รีวิวโครงการ

IDEO จรัญฯ70-ริเวอร์วิว คอนโด High Rise วิวแม่น้ำ บนถนนจรัญสนิทวงศ์ ห่างจาก MRT บางพลัด 300 เมตร จาก อนันดา [รีวิวฉบับที่ 1979]

8 พฤศจิกายน 2019

อ่านรีวิวล่าสุด

หากพูดถึงถนนจรัญสนิทวงศ์ เชื่อว่าคนที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพคงคุ้นเคยกับชื่อนี้เป็นอย่างดี เพราะเป็นหนึ่งในถนนสายเก่าแก่และมีการจราจรหนาแน่นที่สุดสายหนึ่งก็ว่าได้.. วันนี้เราจะมาพูดถึงช่วง “จรัญฯ-บางพลัด” กับโครงการ IDEO จรัญฯ70-ริเวอร์วิว เป็นช่วงที่มีความน่าสนใจอยู่ไม่น้อย เพราะเป็นช่วงที่ใกล้แม่น้ำเจ้าพระยามากที่สุดของถนนจรัญสนิทวงศ์ มีสะพานสายสำคัญหลายแห่งและทางพิเศษศรีรัชอยู่ในระยะใช้งานสะดวก รวมถึงการมาของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย บางซื่อ – ท่าพระ ก็ทำให้ทำเลนี้ถูกจับตามองมากยิ่งขึ้น บรรยากาศของทำเลนี้จะเป็นอย่างไร เราไปชมกันเลยครับ

แผนที่จากทางโครงการครับ

ถนนจรัญสนิทวงศ์ เป็นถนนเก่าในฝั่งธนบุรี เริ่มต้นจากถนนเพชรเกษม ที่สี่แยกท่าพระ และไปสิ้นสุดที่เชิงสะพานพระราม 7 ในพื้นที่ตำบลบางกรวย อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี บริบทโดยรอบจะเป็นพื้นที่พักอาศัยแนวราบ ชุมชนเก่าและวัดซะเป็นส่วนใหญ่ แต่ปัจจุบันมีรถไฟฟ้าถึง 3 สายยิงยาวมาถึงถนนจรัญสนิทวงศ์ทั้งสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย บางซื่อ – ท่าพระ, รถไฟฟ้าสายสีส้ม ตลิ่งชัน – ศูนย์วัฒนธรรม และรถไฟฟ้าสายสีแดง ตลิ่งชัน – ศาลายา จึงไม่แปลกใจเลยครับกับช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาบนถนนสายนี้ที่มีคอนโดขึ้นกันเป็นดอกเห็ดมาให้เห็นกันไม่น้อยเลย

ตัวโครงการตั้งอยู่บนถนนจรัญสนิทวงศ์ในช่วงระหว่างแยกบางพลัด-เชิงสะพานพระราม 7 บริเวณย่านนี้ยังคงสภาพแวดล้อมที่เป็นย่านชุมชนเก่าแก่อาศัยกันมานาน มีการยึดถือการใช้ชีวิตแบบเดิมๆที่เป็นมาอย่างเรียบง่าย สองข้างทางส่วนใหญ่จะยังคงเป็นอาคารพาณิชย์ตึกแถวเกือบตลอด เปิดเป็นร้านค้าร้านอาหารเรียงกันไป ภายในซอยส่วนใหญ่จะเป็นตึกแถว บ้านพักอาศัย ทำให้บรรยากาศโดยรวมมีทั้งความคึกคัก หาของกินได้ง่าย ถึงแม้ว่าปัจจุบันจะเริ่มเห็นคอนโดมิเนียมที่มาเกาะรางรถไฟสายสีน้ำเงินช่วงต่อขยายเกิดขึ้นเยอะขึ้นมาก ก็ไม่ได้ทำให้บรรยากาศและสภาพแวดล้อมเปลี่ยนไปมากนัก

โดยในช่วงของตัวโครงการเราจะเรียกได้ว่าเป็น “จรัญฯ-บางพลัด” จัดอยู่ในช่วงปลายของถนนจรัญสนิทวงศ์ ซึ่งมีข้อดีคือใกล้สะพานหลายจุด ทั้งสะพานพระราม 7 ที่สามารถใช้เข้าเมืองไปยังย่าน รัชดาภิเษก, ลาดพร้าว, พระราม9 ได้สะดวก และสะพานกรุงธนฯ(ซังฮี้) สามารถใช้ข้ามฝั่งไปยังอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิได้ แถมยังมีสะพานพระราม 8 และสะพานปิ่นเกล้า ซึ่งล้วนแต่เป็นตัวเลือกในการเดินทางข้ามไปยังฝั่งกรุงเทพชั้นในทั้งสิ้น อีกทั้งยังใกล้ทางด่วนพิเศษศรีรัช-วงแหวนรอบนอกใช้หนีรถติดได้ ถือเป็นอีกหนึ่งความสะดวกในการเดินทางเลยล่ะครับ

สำหรับการเดินทางสาธารณะคงต้องขอเริ่มที่รถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย บางซื่อ – ท่าพระ กันก่อนเลย เพราะมีสถานีบางพลัดที่จะเปิดให้ใช้งานกันเดือนมีนาคม ปี 2563 อยู่ห่างจากตัวโครงการประมาณ 300 เมตรเท่านั้น สามารถเดินไปใช้งานกันได้ไม่ยาก และอีกหนึ่งจุดข้อได้เปรียบของถนนจรัญสนิทวงศ์ในช่วงถนนนี้ คือเป็นช่วงที่เรียบขนานไปกับแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้มีท่าเรือริมแม่น้ำสำหรับเป็นตัวเลือกในการเดินทางเพิ่มเติมให้อีกทางด้วย และยังช่วยเป็นวิวให้กับห้องพักอาศัยภายในโครงการด้วยเช่นกัน ส่วนการเดินทางโดยไม่ใช้รถอื่นๆก็สะดวกเนื่องจากโครงการอยู่ติดถนนใหญ่ เรียกรถได้ง่ายทั้งแท็กซี่ วินมอเตอร์ไซค์ละแวกใกล้โครงการ รถประจำทางสาย 18,110,175,203,ปอ.18,ปอ.170,ปอ 203 และรถกระป๊อสีเขียวสาย บางพลัด-เซนทรัลปิ่นเกล้า-ชัยพฤกษ์

