รูปเปิดเว็ป

รีวิวฉบับที่ 1047 … สวัสดีครับ วันนี้ผมจะพาไปชมคอนโดที่พึ่งเปิดผ้าคลุมตึกออกได้ไม่นานนี้ คือ IDEO Q ราชเทวี จาก อนันดา นั่นเองครับ ซึ่งโครงการนี้ Mr.Oe เคยได้ทำรีวิวตอนเปิดขายไปรอบนึงแล้ว ปัจจุบันสร้างเกือบแล้วเสร็จเหลือแค่งานเก็บรายละเอียดเล็กน้อย และที่สำคัญโครงการนี้เค้าขายหมดไปด้วยแล้วนะครับ ตัวโครงการเป็นคอนโด High Rise 37 ชั้น จำนวน 324 ยูนิต จะอยู่บนถนนเพชรบุรี ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้า BTS ราชเทวีครับ วันนี้ผมจะพาไปอัพเดตภายในโครงการ และพาชมห้องตัวอย่างว่าเป็นอย่างไร ตามไปดูกันเลยดีกว่าครับ

 

Fact @ 17 March 2016

  • IDEO Q Ratchathewi (ไอดีโอ คิว ราชเทวี)
  • อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)
  • LUXURY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : ราชเทวี
  • คอนโด High Rise 1 อาคาร 37 ชั้น  323 ยูนิต + 1 ร้านค้า
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 13 ยูนิต 
  • ที่จอดรถในช่องจอดรวม 169 คัน ประมาณ 52%
  • ที่ดินประมาณ 1-2-30.38 ไร่
  • ปัจจุบันสร้างแล้วเสร็จ
  • 1 Bedroom 34 ตารางเมตร 
  • 1+1  Bedrooms 47-50 ตารางเมตร (มีห้องอเนกประสงค์)
  • 2 Bedrooms 60 ตารางเมตร
  • ฝ้าเพดานสูง 2.60 เมตร
  • ราคาเริ่มต้น 4.9 ล้านบาท ราคาต่อตร.ม. ประมาณ 150,000 บาท (ราคาขาย ณ วันที่ 5 October 2013)
  • ปัจจุบันโครงการขายหมดแล้ว โดยทางโครงการเหลือห้อง Resale 3 unit เท่านั้น
  • ราคาต่อตารางเมตรปัจจุบันประมาณ 170,000 บาท
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • โทร 02-316-2222

 

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างครับ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.752820, 100.533865

แผนที่จากทางโครงการ

แผนที่จากทางโครงการครับ ซึ่งตัว IDEO Q ราชเทวี จะอยู่บนถนนเพชรบุรี ฝั่งขาออกมุ่งหน้าประตูน้ำ โดยอยู่ห่างจากแยกราชเทวีประมาณ 200 เมตร โครงการอยู่ติดกับเพชรบุรีซอย 9 ซึ่งตรงข้ามโครงการคือ กรมการพลังงานทหาร ในแผนที่จะมีส่วนของรถไฟฟ้าสายสีส้มมาเสริมในเรื่องของการเดินทางในบริเวณนี้

แผนที่ระยะไกล

ทำเลที่ตั้งของโครงการ อยู่บนถนนเพชรบุรีก็จริง แต่ลองดูแผนที่ด้านบน จะเห็นว่าการอยู่ตรงเพชรบุรีระหว่างแยกราชเทวี กับประตูน้ำนั้นมันแตกต่างจากเพชรบุรีทั่วไปยังไงนะครับ… ตำแหน่งที่ตั้งของโครงการเมื่อดูภาพรวม จะอยู่ใกล้ BTS ราชเทวีราวๆ 300 เมตร ห่างจากแยกประตูน้ำ 800 เมตร และเดินไปสยามพารากอนได้ที่ระยะทางราวๆ 800 เมตรครับ ซึ่งการเดินไปพารากอนได้ถือเป็นสาระสำคัญและสามารถให้น้ำหนักได้มาก เพราะรายรอบพารากอนนี่คือแหล่งอารยธรรมขั้นสูงสุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะวัยรุ่นอย่างคุณผู้อ่าน ถ้าเราเดินมาสยามพารากอนได้ เราสามารถเดินต่อไป สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ ข้ามไปเดินเล่นสยามสแคร์ และ มาบุญครอง หรือถ้าขยันเดินหน่อย ก็เดินบนสกายวอล์ค ไป Central World และไหว้พระพรหม ที่แยกราชประสงค์ก็ยังได้

ทำเล IDEO Q ราชเทวีนี่ ต้องบอกว่าอิง “สยาม” นะครับ คืออยู่ใกล้แบบเดินทางด้วยรถไฟฟ้าสถานีเดียว และแถวนั้นก็จะอยู่ไม่ไกลจากย่านไข่แดงใจกลางเมืองอย่าง ราชประสงค์ ชิดลม เพลินจิตเลยด้วย ถ้าเดินทางไปห้างหรือพวกสำนักงานแถวนั้นนี่ด้วยรถไฟฟ้ามาได้ไม่ยาก… แต่ถ้าขับรถดูเหมือนใกล้ แต่ซับซ้อนหน่อย เรื่องทำเลและการเดินทางของโครงการถึงแม้จะมีข้อดีที่ใกล้ CBD, แหล่งงาน, ห้างสรรพสินค้า, การคมนาคมที่มีหลายทางเลือก แต่ข้อเสียก็มีครับเป็นธรรมดาของที่อยู่อาศัยในใจกลางเมือง มลภาวะทางเสียงและฝุ่นควันที่มาพร้อมกันจากถนนเพชรบุรีที่มีรถวิ่งตลอด

ภาพรวมการเดินทางของพื้นที่สำหรับย่านราชเทวี ต่อเนื่องย่านประตูน้ำ ค่อนข้างไปไหนต่อไหนได้ไม่ค่อยไกล ไปสยามนี่ใกล้มากๆ แต่ต้องทำใจในเรื่องรถติดหน่อยนะครับ ขาออกจากตัวโครงการไปยังที่ต่างๆ จะถูกบังคับให้มุ่งหน้า ประตูน้ำรถติดอยู่ในบางวันเวลา ยังดีที่ระยะทางไม่ได้ไกลเท่าไร และการจราจรของย่านนี้ ต้องดูดีๆ เพราะมีวันเวย์ และจุดห้ามเลี้ยว อยู่หลายจุด เช่น ถ้ามาจากสยาม มุ่งหน้าไปโครงการ พอถึงแยกที่ตัดกับถนนเพชรบุรี เราจะเลี้ยวขวาไม่ได้ ต้องตรงไปกลับรถมาเป็นต้น

เมื่อดูเฉพาะลงไปในพื้นที่ในทำเลที่ตั้งโครงการ โดยรอบจะเห็นตึกสูงรายรอบโครงการ ตัวโครงการด้านหน้าติดถนนเพชรบุรี ด้านข้างโครงการเป็นซอยเพชรบุรี 9 ซึ่งเป็นทางซอยอยู่อาศัย(ซอยตัน) และติดกันเป็นบ้านเดี่ยวบนพื้นที่ขนาดใหญ่ ที่ประกาศชัดเจนว่า “ไม่ขาย” ติดอยู่ ด้านหลังพื้นที่ที่ตั้งของอาคารเพชร 9 ทาวเวอร์สูง 27 ชั้น ขณะที่ฝั่งตรงข้ามถนนเป็นที่ตั้งของกรมพลังงานทหารสูงราว 8 ชั้น และคอนโดดิแอดเดรสสยาม-ปทุมวัน สูง 27 ชั้น และใกล้กับซอยกรุงเทพการบัญชีที่สามารถใช้เดินไปยังสยามพารากอนได้

การเดินทางเข้าสู่พื้นที่โครงการด้วยรถยนต์ สามารถเข้าถึงได้ง่าย โดยมีข้อแม้ว่าไม่ควรใช้ถนนเพชรบุรีขาเข้าที่มุ่งหน้าไปแยกยมราช เนื่องจากมีเพียง 2 ช่องจราจร และไม่สามารถใช้สะพานลอยข้ามแยกได้เลย ดังนั้นการเดินทางจากพื้นที่ต่างๆเข้าสู่พื้นที่โครงการจึงควรใช้เส้นทางที่ขนานกับถนนเพชรบุรีแล้วย้อนเข้าถนนเพชรบุรีเพื่อเข้าพื้นที่โครงการต่อไป การเดินทางการย่าน CBD ใจกลางเมืองทั้งย่านอโศก หรือพระราม 9 สามารถใช้เส้นจตุรทิศมาที่ถนนศรีอยุธยาเลี้ยวซ้ายเข้าถนนพระราม 6 ที่แยกศรีอยุธยาก่อนเลี้ยวซ้ายอีกครั้งที่แยกอุรุพงษ์เข้าถนนเพชรบุรี ตรงมาจนถึงตัวโครงการ แต่หากมาทางแยกปทุมวันให้ใช้ถนนบรรทัดทองมุ่งหน้ามาที่แยกพงษ์เพชร เลี้ยวขวาเข้าเพชรบุรีก็สะดวกเช่นกันแต่สภาพการจราจรจะติดขัดกว่าแต่ก็สามารถเลือกใช้ถนนพระราม 6 มุ่งหน้ามาแยกอุรุพงษ์เลี้ยวขวาเข้าถนนเพชรบุรีได้เช่นกัน ตามที่ผมได้เล่ามาข้างต้นว่าบทบาทการใช้ถนนของถนนเพชรบุรีจะเป็นถนนที่ให้รถยนต์ใช้เป็นขาออกเมืองมากกว่า ดั้งนั้นการเดินทางไปยังทิศตะวันออกจะสะดวกเพราะช่องการจราจรที่มากกว่า จะมีสะพานลอยข้ามแยกโดยตลอดทำให้ไม่ต้องอารมณ์เสียก่อนการเดินทางไปทำงานในย่านทิศตะวันออกของโครงการ

แผนที่การเดินทางไม่ใช้รถ

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ ถ้าจะพึ่ง BTS ใกล้สุดคือสถานีราชเทวี ระยะเดินประมาณ 300 ม. เดินชิวๆได้สบายๆครับ หรือไม่ก็พึ่งพี่วินมอเตอร์ไซค์ได้นะ ลงจากสถานีราชเทวีเรียกได้เลย ป้ายรถเมล์ฝั่งเดียวกับโครงการอยู่ห่างประมาณ 160 ม. มีพี่วินอยู่ประจำการหน้าปากซอยเพชรบุรี 9 ด้วย ส่วนถ้าใครจะใช้บริการ Aairport Rail Link สถานีที่ใกล้โครงการคือสถานีพญาไทครับ ระยะประมาณ 700 ม.

นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกระบบขนส่งทางน้ำ(ซึ่งอาจจะไม่ได้ใช้กันบ่อยหรอกนะ) นั่นคือคลองแสนแสบต้นทางตั้งแต่สะพานผ่านฟ้า ถึงวัดศรีบุญเรือง ซึ่งตัวโครงการอยู่ติดกับคลองแสนแสบ โดยท่าเรือที่ใกล้โครงการคือท่าเรือสะพานหัวช้างประมาณ 730 ม. ส่วน Taxi ก็โบกเรียกได้ที่หน้าโครงการเลย ถือว่ามีตัวเลือกในการเดินทางหลายแบบเลยครับ จะนั่งเรือต่อ BTS หรือ MRT ก็ได้แล้วแต่ความสะดวกในการเดินทางแต่ละคนเลย

แผนที่รถไฟฟ้าสีส้ม**รูปแผนที่นี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของสถานีแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะครับ

นอกจากนี้ในอนาคตยังจะมีรถไฟฟ้าสายสีส้มที่วิ่งจากตลิ่งชันปลายทางมีนบุรี ทำให้ส่งผลดีกับโครงการ เพิ่มตัวเลือกในการเดินทางเพิ่มขึ้นอีก 1 ทาง โดยรถไฟฟ้าจะวิ่งผ่านบริเวณแยกอุรุพงษ์ แยกราชเทวี สุดที่แยกประตูน้ำ และเลี้ยวขึ้นไปทางดินแดง ซึ่งสถานีที่ใกล้โครงการคือสถานีประตูน้ำ คิดว่าถ้าก่อสร้างเสร็จพร้อมใช้งานย่านนี้ คงจะคึกคักมากกว่าเดิม อาจจะได้เห็นอะไรใหม่ๆเกินขึ้น แต่ก็คงต้องรอกันอีกสักพักใหญ่ครับ

การเดิน

การเดินทางในวันนี้ผมจะเริ่มเดินจาก BTS สถานีราชเทวี ออกทางออกหมายเลข 4 เดินขึ้นมาทางแยกราชเทวี และข้ามถนนทางม้าลาย หลังจากนั้นเดินตามทางริมฟุตบาทเลียบถนนเพชรบุรี(ฝั่งเลขคี่) จนไปถึงซอยเพชรบุรี 9 ก็จะถึงที่ตั้งโครงการ ระยะทางทั้งหมดประมาณ 320 เมตร ครับ (แต่ถ้าเดินมาจากโครงการมาขึ้นรถไฟฟ้าระยะทางแค่ 300 เมตร)

N1_update

แผนที่รอบๆสถานีราชเทวีจาก BTS ครับ (คลิกที่ภาพเพื่อขยายใหญ่)

ป้ายสถานี BTS ราชเทวี ซึ่งรหัสของสถานีนี้คือ N1 นะครับ

จากสถานีจะมองไปทางแยกราชเทวี จะเห็นสำนักงานขายของ IDEO เด่นชัด

มุ่งหน้าไปทางออกที่ 4 นะครับ

ทางลงจะอยู่ขวามือ ส่วนทางซ้ายเป็นทางขึ้นจากด้านล่าง เป็นบันไดเลื่อนด้วยนะ

ทางลงสถานี จะเป็นแบบเดินลง

6.2

ที่อยู่ติดทางลงสถานี หลังคาสีๆพวกนี้คือ CocoWalk นะครับ เป็นจุดรวมร้านอาหาร ร้านหมูกระทะ และที่นั่งดื่มสังสรรค์กับเพื่อนฝูง แบบ Open-Air มีหลายร้านครับ มีที่จอดรถเยอะแยะ อ้อ และร้าน Music Society ก็ยังเป็นร้านซ้อมดนตรีอีกแห่งหนึ่งที่เป็นที่รู้จักกันดีนะ

ลงสถานีมาแล้วก็จะเจอกับที่ประจำการของพี่วินตรงนี้ อยู่ประจำตั้งแต่เช้ายันมืดถึง 4-5 ทุ่มเลยนะ ฝั่งตรงข้ามจะเป็นโรงแรมเอเชียนะครับ เราต้องเดินไปทางแยกราชเทวีนะ

ด้านข้างจะเป็นที่ดินว่างเปล่าที่ยังไม่มีการพัฒนา

จุดนี้ทางขึ้นสถานีรถไฟฟ้าเป็นบันไดเลื่อนนะครับ เวลาเดินออกมาจากทางแยกราชเทวีขึ้นบันไดเลื่อนได้เลยสะดวกดี

ตรงทางขึ้นบันไดเลื่อนติดกันมีพี่วินประจำการอีกจุด แหม่ ห่างกันยังไม่ถึง 100 เมตรเลย

จากทางออกสถานีเดินย้อนมาทางแยกราชเทวี ระยะทางถึงจุดนี้คือประมาณ 80 เมตร

หันมามองทางขวามือ จะเป็นที่ตั้งของ Sale Office สำหรับสำนักงานขายจะเปิดทุกวันนะครับ ตั้งแต่เวลา 9 โมงเช้าถึง 6 โมงเย็น

จะไปที่ตั้งโครงการต้องรอสัญญาณไฟข้ามทางม้าลายไปฝั่งตรงข้าม ซึ่งแยกนี้รถจะเยอะต้องใจเย็น และระมัดระวังเวลาข้ามทางม้าลายให้มาก

มาถึงเกาะเกลาง ที่ติดกับป้อมจราจร มองรถซ้ายดีๆนะ ใจเย็นๆ

จุดข้ามสุดท้าย ตรงนี้ยิ่งต้องระวังเลยครับ เพราะเป็นทางที่รถจะเลี้ยวเข้าถนนเพชรบุรี บางทีอาจเจอรถยนต์ที่ไม่ได้มอง สัญญาณไฟทางม้าลาย อะไรพวกนี้ คือผมเป็นพวกข้ามถนนระวังตัวจัดนะฮะ เคยมีประสบการณ์ข้ามโดนชนมาก่อน (T_T)

เดินข้ามทางม้าลายมาแล้ว ให้เดินตามถนนเพชรบุรีไปเลย จากแยกจุดนี้ตามถนนไปอีกราวๆ 300 เมตร ก็จะถึงโครงการครับ

ถ้าใครใช้รถยนต์แล้วมาจากทางแยกประตูน้ำ ก็ต้องมากลับรถตรงนี้เพื่อจะไปโครงการ

ริมถนนฟุตบาททางเดิน ก็จะเป็นร้านค้าดั้งเดิม ที่เป็นอาคารพาณิชย์ร้านค้าต่างๆ สภาพทางเดิน เดินไม่ลำบากมาก มีต้นไม้ตลอดทาง แต่นี่กทม. เค้าเพิ่งตัดกิ่งกันไป เลยไม่ค่อยจะเหลือร่มเงาครับ

ฝั่งตรงข้ามบริเวณนี้เป็นที่ตั้งของโครงการบ้านกลางกรุง สยาม-ปทุมวัน

เดินต่อไปอีกหน่อยเดียวจะเจอกับ จุดประจำการพี่วินตรงนี้ ซึ่งติดกับปากซอยเพชรบุรี 9

1

ปากซอยหัวมุมเพชรบุรี 9 นี้ ถึงที่ตั้งโครงการไอดีโอ คิว ราชเทวีแล้วครับ

2

สภาพในซอยเพชรบุรี 9 เป็นถนนซอยเล็กๆรถพอสวนกันได้ ในซอยจะเป็นซอยตัน เป็นชุมชนอยู่อาศัยปกติ

ยืนหน้าปากซอยเพชรบุรี 9 มองย้อนไปทางถนนเพชรบุรี โครงการนั้นตั้งอยู่บริเวณเชิงสะพานลอยข้ามแยกราชเทวีเลย อนาคตเมื่อโครงการเสร็จสิ้นพร้อมเข้าอยู่ผู้ที่มาจากแยกอุรุพงษ์ แล้วขึ้นสะพานข้ามแยกราชเทวี จะเลี้ยวเข้าโครงการไม่ได้นะครับ

3

เดินต่อไปบริเวณนี้จะเป็นพื้นที่โครงการแล้ว ด้านหน้าจะไม่ใช่รั้วกำแพงทึบนะ แต่จะเป็นแนวสวนเล่นระดับแทนกำแพงครับ ทำให้มองไปได้สีเขียวดูสดชื่นดีกว่ากำแพงคอนกรีต

4

ฝั่งตรงข้ามเป็นกรมการพลังงานทหาร และเยื้องไปทางซ้ายคือคอนโด The Address สยาม

5

ถึงบริเวณทางเข้าโครงการแล้วครับ มี Signage ของโครงการตั้งอยู่ IDEO Q

เลยไปติดกับที่ดินของโครงการทางทิศตะวันออก มุ่งหน้าต่อไปทางด้านแยกประตูน้ำ เป็นกำแพงรั้วบ้านที่ภายในมีขนาดที่ดินเยอะพอสมควร ที่บ้านหลังนี้ เจ้าของบ้านประกาศเจตนารมณ์ว่าไม่ขายนะครับ แต่ไม่ได้การันตีว่าจะไม่ขายไปตลอด :) ริมฟุตบาทช่วงนี้ค่อนข้างเดินง่าย มีขนาดกว้างพอสมควร อีกทั้งยังมีทั้งร่มเงาต้นไม้บ้าง มีเสากล้องวงจรปิดด้วย ไม่รู้ว่าของกทม.หรือของบ้านหลังนี้กันแน่นะ

ในภาพที่ยืนถ่ายจากสะพานลอยตอนโครงการยังสร้างไม่เสร็จนะครับ

ด้วยที่ตั้งที่ดินโครงการ จะอยู่ด้านหน้าเชิงสะพานลอยข้ามแยกราชเทวี  ซึ่งสะพานนี้จะเป็นสะพานที่อนุญาตเฉพาะรถที่มาจากแยกพงษ์เพชรวิ่งตรงเข้าสู่แยกประตูน้ำได้เท่านั้น จำนวนช่องจราจรของถนนเพชรบุรีมี  7 ช่องจราจร แบ่งเป็นขาเข้าเมือง (ทางซ้ายของภาพ) 2 ช่องจราจร และขาออกเมือง 5 ช่องจราจร

จุดที่น่าจะเป็นกังวลของถนนเส้นนี้มากที่สุดคือ ช่วงจากแยกราชเทวีกับแยกประตูน้ำ (ช่วงถนนด้านหน้าที่ตั้งโครงการ)  และอีกช่วงคือที่แยกอโศก –  เพชรบุรี ที่จราจรจะหนาแน่นมากเป็นพิเศษ นอกจาก 2 จุดนี้แล้วยังพอที่จะเคลื่อนตัวได้ จากจุดด้านหน้าโครงการสามารถเชื่อมต่อไปเส้นทางอื่นได้ทั้งเลี้ยวซ้ายที่แยกประตูน้ำเพื่อไปถนนราชปรารถ ออกไปทางดินแดง – วิภาวดีได้  หรือขึ้นสะพานข้ามแยกประตูน้ำไปเลี้ยวเข้าถนนชิดชม วิทยุ หรือขึ้นทางด่วนดินแดง – บางนาที่ด่านเพชรบุรีก็ได้

บรรยากาศของถนนเพชรบุรีตรงนี้ก็จะเป็นอาคารสูงตั้งเรียงรายกันยาวตลอดทั้งถนนน เป็นย่านการค้าขายที่สำคัญ และยังเป็นจุดที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากด้วย เนื่องจากมีโรงแรมที่พักหลายแห่ง การจราจรตรงนี้ ปริมาณรถก็ยังไม่น้อยอยู่ตามเคย ตรงนี้รถที่ติดมาจากถนนราชปรารภมีจำนวนมาก ศูนย์การค้าด้าน I.T. และคอมพิวเตอร์อันโด่ง พันธุ์ทิพย์พลาซ่า นี่ก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่ทำให้ทำเลตรงนี้มีคนมาเยอะ ซึ่งก็เป็นชาวต่างชาติ จำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว

Zoom ให้ดู พันธุ์ทิพย์ ที่อยู่ห่างจากโครงการไป 300 เมตร สำหรับคนที่ยังเคยชินกับห้างพันธุ์ทิพแบบเดิมๆ ที่ขายเทปหมี..ซีดีเถื่อน และอุปกรณ์ Hard ware Computer ขอบอกว่าไม่ใช่แล้วนะครับ ถ้ายังทำแบบเดิมอยู่ ไม่รอดแน่ๆ เพราะเดี๋ยวนี้คนเขาดาวน์โหลดกันหมดแล้ว คอมพ์ก็เปลี่ยนเป็นโน๊ตบุคและไอแพด ซึ่งซื้อตรงศูนย์และไม่ได้ซ่อมแซมอัพกันแบบเดิมอีกต่อไป… Pantip เลยต้องปรับตัวเองใหม่เป็น Lifestyle Mall ครับ

แผนที่ระยะประชิด**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะครับ

รอบๆโครงการ มีทั้งตึกสูงและอาคารเตี้ย ปะปนกันไป ด้านหน้าของโครงการจะหันไปทางทิศใต้ มองไปทางกรมการพลังงานทหาร มีตึก The Address บังอยู่ในทิศตะวันออกเฉียงใต้ และในอนาคตจะมีโครงการน้องใหม่มาบล็อควิวทิศตะวันตกเฉียงใต้เพิ่มคือ The Line ราชเทวี แต่เอาจริงเดิมมันก็โดนบังด้วยคอนโดบ้านกลางกรุงสยาม-ปทุมวันอยู่แล้วล่ะครับ, ด้านหลังโครงการหันไปทางทิศเหนือ ซึ่งจะติดกับตึกเพชร 9 ทาวเวอร์ สูง 27 ชั้นแบบระยะประชิดเลยทีเดียว ถัดจากเพชร 9 ทาวเวอร์ไป ไป(ประมาณ 13 เมตร)ยังมีคอนโดปทุมวัน รีสอร์ท สูง 39 ชั้นบังซ้ำไปอีก แต่พอจะมีมุมเปิดในทิศตะวันออกเฉียงเหนือและทิศตะวันตกเฉียงเหนืออยู่บ้าง, ทิศตะวันตะวันตกค่อนข้างโล่ง, สุดท้ายทิศตะวันออกในระยะประชิดยังเป็นพื้นที่สีเขียวต้นไม้ที่อยู่ในบ้านแปลงใหญ่อยู่ อนาคตระยะมองตรงไปประมาณ 90 เมตรจะมีโครงการน้องชายของเรามาบังวิวคือ IDEO Q สยาม-ราชเทวี สูง 36 ชั้นนั่นเองครับ

 

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • พันธุ์ทิพย์พลาซ่า ~ 400 ม.
  • แพลตตินั่ม ~ 650 ม.
  • Siam Kempinski Hotel Bangkok ~ 700 ม.
  • Siam Paragon ~ 800 ม.
  • The Palladium ~ 900 ม.
  • ประตูน้ำเซ็นเตอร์ ~ 950 ม.
  • ตึกใบหยก, Indra Square ~ 950 ม.
  • Siam, Siam Center ~ 1 กม.
  • Siam Discovery ~ 1.1 กม.
  • Central World ~ 1.2 กม.
  • มาบุญครอง ~ 1.2 กม.
  • Gaysorn Plaza ~ 1.4 กม.
  • เซ็นทรัลชิดลม ~ 1.9 กม.
  • Central Embassy ~ 2.1 กม.

 


เจาะลึกตัวโครงการ

รูปเปิดย่อ

รูปหน้าตาโครงการ IDEO Q ราชเทวี ออกแบบหน้าตาตึกออกมาได้โดดเด้งออกมาจากตึกดั้งเดิมแถวนี้มาก โทนสีที่ใช้จะเป็นสีเทาอ่อนตัดกับเทาเข้ม การออกแบบเน้นเส้นสายในแนวตั้ง ตัดลวดลายด้วยเส้นสีขาว ทำให้ตึกไม่ดูทึบกลืนไปด้วยสีเทาทั้งหมด ด้านบนสุดติดด้วยโลโก้ของโครงการ IDEO Q แบบเห็นเด่นชัดมาแต่ไกล การออกแบบเน้นการใช้เส้นสายเดี๋ยวจะเห็นตั้งแต่หน้าตาภายนอกตึกไปจนถึงส่วนกลางเลยทีเดียว ค่อยๆสังเกตกันไปนะครับ

โครงการ IDEO Q ราชเทวี เป็นคอนโด High Rise สูง 37 ชั้น จำนวน 324 ยูนิต โดยมีส่วนกลางหลักอยู่ที่ชั้น 8 และชั้น 37 ทางเข้าออกอยู่ติดกับถนนใหญ่อย่างเพชรบุรีและซอยเพชรบุรี 9  และอยู่ระหว่างสี่แยกใหญ่อย่างราชเทวีและประตูน้ำครับ ขนาดเนื้อที่ดินโครงการคือ 1-2-30.38 ไร่

ชั้น 1 จะเป็น Lobby, Mailbox Room, 7-11 Premiem ตั้งแต่ชั้น 2-7 จะเป็นชั้นจอดรถโดยได้ช่องจอด 169 คัน คิดเป็นประมาณ 52% พื้นที่ชั้น 8 เป็นพื้นที่ส่วนกลาง มีสวน ห้องสมุด โซเชี่ยลคลับ ห้องประชุม ห้องซักรีด เป็นชั้น Facility ไม่มีห้องพัก ส่วนของห้องพักจะเริ่มที่ชั้น 9 ไปจนถึงชั้น 36 ห้องพักจะมีเป็นแบบ 1 Bedroom 34 ตารางเมตร  / 1+1 Bedrooms 47-50 ตารางเมตร / 2 Bedrooms 60 ตารางเมตร และมี Facilities อีกชั้นที่ชั้น 37 เป็น Double Floor ,uสระว่ายน้ำ, จากุซซี่, ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า, ห้องอบไอน้ำ, ห้องซาวน่า, สวน และ Fitness อยู่ด้านบน

 

Master Plan ของโครงการ ทางเข้าออกจะอยู่ติดกับถนนเพชรบุรี โดยทางเดินรถถ้าจะเข้าส่วนที่จอดรถก็ตรงไปเลยก็ได้รถสวนทางกันได้ ส่วนพวกรถขนของรอบๆอาคารก็จะมีที่จอดรถอยู่เหมือนกันจะเป็นวนทางซ้ายอ้อมอาคารเป็นวันเวย์  และมีสวนหย่อมอยู่รอบๆรั้วกำแพงโครงการ ชั้นล่างนอกจากจะเป็นที่จอดรถและ Lobby แล้ว ยังแบ่งเป็นพื้นที่ร้านค้า จำนวน 1 ยูนิตซึ่งคอนเฟิร์มแล้วคือ 7-11 Premium

ชั้น 2  – 7 เป็นชั้นจอดรถ ซึ่งมีจำนวนที่จอดรถทั้งสิ้น 169 คัน คิดเป็น 52% และจะมีทางเข้าสู่โถงลิฟท์เข้าตัวอาคารได้เลย แต่ต้องแตะคีย์การ์ดเพื่อเข้าไปนะ

พื้นที่ชั้น 8 ครึ่งบนจะเป็นพวกห้องงานระบบต่างๆในอาคาร ที่เหลือจะเป็นพื้นที่ส่วนกลาง มีสวน ห้องสมุด โซเชี่ยลคลับ ห้องประชุม ห้องซักรีด เป็นชั้น Facility ไม่มีห้องพัก

ชั้น 25 เกือบจะเหมือนกับชั้น 9-24 แต่มีส่วนที่เป็นสวนลอยฟ้าเพิ่มเข้ามา จำนวนยูนิตต่อชั้นเลยลดเหลือ 12 ยูนิต

ชั้น 26 จะมีสวนลอยฟ้าเช่นเดียวกันแต่ ตำแหน่งจะอยู่คนละตำแหน่งกับสวนในชั้น 25 จำนวนยูนิตต่อชั้น 11 ยูนิต

ชั้น 29 ก็มีสวนลอยฟ้าอีกหนึ่งจุด จำนวนยูนิตต่อชั้น 10 ยูนิต

ชั้น 30 – 36 เป็นส่วนชั้นที่จะเป็นห้องพักอาศัยแต่เพียงอย่างเดียว จำนวนยูนิตต่อชั้น 10 ยูนิต

ชั้น 37 เป็นพื้นที่ส่วนกลาง ออกมาจากโถงลิฟท์ก่อนทางเข้าสระว่ายน้ำจะมีห้องน้ำแยกชายหญิง ซึ่งฝั่งห้องน้ำชายจะเป็นห้องซาวน่า ส่วนฝั่งห้องน้ำหญิงจะเป็นห้องอบไอน้ำแทน สระว่ายน้ำรับวิวบนยอดตึก ตัวสระยาว 25 เมตร กว้าง 5 เมตร ระบบเกลือ ลึก 1.2 เมตร มีจากุชชี่ในตัว ซึ่งมี Deck นั่งเล่นนอนเล่นให้อยู่ 4 ตัว และมี Pantry จัดเตรียมเครื่องดื่มด้วย มี Pool Deck ชุดโซฟาขนาดใหญ่อยู่ใกล้บันไดเพื่อเดินขึ้นสู่ห้องออกกำลังกายบนชั้นลอยได้

ด้านบนสระว่ายน้ำเป็นเป็นชั้นลอยที่มีห้องฟิตเนสที่ใช้กระจกเป็นผนังห้อง ทำให้สามารถมองเห็นวิวของกรุงเทพฯ ได้เกือบรอบด้านเลย

ทางเข้าเดินรถของโครงการพื้นจะเป็นทางคอนกรีต แต่สังเกตุลายบนพื้นทำเป็นเดินเส้นลวดลายเอาไว้ แบบนี้ก็บอกทางเดินรถไปในตัวด้วยนะครับ แต่จะดูยากนิดนึง โดยทางเดินรถถ้าจะเข้าส่วนที่จอดรถก็ตรงไปเลยก็ได้รถสวนทางกันได้ ส่วนพวกรถขนของรอบๆอาคารก็จะมีที่จอดรถอยู่เหมือนกันจะเป็นวนทางซ้ายอ้อมอาคารเป็นวันเวย์

หันมองทางซ้ายนิดนึง จะเห็นแนวสวนที่ปลูกแทนรั้วกำแพงโครงการด้านหน้า

เข้ามาแล้วเลี้ยวซ้ายมาก่อนนะครับ บริเวณนี้วันเวย์ เอาไว้สำหรับผู้ที่จะจอดรถใต้อาคารได้ส่วนนึง แต่คิดว่าน่าจะเหมาะกับให้รถเซอร์วิสต่างมาจอดฝั่งนี้มากกว่าครับ ที่เห็นห้องใหญ่ๆทางขวามืออนาคตจะเป็น 7-11 Premium ครับ

ภายใน Unit ร้านค้า ซึ่งอนาคตเป็น 7-11 Premium แต่ปัจจุบันยังเป็นส่วนของดูแลลูกค้าโครงการอยู่ครับ

อ้อมมาที่ด้านข้างฝั่งทิศตะวันออกแล้ว เป็นที่จอดใต้อาคารอย่างที่บอกไป ด้านหลังจะมีทางเดินเชื่อมเข้าตัวโถงลิฟท์ได้เลย แต่ต้องมี key card สำหรับลูกบ้านนะ

มองไปทางซ้ายมือเป็นรั้วกำแพงคอนกรีตทึบสูงประมาณ 3 เมตร แต่มีปลูกพวกต้นโมกและต้นไม้อื่นๆตามริมกำแพงเอาไว้ เพื่อให้ตัดกับสีเทาดูแล้วไม่รู้สึกอึดอัด อ้อ..มีไฟมินิสปอร์ตไลท์ส่องสว่างให้ด้วยครับ

เงยหน้ามองที่อาคาร ในส่วนที่จอดรถฝั่งนี้มีการตกแต่ง Facade เป็นผนังกั้นด้วยแผ่นเหล็กช่องๆแบบนี้ และปลูกไม้เลื้อยแซมไว้ ลมและแสงยังส่องผ่านเข้ามาได้ เดี๋ยวให้ดูตอนเข้าไปในที่จอดรถครับ

บริเวณขวามือเป็นที่จอดรถมอเตอร์ไซค์ และเลี้ยวโค้งขวาไปทางด้านหลังอาคาร

ด้านหลังอาคารที่ผ่านมาไม่มีอะไรมีแค่ประตูทางเข้าออกของบันไดหนีไฟ พอพ้นมาอีกโค้งจะเข้าสู่ฝั่งทิศตะวันออก ก็มีสวนหย่อมเล็กๆอีกจุดที่โค้งนี้

เลี้ยวมาปุ๊ปจะเจอกับทางเข้าในอาคารในส่วนที่จอดรถครับ

รั้วกำแพงฝั่งนี้จะติดกันกับบบ้านที่ประกาศไม่ขาย ในบ้านเค้ามีต้นไม้เยอะมาก เลยได้วิวสีเขียวอิงมาทางฝั่งเราด้วย

เนื่องด้วยช่างกำลังเก็บงานส่วนที่จอดรถเป็นจุดสุดท้ายเลยทำให้มีส่วนที่ยังไม่เรียบร้อยอยู่บ้าง แต่จะขอพาไปดูนิดๆหน่อยครับ ทางขึ้นลงเข้าตัวอาคารกำลังติดตั้งรั้วกั้นไม้กระดก โดยต้องแตะคีย์การ์ดลูกบ้านเพื่อเข้าออก

ขึ้นมาแล้วที่จอดรถเป็นแบบตีช่องจอดเอาไว้ให้ และมีไฟส่องสว่างภายใน คิดว่าภายในอาคารไม่สามารถจอดรถซ้อนคันได้เพราะเป็นเดินรถสองทาง และวนเป็นวงกลม ระหว่างใจกลางอาคารจะมีประตูทางเข้าโถงลิฟท์ ที่ต้องแตะคีย์การ์ดเพื่อเข้าไปอยู่

มองไปด้านหลังจะเห็น Facade ที่จอดรถส่วนที่เป็นเหล็กเจาะรูโปร่งแบบนี้ ช่วยเพิ่มความสวยงามและ Privacy ไปในตัว

ทุกชั้นของที่จอดรถจะมีชุดตู้กันอัคคีภัย และบันไดทางหนีไฟอยู่

ใจกลางอาคารจะมีประตูทางเข้าโถงลิฟท์ ที่ต้องแตะคีย์การ์ดเพื่อเข้าไปอยู่ ทางเข้าอาคารเป็นแบบลโลปขึ้นไปเอาไว้สำหรับใช้งานรถเข็นได้ด้วยครับ บริเวณนี้อยู่ระหว่างกำลังเก็บงานสีอยู่นะครับ ช่างทาสียืนอยู่ข้างๆผมรออยู่เลย 😀

เข้ามาข้างในโถงลิฟท์แล้วพื้นเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้สีครัม ผนังรอบด้านทาสีเทาเอาไว้ มีติดตั้ง CCTV เอาไว้ 1 จุด

หันมามองทางซ้ายมือจะมีประตูทางออกสำหรับทางหนีไฟอีกจุดนึง ทุกชั้นจะมีป้ายบอกเลขชั้นอยู่

หน้าตาประตูทางเข้าลิฟท์ธรรมดา

กลับมาที่ด้านนอกอาคารกันอีกที ด้านหน้าทางเข้าส่วนของ Lobby ครัว ตรงนี้เป็นผนังกระจกรอบด้านเลยนะครับ แต่กลางวันอากาศร้อนเค้าเลยดึงท่านลงเอาไว้

เข้าประตูมาแล้วเงยหน้าเห็นโคมไฟตกแต่งเป็นเส้นลวดลายห้อยลงมา

ทางซ้ายมือเป็น Reception และมีชุดโต๊ะเก้าอี้รับแขกให้สำหรับลูกบ้านและผู้มาติดต่อประมาณ 3 โต๊ะ สังเกตลวดลายที่พื้นและเพดานมีทำเป็นเส้นลวดลายแบบเส้นโค้งมาให้เห็นเหมือนด้านนอกอาคาร

อีกด้านนึงเป็นส่วนของห้อง Mail Box ค่อนข้างกว้างนะครับ สุดปลายผนังติดกระจกเงาเอาไว้อีกทำให้ดูกว้างเพิ่มมากขึ้นอีก

มองตรงไปข้างหน้าเป็นประตูกระจกทางเข้าโถงลิฟท์ ต้องแตะคีย์การ์ดเพื่อใช้เข้าออกนะครับ  ทางขวามือเป็นบันไดทางขึ้นไปห้องนิติบุคคลซึ่งจะอยู่เหนือห้อง Mail Box พอดี ส่วนซ้ายมือเป็นห้องน้ำให้ลูกบ้านและส่วนผู้มาติดต่อใช้ได้แยกชายหญิงครับ

ให้ดูในห้องน้ำชายสักหน่อย ตกแต่งโทนสีขาวดำและเล่นไฟที่ผนังและใต้อ่าง

กลับมาที่โถงหน้าลิฟท์อีกครั้งจะเห็นว่าพื้นกระเบื้องลายและสีจะสวยกว่าจุดอื่นนะ มองตรงไปเป็นประตูกระจกทางเข้าออกส่วนที่เชื่อมกับที่จอดรถด้านนอกใต้อาคาร และก็ทางเข้าลิฟท์ Service ก็อยู่ด้านนอกด้วย 1 ตัว ส่วนลิฟท์โดยสารจะมี 2 ตัวเท่านั้น

ลิฟท์ใช้ของ OTIS หน้าตาแบบนี้โดยสารได้ 12 คน น้ำหนักไม่เกิน 900 กิโล

มาที่ชั้น 8 แล้ว ออกจากลิฟท์หันขวามือมาจะเจอกับประตูทางเข้า Library & Business Center ต้องใช้คีย์การ์ดเข้าเช่นกัน ที่นี้ทางเข้าออกการใช้งานแต่ละจุดจะต้องแตะคีย์การ์ดเกือบหมดดูเหมือนจะยุ่งยาก แต่โดยส่วนตัวผมชอบนะมันเหมือนค่อยๆคัดกรองคนที่แอบเนียนมาจริงๆว่าไม่สามารถลักไก่เข้ามาใช้ได้

เข้ามาแล้วภายในห้องห้องจะแบ่งการใช้งานออกเป็นโซน ขนาดไม่ได้ใหญ่มากนัก ส่วนของ Business Center ก็คือห้องประชุมแหละ ที่เห็นมีประตูบานเลื่อน 3 ขั้นกั้นเอาไว้เป็นสัดส่วนในการใช้งานแยกเป็นจุด

เริ่มจากทางซ้ายมือก่อนจะเป็นชุดโซฟาเก้าอี้ มีโต๊ะกลางให้ บริเวณนี้เหมาะกับนั่งอ่านหนังสือ สามารถวางเครื่องดื่มบนโต๊ะได้เพราะพื้นจะเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้สีดำ ตัดจบด้วยขอบสแตนเลสเป็นเส้นโค้งแบบนี้ มองไปด้านนอกถ้าเปิดม่านออกจะเป็นส่วนของสวน

ข้างๆใกล้กับประตูตกแต่งเป็นชั้นวางของแบบนี้ซ่อนไฟเอาไว้ด้านหลัง

มุมนี้เป็นชุดโต๊ะนั่งทำงาน มีมาให้แค่ 2 ตัว บริเวณนี้พื้นเปลี่ยนเป็นลามิเนต

ภายในห้องส่วนของ Business Center ทำรูปแบบเหมือนกับ Meeting Room วางชุดเก้าอี้เอาไว้ 8 ตัว ผนังรอบเป็นกระจกแสงส่องผ่านเข้ามาได้ 2 ด้าน ที่พื้นด้านล่างมีปลั๊กไฟติดตั้งพร้อมใช้งานเอาไว้ให้

ทีนี้ออกมาจากห้อง Library แล้วเดินไปยังฝั่งซ้ายของลิฟท์ จะเจอกับห้องซักรีด(หลังบานกระจก) ที่เดี๋ยวทางโครงการจะเอาเครื่องซักผ้ามาลงให้ประมาณ 6 เครื่อง ส่วนประตูไม้ทางขวาเป็นห้องน้ำรวมครับ ภายในก็มีฟังก์ชั่นทั่วไปสุขภัณฑ์แยกชายหญิงเอาไว้

เข้ามาที่ห้อง Social Club กันบ้าง ห้องนี้ค่อนข้างกว้างเลยทีเดียว มีพื้นที่การใช้งานเป็นจุดๆแยกเป็นสัดส่วน

เข้ามาในห้องทางซ้ายมือ เหมือนเป็นห้องนั่ง้ล่นที่นั่งกันได้หลายคน น่าจะเกิน 10 คนครับ และมีชุดโต๊ะอยู่ตรงกลาง ผนังด้านนึงเป็นกระจกมองซิตี้วิว ผนังอีกด้านติดกระจกเงาเอาไว้ ห้องนี้เอาไว้มานั่งเล่นดูทีวีก็ได้ เห็นติดตั้งเอาไว้ให้อยู่ 1 ตัว

ด้านนอกเป็นส่วนของ Game Play ที่มีโต๊ะพูล และ Soccer Table มาให้อย่างละอัน

ด้านหลังโต๊ะพูลเป็น Pantry แบบยาวมีอ่างล้างจานติดตั้งเอาไว้ให้ด้วย เหมาะสำหรับจัดเตรียมพวกอาหารว่างเครื่องดื่มเบาๆ

มองกลับหลังไปเป็นชุดโต๊ะเก้าอี้นั่งเล่นแบบนี้มีมาให้ 3 ชุด ด้านนอกเป็นพื้นที่สวนหย่อม

ซึ่งหน้าต่างช่องแสงที่อยู่ใกล้ชุดโต๊ะเก้าอี้นั่งเล่นสามารถเปิดหน้าต่างรับลมเวลาไม่เปิดแอร์ได้นะครับ โดยหมุนองศาครึ่งนึงแบบนี้

ออกมาด้านนอกมีชุดเก้าอี้นั่งอีกประมาณ 3 ชุด

พื้นที่ Outdoor เป็นสวนหย่อมใช้แผ่นไม่ตกแต่งให้ลวดลายเป็นเส้นโค้ง เล่นระดับขึ้นไปแบบนี้ตามคอนเซ็ปท์โครงการเล่นเส้นและลวดลาย

ขึ้นมาที่ชั้น 37 แล้ว ออกมาโถงลิฟท์จะเจอกับบันไดทางขึ้นเพื่อออกไปสู่สระว่ายน้ำ แต่ก่อนที่จะออกไปจะเจอกับทางเข้าของห้องน้ำแยกชายหญิงก่อน

ภายในห้องน้ำชาย มีฟังก์ชั่นการใช้งานให้ครบ แต่..มีให้อย่างละอันเท่านั้น ห้องน้ำชายจะเป็นห้องซาวน่านะครับ

มีห้องอาบน้ำ ห้องสุขภัณฑ์ ล็อกเกอร์เก็บของเอาไว้ให้

ห้องน้ำหญิงก็เหมือนกัน แต่จะเปลี่ยนจากห้องซาวน่ากลายเป็นห้องสตรีมอบไอน้ำแทน

ออกจากหน้าห้องน้ำเป็นทางออกไปส่วนของสระว่ายน้ำ ซึ่งต้องใช้ Key Card เหมือนเดิม

ออกมาปุ๊ปจะเจอกับสระว่ายน้ำระบบเกลือ 25 × 5 เมตร ลึก 1.2 เมตร ขวามือเป็น Deck นั่งเล่นนอนอาบแดด มาให้ 4 ตัว ถัดไปจะเห็นต้นไม้ที่ยื่นออกมาเล็กๆใช่ไหมครับ เดี๋ยวเดินไปดูกัน

พื้นที่นี้จะเป็นจากกุชชี่นั่นเอง ตำแหน่งอยู่ใต้ต้นไม้แบบนี้ เอาไว้สำหรับใช้งานตอนกลางวันก็ได้หลบแดดใต้ต้นไม้

มองย้อนกลับไปจะเห็นว่าสระว่ายน้ำเป็นทั้ง Outdoor และ Indoorในตัว โดยด้านบนที่เห็นเป็น Double Floor เป็นส่วนของ Fitness ซึ่งเป็นห้องกระจกรอบด้าน Take วิวเวลาออกกำลังกายได้เต็มที่

ปลายสระฝั่งในร่มมีที่ล้างตัวมาให้จุดนึงเป็นแบบ Rain Shower

ขอบสระเป็นแบบน้ำล้นนะด้านล่างโรยตกแต่งด้วยหินกรวด

มองไปฝั่งนี้คือวิวทิศตะวันตก วิวจะโล่งฝั่งนึงนะ

หันมาทางซ้ายนิดนึง จะเป็นพื้น Pool Deck Area นั่งเล่นได้หลายที่นั่ง

ซึ่งด้านหลังเป็นผนังกระจกองศาเฉียงๆแบบนี้ ตอนกลางคืนมาชมวิวทางฝั่งสยามได้ ทางซ้ายมือเป็นบันไดทางขึ้นไปชั้นบน

ขึ้นมาชั้นบน Fitness แล้ว ห้องขนาดค่อนข้างใหญ่ทีเดียว โครงการวางเครื่องเล่นเอาไว้ 3 ด้านเลย เอาไว้รับวิวได้คนละฝั่ง กลางวันจะร้อนหน่อยนะครับเพราะเป็นกระจกรอบด้าน เลยดึงม่านลงเอาไว้

ชุดเครื่องออกกำลังกายแบบปั่นถีบจักรยานมีมาให้ 6 ตัว

ขวามือเป็นพวกวิ่งครับ

มุมบนเครื่องวิ่งนี้ดีงามมาก เห็นสระว่ายน้ำส่วนนึงและก็วิวทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ตึกใบหยกนั่นเอง

เอาละมาดูวิวกันหน่อย อันนี้ยืนจากผนังกระจกบริเวณห้อง Fitness เริ่มจากวิวทิศตะวันออกเฉียงเหนือ City View + ตึกใบหยก

ทางฝั่งทิศเหนือเนี่ยถ้าก้มลงมองนิดหน่อยจะเห็นอาคารเพชร 9 ทาวเวอร์สูง 27 ชั้น ซึ่ง Fitness เลยความสูงมาแล้ว มองตรงไปอาคารสีแดงคือปทุมวันรีสอร์ทคอนโดสูง 39 ชั้น แล้วซ้ายมือหน่อยเห็นคอนโดวิลล่าราชเทวี สูง 44 ชั้น

วิวฝั่งทิศตะวันตกจะเห็นสี่แยกราชเทวี และ BTS สถานีราชเทวี ตึกขวามือสุดคือคอนโดวิลล่าราชเทวี  มองไปกลางๆเห็น ราชเทวีทาวเวอร์, Condolette Ize , PYNE และซ้ายสุดคือบ้านกลางกรุงสยามปทุมวัน

สุดท้ายวิวฝั่งทิศใต้มองไปไกลๆสีเขียวๆนั่นคือวังสระปทุม พ้นไปเป็นสยามเซ็นเตอร์ และ Siam Kempinski Hotel อีกหน่อยทางขวามือจะมี The Line ราชเทวีมาบังอีกส่วนนึง

โถงทางเดินหน้าลิฟท์ในส่วนของชั้นพักอาศัยพื้นจะเปลี่ยนมาเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้สีครีมธรรมดานะครับ

ทางเดินกว้างประมาณ 1.5 เมตร ตามโถงทางเดินมีบันไดหนีไฟ ตู้กันอัคคีภัย ไฟส่องสว่างตามทางเดิน และ CCTV มาให้แต่ละชั้น

 

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • ชั้น 1 : Lobby, Mailbox Room, 7-11 Premium
  • ชั้น 8 : โซเชียลคลับ, ห้องสมุดและบิซิเนสเซ็นเตอร์, ห้องห้องซักรีด, สวน
  • ชั้น 37 : Double Floor สระว่ายน้ำ, จากุซซี่, ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า, ห้องอบไอน้ำ, ห้องซาวน่า, สวนห้องซักรีด
  • สระว่ายน้ำ ระบบเกลือ 25 × 5 เมตร ลึก 1.2 เมตร เป็นทั้ง Outdoor และ Indoor
  • ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง ขนาดใหญ่อยู่เหนือสระ ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 17 เครื่อง
  • สวนหย่อมรอบโครงการ
  • ลิฟท์โดยสาร 2 ตัวต่อ / Service Lift 1 ตัว
  • อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ อัตราส่วน 162 : 1
  • ที่จอดรถประมาณ 169 คันคิดเป็น 52%
  • ระบบ CCTV ที่ทางเข้าออก, รอบโครงการ, โถงทางเดิน/ Access Key Card
  • พนักงานรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง

 


Product Walkthrough

1

ผังห้อง 1 Bedroom Type B1-5 ขนาด 34 ตารางเมตร ห้องนี้ได้ครัวปิด แต่วาง Pantry ได้ไม่ใหญ่มาก และตู้เย็นจะอยู่ตรงข้าม Pantry ส่วนห้องนั่งเล่นกับห้องนอน กั้นด้วยประตูบานเลื่อน บานใหญ่ 2 ชิ้น ห้องน้ำอยู่ในห้องนอน ส่วน Signature ของห้องตระกูล IDEO ก็ยังคงมีอยู่คือระเบียงที่มีหน้าต่าง 2 ชั้น และแยกห้องเก็บคอมแอร์ต่างหาก ทำให้ใช้งานระเบียงได้หลากหลายมาก จะเป็นพื้นที่นั่งเล่นที่ขยายออกก็ได้ จะเปิดหน้าต่างบานนอก เพื่อตากผ้าก็ได้ หรือในวันฝนตกก็ตากผ้าได้ ไม่ต้องกลัวระเบียงเปียก ส่วนคอมแอร์ที่แยกไปอยู่ต่างหาก ทำให้ระเบียงไม่มีลมร้อน ปลูกต้นไม้หรือนั่งเล่นที่ระเบียงได้ครับ… อ้อ ตรงนี้มีข้อเสียนิดนึง คือห้องนอนจะมีช่องเปิด รับวิวส่วนหน้าต่างห้องที่ค่อนข้างเล็ก แต่สามารถวางโซฟาเล็กหรือโต๊ะทำงานตรงนั้นได้    ตัวห้องขายแบบ Fully Fitted นะครับ ให้เฟอร์มาบางส่วนเช่นชุดครัว Hob&Hood, ฉากกั้นบานเลื่อนสามตอนระหว่างห้องนั่งเล่น, แอร์ 1 ตัว, กระจกฉากกั้นอาบน้ำ เป็นต้น

มาดูห้องของจริงกันครับ เริ่มจากประตูทางเข้า ติดตั้งตาแมว และ Digital Door Lock ของ Yale มาให้

หน้าตาชุดบ้านเลขที่ , กริ่งกด , Digital Door Lock และมือจับเป็นแบบก้านโยก

ทางเข้าห้องเป็นธรณีก่อสูงขึ้นมาประมาณ 3 ซม. เผื่อเวลาแม่บ้านกวาดถูบริเวณโถงทางเดินจะได้ไม่กระเด็นเลอะเข้ามาในตัวห้อง พอเข้าไปห้องแล้วจะเป็นพื้นลามิเนต 8 mm.

ด้านหลังประตูติดโช๊คลมสำหรับกันประตูกระแทกของ HAFELE มาให้ครับ

เข้ามาในห้องซ้ายมือเป็นส่วนของครัว ขวามือเป็นพื้นที่วางตู้เย็น พื้นที่ทำครัวไม่ได้แคบมากนะครับ พอยืนหมุนตัวหันไปหยิบของที่ตู้เย็นได้สบาย

มองย้อนกลับไปที่ประตูทางเข้าครับ เดี๋ยวดูส่วนครัวขวามือกันก่อน

Pantry มีพื้นที่และการใช้งานได้พอสมควร ได้เตาไฟฟ้าของ MEX 2 หัว พร้อมเครื่องดูดควัน ไมโครเวฟวางด้านบนสูง แต่ยังอยู่ในระยะที่หยิบได้ไม่ลำบากอยู่นะ

ลองเปิดชุดตู้ Built-In ด้านบนให้ดูครับ เก็บของได้ระดับนึง ด้านในส่วนนึงเป็นคัทเอาท์เบรคเกอร์ไฟ

Top ครัวเป็นหินสังเคราะหืสีขาวเรียบ ผนังด้านหลังดีที่ติดกระเบื้องมาให้เวลาทำอาหารจะได้เช็ดถูง่าย ส่วนอ่างล้างจานมีที่ปิดมาให้ เพื่อวางของเตรียมของได้ ถ้าจะล้างอะไรก็เปิดฝาปิดออก

ลองปิด-เปิดให้ดูครับ เวลาเราไม่ได้ใช้งานส่วนล้าง ก็ปิดเอาไว้ จะได้พื้นที่เตรียมอาหารเพิ่มขึ้น

หน้าตาเตาไฟฟ้าของ MEX 2 หัว พร้อมเครื่องดูดควัน

ด้านล่างเป็นชุดตู้ใต้อ่าง เก็ของได้ประมาณนึงครับ

บริเวณตรงข้ามครัวเป็นที่วางตู้เย็น และด้านข้างเหลือพื้นที่ Built-In เป็นตู้เก็บรองเท้าได้แบบนี้ เป็นไอเดียวจากห้องตัวอย่างนะครับ

ด้วยพื้นที่ที่จำกัดหน่อย เวลาเลือกเฟอร์นิเจอร์บริเวณโต๊ะทานอาหารก็ควรหาแบบที่มีออฟชั่นการปรับเก็บประหยัดเนื้อที่แบบนี้จะได้ไม่เปลืองพื้นที่

ถ่ายให้ดูภาพรวมของ Living Area ซึ่งไม่ต้องไปสนใจเฟอร์นิเจอร์นะครับ เค้าไม่ได้ให้มาแค่วางให้ดูเป็นไอเดียว่าอะไรควรอยู่ตรงไหน ระยะดูทีวีได้ 2 เมตรนิดๆ

ดูจากมุมนี้ยังพอมีพื้นที่ด้านข้างเลือกเป็นโซฟาแบบ 3 ที่นั่งได้นะถ้าใครมีแขกมาบ่อย แต่ถ้าเอาแบบสองที่นั่งทางขวามือจะเหลือพื้นที่วางโ๖๊ะข้างโซฟาได้

ระยะดูทีวีประมาณ 2.2 เมตร จะได้ฟีลประมาณนี้ ควรเลือกทีวีไซส์ประมาณ 40-47 นิ้ว เป็นไซส์ที่กำลังเหมาะสม ผนังด้านนี้เราก็เลือกตกแต่งตามใจชอบเลย มีของโชว์ของเก็บเยอะไหม ตำแหน่งแอร์ที่ได้อยู่เหนือทีวีพอดี

ระเบียงที่เป็น Signature ของตระกูล Ideo ที่จะทำเป็นกระจกหน้าต่างอีกหนึ่งชั้น ปิดอยู่ตรงกันตก  ทำให้ห้องนี้สามารถใช้งานระเบียงได้หลากหลาย จะเปิดต่อเชื่อมเหมือนเป็นพื้นที่ภายในก็ได้ เพราะมีหน้าต่างปิดอีกชั้น หรือจะเปิด เพื่อให้เป็นระเบียกปกติ เพื่อตากผ้าก็ได้

ประตูจะเป็นกระจกบานเลื่อนเป็น 3 ตอน ลองเปิดบานเลื่อนกระจกให้ดูได้ทางเดินเข้าออกประมาณนี้

พื้นระเบียงจะเป็นกระเบื้องแบบเดียวกับห้องน้ำครับ อย่างที่บอกว่าพื้นที่ระเบียงสามารถจัดฟังก์ชั่นเป็นทั้งพื้นที่นั่งเล่น จิบชา พื้นที่ตากผ้าก็ดี หรือจัดสวนกระถางก็ได้ แล้วแต่ความชอบเลย

ด้านซ้ายมือแยกห้องกั้นส่วนของห้องเก็บคอมแอร์ฯ หน้าต่างบานระเบียงสามารถเปิดออกได้จากตรงกลาง มีราวเหล็กโปร่งกันตกมาให้อีกชั้นนึง

พื้นที่เก็บคอมแอร์ หันลมร้อนออกนอกอาคาร และมีระแนงเหล็กบังสายตาจากภายนอกเอาไว้

ห้องตัวอย่างที่ไปถ่ายนี้อยู่ชั้น 12 วิวทิศเหนือ จะติดกับอาคารเพชร 9 ทาวเวอร์ในระยะใกล้แบบนี้ ซ้ายมือคือคอนโดวิลล่าราชเทวี

กลับมาในห้อง ห้องนั่งเล่นนี่สามารถเชื่อมต่อกับส่วนของห้องนอนได้เลยนะ โดยทางโครงการจะให้ประตูเปิดปิดบานเลื่อนขนาดใหญ่ 2 ตอนมาให้กั้นพื้นเวลาจะแยกเป็นสัดส่วน

เวลาปิดจะเป็นแบบนี้ครับ เผื่อคุณผู้ชายจะดูทีวี คุณผู้หญิงจะนอนก็ปิดประตูแยกส่วนกันได้

เข้ามาในห้องนอน ระยะปลายเตียงเหลือค่อนข้างเดินลำบากนิดหน่อย ถ้าจะเดินไปทางฝั่งขวา(หน้าต่าง)

พื้นที่ด้านข้างนี้เหลือสามารถวางโต๊ะหัวเตียงได้ แต่ผมแนะนำว่าให้ปรับเปลี่ยนมุมนี้ทำเป็นโ๖๊ะทำงานไปเลยจะได้ใช้ประโยชน์ในพื้นที่คุ้มค่าที่สุด

อันเนื่องมาจาก ต้องเสียพื้นที่ทำห้องเก็บคอมแอร์แยก ทำให้ห้องนอนเหลือพื้นที่รับวิวและแสงแค่นี้ ซึ่งเค้าเอาโซฟาเล็กมาตั้งให้ดู แต่ผมว่า นั่งไม่สนุก มันเหงานั่งได้คนเดียว ควรจะวางเป็นโต๊ะนั่งทำงานจะใช้งานคุ้มกว่า ด้านหลังเป็นช่องแสงที่สามารถเปิดออกได้

เป็นหน้าต่างบานกระทุ้งเปิดออกได้ประมาณนี้

ห้องนี้สามารถทำทีวีแขวนผนังแบบนี้ได้นะ แล้วเราก็เลือกขาตั้งยึดผนังแบบที่ยืดออกได้ ปรับมุมองศาได้ จะได้นอนดูทีวีได้ เผื่อคุณผู้ชายคุณผู้หญิงจะแยกกันดูทีวีคนละห้องก็ได้

ผนังด้านบนหัวเตียงห้องตัวอย่าง ใช้แสงไฟตกแต่งให้เป็นเส้นลวดลายให้เข้ากับคอนเซ็ปท์โครงการ ใช้เป็นไอเดียได้นะสวยดี

ส่วนอีกด้านนึงฝั่งห้องน้ำ มีพื้นที่เหลือพอสำหรับ Built-In ตู้เสื้อผ้าทำแบบเต็มผนังพื้นถึงฝ้าไปเลยครับ จะได้เก็บได้เยอะหน่อย

ด้านข้างเตียงโครงการเลือกจัดวางเป็นโต๊ะเครื่องแป้งเล็กๆแบบนี้ เวลาเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าจะได้ไม่ติดกันมาก หรือเราจะเลือกใช้โต๊ะเครื่องแป้งแบบที่พับเก็บชิดผนังก็ดีนะ เดี๋ยวนี้เห็นหาซื้อไม่ยากแล้ว

ห้องน้ำมีฟังก์ชั่นการใช้งานครบ 3 ส่วน อ่างล้างมือ สุขภัณฑ์ พื้นที่อาบน้ำ โดยมีการแยกส่วนแห้งและส่วนเปียกชัดเจน ด้านบนมีพัดลมดูดอากาศให้และโคมไฟดาวน์ไลท์ 2 ดวง

พื้นห้องน้ำเป็นธรณีก่อสูงขึ้นมาประมาณ 3 ซม. ในห้องน้ำจะเป็นกระเบื้องเคลือบผิวด้านนะครับ

หน้าตาชุเอ่างล้างมือ มีพื้นที่วางของรอบๆได้เล็กน้อย เป็นของ COTTO ทั้งหมด มีตู้ใต้อ่างให้ด้วย

ลองเปิดในตู้ใต้อ่างให้ดู ก๊อกที่อ่างล้างมือสามารถติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นได้ด้วยนะ

ถัดมาเป็นพื้นที่วางสุขภัณฑ์ของ COTTO เช่นกัน โดยมีระยะห่างจากทั้งฝั่งซ้ายและขวาไม่อึดอัดจนเกินไปใช้งานได้ปกติ

ฉากกั้นอาบน้ำกระจกแยกพื้นที่ส่วนเปียก ใช้ประตูกระจกบานสวิงมีติดกันกระแทกกับผนังเอาไว้ให้ด้วย ขนาดพื้นที่อาบน้ำพอไหว

พื้นที่อาบน้ำเป็นรูปทรงตัว L แบบนี้ พื้นที่ประมาณ 40 x 60 ซม. + 1.0 x 1.0 เมตร

ชุดฝักบัวหน้าตาแปลกๆเก๋ไก๋ดี และที่วางอุปกรณ์อาบน้ำที่จัดมาให้วางกันอย่างเต็มที่ เพราะมีพื้นที่เว้าเข้าไปพอดี

ให้ดูหน้าตาหัวฝักบัวครับ ตรงกลางเป็นรูโบ๋ๆแบบนี้ 😀

ผังห้อง 1+1 Bedroom ขนาด 47 ตารางเมตร ที่เรียกว่า 1+1 เพราะห้องนอนที่สมบูรณ์มีห้องเดียว อีกห้องถือเป็นห้องอเนกประสงค์มากกว่า ซึ่งจะจัดเป็นห้องนอนเล็กๆ ก็พอไหว แต่ระยะอะไรๆมันค่อนข้างจะคับแคบ ห้องนี้ได้ครัวปิดคล้ายห้อง 1 Bedroom แต่มีพื้นที่ในครัวมากกว่า ห้องนั่งเล่น พื้นที่ยืดหยุ่น จัดได้หลายแบบ และได้ระเบียงแบบกระจก 2 ชั้น แยกห้องคอมแอร์ เช่นเคย

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ

 

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 17 March 2016 (เหลือ Resale 3 Unit)

  • 1 Bedroom ชั้น 12A ห้อง 04 เนื้อที่ 34 ตร.ม. ราคา 5.79 ล้านบาท หรือ 170,294 บาท/ตร.ม.
  • 1 Bedroom ชั้น 16 ห้อง 06 เนื้อที่ 34 ตร.ม. ราคา 5.892 ล้านบาท หรือ 173,294 บาท/ตร.ม.
  • 1 Bedroom ชั้น 19 ห้อง 06 เนื้อที่ 34 ตร.ม. ราคา 5.994 ล้านบาท หรือ 176,294 บาท/ตร.ม.

  • Fully Fitted
  • ฝ้าเพดานสูง 2.60 เมตร
  • Kitchen & Sink
  • Hob & Hood
  • จอง 50,000 บาท
  • ทำสัญญา 200,000 บาท
  • ค่าส่วนกลาง 65 บาท ต่อตารางเมตรต่อเดือน
  • ค่าเงินสมบทเข้ากองทุน 600 บาท ต่อตารางเมตร

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ


เจาะลึกรวบยอด

IDEO Q ราชเทวี อยู่ในทำเลที่เรียกว่าใจกลางเมืองเกาะอิงแอบแนบชิดสยาม ตัวทำเลโครงการอยู่ติดถนนใหญ่บนถนนเพชรบุรีใกล้แยกราชเทวี และไม่ไกลจากประตูน้ำ ซึ่งตำแหน่งที่ตั้งถ้าเป็นคนขยันเดินหน่อย นี่แทบจะเรียกว่าสะดวกมาก เพราะอยู่ใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีราชเทวี และพอจะเดินไป Airport Link ได้ด้วย รายรอบโครงการก็มีร้านค้า และร้านอาหารให้พอได้พึ่งพิงบ้าง แต่ถ้าเดินสัก 400 เมตรมาแถวๆหน้าพันธุ์ทิพย์นี่เรียกว่าอุดมสมบูรณ์สุดๆทีเดียวเชียว ส่วนสาธารณูปโภครอบโครงการในระยะที่พอจะเดินทางไปได้ใกล้ๆ เรียกว่า อยู่ในระดับหล่อเลือกได้ เพราะมาสยาม มาพารากอน Central World ชิดลม เพลินจิต ไม่ยากและใกล้มาก ซึ่งเหล่านี้คือแหล่งชอปปิ้งที่สมบูรณ์สุดของประเทศแล้ว เลือกได้เลยว่าจะนั่ง BTS ไป หรือขับรถไปไม่ยากทั้งคู่ ส่วนแหล่งช้อปย่านประตูน้ำ นี่ไม่ต้องพูดถึงเนอะยิ่งใกล้ไปใหญ่

การเดินทางโดยรถยนต์ สะดวกมากในวันและช่วงที่รถไม่ติด แต่ถ้าวันหยุดบางวัน หรือตอนเช้าเย็นนี่ สาหัสเอาเรื่อง ข้อดีในการเดินทางด้วยรถคือ เข้าเมืองง่าย ไปได้หลายทางพอใช้ แต่ติดหน่อยเรื่องการห้ามเลี้ยว ห้ามกลับรถและรถติดนี่แหละ โดยเฉพาะขากลับบ้าน นี่ต้องวางแผนดีๆ เลย ไม่งั้นที่เห็นว่าใกล้ๆ จะกลายเป็นใช้เวลานานแบบไม่น่าเชื่อได้เหมือนกัน

สำหรับคนไม่ใช้รถ นี่เป็นอีกหนึ่งโครงการที่คนไม่ใช้รถอยู่ได้แบบสบายๆ แม้จะไม่ได้ติดรถไฟฟ้าแบบบันไดสถานีพาดเข้าโครงการ เหมือนเพื่อนบ้านย่านนี้หลายตึก แต่ก็อยู่ในระยะเดินไม่ลำบาก 300 เมตรถึงบันไดเลื่อนของสถานี คงพอเดินได้ไม่ยากนัก ตัวโครงการติดถนนใหญ่ที่มีรถผ่านเมล์และ Taxi ผ่านตลอดเวลา เดินทางขึ้นลงรถปลอดภัยไม่น่าเป็นห่วง เหมือนโครงการที่อยู่ในซอยเปลี่ยวแน่ๆ และสำหรับคนไม่ห่วงทรงผม แถวนี้มีพี่วินคอยให้บริการเยอะเชียวเลือกใช้ได้ตามสะดวก

การออกแบบ IDEO Q ราชเทวี ออกแบบหน้าตาตึกออกมาได้โดดเด้งออกมาจากตึกดั้งเดิมแถวนี้มาก โทนสีที่ใช้จะเป็นสีเทาอ่อนตัดกับเทาเข้ม การออกแบบเน้นเส้นสายในแนวตั้ง ตัดลวดลายด้วยเส้นสีขาว ทำให้ตึกไม่ดูทึบกลืนไปด้วยสีเทาทั้งหมด ด้านบนสุดติดด้วยโลโก้ของโครงการ IDEO Q แบบเห็นเด่นชัดมาแต่ไกล การออกแบบเน้นการใช้เส้นสายเดี๋ยวจะเห็นตั้งแต่หน้าตาภายนอกตึกไปจนถึงส่วนกลางภายใน  ว่ากันที่การใช้งาน ตัวส่วนกลาง ออกแบบมาดูดี แต่ความน่าใช้เป็นเรื่องที่แต่ละคนต้องดูว่าเราชอบแบบนี้ไหม โดยส่วนกลางอย่าง Social Club อยู่ชั้นเดียวกับห้องสมุด ที่ชั้น 8 และส่วนสระว่ายน้ำรับวิวสวยๆที่ชั้น 37 มาอยู่ด้านบนกับ Fitness ซึ่งจริงๆแล้วถ้าได้ Social Club รับวิวด้านบนคงจะสวยไม่น้อย ส่วนการออกแบบห้อง ตัวห้อง 1 Bedroom เป็นรูปแบบมาตรฐานของ Ideo ที่ทำออกมาได้ลงตัวอยู่แล้ว โดยเฉพาะระเบียง ส่วนห้อง 1+1 แนะนำให้เจ้าของห้องใช้ Built in ในหลายๆจุด เพื่อความลงตัวและพื้นที่ใช้สอย+เก็บของได้คุ้มๆ

วัสดุอุปกรณ์ของที่ให้มา เมื่อเทียบกับระดับราคาแล้ว ถือว่าค่อนข้างได้มาน้อยนะครับ และหลุด Spec ไปหลายอย่างโดยเฉพาะพื้นสุขภัณฑ์ ต่างๆ ที่ดูยังไม่ใช่ระดับราคา 170,000 บาทต่อตารางเมตร ที่ควรจะได้อะไรเยอะ หรือมากกว่าที่เห็นนี้มาก ตัวห้องขายแบบ Fully Fitted ครัวได้ Pantry และ Hob&Hood แอร์ 1 ตัว ฉากกั้นอาบน้ำ พื้นลามิเนต 8 mm, กระเบื้องเคลือบส่วนระเบียงและห้องน้ำ

สาธารณูปโภคส่วนกลาง ให้ของหลักๆมาน้อยนะเมื่อเทียบกับราคา ได้ที่จอดรถในช่องจอด 52% และได้ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว แต่สร้างเสร็จแล้วทำออกมาได้น่าใช้ดีทั้งชั้น 8 และชั้น 37 วิวจากสระเป็น Infinity Edge และ Fitness เห็นวิวเกือบรอบด้านเลย ที่สำคัญจะมี 7-11 Premium มาเปิดด้านล่างตึกเป็นอะไรที่ดีสำหรับลูกบ้านแน่นอน

อย่างไรก็ดี โครงการเปิดราคามาระดับแสนกลางๆต่อตารางเมตร  ซึ่งทำให้มีตัวเปรียบเทียบให้หยิบจับในทำเลระดับที่ดีอีกมากมาย ราคานี้เลือกเส้นสุขุมวิทได้เหมือนกัน แต่จากวันที่ไปสำรวจทำรีวิว ณ ล่าสุด ยอดการขายที่เหลือเพียง 3 ยูนิต ก็เป็นคำตอบแล้วว่าในย่านนี้ยังมีความต้องการที่อยู่อาศัยและมีกำลังจับซื้อในราคาระดับแสนกลาง-แสนปลายๆได้เหมือนกันนะครับ

 

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับราคา 170,000 บาท/ตร.ม., 17 March 2016

  • ทำเล 8.0 /10 – ทำเลดี สะดวกมากสำหรับคนไม่ใช้รถ แต่ราคานี้มีตัวเลือกในทำเลที่ดีๆ เปิดกว้างมาก
  • เดินทางด้วยรถ 7.5/10 – สะดวกและใกล้ใจกลางเมืองมากนะ แต่จำนวนที่จอดรถน้อย และสภาพการจราจรที่สาหัสและมีข้อห้ามบางอย่าง
  • ไม่ใช้รถ 8.0/10 – สะดวก เหมาะกับคนไม่ใช้รถ ไม่ถึงกับติดสถานีรถไฟฟ้าระยะแค่ 300 เมตร แต่ชดเชยด้วยปัจจัยรายล้อมโครงการ
  • วัสดุ 6.5/10 – วัสดุอุปกรณ์ของที่ให้มา เมื่อเทียบกับระดับราคาแล้ว ถือว่าค่อนข้างได้มาน้อยนะครับ
  • การออกแบบ 8.0/10 – ออกแบบได้ดี หน้าตาดีภายนอก ส่วนกลาง และ Function ห้องโอเค
  • สาธารณูปโภค 7.0/10 – ยังอยู่มาตรฐานปานกลางเมื่อเทียบกับราคา

  • LUXURY CLASS
  • 7.60/ 10.00

 

BOTTOM LINE

Ideo Q ราชเทวี เป็นคอนโดมิเนียมใจกลางเมืองที่เหมาะกับคนที่มองหาบ้านที่อยู่ใกล้ย่านสยาม หรือประตูน้ำ แบบพอจะเดินไปได้ มีความอุดมสมบูรณ์ครบเครื่องรายรอบโครงการ เดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS สะดวก ต้องการลดการใช้รถ หรือเบื่อเต็มทีแล้วกับการขับรถเข้าเมือง เป็นคนไม่เรื่องมากเรื่องวิว มีนิสัยเลือกของมองที่ความโดดเด่นสะดุดตา ไม่ได้สนใจไล่หาของที่ถูกที่สุด มีงบประมาณระดับ 5-10 ล้าน หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนที่ 35,000 – 70,000 บาท

ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้ผมหน่อยนะครับ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปครับ

สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )