รีวิวฉบับที่ 1421 … สวัสดีค่ะ วันนี้จะพาไปชมทำเลโครงการ Niche Mono สุขุมวิท-แบริ่ง คอนโดตัวใหม่ที่เป็นโปรเจกต์ร่วมทุนครั้งแรกจากเสนา – ฮันคิว มาพร้อมกับแนวความคิด “Geo Fit+” การสร้างที่อยู่อาศัยตามแบบฉบับคนญี่ปุ่น และจัดเต็มพื้นที่ส่วนกลางมาให้ ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่สุขุมวิท ใกล้ BTS แบริ่งระยะประมาณ 250 เมตร เราไปดูพร้อมๆกันเลยค่ะ 

รายละเอียดโครงการเบื้องต้น

  • ชื่อโครงการ  :  Niche Mono Sukhumvit-Bearing (นิช โมโน สุขมุวิท-แบริ่ง)
  • ผู้พัฒนาโครงการ : บริษัทเสนา – ฮันคิว 2 จำกัด
  • ประเภทโครงการ : คอนโดมิเนียม High Rise สูง 34 ชั้น
  • พื้นที่โครงการ : 4-3-59.8 ไร่
  • จำนวนยูนิต :  1,275 ยูนิต พร้อมพื้นที่ร้านค้า 7-eleven และ Tom & Toms Flagship Coffee Shop
  • จำนวนที่จอดรถโดยประมาณ : 40%
  • คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จ : ไตรมาส 1 ปี 2563
  • ราคา : เริ่มต้น 2.3 ล้านบาท

พิกัดทำเลที่ตั้งโครงการ GoogleMaps : 13.658001, 100.600161

แผนที่จากทางโครงการค่ะ

แบริ่ง อีกหนึ่งทำเลที่มีศักยภาพและพร้อมจะเติบโตเป็นศูนย์กลางธุรกิจแห่งใหม่ของย่านสุขุมวิทตอนปลาย เนื่องจากการเติบโตย่านสุขุมวิทตอนต้นจนถึงสุขุมวิทตอนกลางเริ่มอิ่มตัว ทำให้การขยายพื้นที่ทางธุรกิจเริ่มมีการขยับออกมาย่านสุขุมวิทตอนปลายมากขึ้น ประกอบกับบริเวณนี้ มี infrastructure รองรับการเติบโตอย่างสมบูรณ์ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า จึงมิใช่เรื่องแปลกที่เห็นหลายโปรเจกต์กำลังจะผุดขึ้น เพื่อเป็นการตอกย้ำศักยภาพพื้นที่บริเวณ “แบริ่ง” น่าจับตามองในอนาคต 

สำหรับทำเลนี้ความเจริญส่วนใหญ่จะเกาะกลุ่มกันอยู่บนถนนสุขุมวิทโดยจะเป็นตลาด Hypermarket และโรงเรียนนานาชาติ  ส่วนสถานที่ช้อปปิ้ง กินเที่ยวที่ใกล้ๆหน่อยก็จะมี อิมพีเรียล สำโรง ถัดไปบริเวณใกล้เคียงจะอยู่บนถนนบางนาคือ เซ็นทรัลบางนา  , บิ๊กซี , Mega บางนา โดยอีกไม่นานจะมีการลงทุนศูนย์การค้าขนาดใหญ่บนพื้นที่กว่า 100 ไร่ บริเวณตรงข้าม ไบเทค บางนา นั่นก็คือ Bangkok mall ของกลุ่ม The mall  ซึ่งถ้าเปิดตัวจะทำให้ย่านนี้มีความคึกคักและมีสีสันขึ้นไปอีก แต่ก็ต้องทำใจแลกมากับการจราจรที่จะต้องติดขัดเพิ่มขึ้นอีกเช่นกัน ห่างไปอีกหน่อยบนถนนศรีนครินทร์จะมีศูนย์การค้า Seacon Square และ Paradise Park เป็นศูนย์การค้าใหญ่เป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับการมาเดินเล่นค่ะ  ในย่านนี้มีทั้งหมู่บ้านที่มีอยู่เดิม อีกทั้งโครงการแนวราบและแนวสูงที่กำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ที่มีราคาตามท้องตลาดยังพอที่จะจับต้องได้เป็นทางเลือกสำหรับคนที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัย ส่วนความอุดมสมบูรณ์ภายในซอยลาซาล (สุขุมวิท105) และซอยแบริ่ง (สุขุมวิท107) ถือว่าเป็นซอยใหญ่ที่ค่อนข้างคึกคัก ถ้าเทียบกับซอยอื่นๆในย่านนี้ มีร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ ตลาด อยู่ทั้งซอยผลัดกันเปิดตลอดทั้งวัน เรียกได้ว่าถ้าหิวตอนดึกออกมายังไงก็มีของกิน และยังใช้เป็นเส้นทางลัดออกถนนบางนา ศรีนครินทร์ เทพารักษ์ ได้ในช่วงเวลารถติดหรือถ้าไม่อยากออกถนนใหญ่

จากที่ตั้งโครงการสามารถเดินทางเข้าเมืองได้ง่ายมากโดยใช้ถนนหลักอย่างสุขุมวิทนี่ละ แต่การจราจรอาจจะค่อนข้างติดขัดโดยเฉพาะเวลาเร่งรีบ สามารถเลี่ยงมาใช้รถไฟฟ้าสถานีแบริ่งเข้าตัวเมืองได้ใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที  เส้นสุขุมวิทยังสามารถใช้วิ่งไปจังหวัดสมุทรปราการหรือใช้ลัดออกเส้นศรีนครินทร์โดยใช้ซอยแบริ่งเชื่อมออก และไปยังสนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ชลบุรีได้ค่ะ

ทำเลนี้จะมีซอยลัดให้หนีรถติดอยู่ทางฝั่งซอยเลขคี่ โดยจะมีซอยสุขุมวิท 105 (ซอยลาซาล) ซอยสุขุมวิท 107 (ซอยแบร่ิง) ซอยสุขุมวิท 113 (ซอยวัดด่านสำโรง) เชื่อมถึงกันได้หมด และสามารถเชื่อมออกถนนศรีนครินทร์ที่ในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีเหลืองพาดผ่านอีกด้วย นอกจากนั้นยังใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนและมีรถไฟฟ้าเป็นทางเลือกในการเดินทาง นอกจากจะมีรถไฟฟ้าแล้ว การขนส่งสาธารณะในรูปแบบอื่นๆ เช่นรถเมล์ รถตู้ ในเส้นทางหลัก ก็ยังมีให้เลือกเดินทางเพราะห่างจากสำโรงที่เป็นจุดเชื่อมต่อหลักเพื่อเข้าเมืองไม่ไกลกัน ส่วนในซอยลาซาลและซอยแบริ่งที่อยู่ใกล้เคียงก็มีทั้งวินมอเตอร์ไซค์และรถสองแถวคอยให้บริการสำหรับคนที่อยู่อาศัยในพื้นที่นี้อยู่แล้ว ทำเลนี้จึงเหมาะกับการอยู่อาศัยสำหรับคนที่ทำงานในย่านนี้

สำหรับทางด่วนบริเวณใกล้ๆโครงการมีอยู่ทั้งหมด 3 จุด คือ ทางด่วนบางนาอยู่บริเวณ แยกบางนาห่างจากโครงการประมาณ 1.8 กิโลเมตร  ทางด่วนบริเวณซอยสุขุมวิท 62 ห่างจากโครงการ 5.25 กิโลเมตร และทางด่วนวงแหวนกาญจนาภิเษก อยู่บริเวณพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณห่างจากโครงการประมาณ 3.3 กิโลเมตร ถือว่าเป็นระยะที่ใช้ทางด่วนโอเคสะดวกพอสมควร

ขอบคุณภาพประกอบจาก : รถไฟฟ้ามหานคร – วิกิพีเดีย

สำหรับรถไฟฟ้าสถานีที่ใกล้ที่สุดคือสถานีแบริ่ง ระยะทางประมาณ 250 เมตร ปัจจุบันทางรถไฟฟ้ากำลังก่อสร้างรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย แบริ่ง-สมุทรปราการ โดยรถไฟฟ้าสายนี้เป็นเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างสถานีแบริ่ง (กรุงเทพฯ) ไปยังจังหวัดสมุทรปราการ ดังนั้นจึงจะช่วยให้การเดินทางคมนาคมระหว่างกรุงเทพฯ-สมุทรปราการ สะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น และคาดหวังว่าจะสามารถช่วยบรรเทาสภาพการจราจรที่ติดขัด และความแออัดของประชากรภายในกรุงเทพฯลง นอกจากนั้นในอนาคตยังมีแผนจะก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลืองโดยจะมาเชื่อมกับสถานีสำโรงของสายสีเขียวเป็นสถานี Interchange ซึ่งจะทำให้พื้นที่บริเวณนี้ในอนาคตจะเจริญมากขึ้นไปอีก

เราจะพาเดินจากรถไฟฟ้า BTS สถานีแบริ่งเพื่อไปยังโครงการกันนะคะ โดยเดินตามทางฟุตบาทริมถนนสุขุมวิทไปจนถึงซอยสุขุมวิท 70 เป็นระยะทางประมาณ 250 เมตร โครงการจะอยู่ติดกับถนนใหญ่เลย

กดคลิกที่แผนที่เพื่อดูขนาดใหญ่

แผนที่สถานีแบริ่ง ลงที่ทางออกที่ใกล้ที่สุดต้องเป็นทางลงที่ 4 นะคะ แต่ว่าเราจะเลือกลงที่ทางออกที่ 5 นะเพราะเห็นว่าจะมีของกินให้แวะซื้อติดมือก่อนกลับเข้าคอนโดได้นิดหน่อย

การเดินทางในวันนี้เราเริ่มจาก BTS สถานีแบริ่งกันนะคะ

พอลงมาที่ทางออก 5 แล้วจะเจอกับร้านตั้งโต๊ะขายของกินมากมายริมทาง ก็แวะซื้อเวลาก่อนกลับบ้านได้ บริเวณนี้เรียกว่า APT แบริ่งมอลล์

ของกินมีขายหลากหลายนะคะทั้งของกินเล่นอย่าง หมูปิ้ง ลูกชิ้นปิ้ง

หรือจะเป็นกับข้าวหรือตามสั่งแบบกินจริงจังไปเลยก็มี จากโครงการสามารถเดินมาหาอะไรทานได้ ไม่ไกลเท่าไหร่

เดินถัดมาก็จะเจอกับ 7-11 ขนาดใหญ่อยู่ติดกัน

หลังจากนั้นจะเป็นปากซอยสุขุมวิท 70/5 ซึ่งเป็นซอยเชื่อมไปยังถนนรางรถไฟสายเก่าได้ จุดนี้มีพี่วินประจำการอยู่ด้วยนะคะ ด้านหลังถัดไปเป็นปั๊ม Esso

ข้างในปั๊มมีทั้งร้านอาหารตามสั่ง ร้านกาแฟ Rabika Coffee และก็ Tesco Lotus Express หน้าร้านกาแฟมีร้านอาหารมาตั้งโต๊ะด้วย

หลังจากพ้นปั๊มจะเป็นส่วนของทางขึ้นรถไฟฟ้าที่เป็นบันไดเลื่อน นับจากจุดนี้เดินไปโครงการระยะทางประมาณ 250 เมตร

เดินต่อไปเป็นโชว์รูมรถเบนซ์และรถมือสองอยู่ติดกัน ฟุตบาทช่วงนี้ยังร่มรื่นอยู่เพราะมีต้นไม้ริมทาง

หลังจากนั้นจะเจอสามแยกใหญ่ ฝั่งตรงข้ามซึ่งก็คือซอยสุขุมวิท 107 (ซอยแบริ่ง) นั่นเอง

ถนนแบริ่งเป็นถนน 2 เลนสวนกัน ส่วนใหญ่ความคึกคักจะอยู่ทางฝั่งขวา หรือทางซอยแบริ่งเลขคู่ ส่วนทางซ้ายจะค่อนข้างเงียบ เป็นโรงเรียน ร้านค้านิดๆ หน่อยๆ และบ้านพักอาศัยส่วนใหญ่ ส่วนฝั่งขวานั้นถนนส่วนใหญ่เป็นอาคารพาณิชย์เก่าแก่ ด้านล่างมีร้านอาหาร ร้านก๋วยเตี๋ยว และร้านสะดวกซื้อ ส่วนด้านหน้าถนนมีกลุ่มพี่วินคอยให้บริการรับ – ส่ง

กลับมาที่บริเวณฝั่งตรงข้ามหน้าปากซอยแบริ่งกันต่อ ตรงนี้จะเป็นสะพานลอยที่ใกล้กับปากซอยโครงการที่สุดนะคะ อยู่บริเวณสามแยกเลย ใช้ข้ามไปทางฝั่งโน้นเพื่อไปหาอะไรกินได้

ถ้าลงมาจากสะพานลอยเดินต่อไป จะเจอกับป้ายรถเมล์และก็มีพวกร้านอาหารริมทาง แต่จะเห็นว่าพวกตึกแถวๆนี้ไม่ได้เปิดหน้าร้านกันเยอะเท่าไร อาจเป็นเพราะจอดรถไม่ได้ด้วย

เดินถัดมาอีกหน่อยก็จะเจอซอยสุขุมวิท 70 ซึ่งเป็นที่ตั้งของโครงการค่ะ

โครงการจะตั้งอยู่ติดถนนใหญ่ ข้างๆซอยสุขุมวิท70เลยค่ะ ตอนนี้กำลังเร่งทำสำนักงานขายกันอยู่

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

 Niche Mono สุขุมวิท-แบริ่ง ตั้งอยู่บนที่ดินประมาณ 4-3-59.8 ไร่  ติดถนนใหญ่ ข้างๆซอยสุขุมวิท 70 ทางเข้าจะเล็กหน่อยไปขยายด้านใน สภาพแวดล้อมรอบๆส่วนใหญ่ฝั่งที่ติดถนนใหญ่จะเป็นตึกแถวและอาคารพาณิชย์ ส่วนที่อยู่ในซอยจะเป็นบ้านพักอาศัย มีแต่ละด้านของโครงการติดกับ

  • ทิศเหนือ – ติดกับ ซอยสุขุมวิท70 ฝั่งที่ติดถนนใหญ่เป็น อาคารพาณิชย์และโชว์รูมรถ
  • ทิศตะวันออก – ติดกับถนนสุขุมวิท ฝั่งตรงข้ามเป็นตึกแถวและแนวอาคารพาณิชย์
  • ทิศใต้ – ติดกับร้านขายวัสดุก่อสร้าง โตเจริญพร และที่ดินเปล่า
  • ทิศตะวันตก – ติดกับ อาคารพาณิชย์และบ้านพักอาศัย

ภาพมุมสูงที่ได้จากโครงการค่ะ จะเห็นว่าโครงการอยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟฟ้าเท่าไหร่ สามารถเดินไปได้

ทิศเหนือ  ติดกับ ซอยสุขุมวิท70 ฝั่งที่ติดถนนใหญ่เป็น อาคารพาณิชย์และโชว์รูมรถ

ทิศตะวันออก ติดกับถนนสุขุมวิท ฝั่งตรงข้ามเป็นตึกแถวและแนวอาคารพาณิชย์ มีธนาคารกสิกรไทยด้วย

ทิศใต้ ติดกับร้านขายวัสดุก่อสร้าง โตเจริญพรและที่ดินเปล่า

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • อิมพีเรียลสำโรง / BigC สำโรง
  • BigC Jumbo
  • BITEC บางนา
  • Central บางนา
  • Bangkok Mall (อนาคต)
  • Mega บางนา
  • โรงพยาบาลมนารมย์
  • โรงพยาบาลกล้วยน้ำไท 2
  • โรงพยาบาลทหารเรือกรุงเทพฯ
  • โรงพยาบาลจุฬาเวช
  • โรงเรียนบางกอกพัฒนา
  • โรงเรียนลาซาล 
  • โรงเรียนเซนต์โยเซฟบางนา
  • โรงเรียน ไทยซิกข์นานาชาติ
  • St Andrews International School

ต่อมาเราจะพาไปดูภายในซอยสุขุมวิท105 หรือ ซอยลาซาล ซึ่งภายในจะมีร้านค้า ร้านอาหาร ตลาด และโรงเรียนนานาชาติ ถือว่าอุดมสมบูรณ์พอสมควร เราสามารถออกมาหาอะไรทานได้ ภายในซอยจะมีเส้นทางลัดเชื่อมกับซอยสุขุมวิท107 หรือ ซอยแบริ่ง ซึ่งสภาพแวดล้อมเป็นชุมชนเหมือนกันแต่บรรยากาศและความคึกคักจะน้อยกว่าซอยลาซาล

ซอยสุขุมวิท105 (ซอยลาซาล) ทางขึ้นสถานีรถไฟฟ้าแบริ่งจะอยู่บริเวณหน้าปากซอยพอดี จะอยู่ตรงข้ามกับ APT แบริ่งมอลล์ มีอาหารและของใช้ให้ซื้อหากันได้

บริเวณหน้าปากซอยจะมีสนามฟุตบอลของโรงเรียนนานาชาติ St Andrews

สนามฟุตบอลพื้นที่ติดกับ โรงเรียนนานาชาติ St Andrews เลย

เดินมาถึงบริเวณหน้าปากซอยลาซาล จุดสังเกตคือหน้าปากซอยจะมี 7 – 11 ขนาดใหญ่อยู่  ด้านหน้ามีที่จอดรถค่อนข้างกว้างสามารถมาแวะจอดซื้อของก่อนเข้าบ้านได้

สำหรับในเวลาเร่งด่วนถ้าใช้รถก็อาจจะใช้เส้นทางอื่นในซอยเพื่อลัดออกได้  ตอนเช้าและตอนเย็นในบริเวณนี้จะค่อนข้างคึกคักเลยทีเดียว

นอกจากตัว 7-11 แล้ว ยังมีพื้นที่สำหรับร้านค้าแผงลอยตั้งขายกันด้วย แต่จะขายในช่วงเช้ากับช่วงเย็น บางร้านก็ขายตลอดทั้งวัน สลับกันไป

ไม่ไกลจากแผงลอยก็จะเจอกับวินมอเตอร์ไซค์วิ่งรับส่งในซอยค่ะ อยากไปไหนก็ดูค่าโดยสารเอานะ

ลักษณะถนนภายในซอยแบ่ง 2 ช่องจราจรสวนทางกันและยังพอมีระยะเอื้อต่อการเดินได้จริงๆ โดยไม่ต้องไปเดินบนถนนบางช่วง ถือเป็นข้อดีสำหรับการเดินเข้าโครงการ ทางด้านซ้ายมือจะเป็น Center Point Studio พื้นที่จัดประกวดรายการ The Voice

เมื่อเดินเข้ามาเรื่อยๆ จะเจอกับอาคารพาณิชย์สูงประมาณ​ 3 ชั้นครึ่งทั้ง 2 ฝั่ง

ร้านค้าและกิจการส่วนใหญ่จะเป็นร้านอาหาร คลินิคและร้านขายของชำทั่วไป

ถัดเข้ามาประมาณกลางซอย หรือนั่งมอเตอร์ไซค์จากโครงการมา 20 บาท จะเจอตลาดลาซาลเป็นตลาดเช้าเปิดขายตั้งแต่ช่วงเช้าถึงประมาณ บ่าย 2 ฝั่งตรงข้ามเป็น 7 – 11

ถัดมาเป็นตลาดดวงพลอย ตลาดโต้รุ่งเปิดตั้งแต่ประมาณ บ่าย 4 จนถึงประมาณ 4-5 ทุ่มและมีบางร้านอยู่จนเช้าโต้รุ่ง  บริเวณช่วงนี้ก็มีคนออกมาจับจ่ายใช้สอย บรรยากาศค่อนข้างคึกคักมีร้านอาหาร ร้านค้าทั้งสองฟากของถนน ฝั่งตรงข้ามตลาดดวงพลอยก็มี 7-11

ตรงเข้ามาอีกก็จะเจอโรงเรียนบางกอกพัฒนา บริเวณนี้ช่วงเช้าเย็นรถค่อนข้างมากพอสมควร เพราะผู้ปกครองมารอรับลูกๆกัน

ตรงมาอีกพอประมาณจะเจอกับแยกนี้ เลี้ยวขวาไปจะเป็นซอย หมู่บ้านเทพนฤมิตร ลัดไปซอยสุขุมวิท 107 หรือซอยแบริ่งได้  ถ้าตรงไปเรื่อยๆจะไปออกถนนศรีนครินทร์

ถัดมาอีกก็จะเจอโรงเรียน ลาซาล โรงเรียนชื่อดังในย่านนี้ค่ะ

สุดท้ายขอพามาดูซอยลัดอีก 1 ซอยคือซอยลาซาล 55 ใช้ลัดออกไปถนนบางนา ซึ่งซอยจะเยื้องๆกับเซ็นทรัลบางนาพอดี

นอกจากวิ่งไปทางฝั่งในเมืองจากที่ตั้งโครงการยังใช้วิ่งไปทางสมุทรปราการได้ ซึ่งความอุดมสมบูรณ์ทางฝั่งนี้ที่ไม่ไกลจากโครงการมากนักจะอยู่บริเวณห้างอิมพีเรียลสำโรง โดยจากโครงการถ้ามุ่งหน้าไปยังฝั่งสำโรงหรือนั่งรถไฟฟ้ามาอีกสถานีหนึ่ง บริเวณนี้จะมีความอุดมสมบูรณ์ค่อนข้างสูง หาของกินง่าย เพราะมีตลาดสด สภาพแวดล้อมเป็นแหล่งชุมชนขนาดใหญ่ เดี๋ยวเราไปลองเดินเล่นกันดูกันค่ะ

จากโครงการเราตรงมาเรื่อยๆตามถนนสุขุมวิททางฝั่งซ้ายจะผ่านตลาดสำโรงซึ่งเป็นตลาดค่อนข้างใหญ่ ฝั่งตรงข้ามเป็นอิมพีเรียลสำโรงและ Big C

ทำเลนี้ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ทีเดียว มีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร ของกินของใช้ครบแทบจะทุกอย่าง

ร้านอาหารราคาย่อมเยาก็มีอยู่หลายร้าน ทั้งร้านใหญ่มีที่นั่งให้ทานที่ร้าน หรือจะเป็นร้านเล็กๆอย่างเช่นร้านข้าวแกงตักใส่ถุงกลับไปทานที่บ้านก็มีให้เลือกซื้อกัน

มีตลาดเอี่ยมเจริญมีของขายเยอะราคาไม่แพง ถัดเข้าไปเป็นอาหารแห้ง อาหารสด

สำหรับห้างในย่านนี้จะมีอิมพีเรียลสำโรง คนที่ใช้ชีวิตอยู่แถวนี้ต้องคุ้นเคยกันอยู่แล้วเพราะเป็นห้างใหญ่ที่มีความอุดมสมบูรณ์สูงมากสำหรับย่านนี้ ภายในห้างจะมี Big C อยู่ด้วย

บริเวณหน้าห้างจะเป็นจุดจอดรถตู้ รถเมล์ รถสองแถวขนาดใหญ่ จึงทำที่นั่งไว้ให้รองรับคนที่มารอรถ มองตรงไปจะเห็นสะพานลอยข้ามไปยังตลาดสำโรงที่อยู่ฝั่งตรงข้ามได้

โดยทางขึ้น Sky Walk จะอยู่หน้าห้างอิมพีเรียลสำโรงเลยค่ะ ถ้าใครเดินเข้าห้างออกมาก็ขึ้น  Sky Walk ไป BTS สำโรงได้เลย

เข้ามาภายในห้างอิมพีเรียลสำโรงจะมีทั้งร้านขายเสื้อผ้า ร้านทอง ร้านขายเครื่องสำอางค์ราคาย่อมเยาว์ที่มีให้เลือกหลายร้าน เดินช้อปปิ้งกันได้ชิลๆ

เมื่อเดินออกมาจากห้างอิมพีเรียลจะเป็นถนนลาดพร้าว ซึ่งชื่อซอยลาดพร้าวนี้อย่าเพิ่งสับสนว่าทำไมลาดพร้าวมาอยู่สำโรงนะคะ อันนี้เป็นแค่ชื่อซอยที่บังเอิญเหมือนกันเฉยๆ โดยซอยนี้จะเป็นซอยเลียบห้างอิมพีเรียลที่มีความอุดมสมบูรณ์มาก มองตรงไปจะเห็นตลาดกลางค้าส่งสำโรง ตลาดเขมร และมีท่ารถสองแถวอยู่ตรงกลาง

ตลาดกลางค้าส่งสำโรง จะมีทั้งโซนตลาดสดแบบนี้กับโซนสินค้าขายส่งที่เป็นของสดเหมือนกัน

ใกล้ๆกันมีตลาดที่คนพื้นที่เรียกว่าตลาดเขมร บริเวณตลาดจะมีพี่วินคอยให้บริการด้วย

เขามาภายในตลาดก็จะมีของสดทั้งผัก เนื้อ ของทะเล มีอาหารสำเร็จให้ซื้อกลับบ้านได้ หรือใครจะซื้อเสื้อผ้า รองเท้าก็มีขายนะ โดยตลาดนี้จะมีความยาวไปถึงถนนสุขุมวิทเลย ถือว่าสะดวกดีสำหรับคนที่ลงรถที่ถนนสุขุมวิทแล้วเดินกลับบ้านผ่านทางนี้ก็ซื้อของติดไม้ติดมือกลับบ้านได้เลย

สุดท้ายอีกโซนที่น่าสนใจคือถนนบางนา-ตราด เพราะเป็นแหล่งรวมของศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้าต่างๆ ทั้งเซ็นทรัลบางนา Mega บางนา และในอนาคตจะมี Bangkok Mall ศูนย์การค้าขนาดใหญ่เพิ่มเข้ามาอีกด้วย นอกจากนั้นบนถนนศรีนครินทร์บริเวณใกล้เคียงกันก็จะมีศูนย์การค้าขนาดใหญ่อย่าง Seacon Square และ Paradise Park ให้เป็นตัวเลือกในการเดินเล่นช้อปปิ้งอีกด้วย ทำเลนี้อยู่ไม่ไกลจากโครงการเท่าไหร่ การเดินทางเข้าถึงถ้าใช้รถยนต์จะสะดวกกว่า

เราเลี้ยวซ้ายมาที่ถนนบางนา-ตราดกันเรียบร้อย บริเวณจุดตัดถนนบางนา-ตราดกับสุขุมวิท จะมี “Bangkok Mall”  บนเนื้อที่กว่า  100 ไร่ พื้นที่โครงการกว่า 650,000 ตารางเมตร งบลงทุนกว่า 20,000 ล้านบาท อยู่ตรงข้ามกับศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา

ตรงมาอีกจะเจอกับ Central บางนา ที่ประกบด้วย Central city tower ที่เป็นอาคารสำนักงานสูงและ BigC ตรงนี้จะมีรถชะลอเข้าค่อนข้างมากและมีแท็กซี่ให้บริการเยอะ

เลยมาหน่อยก็จะเป็น BigC และอาคารสำนักงานตึกคู่ MD tower ตรงกลางจะมีถนนเข้าไปยังพื้นที่สำนักงานที่เป็นเหมือนโฮมออฟฟิศด้านในอีกจำนวนหนึ่ง

ตรงมาผ่านแยกบางนา-ศรีนครินทร์มา ทางซ้ายมือก็ยังเป็นร้านขายเฟอร์นิเจอร์อยู่กับ Chic republic

ตรงมาเรื่อยๆข้างหน้าจะมี Index living mall แหล่งรวมเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้าน

ก่อนจะสุดที่กม.8 จะมีสะพานกลับรถที่อยู่ใกล้กับ Tesco lotus จะเป็นสะพานกลับรถที่เราจะขึ้นนะคะ โดยถ้าตรงไปก็จะเป็นทางขึ้นทางด่วนมุ่งหน้าชลบุรี หรือสามารถเข้าวงแหวนกาญจนาได้

เราขึ้นสะพานกลับรถมา โดยถ้าเราวนจนครบ U-turm ก็จะเป็นทางขวามือลงบนถนนบางนา-ตราดมุ่งหน้าสุขุมวิท แต่ถ้าเลือกจะตรงไปก็จะเป็นทางเข้าของ Maga บางนา, BigC extra, Robinson, homepro และ Ikea ได้

นอกจากนั้นทำเลนี้ยังมีห้างบริเวณใกล้เคียงให้ออกมาเดินเล่นช้อปปิ้งกันได้อีกนะ ทั้ง Seacon Square , Paradise Park , ตลาดนัดรถไฟ ศรีนครินทร์ และ Haha mall ตั้งอยู่บนถนนศรีนครินทร์ การเดินทางใช้รถยนต์เป็นหลัก แต่ถ้ารถไฟฟ้าสายสีเหลืองสร้างเสร็จก็สามารถนั่งจากโครงการมาลงแถวๆนี้ได้


ข้อมูลพื้นที่ส่วนกลางโครงการเบื้องต้น

Niche Mono สุขุมวิท-แบริ่ง นอกจากทำเลที่เดินทางสะดวกใกล้รถไฟฟ้า และ การออกแบบภายใต้แนวคิด Geo fit+ แล้ว อีกจุดเด่นของโครงการนี้ก็คือพื้นที่ส่วนกลางที่จัดเต็มมาให้ ด้วยสระว่ายน้ำแบบ Infinity Edge ระบบ เกลือยาวกว่า 88 เมตร พร้อมสระเด็ก และ Sunken Deck , ห้องออกกำลังกายพร้อมอุปกรณ์ครบครันด้วยพื้นที่ กว่า 250 ตรม., Boxing Room , ชมวิวเมืองกว่า 270 องศาบน Panoramic Sky Lounge, Jogging Track ในสวน และ Yoga Room ตอนนี้ทางโครงการมีภาพจำลองบรรยากาศมาให้ชมบ้างแล้ว เดี๋ยวเราไปดูกันค่ะ

ภาพจำลองบรรยากาศทางเข้าโครงการ โดยในโครงการจะมีร้านกาแฟ TOM N TOMS Coffee ที่เปิดตลอด 24 ชม.และ ร้าน 7-Eleven

ภาพจำลองบรรยากาศ Jogging Track ในสวน

ภาพจำลองบรรยากาศ Double Lobby โถงต้อนรับลูกค้าขนาดใหญ่

ภาพจำลองบรรยากาศ สระว่ายน้ำแบบ Infinity Edge ระบบเกลือยาวกว่า 88 เมตร พร้อมสระเด็ก และ Sunken Deck

ภาพจำลองบรรยากาศ บริเวณด้านบนของอาคาร แสดงการติดตั้ง SENA Solar Station ช่วยลดค่าส่วนกลางด้วยการมี Solar Cell ผลิตกระแสไฟฟ้า

ภาพจำลองบรรยากาศ Panoramic Sky Lounge ที่เห็นวิวโค้งน้ำ

ภาพจำลองบรรยากาศ Sky Relaxing Zone & Co-Working Space พร้อม Wi-Fi ในพื้นที่ส่วนกลาง

ภาพจำลองบรรยากาศ  Yoga Room และ Boxing Room

ภาพจำลองบรรยากาศ ห้องออกกำลังกายพื้นท่ีใหญ่กว่า 250 ตรม. เทียบเท่า Fitness มาตรฐานพร้อมอุปกรณ์ครบครัน

ภาพจำลองบรรยากาศ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • สระว่ายน้ำระบบเกลือแบบ Infinity Edge
  • Jacuzzi
  • Sunken Deck
  • ห้องออกกำลังกาย
  • Boxing Room
  • Games Room
  • Yoga Room
  • Steam Room
  • Sky Lounge & Co-Working Space พร้อม Wi-Fi ในพื้นที่ส่วนกลาง
  • Sky Relaxing Zone
  • Amphitheatre
  • Sky Meeting Room
  • Sky Garden
  • Sena Solar Station ที่มี EV Charger ใช้พลังงานไฟฟ้าจาก Solar
  • Double Lobby โถงต้อนรับลกูค้าขนาดใหญ่
  • ห้องพยาบาล


ข้อมูลห้องพักเบื้องต้น

ภาพจำลองบรรยากาศห้องพัก Type A

ภาพจำลองบรรยากาศห้องพัก Type C

ภาพจำลองบรรยากาศห้องพัก Type D

นี่ก็เป็นส่วนของทำเลและสภาพแวดล้อมของ  Niche Mono สุขุมวิท-แบริ่ง นะคะ อดใจรอกันอีกสักนิด เร็วๆนี้ เมื่อทางโครงการมีข้อมูลรายละเอียดโครงการพร้อม ทางเราจะเข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิวตัวเต็มอีกทีค่ะ ถ้าใครสนใจโครงการจะเปิด PRE-SALES 30 ก.ย. นี้ สามารถลงทะเบียนได้ คลิกที่นี่ หรือโทรสอบถามข้อมูล 1775