สำหรับความอุดมสมบูรณ์ในย่านนี้ โดยพื้นเพเดิมของทำเลในช่วงของโครงการจะเป็นพื้นที่พักอาศัยเดิมของคนในชุมชนที่มักจะรายล้อมตามวัดต่างๆ ซึ่งมีให้เห็นกันแทบทุกซอย จึงทำให้มีร้านค้าร้านอาหารเกิดขึ้นค่อนข้างเยอะ ในระยะเดินก็จัดว่าสะดวก เพราะมี Tesco Lotus อยู่ในระยะประมาณ 140 เมตร และถ้าข้ามสะพานลอยไปยังฝั่งตรงข้ามจะมีชุมชนหน้าซอยจรัญฯ79 ซึ่งเป็นซอยที่ค่อนข้างคึกคักมีร้านค้าร้านอาหารให้บริการเยอะพอสมควรเลย และยิ่งการมาขอแนวรถไฟฟ้าจะยิ่งทำให้พื้นที่บนถนนจรัญสนิทวงศ์คึกคักขึ้นเรื่อยๆเลยล่ะครับ

ถอยออกมาดูระยะไกลกันขึ้นหน่อย ถ้าดูจากแผนที่จะเห็นว่ามีทั้งโรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า และสถานศึกษารายล้อมอยู่โดยรอบค่อนข้างครบ มีห้างสรรพสินค้าและตลาดให้เลือกใช้งานได้หลายจุด เช่น บนถนนจรัญฯเองก็มีตลาดอินดี้ และตลาดข้างโรงพยาบาลยันฮี หรือจะไปโซนถนนบรมราชชนนีซึ่งเป็นจุดความเจริญหลักของย่านนี้ที่มีทั้ง Tesco Lotus, เซ็นทรัลปิ่นเกล้า, The Sense ปิ่นเกล้า ตลาดปิ่นเงิน และ Major ปิ่นเกล้าให้ไปเดินเล่นกันได้ หรือจะไปทางฝั่งถนนสิรินธรก็มีตั้งฮั่วเส็ง, ตลาดนัดสิรินธร และช่างชุ่ย เรียกได้ว่าถ้ามาจากทางไหนก็สามารถซื้อของเข้าบ้านได้สะดวกเลยล่ะครับ รวมถึงยังมีโรงเรียนชื่อดังสำหรับบุตรหลานก็มีตัวเลือกให้เยอะทีเดียว ส่วนโรงพยาบาลก็อยู่ไม่ไกลใช้งานได้สะดวก นอกจากนั้นยังมีสถานที่สำคัญอื่นๆในย่านนี้เช่น กฟผ. หรือการไฟฟ้าฝ่ายผลิตซึ่งเป็นแหล่งงานขนาดใหญ่ในย่านนี้

สำหรับบริเวณถนนจรัญสนิทวงศ์ นั้นสมัยก่อนจะไม่มีทางด่วนในบริเวณใกล้เคียง จึงเป็นสาเหตุหนึ่งของการจราจรที่ติดขัดจะต้องไปขึ้นที่ทางด่วนบริเวณสะพานตากสิน หรือ ทางด่วนยมราช สำหรับตอนนี้มีโครงการทางพิเศษสายศรีรัช – วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครที่เปิดให้บริการเรียบร้อยแล้ว โดยสามารถใช้เชื่อมกับทางขึ้น-ลง หลายแห่งคือ

  • บริเวณถนนกาญจนาภิเษก (วงแหวนรอบนอกด้านตะวันตก)
  • ทางขึ้นลงราชพฤกษ์
  • ทางแยกต่างระดับบรมราชชนนี
  • ทางขึ้นลงบางบำหรุหรือถนนสิรินธร
  • ทางขึ้นลงจรัญสนิทวงศ์
  • ทางขึ้นลงพระราม 6
  • ทางขึ้นลงกำแพงเพชรตรงทางแยกต่างระดับศรีรัช (ด่วนขั้นที่ 2)

โดยวันนี้ผมจะเลือกเส้นทางขึ้นและลงทางพิเศษศรีรัชที่ใกล้ตัวโครงการที่สุดมาอธิบายอย่างละเอียดให้ดูกันนะครับ

เริ่มต้นที่ทางด่วนเข้าเมืองกันก่อนเลย คือด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษบางกรวย เริ่มที่โครงการขับรถไปประมาณ 1.1 กิโลเมตร เพื่อกลับรถที่แยกบางพลัด จากนั้นวิ่งต่อไปบนจรัญสนิทวงศ์อีกประมาณ 4.1 กิโลเมตร เชื่อมต่อเข้าถนนวงศ์สว่างและกลับรถเพื่อขึ้นทางพิเศษศรีรัชที่ด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษบางกรวยเลยครับ มีระยะทางรวมประมาณ 5.2 กิโลเมตร หรือประมาณ 10 นาที

สำหรับอีกจุดจะเป็นฝั่งเดินทางออกรอบนอกเมืองไปทางตลิ่งชัน, พุทธมณฑล เป็นทางไม่ซับซ้อนอะไร ให้เราไปกลับรถก่อนถึงแยกบางพลัดมีระยะห่างจากตัวโครงการประมาณ 1 กิโลเมตร จากนั้นตรงต่อไปประมาณ 3.5 กิโลเมตร จากนั้นเลี้ยวขวาและตรงไปอีกประมาณ 1 กิโลเมตร ก็ถึงด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษบางพลัดครับ

สำหรับเส้นทางลงจากทางพิเศษศรีรัชฝั่งมาจากบางซ่อนก็สามารถเข้าถึงโครงการได้หลายทางเช่นกัน เพราะมีซอยลัดเลาะให้เลือกใช้ แต่ผมจะแนะนำให้ใช้เส้นทางบนถนนหลัก เพราะขับง่ายและมีป้ายสังเกตทางให้ตลอดครับ ลงมาแล้วให้ตรงมาอีกประมาณ 1.5 กิโลเมตร จะพบทางแยกเพื่อเลี้ยวเข้าสู่ถนนสิรินธร ตรงมาเรื่อยๆประมาณ 2 กิโลเมตร ก็จะเจอแยกบางพลัด ให้เราเลี้ยวซ้ายและตรงต่อไปอีกประมาณ 1.4 กิโลเมตร จะเจอจุดกลับรถใต้ MRT สถานีบางพลัด จากนั้นตรงต่อมาประมาณ 300 เมตร ก็จะพบตัวโครงการอยู่ทางซ้ายมือครับ

ส่วนอีกฝั่งที่มาจากทางตลิ่งชัน เมื่อลงทางด่วนมาให้เราเบี่ยงซ้ายเพื่อวนเข้าสู่ถนนจรัญสนิทวงศ์ตรงต่อมาเรื่อยๆก็พบตัวโครงการทางซ้ายมือเลยครับ มีระยะรวมจากจุดลงประมาณ 4.5 เมตร

สำหรับการเดินทางสาธารณะ หลักๆเลยคือรถไฟฟ้า MRT ส่วนต่อขยาย บางซื่อ – ท่าพระ  จะมีสถานีบางพลัดที่จะเปิดให้ใช้งานกันในเดือนมีนาคม ปี 2563 อยู่ห่างจากตัวโครงการประมาณ 300 เมตรเท่านั้น สามารถเดินตามแนวถนนไปใช้งานได้เลยครับ ทางเดินก็สะดวกไม่เปลี่ยวนัก ซึ่งเดี๋ยวเราจะมีภาพให้ชมกันนะ

รถไฟฟ้าส่วนนี้จะเปิดให้ใช้กันในช่วงประมาณเดือนกันยายนของปีนี้ โดยสถานีบางพลัดเองเป็นสถานีที่มี สถานี Interchange อย่างสถานีสิรินธรที่ไป Interchange กับสายสีแดงอ่อน ห่างออกไปเพียง 1 สถานี หรือถ้าไปทางฝั่งบางซื่อ ก็จะมีสถานีเตาปูนที่ไป Interchange กับสายสีม่วง ห่างออกไป 3 สถานี และสถานีบางซื่อที่จะไป Interchange กับสายสีส้ม, สีแดงเข้ม, และสีแดงอ่อน ห่างออกไป 4 สถานี ทำให้เพิ่มความหลากหลายในการเดินทางได้มากยิ่งขึ้น

สำหรับตัวโครงการของเราที่ตั้งอยู่บนถนนจรัญสนิทวงศ์ซึ่งมีเส้นทางมาจาก 2 ฝั่ง วันนี้ผมจึงจะแนะนำเส้นทางการเดินทางทั้งหมด 2 เส้นทาง ซึ่งจะครอบคลุมสะพานทั้ง 3 จุดที่อยู่รอบๆโครงการของเราทั้งหมดเลย โดยเส้นทางแรกจะเป็นเส้นทางที่มาจากสะพานพระราม 7 วิ่งเข้าถนนจรัญสนิทวงศ์ ส่วนอีกเส้นทางจะมาจากสะพานพระราม 8 ผ่านแยกอรุณอมรินทร์ แยกบรมราชชนนี และแยกบางพลัดที่เป็นเส้นทางเชื่อมต่อกับสะพานกรุงธน (ซังฮี้) และเข้าสู่ถนนจรัญสนิทวงศ์เช่นกันครับ

เส้นทางแรกผมจะเริ่มจากถนนวงศ์สว่างมุ่งหน้าสู่สะพานพระราม 7 ขึ้นสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา แล้ววิ่งตรงเข้าถนนจรัญสนิทวงศ์ ผ่านโรงพยาบาลยันฮี ตรงมาตามทางเรื่อยๆบนถนนจรัญสนิทวงศ์ ผ่าน MRT สถานีบางพลัดไปประมาณ 300 เมตร ก็พบตัวโครงการอยู่ทางซ้ายมือครับ

สำหรับเส้นทางแรกเรามาจากถนนวงศ์สว่างมุ่งหน้าเข้าถนนจรัญสนิทวงศ์ ให้ขับตรงไปเรื่อยๆเลยครับ

เราขึ้นสะพานพระราม 7 เพื่อข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา มุ่งหน้าเข้าสู่ถนนจรัญสนิทวงศ์เพื่อไปยังโครงการ โดยทำเลจรัญสนิทวงศ์ช่วงปลายจะใกล้กับสะพานพระราม 7 สามารถข้ามฝั่งไปทำงานในเมืองได้สะดวก อีกทั้งปัจจุบันยังมีทางด่วนศรีรัช-วงแหวนรอบนอกมาเป็นตัวเลือกในการเดินทางอีกด้วยครับ

เมื่อลงสะพานมาแล้ว ให้วิ่งตามป้ายเพื่อเข้าสู่ถนนจรัญสนิทวงศ์ครับ

พอลงสะพานก็จะเข้าสู่ถนนจรัญสนิทวงศ์ จะเห็นว่าสภาพแวดล้อมทั้ง 2 ข้างทางเป็นชุมชนดั้งเดิม อาคารบ้านเรือนที่ติดถนนใหญ่ส่วนใหญ่เป็นตึกแถวที่มีร้านค้าอยู่ด้านล่าง เราวิ่งตรงมาเรื่อยๆ พอถึงโรงเรียนพระรามหกเทคโนโลยีจะเริ่มเห็นแนวรถไฟฟ้าที่เชื่อมต่อมาจากสถานีบางโพ

ถัดมาอีกหน่อยจะเจอกับโรงพยาบาลยันฮี ซึ่งจะมีสถานีบางอ้ออยู่ใกล้ๆ ถือเป็นสถานีแรกหลังจากรถไฟฟ้าสายนี้ข้ามฝั่งแม่น้ำมาเลย

ข้างๆโรงพยาบาลยันฮีจะมีแหล่งความอุดมสมบูรณ์ที่สำคัญของบริเวณนี้ คือตลาดบางอ้อนั่นเอง

ตลาดบางอ้อ ที่มีของขายทั้งคาวหวาน สามารถมาหาอะไรทานได้สะดวก ด้านหลังตลาดและโรงพยาบาลมีลานจอดรถขนาดใหญ่ ที่ตลาดมีโต๊ะให้นั่งรับประทานด้วยถ้าไม่อยากซื้อกลับไปทานที่ห้อง

ตรงมาอีกหน่อยจะเจอกับสถานีบางอ้อ ถือเป็นสถานีแรกหลังจากข้ามสะพานพระราม 7 เลย

ตรงมาอีกนิดเดียวจะเจอกับสถานีบางพลัดซึ่งเป็นสถานีที่อยู่ใกล้โครงการเรามากที่สุด ใต้สถานีจะมีจุดกลับรถที่ใกล้กับตัวโครงการที่สุดด้วยเช่นกันครับ เดี๋ยวเราจะได้เห็นกันกับอีกเส้นทางนึงนะ

ตรงต่อมาจาก MRT สถานีบางพลัดประมาณ 300 เมตร ก็จะเห็นตัวโครงการอยู่ทางซ้ายมือครับ

อีกเส้นทางในการไปโครงการ ผมจะใช้เส้นทางจากถนนพระราม 8 เพื่อให้เห็นบริบทโดยรอบ เพราะต้องผ่านแยกบางพลัดที่ลงมาจากสะพานกรุงธรบุรี (ซังฮี้) และถนนสิรินธรด้วยเช่นกัน

เริ่มต้นที่สะพานพระราม 8 มุ่งหน้าไปทางแยกอรุณอมรินทร์แล้วเลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนสมเด็จพระปิ่นเกล้า มุ่งหน้าไปยังทางถนนบรมราชชนนีตรงไปอีกประมาณ 550 เมตร จากนั้นเลี้ยวขวาที่แยกบรมราชชนนีเข้าสู่ถนนจรัญสนิทวงศ์ ขับตรงไปที่แยกบางพลัด จากนั้นตรงต่อไปบนถนนจรัญสนิทวงศ์เรื่อยๆ และกลับรถที่ใต้ MRT สถานีบางพลัด ขับกลับมาประมาณ 300 เมตร จะเจอโครงการอยู่ทางซ้ายมือครับ

เริ่มต้นการเดินทางเส้นทางนี้กันบนถนนพระราม 8 ฝั่งมุ่งหน้าไปยังปิ่นเกล้า, อรุณอมรินทร์ ตรงไปเลยครับ

ตอนจะลงดูสักนิดนะครับ จะมีป้ายบอกให้ไปทางอรุณอมรินทร์ ชิดซ้ายเตรียมลงได้เลย

ลงจากสะพานพระราม 8 มาแล้วก็ตรงต่อไปเลยครับ

ตรงมาเรื่อยๆจะเจอแยกอรุณอมรินทร์ ให้เราเลี้ยวขวาเข้าถนนสมเด็จพระปิ่นเกล้าเลย

วิ่งบนนถนนสมเด็จพระปิ่นเกล้าไปเรื่อยๆ ให้ชิดซ้ายไว้นะครับ ไม่ต้องขึ้นทางยกระดับ

หลังจากวิ่งมาได้ประมาณ 550 เมตร จะพบกับแยกบรมราชชนนี ให้เราเลี้ยวขวาอีกครั้งเข้าสู่ถนนจรัญสนิทวงศ์

จากนั้นให้เราตรงต่อไปประมาณ 1.8 กิโลเมตร จะถึงแยกบางพลัด

เมื่อถึงแยกบางพลัดให้เราตรงต่อไปเลยนะครับ

จากจุดนี้จะเห็นได้ว่าสามารถเข้าถึงโครงการได้จากหลายช่องทางเลย ทั้งทางที่เรามาบนถนนจรัญสนิทวงศ์ ฝั่งขวาคือถนนสิรินธร และฝั่งซ้ายคือสะพานกรุงธน (ซังฮี้) ซึ่งจะเชื่อมต่อกับถนนราชวิถี เข้าเมืองได้นั่นเอง

ตรงต่อมาประมาณ 2 กิโลเมตร จะเจอกับ MRT สถานีบางพลัด ให้เรากลับรถใต้สถานีเลยครับ

จากนั้นตรงต่อมาประมาณ 300 เมตร ก็จะพบตัวโครงการอยู่ทางซ้ายมือครับ

ตัวอาคารไม่ได้วางตามแนวทิศเหนือ-ใต้ จึงทำให้วิวหลักๆจะไปอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือและทิศตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งการวางแนวอาคารลักษณะนี้ยังสามารถรับวิวแม่น้ำได้นะครับ แต่ส่วนใหญ่จะไม่ได้เป็นวิวที่เห็นแบบตรงๆ นอกจากนั้นยังเป็นทิศที่รับลมประจำปีของประเทศเราพอดี ไหนๆก็เป็นทิศหลักของโครงการแล้ว ขอเล่าเกร็ดความรู้ตรงนี้นิดนึงนะครับ

ลมประจำฤดูร้อน – เป็นลมอุ่นและชื้น จะพัดในทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ในช่วงสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนพฤษภาคมจนถึงสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนพฤศจิกายน รวมระยะเวลาประมาณ 6 เดือน
ลมประจำฤดูหนาว – เป็นลมเย็นและแห้ง จะพัดในทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ประมาณ 4 เดือน

มาดูพื้นที่รอบๆโครงการกันบ้างตัวโครงการตั้งอยู่บนถนนจรัญสนิทวงศ์ในช่วงซอยจรัญสนิทวงศ์ 70/2 พื้นที่โดยรอบในระยะประชิดส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัยแนวราบชั้นเดียว จะมีอาคารสูงก็เพียงฝั่งทิศตะวันออก ซึ่งจะมีฝั่งทิศตะวันออกเฉียงเหนือคืออาคารเมืองไทย แคปปิตอล ที่กำลังก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จปี 2563 และทางทิศตะวันออกเป็นหอพัก 5 ชั้น ส่วนด้านหลังทิศตะวันออกเฉียงใต้ที่เป็นโครงการ Bangkok River Marina ซึ่งอาจจะบังวิวแม่น้ำไปบางส่วน ห่างออกมาหน่อยจะมี My Resort @River อยู่ทางทิศตะวันออกเช่นกัน ก็จะบังวิวแม่น้ำไปบางส่วน แต่ด้วยระยะห่างพอสมควรก็ยังทำให้รับวิวข้างๆได้เยอะอยู่นะ ส่วนพื้นที่ฝั่งถนนจรัญฯ ก็จะมีแนวรถไฟฟ้าในส่วนนี้ด้วย จะสูงประมาณ 4 ชั้น แต่ด้วยระยะ Set Back เข้าไปของตัวอาคารตามกฎหมายอยู่แล้ว คงทำให้ไม่ส่งผลกระทบในเรื่องของวิวมากนัก

ส่วนรายละเอียดอื่นๆรอบๆโครงการก็มีอำนวยความสะดวกค่อนข้างพร้อมเหมือนกัน ลองไล่ดูทีละส่วนเลยละกันนะครับ

  • จุดกลับรถ – บนถนนจรัญสนิทวงศ์ก็มีช่วงกลับรถทั้งสองฝั่งไม่ไกลจนเกินไป ส่วนแรกคือจุดกลับรถจากแยกบางพลัดเข้าตัวโครงการ จะอยู่บริเวณใต้สถานี MRT บางพลัดเลย มีระยะห่างประมาณ 300 เมตร ส่วนอีกฝั่ง จะกลับรถไปยังฝั่งสะพานพระราม 7 มีระยะห่างประมาณ 1 กิโลเมตร ใช้งานได้ง่ายและสะดวกทั้งสองฝั่งครับ
  • ป้ายรถประจำทาง – มีให้ในระยะหน้าโครงการเลย โชคดีที่บริเวณหน้าโครงการมีสะพานลอย ซึ่งห่างออกไปประมาณ 100 เมตร และบริเวณทางขึ้นลงของสะพานลอยก็มีป้ายรถประจำทางให้ทั้งสองฝั่งเลยครับ ในส่วนนี้จะมีรถประจำทางให้บริการหลายสาย เช่น สาย 18, 110, 175, 203, ปอ.18, ปอ.170, ปอ.203 และรถกระป๊อสายสีเขียว ที่มีจะเส้นทางวิ่ง บางพลัด-เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า-ชัยพฤกษ์
  • วินมอเตอร์ไซค์ – จะมีให้บริการกระจายอยู่ตามถนนจรัญสนิทวงศ์ ซึ่งผมจะยกจุดที่ใกล้โครงการที่สุดมาให้ดูทั้งสองฝั่ง ฝั่งเดียวกันกับโครงการจะมีที่ปากซอยจรัญฯ 72 เยื้องๆกับตำแหน่งป้ายรถประจำทาง ส่วนฝั่งตรงข้าม จะอยู่บริเวณหน้าปากซอยจรัญฯ 79 ซึ่งใกล้ๆกับทางลงของสะพานลอย บริเวณนี้จะมี 7-Eleven ใกล้ๆให้ใช้บริการด้วยเช่นกันครับ
  • ท่าเรือ – จะมีท่าเรือของวัดอาวุธวิกสิตาราม อยู่ภายในซอยจรัญฯ 72 ด้านในสุด ซึ่งจะเป็นท่าเรือข้ามฝาก ให้เราข้ามไปยังท่าฝั่งตรงข้าม จากนั้นค่อยนั่งเรือด่วนเจ้าพระยา มีระยะทางรวมประมาณ 490 เมตร ซึ่งเดี๋ยวผมจะพาเดินไปชมบรรยากาศกันอีกทีนะครับ
  • ปั๊มน้ำมัน – จะมีให้ใช้บริการบริเวณใกล้ๆกับสถานี MRT บางพลัด ทางฝั่งเดียวกับตัวโครงการครับ
  • Tesco Lotus – อีกจุดเด่นหนึ่งของทำเลนี้เลย เพราะอยู่ห่างจาก Tesco Lotus จรัญสนิทวงศ์เพียงแค่ 140 เมตร จับจ่ายใช้สอย หรือหาของกินได้สะดวกเลยล่ะครับ
  • เส้นทางลัดเลาะไปออกถนนสิรินธร – ผมขอแนะนำให้ใช้ซอยจรัญสนิทวงศ์ 75 เป็นหลัก ภายในซอยที่อาจจะต้องเลี้ยวยากซักหน่อยแต่ขนาดถนนภายในเป็นถนน 2 เลนและขับได้ง่าย ส่วนซอยจรัญสนิทวงศ์ 79 เป็นซอยที่คึกคักกว่าในช่วงต้นซอย ด้านในมีวัด โรงเรียน และศูนย์ฝึกวิชาชีพบางพลัด แต่เลยเข้าไปจะเป็นชุมชนพักอาศัยซึ่งสามารถทะลุไปออกถนนสิรินธรได้ แต่จะเป็นทางที่ไปได้เฉพาะรถจักรยานยนต์เท่านั้น และทางค่อนข้างแคบครับ

พื้นที่หน้าโครงการปัจจุบัน มีแนวทางเดินสาธารณะให้ด้านหน้า กว้างประมาณ 2-3 เมตร ครับ

ตัวโครงการจะอยู่บริเวณซอยจรัญสนิทวงศ์ 70/2 ด้านข้างพื้นที่โครงการเลย จะมีซอยเล็กๆ กั้นอยู่ระหว่างอาคารตึกแถว 2 ชั้น

เป็นซอยส่วนบุคคลขนาดประมาณ 1-1.5 เมตร มีความกว้างหลายช่วงครับ ลองเดินเข้าไปดูภายใน จะได้เห็นรูปร่างของพื้นที่โครงการมากยิ่งขึ้น

เดินเข้ามาก็จะเจอกับรั้วโครงการ กับรั้วของพื้นที่ข้างเคียง เป็นบ้านพักอาศัยส่วนบุคคล 1-2 ชั้นครับ

ด้านในจะมีหอพักสูง 5 ชั้น อยู่หัวมุมพื้นที่โครงการ ตรงที่เราเห็นด้านหน้าจะเป็นแนวทางเดินตามลักษณะพื้นที่ของโครงการครับ

เข้ามาภายในจะมีแนวทางเดินยาวไปด้านหลัง เพราะเป็นพื้นที่พักอาศัยเดิมของคนในชุมชน มีแนวรั้วที่สร้างใหม่ทั้งสองฝั่งดูดีทีเดียว แต่ปกติแล้วเราก็คงจะไม่ได้เดินเข้ามาภายในนี้หรอกนะครับ

ด้านหลังจะมีพื้นที่ชุมชนติดแนวรั้วโครงการเลยครับ เป็นบ้านพักอาศัยชั้นเดียว

สภาพพื้นที่ไม่ได้ถูกจัดการเท่าไรนัก แต่ไม่ส่งผลกระทบทั้งเรื่องวิวและกลิ่นนะครับ

พื้นที่ด้านหลังโครงการ ด้านในจะเป็นอาคาร Bangkok River Marina ซึ่งตรงนี้จะเป็นมุมมองที่เราต้องมองผ่านไปยังแม่น้ำเจ้าพระยาครับ เป็นพื้นที่แนวราบที่ไม่ส่งผลกระทบเรื่องวิวนัก

มาต่อกันที่ฝั่งด้านหน้าโครงการครับ เดินริมถนนจรัญสนิทวงศ์ฝั่งมุ่งหน้าไปยังสะพานพระราม 7 นะครับ ถัดจากซอยเล็กๆข้างโครงการเมื่อสักครู่นี้มาก็จะมีแนวอาคารตึกแถว 2 ชั้น ยาวตามแนวถนนไปครับ

ถัดมาอีกจะเป็นซอยด้านข้างครับ ภายในซอยจะเป็นซอยตันส่วนบุคคล หัวมุมมีไซต์ก่อสร้างอยู่ เริ่มจะมีเค้าโครงให้เห็นกันบ้างแล้วล่ะ เป็นตึกเมืองไทย แคปปิตอล อาคารสำนักงานที่มีกำหนดสร้างเสร็จที่ประมาณปีหน้านะครับ

เดินต่อมา ด้านข้างมีล้อมรั้วอยู่ ซึ่งมีแนวทางเดินขนาด 2-3 เมตร อยู่ด้านหน้าครับ

ถัดมาจากตัวโครงการประมาณ 100 เมตร จะมีสะพานลอยที่สามารถใช้ข้ามฝั่งไปยังฝั่งตรงข้ามได้ เป็นสะพานลอยที่มีไฟส่องสว่างให้พร้อมทั้ง CCTV รักษาความปลอดภัย แต่ไม่มีหลังคาคลุมให้นะครับ สำหรับใครที่ต้องใช้เป็นประจำแนะนำให้พกร่มด้วยก็ดีครับผม

ด้วยระยะประมาณ 100 เมตร จากบนสะพานลอยก็มองเห็นพื้นที่โครงการด้วยครับ

ส่วนอีกฝั่งบนถนนจะเห็นได้ว่ามีช่องสำหรับกลับรถ แต่ถูกปิดไว้ ซึ่งในอนาคตอาจจะเปิดใช้งาน ก็ทำให้เราสามารถกลับรถเข้าโครงการได้ใกล้ขึ้นนะครับ (ไม่ต้องไปกลับใต้ MRT บางพลัด)

ส่วนอีกฝั่งของถนนจะเห็นได้ว่ามีซอยที่เป็นวัดนั่นคือซอยจรัญฯ 79 เป็นอีกหนึ่งซอยที่ค่อนข้างคึกคักเลย เดี๋ยวผมจะพาไปชมบรรยากาศภายในซอยกันอีกทีนะครับ

ส่วนอีกฝั่งที่เป็นทางลงจะมี 7-Eleven ให้บริการด้วย ตรงนี้จะมีจุดป้ายรถประจำทางด้วยนะครับ

ย้อนกลับมายังฝั่งของโครงการเรา จะมีจุดสำหรับรอรถประจำทาง ซึ่งจะมีเต็นท์กางไว้ให้ สำหรับนั่งคอยรถ มีคนมาใช้เป็นประจำครับ

นอกจากรถประจำทางสาย 18,110,175,203,ปอ.18,ปอ.170,ปอ 203 ก็ยังมีรถกระป๊อสีเขียวสาย บางพลัด-เซนทรัลปิ่นเกล้า-ชัยพฤกษ์ ให้บริการด้วยเช่นกัน

ถัดมาติดๆกันเลย จะเป็นซอยจรัญสนิทวงศ์ 72 เป็นซอยใหญ่ที่เข้าไปถึงแม่น้ำเจ้าพระยาเลย ที่สำคัญภายในมีจุดของท่าเรือที่ใกล้กับโครงการที่สุดด้วย เข้าไปชมกันครับ

ด้วยความที่เป็นโครงการริมแม่น้ำ ก็จะขาดไปไม่ได้เลยในส่วนของการเดินทางด้วยเรือ ซึ่งโครงการของเราก็มีให้ใช้บริการกันเหมือนกันไม่ไกลครับ ติดกับส่วนของสะพานลอยเมื่อสักครู่นี้เลย ให้เราเลี้ยวขวาเข้าซอยจรัญสนิทวงศ์ 72 เข้าไปด้านในประมาณ 350 เมตร ซึ่งสำหรับใครที่ไม่อยากเดินไกล หน้าปากซอยก็มีพี่วินมอเตอร์ไซค์ให้บริการด้วย ภายในผ่านวัดอาวุธวิกสิตาราม จะเจอกับสวนเฉลิมพระเกียรติ 48 พรรษา ด้านใน และถัดไปยังส่วนติดกับแม่น้ำเจ้าพระยาก็จะมีท่าเรือวัดอาวุธวิกสิตารามให้บริการด้วย

หน้าปากซอยจรัญสนิทวงศ์ 72 มีพี่วินมอเตอร์ไซค์ให้บริการด้วย ซึ่งสำหรับใครที่ไม่อยากเดิน จะนั่งเข้าไปภายในก็เพียง 5 บาทเท่านั้นเอง

บริบทภายในซอยนี้จะเป็นถนนที่ถูกดูแลอย่างดีของโครงการภายใน ซึ่งจะมีแนวบ้านพักอาศัยด้านข้างด้วย เป็นร้านค้าและร้านอาหารบ้าง เป็นชุมชนริมวัดแบบที่มีให้เห็นกันบ่อยๆ

ถัดมาจะมีวัดอาวุธวิกสิตาราม เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “วัดบางพลัดนอก” เป็นวัดเก่าแก่ในย่านนี้ซึ่งมีอายุประมาณกว่า 200 ปีได้แล้ว เป็นวัดที่มีชื่อเสียง

ภายในมีการดูแลจัดการอย่างสวยงาม เป็นวัดที่มีขนาดพื้นที่กว้าง ค่อนข้างคึกคักตามวันสำคัญทางศาสนา

เลยวัดมาตามทางเลยจะมีชุมชน ร้านค้าตามแนวทาง รวมถึงที่จอดรถของผู้ที่เข้ามาวัดด้วยเช่นกัน

ด้านในจะเป็นสวนเฉลิมพระเกียรติ 48 พรรษา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี

ด้านหลังของสวนแห่งนี้จะมีศาลาเล็กๆ เชื่อมต่อไปยังท่าเรือของวัดอาวุธวิกสิตารามครับ

ท่านี้จะเป็นแค่ท่าเรือข้ามฟาก เปิดเวลา 5.30 – 20.00 น.  ซึ่งจะมีค่าบริการอยู่ที่ 5 บาท เมื่อข้ามไปแล้วจึงสามารถต่อขึ้นเรือด่วนเจ้าพระยาได้ที่ท่าพายัพนะครับ

เป็นท่าเรือที่มีขนาดไม่ได้ใหญ่มากนัก เพราะไม่ได้มีผู้ใช้งานเยอะ แต่ก็จัดว่าสะดวกเช่นกันนะครับ

ด้านข้างจะมองเห็นแนวท่าน้ำของวัด และตัวโครงการในอนาคตได้จากมุมนี้ด้วยเช่นกัน

ออกมาจากซอยจรัญสนิทวงศ์ 72 เดินตรงต่อไปทางสะพานพระราม 7 ครับ จะมีแนวทางเดินขนาดประมาณ 2.5 เมตร พร้อมแนวต้นไม้ ช่วยบังแดดได้บ้างในช่วงกลางวัน

ถัดมาจะมีสะพานข้ามคลองเล็กๆ ซึ่งจะมีทางเดินเลียบคลองเข้าไปด้านในด้วยนะครับ ส่วนมากถูกใช้เป็นเส้นทางของชุมชนพักอาศัยแถวนี้

ถัดมาจะมีแนวอาคารที่เปิดเป็นร้านค้าต่างๆอยู่อีกช่วงเล็กๆ และเริ่มจะมองเห็น MRT สถานีบางพลัดกันได้บ้างแล้วนะจากตรงนี้

ถัดมาจะเจอกับ MRT สถานีบางพลัด ซึ่งปัจจุบันยังไม่ได้เปิดให้ใช้บริการนะครับ จะเปิดในช่วงเดือนมีนาคม ปี 2563 ซึ่งการมาของรถไฟฟ้าจะช่วยให้พื้นที่นี้เดินทางได้สะดวกมากยิ่งขึ้น แก้ปัญหารถติดได้ไม่มากก็น้อย รวมถึงจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการดึงดูดความเจริญให้เข้ามาบนถนนสายเก่าแก่เส้นนี้ด้วยเช่นกัน

วนไปดูอีกฝั่งของพื้นที่โครงการกันบ้างครับ ด้านข้างที่ติดกันเลยจะเป็นแนวอาคารตึกแถว 4 ชั้น ซึ่งปัจจุบันไม่ได้มีการเปิดเป็นร้านค้าอะไรนะครับ

ส่วนนี้ก็จะมีแนวทางเดินด้านหน้าขนาดพอๆกันกับฝั่งทางไปสะพานพระราม 7 ช่วงนี้มีการก่อสร้างและฝนตกบ่อย สภาพเลยอาจจะดูไม่ค่อยเรียบร้อยหน่อยนะครับ ในอนาคตน่าจะมีการจัดการให้ดูเรียบร้อยมากขึ้นนะ

ถัดมาจะเป็นบ้านพักอาศัยส่วนบุคคล มีแนวต้นไม้เรียงตลอดแนวทางเดินให้ด้วย

ถัดมาอีกจะเจอกับธนาคารกรุงเทพ สาขาจรัญสนิทวงศ์ ซอย 70/2 ครับ

เลยมาจะมีบ้านพักอาศัยส่วนบุคคล และเริ่มเห็น Tesco Lotus อยู่ถัดไปแล้วนะครับ

ติดๆกันเลยจะมี Tesco Lotus จรัญสนิทวงศ์ ให้ใช้บริการ ซึ่งจะมีระยะห่างจากตัวโครงการเราประมาณ 140 เมตร เป็นระยะเดินที่สามารถเดินได้สะดวก ไม่ไกลจนเกินไปสำหรับการออกมาหาอะไรทาน หรือซื้อกับข้าวกลับบ้าน แต่ถ้าซื้อของเยอะก็อาจจะกลับลำบากหน่อย แนะนำให้ใช้รถยนต์ส่วนตัววนมาก็ไม่ลำบาก

ภายในก็อย่างที่ทุกท่านทราบว่าเป็นแหล่งจับจ่ายสินค้าขนาดใหญ่ทั้งของสดและของแห้ง ของใช้ภายในบ้าน รวมถึงมีร้านอาหารชั้นนำหลายร้าน ธนาคาร และร้านค้าต่างๆ โดยที่นี่จะเปิดบริการทุกวัน 8.00 – 22.00 น.

ออกมาจาก Tesco Lotus เลยมาที่ซอยจรัญสนิทวงศ์ 66/1 ภายในจะมีร้านข้าวมันไก่โง้วชุ้งฮวด เป็นข้าวมันไก่ไหหลำ ที่เป็นเจ้าเดียวกับหน้าศาลเจ้าพ่อเสือ ซึ่งเปิดมานานหลายสิบปีแล้ว สำหรับร้านนี้จะเปิดบริการทุกวันตั้งแต่เช้ามืด จนถึงประมาณบ่ายสองก็ขายหมดแล้วล่ะครับ

ส่วนตัวผมชอบนะครับ ข้าวมันหอมกำลังดี ไก่นุ่ม ไก่กรอบก็กรอบดี น้ำจิ้มกลมกล่อมมีพริกและขิงให้ตามสูตร และมีชาจีนให้บริการด้วย

ถ้าขับเลยออกมาจะพบกับทางให้เลือกบนถนน ถ้าชิดขวาจะลงอุโมงค์ลอดใต้แยกบางพลัด ไม่ต้องติดไฟแดง แต่ถ้าชิดซ้ายก็จะสามารถตรงไปเพื่อกลับรถได้ หรือจะตรงต่อไปที่แยกบางพลัดจะสามารถเลี้ยวซ้ายขึ้นสะพานกรุงธนฯ(ซังฮี้) หรือเลี้ยวขวาเข้าถนนสิรินธร หรือจะตรงต่อไปบนถนนจรัญสนิทวงศ์ก็ได้ครับ แต่ต้องติดไฟแดงนะครับ

ผมเลี้ยวซ้ายมานะครับ บริเวณนี้จะมีจุดกลับรถ ซึ่งจะห่างจากตัวโครงการประมาณ 1.1 กิโลเมตรครับ

เมื่อกลับรถมาแล้วตรงมาอีกหน่อยจะพบกับซอยจรัญสนิทวงศ์ 75 ที่ผมยกขึ้นมาเพราะเป็นซอยที่สามารถลัดเลาะไปทะลุออกถนนสิรินธรได้ครับ ภายในซอยจะมีบริบทเป็นชุมชนพักอาศัย มีร้านค้าร้านอาหารกระจายอยู่ภายในซอย รวมถึงมี 7-Eleven และ Tesco Lotus Express ด้วยเช่นกัน

เลยมาอีกจะเป็นฝั่งตรงข้ามโครงการ มองเห็นพื้นที่และขนาดได้ชัดเจนนะครับ

ส่วนฝั่งตรงข้ามโครงการที่เป็นแนวตึกแถว 2 ชั้น และจะมีช่องว่างที่เป็นร้านสนุ๊กเกอร์ตรงกับตัวโครงการพอดีครับ

ลองเดินไปดูฝั่งแยกบางพลัดที่เราพึ่งกลับรถผ่านกันมาดูก่อนนะครับ ด้านข้างจะเป็นแนวอาคารตึกแถว 2 ชั้น ส่วนมากจะเป็นพื้นที่พักอาศัยของคนในพื้นที่และด้านล่างเปิดเป็นร้านค้า

ถัดมาอีกจะมีซอยส่วนบุคคลสำหรับเปิดเป็นบ้านและร้านค้า และมีอาคารธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาบางพลัด ตั้งอยู่ด้วย

ติดๆกันจะเป็นพื้นที่ว่างโล่งที่ล้อมรั้วไว้ ซึ่งภายในก็มีขนาดค่อนข้างกว้างเลย ยังไม่มีโครงการที่จะเกิดขึ้นนะครับ แต่ในอนาคตก็ไม่แน่นะ

เดินต่อไปริมถนนจรัญสนิทวงศ์ฝั่งตรงข้ามโครงการ มุ่งหน้าไปทางสะพานพระราม 7 นะครับ จะมีแนวอาคารตึกแถว 2 ชั้นเช่นกัน

ทางฝั่งด้านนี้จะมีความคึกคักมากกว่า เพราะใกล้กับซอยจรัญฯ 79 และตัวรถไฟฟ้าสถานีบางพลัด

บริเวณปากซอยจรัญสนิทวงศ์ 77/3 ก็จะมีร้านอาหารใต้ที่ขึ้นชื่อของย่านนี้อยู่ด้วยนะครับ ตอนช่วงกลางวันคนนี่เต็มร้านเลย แล้วก็เช่นเคยครับได้มีโอกาสเข้าไปลิ้มลอง

รสชาติจัดจ้านสมกับเป็นอาหารใต้ มีกับข้าวให้เลือกหลากหลายทั้งข้าวและขนมจีน มีผักและน้ำพริกกะปิให้บริการฟรี คุณป้าก็บริการดีน่ารักกันทุกคน ที่สำคัญคือราคาไม่แพงเลยครับ

ถัดมาจะเจอกับ 7-Eleven และสะพานลอยเหมือนที่เราเดินขึ้นไปดูกันที่ฝั่งตรงข้ามนะครับ

ถัดมาอีกก็มีร้านราดหน้ายอดผักบางพลัดและร้านอาหารตามสั่งให้เป็นตัวเลือกอีกด้วยครับ

เลยมาอีกหน่อยจะเป็นซอยจรัญสนิทวงศ์ 79 ภายในซอยนี้จะมีวัดบางพลัด, โรงเรียนวัดบางพลัด, วัดจันทราราม และศูนย์ฝึกวิชาชีพกรุงเทพ เขตบางพลัด จึงทำให้ซอยนี้เป็นซอยที่ค่อนข้างคึกคัก สังเกตได้จากร้านค้าและร้านอาหารภายใน รวมถึงคอนโด Low Rise ที่ขึ้นภายในซอย ทั้งที่สร้างเสร็จแล้วและกำลังก่อสร้างอยู่ ที่หน้าปากซอยมีพี่วินให้บริการด้วยครับ

สำหรับวันนี้ที่พามาเดินชมกันบนถนนจรัญสนิทวงศ์ช่วง จรัญฯ-บางพลัด รอบๆโครงการ IDEO จรัญฯ70-ริเวอร์วิว กันประมาณนี้นะครับ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้กับคนที่กำลังมองหาคอนโดในย่านนี้ไม่มากก็น้อย

แถมอีกหน่อยนะครับสำหรับสถานที่เดินเล่นในละแวกนี้.. ช่วงกลางวันลองไปเดินเล่นช่างชุ่ย กันดูครับ ตลาดที่มีพื้นที่กว่า 11 ไร่ในย่านฝั่งธนฯ ภายในรวมงานศิลปะทั้งหลายแขนง แฟชั่น และของกินมากมาย จุดเด่นหลักๆเลยของที่นี่คือมีเครื่องบินลำใหญ่จอดอยู่ภายใน นอกจากจะเป็นแหล่งช็อปปิ้ง กิน เที่ยว แล้วภายในยังมีพื้นที่สำหรับจัดแสดงงาน ไม่ว่าจะเป็นนิทรรศการ หรือคอนเสิร์ต สำหรับใครที่ชอบสถานที่แนวๆ ชมงานศิลปะ แวะมากันได้นะครับ

ส่วนกลางคืนขอแนะนำตลาดอินดี้ ปิ่นเกล้า ตั้งอยู่บนถนนจรัญสนิทวงศ์ ช่วงปากซอยจรัญฯ 51 ซึ่งก็ไม่ไกลจากตัวโครงการเราเท่าไหร่นะครับ ภายในจะมีทั้งของกิน เสื้อผ้าแฟชั่น ร้านนั่งชิลและดนตรีสด รวมถึงพื้นที่นั่งเล่นบรรยากาศดีๆอีกมากมาย มาพร้อมที่จอดรถและที่สำคัญคือติดกับ MRT สถานีบางยี่ขัน ซึ่งจะเปิดใช้งานในเดือนมีนาคม ปี 2563 พร้อมกันกับสถานีบางพลัดใกล้โครงการของเราครับ

สรุปทำเลปิดท้าย

ทำเลโครงการ IDEO จรัญฯ 70 – ริเวอร์วิว ตั้งอยู่บนถนนจรัญสนิทวงศ์ ทำให้สังเกตเห็นได้ไม่ยากและใช้งานรถสาธารณะได้สะดวก ตัวโครงการตั้งอยู่ที่ซอยจรัญฯ 70 ซึ่งเป็นช่วงระหว่างแยกบางพลัดกับสะพานพระราม 7 เดินทางได้ง่าย เพราะใกลักับสะพานทั้ง 3 แห่ง คือ สะพานพระราม 7, สะพานกรุงธนฯ(ซังฮี้) และสะพานพระราม 8 แถมยังใกล้กับทางพิเศษศรีรัชใช้เข้าเมืองและออกรอบนอกได้สะดวก นอกจากนั้นยังมีการมาถึงของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายสายบางซื่อ-ท่าพระ สถานีบางพลัดซึ่งห่างจากตัวโครงการประมาณ 300 เมตร และอีกหนึ่งความพิเศษของทำเลช่วงนี้คือจะได้รับวิวแม่น้ำเจ้าพระยา และมีการเดินทางด้วยเรือมาให้ใช้บริการเป็นตัวเลือกอีกด้วย โดยมีระยะห่างจากท่าเรือข้ามฝากประมาณ 490 เมตร ส่วนการเดินทางสาธารณะอื่นๆก็ใช้งานได้ไม่ยาก เพราะมีป้ายรถประจำทางและสะพานลอย (ป้ายรถประจำทางฝั่งตรงข้ามก็อยู่ตรงตีนสะพานลอยเช่นกัน) อยู่ในระยะประมาณ 100 เมตร สำหรับความอุดมสมบูรณ์ก็มีร้านค้าร้านอาหารกระจายอยู่รอบๆ ส่วนใหญ่จะอยู่ทางฝั่งตรงข้ามโครงการซึ่งก็ข้ามไปได้ไม่ยาก แต่ที่สำคัญคือมี Tesco Lotus จรัญสนิทวงศ์อยู่ห่างจากตัวโครงการเพียง 140 เมตร เป็นระยะที่สามารถเดินไปจับจ่ายใช้สอยหรือหาของกินได้สะดวก

สำหรับใครที่สนใจสามารลงทะเบียนได้ที่ IDEO จรัญฯ70-ริเวอร์วิว และหากโครงการเปิดตัวให้ได้ชมห้องตัวอย่างแล้ว ทางทีมนักเขียน Think of Living เราจะไปเก็บข้อมูลมาฝากกันต่อนะครับ 🙂


ติดตามพวกเราได้ที่
Website : www.thinkofliving.com
Twitter : www.twitter.com/thinkofliving
YouTube : www.youtube.com/ThinkofLiving
Instagram : www.instagram.com/thinkofliving
Facebook : ThinkofLiving