รีวิวฉบับที่ 2176 … สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้เรามีโครงการที่แปลกแต่น่าสนใจ กลางบางเสร่ ใกล้พัทยามารีวิวให้อ่านกัน โครงการนี้มีชื่อว่า ECOresort เป็นคอนโด Low Rise สไตล์รีสอร์ท ที่ตั้งใจเลยว่าทำมาขายนักลงทุนโดยเฉพาะค่ะ สำหรับคนที่สนใจ หลังจากซื้อห้องแล้วทางโครงการจะมีทีมงานจัดการบริหารเรื่องการปล่อยเช่าให้ และมีการทำ Service ของโครงการนี้ให้กับคนที่มาเช่าได้มาตรฐานเทียบเท่ากับโรงแรมเลย รายละเอียดจะเป็นอย่างไรบ้าง มาติดตามกันค่ะ
ข้อมูลโครงการ
1 December 2020
- ECOresort Bang Saray (อีโครีสอร์ท บางเสร่)
- Sisaran Group Co., Ltd.
- UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2020 ได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ : เขตบางเสร่ จังหวัดชลบุรี
- ที่ดินประมาณ 2-2-68.95 ไร่
- คอนโด Low Rise 8 ชั้น 2 อาคาร 262 ยูนิต
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 24 ยูนิตที่อาคาร B
- ที่จอดรถประมาณ 65 คัน และที่จอดรถจักรยานยนต์ประมาณ 40 คัน
- เริ่มก่อสร้าง : 2021
- คาดว่าจะแล้วเสร็จ : 2024
- Studio 25.25 – 26.43 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.2 ล้านบาท
- 1 Bedroom 32.43 – 43.87 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.1 ล้านบาท
- 2 Bedrooms 43.42 – 58.67 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 5 ล้านบาท
- ฝ้าเพดานสูง 2.45 เมตร
- ราคาห้องเริ่มต้น 2.2 ล้านบาท (Studio) / หรือตร.ม.ละ 87,129 บาท
- ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการประมาณ 115,xxx บาท/ตร.ม.
- EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : อยู่ระหว่างดำเนินการนแล้ว
- เว็บไซต์โครงการ : www.sisaran.com
- โทร : 092-260-6030
- Email: [email protected]
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มค่ะ
ทำเลที่ตั้ง
พิกัด Google Maps : 12.763098, 100.898029
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
ทำเลของโครงการ ECOresort นี้อยู่ใจกลางบางเสร่เลยค่ะ อยู่ย่านชุมชนเลย เป็นทำเลที่ถือว่าสะดวกกับการใช้ชีวิตมาก เพราะติดกับตลาด หาของกินของใช้ได้ง่าย และยังไม่ไกลจากทะเล (ห่างออกไปราวๆ 1 กม.) ซึ่งทางโครงการก็จะมีบริการรถรับ-ส่งฟรีไปยังสถานที่ต่างๆภายในบางเสร่ หรือใครสนใจจะปั่นจักรยานออกไปชมเมืองหรือซื้อของ ทางโครงการก็จะมีให้ยืมเช่นกันค่ะ นอกจากนั้น
บางเสร่ ถือว่าเป็นเมืองชายทะเลใกล้กับพัทยา (อยู่ระหว่างพัทยาและสนามบินอู่ตะเภา) บางเสร่นั้นเดิมทีมีชื่อเสียงเรื่องอาหารทะเลค่ะ ถ้าใครเคยได้ยินท่าเรือบางเสร่กันมาบ้างก็คงรู้เลยว่าชาวบ้านที่นี่อาชีพหลักอย่างหนึ่งคือเป็นชาวประมง ตอนที่เราไปพักที่พัทยาช่วงเช้าๆพ่อแม่เราก็ขับรถมาซื้ออาหารทะเลสดๆเพื่อนำกลับไปปรุงกินเองกัน หรือใกล้ๆท่าเรือเองก็มีร้านอาหาร seefood ขึ้นชื่ออยู่หลายร้านเลยค่ะ
ด้วยทำเลที่ใกล้กับพัทยา แต่บรรยากาศของบางเสร่นั้นจะมีความแตกต่างจากพัทยาอยู่พอสมควรนะคะ ตัวเมืองพัทยานั้นถูกพัฒนามาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวโดยเฉพาะ มีทั้งคนไทยและชาวต่างชาติอยู่อาศัยกันเต็มไปหมด ร้านค้าร้านอาหารก็จะเป็น Commercial จริงจัง มีห้างสรรพสินค้า สถานบันเทิงครบรส แต่สำหรับบางเสร่นั้น กลับเป็นย่านที่มีความเป็นชุมชนสูง คนในพื้นที่ก็จะเป็นชาวบ้าน บรรยากาศก็จะเงียบสงบมากขึ้น อาหารการกินก็จะราคาถูกลง แต่ก็ยังได้บรรยากาศของเมืองริมทะเลอยู่ค่ะ ซึ่งกลุ่มคนที่มักจะมาพักที่บางเสร่นั้นก็มักจะเป็นคนที่ชอบบรรยากาศริมทะเลที่สงบขึ้น ได้ใช้ชีวิตแบบ Slowlife เราเลยมักจะเจอกับชาวต่างชาติวัยเกษียณที่มาพักผ่อน Long stay กันที่บางเสร่พอสมควรค่ะ
สำหรับตัวหาดบางเสร่ ต้องบอกก่อนว่าโซนนี้ไม่ได้มีหน้าหาดที่กว้างนะคะ (เป็นท่าเรือด้วยน้ำจะลึกกว่าหาดที่เอาไว้เล่นหรือพักผ่อน) ซึ่งก็เหมาะกับคนที่ชอบมานั่งเล่นรับลมทะเล หรือเสพย์วิวทะเล อาจจะนอนอาบแดดได้นะ แต่ก็ไม่เหมาะกับคนที่ชอบเล่นกิจกรรมในทะเลเท่าไหร่ค่ะ ซึ่งถ้าใครอยากจะเล่นกิจกรรมทางทะเลก็อาจจะไปเล่นที่พัทยาได้นะ โดยทางโครงการจะมีตารางเวลารถรับ-ส่งไปที่พัทยาเอาไว้บริการด้วยค่ะ
เส้นทางการเดินทาง
เส้นทางการเดินทางวันนี้เราจะมาจากถนนสุขุมวิทค่ะ ขับมาจากพัทยาเลย เส้นนี้จะผ่านส่วนน้ำ Cartoon Network ทางเข้าสวนนงนุช Homepro เลี้ยวขวาเข้ามาบางเสร่ ตัวโครงการอยู่ไม่ไกลค่ะ เราลองไปดูบรรยากาศเส้นทางกันดีกว่า
เริ่มต้นกันที่ถนนสุขุมวิทค่ะ
รายละเอียดโครงการ
ECOresort เป็นโครงการใจกลางบางเสร่ ที่สร้างมาสำหรับนักลงทุนโดยเฉพาะค่ะ หรือที่เราอาจจะได้ยินกับคำว่า Condotel กัน คอนโดประเภทนี้นั้นผู้ซื้อจะได้กรรมสิทธิ์คอนโดของตนเอง แต่การเข้าพักอาศัยต่างๆจะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่ตกลงกับทางโครงการไว้ตั้งแต่ตอนซื้อ ซึ่งคนที่จะมาซื้อโครงการนี้นั้น เหมาะกับคนที่ซื่อเพื่อการลงทุนเป็นหลัก โดยจะมีสัญญาอยู่ 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นสัญญาซื้อ-ขาย คอนโดทั่วๆไป และสัญญาที่ 2 เป็นสัญญาระยะเวลา 30 ปี ที่ผู้ซื้อมอบหมายให้กับทางโครงการจัดการเรื่องการบริหาร ดูแลปล่อยเช่าให้กับเราค่ะ โดยเงื่อนไขในสัญญาที่เราทราบหลักๆก็จะมีเรื่องระยะเวลาของสัญญา 30 ปี , การันตี yeild 6% ต่อปี เป็นระยะเวลา 5 ปี และมีโควต้าให้กับนักลงทุนที่อยากจะมาพักก็สามารถทำได้ 14 วันต่อปี แต่จะต้องแจ้งล่วงหน้า 30 วันนะคะ ในกรณีที่เราอยากจะมาพักห้องเราเอง แต่มีคนเช่าอยู่ระยะยาว ทางโครงการก็อาจจะจัดหาห้องใหม่ให้เข้าพัก อาจจะ upgrade ขนาดห้องหรือวิวเพิ่มให้เป็น benefit ค่ะ
**เงื่อนไขและรายละเอียดของสัญญา เราอาจจะเล่าได้คร่าวๆเท่านั้นนะคะ ใครสนใจสามารถสอบถามกับทางโครงการตรงเลยดีกว่านะคะ
เพื่อให้โครงการสามารถดูแลจัดการความสะอาดและวางแผนเรื่องการปล่อยเช่าได้ง่าย ดังนั้นโครงการนี้จึงออกแบบฟังก์ชันห้อง พื้นที่ส่วนกลางต่างๆออกมาในระดับ Hotel Standard มีห้องอาหารขนาดใหญ่ มีส่วนกลางหลากหลาย มีบริการต่างๆรองรับ เช่น รถรับ-ส่งหาดและภายในเมืองบางเสร่, Room services ในผังก็ออกแบบลิฟต์ Service แยกจากลิฟต์ของผู้พักอาศัย เพื่อให้คนที่มาพักผ่อนได้ความรู้สึกเช่นเดียวกับการเช่าโรงแรมอยู่นั่นเองค่ะ
ทางโครงการมองว่างทำเล บางเสร่นี้จะเป็นโซนใกล้พัทยาที่มีบรรยากาศเป็นชุมชน มีความสงบมาก ชาวต่างชาติที่เลือกอยู่ก็มักจะเป็นคนที่เกษียณแล้ว มาให้ชีวิตหลังเกษียณริมหาดแบบ Slow Life ไม่พลุกพล่านเท่ากับโซนพัทยา แต่ก็เข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกได้ไม่ยาก (กลุ่มลูกค้าเหล่านี้มักจะเป็นผู้เช่าระยะยาวด้วยค่ะ)
เกริ่นเรื่องรูปแบบโครงการ เงื่อนไขการซื้อ รูปแบบโครงการ Target คนเช่ากันไปแล้ว เราไปดูรายละเอียดของโครงการกันดีกว่าค่ะว่ามีกี่อาคาร ส่วนกลางเป็นอย่างไร อยู่ตรงไหนกันบ้าง?
ECOresort เป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น 2 อาคาร ตั้งอยู่บนที่ดินขนาดเกือบ 3 ไร่ค่ะ ตัวอาคารจะเป็นรูปตัว L 2 อาคารตั้งโอบล้อมรอบที่ดิน เกิดเป็น Court หรือพื้นที่ส่วนกลางที่อยู่กลางอาคาร โดยทางเข้า-ออก ของโครงการจะอยู่ที่ซอยเทศบาล5/6 (ติดกับสำนักงานใหญ่ของ Sisaran เลยค่ะ
โครงการนี้จะมีที่จอดรถอยู่ประมาณ 65 คัน และที่จอดรถจักรยานยนต์ประมาณ 40 คัน เทียบกับห้องพักอาศัย 262 ห้องแล้วอาจจะดูไม่มาก แต่อย่าลืมว่าในโครงการตากอากาศส่วนใหญ่ Capacity มักจะไม่เต็มตลอดเวลา และถ้าพิจารณาจาก Target ที่เป็นชาวต่างชาติด้วยนั้น ส่วนใหญ่มักจะเรียก Taxi หรือเช่าจักรยานยนต์ขับรอบๆเมืองกันมากกว่านะคะ (วันที่เราไปก็เห็นชาวต่างชาติขับมอเตอร์ไซค์เยอะเลย) นอกจากจำนวนที่จอดรถแล้ว ทางโครงการก็จะมีบริการในเรื่องการเดินทางต่างๆให้มาด้วย เช่น มีรถรับ-ส่งในตัวเมืองพัทยา(มีตารางเวลาบอกชัดเจน) มีจักรยานให้ยืม และมีรถรับส่งรอบๆบางเสร่ค่ะ สำหรับคนที่จะไปหรือกลับจากสนามบินก็สามารถขอรถรับ-ส่งได้นะคะ(ส่วนนี้อาจจะมีค่าบริการเพิ่มเติม)
แนวความคิดในการออกแบบโครงการ
แนวความคิดในการออกแบบโครงการ จะตรงตามชื่อโครงการเลยคือการนำแนวความคิดเรื่อง “Passive Design” และ “Green Building” มาออกแบบ ที่เห็นชัดจากหน้าตาอาคารก็จะเป็นเรื่องการออกแบบที่ลด Hardscape (พื้นที่ดาดแข็งหรือวัสดุที่เก็บความร้อน สะท้อนความร้อนต่างๆ) กลางอาคารเป็นสระว่ายน้ำ เหลือส่วนที่เป็นถนนรอบๆอาคารเท่านั้น หรือว่าในแนวตั้งของอาคารก็จะมีการใช้ Green wall ให้ตัวอาคารดูร่มรื่นขึ้นด้วยค่ะ
ลองดู presentation ประกอบได้นะคะ ว่าทางโครงการนำเอาแนวคิดนี้มาใช้งานอย่างไรบ้าง
Facility
พื้นที่ส่วนกลางของโครงการนี้จะมีอยู่ 3 ชั้นค่ะ ที่ Ground Floor , Underground และ Roof Top
เริ่มที่ชั้น 1 หรือ Ground Floor กันนะคะ ทางขวาคืออาคาร A ส่วนทางซ้ายเป็นอาคาร B ตำแหน่งลิฟต์ของทั้ง 2 อาคารจะอยู่ที่หัวมุมอาคาร(อาคารเป็นรูปตัว L) แปลว่าคนที่ขับรถเข้ามาก็สามารถ Drop ผู้โดยสารลงที่รอบนอกของอาคารเข้ามาที่ Lobby ของแต่ละอาคารได้เลยค่ะ ถ้าดูจากผัง ที่จอดรถจะอยู่ที่ใต้อาคาร B ชั้น 1 แต่ชั้นใต้ดิน ทางลงก็จะอยู่ที่อาคาร B เช่นกันนะ แปลว่าถ้าคนที่ขับรถมาพัก อาคาร B ก็จะเหมาะกับการจอดแล้วขึ้นตึกได้เลย ซึ่งถ้าอยู่อาคาร A ก็อาจจะเดินไกลหน่อยค่ะ แต่ว่าอาคาร A ก็จะมีข้อดีที่มีส่วนกลางอยู่นะคะ
ในอาคาร A นั้นจะมี Lobby หลักอยู่และมีร้านอาหารอยู่ด้วยค่ะ เป็นห้องอาหารขนาดใหญ่ที่มี Healthy food ให้บริการค่ะ ส่วนตรงกลางอาคาร ระหว่างอาคาร A และ B จะเป็นสระว่ายน้ำ บรรยากาศสไตล์ Resort เลย
ภาพจำลองบรรยากาศทางเข้าส่วน Lobby ของอาคาร A ค่ะ ที่ผนังของอาคารส่วนที่เป็น Logo จะออกแบบให้เป็นคลื่น ล้อไปกับที่ตั้งโครงการที่ใกล้กับทะเลด้วยนะ
ภาพจำลองบรรยากาศ Court กลางอาคารจะ จะออกแบบเป็นสระว่ายน้ำมีเกาะตรงกลาง เป็นมุมพักผ่อนและทางเดินลงไปยังส่วนกลางที่อยู่ชั้นใต้ดิน มีสะพานเดินเชื่อมระหว่างอาคาร A, B, เกาะกลางและสนามเด็กเล่นได้
ภาพจำลองบรรยากาศสระว่ายน้ำและเกาะกลางระหว่างอาคารค่ะ พื้นที่ตรงกลางมีจัดมุมนั่งเล่นพักผ่อนเอาไว้ ตรงนี้เรามองว่าถ้าออกแบบต้นไม้ใหญ่ดีๆ พื้นที่ตรงนี้ก็จะดูน่านั่ง ไม่ร้อนมาก เนื่องจากได้ร่มเงาของอาคารทั้ง 2 ช่วยบังแดดด้วย
เนื่องจากห้องพักอาศัยของที่นี่ก็จะเริ่มตั้งแต่ชั้น 1 เลยค่ะ ดังนั้นห้องที่อยู่ชั้นล่างก็จะเป็น unit พิเศษ เป็น Pool Access ด้วย
ภาพจำลองบรรยากาศ Lobby ของอาคาร A ค่ะ ตรงนี้จะเป็น Lobby หลักและส่วนต้อนรับของโครงการภายในตัว
การออกแบบของ Lobby และร้านอาหารที่อาคาร A นี้ก็จะเน้นบรรยากาศดูผ่อนคลาย ใกล้ชิดธรรมชาติ มีพื้นที่สีเขียว และมีแสงสว่างค่อนข้างเยอะ (อยากเห็นตอนสร้างเสร็จเลยค่ะ)
ภาพจำลองบรรยากาศร้านอาหารชั้นล่าง ใต้อาคาร A ห้องอาหารนี้จะเน้นขายเป็นหลักนะคะ เท่าที่ทราบจากทางโครงการมา ถึงแม้จะให้บริการมาตรฐานเดียวกับโรงแรม แต่อาจจะไม่มีบริการอาหารเช้าที่เหมือนกับบุฟเฟ่ต์นะ แต่จะมีห้องอาหารรองรับค่ะ
ภาพจำลองบรรยากาศพื้นที่ส่วนกลางภายในอาคาร
ภาพจำลองบรรยากาศ Lobby ของอาคาร B ส่วนนี้จะแยกจากอาคาร A ออกมา เรามองว่าตรงนี้ก็จะได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่าอาคาร A ค่ะ
ที่ชั้นใต้ดินจะมีพื้นที่ส่วนกลางอยู่ที่ใต้อาคาร A และใต้เกาะกลางระหว่าง 2 อาคารค่ะ ซึ่งหลายๆฟังก์ชันจะออกแบบไว้ให้มองเห็นสระว่ายน้ำด้วย (ได้บรรยากาศเหมือนไป Aquarium เบาๆ)
จากอาคาร A จะมีบันไดวนเดินลงมายังชั้นใต้ดินค่ะ นอกจากบันไดก็จะมีลิฟต์โดยสารที่ลงมาถึงชั้นนี้เช่นกันนะคะ
ที่ชั้นใต้ดินนี้จะมี VR Room เป็นห้องเล่นเกมส์ มีกิจกรรมสนุกๆให้ทำในช่วงเวลาพักผ่อน
บรรยากาศจำลองภายใน VR Room ค่ะ
เลย VR Room มาก็จะเจอกับ Kids Room เหมาะสำหรับคนที่มาพักผ่อนกันเป็นครบครัว มีพื้นที่ให้ลูกๆได้เล่น
บรรยากาศภายในห้องฟิตเนสค่ะ บริเวณผนังส่วนหนึ่งจะออกแบบให้เป็นกระจก มองออกไปเห็นด้านข้างของสระว่ายน้ำด้วยนะคะ
นอกจากนี้ก็จะมีห้องน้ำ ห้องแต่งตัวอาบน้ำ สำหรับคนที่มาใช้งานพื้นที่ส่วนกลางค่ะ
ที่ใต้เกาะกลางระหว่าง 2 อาคารจะมีอีกฟังก์ชันที่น่าสนใจคือ Onsen ค่ะ ตรงนี้จะมีบ่อ Onsen มีห้อง Steam, Sauna แยกชาย-หญิงเอาไว้ให้
ที่ชั้นดาดฟ้าก็จะมีพื้นที่ส่วนกลางเช่นกันค่ะ ชั้นดาดฟ้าอาคาร A จะเป็น Yoga Pavillion และ Roof Top Bar ส่วนอาคาร B จะมี Artist Corner และ Relaxation area
ที่ชั้นดาดฟ้านี้ เท่าที่สอบถามมาเบื้องต้นจะเป็นโซน Exclusive เปิดให้บริการสำหรับคนที่มาเข้าพักเท่านั้นค่ะ ไม่ได้เปิดให้คนนอกเข้ามาใช้งานนะคะ
ดาดฟ้าของอาคาร A มี Yoga Pavillion และ Roof top bar
ภาพจำลองบรรยากาศของ Roof Top Bar ค่ะ
ที่ดาดฟ้าของอาคาร B จะมี Artist Corner และ Relaxation area
ภาพจำลองบรรยากาศของ Relaxation area น่าจะเป็นมุมที่มองเห็นพระอาทิตย์ตกได้สวยเลยนะคะ
ผังชั้นพักอาศัย
ที่ชั้น 1 จะมีห้องพักอยู่เฉพาะฝั่งที่หันเข้าสู่ Court กลางอาคารเท่านั้น โดยห้องพักชั้นนี้ก็จะมีทั้ง 1 Bedroom และ 2 Bedroom ค่ะ สิ่งที่พิเศษคือเป็นยูนิตที่เป็น Pool Access สามารถลงสระว่ายน้ำที่อยู่ตรงกลางได้เลยโดยผ่านระเบียงในห้องนอน
ชั้น 2 จะเป็นชั้นพักอาศัยทั้งหมดค่ะ โดยอาคาร A จะมีห้องพักจำนวนไม่มาก 11 ยูนิตต่อชั้น ส่วนอาคาร B จะมีจำนวน 24 ยูนิตต่อชั้นเลย ห้องที่หันออกนอกโครงการจะเป็นห้อง 1 Bedroom และ Studio ส่วนห้องที่หันหน้าเข้าสู่ส่วนกลางที่อยู่ด้านในจะเป็นห้อง 1 Bedroom และ 2 Bedroom ค่ะ ตำแหน่ง 2 Bedroom ส่วนใหญ่จะได้เป็นห้องหัวมุมที่วิวดีนั่นเอง
อาคาร A ชั้น 3-8 จะมีการวางผังเหมือนกันเลยค่ะ ส่วนใหญ่จะเป็นห้อง 1 Bedroom ส่วนห้อง 2 Bedroom จะมีเพียง 1 ห้องต่อชั้นเท่านั้น ที่หัวมุมอาคาร
อาคาร B ชั้น 2-4 จะมีผังเหมือนกันค่ะ เป็นชั้นที่มีห้อง Studio อยู่รอบนอกหันออกนอกโครงการ ห้อง 1 Bedroom อยู่ตำแหน่งมุมและหันเข้าด้านในโครงการ ส่วนห้อง 2 Bedroom มีอยู่ 1 ห้องต่อชั้น ได้วิวด้านในโครงการเช่นกันค่ะ
ที่ชั้น 5-8 อาคาร A จะเหมือนเดิมนะคะ แต่ว่าอาคาร B นั้นรูปแบบห้องพักจะเหลือแต่ 1 Bedroom และ 2 Bedroom แล้ว เนื่องจากเรื่องวิวของห้องที่หันออกนอกอาคารพ้นจากระดับที่อยู่อาศัยรอบๆแล้วค่ะ ทำให้ยิ่งสูงยิ่งสามารถมองเห็นวิวทะเลได้นะคะ และเป็นทิศตะวันตกก็จะได้วิวพระอาทิตย์ตกดินที่ขอบทะเลเลย
ชั้น 7-8 ผังจะเหมือนกับชั้น 5-6 ที่เล่าไปเมื่อครู่นะคะ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
Ground Floor
- Lobby แยกอาคาร
- Children’s Playground
- Health Restaurant
- Co-working Space
- Lagoon Swimming Pool
- Children’s Pool
Underground
- Children’s Play Room
- VR Games Room
- Rock Climbing Wall
- Onsen
- Steam Room&Sauna
- Fitness Center
Rooftop
- Artist Corner
- Massage Pavillion
- Yoga Pavillion
- Bar & Relaxation Area
Others Services
- ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
- Service Lift 1 ตัว/อาคาร
- ที่จอดรถประมาณ 65 คัน และที่จอดรถจักรยานยนต์ประมาณ 40 คัน
- รถรับ-ส่งบริเวณชายหาดบางเสร่และรอบๆ
- ฟรีรถรับ-ส่งในพัทยา (มีตารางเวลา)
- Cycle Depot (มีบริการให้ยืมจักรยาน)
- Airport Transfer (มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม)
- Concierge Service
- Yoga Lessons
- กิจกรรมพิเศษสำหรับผู้พักอาศัย
- Room Service
- Maid & Laundry Service
ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ
- 24-hour security
- Key card access & Smart Lock
- 24-hour office staff
แบบห้อง
ในส่วนของห้องพัก เนื่องจากรูปแบบโครงการที่ต้องการขายนักลงทุน และนำห้องพักอาศัยไปดูแลเรื่องการปล่อยเช่าให้ ดังนั้นภายในห้องพักอาศัยต่างๆจะถูกออกแบบให้ได้มาตรฐานเดียวกับโรงแรมเลยค่ะ ส่วนภายในห้องพักก็จะมีการออกแบบภายในให้ครบครันมีเฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า สิ่งอำนวยความสะดวกให้มา (เพื่อให้สะดวกในการตั้งราคาค่าเช่าต่างๆได้ง่ายด้วยค่ะ) ดังนั้นราคาขายที่โครงการตั้งนั้นจะรวมถึงค่าเฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่งต่างๆ และเครื่องใช้ไฟฟ้าเอาไว้เรียบร้อยเลย
ECOresort นี้จะมีห้องให้เลือกอยู่ 3 Type หลัก คือ
- Studio 25.25 – 26.43 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.2 ล้านบาท
- 1 Bedroom 32.43 – 43.87 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.1 ล้านบาท
- 2 Bedrooms 43.42 – 58.67 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 5 ล้านบาท
โดยในรีวิวนี้เราจะพาไปดูห้องตัวอย่าง 2 ห้องค่ะ เป็นห้อง 1 Bedroom และ 2 Bedroom นะคะ ถ้าไปดู หน้าตาของเฟอร์นิเจอร์ก็จะได้แบบที่ตกแต่งมาให้ดู(หรือเทียบเท่า)เลยค่ะ ภายในห้องจะเป็นอย่างไรบ้าง เราไปดูกันต่อเลยนะคะ
1 Bedroom ขนาด 33-35 ตร.ม.
ห้องแรกที่พาไปดูเป็น 1 Bedroom หน้ากว้าง ห้องแบบนี้ถือว่าเป็น 1 Bedroom ที่มีจำนวนเยอะที่สุดในโครงการนี้เลยก็ว่าได้ ฟังก์ชันภายในห้องจะแยกพื้นที่นั่งเล่นออกจากห้องนอนชัดเจน มีห้องน้ำที่สามารถเข้าได้สองทาง ภายในห้องจะไม่ได้มีฟังก์ชันครัวเอาไว้ให้นะคะ จะมี Minibar ให้แทน คล้ายกับรูปแบบของห้องพักภายในโรงแรม ถ้าใครหิวก็สามารถสั่ง Room service หรือเดินลงไปกินข้าวที่ร้านอาหารของโครงการได้ค่ะ
ภายในโครงการ ECOresort นี้ ห้อง Studio และ 1 Bedroom จะไม่มีครัวให้ มีเพียง minibar แต่ห้อง 2 Bedroom นั้นจะมีฟังก์ชันครัวภายในห้องค่ะ
การออกแบบห้องน้ำของโครงการนี้ก็มีจุดน่าสนใจอยู่ โดยทุกห้องจะได้อ่างอาบน้ำค่ะ ซึ่งตัวอ่างก็จะเป็นของ i-spa มี hydro massage ด้วย สามารถนอนนวดตัวผ่อนคลายในอ่างได้สบายเลย
โดยรวมแล้วห้องนี้เหมาะกับการมาพักผ่อน 1-2 คนกำลังดีค่ะ ตัวห้องมีขนาดไม่เล็กมาก อยู่อาศัยได้สบาย มีพื้นที่ส่วนตัวด้วยเผื่อคนหนึ่งนอน อีกคนต้องทำงาน หรือดูซีรีส์ก็ไม่รบกวนกันค่ะ
เข้ามาดูภายในห้องกันดีกว่านะคะ สิ่งที่เราเห็นภายในห้องตัวอย่างนี้ ในห้องจริงก็จะได้บรรยากาศ โทนสี วัสดุ และเฟอร์นิเจอร์ใกล้เคียงหรือเทียบเท่าสิ่งที่เราเห็นเลยค่ะ โทนการตกแต่งของที่นี่จะมีการเลือกใช้ผนังสีเข้ม ตัดกับเฟอร์นิเจอร์สีสว่าง Mood&Tone โดยรวมจะเป็น Earth Tone ให้ดูสุขุม แต่สบายตาค่ะ
ในห้อง 1 Bedroom นี้เมื่อเข้ามาภายในห้องส่วนแรกจะเป็นพื้นที่นั่งเล่นและกินข้าวต่อเนื่องกันนะ ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานอยู่ที่ 2.45 เมตร
หันกลับมาดูที่ทางเข้ากันค่ะ ที่ผนังจะเป็นโซน minibar และที่วางของ มีมุมวางรองเท้า วางกระเป๋า ดีไซน์ Built-in ตรงนี้ได้ฟังก์ชันคล้ายโรงแรมเลย
Top ของเคาน์เตอร์ตรงมินิบาร์จะใช้เป็นหินแกรนิตนะคะ แต่มีการเลือกลายให้ดูเหมือนหินอ่อน ในแง่การใช้งานนั้น หินแกรนิตจะมีความทนต่อสารเคมีต่างๆดีกว่าหินอ่อนนะคะ ในระยะยาวก็จะดูสวยงามไม่เป็นดวงด่างได้ง่าย
ใต้เคาน์เตอร์จะมีตู้เย็นไซส์เล็กให้มา เอาไว้เก็บเครื่องดื่มต่างๆหรือขนมขบเคี้ยวค่ะ
มาดูพื้นที่พักผ่อนกันต่อค่ะ พื้นที่ส่วนนี้จะอยู่ติดกับระเบียงเลย เป็นระเบียงหน้ากว้าง ชมวิวได้นะ พื้นที่ตรงนี้มีขนาดประมาณ 4.85×2.7 เมตร ถือว่ากว้างพอสมควร วางเฟอร์นิเจอร์ลงไปก็ยังเหลือทางเดินไม่อึดอัด
ภายในห้องจะมีโต๊ะกินข้าวขนาด 2 ที่นั่งให้ แต่ภายในผังและกะจากพื้นที่จริงสามารถจัดได้ถึง 4 ที่นั่งเลยค่ะ
ถัดเข้ามาจะเป็นมุมโซฟาพักผ่อน ดูทีวี เฟอร์นิเจอร์ พรม โต๊ะหน้าทีวี หมอน เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆก็จะได้แบบนี้ค่ะ
โซฟาสีขาวตัดกับผนังสีเข้ม
มุมชั้นวางทีวีค่ะ เฟอร์นิเจอร์ต่างๆก็จะเน้นสี Earth tone
ระเบียงจะอยู่ติดกับห้องนั่งเล่นค่ะ
โดยระเบียงของโครงการนี้จะเป็นระเบียงที่สามารถวางเก้าอี้พักผ่อนได้ ราวกันตกก็จะออกแบบเป็นกระจก เพื่อที่จะนั่งรับลมชมวิวได้ด้วยค่ะ
ส่วนที่เป็นห้องนอนและห้องน้ำจะอยู่อีกฝั่งหนึ่งค่ะ บริเวณผนังจะมีการตกแต่งผนังเป็นต้นไม้ปลอมนะ ง่ายต่อการดูแลรักษา แต่ได้บรรยากาศพื้นที่สีเขียวภายในห้อง
เข้ามาในห้องนอนจะได้เตียงขนาดใหญ่ค่ะ ห้องนี้หน้าต่างจะไม่ได้ออกแบบให้เป็นบานใหญ่มาก เพื่อที่แสงจะได้ไม่รบกวนการนอนด้วยค่ะ
ปลายเตียงก็มีทางเดินและชั้นวางของที่ผนังนะคะ เดินไปอีกฝั่งได้ไม่อึดอัด
ส่วนตู้เสื้อผ้านั้นจะทำ Built-in ไว้ให้อยู่หน้าห้องน้ำค่ะ
ข้างๆเตียงมีมุมโต๊ะเครื่องแป้งตั้งอยู่ค่ะ
ห้องน้ำนี้จะมีทางเข้า-ออกสองทางนะคะ พื้นและผนังจะเป็นกระเบื้องลายหินอ่อนสีขาวเทาดูหรูหรา
ดีไซน์ภายในห้องน้ำก็ยังมีการใช้ผนังที่เป็นต้นไม้เหมือนกับห้องนั่งเล่นเลย ที่กระจกเงาก็ดีไซน์ Lighting เอาไว้ให้ค่ะ โถสุขภัณฑ์ภายในโครงการนี้เป็นของ Roca ฝาเปิด-ปิดอัตโนมัติด้วยค่ะ
จุดเด่นของห้องน้ำจะเป็นอ่างอาบน้ำของ i-spa ที่มีระบบ Hydro massage นอนนวดตัวได้ผ่อนคลายค่ะ
2 BEDROOM ขนาด 57.08 ตร.ม.
ห้องตัวอย่างอีกห้องที่เราจะพาไปดูกันเป็นห้อง 2 Bedroom ค่ะ โดยห้องของที่นี่จะออกแบบให้เป็น 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ได้ห้องหน้ากว้าง แทบทุกฟังก์ชัน(ยกเว้นห้องน้ำ)จะได้หน้าต่างทั้งหมด ห้องนอนทั้ง 2 ห้องมีขนาดใหญ่อยู่ได้ 2 คนและมีห้องน้ำในตัว และจุดเด่นในห้องน้ำอย่างอ่างอาบน้ำที่มีระบบ Hydro Massage เองก็จะได้ทั้ง 2 ห้องด้วยค่ะ นอกจากนี้พอรูปแบบห้องเป็น 2 Bedroom แล้วภายในครัวก็จะเปลี่ยนจาก Minibar เป็นครัวที่สามารถเตรียมอาหาร ทำอาหารได้ มีอ่างล้างจาน เตาไฟฟ้าให้มาด้วย โดยรวมห้องนี้เป็นห้องที่มีขนาดใหญ่ขึ้น เหมาะสำหรับครอบครัวนะคะ
ประตูทางเข้าห้องทุกยูนิตจะได้ Digital Door Lock ของ Hafele
เข้ามาภายในห้องทางขวามือจะเป็นพื้นที่นั่งเล่น กินข้าวค่ะ ส่วนทางซ้ายมือจะเป็นทางเข้าห้องน้ำ ใช้ร่วมกันระหว่างห้องนั่งเล่นและห้องนอนรอง
พื้นที่ส่วนนี้มีขนาดประมาณ 5.1×3.3 เมตรค่ะ สูง 2.45 เมตร ถือว่ากว้างอยู่นะคะ บริเวณผนังก็มีการทาสีและติด Wallpaper ต่างๆตามที่เห็นเลย ทำให้ห้องดูมีมิติ
ข้างประตูทางเข้าจะเป็นชุดครัวค่ะ ห้องนี้เราจะได้ครัวเปิด เหมาะกับการอุ่นอาหารหรือทำอาหารง่ายๆ กลิ่นควันไม่เยอะ
อ่างล้างจานจะได้ของ Blanco ฝังใต้เคาน์เตอร์ ส่วนเตาจะได้เป็นเตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันของ Hafele มีพื้นที่เตรียมอาหารให้ และมีตู้เก็บของเยอะเลยค่ะ
ข้างๆเคาน์เตอร์ครัวมีชุดโต๊ะกินข้าวขนาด 4 ที่นั่ง ซื้ออาหาร ของทะเลมากินกันก็วางได้เต็มที่ค่ะ
เข้ามาทางด้านในจะเป็นมุมสำหรับวางโซฟาพักผ่อน นั่งเล่นกินลมดูทีวี
โซฟานั่งได้ 2-3 ที่นั่งค่ะเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์โทนสีอ่อน ตัดกับโทนสีเข้มของผนังภายในห้อง
โต๊ะหน้าโซฟาและเก้าอี้สตู ก็จะได้มาด้วยเช่นกัน รวมไปถึงพรมด้วยนะคะ คาดว่าดีไซน์ที่ได้จะเป็นแบบนี้หรือว่าใกล้เคียงให้มากที่สุด
ทีวีจะถูกแขวนไว้ที่ผนัง แต่จะมีชั้นวางทีวีให้ด้วยค่ะ
พื้นที่นั่งเล่นนี้ก็จะเชื่อมต่อกับระเบียงของห้อง โดยมีประตูบานเลื่อนกระจก 2 ตอนเปิดได้สองฝั่งคั่นไว้ ในช่วงเวลากลางวันอากาศดีก็เปิดรับลมได้เต็มที่เลย
ระเบียงของห้องนี้จะกว้าง 1.2 เมตร แต่จะยาวต่อเนื่องไปยังห้องนอนใหญ่ด้วยค่ะ จัดวางมุมนั่งเล่นที่ระเบียงได้นะ
ต่อไปเราจะพาไปดูห้องนอนรองกันนะคะ ทางฝั่งนี้จะมีทางเข้าห้องนอนและห้องน้ำอยู่ค่ะ
จุดที่น่าสนใจคือ ในห้อง 2 Bedroom ตามคอนโดที่เรามักจะเห็นกัน ห้องนอนรองจะเป็นห้องขนาดเล็กที่วางได้เพียงเตียง 3-3.5 ฟุต แต่ห้องนี้ถือว่าเป็นห้องนอนที่ใหญ่เลยค่ะ นอกจากจะมีเตียงนอนแล้ว ยังมีมุมนั่งทำงาน นั่งอ่านหนังสือส่วนตัวภายในห้องอีกด้วย
การตกแต่งภายในมีการเล่นกับเรื่อง Lighting และวัสดุ Wallpaper ต่าง ทำให้ภายในห้องดูหรูหราแต่ก็ยังได้บรรยากาศที่ดูอบอุ่นค่ะ
ทางฝั่งปลายเตียงก็จะมีชั้นวางทีวีและมุมทำงานเล็กๆอยู่นะคะ
หน้าต่างของห้องนี้จะได้บานไม่ใหญ่มาก แสงแดดและความร้อนก็จะไม่เข้ามารบกวนการนอนมากเช่นกัน เหมาะกับคนที่ชอบนอนตื่นสายเลย ข้างๆหน้าต่างจะมีโซฟาจัดไว้ 1 ที่นั่ง เอาไว้นั่งมองวิวหรือนั่งอ่านหนังสือได้ค่ะ
อีกฟากหนึ่งของห้องจะเป็นทางเข้าห้องน้ำ และมีตู้เสื้อผ้าอยู่ทางด้านหน้า
ตู้เสื้อผ้าเป็นแบบบานเลื่อนเปิดได้สองฝั่ง ด้านในมีราวแขวนเสื้อ ลิ้นชักวางของ สามารถเก็บข้าวของได้เยอะเลยค่ะ
ส่วนในห้องน้ำนี้ แม้จะเป็นห้องน้ำรองแต่รุ่นของวัสดุ สุขภัณฑ์ต่างๆก็จะเหมือนกันกับห้องน้ำใน Master Bedroom เลยค่ะ
โถสุขภัณฑ์อัตโนมัติของ Roca
อ่างอาบน้ำของ i-spa มีระบบ Hydro massage ด้วยค่ะ มี Rain Shower และฝักบัวสายอ่อนให้มาด้วย
ส่วน Master Bedroom นั้นจะอยู่ฝั่งตรงกันข้ามกับห้องนอนรองนะคะ
ภายใน Master Bedroom จะมีขนาดใกล้เคียงกับห้องเมื่อสักครู่ แต่จะมีหน้าต่างที่กว้างมากขึ้น ชมวิวได้เยอะขึ้น มีประตูออกไปยังระเบียงของห้อง
ระเบียงนี้ก็จะเชื่อมต่อกับระเบียงหน้าห้องนั่งเล่นค่ะ ราวกันตกนี้จะดีไซน์เป็นกระจกใส นั่งมองชมวิวได้
ปลายเตียงจะเป็นชั้นวางของและจุดวางทีวีนะคะ เข้าไปด้านในห้องจะเป็นห้องน้ำ ด้านหน้าห้องน้ำก็จะเป็นตู้เสื้อผ้า การจัดวางผังคล้ายกับห้องนอนรอง
ข้างเตียงก็จะมีชั้นวางของเล็กๆและโต๊ะเครื่องแป้งตั้งอยู่ค่ะ
ภายในห้องน้ำนี้ ถือได้ว่าเป็นห้องน้ำส่วนตัวเฉพาะคนที่นอนห้องนี้เท่านั้นเลย เข้ามาด้านใน ขวามือจะเป็นตำแหน่งโถสุขภัณฑ์ ส่วนทางซ้ายมือเป็นอ่างอาบน้ำค่ะ
อ่างอาบน้ำก็จะเข้ามุมพอดีดูเป็นสัดส่วนนะคะ
และนี่ก็เป็นห้องตัวอย่างทั้ง 2 ห้องที่เรามารีวิวกันค่ะ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ผังห้องพักอาศัยอื่นๆ
ในโครงการ ECOresort นี้ รูปแบบห้องที่มีจำนวนมากที่สุดจะเป็นห้อง Studio ค่ะ ซึ่งห้อง Studio ของที่นี่ดูเผินๆก็จะเป็นผังที่เราเห็นกันทั่วไปตามโรงแรมนะคะ เข้ามาห้องน้ำอยู่ขวา ตู้เสื้อผ้าอยู่ซ้าย ลึกเข้าไปเป็นเตียงนอน แต่สิ่งที่แปลกของที่นี่จะเป็นการนำเอาอ่างอาบน้ำมาไว้ข้างหน้าต่างค่ะ! ตัวอ่างเราเดาว่าน่าจะเหมือนกันห้องน้ำที่เห็นในห้องตัวอย่างนะ แต่ก็อยากรู้ว่าห้องนี้ถ้าสร้างเสร็จออกมาจะเป็นอย่างไร?
นอกจากห้อง 1 Bedroom ที่รีวิวห้องตัวอย่างกัน จริงๆแล้วก็มีห้อง 1 Bedroom อีกหลาย Layout ให้เลือกเลยนะคะ อย่างห้องสีเขียวฟ้าขนาด 40 ตร.ม. ห้องนี้ตำแหน่งและฟังก์ชันต่างๆจะเหมือนกับห้องตัวอย่างค่ะ เพียงแต่มีขนาดที่กว้างขึ้น ห้องสีชมพูและส้มก็เช่นกัน จะมีความแตกต่างเล็กน้อยเช่นขนาดระเบียง หรือว่าผังห้องที่บิดองศาไปเล็กน้อย แต่ห้องที่แปลกที่สุดจะเป็นห้องสีเหลืองส้มที่เอาแนวความคิดของห้อง Studio ที่เอาอ่างล้างหน้าไปไว้ริมหน้าต่างค่ะ
ส่วนห้อง 2 Bedroom ก็จะมีแปลนให้เลือกเยอะมากเลยค่ะ ทั้ง 2 Bedroom 1 Bathroom และ 2 Bedroom 2 Bathroom แต่ละแปลนก็อาจจะไม่ได้มีทุกชั้นนะคะ ใครสนใจห้องไหนก็ลองสอบถามเพิ่มเติมกับทางโครงการดูอีกครั้งได้ค่ะ
ราคา
1 December 2020
- Studio ขนาด 25.25 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.2 ล้านบาท หรือตร.ม.ละ 87,129 บาท
- 1 Bedroom ขนาด 32.43 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.1 ล้านบาท หรือตร.ม.ละ 91,000 บาท
- รูปแบบการขาย Fully Furnished
- สัญญาเข้า Rental Program 30 ปี สามารถเข้าพักได้ 14 วันต่อปี (แจ้งล่วงหน้า 30 วันก่อนพักอาศัย)
- Guarantee Yield 6% เป็นเวลา 5 ปี
- จอง 10,000 บาท
- ทำสัญญา 15% บาท
- ดาวน์ 20%
- ค่ากองทุน n/a บาท/ตร.ม.
- ค่าส่วนกลาง n/a บาท/ตร.ม./เดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
บทสรุป
ทำเล :
ที่ตั้งโครงการอยู่ใจกลางบางเสร่ ใกล้พัทยาและสนามบินอู่ตะเภา เป็นทำเลที่มีความเป็นชุมชน ใกล้ท่าเรือ ได้บรรยากาศที่เงียบสงบ มีความอุดมสมบูรณ์สูง ใช้ชีวิตได้ง่าย แต่ก็ยังเข้าถึงสาธารณูปโภคและความเป็นเมืองอย่างในพัทยาได้ไม่ไกล
การเดินทาง :
ทางโครงการมีที่จอดรถยนต์และที่จอดรถมอเตอร์ไซค์ไว้ไม่มากไม่น้อย แต่มีบริการเรื่องการเดินทางให้ค่อนข้างหลายรูปแบบ ทั้งรถรับส่งชายหาดและภายในเมืองบางเสร่ มีจักรยานให้ยืม มีรถรับส่งไปยังพัทยา(เป็นรอบ) และมีบริการรับ-ส่งที่สนามบิม(มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม) นอกจากนี้ตัวโครงการมีการให้บริการเทียบเท่ากับ Service ที่ได้จากโรงแรม ดังนั้นถ้าต้องการรถสาธารณะก็จะมีคนคอยดูแลจัดหาให้ไม่ยากค่ะ
วัสดุ :
เนื่องจากโครงการจะดูแลเรื่องการบริหารปล่อยเช่าห้องให้ รูปแบบการขายภายในห้องจึงขายพร้อมกับเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้าด้วย เรียกได้ว่าพร้อมอยู่เลยค่ะ โดยวัสดุต่างๆถือว่าให้มาสมราคา ที่โดดเด่นก็จะเป็นดีไซน์ของห้องที่ได้บรรยากาศอบอุ่นแต่หรูหรา ดีไซน์เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งที่เลือกมาก็จะดูค่อนข้างมีดีไซน์สวยงาม ไม่ใช่เฟอร์นิเจอร์ที่เห็นได้ทั่วไปค่ะ นอกจากนี้ภายในห้องน้ำก็ถือว่าได้ของดีเลย สุขภัณฑ์ระบบอัตโนมัติของ Roca อ่างอาบน้ำของ i-spa แบบมีระบบ hydro massage
การออกแบบ :
แนวความคิดในการออกแบบโครงการนี้ค่อนข้างชัดเจนเลย คือการทำโครงการให้ ECO มากที่สุด โดยการนำเอาแนวคิดอย่าง Passive Design และ Green Building มาใช้
ในการออกแบบโครงการนี้มีโจทย์ที่ชัดเจนอีกเรื่องคือการทำคอนโดเพื่อนำมาปล่อยเช่าต่อ ดังนั้นทางโครงการจึงสร้างจุดเด่นด้วยการสร้างโจทย์คอนโดที่เหมือนโรงแรมมา ทั้งรูปแบบห้อง พื้นที่ส่วนกลาง รวมไปถึงบริการต่างๆที่ให้มาภายในโครงการด้วยค่ะ ถือว่าเป็นจุดที่น่าสนใจเลย
สาธารณูปโภค :
ส่วนกลางของโครงการนี้ถือว่าให้มาเยอะค่ะ มีทั้งชั้น 1 ชั้นใต้ดินและชั้นดาดฟ้า ฟังก์ชันมาตรฐานที่เรามักเจอกันอย่าง Lobby, Fitness, สระว่ายน้ำ ก็ยังมีอยู่ และก็มีฟังก์ชันอื่นๆที่น่าสนใจเหมือนภายในโรงแรมเพิ่มเติมมาด้วยเช่นห้องอาหาร, Roof top bar, Onsen ก็มีมาให้ด้วยเป็นต้น
Judgement
เนื่องจากโครงการนี้เป็นคอนโดที่มีรูปแบบการขายที่เจาะกลุ่มไปที่นักลงทุนเลย และเป็นคอนโดตากอากาศ ดังนั้นในเรื่องของความคุ้มค่าต่างๆขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของผู้ซื้อด้วยค่ะ ในโครงการนี้เราจะไม่ให้คะแนนนะคะ
BOTTOM LINE
ECOresort เป็นคอนโดมิเนียมที่เหมาะสำหรับนักลงทุนที่กำลังมองหาคอนโดตากอากาศเพื่อการลงทุนโดยเฉพาะ ชื่นชอบดีไซน์สไตล์ ECO และ Green Building ชอบการเลือกทำเลที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์แบบ Slowlife และมี Potential ในการปล่อยเช่าระยะยาว มีงบประมาณ 2.5-6 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 30,000-42,000 บาทต่อเดือน
ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะคะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc