินพื้นที่ของส่วนอื่นๆ ทำให้สามารถใช้งานได้ดีกว่า
พื้นห้องส่วนนี้จะเป็น Engineering Wood ครับ
ผนังฝั่งตรงข้ามกับโต๊ะรับประทานอาหาร ในห้องตัวอย่างวางตู้เก็บของเอาไว้ แต่ของจริงคือไม่ได้ใส่อะไรมาให้อยู่แล้ว เราสามารถใส่ตู้ Built-in เต็มผนัง สูง 3 เมตรได้เลยสบายๆ เพิ่มพื้นที่เก็บของภายในบ้านได้อีกเพียบ ถ้าเทียบว่านี่คือ One-Bedroom นะ
ตรงนี้อยากจะให้ดู Idea การกั้น Partition ห้องนิดนึงครับ คือเขาใส่เป็นฉากบังสายตาเป็นซี่ๆแบบนี้ ทำให้ดูกึ่งทึบ กึ่งโปรง คือเป็นการแบ่งสัดส่วนฟังก์ชั่นของห้อง แต่ไม่ทำให้ห้องรู้สึกแคบ
และถ้าเดินเข้ามาดูใกล้ๆ วัสดุตรงนี้จะเป็นหนังนะครับ พอมาอยู่คู่กับ Frame ที่เป็นไม้ และ Wallpaper ที่เป็นผ้าแล้ว ทำให้ดูหรูขึ้นมาทันทีเลย
ถัดมาด้านในเป็นพื้นที่โซฟาดูทีวี ต่อจากส่วนกินข้าว
โซฟาทีวี สามารถจัดโซฟาตัว L ได้เลย พื้นที่ยังเหลือวางโต๊ะกลางเตี้ยๆได้อีกตัว โซฟาอันนี้ถ้ามีเพื่อนมาบ้านนี่ให้นอนตรงนี้ได้เลยนะ
ตรงข้ามโซฟา เป็นผนังตรงกลาง สำหรับติดทีวีแขวนผนังได้ แต่ด้านข้างเปิดออกเพื่อเชื่อมต่อกับห้องนอนที่อยู่ด้านหลัง
ถ้าคนในห้องนอนต้องการ Privacy ก็สามารถเลื่อนบานเลื่อนที่ซ่อนอยู่ด้านหลังผนังทีวีมาปิดแบบนี้ได้ (ของจริงจะเป็นบานทึบนะครับ) ซึ่งก็สามารถปรับใช้ได้ 2 แบบ
ทางขวาของโซฟา เป็นประตูกระจก สำหรับเปิดออกไปที่ระเบียงด้านนอก เป็นประตูกระสูงพื้นจรดฝ้า กระจก Tempered Glass บานใหญ่บานเดียว แถมเป็นกระจก Insulate กันความร้อน และกันเสียงรบกวนจากภายนอกอีกต่างหาก
พื้นที่ระเบียงด้านนอก มีขนาดใหญ่มากเมื่อเทียบกับระเบียงของห้องทั่วๆไป ขนาดของระเบียงนี้ก็เกือบๆ 10 ตารางเมตรได้ (หรืออาจจะเกิน) โดยรูปร่างของระเบียงจะไม่ใช่ระเบียงตรงๆนะครับ เพื่อให้ดีไซน์รับกับรูปแบบภายนอกของตัวตึก ราวกันตกจะใส่มาเป็นกระจกใส เพื่อให้สามารถมองทะลุออกไปเห็นวิวภายนอกได้
อันนี้ให้ดูชุดประตูที่ระเบียง มือจับอันใหญ่ รางระเบียงฝังลงไปบนพื้นที่ลดระดับ
ที่ห้องนอนก็สามารถเปิดออกมาที่ระเบียงนี้ได้ เชื่อมกันในแนวยาว
เข้ามาดูในห้องนอนกันต่อ ขนาดของห้องนอนไม่ได้ถือว่าใหญ่มากนัก ถ้าเทียบสัดส่วนขนาดห้องนอนกับขนาดของห้องนี้ที่ใหญ่ถึง 79 ตารางเมตร ดูเหมือนว่าโครงการพยายามจะเอาพื้นที่ที่ได้เพิ่มมา ไปลงกับฟังก์ชั่นส่วนอื่นมากกว่า เช่นห้อง Dining Room หรือ ห้องเอนกประสงค์
ห้องนอนกับห้องนั่งเล่น และระเบียง ถ้าเปิดประตูเชื่อมกันหมด จะให้ความรู้สึกที่เชื่อมต่อกันมากขึ้น ได้ความโปร่งโล่งมากขึ้น และที่สำคัญคือได้วิวกว้างขึ้น กับแสงธรรมชาติที่ส่องเข้าห้องได้ปริมาณมากขึ้น
อ้อ แล้วจะสังเกตว่า ห้องนอนก็ใส่ทีวีได้อีกเครื่องนึงด้วยนะครับ ไม่ต้องแย่งกับคนในห้องนั่งเล่น 😀
พื้นที่ปลายเตียง กับชั้นวางทีวี ยังพอมีที่เดินผ่านได้ แม้ว่าในห้องจะใส่เตียง 6 ฟุตลงไปแล้ว
แอร์ในห้อง เป็นแบบฝังฝ้า มีให้ทั้งในห้องนอนและห้องนั่งเล่นนะครับ
ทางเดินตรงนี้ เดินจากห้องนอนไปยังห้องน้ำ ทางซ้ายนี้เป็นส่วนโต๊ะเครื่องแป้งสำหรับแต่งตัว และตู้เสื้อผ้า
ชุดนี้เค้าแถมมาให้เลยนะครับ เพราะห้องนี้มาแบบ Fully Fitted อยู่แล้ว เพียงแต่หน้าบานตู้เสื้อผ้า ของจริงจะเป็นบานทึบ ไม่ใช่บานกระจกแบบในห้องตัวอย่าง
ทีเด็ดของห้องแต่งตัวอยู่ตรงนี้ครับ ตรงข้ามโต๊ะเครื่องแป้ง จะมีห้องที่มีพื้นที่เล็กๆ แต่สามารถทำเป็น Walk-in Closet แบบนี้ได้ โดยที่ทางโครงการทำไว้ให้ดูเป็นไอเดียเฉยๆ ของจริงจะมาเป็นห้องโล่งๆครับ เผื่อว่าคุณผู้ชายอาจจะอยู่ห้องนี้คนเดียว แล้วไม่อยากได้ Walk-in Closet ก็อาจจะทำเป็นฟังก์ชั่นอื่นๆก็ได้ เช่น ห้องทำงาน หรือ ตู้หนังสือ แล้วแต่ว่าจะใช้พื้นที่ตรงนี้ไปทำอะไรนะครับ
ฟังก์ชั่นสุดท้ายคือห้องน้ำครับ ห้องน้ำห้องนี้ให้มาเป็นแบบ 4 fixtures ครับ คือมี 4 ฟังก์ชั่นหลัก ได้แก่ อ่างล้างหน้า, โถสุขภัณฑ์, Shower Box และ อ่างอาบน้ำครับ แถมให้พื้นที่มาเยอะ ใช้งานได้เต็มที่เลย
ตัวอ่างอาบน้ำ เป็นอ่างแบบฝังลักษณะนี้ครับ ยี่ห้อ Duravit
ติดหัวก็อกมาให้แบบนี้ ยี่ห้อ hansgrohe
อ่างล้างหน้าแบบฝัง ของ Duravit เหมือนกัน เคาน์เตอร์ท้อปเป็นหินอ่อนนะครับ
หัวก็อกน้ำของ hansgrohe เช่นเดียวกันกับอ่างอาบน้ำ และส่วนอื่นๆในห้องน้ำ
Shower Box แบบกระจก Tempered Glass ครับ แถมมาเป็นแบบ Full-Height คือสูงตั้งแต่พื้นถึงฝ้าเลย พื้นที่ Shower Box ไม่ใหญ่มาก เวลาเปิดประตูต้องดึงออกมานะครับ ไม่ใช่ผลักเข้าไป
ชุดฝักบัวแบบ Rain Shower
ระบบน้ำเป็นแบบผสมน้ำร้อน-น้ำเย็นครับ ตัวหัวก็อกปรับเลือกอุณหภูมิได้
ชุด Rain Shower และ Hand Shower แบบปรับทิศทางได้
โถสุขภัณฑ์เป็นของ Duravit แบบ Wall Hung ฝังเข้ากับผนังเลย โดยใช้ Flush ของ Geberit จาก Swiss ครับ
ห้องน้ำห้องนี้จะมีทางเข้าได้ 2 ทางนะครับ ทางซ้ายมาจากห้องนอน และทางขวาเข้าจากทางห้องครัว ก็คือสามารถแชร์ใช้ได้ทั้งสองฝั่ง และสามารถเปิดระบายอากาศออกไปอีกด้านหนึ่งได้ด้วย
มาต่อกันที่ห้อง 2 Bedroom “Serenity Zone” Type BD ขนาด 126.73 ตารางเมตรครับ ซึ่งหน้าตา Floor Plan ของห้องจะแปลกประหลาดไม่เคยเห็นที่ไหน เพราะวาง Plans ตามรูปของตัวตึกครับ ตัวห้องจะแบ่งเป็น 2 ส่วน ด้านหนึ่งจะเป็นส่วน Living-Dining-Kitchen เอาไปเต็มๆเลยครึ่งนึง และอีกครึ่งนึงเป็นส่วนของห้องนอน 2 ห้อง และห้องน้ำอีก 2 ห้องครับ
เมื่อเราเปิดประตูเข้าห้องมาแล้ว จะพบกับพื้นที่ Living Area ขนาดใหญ่ก่อน พร้อมโซฟาโค้ง ตัวยาวๆนี้ เอามาวางคู่กับโต๊ะกลาง 1 ตัว, โต๊ะด้านข้างอีกหนึ่งตัว และเก้าอี้เสริมเล็กๆอีกตัว แต่ยังมีพื้นที่ให้กลิ้งได้เลย แต่จริงๆแล้ว พื้นที่ตรงนี้เค้าไม่ได้ให้อะไรมาอยู่แล้วครับ เราสามารถซื้อเฟอร์นิเจอร์มาแต่งเองได้ตามใจชอบของเรา อยากจะให้โซฟาอยู่ตรงไหน ขนาดใหญ่แค่ไหน มีโต๊ะกลางมั้ย ก็แล้วแต่เราครับ
รูปนี้ถ่ายย้อนไปให้ดูทางเข้าห้องครับ คือจะเดินเข้าห้องมาจากทางซ้าย ส่วนทางขวาเป็นพื้นที่ส่วนครัว
ด้านนี้เป็นพื้นที่ครัวของบ้าน ที่วางโต๊ะรับประทานอาหารไว้ตรงกลาง
พื้นที่เคาน์เตอร์ครัววางอยู่ทางด้านหลัง เป็นแพนทรี่ยาวตลอดแนวผนัง รูปตัว I วางโต๊ะกินข้าวขยับออกมาไว้ทางด้านหน้า ซึ่งโต๊ะกินข้าวนี้ก็สามารถใช้เป็นพื้นที่เตรียมอาหารได้ด้วย เหมือนเป็น Island ไปในตัว
พื้นที่ครัวฝังเตา Induction 4 หัวไว้ด้านบน และ เตาอบ+Microwave เอาไว้ด้านล่าง
อ่างล้างจานของห้องนี้ รวมถึงสเป็คของก็อกน้ำ จะดูอลังการกว่าของห้อง 1 Bedroom ขึ้นมาอีก Step นึงครับ
ตู้เย็นแบบ Built-in ของ Siemens พร้อม Freezer ที่อยู่ด้านล่าง
มือจับตู้ครัวอันใหญ่ดีมากครับ จับถนัดมือดี
มองจากตำแหน่งครัว ย้อนไปที่โซฟาครับ
ผนังด้านหลังของโซฟา เป็นส่วนผนังกระจก ที่เปิดออกไปยังระเบียงด้านนอกครับ
ตัวประตูกระจกด้านหลัง สามารถเปิดออกได้กว้างแบบนี้ ขนาดระเบียงตรงนี้ใหญ่พอๆกับระเบียงของห้อง 1-Bed ครับ
รูปร่างของระเบียง เปลี่ยนไปตามแต่ละยูนิตห้อง พื้นระเบียงเป็นพื้นไม้เทียมครับ ซึ่งสามารถโดนน้ำ โดนความชื้นได้ ไม่กลัวแดด ไม่กลัวฝน สบายใจได้
ส่วนทางด้านนี้เป็น Corridor ที่จะเชื่อมห้องนั่งเล่น ไปยังห้องนอน และ ห้องน้ำ ทั้ง 4 ห้อง ทางขวาเป็นประตูทางเข้าห้องที่เราเดินเข้ามา สังเกตด้านหน้าทางซ้ายก่อนเดินเข้าโถงทางเดินตรงนี้เค้าจะใส่ชั้นหนังสือเอาไว้ที่ผนังด้านข้าง เราสามารถเอาชุดโต๊ะ+เก้าอี้ มาวางตรงนี้เป็นมุมเล็กๆสำหรับทำกิจกรรมส่วนตัว หรืองานอดิเรกได้ พอมีพื้นอยู่ครับ
เข้ามาดูห้องนอนเล็กก่อนครับ ห้องนี้ถึงจะบอกว่าเป็นห้องนอนเล็ก แต่ก็ยังมีพื้นที่ให้วางเตียงขนาด 6 ฟุตได้สบายๆนะครับ และยังมีพื้นที่ด้านในของห้องที่อยู่ติดกับผนังกระจกเข้ามุม สามารถวาง Daybed เพื่อนั่งรับวิวได้อย่างที่เห็นในรูป
ด้านข้างของเตียงนอน ใส่ตู้เสื้อผ้าได้ขนาดปานกลาง ปลายเตียงสามารถวางชั้นเก็บของได้, แขวนทีวีที่ผนังได้, และ Built-in โต๊ะทำงานขนาดย่อมๆเอาไว้ได้ด้วย โดยที่ไม่ได้เกะกะขวางทางเดินมากนัก ห้องนี้ก็เรียกได้ว่า Full Function ครับ แต่จะขาดก็แค่ไม่มีห้องน้ำในตัว โดยต้องออกไปใช้ห้องน้ำด้านนอก ร่วมกับห้องรับแขกครับ
ส่วนห้องนอนห้องนี้เป็น Master Bedroom ครับ มีขนาดกว้างกว่าอีกห้องหนึ่งชัดเจน พื้นที่ในห้องสามารถวางเตียงขนาด 6 ฟุตได้ และยังใส่ตู้หัวเตียงขนาดใหญ่ได้อีก 2 ตัว
ผนังด้านในสุดของห้องนี้ก็จะคล้ายๆกับห้องนอนเล็ก คือติดกับผนังกระจกแบบเข้ามุม ทำให้สามารถมองเห็นวิวภายนอกได้ในมุมกว้าง ในห้องตัวอย่างเค้าเลยจัดพื้นที่เป็นชุดโต๊ะเก้าอี้ สำหรับนั่งผ่อนคลายที่ริมกระจกแบบนี้ได้ครับ
พื้นที่ปลายเตียงสามารถใส่ชั้นวางทีวี แล้วยังมีพื้นที่ให้เดินผ่านได้อีกพอสมควรเลย ส่วนด้านข้างเตียง มีส่วนที่ผนังเว้าเข้าไป ให้สามารถวางโต๊ะเครื่องแป้งได้ แบบ Built-in เข้าผนัง
ในห้องนอนใหญ่จะมีห้องน้ำในตัวครับ ซึ่งจะได้ฟังก์ชั่นของห้องน้ำเหมือนกับห้อง 1-bedroom และได้ Spec วัสดุเหมือนกัน ก็คือ Duravit + hansgrohe ครับ มีอ่างล้างหน้า มี อ่างอาบน้ำเหมือนกัน
และด้านนี้เป็น Shower Box กับ โถสุขภัณฑ์ครับ Spec เหมือนกับห้องแรก
ส่วนห้องน้ำอีกห้องหนึ่งที่อยู่นอกห้องนอน ผมขอข้ามไปเลยละกันนะครับ เนื่องจากฟังก์ชั่นก็เหมือนกันทุกอย่าง แค่ตัดอ่างอาบน้ำออกไปเท่านั้นเอง ส่วนวัสดุก็เหมือนกันครับ
ขอจบการพารีวิว (อย่างย่อและรวดเร็ว) เอาไว้เพียงเท่านี้ก่อนนะครับ อันนี้ตั้งใจจะเอาภาพโมเดล และห้องตัวอย่างมาให้ดูแบบเน้นๆก่อนเลย เลยอาจจะไม่ได้ละเอียดมากเท่ากับรีวิวเจาะลึกทั่วๆไปนะครับ ^^” และคงจะยังไม่ได้วิเคราะห์อะไรมากนัก เพียงแค่อธิบายตามที่ผมเห็นไปก่อน เน้นเร็ว เพราะวันเสาร์-อาทิตย์ที่ 26-27 ก.ค.นี้เค้าจะเปิดให้จองสำหรับลูกค้าลงทะเบียนแล้วครับ ยังไงถ้ามีโอกาสได้ไปสำนักงานขายตามวันดังกล่าวก็คงจะได้ดูห้องตัวอย่างกับโมเดลด้วยตัวเองอยู่แล้วล่ะครับ แล้วคงจะมีข้อมูลอื่นๆเช่นพวก Floor Plan และข้อมูลราคาออกมาในวันนั้นพร้อมกันเลย อันนี้เร่งทำก็เพื่อให้แฟนๆได้เอาภาพห้องไปดูกันก่อน จะได้ไม่ต้องไปดูเองนะครับ แล้วจะได้รู้ว่าจะ Expect อะไรบ้าง
ส่วนรีวิวฉบับสมบูรณ์ทางทีมงานของเราจะรีบทำออกมาให้ได้อ่านกันนะครับ อดใจรอกันซักหน่อย วันนี้ขอลาไปด้วยภาพโมเดลของโครงการก่อนนะครับ
ถ้าชอบฝากกด Like ถ้าถูกใจฝากกด Share ได้ด้วยนะคร้าบบบบบ <3