รีวิวฉบับที่ 1859 … สวัสดีค่ะ.. วันนี้มีทำเลของ Project ที่น่าจับตามองอย่าง Tonson One Residence คอนโดมิเนียมระดับ Super Luxury จาก บริษัท แอสเซท ไฟว์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ร่วมทุน กับ บริษัท แค๊ปสโตน แอสเสท จำกัด มาฝากกันค่ะ โครงการนี้ตั้งอยู่ในซอยต้นสน ใจกลางย่านเพลินจิต-ชิดลมซึ่งถือว่าเป็น CBD (Central Business District) ที่มีครบทั้งแหล่งช้อปปิ้ง อาคารสำนักงาน โรงแรมระดับไฮเอนด์ สถานทูต และที่น่าสนใจคือ โครงการนี้เป็น freehold ซึ่งถือว่าหาได้ยากในทำเลนี้ เราไปเดินเล่นดูทำเลกันดีกว่าค่ะ
พิกัด : 13.742312, 100.545531
โครงการ Tonson One Residence ตั้งอยู่ในซอยต้นสน ฝั่งที่ใกล้กับถนนเพลินจิต และใกล้ Central Embassy ในระยะเดินถึง ก่อนที่เราจะพาไปเดินดูทำเลกัน เราจะขอเล่าถึง Background ของบริษัทกันสักเล็กน้อยค่ะ
บริษัท แอสเซท ไฟว์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทที่มีประสบการณ์ในวงการอสังหาริมทรัพย์ มาตั้งแต่รุ่นคุณปู่ภายใต้ชื่อว่า โชคชัย ปัญจทรัพย์ ที่เป็นบริษัทผู้พัฒนาโครงการ โชคชัย4, โชคชัยร่วมมิตร และบ้านจัดสรรอีกกว่า 50 โครงการ ต่อมาทายาทรุ่นหลานอย่างคุณศุภโชค ปัญจทรัพย์ ได้ก่อตั้ง บริษัท แอสเซท ไฟว์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (เดิมชื่อ อดามัส เรียลเอสเตท) ขึ้นมา และได้พัฒนาอสังหา ประเภทที่อยู่อาศัยทั้งแนวราบ และแนวสูง ตัวอย่างโครงการที่เป็นที่รู้จักกันดี คือ Vana Residence พระราม9-ศรีนครินทร์ (ปี 2561) บ้านเดี่ยวระดับ Luxury ที่ได้รับการตอบรับอย่างดีทีเดียวค่ะ
โครงการ Tonson One Residence ตั้งอยู่ในย่าน CBD (Central Business District) ที่ใกล้กับ แหล่งช้อปปิ้ง โรงแรม อาคารสำนักงานระดับบน อีกทั้งยังมีสถานทูต และใกล้กับสวนสาธารณะขนาดใหญ่อย่าง สวนลุมพินี ด้วยลักษณะทางกายภาพตามที่กล่าวมาจึงทำให้โครงการนี้เป็นแหล่งรวมของโครงการระดับไฮเอนด์ และที่น่าสนใจคือทำเลนี้แทบจะไม่สามารถหาที่ดินแบบ Freehold มาพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม High Rise ได้ง่ายๆ ซึ่งตรงนี้ถือว่าเป็นจุดเด่นของโครงการเลยทีเดียวเพราะโครงการนี้ เป็นที่ดินแบบ Freehold คือผู้ซื้อจะได้ครอบครองกรรมสิทธิ์ของอสังหาริมทรัพย์ที่ตนซื้อไป ซึ่งส่วนใหญ่ที่ดินในย่านนี้จะเป็นลักษณะ Leasehold (เนื่องจากเป็นที่ดินของทรัพย์สินฯ) ซึ่ง Leasehold นั้นเป็นสิทธิ์ในการเช่า ผู้ซื้ออสังหาริมทรัพย์ประเภทนี้จะไม่ได้กรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ที่ตนซื้อ และเมื่อครบกำหนดสัญญาเช่า ผู้ซื้อก็จะต้องคืนอสังหาริมทรัพย์นั้นให้กับเจ้าของที่ดินนั้นๆค่ะ
ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ย่านนี้มีที่มีราคาสูงเป็นอันดับต้นๆของประเทศไทย โดยที่ดินที่มีการซื้อขายกันด้วยราคาสูงที่สุดใน 1-2 ปีที่ผ่านมานั้น ตั้งอยู่บริเวณสถานทูต ประเทศอังกฤษ โดยกลุ่มเซ็นทรัล ได้ซื้อมาในราคาตารางวางละ 2 ล้านบาท ในปี 2560 และล่าสุด จากข้อมูลของ Colliers International Thailand สำรวจ 10 อันดับแรกราคาที่ดินแพงในเขตกรุงเทพฯ ในปี 2561 พบว่าราคาซื้อขายที่ดินที่แพงที่สุดมาจาก SCOPE COLLECTION ได้ซื้อที่ดินมาในราคา 3.1 ล้านบาท/ตารางวา จึงทำให้โครงการที่มาขึ้นในทำเลนี้นั้น ส่วนใหญ่จะเป็นโครงการในระดับ Luxury ไปจนถึง Ultimate Luxury นั่นเองค่ะ
ที่ตั้งโครงการอยู่ในซอยต้นสน ช่วงต้นซอย ฝั่งที่ใกล้กับถนนเพลินจิตจากหน้าปากซอยเข้าไปประมาณ 130 เมตร โครงการจะอยู่ทางด้านซ้ายมือ สำหรับซอยต้นสนเดิมทีเป็นถนนซอยเล็กๆ เดินรถแบบ 2 Way ทางต้นซอยเชื่อมกับถนนเพลินจิต ด้านหลังเป็นซอยตันไม่ทะลุผ่านซอยสารสินทางด้านหลังจึงไม่ใช่ถนนเส้นหลักที่มีรถผ่านเท่าไหร่นัก เมื่อเทียบกับถนนวิทยุ หรือถนนหลังสวน
ถัดมาในปัจจุบันบรรยากาศก็ยังคงเงียบสงบเช่นเดิม ที่เพิ่มเติมคือซอยต้นสนจะไม่ได้เป็นซอยตันอีกต่อไป เพราะทางกทม.เปิดให้ถนนต้นสนสามารถเชื่อมเข้าถนนสารสินด้านหลังได้เช่นเดียวกับถนนหลังสวน เพิ่มศักยภาพในการเดินทางให้กับโครงการมากขึ้น ไม่จำเป็นต้องไปออกซอยย่อยเพื่อเชื่อมเข้าถนนหลังสวน แล้วไปออกถนนสารสินอีกทีค่ะ ทำให้มีการเดินทางที่สะดวกมากขึ้น โดยสามารถใช้ซอยสารสินไปออกถนนวิทยุและไปยังถนนพระราม 4 ได้ สำหรับบรรยากาศภายซอยนี้จะค่อนข้างเงียบสงบไม่พลุกพล่าน เหมาะกับการอยู่อาศัย มีต้นไม้ร่มรื่นตลอดทั้งซอย ภายในซอยส่วนใหญ่เป็นอาคารประเภทอพาร์ทเม้นท์ คอนโดมิเนียม สถานทูต โรงเรียน และมีร้านอาหารอยู่บ้างประปราย ถ้าใครที่อยากหาร้านอาหารทานใกล้ๆส่วนใหญ่จะอยู่ที่ถนนหลังสวนและถนนวิทยุค่ะ
ความอุดมสมบูรณ์ในย่านนี้ก็ถือว่าครบครัน เนื่องจากเป็นย่านธุรกิจ ที่มีทั้งอาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า สถานศึกษา และสถานทูต ซึ่งความอุดมสมบูรณ์หลักๆของทำเลนี้จะมีตลอดทั้งเส้นตั้งแต่สถานี BTS สยาม ต่อเนื่องมาจนถึงชิดลม และเพลินจิต มีห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ อยู่ในระยะที่สามารถเดินได้ด้วยค่ะ เช่น Central Embassy ห้างหรูที่รวบรวมแบรนด์ชั้นนำต่างๆไว้มากมาย, Central ชิดลม ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลแห่งแรกในประเทศไทย, Amarin Plaza, Mercury Tower ,Gaysorn Village และ Central Word เป็นต้น ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นทั้งโรงแรม หรือสำนักงานที่มีส่วนShopping อยู่ในตัว
นั่งรถไฟฟ้าถัดมาอีก 1 สถานีที่สถานีสยาม เป็นแหล่ง Shopping ใจกลางเมืองที่เป็นทั้งศูนย์การค้าและความบันเทิง โดยสามารถเดินเชื่อมกันตั้งแต่ Siam Paragon ที่มีร้านค้าร้านอาหารหลากหลายแบรนด์, Siam Center, Siam Discovery ห้างสรรพสินค้าสำหรับคนชอบ Design เดินเชื่อมต่อไปได้จนถึง MBK Center เลยค่ะ ทำในตลอดทั้งเส้นตั้งแต่สยามจนถึงเพลินจิตบริเวณถนนสุขุมวิทมีความคึกคักตลอดทั้งวัน จะเห็นนักท่องเที่ยวและชาวต่างชาติจำนวนมากเดินให้เห็นจำนวนพอๆกับคนไทยเลยค่ะ
นอกจากความอุดมสมบูรณ์ที่เป็นแหล่งของกินของใช้แล้ว ทำเลนี้ยังใกล้กับสถานทูตหลากหลายประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ที่ถนนวิทยุ ซึ่งเป็นถนนคู่ขนานกันกับซอยต้นสนนั่นเองค่ะ และที่ตั้งโครงการยังอยู่ใกล้กับบ้านพักของสถานทูตสหรัฐอเมริกา ทำให้เป็นย่านที่มีความปลอดภัยสูง เงียบสงบ และมีความร่มรื่นอยู่พอสมควร การมีสถานทูตอยู่ในย่านก็เป็นอีกสาเหตุหลักๆที่เรามักจะพบเจอชาวต่างชาติอยู่เป็นประจำค่ะ
ด้านการให้บริการด้านสุขภาพเองในทำเลนี้ก็มีโรงพยาบาล International อยู่ไม่ไกลคือโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ นั่นเอง นอกจากนั้นยังมีโรงพยาบาลกรุงไทย, โรงพยาบาลตำรวจ และโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ที่สามารถเดินทางไปได้สะดวกเช่นกันค่ะ
ทำเลนี้ยังเป็นแหล่งรวมสถานศึกษาชื่อดังหลายแห่ง เช่น โรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา, สาธิต ปทุมวันฯ, สาธิต จุฬาฯ , มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร, สาธิต ประสานมิตรฯ และเนื่องจากที่นี่เป็นย่านที่มีชาวต่างชาติมาพักอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากทำให้มีโรงเรียนนานาชาติมาตั้งอยู่หลายแห่ง เช่น Mulberry House International Pre School ที่อยู่ติดกับที่ตั้งโครงการ, RC International School, Topsy Turvy International School, Storytime Preschool Bangkok, NIST International School เป็นต้น
จากโครงการเดินมายังท้ายซอยต้นสนก็จะถึงสวนลุมพินี ซึ่งเป็นสวนสาธารณะแห่งแรกของประเทศไทยตั้งแต่สมัยราชกาลที่ 7 มีพื้นที่ขนาดใหญ่ประมาณ 360 ไร่ เหมือนเป็นปอดใจกลางกรุงเทพฯเลยค่ะ มักจะมีคนมาวิ่ง เดิน ออกกำลังกายภายในสวนอยู่เสมอ
สำหรับการเดินทางโดยไม่ใช้รถ มีความสะดวกในการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าทั้ง 3 เส้น ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้า BTS สายสุขุมวิท สายสีลม และรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สายสีน้ำเงิน โดยโครงการจะอยู่ใกล้กับสถานีชิดลม จากโครงการถ้านั่งไปอีก 1 สถานี จะถึงสถานีสยามที่เป็นแหล่ง Shopping ของวัยรุ่นอีกแห่งนึงค่ะ
การเดินทางด้วยรถไฟฟ้า เราสามารถเดินไปใช้ได้สะดวกมากๆ ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับการเดินทางเอาไว้หลบการจราจรที่ติดขัดและเป็นข้อดีของย่าน CBD ที่มีรถไฟฟ้ามาให้ใช้หลายสาย โดยสถานีที่ใกล้ที่สุดคือสถานีชิดลม มีระยะทางประมาณ 300 เมตรจากด้านหน้าที่ตั้งโครงการ และสถานีเพลินจิตซึ่งมีระยะทางประมาณ 350 เมตร ทั้งสองสถานีเป็นระยะที่เดินได้ ระหว่างทางมีทางเดินเท้าและต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงาตลอดทาง สามารถเดินได้สบายๆ ระยะทางจากรถไฟฟ้าตอนนี้เราวัดถึงขอบที่ดิน ซึ่งเป็นระยะโดยประมาณ ต้องรอดูอีกทีว่าโครงการจะทำทางเข้า-ออกเอาไว้ตรงไหน
สำหรับการเดินทางด้วยรถ ใกล้ๆกับโครงการจะมีทางด่วนคือทางพิเศษเฉลิมมหานครที่สามารถใช้เดินทางออกเมืองขึ้นเหนือไปทางดินแดง หรือลงไปทางบางนาได้ โดยเส้นทางที่จะขึ้นทางพิเศษเฉลิมมหานครไปทางดินแดงสามารถขึ้นได้ 2 จุด คือ
- ด่านพระรามที่สี่ 2 : โดยจากหน้าโครงการเลี้ยวซ้ายออกมายังซอยสารสิน และเลี้ยวเข้าถนนวิทยุเพื่อมาออกยังถนนพระราม 4 และเลี้ยวซ้ายขึ้นทางด่วนได้เลยค่ะ ระยะทางประมาณ 3.1 กิโลเมตร
- ด่านสุขุมวิท : จากซอยต้นสนไม่สามารถออกถนนเพลินจิตแล้วเลี้ยวขวาได้เลย จึงต้องเลี้ยวซ้ายเข้าซอยลัดไปออกถนนวิทยุ (หรือเข้าซอยสารสินเพื่อไปออกถนนวิทยุ) แล้วตรงไปเพื่อเข้าซอยนายเลิศด้านขวามือเพื่อจะกลับออกมาถนนเพลินจิตแล้วขึ้นทางด่วนค่ะ ระยะทางประมาณ 2.9 กิโลเมตร
- ส่วนการลงทางพิเศษเฉลิมมหานครเมื่อมาจากดินแดง สามารถลงได้ 2 ทางเช่นกันค่ะ
- ทางออกเพลินจิตฝั่งเหนือ (ต.1-01) : เมื่อลงทางด่วนมาแล้วจะเข้าที่ถนนสุขุมวิทเพลินจิตเลย แต่ไม่สามารถเลี้ยวซ้ายเข้าซอยต้นสนได้ (เพราะมีเกาะกลางกั้นอยู่) จะต้องเลี้ยวเข้าซอยสมคิดที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับซอยต้นสนก่อน แล้วเข้าซอยชิดลม ตรงเข้ามาที่ถนนหลังสวนแล้วเข้าซอยต้นสนอีกทีค่ะ ระยะทางประมาณ 2.9 กิโลเมตร
- ทางออกเพลินจิตฝั่งใต้ (ต.1-02) : เมื่อลงทางด่วนออกมาแล้วให้เลี้ยวซ้ายเพื่อวิ่งขนานกับทางด่วนเข้าถนนเพลินจิต ทางนี้สามารถเลี้ยวซ้ายเข้าซอยต้นสนได้เลยค่ะ ระยะทางจากทางลงประมาณ 2 กิโลเมตร
สำหรับทางขึ้นทางพิเศษเฉลิมมหานครไปยังบางนาก็สามารถทำได้ 2 เส้นทางค่ะ
- ด่านพระรามที่ 4 : เป็นเส้นทางเดียวกับทางขึ้นทางด่วนไปดินแดงด่านพระรามที่สี่ (2) โดยจากหน้าโครงการเลี้ยวซ้ายออกมายังซอยสารสิน และเลี้ยวเข้าถนนวิทยุเพื่อมาออกยังถนนพระราม 4 จะมีทางเลี้ยวขวาขึ้นทางด่วนได้ค่ะ ระยะทางประมาณ 3.3 กิโลเมตร
- ด่านเพชรบุรี : โดยเข้าถนนวิทยุเพื่อไปออกยังถนนเพชรบุรี แล้วเลี้ยวขวาขึ้นทางด่วน ระยะทางประมาณ 2.9 กิโลเมตร
ทางลงทางพิเศษเฉลิมมหานครเมื่อมาจากบางนา ทำได้ 2 ทางคือ
- ทางออกถนนเพชรบุรี (4A4B) : เมื่อลงจากทางด่วน เข้าถนนเพชรบุรีให้เลี้ยวซ้ายไปเข้าซอยชิดลม ตรงไปเข้าถนนหลังสวนแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอยต้นสนค่ะ ระยะทางประมาณ 2.5 กิโลเมตร
- ทางออก 7 ถนนพระราม 4 : เมื่อลงทางด่วนให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนพระราม 4 แล้วเลี้ยวขวาเข้าถนนวิทยุ เข้าซอยสารสินและเลี้ยวขวาเข้าซอยต้นสนได้เลยค่ะ ทางนี้มีระยะทางประมาณ 3.1 กิโลเมตร ซึ่งจะอยู่ใกล้กับโครงการมากกว่า แต่ถ้าอยากเลี่ยงรถติดที่ถนนพระราม 4 ก็สามารถลงทางออกถนนเพชรบุรีได้เช่นกันค่ะ
เส้นทางแรกจะขอเริ่มจากสถานี BTS ชิดลม เดินไปทางเพลินจิตเพื่อเข้าไปยังซอยต้นสน ที่เป็นที่ตั้งของโครงการ และไปชมบรรยากาศตลอดทั้งซอยต้นสน จากจุด A ไปยังจุด B ตามแผนที่ค่ะ
เริ่มกันที่ BTS สถานีชิดลมนะคะ สถานีชิดลมเป็นสถานีรถไฟฟ้ารหัส E1 บนรถไฟฟ้าสายสีเขียวอ่อนหรือสายสุขุมวิท ย่านใจกลางเมือง
พอลงมาด้านล่างจะมีป้ายบอกทางไปยังอาคารสำนักงาน โรงแรม และห้างสรรพสินค้า ซึ่งเราจะออกไปทางออกที่ 4 กันค่ะ
ทางออก 4 เป็นทางออกที่ใกล้กับซอยต้นสนมากที่สุด อยู่ทางด้านขวามือ มีทางเชื่อมเข้า Mercury Ville ได้เลย ฝั่งตรงข้ามที่ทางออก 5 จะเป็นทางเชื่อมเข้าห้างสรรพสินค้า Central ชิดลม ได้
Mercury Ville เป็นศูนย์การค้าเล็กๆที่ชั้นโพเดียมของอาคาร Mercury Tower ทางที่เราจะไปโครงการในซอยต้นสนจะลงด้านล่างเพื่อเดินเลียบถนนไปเรื่อยๆค่ะ
ทางขึ้น-ลง สถานีรถไฟฟ้า BTS ชิดลม ทางออก 4 ที่ใกล้กับซอยต้นสนมากที่สุด แต่ถ้าใครไม่อยากเดินขึ้นไปก็สามารถเดินผ่านห้าง Mercury ขึ้นบันไดเลื่อนหรือลิฟต์ ไปยังชั้น 3 ที่เป็นทางเชื่อมกับ BTS ได้เช่นกันค่ะ
ทางเดินไปยังซอยต้นสนเป็นทางเดินฟุตปาธขนาดใหญ่ บรรยากาศร่มรื่นมีต้นไม้ใหญ่ตลอดทาง ทำให้เดินได้สบายๆ นอกจากนั้นบรรยากาศแถวนี้ยังเป็นพื้นที่หน้าสำนักงานขนาดใหญ่ เพลินจิตทาวน์เวอร์ และสถานทูตหลากหลายแห่งทำให้มีคนเดินคึกคักตลอดทั้งวัน
บรรยากาศเมื่อมองกลับไปที่สถานีชิดลม จะเห็นว่าข้างทางมีต้นไม้เพิ่มความมีชีวิตชีวาให้กับถนนเพลินจิตนี้เป็นอย่างดีเลยค่ะ
ฝั่งตรงข้ามเป็นห้าง Central ชิดลม ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้า Central แห่งแรกในประเทศไทย(ที่ยังเปิดกิจการอยู่) เปิดให้บริการในปี พ.ศ. 2516 ซึ่งก็ 40 กว่าปีมาแล้วค่ะ
ห้าง Central ชิดลม มีทางเดินเชื่อมต่อกับ Central ชิดลมทาวน์เวอร์ และสามารถเชื่อมต่อไปถึง Central Embassy ได้เลยค่ะ
เมื่อมองไปทางเพลินจิต จะเห็นห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ Design แปลกใหม่นั่นก็คือ Central Embassy นั่นเองค่ะ ซึ่งสามารถเดินเชื่อมต่อไปยังสถานีรถไฟฟ้า BTS เพลินจิตได้เลย
เรามาดูทางเดินไปยังซอยต้นสนกันต่อนะคะ เมื่อเดินมาจาก BTS ชิดลมประมาณ 200 เมตรจะเห็นทางเข้าซอยด้านขวามือ ด้านข้างอาคารเพลินจิต ทาวน์เวอร์
ทางเข้าซอยต้นสน จะสามารถเลี้ยวซ้ายเข้าซอยจากถนนเพลินจิตได้ แต่รถที่ออกจากซอยจะต้องเลี้ยวซ้ายอย่างเดียวนะคะ เพราะมีเกาะกลางถนนตลอดทั้งแนว ด้านหน้าซอยจะมีอาคาร Tonson Tower อยู่บริเวณหัวมุมค่ะ
ถนนภายในซอยต้นสนเป็นถนน 2 Way มีรถเข้า-ออกอยู่บ้างแต่ไม่หนาแน่นมากนัก ทำให้มีบรรยากาศค่อนข้างสงบ เหมาะกับการอยู่อาศัยค่ะ
ถนนภายในมีทางเดินเท้าตลอดทั้งซอยทำให้เดินสะดวก และมีความปลอดภัยค่ะ
ภายในซอยมีต้นไม้ใหญ่อยู่เป็นระยะๆช่วยให้ร่มเงาเป็นถนนที่ค่อนข้างร่มรื่นทีเดียว
ถัดจาก Tonson Tower จะเจอกับโรงเรียน Mulberry House International Pre School ก่อนถึงที่ตั้งโครงการค่ะ
โรงเรียน Mulberry House International Pre School จะอยู่ติดกับโครงการทางด้านทิศเหนือ อาจจะทำให้ในซอยมีความคึกคักมากขึ้นเล็กน้อยในช่วงเวลาก่อนและหลังเลิกเรียน
เดินเข้ามาจากปากซอยประมาณ 130 เมตร จะเจอกับที่ตั้งโครงการอยู่ทางซ้ายมือ
ด้านหน้าที่ตั้งโครงการจะมีทางน้ำผ่านตามแบบในภาพ ตอนนี้เรายังไม่เห็นแบบว่าทางเข้าจะทำออกมาแบบไหน คาดว่าน่าจะต้องทำสะพานทางเข้าเพิ่มเติมค่ะ
สภาพแวดล้อมรอบๆที่ตั้งโครงการเป็นอาคารสูงรอบด้าน จะมีที่เป็นอาคาร Low Rise บางทิศ เช่น ทิศเหนือที่ติดกับโรงเรียน Mulberry House International Pre School สูงประมาณ 2 ชั้น และฝั่งตรงข้ามทางทิศตะวันตกเป็นอพาร์ทเม้นท์ให้เช่า ความสูงประมาณ 4 ชั้น และทิศตะวันตกเฉียงใต้เป็นบ้านพักอาศัยสูงประมาณ 2 ชั้น ค่ะ
- ทิศเหนือ ติดกับ Mulberry House International Pre School
- ทิศตะวันออก ติดกับ Embassy Place Apartments, 98 Wireless
- ทิศใต้ ติดกับ Bliston Suwan Park View Hotel & Serviced Residence
- ทิศตะวันตก ติดกับ ซอยต้นสน, Piya Place
ภาพ Perspective โครงการ Tonson One Residence ค่ะ เป็นคอนโดสูง High Rise สูง 29 ชั้น 80 ยูนิต พร้อมลิฟต์ส่วนตัว ราคาเริ่มต้น 20 ล้านบาทหรือประมาณ ตารางเมตรละ 350,000 บาทค่ะ
บรรยากาศด้านหน้าโครงการปัจจุบันก็มีความร่มรื่นมีต้นไม้ใหญ่อยู่เยอะทีเดียวก็คาดหวังว่าทางโครงการจะคงบรรยากาศภายในซอยแบบเดิมไว้ ยังไงก็ต้องรอดูกันต่อไปค่ะ
ฝั่งตรงข้ามเป็นอพาร์ทเม้นท์ Piya Place สำหรับเช่า การออกแบบเป็นสถาปัตยกรรมแนวร่วมสมัย บรรยากาศภายในเงียบสงบ
ด้านข้างที่ตั้งโครงการทางทิศใต้ ติดกับ Bliston Suwan Park View Hotel
Bliston Suwan Park View Hotel เป็นโรงแรมและ Serviced Apartment สูง 20 กว่าชั้นค่ะ
ภายในซอยมีทางเดินเท้าเลียบทางน้ำมีไม้พุ่มและต้นไม้ใหญ่ตลอดทั้งแนวฝั่งซ้ายส่วนใหญ่เป็นที่ตั้งของสถานทูตทำให้มีต้นไม้ใหญ่เยอะบรรยากาศเงียบสงบและมีความปลอดภัยสูง ฝั่งขวามือช่วงต้นซอยส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัยค่ะ
ระหว่างทางเดินก็จะเห็นร้านประเภทสปา ร้านอาหารอยู่บ้างประปรายแต่ไม่หนาแน่นเท่าซอยหลังสวนและถนนวิทยุ
ถัดมาอีกหน่อยจะเจอกับร้านอาหาร Tummy Yummy ซึ่งอยู่ประมาณกลางซอยต้นสน เปิดประมาณ 11.00-14.30 และ 17.30-22.00 น.
ตัวร้านจะมีลักษณะเป็นบ้าน และมีสวนด้านหลัง เน้นอาหารไทยทุกรูปแบบทั้งอาหารไทยรสชาติดั้งเดิม, ฟิวชั่น และอาหารไทยอีสาน และมีเหล้า ไวน์ เบียร์ ค็อกเทล ให้บริการค่ะ
เดินเข้ามาอีกจะเจอ The Pine Crest เป็นอพาร์ตเมนท์สูง 7 ชั้น ด้านในจะเน้นขนาดเป็นห้องใหญ่ ตั้งแต่ 3 ห้องนอนขึ้นไป ถือว่าเป็นอพาร์ตเมนท์ที่มี Design ทีเดียว
เดินมาเรื่อยๆก็จะผ่านสถานทูตเนเธอร์แลนด์อยู่ทางซ้ายมือค่ะ
ถัดมาในส่วนท้ายซอยก็ยังมีบรรยากาศทางเดินเงียบสงบ ร่มรื่นเหมือนกับช่วงต้นซอย
เมื่อตรงไปเรื่อยๆจะเจอกับพื้นที่ก่อสร้างหลังสวนวิลเลจ มีซอยที่ทะลุไปถึงซอยหลังสวนได้ค่ะ แต่ช่วงนี้ได้มีการปิดซอย การเดินทางจากถนนหลังสวนมาซอยต้นสนจึงต้องไปออกซอยสารสินก่อนค่ะ
เมื่อโครงการหลังสวนวิลเลจสร้างเสร็จแล้ว บริเวณนี้จะเป็นอีกแหล่งความอุดมสมบูรณ์อีกแห่งที่อยู่ใกล้กับโครงการค่ะ เพราะบริเวณด้านล่างนั้นเขาได้มีการทำเป็น Community Mall ค่อนข้างใหญ่ แต่จะมีทางเข้าหลักอยู่ทางถนนหลังสวนค่ะ
ด้านหลังมีทางเข้าอาคารสินธร มีร้านอาหาร Glasshouse บรรยากาศสบายๆ เหมาะจะพาผู้ใหญ่ไปนั่งรับประทานอาหาร มีเพลงแจ๊สบรรเลงให้ฟังด้วยค่ะ และร้านอาหารไทยอย่าง เสน่ห์จันทน์ ร้านอาหารไทยแท้ภายในประดับตกแต่งด้วยงานศิลป์หลากหลาย
บรรยากาศอาคารสินธร ที่เป็นอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ตัวตึกหันหน้าเข้าหาถนนวิทยุ มีอาคารจอดรถอยู่ด้านหลังสูงประมาณสิบชั้น
อาคารสินธรนั้นสามารถเข้า-ออกได้ที่ซอยต้นสน เช่นกันค่ะ
ทางเดินเท้าท้ายซอยมีต้นไม้พุ่มตกแต่งสวยงามด้านหน้าโครงการ Sindhorn Tonson
ท้ายซอยต้นสนเชื่อมต่อกับซอยสารสิน ฝั่งตรงข้ามถนนเป็นพื้นที่สวนลุมพินีสวนสาธารณะขนาดใหญ่ สามารถเดินจากโครงการออกมาวิ่งที่สวนได้เลยค่ะ ด้านขวามือเป็นทางไปถนนราชดำริ และทางด้านซ้ายมือเป็นทางไปเชื่อมต่อกับถนนวิทยุ
บรรยากาศซอยสารสินที่มาจากถนนราชดำริ เป็นถนนข้างละ 3 เลน มีเกาะกลางปลูกต้นไม้ใหญ่บรรยากาศดีไม่แห้งแล้งตลอดทั้งซอย
บรรยากาศทางเดินไปยังถนนวิทยุ ซึ่งจะเป็นเส้นทางที่เราจะไปต่อกันค่ะ
เส้นทางที่สองต่อจากจุด B ที่ท้ายซอยต้นสนออกมายังซอยสารสิน เดินไปทางถนนวิทยุ เพื่อดูบรรยากาศความร่มรื่น เป็นที่ตั้งของสถานทูตหลากหลายประเทศที่ถนนวิทยุ เดินไปออกที่ต้นซอยบริเวณห้างเซ็นทรัล เอ็มบาสซีค่ะ
ในซอยสารสินก็จะมีทางเดินตลอดทั้งเส้นเช่นกันค่ะ โดยจะมีป้ายรถประจำทางอยู่ไม่ไกลจากท้ายซอยต้นสน
เดินมาเรื่อยๆจะมีทางม้าลายสำหรับข้ามไปฝั่งสวนลุมพินีค่ะ
เดินมาอีกหน่อยจะเจอกับอาคารเคี่ยนหงวน ทางด้านซ้ายมือ มีร้านจักรยาน Culture Cycliste อยู่ด้วยค่ะ
ถัดมาอีกหน่อยจะเป็นแยกถนนวิทยุ ทางขวามือไปเชื่อมต่อกับถนนพระราม 4 และทางซ้ายมือไปเชื่อมต่อกับถนนเพลินจิตค่ะ
บรรยากาศบนถนนวิทยุเมื่อมองไปยังฝั่งเพลินจิต จะเห็นอาคารสำนักงาน โรงแรม และอาคารสูงอยู่มากมาย บนถนนวิทยุเองก็จะมีร้านอาหารเยอะกว่าซอยต้นสนอยู่เยอะทีเดียวค่ะ สำหรับคนที่อยู่ในย่านนี้ก็แวะมาทานข้าวกันบนถนนวิทยุกันได้สะดวก จะมีอะไรบ้างเดี๋ยวเราพาไปชมกันค่ะ
บรรยากาศบนถนนวิทยุไปยังฝั่งถนนพระราม 4 ฝั่งนี้จะมีสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นตั้งอยู่ค่ะ
เราจะพามาเดินบนถนนวิทยุมุ่งหน้าไปยังฝั่งเพลินจิตกันนะคะ บนถนนวิทยุเองก็จะมีทางเดินตลอดทั้งเส้น มีคนเดินอยู่บ้างตลอดทั้งวัน
ฝั่งตรงข้ามเป็นอาคาร Royal Residence Park ภายในมีร้านอาหารไทยโอชา (Osha) และสปา Hansar
Royal Residence Park เป็นอาคารพักอาศัยสูง ประมาณ 15 ชั้น ตั้งอยู่ด้านหน้าบริเวณหัวมุมซอยร่วมฤดี
ซอยร่วมฤดีเป็นซอยที่ขนานกับถนนวิทยุ ภายในมีร่วมฤดีวิลเลจ (Ruam Rudee Village) ที่มีร้านอาหารมากมายมาแวะทานกันได้ค่ะ ร้านที่เป็นที่นิยมเช่น Coffee Beans by Dao, Witch’s Oyster Bar&Restaurant, Revitalive Cafe & Thai Massage, ปูจ๋าป้าศรี เป็นต้น
ถนนวิทยุเป็นถนนที่เป็นที่ตั้งของสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงศุลถึง 22 แห่ง ระหว่างทางมีบรรยากาศร่มรื่น มีเกาะกลางที่มีต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงากับถนนเกือบตลอดทั้งเส้นเลยค่ะ
มองไปยังฝั่งตรงข้ามก็จะเห็นบรรยากาศร่มรื่นบนถนนวิทยุ
เดินมาอีกนิดจะเจอกับอาคารสินธร เป็นอาคารสำนักงานที่มีร้านค้าร้าน ร้านอาหารรวมถึงธนาคารอยู่ด้านใน ด้านหน้ามีร้านอาหารที่มีชื่อหลากหลายสามารถแวะทานกันได้สะดวก เราไปดูกันค่ะว่ามีอะไรบ้าง
ร้านกาแฟ Starbucks 2 ชั้น มีทั้ง Indoor และ Outdoor บรรยากาศสบายๆนั่งมองวิวถนนวิทยุได้เลยค่ะ
ถัดมาจะมีร้านเนื้อ Arno’s , CigarOne, Milano Cafe, ร้านอาหาร Miso อยู่เรียงๆกันเลย
เดินต่อมาอีกหน่อย สังเกตว่าทั้งสองข้างทางจะเป็นพื้นที่ของสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา มีรั้วสูงกั้นความเป็นส่วนตัวและบริเวณทางเดิน มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย
ฝั่งตรงข้ามเรามักจะเห็นผู้คนมาต่อแถวขอวีซ่าสหรัฐอเมริกากันเป็นประจำค่ะ ซึ่งจะมายืนรอกันตั้งแต่เช้ามากๆ
และเนื่องจากเป็นสถานทูตภายในส่วนใหญ่ก็เป็นพื้นที่สีเขียวทำให้บริเวณนี้ร่มรื่นมากขึ้นรวมถึงมีอากาศที่ค่อนข้างเย็นกว่าบริเวณอื่นด้วยค่ะ
ฝั่งตรงข้ามเป็นอาคารสำนักงาน GPF Tower ด้านในมีร้านค้าและร้านอาหาร
GPF Tower เป็นอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ สูง 16-18 ชั้น มีพื้นที่ให้เช่ากว่า 27,000 ตารางเมตร
อย่างที่ทราบกันดีว่าถนนวิทยุนั้นนอกจากจะมีสถานเอกอัครราชทูตหลายแห่งแล้วยังมีโรงแรม ที่พักอาศัยและอาคารสำนักงานหลากหลายแห่ง เมื่อเดินถัดมาอีกหน่อยก็จะเจอกับ Oriental Residence Bangkok โรงแรมระดับ Luxury มีห้องอาหาร Cafe’ Claire อยู่ภายในค่ะ
ฝั่งตรงข้ามเป็นพื้นที่ All Seasons Place ซึ่งเป็นกลุ่มอาคารสำนักงานขนาดใหญ่เราจะแวะพาไปชมกันสักเล็กน้อยค่ะ
ภายใน All Seasons Place ประกอบด้วยอาคาร ซีอาร์ซี ทาวเวอร์ เอ็ม.ไทย ทาวเวอร์ และ แคปปิตอล ทาวเวอร์ มีพื้นที่สำนักงานให้เช่ารวม 123,000 ตารางเมตร
ภายในด้านล่างเป็นส่วนของ Plaza มีร้านค้า ร้านอาหาร และธนาคาร ร้านอาหารด้านในที่นิยมกันก็จะมีร้าน LIU, Sushi Cyu & Carnival Yakiniku, Kisara, เสวย, รส’นิยม, Pomodoro ,Have a ซี๊ดดด และอีกมากมายเลยค่ะ
บรรยากาศถนนด้านหน้า All Seasons Place ฝั่งตรงข้ามจะเป็นอาคาร 208 Wireless Road
ด้านหน้ามีร้าน The Coffee Club มีที่จอดรถและที่จอดจักรยานมาใช้บริการได้สะดวกค่ะ
บรรยากาศด้านหน้าร้าน The Coffee Club มีที่นั่งทั้ง Indoor และ Out Door และนอกจากกาแฟแล้วยังมีอาหารให้บริการด้วย
เดินมาเรื่อยๆ บริเวณกลางซอยเกือบต้นซอยบนถนนวิทยุ พื้นที่ด้านซ้ายมือจะเป็นพื้นที่สีเขียวมองจากข้างนอกเข้าไปเป็นสวน ตรงนี้เป็นพื้นที่บ้านพักของสถานเอกอัครราชทูตอเมริกานั่นเองค่ะ
บรรยากาศด้านหน้าประตูบ้านพักของสถานเอกอัครราชทูต
มองไปฝั่งตรงข้ามเราจะเห็นอาคารสูงอยู่ 3 อาคารนั้นก็คือ โรงแรม The Athenee Hotel, a Luxury Collection Hotel, Bangkok โรงแรมระดับ 5 ดาวใกล้สถานีรถไฟฟ้าเพลินจิต อาคาร Athenee Tower และอาคาร The Okura Prestige Bangkok อาคารสำนักงานติดรถไฟฟ้าสถานีเพลินจิตที่ได้ LEED (Leadership in Energy and Environmental Design ) ซึ่งเป็นมาตรฐานอาคารอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อมจากสหรัฐอเมริกา ในระดับ Platinum เลยค่ะ
เดินมาถึงช่วงต้นซอยกันแล้ว บนถนนยังมีบรรยากาศร่มรื่นเหมือนเดิมค่ะ
ด้านซ้ายมือเราจะผ่าน 98 Wireless คอนโดมิเนียมระดับ Ultimate Luxury ที่มีราคาต่อ ตารางเมตรสูงที่สุดในประเทศไทย
ถัดมาจะเจอกับโรงแรมGrande Centre Point Ploenchit
ด้านหน้าทางเข้าตกแต่งสไตล์ไทย ภายในมีสปา และห้องอาหาร Piu มีบุฟเฟ่ต์อาหารนานาชาติในราคาไม่แรง ให้บริการ
ด้านหน้ามีร้านอาหาร Blue Spice เดินผ่านด้านหน้าแล้วสนใจก็เดินเข้าไปทานได้เลยค่ะ
บริเวณต้นซอยติดกับถนนเพลินจิตด้านซ้ายมือเป็นอาคาร Krungsri Ploenchit Tower อาคารสำนักงานใหญ่ของธนาคารกรุงศรีอยุธยา ตรงข้ามกับ Central Embassy
บนทางเดินมีบริการให้ยืมจักรยานสาธารณะของกรุงเทพมหานคร โดยพื้นที่ย่านนี้เป็นบริเวณนำร่องของโครงการ มีอัตราค่าบริการฟรี 15 นาที 15 นาทีถึง 1 ชั่วโมง 10 บาท ชั่วโมงที่ 1-3 20 บาท ชั่วโมงที่ 3-5 ชั่วโมงละ 40 บาทและขึ้นไปทีละ 20 บาท เกิน 8 ชั่วโมง 100 บาทค่ะ สำหรับคนที่อยู่แถวนี้แล้วต้องการเดินทางไม่ไกลนักก็มาใช้บริการได้
เดินมาถึงแยกจะเห็นสถานีเพลินจิตอยู่ทางด้านซ้ายมือค่ะ เราจะพาทุกคนขึ้นสะพานลอยไปเชื่อมต่อกับห้าง Central Embassy กันนะคะ
บรรยากาศถนนวิทยุมองไปยังฝั่งสารสินที่เราเดินผ่านกันมาค่ะ
บรรยากาศบนถนนวิทยุฝั่งเพชรบุรี ด้านขวามือเป็น Wave Place Building มี HomePro อยู่ชั้นล่าง และทางฝั่งซ้ายมือคือห้าง Central Embassy ค่ะ
พามาชมบรรยากาศถนนเพลินจิตด้านหน้าห้างสรรพสินค้า Central Embrassy
เส้นทางที่สาม จะพาทุกคนเดินทางเชื่อมระหว่างห้างเซ็นทรัล เอ็มบาสซีที่อยู่เชื่อมต่อกับสถานีรถไฟฟ้า BTS เพลินจิต ไปยังห้างเซ็นทรัลชิดลมที่อยู่บริเวณสถานีรถไฟฟ้า BTS ชิดลม โดยที่สามารถเดินผ่านห้างเป็น Indoor ปรับอากาศทั้งหมดโดยไม่ต้องเดินริมถนนด้านล่าง และหลังจากถึงสถานีชิดลมจะพาเดินไปชมบรรยากาศของถนนหลังสวนไปจนท้ายซอยที่เชื่อมต่อกับซอยสารสินกันค่ะ
เข้าประตูทางเชื่อมสถานีรถไฟฟ้าเพลินจิต กับห้าง Central Embassy ที่ชั้น 1
Central Embassy มีความโดดเด่นด้านสถาปัตยกรรม รูปทรงคล้ายกับสัญลักษณ์ Infinity ด้านบนเป็นโรงแรม Park Hyatt Bangkok ซึ่งเป็นโรงแรมระดับ Top ของกลุ่ม Hyatt ค่ะ
ภายในมีร้านค้าเจาะกลุ่มลูกค้าระดับบน เช่น Bottega Veneta, Chanel, Gucci, Hermes, Mui Mui, Prada เป็นต้น นอกจากนั้นก็ยังมีร้านอาหารอีกมากมาย ส่วนใหญ่อยู่ที่ชั้น LG เป็น Foodcourt และชั้น 5 ค่ะ
ทางเชื่อมระหว่างห้างสรรพสินค้า Central Embassy ที่ชั้น 2 และอาคาร Central ชิดลม ทาวน์เวอร์
ทางเดินมองออกมาเห็นเส้นทางรถไฟฟ้า อาคาร Tonson Tower, Phloen Chit Building, Mercury Tower และซอยต้นสนได้
ด้านล่างเป็นชั้นที่ขายของแบรนด์ไทย ให้เดินเลือก Shopping ระหว่างทางไปเพลินๆค่ะ
บรรยากาศภายในพื้นที่อาคาร Central ชิดลม ทาวน์เวอร์
ส่วนทางเชื่อมห้างสรรพสินค้า Central ชิดลม จะมีป้ายบอกอยู่ค่ะ เดินมาจาก Central Embassy ไม่ไกลเลย
ถึงห้าง Central ชิดลมแล้วค่ะ ออกมายังชั้น 2 ของห้าง และจากภายในห้าง Central ชิดลม ก็สามารถเดินเชื่อมต่อกับสถานีรถไฟฟ้า BTS ชิดลมได้เลย ( BTS เชื่อมกับ Central ชิดลมที่ชั้น 3 )
ออกมาที่สถานีชิดลม จากตัวสถานีทางออกอีกฝั่งหนึ่งสามารถเดินบน Sky Walk ผ่าน Central World ไปจนถึง Siam Paragon, Siam Center, Siam Discovery และจนถึงห้างมาบุญครองได้เลยค่ะ แต่วันนี้เราจะพาไปดูบรรยากาศบนถนนหลังสวนกันก่อนค่ะ
ถนนหลังสวนเป็นถนนที่เดินรถทางเดียวนะคะ มุ่งหน้าไปยังซอยสารสิน เมื่ออยู่บนสถานีรถไฟฟ้ามองเข้าไปที่ถนนหลังสวนจะเห็นโรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัยอยู่ตรงหัวมุมเลยค่ะ
โรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัยเป็นโรงเรียนเอกชนคาทอลิกขนาดใหญ่ ที่เป็นโรงเรียนหญิงล้วน แต่มีการเปิดรับเด็กผู้ชายในชั้นอนุบาลจนถึงชั้นประถมปีที่ 2 ค่ะ ซึ่งเป็นโรงเรียนที่มีประวัติยาวนาน พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล และ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงเคยเข้าศึกษาในระดับอนุบาลด้วยค่ะ
ต้นซอยจะมีจุดสังเกตที่โดดเด่นนั่นก็คือ Plaza ที่มี Facade สีแดงนั่นก็คือ The Mercury Ville เป็นศูนย์การค้าเล็กๆด้านล่าง Mercury Tower
ภายในมีร้านอาหารหลายร้าน มีบุฟเฟต์ชาบูและปิ้งย่าง รวมถึงร้านของหวานให้เลือกชิมค่ะ นอกจากนั้นด้านล่างยังมีร้านสะดวกซื้ออย่าง Lawson 108 ด้วย
ถัดมาก็เป็นอาคาร Unico House ด้านในเป็นตึกสูงกว่าสิบชั้น และด้านหน้าเป็นตึกสูง 5 ชั้นมีการ Design กรอบอาคารด้านหน้าให้ดูสวยงาม ชั้นล่างมีร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven และร้านตัดเสื้อสูท สามารถจอดรถด้านในได้ค่ะ
ถัดมาเป็นพื้นที่ดินที่มีการซื้อขายที่แพงที่สุดในปี 2561 อย่างที่ได้กล่าวไปในตอนต้นค่ะ
ด้านข้าง มี Community Mall ชื่อว่า The Portico ความสูง 5 ชั้น
ภายในมีร้าน Lemon Farm ขายของ Organic และร้านนั่งชิล The Beer Bridge ช่วงค่ำมักจะเห็นชาวต่างชาติมานั่งทานอาหารดื่มเบียร์กันที่นี่ค่ะ
ถัดมาจะเจอกับร้านขนมหวานเล็กๆสูง 2 ชั้นติดกับร้าน Starbucks
Starbucks สาขาหลังสวนนี้เป็นสาขาที่หลายคนยกให้เป็นสาขาที่สวยที่สุดในประเทศไทยแห่งนึงเลยค่ะ โดยที่นี่ยังเป็น Community Coffee Store (ร้านกาแฟเพื่อชุมชน) แห่งแรกในเอเชียด้วย (โดยจะมอบรายได้ 10 บาทจากการจำหน่ายเครื่องดื่มสตาร์บัคส์ทุกแก้ว ให้แก่ชุมชนชาวไร่กาแฟทางภาคเหนือของประเทศไทย)
บรรยากาศภายในเป็นการดัดแปลงบ้านไม้เก่ามาทำเป็นร้าน มีทั้งบริเวณที่นั่ง Indoor และ Outdoor ตกแต่งด้วยบรรยากาศสงบ ร่มรื่นให้ความรู้สึกอบอุ่นเหมือนดื่มกาแฟอยู่ในบ้าน
ด้านหน้าเองก็ตกแต่งด้วยไม้พุ่มสวยงามเพิ่มทัศนียภาพที่น่ามองให้กับถนนหลังสวนอีกจุดนึงค่ะ
ส่วนใหญ่อาคารบนถนนหลังสวนจะเป็นอาคารพักอาศัย อพาร์ทเม้นท์ และโรงแรมเป็นหลัก จะมีอาคารสำนักงานอยู่บ้างเล็กน้อย
เดินถัดมาอีกหน่อยจะเจอกับ Cape House Hotel
ด้านล่างมีร้านอาหารอิตาเลียน ชื่อ No.43 อาหารอร่อยและบริการดีค่ะ หากสั่งเกตดูแล้วในซอยต้นสน ถนนวิทยุ หรือถนนหลังสวนมักจะมีอาหารอิตาเลียนเยอะเลยนะคะ สำหรับคนที่ชอบคงจะทานได้ไม่เบื่อเลย
เข้ามาประมาณกลางซอยจะเห็นกลุ่มอาคารสูงจะมีอาคาร CIMB Thai เป็นอาคารสำนักงาน และอาคารด้านหลังเป็นอาคารที่พักอาศัยค่ะ
อาคารพักอาศัยเป็นประเภทคอนโดมิเนียมและอพาร์ทเม้นท์ โดยจะมีโครงการ Q Langsuan, Grand Langsuan, Langsuan Ville เป็นต้น
ติดกับซอยหลังสวน 1 มีร้านอาหารอิตาเลียนอีกร้านชื่อว่า The Ninth Cafe
มีเมนูหลากหลาย ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ บางคนก็แวะมาดื่มกาแฟนั่งอ่านหนังสือชิลๆค่ะ
ถัดมาเป็นโรงแรม Centre Point Hotel Chidlom มีร้านอาหาร BlueSpice & Herbs อยู่ด้านในค่ะ
ภายในมีสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างสระว่ายน้ำระบบเกลือในร่ม และห้องออกกำลังกายที่เปิด 24 ชั่วโมง มีสโมสรสำหรับเด็ก ห้องสมุด และห้องซาวน่าค่ะ
ฝั่งตรงข้ามเป็น Mayfair Bangkok – Marriott Executive Apartments ด้านล่างเป็นร้านอาหาร Le Boeuf The Steak & Fries Bistro
เป็นร้านสเต็กชั้นดีที่ตอนนี้จัดโปรโมชัน 1 แถม 1 ด้วยค่ะ บรรยากาศร้านโปร่งด้วยกระจกรอบด้านตกแต่งร้านด้วยโทนสีขาวแดง มองเห็นวิวถนนหลังสวน
บรรยากาศในช่วงท้ายของซอยไม่ร่มรื่นเท่ากับซอยต้นสน แต่ก็ยังมีต้นไม้ใหญ่อยู่ริมสองข้างทางบ้างเป็นระยะๆ
ระหว่างทางก็ยังมีร้านอาหารเก๋ๆน่านั่งอยู่ค่ะ อย่างร้านนี้ The Hen and The Egg ภายในมีสวนปลูกผักอยู่ด้านหลังร้าน นั่งทานได้ทั้งวันเพราะเปิดตั้งแต่ 7 โมงเช้าถึง 4 ทุ่มเลยค่ะ
ด้านหลังซอยเป็นพื้นที่ของสินธรวิลเลจ มีอาคารพักอาศัยหลายอาคารแต่ที่สำคัญคือด้านล่างมี Community Mall เมื่อสร้างเสร็จแล้วคงเป็นแหล่งความอุดมสมบูรณ์อีกแห่งใกล้กับโครงการค่ะ
ท้ายซอยมีคลีนิคสหแพทย์ รักษาโรคปวดทุกชนิดอยู่ค่ะ เดินไปอีกหน่อยก็จะถึงท้ายซอยแล้ว
ท้ายซอยของถนนหลังสวนเชื่อมต่อกับซอยสารสิน ฝั่งตรงข้ามเป็นสวนลุมพินี จากตรงนี้สามารถออกไปเชื่อมกับซอยต้นสน และถนนวิทยุได้ค่ะ
สรุปภาพรวมทำเล
ทำเลโครงการ Tonson One Residence ตั้งอยู่ในซอยต้นสน ฝั่งที่ใกล้กับถนนเพลินจิต ซึ่งถือว่าทำเลอยู่ในย่าน CBD ที่ใกล้กับ แหล่งช้อปปิ้ง โรงแรม อาคารสำนักงานระดับบน อีกทั้งยังมีสถานทูตทำให้พื้นที่โดยรอบมีความร่มรื่นและความปลอดภัย และใกล้กับสวนสาธารณะขนาดใหญ่อย่าง สวนลุมพินี ให้เราได้ใช้พักผ่อนหย่อนใจ ด้วยลักษณะทางกายภาพตามที่กล่าวมาจึงทำให้โครงการนี้เป็นแหล่งรวมของโครงการระดับไฮเอนด์ และที่น่าสนใจคือทำเลนี้แทบจะไม่สามารถหาที่ดินแบบ Freehold มาพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม High Rise ได้ง่ายๆ ซึ่งตรงนี้ถือว่าเป็นจุดเด่นของโครงการเลยทีเดียว อีกทั้งที่ตั้งโครงการยังอยู่ช่วงต้นซอยใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าชิดลม และห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆอย่าง Central Embassy และ Central ชิดลม ในระยะที่เดินได้สบาย นอกจากนั้นยังมีร้านอาหารมากมายบนถนนวิทยุและถนนหลังสวนที่เป็นถนนขนานกับซอยต้นสน ทำให้หาของกินง่าย และในอนาคตเมื่อโปรเจคใหญ่อย่างสินธรวิลเลจสร้างเสร็จก็จะช่วยเพิ่มความอุดมสมบูรณ์มากขึ้นไปอีกค่ะ บรรยากาศและสภาพแวดล้อมรอบโครงการค่อนข้างสงบ มีความร่มรื่น เนื่องจากใกล้กับสถานเอกอัครราชทูตหลายแห่ง ด้านหลังซอยสามารถเดินไปยังสวนลุมพินี ซึ่งเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่คนนิยมมาออกกำลังกาย โดยรวมแล้วทำเลนี้จึงเหมาะกับการอยู่อาศัยทีเดียวค่ะ
นี่คือรีวิวทำเลของคอนโด Tonson One Residence โครงการใหม่ในย่านใจกลางเมืองจาก บริษัท แอสเซท ไฟว์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ร่วมทุน กับ บริษัท แค๊ปสโตน แอสเสท จำกัด สำหรับรีวิวฉบับเต็มที่จะเจาะลึกรายละเอียดของตัวโครงการอดใจรอกันอีกหน่อยนะคะ เมื่อสำนักงานขายเสร็จเรียบร้อยและมีรายละเอียดของโครงการที่ครบถ้วน ทางทีมงานจะเข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิวตัวเต็มอีกทีเพื่อทำเป็นรีวิวฉบับเต็มให้อ่านกันค่ะ
ถ้าเห็นว่าบทความนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้หน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจทำบทความถัดๆไปค่ะ ^^