Aeras Condo พัทยา คอนโดติดหาดจอมเทียน บนถนนจอมเทียนสายหนึ่ง โดย Urban Property [รีวิวฉบับที่ 525]

รีวิวฉบับที่ 525 … Aeras Condo พัทยา (จอมเทียน): สวัสดีครับ วันนี้ผม Mr.Boom ก็อยู่ที่พัทยาอีกแล้วครับ พามาดูอีกหนึ่งโครงการคอนโดมิเนียมพัทยา ที่พึ่งจะเปิดตัวไปเมื่อปลายปี 2013 ที่ผ่านมานะครับ นั่นก็คือโครงการ Aeras (อ่านว่า “แอราส”) คอนโดมิเนียมตึกคู่ High Rise 38 ชั้น + Low Rise 4 ชั้น ติดหาดจอมเทียน บนถนนจอมเทียนสายหนึ่ง จาก Developer ชื่อคุ้นหู Urban Property ครับ ซึ่ง Dev เจ้านี้เคยฝากผลงานคอนโดมิเนียมที่พัทยาเอาไว้พอสมควรทีเดียว เช่น The Urban, Acqua, 66 Condominium และยังพัฒนาโครงการที่กรุงเทพฯด้วย นั่นคือคอนโด The Gallery แบริ่ง ที่เคยรีวิวกันไปแล้วครับ จัดว่าไม่ใช่ Dev โนเนมอย่างแน่นอน แล้วโปรเจค Aeras นี้ก็เป็นโปรเจคล่าสุดของเค้า จะทำออกมาเป็นอย่างไรเดี๋ยวผมพาไปดูครับ 🙂

Fact @ 6 February 2014

• Aeras Condo พัทยา (แอราส คอนโด พัทยา)
• Urban Property
• HIGH CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
• โครงการตั้งอยู่ใน เมืองพัทยา อ.บางละมุง
• คอนโด High Rise 38 ชั้น 1 อาคาร 296 ยูนิต (อาคาร A-Aether) และ Low Rise 4 ชั้น 1 อาคาร 13 ยูนิต (อาคาร B-Aeolus)
• ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 11 ยูนิตที่อาคาร A
• ที่จอดรถประมาณ  51% รวมจอดซ้อนคัน หรือประมาณ 157 คัน
• ที่ดินประมาณ 3-2-70 ไร่
• คาดว่าจะแล้วเสร็จปี 2560
• Studio 26.50 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 2.36 ล้านบาท
• 1 Bedroom 35 – 49.50 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 3.08 ล้านบาท
• 2 Bedrooms 71.50 – 219.50 (Duplex) ตารางเมตร ราคาเริ่มต้นประมาณ 9 ล้านบาท
• 3 Bedrooms+ 133 – 227 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 17.99 ล้านบาท
• ฝ้าเพดานสูง 2.70 เมตร
• ราคาเริ่มต้นประมาณ 2.36 ล้านบาท (Studio 26.50 ตร.ม.) หรือประมาณ 89,100 บาทต่อตารางเมตร
• ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรประมาณ 110,000 บาท
• http://www.aerascondo.com
• โทร 082-441-3553

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ

เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 12.871055,100.889677

อันนี้เป็นแผนที่จากโครงการครับ ที่ตั้งของโครงการอยู่บน ถนนจอมเทียนสาย 1 หรือเส้นเลียบหาดจอมเทียนนั่นแหละครับ (เหมือนถนนเลียบหาดพัทยา เขาก็เรียกว่า ถนนพัทยาสาย 1 เหมือนกัน :D) ตัวที่ดินของโครงการอยู่ระหว่างซอยจอมเทียน 17 กับ ซอยจอมเทียน 18

การไปโครงการ ถ้ามาจากกรุงเทพฯเส้นทางที่แนะนำก็คือเส้นมอเตอร์เวย์ หมายเลข 7 ครับ ส่วนถ้ามาจากตัวเมืองชลบุรีอาจจะใช้เส้นสุขุมวิทก็ได้ถ้ารถไม่ติด วิ่งมาเข้าตัวเมืองพัทยา เลยพัทยาใต้ลงไปเพื่อจะไปหาดจอมเทียนครับ  หาดจอมเทียนมีทางเข้าจากหลายทาง โดยปกติจะมาจากถนนเทพประสิทธิ์ก็ได้ แต่ผมคิดว่าเส้นทางที่สะดวกที่สุดเวลาจะไปโครงการ Aeras คือใช้ถนนชัยพฤกษ์ครับซึ่งจะเป็นเส้นทางไปยังถนนเลียบหาดได้เหมือนกัน ลองดูจากแผนที่จะเข้าใจง่ายขึ้น

จากถนนสุขุมวิท เลี้ยวขวาเข้าชัยพฤกษ์เข้าไปจนสุดทางติดหาดก็จะเจอกับถนนจอมเทียนสายหนึ่งนั่นแหละครับ แล้วก็เลี้ยวซ้ายวิ่งเลียบหาดไปเรื่อยๆก็จะเจอกับ Aeras Condo อยู่ทางซ้ายมือระหว่างซอย 17 และซอย 18

ลองขับรถไปดูโครงการนะครับ เลี้ยวเข้าถนนชัยพฤกษ์จากถนนสุขุมวิท

ตัวถนนชัยพฤกษ์นี้ก็มีลักษณะเป็นเหมือนชุมชนทั่วๆไปในพัทยานี่แหละครับ แต่ว่าจะเป็นโซนสงบๆ ไม่ได้คึกคักเหมือนแถวๆ พัทยาเหนือ-กลาง-ใต้

ในซอยนี้สองข้างทางส่วนใหญ่จะยังคงเป็นตึกแถว มีคอนโดให้เห็นบ้างแต่ไม่เยอะ

ทางซ้ายมือในรูปข้างบน ที่เห็นกำลังก่อสร้างอยู่นั่นคือโครงการ Seven Seas Condo Resort จอมเทียน ของ Universal Group ครับ เป็นโครงการใหญ่มาก ขนาด 15 ไร่

แล้วก็จะวิ่งผ่านถนนจอมเทียนสายสองครับ ซึ่งถนนเส้นนี้เป็นถนนที่ขนานอยู่กับจอมเทียนสายหนึ่งที่ติดหาด เป็นถนนที่ต่อมาจากถนนทัพพระยาที่เริ่มต้นมาจากแถวๆเขาพระตำหนัก ส่วนใหญ่คนใช้เป็นทางผ่านทางสัญจรมากกว่า ไม่ค่อยคึกคัก เมื่อเทียบกับสายหนึ่ง หรือพัทยาเส้นอื่นๆ แต่มีอาคาร ทั้งคอนโด โรงแรม อาคารสำนักงาน และตึกแถว อยู่เยอะทีเดียว เป็นย่านที่อยู่อาศัยครับ

วิ่งตรงไปอีกหน่อย ก็จะถึงหาดแล้ว แถวๆนี้จะเริ่มมีความเจริญเพิ่มขึ้น สังเกตได้จากเซเว่นทางขวามือในรูป

ขับมาถึงหาด จะเจอกับสามแยกแบบนี้ครับ

เราเลี้ยวซ้ายที่สามแยก

เห็นทะเลแล้ว! ตอนนี้อยู่ที่เส้นเลียบหาดนะครับ หรือ ถนนจอมเทียนสายหนึ่ง

ความคึกคักแถวๆหน้าหาดจอมเทียนนี้จะแตกต่างจากแถวๆหน้าหาดพัทยานะครับ ฝั่งนี้จะมีความสงบกว่า ไม่พลุกพล่านมากนัก แต่ก็แน่นอนว่าสิ่งอำนวยความสะดวก, ห้างสรรพสินค้า, ความเป็นเมืองที่มีแสงสี จะมีไม่เท่ากับโซนหาดพัทยาครับ ที่สำคัญคือเรื่องของราคาที่แตกต่างกันของ Property ที่ตั้งอยู่บนสองหาดนี้ทั้งๆที่ระยะทางอยู่ห่างกันไม่มาก

ในเชิงภูมิศาสตร์แล้ว หาดจอมเทียนกับหาดพัทยาระยะทางอยู่ห่างกันนิดเดียว แต่เนื่องจากมีภูเขาคือเขาพระตำหนักและแหลมบาลีฮายมาคั่นอยู่ระหว่างสองหาดนี้ ทำให้การเดินทางไป-มาระหว่างสองหาดนี้ในสมัยก่อนมันออกจะลำบากซะหน่อย ยิ่งถ้าไม่มีรถ มันก็เหมือนเดินขึ้นเขา-ลงเขาลูกนึง แถมถนนหนทางจะตัดแบบตรงๆเลยก็ไม่ได้ ต้องตัดอ้อมๆภูเขา มันเลยทำให้หาดจอมเทียนเป็นที่นิยมน้อยกว่า แต่ปัจจุบันถนนหนทางก็พัฒนาขึ้นมากแล้ว มีถนนเชื่อมมาที่จอมเทียนได้หลายสาย ความเจริญของหาดจอมเทียนเลยค่อยๆตีตื้นขึ้นมาครับ

ร้านมินิมาร์ทริมทาง เป็นที่พึ่งของนักท่องเที่ยว

ทางซ้ายมือเจอคอนโดอีกหนึ่งแท่ง โครงการ Cetus Beachfront พัทยา

แล้วก็จะเจอกับป้ายเขียวๆของ Dragon Beach Resort เป็นจุดสังเกตก่อนจะถึงโครงการ

ก่อนถึงโครงการจะเจอร้านอาหาร พลอยทะเล อยู่ติดกับโครงการครับ

ถึงแล้ว โครงการ Aeras พัทยา ที่ตั้งของสำนักงานขายอยู่ที่เดียวกันกับที่ดินของโครงการเลยครับ

การเข้า-ออกโครงการ ยังสามารถทำได้อีกทางหนึ่ง คือ ใช้ “ซอยสุดเขต” (ไม่แน่ใจว่าชื่อถูกต้องรึเปล่านะครับ) ที่อยู่ใกล้ๆกับร้านอาหารปูเป็น เลยสุดทางรักไปหน่อย ซอยนี้เป็นซอยที่ไม่กว้างนัก เป็นถนนสองเลน แต่ก็สามารถใช้ผ่านเข้าออกได้ ค่อนข้างสะดวกทีเดียวเพราะไม่ค่อยมีคนใช้ ใช้เลี่ยงรถติดได้ค่อนข้างโอเค

ถ้าเราขับรถเส้นเลียบหาดต่อไปเรื่อยๆ ก็จะมาถึงจุดสิ้นสุดของหาดจอมเทียนครับ คือ จะเป็นจุดที่ไม่มีหาดทรายแล้วครับ ริมถนนลงไปก็เป็นทะเลเลย

แถวๆนี้เป็นที่ตั้งของร้านอาหารสุดท้ายรักพัทยา ร้านอาหารทะเลชื่อดังอีกเจ้าหนึ่ง ที่คนกรุงเทพฯชอบมากินกัน

ติดกับร้านสุดทางรัก มองไปด้านหลังจะเห็นคอนโดมิเนียมตึกคู่อีกโครงการหนึ่ง นั่นคือโครงการ Reflection ของ Major Development ครับที่พึ่งจะสร้างเสร็จไปเมื่อปี 56 ที่ผ่านมา

ถัดจากร้านสุดทางรัก ขับรถไปจนเกือบสุดหาด จะเจอร้านอาหารทะเลอีกร้านหนึ่ง ชื่อร้านปูเป็นครับ

ร้านนี้ไม่ได้สำคัญอะไร แต่จะให้ดูถนนข้างๆร้านครับ อันนี้คือซอยสุดเขต ที่สามารถใช้ไปออกถนนสุขุมวิทได้ ซึ่งเลี่ยงทางรถติดได้ค่อนข้างดี

ภาพนี้ให้ดูรอบๆที่ดินของโครงการครับ ขนาด 3-2-70 ไร่ ลักษณะเป็นที่ดินหน้ากว้างประมาณ 26 เมตร ลึกเข้าไปประมาณ 140 เมตร แล้วไปบานออกข้างใน ตัวตึก A ที่เป็น High Rise จะอยู่ด้านใน และตึก B ที่เป็น Low Rise จะอยู่ด้านหน้า ลักษณะตามรูปด้านบนครับ (ในรูปผมขีดเส้นเป็นอาณาเขตแบบคร่าวๆนะครับ ไม่เป๊ะ) บริเวณทิศตะวันตกเฉียงเหนือของโครงการ จะติดกับแนวตึกแถวเก่าครับ ส่วนทางตะวันออกเฉียงใต้จะเป็นแนวที่ดินเปล่าหลายแปลง ยาวลึกเข้าไปจนถึงด้านหลังโครงการเลย (ดูรูปตามไปนะครับ) ตัวที่ดินของโครงการก็จะถูกขนาบข้างด้วยซอยจอมเทียน 17 และ จอมเทียน 18 ทั้ง 2 ซอยจะเป็นซอยตันนะครับ โดยปกติรถยนต์จะผ่านไม่ได้ แต่ว่ามีทางให้มอเตอร์ไซค์วิ่งผ่านได้ทะลุออกไปถนนจอมเทียนสาย 2 ได้ครับ (อันนี้ถามมอไซค์แถวนั้นมา ยังไม่เคยเข้าไปดูเองนะครับ)

เดี๋ยวเราลองเดินสำรวจรอบๆที่ดินโครงการครับ เริ่มจากด้านซ้ายของที่ดินก่อน

ที่ดินโครงการอยู่ติดกับแนวตึกแถวเดิมที่เป็นร้านค้าติดถนนครับ แต่เดิมที่ดินของโครงการก็เป็นที่ดินโล่งๆ ไม่ได้ใช้ทำอะไรจริงจังอยู่แล้ว

มี 7-Eleven อยู่ใกล้ๆด้วย

ภาพบนนี้คือซอย จอมเทียน 17 ครับ เป็นซอยเล็กๆ แคบๆ ไม่มีอะไรมาก คอนโดแท่งที่เห็นนี้คือ The Coconut Beach ครับ เป็นอาคารสูงแบบ Mid-Rise ตึกนี้ด้านในจะอยู่ประชิดทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของโครงการครับ อาจจะมีการ Block View ของตึก Aeras อยู่บ้าง ยังดีที่มีถนนซอยคั่นกลาง ช่วยยืดระยะออกไปอีกนิดหน่อย

ต่อจาก Coconut Beach เป็นโรงแรม The Natural Park Resort

แอบมองเข้าไปด้านในนิดนึง เป็น Resort ขนาดไม่ใหญ่มาก ด้านหน้าเปิดเป็นร้านอาหาร

สิ่งปลูกสร้างริมหาดก็จะมาแนวๆนี้แหละครับ ร้านอาหารบ้าน ร้านค้าเล็กๆบ้าง คอนโดบ้าง รีสอร์ทบ้าง เรียงรายไปบนหาดจอมเทียน

มาดูทางขวาของที่ดิน Aeras บ้าง

ติดกับที่ดินของโครงการทางขวา เป็นที่ดินเปล่ารกร้าง ต้นไม้ขึ้นหนาแน่นเชียวครับ ต้นไม้โตมาก แผ่กิ่งก้านสาขาไปที่ดินรอบข้างอย่างไม่เกรงใจ แต่ไม่ต้องกลัวว่าจะมาโดนตึกของโครงการนะครับ เพราะฝั่งที่ติดกันนี้เป็นแนวถนนในโครงการพอดี ช่วยบังแดดให้เลย

ข้างในมีบ้านร้างอยู่หลังหนึ่ง ดูไม่มีคนอยู่มานานแล้ว

ถัดจากที่ดินรกๆนั่น ก็เป็นที่ดินเปล่าอีกแปลงหนึ่ง แปลงนี้ดูเหมือนจะมีคนดูแลหน่อย ติดป้ายประกาศขายไว้ด้วย ทั้งสองแปลงนี้สามารถขึ้นเป็นอาคารสูงได้สบายมาก เนื่องจากที่ดินขนาดใหญ่เพียงพอ ก็ได้แต่หวังว่าจะไม่รีบมานักนะครับ

ติดกับแปลงที่ดินเปล่า ทางขวา เป็นซอยจอมเทียน 18 ซอยนี้มอเตอร์ไซค์บอกว่าสามารถไปทะลุออกถนนจอมเทียนสายสองได้นะครับ แต่รถใหญ่ผ่านไม่ได้ ไปได้แต่มอไซค์

ป้ายซอยจอมเทียน 18

เดินต่อไปทางปลายหาดจอมเทียน

ตรงนี้มีโรงแรมอีกแห่งหนึ่ง ชื่อ Anantaya Resort จอมเทียน เป็นโรงแรมสไตล์สถาปัตยกรรมไทย อยู่มาเนิ่นนานแล้ว ที่ดินของโรงแรมใหญ่เกินตัวจริงๆ ถ้าทุบแล้วสร้างตึกนี่ก็น่าจะได้ตึกสูงอีกเหมือนกันครับ แต่คงไม่ใช่เร็วๆนี้ล่ะนะ …

ข้างขวาของโรงแรม Anantaya เป็นคอนโดที่พึ่งสร้างเสร็จอีกโครงการหนึ่ง คือ Lumpini Park Beach จอมเทียน 3 ตึกใหญ่ของ LPN

ตัวตึกของ LPN ยิ่งใหญ่มาก เพราะแปลงที่ดินเขาใหญ่ประมาณ 19 ไร่ ลากตั้งแต่ถนนจอมเทียนสายหนึ่ง ไปจรดถนนจอมเทียนสาย 2 ที่เห็นอยู่นี่เป็นเฟส 1 นะครับ เดี๋ยวมีเฟส 2 อีก ยังไม่จบแค่นี้

กลับมาที่โครงการต่อครับ ข้อสังเกตอย่างหนึ่งของโครงการหน้าหาดจอมเทียนนี้ คือ จะเป็นลักษณะที่ไม่มีแปลงไหนได้พื้นที่ติดหาดครับ เนื่องจากจะเป็นเส้นที่มีถนนเลียบหาดคั่นกลางระหว่างชายหาด (ซึ่งเป็นพื้นที่สาธารณะ) กับอาคารบ้านเรือนต่างๆ ลักษณะนี้เหมือนกันกับหาดพัทยา ทำให้แทบจะไม่มีโครงการไหนในบริเวณนี้ที่พูดได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่า “ติดหาด” ครับ ลักษณะนี้จะต่างจากคอนโดติดทะเลแถบหัวหินหรือชะอำนะครับเนื่องจากแถวๆนั้นไม่มีถนนเลียบหาด

สภาพหาดหน้าโครงการจะเป็นลักษณะนี้ครับ เหมือนกันหมดตลอดแนวหาดจอมเทียน การที่มีถนนเลียบหาดทำให้การเข้าถึงหาดทำได้ง่ายขึ้น คนทั่วไปใครก็ตามที่เดินผ่านไปผ่านมาสามารถลงไปเล่นน้ำที่ทะเลและทำกิจกรรมริมหาดได้ มีพ่อค้าแม่ค้ามากางเก้าอี้ กางเต้นท์ ค้าขาย สร้างความคึกคักให้กับหาด แต่สิ่งที่ต้องแลกมาคือความเป็นส่วนตัวของหาดก็จะลดลงไป ความวุ่นวายเพิ่มขึ้น เพราะหาดเป็นพื้นที่สาธารณะใครก็สามารถมาใช้ได้

แต่ถ้าโครงการอยู่ “ติดทะเล” หรือในอีกแง่หนึ่ง คือไม่มีถนนมาคั่น การที่คนทั่วไปจะเดินมาใช้พื้นที่หาด ในทางทฤษฎีก็ทำได้ปกติแหละครับ แต่ในทางปฏิบัติมันจะลงไปที่หาดได้ยากขึ้น เนื่องจากไม่มีถนน ขับรถไปจอดริมหาดไม่ได้ อาจจะต้องอาศัยการเดินเท้ามาจากจุดไกลๆ แต่คนที่เป็นลูกบ้านโครงการๆนั้นๆที่อยู่ติดทะเล สามารถเดินลงหาดได้เลย ทำให้สะดวกและมีความเป็นส่วนตัวมากกว่า หาดก็จะเงียบกว่า เนื่องจากมีคนไปใช้น้อยครับ  ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญนะครับ เพราะถ้าเราไม่ชอบเล่นทะเลที่มีคนเยอะๆ โครงการในพัทยาที่มีลักษณะแบบนี้ก็อาจจะไม่เหมาะกับเรา แต่ถ้าเราเป็นสไตล์ชอบความคักคัก Lively ของทะเลพัทยา โครงการแบบนี้ก็จะตอบโจทย์สิ่งที่เราอยากได้ และมีความสะดวกกว่าด้วยครับ

อีกมุมหนึ่งของหาดหน้าโครงการครับ

เข้าไปดูในที่ดินของโครงการกันบ้าง ที่เห็นในรูปด้านบนนี้คือ จุด Drop-Off ของอาคารสำนักงานขายนะครับ

เข้าไปปุ๊บก็จะเป็นที่จอดรถด้านหลัง สนง.ขาย ที่ดินบริเวณส่วนด้านหน้านี้ จะเป็นตำแหน่งที่ตั้งของอาคาร B ที่ชื่อว่า Aeolus ครับ เป็นตึกเตี้ย สูง 4 ชั้น ด้านหน้าตึกมีส่วน Facilities ส่วนกลาง อาคาร B นี้จะมีแค่ยูนิต  Penthouse 13 ยูนิตเท่านั้น เป็นขนาดใหญ่ทั้งหมด มีจุดขายตรงที่อยู่ใกล้หาด กับได้ Privacy ครับ แต่จะไม่ค่อยได้วิวทะเลเท่าไหร่ เพราะความสูงไม่มากนัก

ที่ติดกันกับที่ดินโครงการเป็นแนวตึกแถวเก่าแต่เดิมที่อยู่มาก่อน มองไปด้านหลังเห็นตึกสูงๆ นั่นคือตึกของคอนโดข้างๆที่ชื่อ Coconut Beach ครับ

เดินเข้าไปดูแนวตึกแถวอีกหน่อย รั้วอยู่ติดกันเลย

ด้านหลังของอาคารสำนักงานขาย

ด้านขวาของที่ดินโครงการ จะเป็นที่ดินเปล่าอย่างที่บอกไป มีบ้านร้างอยู่หลังหนึ่ง

เดินเข้ามาถึงด้านหลัง แนวที่ดินของโครงการยังไม่หมดแค่นี้นะครับ มีต่อไปอีกหน่อย

ด้านหลังโครงการตอนนี้ยังไม่ได้ทำอะไรครับ เป็นพื้นที่โล่งๆ ส่วนที่โล่งๆนี้แหละ จะเป็นที่ตั้งของตึก A ที่เป็น High Rise 38 ชั้น ที่ดินด้านหน้า จรดด้านหลัง ลึกเข้าไปราวๆ 140 เมตรครับ

ด้านข้างก็ยังเป็นที่ดินเปล่า รกๆ ต้นไม้ขึ้นเต็มไปหมด

อีกด้านหนึ่งจะเป็นแนวบ้านคน เป็นบ้านเดี่ยว 1-2 ชั้น

ด้านหลังของที่ดินก็ยังไม่มีอะไรครับ เป็นบ้านคนธรรมดา

เจาะลึกตัวโครงการ

มาดูส่วนที่เป็นตัว Project กันบ้างนะครับ โครงการนี้ประกอบด้วย อาคาร A (Aether) เป็น High Rise 38 ชั้น 1 อาคาร มี 296 ยูนิต และ อาคาร B (Aeolus) ที่เป็น Low Rise 4 ชั้น อีก 1 อาคาร มีแค่ 13 ยูนิตครับ รวมทั้งสองโครงการมีจำนวนยูนิต 309 ยูนิต ตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 3-2-70 ไร่

ตัวโมเดลหน้าตาประมาณนี้ครับ

มาดู Master Plan กันก่อนครับ การวางตัวของที่ดินด้านหน้าสุดที่อยู่ใกล้หาด จะเป็นส่วนสระว่ายน้ำ Beachfront Pool ครับ เป็นสระ Outdoor อยู่นอกอาคาร ถัดเข้ามาเป็นอาคาร B ที่เป็นตึกเตี้ย อยู่ตรงกลาง และถัดไปเป็นอาคาร A ที่เป็น High Rise จะอยู่ด้านหลังสุด ติดกับ Courtyard เล็กๆด้านหลังโครงการ ส่วน Facilities ต่างๆจะนำไว้ที่ชั้น 5 ของตึก A ครับ ระยะทางจากด้านหน้าสุดถึงหลังสุดของที่ดิน ลึกประมาณ 140-150 เมตรได้ครับ

ดูจากโมเดลจะเห็นภาพมากขึ้นครับ

มุมนี้เป็น Top-View ของโมเดล จากหน้าตึก A เดินไปที่หาด ระยะทางประมาณ 80 เมตรได้ครับ

ซูมเข้ามาดูใกล้ๆ บริเวณส่วนหน้าสุดของโครงการ ตัวตึก B และสระว่ายน้ำ วางอยู่ชิดริมรั้วด้านหนึ่งของโครงการเลยครับ ส่วนอีกด้านเป็นถนน 2 เลน ไป-กลับ

สระว่ายน้ำระบบเกลือด้านหน้าแบบ Outdoor ครับ การที่โครงการวางสระว่ายน้ำเอาไว้ตรงนี้ จะทำให้ได้ความสะดวกในการเล่นน้ำอย่างหนึ่ง เพราะอยู่ใกล้ชายหาด เดินออกจากโครงการ ข้ามถนนไป ก็เป็นน้ำทะเลแล้ว ถ้าเรามากันหลายๆคน เราอยากจะเล่นทั้งน้ำทะเล ทั้งน้ำจืด เราก็สามารถสลับไป-มาระหว่างสระในโครงการ กับชายหาดได้ ระยะทางไม่ไกล เดินไปได้ แต่ถ้าใครไม่อยากใช้สระที่อยู่ด้านหน้านี้ เพราะอาจจะคิดว่าไม่ส่วนตัว โครงการก็มีสระอีกสระหนึ่งอยู่บนชั้น 5 ของตึก A ก็สามารถไปใช้ได้เหมือนกัน

ภาพจำลองบรรยากาศสระว่ายน้ำ Beachfront Pool และที่นั่งด้านข้างสระ

ภาพนี้เป็นมุมมองจากในสระ มองไปทางตึก B

ส่วนภาพนี้เป็นบรรยากาศจำลอง ด้านหน้าโครงการ ตอนที่สร้างเสร็จแล้ว จะทุบสำนักงานขายออก แล้วจัด Landscape ให้ได้อารมณ์ประมาณนี้ครับ

Master Plan บริเวณด้านหน้าโครงการจะประมาณนี้ครับ

มาดูที่ตึก B กันบ้าง ตึกนี้จะเป็นตึก 4 ชั้นนะครับ มี 13 ยูนิต ชั้นละไม่เกิน 4 ห้องเท่านั้น ตึกนี้จะเหมาะสำหรับครอบครัวใหญ่ หรือคนกลุ่มใหญ่ๆ ที่มาแล้วอยากได้ห้องมีพื้นที่เยอะๆ อยู่ด้วยกัน ทำกิจกรรมร่วมกัน เดินออกไปทะเลง่ายๆเพราะอยู่ด้านหน้า มีพื้นที่ Private เป็นส่วนตัวหน่อย แต่จะไม่เหมาะกับคนที่อยากได้วิวทะเลครับ เพราะเป็นตึกเตี้ย

ภาพจำลองด้านข้างของตึก B

Floor Plan ชั้น G ของตึก B ครับ ทางเข้าอาคารจะอยู่ทางด้านซ้ายของรูปครับ (หน้าโครงการอยู่ทางขวาของรูปบน) ที่เป็น Lobby ของตึก B นะครับ ชั้น G ก็มีห้องพักอาศัยเหมือนกัน ห้องที่อยู่ด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ด้านติดหาดสองห้องก็จะสามารถเปิดประตูออกไปที่เฉลียงด้านหน้า (ชั้นอื่นจะเป็นระเบียง) แล้วเดินลงสระว่ายน้ำได้เลย

ที่ตึก B นี้จะมีลิฟท์อยู่ 1 ตัวนะครับ อัตราส่วน 13:1 ถือว่าสบายๆมากๆ ต่อให้ลิฟท์เสีย ชั้นบนสุดก็สูงแค่ 4 ชั้น คิดว่าคงไม่มีปัญหาอะไร ความหนาแน่นสูงสุดที่ 4 ห้อง/ชั้น ซึ่งก็ถือว่าน้อยมากๆครับ

ตัวตึกจะมีการวางตัวเป็น Stack ในแต่ละชั้น ที่จะมีระยะร่นบริเวณระเบียงห้อง ตามที่เห็นในโมเดลนี้แหละครับ ในแต่ละชั้นจะมีห้องสองห้อง ซ้าย-ขวา แล้วจะมีส่วนระเบียงที่มีพื้นที่เหลื่อมกัน ทำให้แม้ห้องจะอยู่ติดกันแต่มองไม่เห็นกันครับ เพิ่มความ Privacy ของระเบียง

Floor Plan ชั้น 2F ของตึก B ชั้นนี้จะมี 4 ห้อง มีห้องเล็กสุดอยู่ตรงกลางเป็น 48 ตารางเมตรครับ

Floor Plan ชั้น 3F ของตึก B ชั้นนี้จะเหลือแค่ 3 ห้อง เพราะระยะระเบียงของห้องฝั่งหน้าหาดจะถูกร่นเข้ามาอีก ส่วนห้องทางทิศเหนือ จะเป็นห้อง Duplex กินพื้นที่ชั้น 3-4

ชั้น 4F ของตึก B ห้องฝั่งหน้าหาดจะถูกยุบรวมเหลือห้องเดียว ส่วนห้องทิศหนือก็จะเป็นห้องชั้นบนของห้อง Duplex เป็นยูนิตเดียวกันกับชั้น 3

ให้ดูด้านข้างของตึกอีกที

ตรงกลางตึก ที่เว้าๆใน Floor Plan จะเป็นส่วน Courtyard ตรงกลางครับ วางต้นไม้ใหญ่เอาไว้ มียูนิตของห้องทิศเหนือ เป็นยูนิตตัว L มาล้อมเอาไว้ (ลองดู Floor Plan ประกอบ) ใครที่อยู่ห้องทิศเหนือตรงนี้ก็จะได้ประโยชน์ไปเต็มๆ เพราะจะได้วิวสวนตรงกลางแบบรอบด้านเลย ซึ่งก็จะมีแค่ 2 ห้องเท่านั้นที่ได้ คือยูนิตชั้น 2 และยูนิตชั้น 3-4 ที่เป็น Duplex

ภาพจำลองส่วน Courtyard ตรงกลางครับ

ถัดมาเป็นส่วนของตึก A ที่เป็น High Rise ครับ ตึกนี้ชั้น 1-4 เป็นที่จอดรถครับ มีห้องพักด้วยนิดหน่อย จอดรถได้ประมาณ 51% รวมซ้อนคัน ขึ้นมาที่ชั้น 5 จะเป็นชั้น Facilities ที่จะมีสระว่ายน้ำแบบรับวิวทะเล มีส่วน Sky Lobby ที่ชั้นเดียวกัน เป็นพื้นที่ Semi-Outdoor ที่รับลม รับวิวทะเลได้เต็มที่ ขึ้นมาอยู่ที่ชั้น 5 นี้ เพราะถ้าเอาไว้ชั้นล่าง จะโดนตึก B ที่อยู่ด้านหน้าบังวิวไปซะหมด

Access ของตึกนี้จะเป็นลักษณะให้รถวนขึ้นมาจอดที่ลานจอดรถ ทางด้านหลังอาคาร แล้วก็วนออกแบบ One-Way ครับ

ด้านหลังสุดของแปลงที่ดิน มีพื้นที่เหลืออยู่นิดหน่อย ก็เลยจัดเป็นสวนหย่อมเล็กๆเอาไว้ ให้มีพื้นที่สีเขียวขึ้นมาหน่อย ด้านข้างมีสนามสตรีทบาสอยู่ด้วย

และนี่เป็น Master Plan ของตึก A ครับ ตัว Plan ไม่มีอะไรมาก ก็คือเป็นสี่เหลี่ยมธรรมดา แต่ด้านหลังมีส่วนที่เป็นสวนหย่อม … แปลนที่เห็นอยู่นี้จะเป็นบริเวณชั้น 5 ซึ่งเป็นชั้น Facilities ของตึกนะครับ ประกอบด้วยสระว่ายน้ำ, Sunken Seat ที่เป็นที่นักพักผ่อนชมวิวทะเล, Library, Kid’s Room, Game Room อีกฝั่งหนึ่งก็จะเป็นห้อง Fitness, ห้องโยคะ และมี Lobby & Lounge อยู่ตรงกลางชั้น

พื้นที่บริเวณชั้น 5 ของตึก A เป็นแบบ Semi-Outdoor คือมีส่วนที่อยู่ใต้ชายคา และส่วนที่อยู่นอกชายคา อย่างเช่นสระว่ายน้ำที่เห็นนี้

ระว่ายน้ำเปิดรับวิวทะเลโดยรอบ และเป็นสระแบบ Infinite-Edge Pool ด้วย คือไม่มีกำแพงขอบสระมาบังวิวทะเล สามารถมองทะลุไปได้

ภาพจำลองตัวสระน้ำที่ชั้น 5 เมื่อมองจากนอกอาคาร

ภาพจำลองบรรยากาศ “Sea-View Lobby & Lounge” ที่เป็นพื้นที่ Lobby บริเวณชั้น 5 ติดกับสระว่ายน้ำ

ต่อมาจะเป็นส่วน Sunken Seats รับวิวทะเล ต่อกับส่วน Lobby ก่อนที่จะเป็นสระว่ายน้ำ

อันนี้เป็น Sunken Seats เหมือนกัน แต่เป็นมุมมองจากสระว่ายน้ำ มองเข้าไปในตึก

ภาพจำลองห้องฟิตเนส อยู่ชั้น 5 เหมือนกัน

ภาพจำลองห้อง Game Room ที่ชั้น 5

ส่วนอันนี้อยู่ติดกับ Game Room เป็น Kid’s Room ห้องเด็กเล่นสำหรับคุณหนูๆ

สุดท้ายสำหรับชั้น 5 คือห้อง “Executive Library” เป็นห้องสมุด สำหรับนั่งอ่านหนังสือ, นั่งพักผ่อน ชมวิวทะเล

ส่วนภาพนี้เป็นภาพจำลอง โถงลิฟท์ ที่อยู่ที่ Lobby ของอาคาร A ฝ้าเพดานเปิดสูงแบบ Double Volume ด้วย

ตัวห้องพักอาศัยของที่นี่เริ่มต้นที่ชั้น 6 ไปจนถึงชั้นบนสุดคือชั้น 38 เลยครับ ซึ่งชั้นบนๆ เริ่มตั้งแต่ชั้น 33 ขึ้นไป จะมีการปรับโครงสร้างภายนอกของอาคาร ทำให้ Layout ของห้องในชั้นสูงๆจะเปลี่ยนแปลงไปจากชั้นล่างๆอยู่บ้าง

Floor Plan ชั้น 6 ครับ … ที่นี่ Floorplan ของแต่ละชั้นจะมีรายละเอียดปลีกย่อยที่แตกต่างกันเล็กๆน้อยๆครับ แต่หลักๆแล้วจะเหมือนกัน ตั้งแต่ชั้น 6-32 จำนวนห้องพักสูงสุดต่อชั้นเริ่มต้นที่ 11 ห้อง และจะลดลงเรื่อยๆตามชั้นสูงๆครับ

การวาง Floorplan ของที่นี่ มีโถงลิฟท์อยู่ตรงกลาง และมีห้องพักอาศัยอยู่รายล้อมโดยรอบ วางห้องเป็นแบบ Single Corridor ครับ เพราะวางห้องพักอยู่ด้านเดียวของโถงทางเดิน เวลาเปิดประตูห้องมาจะไม่ต้องเจอห้องฝั่งตรงข้าม ซึ่งจะได้ Privacy อีกระดับหนึ่ง และไม่มีห้องแปลกๆเช่นติดห้องขยะ ห้องติดลิฟท์ สบายใจได้เลยตรงนี้

ลิฟท์ที่นี่มีให้ 3 ตัว + Servicie Elevator อีก 1 ตัว อัตราส่วนลิฟท์โดยสารของตึก A ประมาณ 99:1 ครับ ก็จัดว่าอยู่ในเกณฑ์พอใช้ได้ของคอนโด High Rise เกรดเดียวกัน แต่ถ้าคำนึงว่าที่นี่เป็นคอนโดมิเนียมสำหรับตากอากาศ อัตราการเข้าพักของลูกบ้านอาจจะไม่หนาแน่นเท่ากับคอนโดในเมือง (ยกเว้นช่วง High Season นะครับ) จำนวนลิฟท์เท่านี้ก็ถือว่าเพียงพอสบายๆครับ

ห้องพักอาศัยยูนิตบนๆ ตั้งแต่ชั้น 33 ขึ้นไป ตัว Layout ของห้องและ Floor Plan จะเปลี่ยนแปลงไปตามดีไซน์ของภายนอกอาคารครับ

ยิ่งชั้น 37-38 นี่ ได้ผนังกระจกบานสูงมาก  ยูนิตตรงกลางของชั้น 37 นี้จะเป็นพื้นที่ส่วนกลางนะครับ ซึ่งยังไม่ได้ฟันธงว่าจะเป็นอะไร ถ้ามีความคืบหน้าจะมาแจ้งให้ทราบนะครับ

Floor Plan ชั้น 37 จะดูแปลกตามาก เพราะดีไซน์ของผนังภายนอก

สุดท้ายก็จะเป็น Floor Plan ของชั้น 38 ครับ สองชั้นบนสุดนี้รวมกันมีทั้งหมด 3 ห้องนะครับ เป็น Duplex 1 ห้อง และห้อง Simplex อีก 2 ห้อง

ก่อนจะเข้าสู่เรื่องห้อง ขออนุญาต Capture ภาพวิวจากในเว็บไซต์โครงการมาให้ดูกันครับ วิวที่เห็นนี้ เป็นวิวทางด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือของโครงการ ที่ความสูงประมาณ 150 ฟุต หรือประมาณ 45 เมตร ก็ราวๆชั้น 15 ของโครงการครับ ตึกทางขวานั่นคือตึกของ LPN ครับ วิวนี้ไม่ได้วิวทะเลนะ

วิวทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ที่ความสูง 150 ฟุตเช่นเดียวกัน มุมนี้จะเจอคอนโดข้างๆ ชื่อ Coconut Beach มาบังวิวไปส่วนหนึ่ง แต่ถ้ามองไปทางทิศตะวันตก จะเห็นทะเลนะ

วิวทิศตะวันออกเฉียงใต้ วิวนี้มองเห็นตึก LPN  ไกลๆ แบบไม่ไกลมาก แต่ทางขวาได้วิวทะเลอยู่เยอะเหมือนกัน

ส่วนทิศที่วิวดีที่สุด คือทิศตะวันตกเฉียงใต้ครับ ทิศนี้ได้วิวทะเลเต็มๆเลย แต่จะมีทางขวาที่โดน Block วิวจากตึกข้างๆไปหน่อย ถ้าค่อนไปทางใต้อีก จะได้วิวแบบไม่มีอะไรบังเลยครับ (ถ้าไม่มีตึกข้างๆขึ้นมาบังนะ)

ภาพวิวเหล่านี้สามารถเข้าไปกดดูแบบ 360 องศาได้ ในเว็บไซต์โครงการครับ www.aerascondo.com โดยนอกจากที่ความสูง 150 ฟุต (ประมาณชั้น 15) ยังมีที่ 250 ฟุต (ประมาณชั้น 25) และ 350 ฟุต (ประมาณชั้น 35) ให้กดดูได้ด้วย

จบเรื่องตัวโครงการไว้เท่านี้ก่อนนะครับ ตอนนี้โครงการยังอยู่ในระหว่างการดำเนินการขายและการก่อสร้าง คาดว่าในอนาคตถ้าตัวตึกสร้างเสร็จแล้ว เราจะมีโอกาสได้พาไปชมของจริงกันครับ 🙂

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

• สระว่ายน้ำ 2 สระห้องออกกำลังกาย ชั้น 5ตึก A

• Beachfront Pool ติดทางเข้าโครงการ ใกล้ชายหาด 1 สระ พร้อม Deck อาบแดด
• Sea-View Sky Pool ที่ชั้น 5 ของตึก A

Product Walkthrough

ต่อไปเป็นส่วนห้องตัวอย่างครับ มีให้ดู 2 ห้องด้วยกัน เริ่มจากห้องแรกก่อน เป็นห้อง One-Bedroom ขนาด 46 ตารางเมตรครับ ห้องนี้ขายแบบ Fully-Furnished เฟอร์นิเจอร์และการตกแต่งส่วนใหญ่ได้ตามห้องตัวอย่าง แต่ก็จะมีบางจุดที่ไม่เหมือนกับห้องจริงนะครับ

แบบห้องจริงๆแล้วมีหลากหลายมากครับ มี Type ห้องเป็นสิบๆแบบ ห้องแบบที่จะให้ดูนี้จะเป็นห้องระเบียงกว้างตลอดแนวความกว้างของตัวห้อง แบ่งสัดส่วนห้อง ครึ่งนึงเป็น Living Area + ครัว กับอีกครึ่งนึงเป็น ห้องนอน+ห้องน้ำ ส่วนครัวเป็นครัวเปิด ไม่เน้นทำอาหาร แต่เน้นส่วน Living รับวิวทะเล ห้องน้ำเอาไปอยู่ในห้องนอน และได้ห้องนอนรับวิวทะเลเช่นเดียวกันครับ

เริ่มจากประตูทางเข้าห้อง เป็นแบบ Oversized ครับ สีออกเทาๆอมน้ำตาลหน่อยๆ

เข้าห้องมาปุ๊บจะเจอกับส่วนครัว + Living Area ก่อน

พื้นได้เป็นกระเบื้องยาง Vinyl ครับ คุณภาพดีกว่า Laminate ทนความชื้นได้ดีกว่า รับแรงกระแทกได้ดีกว่า แข็งแรงกว่า เหมาะกับคอนโดมิเนียมตากอากาศแบบนี้มากกว่าครับ เนื่องจากบางทีเราต้องเดินตัวเปียกๆเข้าห้องด้วย

พื้นที่บริเณหน้าห้อง

ประตูห้องด้านใน

ระบบกลอนแบบ Digital Doorlock ชนิดใช้บัตรแตะ ไม่ได้ใช้รหัสตัวเลขนะครับ

หน้าประตูห้อง มีระบบ Video Doorphone ติดตั้งให้ทุกห้อง กรณีที่มีคนมาหา คนที่อยู่ในห้องสามารถกดดูได้ว่าคนที่มาหาเป็นใคร สามารถคุยเป็น Video Calling ได้ และสามารถกด Unlock ประตูทางเข้าที่โถงลิฟท์ได้จากในห้อง ไม่ต้องลงไปรับด้วยตัวเองครับ ซึ่งก็จะเพิ่ม Security ให้ระดับหนึ่ง

พื้นที่หน้าประตูวางโต๊ะรับประทานอาหารแบบ 2 ที่นั่งเอาไว้ โต๊ะตัวไม่ใหญ่มาก แต่ก็ไม่เล็กพอใช้งานได้โอเค

พื้นที่ครัวด้านหน้าห้อง เป็นแบบครัวเปิด Built-in มาให้เสร็จสรรพ

แอร์ในห้องนั่งเล่น เป็นระบบฝังฝ้าแบบนี้ครับ ฝ้าเพดานที่นี่สูงประมาณ 2.70 เมตร

ตู้ด้านข้างประตูทางเข้า เป็นชั้นสำหรับวางรองเท้าได้ เก็บของได้ แต่เอามาวางติดกับตู้เย็นแบบนี้ จะมีใครถือมั้ยนะ ของกินวางคู่กับรองเท้า จริงๆแล้ว ถ้าหันช่องเก็บรองเท้าไปอีกด้านหนึ่ง ให้หน้าบานเปิดจากด้านที่ติดกับประตูเข้าห้อง ก็น่าจะโอเคกว่านะ

ช่องเก็บของเหนือครัว มีพื้นที่พอสมควร

หน้าบานครัวให้แบบ Soft-Close ด้วย

ใต้อ่างล้างมือก็มีพื้นที่เก็บของอีก

ช่องวาง Microwave อยู่ด้านล่าง

เตาไฟฟ้าเซรามิก ของ Teka แถมมาให้กับห้อง

ผนังด้านหลัง Pantry ปูหินมาให้ ป้องกันการเลอะเทอะของผนัง และทำให้ทำความสะอาดง่าย

อ่างล้างจานแบบฝังลงไปในชุด Pantry ให้ความสวยงามและคงทนกว่าแบบที่เป็นอ่างสำเร็จครับ ยี่ห้อ Teka วางบนท้อปครัวหินแกรนิต

ชุดหัวก็อกของ Teka เหมือนกัน โดยรวมแล้วตรงครัวนี้ให้วัสดุค่อนข้างดีทีเดียว

ถัดจากส่วนครัวเป็นส่วนพื้นที่นั่งเล่น และโซฟาดูทีวี อยู่ติดกับผนังกระจกรับวิว รับแสงธรรมชาติ

ชุดโซฟาและโต๊ะกลาง ที่แถมมาให้ในแพ็คเกจเฟอร์นิเจอร์ โซฟานั่งได้  2 คนสบายๆ 3 คนแบบเบียดๆ

ฝั่งตรงข้ามโซฟาเป็นผนังที่กั้นระหว่างห้องนอนกับห้องนั่งเล่น เขาแบ่ง Partition ด้วยประตูบาน Slide 2 บาน เป็นบานทึบ และติดทีวีแขวนผนังตรงกลาง มีชั้นวางของด้านล่าง

พอเปิดประตูบาน Slide ออก 2 ด้าน ก็จะทำให้ Space ของห้องนอนและห้องนั่งเล่นเชื่อมต่อกันแบบนี้ แสงธรรมชาติสามารถส่องผ่านกันได้ ทำให้ห้องสว่างขึ้น และดูโปร่งขึ้นด้วย

ผนังกระจกตรงนี้ เปิดออกไปสู่ระเบียงด้านนอกได้ครับ ทำให้สามารถรับวิวทะเลได้เต็มที่มากขึ้น และมีแสงธรรมชาติส่องเข้ามาที่ห้องนั่งเล่นได้ในเวลากลางวัน เดี๋ยวเรายังไม่ออกไปที่ระเบียงครับ เราไปดูห้องนอนกันก่อน

เข้ามาที่ห้องนอนครับ ห้องนี้วางเตียงขนาด 5 ฟุตเอาไว้ให้ดู มีพื้นที่ข้างเตียงเหลืออีกหน่อย สามารถปรับเป็นเตียงขนาด 6 ฟุตได้สบายๆ ยังมีพื้นที่ข้างเตียงเหลืออยู่อีกหน่อย แต่ฐานเตียงอันนี้เขาแถมมาให้แล้วนะครับ ถ้าจะเอา 6 ฟุตมาใส่ก็ต้องไม่เอาอันนี้

ด้านในเป็นทางเข้าห้องน้ำที่อยู่ในห้องนอน ติดกับผนังห้องน้ำมีพื้นที่ใส่ตู้เสื้อผ้า ที่เว้าเข้าไปในผนัง ก็ทำเป็นตู้เสื้อผ้าแบบ Built-in ให้แบบนี้เลย มีชั้นวางของด้วย (มีชั้นวางของแถวเดียวนะครับ อีกแถวนึงเป็นเงาสะท้อนของกระจก)

พื้นที่หัวเตียงใส่โต๊ะหัวเตียงไว้ให้ดู

พื้นที่ปลายเตียง ถ้าเปิดประตูออก ก็จะมองเห็นห้องนั่งเล่นแบบนี้

แต่ถ้าปิดประตู ก็จะได้ความ Private มากขึ้น เช่น เวลาจะนอน แล้วก็จะเปลืองแอร์น้อยลงด้วยนะ ส่วนทีวีในห้องนอน ต้องใช้วิธีแขวนผนังเอาอย่างเดียว เหมือนในห้องตัวอย่าง ไม่มีพื้นที่วางตู้ปลายเตียงครับ

ให้ดูพื้นที่ปลายเตียง มีเหลือแค่นี้

หัวเตียงเขาตกแต่งให้ดูโดยเอาไม้มากรุผนังครับ ของจริงเป็นผนังฉาบเรียบทาสีขาว ตามปกติ

ตู้เสื้อผ้า ให้มาตามนี้ ด้านล่างมีพื้นที่สำหรับวางกระเป๋าเดินทาง หรือ เก็บสิ่งของอื่นๆ ที่เป็นชิ้นใหญ่ๆ แต่ไม่มีหน้าบานปิด เลยต้องเป็นของที่ไม่กลัวฝุ่นนิดนึงนะครับ

ทางเข้าห้องน้ำ อยู่ในห้องนอน

เข้ามาปุ๊บจะมีพื้นที่ส่วนที่เว้าเข้าไปแบบนี้ พื้นห้องน้ำปูหินแกรนิตครับ ได้ตามนี้เลย

พื้นห้องน้ำดรอปลงไปประมาณ 2 นิ้ว ไม่มีธรณีประตู ไม่ต้องกลัวสะดุดเวลาจะเดินเข้าห้องน้ำ บัวที่คั่นระหว่างพื้นห้องน้ำ-พื้นห้องนอน วัสดุก็เป็นหินเหมือนกัน

วัสดุผนัง เป็นกระเบื้องลายหินแผ่นใหญ่ ขนาด 60×60 ซม.

ชุดอ่างล้างหน้าของ MOGEN ให้มาตามนี้ ใต้อ่างล้างหน้าไม่มีตู้เก็บของครับ น่าเสียดายไปนิด

โถสุขภัณฑ์ American Standard ขนาดมาตรฐาน

หัวสายฉีดชำระของ VRH

อ่างล้างหน้าเล็กไปหน่อย พื้นที่วางของด้านข้างก็น้อยไปนิด ด้วยความที่เป็นชุดอ่างสำเร็จรูป

ติดกระจกเงาบานยาวมาให้

พื้นที่ Shower Box ประมาณนี้ ติดฉากกั้นอาบน้ำแบบกระจกนิรภัยมาให้แล้ว เป็นแบบ Frameless ด้วยนะครับ

Shower Box ห้องนี้จริงๆจะติดเป็น Rainshower มาให้ แต่ห้องนี้ไม่ได้ใส่ไว้ให้ดูนะครับ

พื้นที่อาบน้ำประมาณนี้ ประตูเปิด-ปิดสะดวก ไม่มีปัญหาอะไร

ชั้นวางสบู่ เว้ามาให้หน่อยนึง แต่วางได้นิดเดียว แนะนำให้ติดเพิ่มนะครับ โดยเฉพาะคนที่คิดจะมาอยู่เป็นประจำ ติดอันใหญ่ๆเลย

หัวฝักบัว Hand Shower

พื้นห้อง Shower Box ดรอปให้ แต่ดรอปน้อยไปนิด หวังว่าของจริงจะดรอปเพิ่มให้อีกซัก 1 นิ้วนะครับ จะได้กันน้ำได้ดีกว่านี้ ไม่งั้นส่วนเปียกส่วนแห้งก็ยังไม่ได้ถูกแยกออกจากกันอยู่ดี

สุดท้ายคือส่วนของระเบียงนอกห้อง ที่เป็น Highlight ของห้องนี้

ประตูทางออกระเบียง ก็สามารถเปิดจากในห้องนอนได้ และจากห้องนั่งเล่นก็ได้เหมือนกัน

รางม่าน ดรอปไว้ให้ตามนี้เลย แต่ไม่มีม่านให้ ต้องไปหามาใส่เอง

พื้นที่นอกระเบียงประมาณนี้ครับ กว้างพอที่จะวาง Daybed คู่กันแบบนี้ได้ แต่เวลาไปซื้อต้องเลือกขนาดดีๆหน่อยนะครับ ราวกันตกเป็นแบบกระจกนิรภัยด้วย ไม่ใช่เป็นแบบทึบ ดังนั้นจะมองวิวได้ดีกว่า

อีกมุมหนึ่งวางชุดโต๊ะ-เก้าอี้ สำหรับนั่ง Outdoor ให้ดูเป็นไอเดีย เฟอร์นิเจอร์นอกระเบียงเขาไม่ได้แถมให้นะครับ ซื้อเองๆ

พื้นที่ระเบียงกว้างมาก และยาวมาก สำหรับห้อง 1 ห้องนอนแบบนี้ ซึ่งสำหรับคอนโดตากอากาศแล้ว พื้นที่ระเบียงกว้างๆแบบนี้จะมี Value มากกว่าระเบียงของคอนโดในเมืองแน่นอน เพราะอากาศดีกว่า บรรยากาศ Chill กว่า และใช้เพื่อการพักผ่อนโดยเฉพาะ ไม่ต้องเอาระเบียงมาตากผ้า แถมระเบียงที่นี่ก็ไม่มี Compressor แอร์มาวางให้เกะกะนะครับ เขาเอาไปไว้ส่วนอื่นแล้ว

วิวจากชั้น 3 ของอาคารสำนักงานขายครับ สูงแค่นี้ก็มองเห็นทะเลเหมือนกัน เพราะอยู่ใกล้ทะเลมาก แต่อาจจะมีต้นไม้/เสาไฟฟ้า มาบังวิวได้แบบที่เห็น

ต่อมาเป็นห้อง 2-Bedroom ขนาด 77.50 ตารางเมตรครับ ห้องนี้เป็นห้องมุม มีด้านเปิดรับวิว 2 ด้าน เป็นห้องหน้ากว้าง ออกแบบฟังก์ชั่นมา ให้มีห้องนอน Master Bedroom อยู่ที่มุมห้องพอดี เพื่อให้รับวิวได้ 2 ด้าน และมีห้องน้ำ Master Bathroom ในตัว ส่วนห้องนอนอีกห้องเอาไปอยู่อีกมุมหนึ่ง และมีห้องน้ำแยก … ส่วนครัวยังคงไม่เน้น ให้เป็นครัวเปิดอีกเหมือนกัน เชื่อมกับส่วน Living และโซฟาดูทีวี ที่อยู่ติดกับระเบียงใหญ่รับวิวทะเลได้ และมีส่วนรับประทานอาหารอยู่กลางห้อง โดยรวมแล้ว ฟังก์ชั่นและ Concept คล้ายๆกับห้อง One-Bed เมื่อกี๊เลย ลองไปดูกัน

เปิดเข้าห้องมาปุ๊บก็จะเจอกับส่วน Living Area ก่อนเพื่อน อยู่รวมกับส่วน Pantry ครัว

ตรงกลางห้อง ใกล้ๆกับประตูทางเข้า วางโต๊ะรับประทานอาหารแบบ 4 ที่นั่งมาให้ ห้อย Chandelier เพิ่มความหรูเข้าไป ทำได้เพราะเพดานสูง 2.70 เมตร ห้อยโคมแล้วไม่เกะกะสายตา

โต๊ะกินข้าวพื้นที่ประมานนี้ครับ

ส่วนรับประทานอาหารนี้ จะสามารถนั่งทานข้าวไปด้วย รับวิวทะเลไปพร้อมกันด้วยได้

หน้าประตูทางเข้าแขวนตู้รองเท้าเอาไว้แบบนี้ พร้อมทั้งเป็นตู้โชว์ด้วย ถ้าหา Props มาวางจะทำให้ห้องดูสมบูรณ์มากขึ้น

ระบบไฟของห้องนี้ เป็นแบบ Electronic นะครับ คือจะมีแผงควบคุมสวิตช์ไฟในห้องแบบนี้ สามารถตั้งให้กดปุ่มเดียวไฟทั้งห้องเปิด-ปิดพร้อมกันทุกดวงได้ หรือกดเปิด-ปิดแบบแยก Circuit ทีละดวงก็ได้ แต่ต้องหาสติกเกอร์มาแปะเอาไว้หน่อย ว่าปุ่มไหนทำอะไรได้ ไม่งั้นลืมแน่ๆ

ครัวได้เป็นครัวเปิด วาง Pantry แนวยาวแบบนี้มาให้ มีฟังก์ชั่นครบ เตาไฟฟ้า-ที่ดูดควัน-เตาอบ-อ่างล้างจาน-ตู้เย็น และพื้นที่เก็บของอีกเยอะพอสมควร น่าจะพอเพียงกับการใช้งานตากอากาศนะครับ ในห้องตัวอย่างวางไฟ Track เพื่อตกแต่ง Lighting เอาไว้ ของจริงไม่มีนะครับ

เตาไฟฟ้าเซรามิกของ Teka แบบ 4 หลุม

เตาอบ Built-in ของ Teka ให้มาแบบนี้เลย

อ่างล้างจานให้มาใหญ่มากๆ สะใจ แถมให้วัสดุเกรดค่อนข้างดีด้วย เป็นอ่างแบบฝังลงไปในเคาน์เตอร์ครัวเลย ท้อปครัวเป็นหินแกรนิต

พื้นที่เก็บของประมาณนี้ …​ เยอะ …

ตู้เย็นใส่ได้ขนาดไม่ใหญ่มาก แต่ก็ไม่เล็ก ซึ่งก็คาดว่าคงจะเพียงพอสำหรับคนทั่วไปนะครับ นอกจากคนที่ชอบทำครัวมากๆ อาจจะบ่นว่าไม่สะใจ

ที่ดูดควันของ Teka อันนี้เล็กไปหน่อยนะ เทียบกับขนาดเตา

ผนังด้านหลัง Pantry ปูหินให้เหมือนกัน ป้องกันการเลอะเทอะของผนัง

ถัดจากครัว เป็นส่วนของ Living Area พร้อมโซฟาดูทีวี ผนังด้านหลังโซฟา อันนั้นเขาตกแต่งเป็นชั้นวางของให้ดูนะครับ แต่ของจริงจะเป็นผนังเปล่าๆ เว้าๆลงไปตามตำแหน่งเสา เราสามารถทำแบบเดียวกันนี้ก็ได้ หรือจะทำเป็นแบบตู้โชว์ที่มีหน้าบานปิดทึบก็ได้ เพื่อให้เก็บของแล้วไม่โดนฝุ่นจับ กรณีที่เราไม่อยู่บ้านนานๆ

พื้นที่โซฟาดูทีวี ค่อนข้างเหลือเฟือ ใส่ทีวีเจอใหญ่ๆได้เลย แต่ตำแหน่ง TV ไม่ Center กับโซฟาเท่าไหร่ ต้องนั่งเฉียงๆนะครับ หรือไม่ก็หาขาวางทีวี ที่ปรับเอนทีวีเฉียงๆได้

ชุดโซฟาและโต๊ะกลางที่แถมมาให้

ระยะดูทีวีไม่มีปัญหา แต่ผนังที่จะวางทีวี อาจจะมีพื้นที่ที่ไม่รองรับทีวีที่ขนาดใหญ่มากๆนะครับ

ติดกับส่วนโซฟาดูทีวี ก็เป็นระเบียงเหมือนกัน ใส่เป็นประตูบาน Slide กระจกเต็มบาน เลื่อนเปิดปิดได้

ดรอปฝ้า เผื่อให้วางรางม่านเอาไว้เรียบร้อย เพียงแค่หาม่านมาติดก็จบ

พื้นที่ระบียงของห้องนี้จะไม่ใหญ่เท่าห้อง One-Bed เมื่อกี๊นะครับ แต่ก็ยังถือว่าใหญ่อยู่ สามารถวางเก้าอี้ตัวใหญ่ๆได้ ดังรูป

พื้นที่ระเบียงอยู่แค่บริเวณห้องนั่งเล่นนะครับ ไม่ได้เชื่อมไปถึงส่วนของห้องนอน ตัวระเบียงจะยื่นออกไป เล่นระดับกับผนังอาคารครับ เพื่อให้เรามองเห็นวิวในด้านข้างได้ในมุมที่กว้างขึ้น

เพดานของระเบียง ตีฝ้าและใส่หลอดไฟดาวน์ไลท์เอาไว้ให้ แบบนี้จะดีกว่า เพราะถ้าไม่ตีฝ้า ส่วนใหญ่จะเห็นเป็นโคมไฟซาลาเปา หรือไม่ก็โคมไฟติดผนัง ที่ไม่ค่อยจะสว่างเท่าไหร่

กลับเข้ามาดูในห้อง เข้าไปดูห้องนอนเล็ก กับ ห้องน้ำก่อน จากรูปบนทางขวาเป็นทางเข้าห้องนอนเล็ก ทางซ้ายเป็นห้องน้ำเล็ก ที่ใช้ร่วมกันระหว่าง ห้องนอนเล็ก กับ ห้องรับแขก

ห้องน้ำเล็ก จะได้ฟังก์ชั่นคล้ายๆกับห้องน้ำของห้อง 1-Bed เมื่อกี๊ครับ ก็คือมีอ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์ และ Shower Box ตามปกติ

พื้นที่ให้มาประมาณนี้ คล้ายๆกัน

Spec ของวัสดุให้มาเหมือนกันเลย แต่ว่าโถสุขภัณฑ์อันนี้ ดูเหมือนจะติดชิดผนังมากไปหน่อยนะครับ

ข้อเสียของห้องน้ำห้องนี้คือ Shower Box พื้นที่เล็กมาก ลำพังตัวพื้นที่ไม่ใช่ปัญหา แต่ว่าพอติดฉากกั้นอาบน้ำแบบกระจกนิรภัยเข้าไปแล้ว มันจะเปิด-ปิดลำบาก แม้แต่คนตัวผอมๆยังต้องใช้วิธีแทรกตัวเข้าไป คนตัวอ้วนๆหน่อยนี่เรียกว่าลำบากเลย วิธีแก้ไขคือ อาจจะต้องเอาฉากกั้นแบบบาน Swing ออก แล้วยอมติดเป็นม่านอาบน้ำแทน เนื่องจากมันจะเปิดประตูไม่ได้

ถ้าเข้าไปยืนใน Shower Box แล้วเปิดประตูออกมา จะมีพื้นที่ให้ยืนแค่นี้เอง ต้องเอาหลังพิงผนังเลย

ห้องน้ำห้องนี้ไม่มีหน้าต่าง เลยจะดูมืดหน่อย และไม่มีทางระบายอากาศ ก็ต้องติดพัดลมดูดอากาศกันไปตามระเบียบ

ต่อมาเป็นห้องนอนเล็ก

หน้าห้อง ใกล้กับประตูทางเข้า จะมีพื้นที่เว้าเข้าไป ตามตำแหน่งเสา พื้นที่ตรงสามารถบิ๊วตูเก็บของได้ แต่อันนี้เขาทำให้ดูเฉยๆครับ

ถัดเข้ามาวางเตียง 5 ฟุตเอาไว้ ปลายเตียงมีทางเดินเหลือหน่อยนึง เลยต้องเอาทีวีแขวนผนังไป

ชั้นวางทีวีเป็นแบบนี้ อันนี้ไม่ได้ให้นะครับ แต่ให้ Arm สำหรับแขวนทีวีกับผนังมาแทน

พื้นที่ปลายเตียงประมาณนี้

วางชั้นวางของด้านบนได้

เตียงได้เตียง 5 ฟุตครับ มีฐานเตียงกับหัวเตียงมาให้ แต่หัวเตียงจะไม่ได้บุผ้าแบบนี้นะครับ เป็นหัวเตียงลามิเนตธรรมดา ห้องนี้ถ้าใส่เตียง 5 ฟุตแล้วยังนอนไม่เต็มที่ ก็สามารถขยับขยายเป็นเตียง 6 ฟุตได้ เพราะพื้นที่ข้างเตียงยังเหลือ

ตู้เสื้อผ้าชุดนี้แถมมาให้กับห้อง

ระยะข้างเตียง เปิดตู้เสื้อผ้าแล้ว ยังมีพื้นที่เหลืออีกนิดหน่อยสำหรับโต๊ะข้างเตียงอีกด้าน

ผนังในห้องนอนเล็ก ใส่เป็นหน้าต่างกระจก ลักษณะแบบนี้มาให้ มีบานกระทุ้งขนาดค่อนข้างใหญ่ เปิดออกแบบนี้ เพื่อให้ลมผ่านได้

ส่วนสุดท้ายของห้องคือ Master Bedroom ที่อยุ่บริเวณมุมห้องพอดี เข้ามาดูข้างในห้องนี้กัน ห้องนี้เฟอร์นิเจอร์ที่ได้ มีแค่เตียง+หัวเตียง (ที่ไม่เหมือนกับในห้องตัวอย่าง),​ ตู้เสื้อผ้า แล้วก็ชั้นวางทีวีครับ

อีกมุมหนึ่งของห้อง หันหน้าไปทางประตูเข้าห้อง

ด้านนี้เป็นห้องน้ำ มีกระจก Sexy Bath บริเวณอ่างอาบน้ำ เพื่อรับวิว ด้านขวาเป็นผนัง ติดทีวีแขวนผนัง

หน้าต่างในห้องนอน Master Bedroom ส่วนใหญ่เป็นผนังกระจกบาน Fixed แต่จะมีบานกระทุ้งบานหนึ่งที่เปิดออกได้

ให้หน้าต่างกระจกแบบ Bay Window เข้ามุมมาให้ด้วย เพื่อมุมรับวิวที่กว้างขึ้นของห้อง

ถ้าเรานอนอยู่บนเตียง แล้วมองไปที่ทีวี ก็จะเห็นเป็นมุมลักษณะนี้ครับ ตัว Bay Window จะช่วยทำให้เรามองเห็นวิวภายนอกได้กว้างขึ้น

เตียงนอนให้เป็นเตียง 6 ฟุต King Sized

พื้นที่ข้างเตียง พอใส่โต๊ะหัวเตียงลงไปแล้ว ขนาดพอดีเป๊ะๆๆ ใหญ่กว่านี้ไม่ได้ เพราะจะขวางทางเดินเข้าห้อง

พื้นที่ปลายเตียง ติดทีวีแขวนผนัง และมีชั้นวางทีวีด้านล่าง ที่ให้มาจะมีแต่ชั้นข้างล่างนะครับ

พื้นที่ตรงนี้เว้าเข้าไป ในห้องตัวอย่างวางเป็นเก้าอี้แบบไม่มีพนักเอาไว้ ของจริงเราอาจจะหา Props ตกแต่งมาวางก็ได้ แต่ควรจะเป็นอะไรที่เตี้ยๆหน่อยนะครับ จะได้ไม่มาบังวิวทะเลของหน้าต่าง

ตู้เสื้อผ้าแบบ Built-in ที่ทางโครงการแถมมาให้ ถ้าเป็นคอนโดสำหรับอยู่อาศัยทั่วๆไป ตู้ขนาดนี้ถือว่าเล็กไปนะครับสำหรับห้อง 2-Bedroom แต่นี่เป็นคอนโดตากอากาศ คนที่มาพักอาจจะไม่ได้มาอยู่นานๆ เลยคิดว่าขนาดนี้ก็น่าจะพอเพียงครับ

ถัดจากตุ้เสื้อผ้าก็จะเป็นประตูทางเข้าห้องน้ำ Master Bathroom

เข้ามาปุ๊บจะเจอส่วนี่เป็นกระจก วางไว้ให้แบบนี้ 3 บาน เรียงเต็มผนังเลย

เหนือกระจก บริเวณฝ้า มีการดรอป เพื่อซ่อนหลอดไฟไว้ใต้ฝ้าด้วย

อ่างล้างหน้าแบบ His & Hers เป็นอ่างแบบฝังลงไปในเคาน์เตอร์นะครับ พื้นที่วางของเพียบ ขนาดอ่างใหญ่พอใช้ได้

พื้นที่ใต้อ่างอาบน้ำ เป็นตู้เก็บของ ขนาดใหญ่เลย

ถัดมาเป็นพื้นที่วางโถสุขภัณฑ์ครับ พื้นที่กว้าง ไม่อึดอัด จะสังเกตว่า พื้น และผนังด้านหลัง ปูหินด้วย

ติดพัดลมดูดอากาศด้านบน

ห้องน้ำห้องนี้มีบานกระทุ้งอยู่ในตัว เปิดระบายอากาศได้ และมีแสงสว่างส่องเข้ามาที่ห้องน้ำด้วย

ห้องน้ำห้องนี้ยังมีผนังส่วนที่เป็นกระจกเข้ามุม บริเวณอ่างอาบน้ำ ทำให้มีแสงสว่างส่องเข้ามาได้ และยังสามารถแช่น้ำไปด้วย ดูวิวไปด้วยได้

ห้องน้ำกั้นส่วนเปียก-ส่วนแห้ง แยกกันชัดเจน โดยมีกระจกนิรภัยกั้น ส่วนอาบน้ำมีทั้งอ่างอาบน้ำ และ Rain Shower ให้เลือกอาบได้ตามใจชอบ

พื้นที่อ่างประมาณนี้ครับ

วิวด้านนอกมองออกไปเป็นแบบนี้

ชุดก็อกน้ำที่อยู่ที่อ่าง เป็นของ American Standard

อ่างอาบน้ำแบบ Jacuzzi

อีกฝั่งหนึ่งเป็นพื้นที่ติด Rain Shower ครับ ข้างๆ Rain Shower มีหน้าต่างบานกระทุ้งอีกหนึ่งบาน

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 26 December 2013

• Studio อาคาร A ชั้น 7 ห้อง 703 เนื้อที่ 26.50 ตารางเมตร ราคา 2.36 ล้านบาท หรือ 89,100 บาทต่อตารางเมตร
• Studio อาคาร A ชั้น 24 ห้อง 2403 เนื้อที่ 26.50 ตารางเมตร ราคา 2.97 ล้านบาท หรือ 112,200 บาทต่อตารางเมตร
• 1 Bedroom อาคาร A ชั้น 6 ห้อง 601 เนื้อที่ 46.00 ตารางเมตร ราคา 3.99 ล้านบาท หรือ 86,900 บาทต่อตารางเมตร
• 1 Bedroom อาคาร A ชั้น 18 ห้อง 1804 เนื้อที่ 49.50 ตารางเมตร ราคา 5.41 ล้านบาท หรือ 109,450 บาทต่อตารางเมตร
• 1 Bedroom อาคาร A ชั้น 36 ห้อง 3601 เนื้อที่ 46.00 ตารางเมตร ราคา 5.87 ล้านบาท หรือ 127,600 บาทต่อตารางเมตร
• 2 Bedroom อาคาร A ชั้น 25 ห้อง 2507 เนื้อที่ 77.50 ตารางเมตร ราคา 9.20 ล้านบาท หรือ 118,800 บาทต่อตารางเมตร
• 2 Bedroom อาคาร A ชั้น 34 ห้อง 3403 เนื้อที่ 86.00 ตารางเมตร ราคา 11.11 ล้านบาท หรือ 129,250 บาทต่อตารางเมตร
• 2 Bedroom อาคาร A ชั้น 36 ห้อง 3603 เนื้อที่ 72.00 ตารางเมตร ราคา 9.58 ล้านบาท หรือ 133,100 บาทต่อตารางเมตร
• 3 Bed Duplex อาคาร A ชั้น 37 ห้อง 3702+3802 เนื้อที่ 227 ตารางเมตร ราคา 30.71 ล้านบาท หรือ 135,300 บาทต่อตารางเมตร

• 1 Bedroom อาคาร B ชั้น 1 ห้อง V104 เนื้อที่ 48.00 ตารางเมตร ราคา 4.56 ล้านบาท หรือ 95,120 บาทต่อตารางเมตร
• 2 Bedroom อาคาร B ชั้น 1 ห้อง V101 เนื้อที่ 104.50 ตารางเมตร ราคา 10.05 ล้านบาท หรือ 96,250 บาทต่อตารางเมตร
• 4 Bedroom อาคาร B ชั้น 4 ห้อง V401 เนื้อที่ 176.50 ตารางเมตร ราคา 18.34 ล้านบาท หรือ 103,950 บาทต่อตารางเมตร

• Fully Furnished
• เพดานสูง 2.70 เมตร
• Kitchen & Sink / Hob & Hood
• จอง ??? บาท
• ทำสัญญา ????  บาท
• ค่ากองทุน 550 บาทต่อตารางเมตร
• ค่าส่วนกลาง 40 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน

เจาะลึกรวบยอด

โครงการ Aeras Condo พัทยา มีทำเลตั้งอยู่ติดถนนใหญ่ จอมเทียนสายหนึ่ง ทำให้ได้ Exposure ที่ดี หน้าโครงการอยู่ติดถนนเลียบหาดจอมเทียน เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้ว ถึงความอุดมสมบูรณ์ของทำเลในย่านจอมเทียนนี้ เพราะเป็นแหล่งท่องเที่ยว เป็นแหล่งชุมชน ถึงจะไม่ได้ความ Lively และความเป็นเมืองเฉกเช่นหาดพัทยา แต่ทำเลหาดจอมเทียนก็ถือเป็นหาดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาพักผ่อนกันมากที่สุดหาดหนึ่งของพัทยาเช่นเดียวกัน

เมื่อเปรียบเทียบกับโครงการคอนโดมิเนียมใกล้ทะเลทั่วไป … โครงการที่ตั้งอยู่บนหาดจอมเทียน หรือหาดพัทยา (หรือหาดอื่นๆ เช่น หาดชะอำช่วงต้นๆ ก็เหมือนกัน) จะมีถนนเลียบหาดคั่นระหว่างตัวโครงการกับชายหาด… อย่างที่อธิบายไปตอนต้นว่ามันจะแตกต่างจากทำเลที่ชายหาดไม่มีถนนคั่น เพราะสภาพหาดแถวๆนี้ จะเป็นเหมือนหาดสาธารณะ มีความคึกคัก วุ่นวาย ความเป็นส่วนตัวจะลดลง แต่จะได้ความสนุกสนาน บรรยากาศ และกิจกรรมริมหาดเพิ่มเข้ามา ถ้าเปรียบเทียบกับโครงการที่หัวหิน แถวนั้นจะได้โครงการที่อยู่ “ติดหาด” จริงๆ คือเดินออกจากรั้วโครงการก็เป็นทะเลเลย ไม่มีถนน ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่า เพราะบุคคลภายนอกจะเข้ามาใช้หาดได้ยากขึ้น แต่กิจกรรมทางทะเล หรือ ความคึกคักแบบชายหาดก็จะหายไป สิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญในการเลือกที่อยู่อาศัยติดทะเลครับ ซึ่งไม่ใช่ข้อดีหรือข้อเสีย แต่ขึ้นอยู่กับความชื่นชอบของแต่ละบุคคล

สภาพแวดล้อมของโครงการ Aeras ส่วนที่ติดถนนใหญ่ด้านข้างโครงการเป็นร้านอาหาร ร้านค้า มี 7-Eleven ค่อนข้างสะดวก ที่ดินด้านข้างโครงการฝั่งทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ติดกับคอนโดมิเนียม High Rise อยู่ 1 อาคาร ซึ่งอาจจะบังวิวของห้องในทิศนี้ได้ ที่ดินอีกข้างหนึ่งของโครงการ ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ติดกับที่ดินเปล่า แปลงใหญ่พอสมควร ในอนาคตคาดว่าคงจะขึ้นเป็นอาคารสูงได้ แต่ในปัจจุบันก็คือยังเป็นจุดที่ได้วิวเปิดโล่งอยู่ ส่วนวิวด้านหน้าโครงการ หรือทิศตะวันตกเฉียงใต้ เป็นทิศที่วิวดีที่สุด เพราะด้านหน้าเป็นทะเลแล้ว ไม่มีอะไรขึ้นมาบังวิวแน่นอน ส่วนทิศตะวันออกเฉียงเหนือ มองไม่เห็นทะเล และมีโอกาสที่จะมีอาคารสูงขึ้นมาบังวิวเช่นกัน เพราะที่ดินด้านหลังอยู่ติดกับถนนจอมเทียนสายสอง ซึ่งเป็นถนนใหญ่ ขึ้นตึกสูงได้แน่ ถ้าใครรักวิวทะเล ชอบวิวทะเล เลือกทิศตะวันตกเฉียงใต้โลดครับ (แต่จะบอกว่าต้องทนร้อนหน่อยนะ)

การเดินทางหลักๆคงจะต้องเป็นการใช้รถยนต์ส่วนตัวแน่อยู่แล้ว ซึ่งก็สะดวกทีเดียว อยู่ติดถนนใหญ่ ไปไหนมาไหนง่าย ออกสุขุมวิทได้หลายซอย จะไปหาดพัทยาก็ระยะทางไม่ไกล วิ่งตัดภูเขาใช้เส้นทัพพระยาไปก็ได้ หรือจะออกสุขุมวิทก็ได้ มีเส้นทางให้เลือกใช้หลายทาง และที่สำคัญคือ หาดจอมเทียนไม่เหมือนหาดพัทยา ที่เป็นถนน Two-Way ไม่ใช่ One-Way ซึ่งเดินทางสะดวกกว่า ที่จอดรถของโครงการให้มา 51% รวมซ้อนคัน ถือว่าเพียงพอในระดับคอนโดตากอากาศ เพราะอัตราการเข้าพักของลูกบ้านไม่น่าจะเยอะมาก แต่ถ้าเป็นช่วง High Season อาจจะมีต้องแย่งชิงที่จอดดีๆกันบ้าง

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ ที่พัทยานี้เป็นทำเลต่างจังหวัด เป็นทำเลพักผ่อนก็จริง แต่ก็อย่าลืมว่า พัทยาก็เป็นเมืองใหญ่ มีความเจริญแบบเมืองใหญ่ และมีรถสองแถว แท็กซี่ มอเตอร์ไซค์ให้เรียกใช้ได้ตลอดเวลา รถสองแถวกับมอไซค์ราคาไม่แพง คนพื้นที่ก็ขึ้นกันเองประจำ แต่แท็กซี่ราคามหาโหดเลย ถ้าเทียบกับกรุงเทพฯ

การออกแบบของโครงการ Aeras Condo จัดเป็น 2 อาคาร ซึ่งมีความแตกต่างกันในเรื่องของแนวคิดและวิธีการออกแบบ ตัวตึก A ที่เป็นตึกสูง ตั้งอยู่ด้านใน มีระยะร่นเข้าไปจากถนนใหญ่ประมาณ 70-80 เมตร เวลาจะไปชายหาดต้องเดินออกมานิดนึง จัด Facilities เกือบทั้งหมดไว้อยู่ที่ชั้น 5 เพื่อให้พ้นแนวตึก B ด้านหน้า และตึกอื่นๆรอบข้าง เน้นเรื่องวิวทะเลเป็นหลัก และพยายามจัดให้แต่ละห้องมีมุมที่มองเห็นทะเลได้ ส่วนตึก B ที่เป็นตึกเตี้ย ตั้งอยู่ใกล้กับทางออกโครงการ ใกล้หาดมากกว่า มีสระว่ายน้ำ และพื้นที่นั่งเล่นด้านหน้า เน้นการเล่นทะเล เน้นการใช้งานหาด รวมถึงมีจำนวนยูนิตน้อย เน้นความ Private ของอาคาร และจัดให้มีห้องใหญ่เป็นหลัก

ตัวห้องของโครงการมีหลากหลาย Type มาก เพราะห้องชั้นบนๆจะมี Floor Plan แปลกๆไม่เหมือนห้องชั้นล่าง แต่ที่มีเยอะที่สุดในโครงการจะเป็นห้อง 1-Bed ลักษณะจะคล้ายๆห้องตัวอย่าง ตัวห้องจัดฟังก์ชั่นออกมาได้ค่อนข้างดี มีพื้นที่เยอะ เพราะเป็นห้องขนาด 46 ตารางเมตร แต่เป็น 1-Bedroom วางเฟอร์นิเจอร์ ทำ Built-in อะไรต่างๆ ได้สบายๆ ไม่ค่อยมีมุมแปลกๆ ระเบียงของห้องจะบอกว่าเป็นจุดขายอย่างหนึ่งของโครงการเลยก็ว่าได้ เพราะให้ระเบียงขนาดใหญ่พอสมควร และใช้งานได้จริง ไม่มี Compressor แอร์ และได้วิวทะเลอีก ตัวห้องดันเพดานสูง 2.70 เมตร ข้อเสียของห้องคือพื้นที่ครัวไม่ค่อยเน้นเท่าไหร่ อาจจะไม่เหมาะกับคนที่ชอบทำอาหารเวลามาต่างจังหวัด ซึ่งอันนี้ก็แล้วแต่คน เพราะมีหลายคนที่ไม่ได้สนใจการทำครัวนัก เวลาออกมาพักผ่อนนอกบ้าน

วัสดุให้มาเป็นแบบ Fully Furnished และให้ของเกรดค่อนข้างดีเมื่อเทียบกับคอนโดในระดับเดียวกัน เฟอร์นิเจอร์ Soft Close ทั้งหมด ให้พื้นเป็นไวนิล ห้องน้ำปูกระเบื้อง 60×60  พื้นห้องใช้วิธีลดระดับ ไม่มีธรณีประตูเลย ครัวหินแท้ และวัสดุครัวค่อนข้างดี แอร์แบบฝังฝ้าด้วย ดรอปฝ้าไว้ให้เพื่อเตรียมใส่รางม่าน โดยรวมถือว่าไม่หวงเลย จะมีจุดให้ติ ก็คือ เครื่องดูดควันที่ใช้ในห้อง เป็นแบบหมุนเวียน ไม่ได้เป็นแบบระบายออกนอกอาคาร

ส่วน Facilities จัดมาให้สมน้ำสมเนื้อกับโครงการเกรดนี้ เน้นเป็น Facilities เพื่อการชมวิวทะเลเป็นหลัก ตัววัสดุและการออกแบบของ Facilities ยังไม่เห็นเพราะยังสร้างไม่เสร็จ แต่ดูจากพื้นที่คาดว่าน่าจะพอเพียงกับการใช้งาน และจำนวนลูกบ้านระดับ 300 ยูนิต ถ้าจะให้เสียดายอย่างหนึ่ง คือก็แอบคิดว่าไหนๆโครงการอยู่ในทำเลวิวสวยๆ น่าจะจัดให้ Facilities ขึ้นไปอยู่ชั้นดาดฟ้าไปเลย อิอิ จะได้รับวิวเต็มที่ 😀 แต่ราคาก็คงจะขยับไปอีก

Judgement

สำหรับที่อยู่อาศัยแบบตากอากาศนี้ ความคุ้มค่าทางอารมณ์ และความพึงพอใจส่วนบุคคลมีผลต่อการตัดสินใจซื้อ ดังนั้นทางทีมงานเห็นว่าจะไม่มีการให้คะแนนในโครงการลักษณะนี้ครับ

BOTTOM LINE

โครงการ Aeras Condo พัทยา เหมาะกับคนที่กำลังมองหาบ้านพักตากอากาศ ในรูปแบบคอนโดมิเนียม ที่พัทยาโซนจอมเทียนที่มีความพลุกพล่านน้อยลงมา แต่ยังได้ความสะดวกของพัทยาและความเป็นเมืองที่อยู่ติดทะเล มองหาโครงการที่เดินไปเล่นทะเลได้ไม่ไกล  และอยากได้ห้องที่มีพื้นที่ใหญ่หน่อย มองเห็นวิวทะเลได้ มี Facilities ต่างๆที่เปิดรับวิวทะเลจอมเทียน

ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้ผมหน่อยนะครับ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปครับ