รีวิวโครงการ

BoomTharis l คอนโดหรูแห่งใหม่ติดถนนสีลม : Ashton Silom

28 เมษายน 2019

อ่านรีวิวล่าสุด

รีวิวฉบับที่ 962 สวัสดีค่ะวันนี้เราจะพาไปเดินชมทำเลโครงการ Ashton Silom คอนโด High Rise 48 ชั้น ซึ่ง Ashton ตัวนี้ Ananda ทำออกมาเป็นตัวที่ 6 แล้วจากตระกูลคอนโด Ashton ทั้งหมด โครงการตั้งอยู่บนถนนสีลม ใกล้กับแยกสีลม-นราธิวาส ห่างจาก BTS ช่องนนทรี 350 เมตร เป็นระยะที่เดินได้ไม่ลำบากนัก ทำเลนี้มีความโดดเด่นในเรื่องการมีอาคารสำนักงาน ศูนย์การค้า โรงแรม เป็นแหล่ง CBD อันดับต้นๆของประเทศ ความน่าสนใจอีกอย่างหนึ่งคือชิ้นที่ดินติดกับถนนใหญ่สีลมที่แทบไม่ค่อยจะมีคอนโดตั้งอยู่ให้เห็นสักเท่าไหร่ เดี๋ยวเราจะไปทำความรู้จักทำเลของโครงการนี้พร้อมๆกันค่ะ 🙂

Fact @ 11 November 2015

  • Ashton Silom (แอชตัน สีลม)
  • อนันดา ดีเวลลอปเมนท์
  • N/A CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ใน : เขตบางรัก ถนนสีลม ห่างจาก BTS ช่องนนทรีประมาณ 350 เมตร
  • คอนโด High Rise 48 ชั้น 1 อาคาร 428 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด n/a ยูนิตที่อาคาร n/a
  • ที่จอดรถประมาณ n/a คันคิดเป็น n/a% รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น n/a%
  • ที่ดินประมาณ n/a ไร่
  • เปิดตัวอย่างเป็นทางการ : ต้นปี 2559
  • 1 Bedroom 31 – 48 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น n/a ล้านบาท
  • 2 Bedrooms 71 – 86 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น n/a ล้านบาท
  • ฝ้าเพดานสูง n/a เมตร , แบบ 2 Bed สูง 3.60 เมตร
  • ราคาห้องเริ่มต้น n/a ล้านบาท
  • EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : อยู่ระหว่างดำเนินการ
  • เพิ่มเติมข้อมูลทำเลรอบๆ BTS ช่องนนทรี ได้ที่ : มองหาทำเลน่าอยู่รถไฟฟ้า BTS ช่องนนทรี
  • Call Center : 02 316 2222

 

ทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.726391, 100.526828

Mapโครงการ

แผนที่โครงการ Ashton Silom จะเห็นว่าโครงการตั้งบนถนนสีลม ห่างจากรถไฟฟ้า BTS ช่องนนทรีประมาณ 350 เมตร อยู่ในทำเลที่ตั้งที่เรียกได้ว่าย่านใจกลางธุรกิจเลย เพราะอยู่ใกล้แยกสีลม-นราธิวาส ซึ่งเป็นแยกที่ตัดระหว่างถนนสีลม และ ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ ตัวสำนักงานขายจะตั้งอยู่บนที่ดินของตัวโครงการ เส้นทางการเดินทางด้วยรถยนต์ในบริเวณนี้จะมีปัญหาหลักๆอยู่ 2 อย่างคือ ถนนหลายเส้นเป็น One Way และรถติดมาก ดังนั้นการเดินทางเข้า-ออกโครงการที่สะดวกที่สุดจะหนีไม่พ้นการใช้บริการรถไฟฟ้า BTS

Ashton สีลม (1)

 มาทำความรู้จักสีลมกันก่อน  🙂

  “ถนนสีลม” นั้นถูกสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4 พร้อมๆ กับถนนเจริญกรุง ถนนบำรุงเมือง และถนนเฟื่องนคร เดิมเรียกชื่อว่า “ถนนขวาง” เพราะเป็นคันดินที่เกิดจากการขุดคลองเพื่อเชื่อมคลองบางรักกับคลองถนนตรง คันดินจึงกลายเป็นถนนที่เรียกกันว่าถนนขวาง และต่อมาชาวต่างชาติได้นำเครื่องสีลม หรือกังหันลมซึ่งใช้สำหรับการวิดน้ำมาติดตั้งไว้ จนกลายเป็นสัญลักษณ์และเป็นชื่อเรียกของถนนสีลมมาจนถึงปัจจุบัน ความเปลี่ยนแปลงของถนนสีลมได้พัฒนามาเรื่อยๆจนทุกวันนี้ ที่ถนนสีลมเรียกได้ว่าเป็น “วอลล์สตรีตของกรุงเทพฯ” เพราะมีทั้งอาคารสำนักงานให้เช่า โรงแรม สำนักงานใหญ่ของธนาคาร ศูนย์การค้า ร้านอาหารนานาชาติที่มีให้เลือกหลากหลาย สถานบันเทิงอย่างเช่น ย่านพัฒน์พงศ์ ธนิยะพลาซ่าและมีตลาดกลางคืนที่คึกคักรองรับทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ ความเจริญเติบโตที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ได้สร้างมูลค่าเพิ่มให้ที่ดินในย่านสีลมเป็นอย่างมาก จนตอนนี้ใครซื้อที่ดินสีลมได้นี่เรียกว่าต้องเข้าขั้นเถ้าแก่เนี๊ยะ เพราะตอนนี้ที่ดินสีลมเป็นที่ดินที่แพงที่สุดในประเทศแล้วหละค่ะ

โดยข้อมูลจากกรมธนารักษ์ที่ประเมินราคาที่ดินใหม่ พบว่าที่ดินที่มีราคาประเมินแพงที่สุดคือพื้นที่ในย่านสีลม มีราคาประเมินอยู่ที่ราคาตารางวาละ 1 ล้านบาทรองลงมาคือราชดำริ มีราคาประเมิน 900,000 บาท ที่ดินตามแนวรถไฟฟ้าปรับเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 75% ถ้าแปลงอยู่ติดสถานีเพิ่มขึ้นประมาณ 100-150% ซึ่งราคาประเมินนี้จะใช้ไปอีก 4 ปี ข้างหน้าคือในปี 2559-2562

Map Ashton ถนนสีลม

มาถึงตรงนี้เริ่มสงสัยกันไหมคะว่า อะไร? ที่ทำให้ที่ดินย่านสีลมกลายมีราคาแพงลิบลิ่ว เราลองพามารู้จักถนนสีลมไปด้วยกัน

ถนนสีลมมีความยาวประมาณ 2.78 กิโลเมตร เริ่มตั้งแต่ถนนเจริญกรุง (แยกบางรัก) ไปสิ้นสุดที่ถนนพระรามที่ 4(แยกศาลาแดง) เป็นถนนสำคัญสายแรกที่เดินสายไฟฟ้าและสายโทรศัพท์ไว้ใต้ดิน จากแผนที่จะเห็นว่าโครงการอยู่กึ่งกลางของถนนสีลมใกล้กับแยกสีลม-นราธิวาส ซึ่งเป็นแยกที่ตัดระหว่างถนนสีลมและถนนนราธิวาสราชนครินทร์ โดยถนนทั้งสองเส้นนี้เป็นถนนใหญ่ที่มีอาคารสำนักงาน อาคารพักอาศัย และศูนย์การค้าใหญ่ๆตลอดเส้น โดยทางฝั่งถนนสีลมครึ่งบนไล่มาตั้งแต่แยกบางรักจนถึงแยกสีลม-นราธิวาส จะมีอาคารสำนักงานอยู่บ้าง และมีแหล่งชอปปิ้งเล็กๆน้อยๆ อย่าง Silom Villege, Silom Plaza และ Villa Market โซนนี้เหมาะกับอยู่อาศัยเพราะสงบ ไม่พลุกพล่านมากนัก

ส่วนสีลมครึ่งล่างไล่มาตั้งแต่แยกสีลม-นราธิวาส จนถึงแยกศาลาแดง จะมีความอุดมสมบูรณ์สูงและเป็นโซนที่เรียกว่าเป็น CBD ได้เต็มปากเพราะมีอาคารสำนักงานค่อนข้างหนาแน่น มีธนาคารสำนักงานใหญ่และย่อยรองรับเกือบทุกธนาคาร มีศูนย์การค้าอย่าง Silom Complex, ตลาดสีลม, ตลาดละลายทรัพย์ให้หนุ่มสาวออฟฟิศช้อปปิ้งแก้เครียดตอนกลางวัน และในยามค่ำคืนก็มีตลาดกลางคืนพัฒน์พงศ์, ธนิยะพลาซ่า ที่จะเน้นขายของที่ระลึกให้กลุ่มชาวต่างซะเป็นส่วนใหญ่ และไม่ใช่มีแค่ตลาดให้ซื้อของเท่านั้น ในซอยพัฒน์พงศ์ 2 และซอยธนิยะยังมีสถานบันเทิงที่ขึ้นชื่อ ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติโดยเฉพาะชาวญี่ปุ่น หากใครจะมาอยู่อาศัยบนถนนสีลมโซนนี้คงอยู่ยากหน่อยเพราะพลุกพล่าน ชาวต่างชาติเยอะ ไม่ค่อยสงบ เหมาะกับการทำธุรกิจหรือมาเที่ยวเป็นครั้งคราวมากกว่า  ที่หัวมุมถนนสีลมตรงแยกศาลาแดงมีโรงแรมดุสิตธานี ที่เป็นโรงแรมหรูและเก่าแก่ พอข้ามถนนไปทางฝั่งถนนราชดำริ ก็มี “สวนลุมพินี” สวนสาธารณะที่เรียกได้ว่าเป็นปอดขนาดใหญ่ใจกลางกรุงเทพ

จากแผนที่จะเห็นได้ชัดว่าบนถนนสีลมทั้งเส้นแทบไม่มีอาคารสร้างใหม่ที่เป็นคอนโดเลย  อย่างมากก็มีแค่โรงแรม หรือ Hostel ที่ใช้การรีโนเวทอาคารพาณิชย์มาทำเป็นที่พัก นอกนั้นก็เป็นอาคารสำนักงานและศูนย์การค้า ซึ่งเป็นอสังหาริมทรัพย์ที่ลงทุนแล้วได้ค่าตอบแทนแน่นอน เนื่องมากจากเหตุผลเดียว “ที่ดินมีราคาแพง” การสร้างคอนโดจึงต้องใช้ทุนค่อนข้างหนา อย่างโครงการ M Silom ที่อยู่ใกล้ๆกันก็จะค่อนๆไปทางถนนนราธิวาสไม่ได้อยู่บนถนนสีลม ดังนั้นที่ดินของ Ashton Silom จึงเป็นคอนโดอาคารเดียวที่เกิดขึ้นมาในรอบหลายปีบนที่ดินติดกับถนนสีลมค่ะ

Overall-map

เรามามองทำเลในมุมกว้างกันบ้าง ทำเลนี้เรียกได้ว่าอยู่ในย่านใจกลางธุรกิจของกรุงเทพฯอย่าง สีลม และอยู่ใกล้ สาทร ถ้าใครที่ทำงานอยู่แถวนี้ออกจากโครงการก็สามารถเดินไปทำงานได้เลย รอบๆโครงการรายล้อมไปด้วย อาคารสำนักงาน ธนาคาร ศูนย์การค้า ร้านค้า โรงแรม มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันและเป็นพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์สูง เป็นแหล่งรองรับหนุ่มสาวออฟฟิศ และ นักท่องเที่ยวจำนวนมาก สำหรับโปรเจคใหญ่ๆที่กำลังขึ้นอยู่ในตอนนี้คือ โครงการมหานคร อาคารสูง 77 ชั้น ที่อยู่บนถนนนราธิวาสราชนครินทร์ติดกับ BTS ช่องนนทรี ห่างจากโครงการ 350 เมตร เมื่อสร้างเสร็จแล้วจะกลายเป็นตึกที่สูงที่สุดในประเทศไทยแทนที่ตึกใบหยก

และเนื่องจากความเพียบพร้อมทุกอย่างของทำเลนี้ จึงมีความหนาแน่นของประชากรที่เข้ามาทำงาน พักอาศัยหรือมาท่องเที่ยวสูงตามไปด้วย ในช่วงเวลาเร่งด่วนรถจึงติดมากๆ โดยเฉพาะถนนสีลม และ สาทร ที่ติด 1 ใน 10 ของถนนที่รถติดที่สุดในกรุงเทพฯ  หากต้องใช้เดินทางด้วยรถต้องตื่นเช้ามากๆ การเดินทางด้วยรถไฟฟ้าจึงสะดวกกว่าซึ่งมีให้เลือกทั้งรถไฟฟ้าบนดิน , ใต้ดิน และ BRT

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • 350 เมตร จากสถานีรถไฟฟ้า BTS ช่องนนทรี
  • จาก BTS ช่องนนทรีไป 3 สถานี สู่ สยามพารากอน, สยามเซ็นเตอร์ และเซ็นทรัลเวิร์ล
  • ใกล้โรงพยาบาลเช่น โรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน, โรงพยาบาลเซ็นหลุยส์, โรงพยาบาล Bangkok Nursing Home (BNH) และ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
  • ใกล้สถานฑูตที่สำคัญ เช่น สถานทูตออสเตรเลีย สถานทูตฝรั่งเศส สถานทูตมาเลเชีย และสถานทูตสิงค์โปร์
  • ใกล้สถาบันทางวัฒนธรรม เช่น  Alliance Française, Goethe-Institut Thailand ถนนสาทร ซอย 1
  • สถาบันการศึกษาชั้นนำ เช่น โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน, โรงเรียนเซนต์โยเชฟคอนเวนต์, โรงเรียนอัสสัมชัญ, Shrewsbury International School, และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
  • โรงแรมห้าดาว อาทิเช่น โรงแรมดุสิตธานี, โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล, โรงแรมแชงกรีล่า, โรงแรมสุโขทัย, โรงแรมบันยันทรี และโรงแรมดับเบิ้ลยู กรุงเทพฯ
  • อาคารสำนักงาน อาทิเช่น Empire Tower, Sathorn Square, Bangkok City Tower, Standard Chartered, AIA Sathorn และ สำนักงานใหญ่ธนาคารกรุงเทพ เป็นต้น

Ashton silom การเดินทางด้วยรถ

การเดินทางถ้าใช้รถสามารถเข้าออกได้หลายเส้นทาง แต่จะติดอยู่ที่รอบๆโครงการมีทาง one way ค่อนข้างเยอะ  การเข้าถึงโครงการหลักๆคือสามารถเข้าได้จากถนนสีลมโดยตรง และสามารถเข้าจากถนนหลายเส้น ดังนี้

  • หากมาจากถนนเจริญกรุง ผ่านแยกบางรักตรงมาเรื่อยๆ แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าโครงการได้เลย
  • หากมาจากถนนสาทร ให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนนราธิวาสราชนครินทร์ ผ่านแยกสีลม-สาทร เลี้ยวซ้ายเข้าถนนสีลม แล้วไปกลับรถตรงแยกเดโช ขับตรงมาเรื่อยๆก็จะเจอโครงการอยู่ทางซ้ายมือค่ะ
  • หากมาจากถนนสุรวงศ์ เป็นทาง One way วิ่งจากถนนพระราม 4 ไปทางถนนมเหสักข์ได้เท่านั้น โดยหากใครมาจากเส้นทางนี้ให้ใช้ทางลัดเลี้ยวเข้าทางถนนเดโช ผ่านแยกเดโชแล้วเลี้ยวซ้าย ตรงมาเรื่อยๆก็จะเจอโครงการอยู่ทางซ้ายมือค่ะ
  • หากมาจากถนนพระราม 4 สามารถเข้าได้จากทางถนนสุรวงศ์ หรือถนนสีลมก็ได้ โดยหากเข้าทางถนนสีลม(แยกศาลาแดง) ให้ตรงมาเรื่อยๆแล้วไปยูเทิร์นที่แยกเดโช ส่วนถ้าเข้าทางถนนสุรวงศ์ (แยกอังรีดูนัง) ให้ตรงมาเรื่อยๆแล้วเข้าทางถนนเดโชได้ค่ะ ขอแนะนำว่าการจราจรบนถนนสุรวงศ์จะติดขัดน้อยกว่าบนถนนสีลมอยู่สักหน่อยนะ

แม้ว่าโครงการจะสามารถเชื่อมต่อไปยังถนนต่างๆได้หลายสาย แต่จะมีความลำบากตรงที่การจราจรติดขัดมาก มีถนน one way และจุดห้ามเลี้ยวอยู่หลายจุด ซึ่งถ้าพลาดก็จะทำให้เสียเวลาไปวนกลับรถได้  อย่างเช่น ถ้ามาจากถนนมเหสักข์จะไม่สามารถเลี้ยวเข้าถนนสุรวงศ์ได้เพราะถนนสุรวงศ์เป็น one way จากแยกอังรีดูนังตลอดทั้งเส้นมาจนถึงแยกมเหสักข์ ต้องเข้าโครงการทางถนนสีลมเท่านั้น หากเลยถนนสีลมไปก็ต้องไปอ้อมถนนสาทร ผ่านถนนนราธิวาส  เข้าถนนสีลมแล้วไปยูเทิร์นที่แยกเดโชจึงจะเข้าโครงการได้ รวมเวลารถติดไปด้วย ก็ถือว่าเสียเวลาไปมากทีเดียว

Ashton silom การเดินทางด้วยรถไฟฟ้าpsd

การเดินทางโดยไม่ใช้รถถือว่าสะดวกมาก เพราะมีให้เลือกทั้ง BTS , MRT และ BRT โดยสถานีรถไฟฟ้าบนดินที่ใกล้คือสถานีช่องนนทรีโดอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 350 เมตร หากใครเหนื่อยไม่อยากเดินก็ลง BTS เสร็จแล้ว สามารถใช้บริการรถแท็กซี่หรือพี่วินได้ เพราะมีผ่านไปผ่านมาเรียกได้ง่ายไม่เปลี่ยว และถัดไปคือสถานีรถไฟฟ้า ศาลาแดง อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 900 เมตร ส่วนสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินที่ใกล้คือ สถานีสีลมโดยสามารถเดิน Sky walk เชื่อมจากสถานีรถไฟฟ้าศาลาแดงได้สะดวก นอกจากนั้นยังมี  BRT สถานีสาทร สำหรับใครที่ต้องเดินทางไปทำธุระย่านพระราม 3 และ ยังมีท่าเรือสาธรเอาไว้ให้ใช้เลี่ยงรถติดกันอีก

สำหรับทางด่วน จากที่ตั้งโครงการสามารถเข้าซอยนราธิวาสฯ2 ไปออกซอย เดโช เลี้ยวขวาไปที่ถนนสุรวงศ์ ตรงไปเรื่อยๆจะเป็นทางด่วน งามวงศ์วาน-แจ้งวัฒนะ

เส้นทาง BTS 3D

ภาพมุมสูงแสดงให้เห็นระยะทางโครงการไป BTS ช่องนนทรีมีระยะทาง 350 เมตร เป็นระยะทางที่ไม่ไกลมาก และเส้นทางก็ไม่ได้ลำบากนัก  หากจะไป BRT ก็เดินผ่าน Skywalk สีเขียวไปแป๊บเดียวก็ถึง (คลิกที่ภาพเพื่อดูภาพขนาดใหญ่)Ashton Silom เส้นทาง1

เส้นทางแรกเราจะเริ่มจาก BTS  ช่องนนทรี ไปดูแปลงที่ดินของโครงการ ผ่านแยกเดโชแล้วเลี้ยวขวาเข้าถนนเดโชจนถึงกลางๆซอยแล้วเลี้ยวขวาเข้าซอยอนุมานราชธน (นราธิวาสฯ 2) เพื่อไปดูตึกรามบ้านช่องของซอยด้านหลังโครงการ  เดินตรงไปเรื่อยๆจนทะลุถนนนราธิวาศราชนครินทร์ เราจะพาขึ้นสะพานลอยข้างหน้าโครงการ M Silom เพื่อดูบรรยากาศมุมสูงของถนนนราธิวาสราชนครินทร์ค่ะ

ต้องบอกก่อนว่าทำเลแถวนี้เป็นทำเลที่มีรายละเอียดค่อนข้างเยอะ อาจจะพาไปดูไม่ได้ทุกส่วน หากใครมีทำเลตรงไหนแนะนำ ก็สามารถแลกเปลี่ยนพูดคุยกันได้นะคะ ^^

BTS ช่องนนทรี เป็นสถานีรถไฟฟ้า BTS  สายสีเขียวสถานีที่ S3 เป็นสถานี Interchange กับ BRT ค่ะ

จากตัวสถานี BTS  ช่องนนทรี หากมองไปจะเห็น BRT สาทร อยู่บริเวณแยกสาทร-นราธิวาส ซึ่ง BRT สถานีนี้ค่อนข้างโดดเด่นด้วยหลังคาโปร่งดีไซน์แปลกตา จากสถานี BTS  ช่องนนทรี เราสามารถไปยังสถานี BRT ได้โดยมี Skywalk เชื่อมต่อกันระหว่าง 2 สถานี

ซึ่ง BRT สาทรนี้เป็นมุมถ่ายรูปยอดฮิตสำหรับถ่ายรูปบัณฑิต,  Pre-wedding,  กรุ๊ปถ่ายภาพ หรือใครผ่านไปผ่านมาก็อดที่จะแวะแช๊ะรูปไม่ได้โดยรถ BRT เป็นโครงการรถโดยสารด่วนพิเศษ (Bus Rapid Transit – BRT) จัดทำและพัฒนาขึ้นเพื่อช่วยแก้ปัญหาจราจร เป็นระบบที่ใช้เทคโนโลยีในการบอกตำแหน่งของยานพาหนะอัตโนมัติ (AVL) จึงจะสามารถทราบเวลาในการรอรถโดยสารสาธารณะได้ การเดินทางด้วย BRT นั้นค่อนข้างเป็นที่รู้จักกันเฉพาะกลุ่ม เนื่องจากเส้นทางโดยสารมีเพียงเส้นทางเดียวคือตั้งแต่ถนนสาทร-พระราม 3 

2bbrt

สำหรับใครที่ยังไม่เคยเห็นหน้าตาของรถโดยสาร BRT จะเป็นสีเหลืองเขียวแบบนี้ โดยจะมีสถานีสำหรับจอดรับผู้โดยสาร ทั้งหมด 12 สถานี ระยะทาง 15.9 กม. เริ่มตั้งแต่สาทร-นราธิวาราชนครินทร์-ถนนพระราม 3 ไปจนถึงราชพฤกษ์ โดยจะไปเชื่อมต่อกับเส้นทางรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว ค่าโดยสารตอนนี้ 5 บาทตลอดสายเท่านั้นเองค่ะ

เราเดินลงมาจากรางรถไฟ จะเห็นป้ายบอกทางออกแต่ละประตู หากต้องการไปยัง BRT สาทรหรือไปบนถนนสาทร ก็ให้เลี้ยวซ้าย ทางออกที่  1, 2 หรือ 5 ส่วนเราจะเลี้ยวขวาเพื่อไปยังถนนสีลมค่ะ

เมื่อเลี้ยวมาแล้ว เราจะเลือกใช้ทางออกที่ 3 นะคะ

เมื่อเลี้ยวมาทางประตูทางออกที่ 3 เราจะเจอทางเข้าเชื่อมตึกอาคารมหานคร คิวบ์ (MahaNakorn CUBE) ตอนนี้กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง

มองไปถนนสีลม

แวะมองออกไปทางด้านถนนสีลม ตรงแยกสีลม-นราธิวาส ตอนบ่ายวันทำงานแบบนี้ การจราจรบนถนนนราธิวาสราชนครินทร์ค่อนข้างโล่ง มองตรงไปสุดทางจะตัดกับถนนสีลม ในอนาคตเมื่อโครงการสร้างเสร็จแล้วหากเรายืนจากตรงนี้เราจะสามารถเห็นตึกของโครงการ Ashton Silom ความสูง 48 ชั้น ที่ถูกขนาบด้วยตึกสูงอย่าง M สีลม คอนโด High Rise สูง 53 ชั้นและ Pullman Bangkok Hotel G โรงแรมสูง 38 ชั้นได้

เดินลงจาก BTS มาจะเจอฟุตบาททางเดินค่อนข้างกว้าง ทางซ้ายมือจะเป็นทางเข้าตึก MahaNakorn CUBE

หากเรามาจาก BTS ช่องนนทรีก็สามารถใช้ทางเดินเชื่อมเข้าอาคารได้เลย แต่หากเดินทางมาด้วยรถยนต์ก็มีจุด Drop Off ให้ส่งคนลงแล้วขับรถไปจอดด้านหลังอาคารได้ ใต้อาคารนี้จะมีของให้ Shopping หลากหลาย

เมื่อมองขึ้นไปด้านบนก็จะเห็นหน้าตาของตึกด้านหลังที่เป็นรูปตัว I แล้วเป็นช่อง CUBE เรียงต่อกันแล้วบิดเป็นเกรียวค่อนข้างโดดเด่น อาคารนี้มีความสูง 77 ชั้น เมื่อสร้างเสร็จแล้ว จะกลายเป็นตึกที่สูงที่สุดในประเทศไทย แทนที่ตึกใบหยกค่ะ

เราเดินต่อไปบนฟุตบาท ตรงนี้มีป้ายรถเมล์ให้ขึ้นรถประจำทางไปต่อได้ด้วย เลียบฟุตบาทไปจะเป็นอาคารพาณิชย์ 3-4 ชั้น ที่ใต้อาคารมีการประกอบกิจการหลากหลายทั้งเปิดเป็นสำนักงาน,  ร้านอาหาร, ร้านขายของทั่วไป จำหน่ายสินค้าและบริการ

เช่นตรงนี้ก็จะมีร้าน Gallery & Ten Shop ร้านขายของจากญี่ปุ่น ข้างๆกันเป็นร้าน Zoom Camera ขายกล้องถ่ายภาพ

ถัดมาเป็นน้ำเต้าหู้หย่งเหอ (永和豆漿) ร้านอาหารจีนสไตล์ใต้หวันที่มีเมนูแนะนำอย่าง เสี่ยวหลงเปา เต้าหู้ไข่เยี่ยวม้า น้ำเต้าหู้ เกี๊ยวซ่า สนนราคาจานละไม่ถึง 100 บาท ร้านเปิดตั้งแต่ 11.00-22.00 น.

น้ำเจ้าหู้

หน้าตาอาหารของร้านน้ำเต้าหู้หย่งเหอ อย่างเสี่ยวหลงเปาหมู หมูสามชั้น เต้าหู้เสฉวน และ เต้าหู้ไข่เยี่ยวม้า หน้าตาน่ากินและสดใหม่เพราะทางร้านทำเต้าหู้เอง ใครเดินลงมาจาก BTS จะเดินไปโครงการแล้วเกิดหิวขึ้นมา ที่นี่ก็เป็นตัวเลือกที่ดีที่หนึ่ง

ร้าน Siam Herb Spa นวดแผนไทย

ฝั่งตรงข้ามกันเป็นไดมอนด์ ทาวเวอร์ (Diamond Tower) คอนโด High Rise  46 ชั้น

เดินต่อไปเราจะเจอป้ายบอกทางสำหรับแยกข้างหน้า หากตรงไปจะไปถนนสุรวงศ์ เลี้ยวขวาไปถนนพระราม 4 ส่วนเลี้ยวซ้ายจะไปถนนเจริญกรุงได้ เดี๋ยวเราจะตรงไปผ่านแยกกันก่อนนะคะ

จากตรงนี้ก็เจอป้าบอกทางหากเลี้ยวซ้ายข้างหน้า จะสามารถไปสถานีตำรวจนครบาลยานนาวา และสถานกงสุลมอลต้าได้

เดินต่อมาเจอครัวเวียต-เว้ เป็นร้านอาหารรสชาติเวียดนามแท้ๆจากเมืองเว้ ประเทศเวียดนาม

เมนูเวียดเว้

เมนูแนะนำของร้านคือ แหนมเนือง , เจ๋หย่อบุ๋น , กุ้งพันอ้อย , ปากหม้อ , เฝอเนื้อ , บ่อบุ๋น ราคาประมาณ 100 – 250 บาท ร้านเปิดทุกวัน 10.00-22.00 น.

ใกล้ๆกันจะมีพี่วินครัวเวียต-เว้ให้บริการอยู่ค่ะ ข้างๆกันเป็น Siam Express บริการส่งของฉับไว

แยกตรงสีลม

เดินมาอีกนิดก็ถึงแยกสีลม-นราธิวาสแล้ว แยกนี้จะเป็นจุดตัดระหว่างถนนสีลมและถนนนราธิวาสราชนครินทร์ โดยแยกนี้

หากตรงไปจะสามารถไปทะลุถนนสุรวงศ์ได้

หากเลี้ยวซ้าย จะเป็นถนนพระราม 4 ที่สามารถไปแยกบางรัก, ถนนเจริญกรุงหรือโซนเมืองฝั่งสาทร

หากเลี้ยวขวา จะเป็นถนนพระราม 4 ที่สามารถไป BTS ศาลาแดง,MRT สีลม, แยกศาลาแดง ที่ไปทะลุถนนพระราม 4 ออกราชดำริได้

ตรงกลางของแยกนี้แยกนี้จะมีประติมากรรมเครื่องสีลมที่สร้างขึ้นใหม่ เป็นสัญลักษณ์ของถนนสีลม

มองไปทางขวามือจะมีทางม้าลายให้เดินไปบนถนนสีลมฝั่งขาออกไปแยกศาลาแดง สามารถเดินไปยัง BTS ศาลาแดง หรือ MRT สีลมได้ โดยเส้นทางนี้จะเป็นเส้นทางที่เราจะพาไปเดินดูทำเลกันในเส้นทางที่ 2 ค่ะ

ข้ามทางม้าลาย

ส่วนเส้นทางนี้เราจะเลี้ยวขวามานิดๆแล้วข้ามทางม้าลายไปยังฝั่งตรงข้ามตรง T Massage & Barber หากมองตรงไปจะเห็นตึกของ M Silom ตั้งตระหง่านอยู่

เมื่อเรามายืนอยู่ที่เกาะกลางแยก มองกลับไปยังถนนสีลม ฝั่งขาออกไปยังสาทร ก็จะเห็นโครงการ Ashton Silom ที่กำลังล้อมรั้วอยู่แล้วค่ะ

ข้ามมาอีกฝั่งหน้า T Massage & Barber จะเป็นฟุตบาทค่อนข้างกว้างเดินได้สบายๆ มองไปข้างหน้ามีพี่วินมอเตอร์ไซค์วินเล็กๆคอยให้บริการ

อัตราค่าโดยสารก็จางๆลงไปบ้างแล้ว แต่จากตรงนี้เดินไปโครงการแค่นิดเดียวเท่านั้นค่ะ

ใกล้ๆกันมีร้านขายของชำที่ลักษณะร้านค่อนข้างเก่าแก่แล้วตั้งอยู่ โดยของที่ขายจะเน้นเป็นพวกเครื่องดื่มซะมากกว่าค่ะ

ถัดมาเป็นร้าน Cafe the India restaurant เมื่อเป็นอาหารอินเดียจึงเห็นลูกค้าส่วนใหญ่ที่แวะเวียนมานั่งจะเป็นคนอินเดีย คนแขกซะมากค่ะ

ซึ่งร้านขายของชำและร้าน Cafe the India นี้จะเป็นร้านหัวมุม เพราะอยู่ต้นซอยเล็กๆที่บรรยากาศภายในซอยจะเป็นบ้านพักอาศัย 3 ชั้น และอาคารพาณิชย์ 4 ชั้นซะเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งบ้านพักอาศัยที่อยู่ในซอยนี้จะอยู่ติดกับโครงการ Ashton Silom ค่ะ

มองไปยังถนนฝั่งตรงข้ามจะเป็นสีลมพลาซ่าค่ะ ตึกสีฟ้าๆทางซ้ายมือเป็นตึกของธนาคารกรุงไทย ส่วนตึกสีส้มเด่นๆทางขวามือเป็นสำนักงานของ Super Rich เผื่อใครต้องการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศก็มาใช้บริการได้

เดินต่อมาจะเจอภัตตาคารเชียงการีล่า (Shangarila Restaurant) เป็นภัตตาคารจีนชื่อดังที่เปิดมาตั้งแต่ปี 2512 แต่ยังคงรักษามาตรฐานได้เป็นอย่างดี ลูกค้าที่แวะเวียนมาก็เป็นลูกค้าประจำกันมาเป็น 10 ปีค่ะ รุ่นพ่อรุ่นแม่ที่อยู่ในย่านสีลมน่าจะรู้จักกันดี ตามสโลแกน “ภัตตาคารเชียงการีลา คู่ฟ้าเมืองไทย และขยายสาขาเติบโตอยู่ในยุทธจักรอาหารการกินเป็นที่เลื่องลือ” มีทั้งหมด 3 สาขาคือที่สีลม, ธนิยะ และเยาวราช ร้านเปิดทุกวัน เวลา 10.00 – 14.00 และ 17.00 – 22.00 น. โดยอาหารขึ้นชื่อของที่นี่คือ เป็ดปักกิ่ง, ปูผัดผงกะหรี่, หมูหัน, กุ้งมังกรหม้อไฟ ราคาตั้งแต่ 500-700 บาท ต่อหัว

ติดกันเป็น Dahra beauty and spa

ข้างๆกันเป็นร้านตัดชุดสูท Andrea diCapri อยู่ติดกับรั้วโครงการ Ashton Silom เลยค่ะ

ซึ่งตอนนี้โครงการล้อมรั้วสีน้ำเงินเห็นเด่นชัด ฟุตบาทหน้าโครงการค่อนข้างกว้าง เดินได้สบายๆ

เราจะพาแวะมาดูบรรยากษสภายในโครงการ และดูบริบทรอบๆโครงการในแต่ละทิศกันค่ะ ซึ่งตอนนี้โครงการกำลังปรับเตรียมที่ดินและกำลังสร้างสำนักงานขายกันอยู่

ทางทิศเหนือของโครงการจะอยู่ติดกับบ้านพักอาศัย 2 ชั้น ซึ่งจะเห็นวิวตึก AIA Tower สุรวงศ์ ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือเห็นตึกของ บมจ.บางกอกสหประกันภัย ส่วนทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือเป็นวิวตึก M สีลม ที่มีความสูง 53 ชั้น สูงกว่าตึกของโครงการเองซะอีก

พาตึก M สีลม มาให้ดูกันชัดๆ

ทางทิศตะวันออกจะติดกับอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น และบ้านพักอาศัย 3 ชั้น ส่วนวิวที่จะมองเห็นก็จะมีตึกสูงๆอย่างคอนโด M Silom, คอนโด ITF Silom Palace และ ITF Tower ที่เป็นอาคารสำนักงานให้เช่า

ทางทิศใต้ มองไปจะเป็นสำนักงานขายของโครงการ Ashton Silom ที่กำลังสร้างอยู่ และเห็นตึกมหานครชัดเจนมาก

พอออกมาจากที่ดินโครงการ เมื่อเรามองไปยังฝั่งตรงข้ามจะเห็นเป็นป้ายรถเมล์ขนาดใหญ่ มีที่ให้นั่งรอ 3 ตอนทีเดียว วิวทางฝั่งนี้จะเห็นทั้งอาคารสำนักงานและคอนโดบนถนนนราธิวาสราชนครินทร์หลากหลายทีเดียวค่ะ

เราเดินไปบนฟุตบาทกันต่อ ข้างๆโครงการในช่วงบ่ายแก่ๆจะเริ่มมีพ่อค้าแม่ขายนำเสื้อผ้ามาตั้งแผงลอยกันแล้ว สังเกตจากกางเกงมวยไทยและของที่ตั้งขายอยู่จะเน้นขายชาวต่างชาติที่เดินผ่านไปมาซะเป็นส่วนใหญ่ หรือถ้าคนไทยอยากได้ก็ไม่ว่ากัน

เดินต่อมาจะเจอตึกของบริษัท นิคส์(ไทยแลนด์) จำกัด ความสูงประมาณ  7 ชั้น

ข้างกันเป็นทางเข้า Pullman Bangkok Hotel G โรงแรมหรู 38 ชั้น ด้านหน้ามีร้าน 25 Degree เป็นร้านเบอร์เกอร์สไตล์อเมริกันที่มีกลิ่นอายย้อนยุคนิดๆ ร้านนี้เน้นขายเมนูอาหารง่ายๆเปิดขาย 24 ชั่วโมง มีเบอร์เกอร์เป็นหนึ่งใน Highlight ของร้านที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน คอรักเบอร์เกอร์หลายๆคนคงเป็นที่รู้จักกันดี เมนูจะเรียกเป็น No.มีให้เลือก 4 แบบคือ N0.1-No.3 เป็นเนื้อ และ No.4 เป็นปลา เมนูขึ้นชื่ออย่างเช่น No.1 Burger เป็นเบอเกอร์เนื้อ ย่างมาแบบ Medium rare ชิ้นค่อนข้างใหญ่ สนนราคาตั้งแต่ 250-500 บาทค่ะ

12115640_773458562776288_3825984247595822532_n (1)

หน้าตาเบอร์เกอร์ของร้าน 25 Degree ดูเต็มปากเต็มคำมาก หากอยู่ที่โครงการแล้วเกิดหิวๆขึ้นมา ร้านนี้ก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่ดี เพราะสามารถเดินมากินได้แบบ 5 นาทีถึงแล้ว แต่อย่ากินบ่อยมากเพราะถึงแม้จะดีกับจิตใจแต่ไม่ดีกับน้ำหนักนะจ้ะ 🙂

ถัดมาจะเจอโรงพยาบาลเก่าที่ถูกทิ้งร้าง จากการสอบถามคนแถวนั้นเค้าบอกว่า โรงพยาบาลนี้เป็นสถานเสริมความงามแห่งแรกในประเทศไทย ที่ตอนนี้คุณหมอได้ย้ายไปเปิดที่อื่น ที่นี่จึงถูกทิ้งร้างไม่ได้รับการดูแล แต่ก็ยังเหลือเค้าความงามแบบร่วมสมัยอยู่ แต่ถ้าดึกๆเดินผ่านก็หลอนน่าดูเหมือนกันนะ

ข้างหน้าโรงพยาบาลเก่านี้จะมีพี่วินประจำการอยู่ 1 จุด ซึ่งวินนี้อยู่ไม่ไกลจากโครงการ สามารถเดินมาใช้บริการได้

อัตราค่าโดยสาร

ข้างๆกันก็จะมีทั้งแท๊กซี่และสามล้อมาเป็นตัวเลือกด้วย ใครชอบแบบไหนใคร่ใช้แบบนั้น

ฝั่งตรงข้ามกันเป็นโรงเรียนกวางเจ้า โรงเรียนจีนเก่าแก่ที่เปิดมาตั้งแต่ปี พ.ศ 2477 มีการเปลี่ยนแปลง เปลี่ยนชื่อโรงเรียน และย้ายมามาหลายครั้งเนื่องจากสภาพปัญหาต่างๆที่ผ่านมากว่า 83 ปี จนเป็นโรงเรียนกวางเจ้าในปัจจุบัน

แยกเดโช

เดินมาอีกนิดจะถึงแยกเดโช หากตรงไปจะไปทะลุแยกบางรัก ซึ่งสามารถไปยังถนนเจริญกรุง หรือจะไปฝั่งสาทรก็ได้ แต่เราจะเลี้ยวขวาเข้าถนนเดโชกันนะคะ

ตรงหัวมุมเราจะเจอผับที่มีการจัดที่นั่งและตกแต่งร้านสไตล์แอนทีค มีแต่ของเก่าดีไซน์แปลกตาและหลากหลาย

พอเลี้ยวมาจะเจอบาร์เล็กๆ ตอนกลางคืนคงคึกคักน่าดู

ติดกันเป็นร้านขายภาพวาดที่ด้านบนมีห้องพักให้เช่าด้วยนะ

ในซอยนี้จะมีที่พักให้เลือกหลากหลายทั้งแบบ Hotel และ Hostel ตามไลฟ์สไตล์ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นที่พักที่ดัดแปลงอาคารพาณิชย์ 5 ชั้นให้แปลงร่างเป็น Hostel ซะส่วนใหญ่

เดินต่อมาเราจะเจอร้าน House of chao Antik

ในร้านจะขายของเก่าของสะสม ส่วนใหญ่จะเป็นเฟอร์นิเจอร์ ของแต่งบ้าน และเจ้าหุ่นพวกนี้

เดินต่อมาจะเจอ Hostel ชื่อ I SLEEP

หากตรงไปจนสุดทางจะสามารถไปทะลุถนนสุรวงศ์ได้ แต่เราจะเลี้ยวซ้ายเข้าซอยอนุมานราชธน(นราธิวาสฯ 2) เพื่อไปดูบรรยากาศของบ้านพักอาศัยที่อยู่ด้านหลังโครงการกันนะคะ

ตรงต้นซอยอนุมานราชธน จะเป็นตึกแถว 4 ชั้นที่น่าจะเก่าแก่มากแล้ว แต่ได้ถูกดักแปลงให้เป็น Hostel ก็ดูมีสไตล์ไปอีกแบบ

บรรยากาศในซอยจะเป็นตึกแถวและอาคารพาณิชย์ 3-5 ชั้นซะเป็นส่วนใหญ่ มีทั้งที่พักอาศัย ร้านค้า สำนักงาน และที่ถูกแปลงร่างทำเป็นห้องพัก

แมนชั่นให้เช่ารายเดือนก็มี

แน่นอนว่าเมื่อมีคนอยู่แล้วร้านค้า ร้านขายของชำก็ตามมา

เดินต่อมาเรื่อยๆเราจะเจอกับ สยาม แฟล็กซ์ แพ็ค อาคาร 4 ชั้น อยู่หัวมุมถนนที่มีทางแยกสามารถไปถนนสุรวงศ์ได้ ส่วนถ้าตรงไปจะไปทะลุถนนนราธิวาสราชนครินทร์

Ashton สีลม

ฝั่งตรงข้ามกันเป็นบ้านพักอาศัย 2 ชั้น ซึ่งบ้านหลังนี้จะอยู่ติดกับรั้วโครงการทางทิศเหนือค่ะ

เดินต่อมาจะเจอสมาคมเท่งไฮ้แห่งประเทศไทย ที่เป็นหนึ่งในสมาคมจีนแต้จิ๋วในประเทศไทย

ฝั่งเยื้องๆกันเป็นตึก M Silom ที่สามารถมองเห็นได้จากโครงการ

เดินมานิดเดียวจะเจอร้านอาหารเตี้ยชวนอยู่ทางซ้ายมือ ส่วนขวามือเป็นกำแพงของ M Silom สุดทางเป็นถนนนราธิวาสราชนครินทร์

เมื่อออกมาที่ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ มองไปทางขวามือจะเห็นโครงการ M Silom ด้านหน้ามีสะพานลอยคนเดินข้าม เดี๋ยวเราจะพาขึ้นสะพานลอยเพื่อดูภาพมุมสูงบนของถนนนราธิวาสราชนครินทร์กันค่ะ

ตอนนี้มาอยู่บนสะพานลอย หันหน้าไปทางถนนสุรวงศ์ การจราจรบนถนนนราธิวาสราชนครินทร์เพื่อไปยังถนนสุรวงศ์ค่อนข้างหนาแน่น จากตรงนี้จะเห็นตึก AIA Tower สุรวงศ์และตึก Amara Bangkok ชัดมาก

ส่วนการจราจรจากถนนสีลม เข้าไปยังสุรวงศ์ก็แน่นอนว่าหนาแน่น และมีรถเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย บนถนนนราธิวาสราชนครินทร์ช่วงนี้ทางขวามือจะเป็นตึก ITF Tower ส่วนทางซ้ายมือจะเป็นอาคารพาณิชย์ 5 ชั้นเป็นทิวยาว มองตรงไปจะเห็นคอนโด Diamond Tower, มหานคร, The Infinity ซึ่งเป็นอาคารสูงที่อยู่บนถนนนราธิวาสราชนครินทร์ทั้งสิ้น

ตรงกลางถนนจะเป็นคลอง ที่มีการจัดพื้นที่ลานออกกำลังกายไว้ให้ด้วย

โดยสะพานลอยนี้จะมีบันไดทางลงตรงเกาะกลาง เพื่อให้ไปเล่นเครื่องออกกำลังกายยังเครื่องเล่นที่จัดไว้ให้

โดยคลองนี้จะยาวไปตลอดเส้นนราธิวาสราชนครินทร์เลยค่ะ

Ashton Silom เส้นทางที่ 2

เส้นทางที่ 2 เราจะเริ่มจากแยกสีลม-นราธิวาส พาไปเดินดูบรรยากาศสองข้างทางของถนนสีลมที่มีทั้งอาคารสำนักงาน อาคารพาณิชย์ ศูนย์การค้า ร้านอาหาร ร้านขายของทั่วไป ตลาด ศูนย์การค้า และสถานบันเทิงอย่างพัฒน์พงศ์และธนิยะ มาดูกันว่าชีวิตบนถนนสีลมตั้งแต่ช่วงบ่ายไปจนถึงมืดมีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง เดินไปผ่าน BTS ศาลาแดง,  MRT สีลม ผ่านแยกศาลาแดงแล้วปิดท้ายด้วยบรรยากาศยามเย็นของสวนลุมพินี

เรามาเริ่มกันที่แยกสีลม-นราธิวาส กันค่ะ

ตรงหัวมุมถนนเป็น ITF Tower อาคารสำนักงานให้เช่าสูง 32 ชั้น ซึ่งเราสามารถเห็นตึกนี้ได้จากโครงการด้วย

ฝั่งตรงข้ามตึกสีแดงๆเด่นๆนั้นก็เป็นอาคารสำนักงานให้เช่าเช่นกัน

ถัดมาเป็น Paso Tower อาคารสำนักงานให้เช่า

ใต้ตึกมีสำนักงานของธนาคารไทยพาณิชย์

ถัดมาก็มีร้านขายยาติดกันหลายร้าน มีทั้งยาที่เราคุ้นเคยและยานำเข้า เพราะย่านนี้จะมีชาวต่างชาติอยู่เยอะ

มีสำนักงานประกันสังคม กรุงเทพมหานครพื้นที่ 4 ที่อยู่หน้าสีลมซอย 10

ในซอยนี้เป็นตลาดสีลม ของกินเยอะมาก ซอยนี้เดินไปออกซอยนราธิวาสซอย 1 ได้

เดินต่อมาจะมีธนาคารออมสินและธนาคารกสิกรไทยให้เลือกใช้บริการได้

ฝั่งตรงข้ามเป็น Food Chanel ที่เป็นอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น ด้านในจะมีทั้งร้านกาแฟ Tom N Tom Coffee, ร้านอาหารฟิวชั่น Barley Bistro & Bar, ร้านอาหารญี่ปุ่น Maido Ookini Shokudo, บุฟเฟ่ต์ Shabushi  ฯลฯ

ถัดมาเป็นอาคารบุญมิตร สำนักงานให้เช่าสูง 12 ชั้น ใต้อาคารเป็นร้านค้าให้เช่าที่มีร้านกาแฟ Starbucks

รวมทั้งมีร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างเช่น Sony, Akihabara, LG

ฝั่งตรงข้ามเป็นซอยละลายทรัพย์ มีร้านค้าต่างๆมากมายตลอดสองข้างทางของถนน ถ้าใครหลุดเข้าไปล่ะก็ละลายทรัพย์สมชื่อเลยค่ะ

ข้างๆเป็นสำนักงานใหญ่ของธนาคารกรุงเทพ

ข้างๆธนาคารกรุงเทพสำนักงานใหญ่ จะเป็นซอยพิพัฒน์หน้าซอยมีป้าย Pilot สีทองเด่นเป็นสัญลักษณ์ ซอยนี้เป็นซอยลัดสามารถใช้ไปออกออกถนนสาธร และ นราธิวาสฯได้นะ

ทำเล-Ashton-Silom-16

เราเดินต่อมาตรงหน้าสีลมซอย 8 ก็มีธนาคารกรุงศรีอยุธยา เรียกได้ว่าบนถนนเส้นนี้มีธนาคารเกือบทุกสาขาให้เลือกใช้บริการกันได้สบายเลยค่ะ ฝั่งตรงข้ามเป็นอาคารยูไนเต็ดเซ็นเตอร์

เดินมาถึงสีลมซอย 6 ตรงต้นซอยมี Standard Chartered

ในซอยเป็นอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น ในช่วงบ่ายๆแบบนี้เราจะเห็นรถเข็นเก็บเสื้อผ้าจอดอยู่เต็มหน้าซอย ซึ่งเป็นรถใส่เสื้อผ้าที่แม่ค้าพ่อค้าเตรียมไว้สำหรับขายของริมฟุตบาทในช่วงหัวค่ำ ซึ่งจะเริ่มตั้งกันในเวลาประมาณ  18.30-22.00 น. ค่ะ

เดินต่อมาเราจะเจอโรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน

ซึ่งตรงหน้าโรงพยาบาลสามารถเดินไปยังศูนย์อาหารที่อยู่ฝั่งตรงข้ามได้

ข้างๆศูนย์อาหารเป็นอาคารอาคเนย์และ C.P. Tower

เดินมาอีกหน่อยจะเจอกับซอยพัฒน์พงศ์ 1 ที่บรรยากาศข้างในซอยจะเป็นร้านค้าแผงลอยไปตลอดแนวเน้นของที่ระลึก ส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าลายไทยๆที่เจาะกลุ่มชาวต่างชาติ

ข้างในก็จะวางแผนกางผ้าใบแบบนี้ยาวไปจนถึงถนนสุรวงศ์ เวลาบ่ายแก่ๆแบบนี้ เหล่าพ่อค้าแม่ค้ากำลังเริ่มตั้งร้านกันเลยค่ะ

บริเวณหน้าซอยพัฒน์พงศ์ก็จะมีผับบาร์อยู่เรียงรายตามฟุตบาทเต็มไปหมดเลย

ถัดไปก็จะมีสำนักงานของธนาคารกรุงเทพ และร้านไอศกรีม Häagen-Dazs

เดินมาอีกนิดจะเจอซอยพัฒน์พงศ์ 2 ซอยที่เป็นแหล่งสถานบันเทิง ด้านหน้ามีของขายเต็มไปหมด

ในช่วงต้นซอยจะมีร้านขายของทั้งสองข้างทาง ส่วนใหญ่จะเป็นกระเป๋าตั้งแต่กระเป๋าตังค์ กระเป๋าถือ ไปจนถึงกระเป๋าเดินทาง

พอเดินเข้ามาเรื่อยๆก็จะมีตั้งแต่บาร์ขนาดเล็ก ไปจนถึงผับขนาดใหญ่

พัฒน์พงศ์ 2

บรรยากาศของซอยพัฒน์พงศ์ 2 ในยามค่ำคืน ซึ่งมุมมองนี้จะเป็นมุมมองจากถนนสุรวงศ์ที่อยู่คู่ขนานกับถนนสีลมค่ะ ข้างในก็จะมีทั้งผับ บาร์แบบ Indoor และ Outdoor มีร้านขายยา ขายเสื้อผ้า และร้านขายที่ระลึกหลากหลาย

ถัดมาเป็นสีลมซอย 4

ในซอยจะมีทั้งผับบาร์ และร้านอาหารค่อนข้างเยอะ บรรยากาศจะซอฟลงมากว่าพัฒน์พงศ์หน่อย

ฝั่งตรงข้ามสีลมซอย 4 จะเป็น ซอยคอนแวนต์ หน้าปากซอยมีของกินเยอะอยู่เหมือนกัน ภายในซอยมีโรงพยาบาล BNH และโรงเรียน เซนต์โยเซฟคอนแวนต์ โรงเรียนหญิงล้วนชื่อดังของย่านนี้

เดินมาอีกนิดก็จะเจอ BTS ศาลาแดง ซึ่งบริเวณนี้บรรยากาศคึกคักมาก รอบข้างสถานีมีทั้งร้านขายอาหาร ร้านขายสินค้าและบริการมากมาย

และตรง BTS ศาลาแดงนี้จะมีถนนธนิยะ หรือที่เรียกกันว่า “ธนิยะพลาซ่า” เป็นซอยที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวของชาวต่างชาติอีกซอย โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่น

บรรยากาศในธนิยะพลาซ่าตอนเย็นๆ ร้านรวงต่างๆเริ่มเปิดไฟสร้างสีสันแล้ว จะเห็นได้ว่าป้ายของร้านต่างๆภายในซอยนี้จะมีภาษาญี่ปุ่นด้วย

ซอยธนิยะ

บรรยากาศของซอยธนิยะในยามค่ำคืนเต็มไปด้วยแสงสี ร้านสองข้างทางจะถูกประดับไปด้วยป้ายร้านที่เป็นภาษาอังกฤษและภาษาญี่ปุ่นซะเป็นส่วนใหญ่ บ่งบอกได้ว่าซอยนี้น่าจะป๊อบปูล่าสำหรับคนญี่ปุ่น สิ่งอำนวยความสะดวกค่อนข้างครบมีตั้งแต่ร้านแลกเงิน ร้านทอง ร้านอาหารญี่ปุ่น ร้านนวด ไปจนถึงสถานบันเทิงที่อยู่ด้านในอาคาร  เลนของซอยธนิยะจะกว้างกว่าซอยพัฒน์พงศ์ทำให้บรรยากาศดูโปร่งกว่ากันเยอะ มุมมองที่เราถ่ายนี้เป็นมุมมองจากถนนสุรวงศ์ มองไปสุดทางจึงจะเป็น BTS ศาลาแดงที่อยู่บนถนนสีลมค่ะ

เดินต่อไปจะเจอกับอาคารญาดา (Yada Building)

ฝั่งตรงข้ามเป็นสีลมคอมเพล็กซ์ ห้างสรรพสินค้าประจำย่านสีลม

ถัดจากสถานี BTS ศาลาแดงไป ทางขวามือจะเป็น Skywalk ที่เชื่อมกับ MRT สีลม ส่วนทางขวามือจะมีร้านอาหารร้านนั่งชิวที่มีการตกแต่งร้านสร้างสีสันกันเต็มที่

อย่างเช่นร้าน “24 Dinning” ร้านนี้ ที่แปลงร่างอาคารพาณิชย์ธรรมดาๆให้เป็นร้านที่มี Double Space สูงๆบรรยากาศชิคๆ

ติดกันเป็นร้าน Burger King

เดินต่อไปจะเป็นสีลมซอย 2 ที่ด้านหน้าจะเป็นร้านนวดค่อนข้างเยอะ ตามสไตล์ย่านของชาวต่างชาติที่จะมีร้านนวดไทยคอยให้บริการ แต่ต้องดูดีๆเพราะบางที่ก็เขียนไว้ว่าสำหรับบุคคลอายุ  20 ปีขึ้นไปนะคะ

เลยไปหน่อยจะเห็นเป็นโรบินสันเก่าที่ตอนนี้ปิดให้บริการไปแล้ว ตอนนี้เลยกลายเป็นที่จับจองของพ่อค้าแม่ค้าแผงลอย ที่จะมาเตรียมตั้งแผงขายกันในช่วงเย็นๆไปจนถึงดึกดื่น

ฝั่งตรงข้ามเป็นอาคาร Zuellic house ด้านล่างมีธนาคารต่างๆทั้งธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทยและธนาคารกสิกรไทยคอยให้บริการ

เดินไปอีกนิดเดียวก็จะเจอทางขึ้น Skywalk ซึ่งสามารถเดินไปขึ้น MRT สีลม ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ด้านหน้าโรงแรมดุสิต หรือจะเดินย้อนกลับไปขึ้น BTS ศาลาแดงก็ได้ เดี๋ยวเราจะพาขึ้น Skywalk ไปดูบรรยากาศของถนนสีลมจากมุมสูงกัน

ถนนสีลม

เราเดินมาบน Skywalk เพื่อให้มองเห็นบรรยากาศมุมสูงของถนนสีลม ในตอนกลางวันผู้คนจะไม่หนาแน่นมากนัก เพราะพนักงานออฟฟิศต่างอยู่ในสำนักงานกันหมด แต่ในช่วงเวลากลางคืนบนถนนสีลมกลับยิ่งคึกคัก เพราะหนุ่มสาวออฟฟิศเลิกงานแล้ว บางคนเดินทางกลับบ้านเลยพลอยทำให้บนถนนมีรถหนาแน่น การจราจรติดขัด บน Skywalk เองก็มีคนใช้บริการรถไฟฟ้าหนาแน่นไม่แพ้กัน  ทั้งสองข้างทางบนถนนสีลมจะมีร้านขายของเรียงรายเต็มฟุตบาท เป็นแหล่งช็อปปิ้งตลอดทั้งเส้น มีขายตั้งแต่เสื้อผ้า เครื่องประดับ และอาหารรถเข็น

แยกศาลาแดง

เราหันมาอีกด้าน จะเป็นแยกศาลาแดง ซึ่งเป็นแยกขนาดใหญ่ที่เป็นจุดเชื่อมระหว่างถนนสีลม, ราชดำริ และถนนพระราม 4

หากเลี้ยวซ้าย จะเป็นถนนพระราม 4 ที่สามารถไปแยกอังรีดูนังต์, หัวลำโพง หรือสามย่านได้

หากเลี้ยวขวา จะเป็นถนนพระราม 4 ที่สามารถไปแยกวิทยุ, รัชดาภิเษก, คลองเตย ได้

หากตรงไป จะเป็นถนนราชดำริ ที่สามารถไปแยกราชดำริได้

โดยสะพานที่พาดผ่านถนนพระราม 4 ข้างหน้านี้จะเป็นสะพานไทยญี่ปุ่น ด้านหลังสะพานไทย-ญี่ปุ่นจะเป็นสวนลุมพินี ที่พูดชื่อขึ้นมาแล้วน้อยคนักที่จะไม่รู้จัก เดี๋ยวเราจะพาลงจาก Skywalk เพื่อพาไปดูบรรยากาศสวนลุมในยามเย็นกัน

ลงจาก Skywalk มาจะเจอกับป้ายโรงแรมดุสิตธานี ที่ด้านหน้าจะมีทางม้าลายให้ข้ามไปยังสวนลุมพินีที่อยู่ฝั่งตรงข้ามได้

 “สวนลุมพินี” เป็นสวนสาธารณะแห่งแรกของกรุงเทพมหานคร โดยมีจุดเริ่มต้นใน พ.ศ.2468 รัชกาลที่ 6 ทรงครองราชสมบัติครบ15 ปี ทรงมีพระราช-ดำริจะจัดงานแสดงพิพิธภัณฑ์สรรพสินค้าและทรัพยากรธรรมชาติ โดยกำหนดจัดในฤดูหนาวปลายปี พ.ศ. 2468 และมีพระราชดำริว่า เมื่อเลิกการจัดงานแล้วสถานที่นั้น ควรจัดทำ เป็นสวนพฤกษชาติ เพื่อให้ประชาชนได้ศึกษาและใช้พักผ่อน ทรงเลือก บริเวณทุ่งศาลาแดงที่ดินส่วนพระองค์ที่เหลือจากแบ่งเป็นจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยไปแล้วเป็นที่จัดงาน ครั้งนั้นมีการขุดสระกว้างสร้างเกาะลอยกลางน้ำตัดถนน และสร้างถาวรวัตถุ เช่น หอนาฬิกา ตึกแบบกรีก และทรงพระราชทานชื่อว่า “สวนลุมพินี” หมายถึง สถานที่ประสูติแห่งพระพุทธเจ้า ณ ตำบลลุมพินีวัน ประเทศเนปาล แต่ด้วยทรงเสด็จสวรรคตก่อนกำหนดเปิดงานจึงต้องล้มเลิกงานไป

ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 7 โครงการนี้จึงถูกรื้อฟื้นอีกครั้งโดยทรงให้เช่าที่ดินด้านใต้ของสวนลุมพินี 90 ไร่ จัดเป็น”วนาเริงรมย์”คล้ายสวนสนุก และค่าเช่านำมาปรับปรุงที่ดินส่วนที่เหลือเปิดเป็นสวนสาธารณะ นับแต่นั้น สวนลุมพินีจึงเป็นสถานที่ให้ความเพลิดเพลินสนุกสนานแก่ประชาชนมีทั้ง การละเล่น แข่งว่าว วิ่งวัว ชิงช้า ม้าหมุน ซึ่งพระบรมรูปรัชกาลที่ 6 สร้างในปี พ.ศ.2485 เพื่อระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณขององค์ผู้ให้กำเนิดสวนลุมพินี (ข้อมูลอ้างอิงจาก www.lumpinipark.com)

ในบางเวลาสวนลุมพินีก็ถูกใช้เป็นสถานที่จัดกิจกรรมสาธารณะประโยชน์ของเหล่านักเรียนนักศึกษาหลังเวลาเรียน เช่นวันนี้มีนักเรียนมาแบ่งกลุ่มซ้อมหรีดกัน สร้างบรรยากาศคึกคักให้สวนลุมฯ ขึ้นมาขึ้นมาก

จากโครงการ หากต้องการมาที่สวนลุมพินี ก็สามารถมาเดินมาได้ในระยะ 1.7 กิโลเมตร ซึ่งหากต้องการจะออกกำลังกายอยู่แล้วก็ไม่ใช่ระยะที่เลวร้ายนัก แต่ถ้าต้องการมาสูดอากาศบริสุทธิ์เพื่อวิ่งในสวนลุมฯ ก็สามารถขึ้น BTS ช่องนนทรีที่ห่างจากโครงการประมาณ 350 เมตร ลงที่ BTS ศาลาแดง (ห่างกัน 1 สถานี) แล้วเดินมาที่โครงการได้เลย หรือหากใครมาจากสาย MRT ก็มาลงที่ MRT สีลม ใช้ทางออกที่ 1 ก็จะถึงสวนลุมพินีเลยค่ะ

ประตูทางเข้าสวนลุมพินีค่อนข้างใหญ่ ข้างหน้ามีที่จอดรถจักรยานยนต์  มีร้านขายน้ำดื่มและขนมคอยให้บริการ

 

แผนผังของสวนลุมพินี

Screen Shot 2015-11-11 at 2.15.42 PM

 1.ที่ทำการสวนลุมพินี
公園辦事處
 2.เรือนเพาะชำ
種植園
3.ศูนย์ผู้สูงอายุ
老人中心
4.สถานีย่อยการไฟฟ้า
穀都電火分局
5.ศูนย์สร้างโอกาสเด็ก
兒童開發中心
6.อาคารเรือนกระจก
玻璃屋
7.เกาะลอย
浮島
8.ศาลาไทยลานนา
清邁涼亭
9.ศาลาแปดเหลี่ยม
八角涼亭
10.ห้องสมุดประชาชน
人民圖書館
11.ศาลาการไฟฟ้าสามเสน
三升電局亭
12.ลุมพินีสถาน
侖披尼大廳
13.ศูนย์เยาวชนลุมพินี
侖披尼少年中心
14.สระว่ายน้ำ
游泳池
15.ศูนย์อาหารสวนลุมพินี
公園餐廳
16.หอนาฬิการ
時鍾樓
17.เก็งจีน
中國亭
18.ศาลามิตรภาพไทย-จีน
中泰友誼亭
19.อาคารบันเทิง
娛樂廳
20.โรงเรียนสวนลุมพินี
侖披尼學校
21.สถานีวิทยุกระจายเสียงกรุงเทพฯ
曼穀市府廣播電台
22.ศาลาเยาวชน
耀華力亭
23.ลานตะวันยิ้ม
สนามเด็กเล่นและลานอเนกประสงค์
健身園及兒童游樂園
24.สวนสุขภาพและสนามเด็กเล่น
微笑廣場 兒童樂園及廣場
25.ประติมากรรม กังหันชัยพัฒนา
猜博他那風車
26.นาฬิกาแดด
陽光時鍾
27.สนามเทนนิส
網球場
28.สมาคมแบดมินตันแห่งประเทศไทย
泰國羽球公會

เดินเขามาภายในจะมีถนนค่อนข้างกว้าง เป็นเลนให้คนวิ่งออกกำลังกาย หรือใช้เป็นลานกิจกรรมได้ตามใจชอบ

มองไปทางซ้ายมือเป็นศาลาไทยลานนาที่ถูกโอบล้อมด้วยไม้ยืนต้น ไม้พุ่มและสนามหญ้าสีเขียว

ถนนรอบสวนลุมฯ ก็จะถูกใช้เป็นเลนคนวิ่งเหมือนกับสวนสาธารณะทั่วไป แต่ละจุดรอบๆสวนก็จะมีเครื่องออกกำลังกายที่แตกต่างกันไป

กลางสวนลุมฯ จะเป็นทะเลสาบขนาดใหญ่ สามารถมานั่งปิคนิคพักผ่อนใต้ต้นไม้ได้ชิวๆ

หรือถ้าใครอยากมาเต้นแอโรบิค ก็จะมีนัดกันทุกวันตั้งแต่หกโมงเย็นเป็นต้นไปค่ะ

แผนที่ซูมแบบสุดๆ

บริบทรอบๆโครงการส่วนใหญ่จะเป็นอาคารพาณิชย์ ตึกแถว และสำนักงาน โดยในแต่ละทิศของโครงการจะมีสภาพแวดล้อมที่ติดต่อกันดังนี้

ทิศเหนือของโครงการจะติดกับบ้านพักอาศัย 2 ชั้น ข้างๆทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือเป็นตึก M Silom ที่จะมาบังวิวกันเต็มๆในระยะที่ใกล้มากด้วย

ทิศตะวันออก ติดกับอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น, บ้านพักอาศัย 3 ชั้น และตึกแถว 4 ชั้น ด้านนี้จะไม่ถูกบังวิวในระยะประชิด แต่จะไปโดนตึก ITF Tower  และ ITF Silom Palace บังวิวอยู่ไกลๆ

ทิศตะวันตก ติดกับอาคารนิมิตและอาคารสำนักงานของ NIKS(Thailand) สูง 7 ชั้น ถัดไปเป็นโรงแรม Pullman สูง 38 ชั้น ที่จะมาบังวิวจากตึกเรา แต่ยังดีที่ไม่ได้อยู่ในระยะประชิด

ทิศใต้ ติดกับถนนสีลมซึ่งเป็นถนนทางเข้า-ออกหลักของโครงการ อาจจะมีเสียงรบกวนบ้างในห้องที่อยู่ชั้นล่างๆ

เส้นทาง วิว 3D

วิวด้านหน้าโครงการทางทิศใต้ จะไม่มีปัญหาเรื่องการโดนบังวิวระยะประชิด แต่จะมีตึกสูงไกลๆอย่างมหานคร(77 ชั้น) ซึ่งจะว่าบังก็บัง แต่ด้วยรูปทรงของตึกที่สวยแปลกตา บางคนอาจจะมองว่าเป็นวิวที่ดีนะคะ นอกจากนั้นยังเห็นตึกอีกหลายตึกที่อยู่บนถนนนราธิวาสราชนครินทร์ซึ่งมองไกลๆก็เป็น City View ไปได้เหมือนกัน ส่วนสิ่งที่หลายคนอาจจะกังวลคือห้องที่อยู่ทางทิศใต้จะมองเห็นสุสานจีนบ่าบ๋า ซึ่งเป็นสุสานเก่าแก่และค่อนข้างใหญ่ อันนี้ก็ต้องแล้วแต่ความชอบส่วนตัวแล้ว หากใครไม่ต้องการเปิดหน้าต่างไปแล้วเห็นสุสานจีนก็ควรเลี่ยงทิศนี้ค่ะ (คลิกที่ภาพเพื่อดูภาพขนาดใหญ่)

ซูม Ashton

ส่วนทิศที่ถูกบังวิวในระยะใกล้ที่สุดก็คงจะเป็นห้องทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือที่ติดกับ M Silom 53 ชั้น รองลงมาก็คือทิศตะวันตกใกล้กับ Pullman Bangkok Hotel G 38 ชั้น ที่หากเลือกห้องชั้น 39  ก็จะมองเห็นวิวโล่งๆได้ ส่วนทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือก็อาจจะเห็นตึกของ บมจ.บางกอกประกันภัย และตึก AIA Building ที่อยู่ถัดไป ซึ่งทุกทิศมีตึกที่บังวิว แต่จะมากจะน้อยแตกต่างกันไป และยิ่งเลือกชั้นสูงๆก็จะยิ่งได้เปรียบเพราะจะพ้นจากความสูงของตึกเหล่านั้นแล้วค่ะ (คลิกที่ภาพเพื่อดูภาพขนาดใหญ่)PERSPECTIVE2

สรุป โครงการ Ashton Silom ตั้งอยู่บนถนนสีลมที่ขึ้นชื่อว่าราคาที่ดินแพงที่สุดในประเทศ (ข้อมูลประเมินล่าสุดที่จะใช้ในปี 2559-2562) เป็นทำเลที่มีความอุดมสมบูรณ์สูง อยู่ในย่านสีลม-สาทร ที่เรียกได้ว่าเป็น CBD อันดับต้นๆของประเทศ บริบทรอบๆจะมีอาคารสำนักงาน ธนาคาร ศูนย์การค้า ร้านค้า โรงแรม สวนสาธารณะขนาดใหญ่อย่างสวนลุมพินีที่อยู่ไม่ไกลมากนัก มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันเป็นแหล่งรองรับหนุ่มสาวออฟฟิศ และ นักท่องเที่ยวจำนวนมาก โดยตัวโครงการอยู่กึ่งกลางของถนนสีลมตรงแยกสีลม-นราธิวาส ระหว่างโซนเจริญและความพลุกพล่านสูง(ฝั่งแยกสีลม-นราธิวาส ค่อนไปทางแยกศาลาแดง) และความพลุกพล่านปานกลาง (ฝั่งแยกสีลม-นราธิวาสถึงแยกบางรัก) ดังนั้นที่ตั้งโครงการตรงนี้จึงเป็นที่สามารถเข้าถึงถนนสีลมได้ง่ายทั้งสองฝั่งหรือจะไปออกถนนนราธิวาสราชนครินทร์เพื่อไปสาทรก็ง่ายเหมือนกันเพราะอยู่ใกล้สี่แยกพอดี

แน่นอนว่ามีข้อดีก็ต้องมีข้อเสีย จริงอยู่ที่โครงการอยู่กึ่งกลางความอุดมสมบูรณ์ต่างๆ แต่สิ่งที่หนีไม่พ้นคือปัญหารถติด แม้ว่าโครงการจะสามารถเข้าออกได้ทั้งจากถนนสีลม, ถนนสุรวงศ์ และถนนสาทร แต่ถนนสามเส้นที่กล่าวมานี้ล้วนแล้วแต่รถติดหนักทั้งสิ้น จะมีถนนสุรวงศ์ที่รถติดน้อยกว่าเส้นอื่นหน่อย แต่ว่าถนนเส้นนี้ก็ไปได้บางเส้นทางเท่านั้นเพราะเป็นถนน One Way วิ่งไปทางฝั่งสาทรได้อย่างเดียว ดังนั้น หากจะไปถนนพระราม 4 หรือถนนราชดำริ มีทางเดียวที่ดีที่สุดคือถนนสีลม นอกจากนี้รอบๆถนนสีลมมีถนนที่เป็นทาง One way เยอะ อย่างเช่น ถนนสุรวงศ์, ถนนมเหสักข์ ดังนั้นหากจะเลี้ยวเข้าถนนสีลมต้องดูดีๆหน่อย เพราะหากเลยแยกหรือเลยถนนทีนี่ต้องกลับรถกันยาว แนะนำว่าถ้ารีบก็ควรใช้รถไฟฟ้า BTS จะดีกว่าค่ะ ซึ่งรถไฟฟ้า BTS ที่ใกล้ที่สุดคือสถานีช่องนนทรี ห่างจากโครงการ 350 เมตร หากต้องการไปฝั่งสาทร-พระราม3 ก็ไปต่อ BRT ได้ ค่าบริการแค่ 5 บาทเท่านั้น หรือถ้าต้องการขึ้น MRT ก็นั่ง BTS ช่องนนทรี ไปลง BTS ศาลาแดง แล้วเดินผ่าน Skywalk ไปลง MRT สีลม ก็สะดวกดีค่ะ

ส่วนเรื่องบริบทรอบด้าน อย่างเรื่องวิวนี้จะมีทิศตะวันออกเฉียงเหนือที่ติดกับ M Silom จะเป็นทิศที่ด้อยกว่าทิศอื่นๆหน่อย เพราะอยู่ประชิดกับ M Silom มากและความสูงของ M Silom 53 ชั้นทำให้ไม่สามารถเลี่ยงอะไรได้เลย รองลงมาคือทิศตะวันตก ที่มองเห็น Pullman Hotel G ในระยะที่ไม่ประชิด แต่ก็อยู่ใกล้กว่าทิศอื่นๆ และความสูงของโรงแรม 38 ชั้น ทำให้คนที่เลือกทิศนี้ควรจะเลือกชั้น 39 ขึ้นไปจึงจะได้วิวที่โอเคค่ะ ส่วนทิศเหนือกับทิศตะวันออก เป็นวิวที่ติดกับบ้านและอาคารพาณิชย์ที่ไม่สูงมาก ไม่ส่งผลเรื่องวิวเท่าไหร่นัก แต่ก็จะเห็นตึกสูงในระยะที่ไกลออกมาหน่อย สำหรับทิศใต้ ซึ่งเป็นทิศที่เป็นทางเข้าโครงการติดกับถนนสีลม จริงๆแล้วทิศนี้เป็นทิศที่อยู่ไกลจากตึกสูงทั้งหลายมากที่สุด โดยตึกส่วนใหญ่ที่มองเห็นจะเป็นตึกที่อยู่บนถนนนราธิวาสฯ โดยเฉพาะตึกมหานคร เมื่อสร้างเสร็จแล้วน่าจะช่วยส่งเสริมวิวด้านนี้ให้ดีขึ้น แต่ข้อเสียของวิวด้านนี้คือมองเห็นสุสานจีนบ่าบ๋า ดังนั้นก็คงต้องแล้วแต่ความชอบและลองชั่งน้ำหนักดูแล้วว่า วิวด้านไหนเหมาะกับเรามากที่สุด แต่ที่สำคัญคือ ทำเลนี้เป็นทำเลที่เหมาะสมกับเราหรือไม่ค่ะ

PERSPECTIVE3

ได้ชมทำเลกันไปแล้ว ขอปิดท้ายด้วยภาพจำลองตัวโครงการ เมื่อโครงการเสร็จแล้ว ทางทีมงานจะเก็บรีวิวเจาะลึกมาฝากไม่นานเกินรอค่ะ 🙂