หน้าร้อนแบบนี้ คงจะดีไม่น้อยเลยนะครับถ้าได้ไปพักผ่อนใกล้ ๆ ไม่ไกลกรุงเทพฯ อย่างหัวหิน กับ Veranda Residence หัวหิน คอนโด Low Rise 5 อาคาร ที่เพิ่งสร้างเสร็จมาไม่นานมานี้ บรรยากาศภายในสวยงามน่าพักผ่อน และที่สำคัญคือมีไฮไลท์ที่น่าสนใจหลายหัวข้อเลยครับ ผมลองยกมาให้ชมกันคร่าว ๆ ประมาณนี้..
- ทำเล – เป็นคอนโดติดหาด ที่อยู่ไม่ไกลตัวเมืองหัวหิน แถมยังใกล้กับเขาตะเกียบ ได้วิวทั้งทะเลและภูเขา และด้วยความที่เป็นริมสุดของหาด จึงทำให้ได้บรรยากาศที่เงียบสงบและเป็นส่วนตัว
- พื้นที่ส่วนกลาง – เป็นจุดเด่นที่ไม่พูดไม่ได้เลยครับ เพราะพื้นที่โครงการมีถึง 11 ไร่กว่า ๆ แบ่งออกเป็น 5 อาคาร แต่จัดพื้นที่ส่วนกลางออกมาโอบล้อมทุกตัวอาคารเลย ทั้งภายในอาคาร และที่ดาดฟ้าบนอาคารก็จัดมาให้น่าใช้งาน นอกจากนั้นยังมีส่วนของโรงแรม VERSO หัวหินที่เข้าไปใช้บริการได้อีกด้วย
- จำนวนยูนิต – พื้นที่โครงการ 11 ไร่กว่าๆ แต่ทำออกมาเพียง 270 ยูนิต ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวสูง และความหนาแน่นในแต่ละอาคารก็น้อยเอามาก ๆ ครับ รวมถึงส่วนกลางที่จัดมาให้เต็มขนาดนี้ เมื่อเทียบสัดส่วนจำนวนยูนิตแล้ว เรียกว่าเหลือเฟือก็ว่าได้ครับ
- บริการระดับโรงแรม – ด้วยความที่เป็นแบรนด์โรงแรมชื่อดังมาก่อน ก็ไม่ลืมที่จะมีบริการระดับโรงแรมให้ในที่พักอาศัยรูปแบบคอนโดมิเนียมนี้ด้วย มีทั้งส่วนที่ฟรีแบบไม่มีค่าใช้จ่ายและมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็จะได้เป็นสมาชิกของ Veranda Group ที่จะได้ส่วนลดในแทบจะทุกๆอย่างที่เกี่ยวข้องด้วยครับ
ข้อมูลโครงการ
Veranda Residence Huahin (วีรันดา เรสซิเด้นท์ หัวหิน) ณ วันที่ 25 มีนาคม 2564
ชื่อโครงการ | Veranda Residence Huahin (วีรันดา เรสซิเด้นท์ หัวหิน) |
ชื่อผู้ประกอบการ | บริษัท วีรันดา รีสอร์ท จํากัด (มหาชน) |
SEGMENT CLASS | UPPER CLASS (รายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2021 ) |
โครงการตั้งอยู่ | อําเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ |
ที่ดิน | 11-0-81 ไร่ |
ประเภทคอนโด | Low Rise 3 ชั้น 1 อาคาร 4 ชั้น 2 อาคาร และ 7 ชั้น 2 อาคาร |
จำนวนยูนิต | 270 ยูนิต |
ยูนิตต่อชั้นสูงสุด | 18 ยูนิต ที่อาคาร D |
ที่จอดรถ | 137 คัน คิดเป็น 50.74% ไม่รวมจอดซ้อนคัน |
เริ่มก่อสร้าง | ปี 2561 |
แล้วเสร็จ | ปี 2563 |
ประเภทห้องพัก |
|
ฝ้าเพดานสูง | 2.65 เมตร |
ราคาเริ่มต้น | 5.7 ล้านบาท |
ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ | ประมาณ 135,000 บาท/ตร.ม. |
ช่วงราคาต่อตารางเมตร(ต่ำสุด-สูงสุด) | n/a |
EIA (ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) | สร้างเสร็จพร้อมอยู่ |
เว็บไซต์โครงการ | คลิกที่นี่ |
Call Center | 088-895-2121 |
ทำเลที่ตั้ง
พิกัด Google Maps : 13.713492, 100.600415
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
แผนที่จากทางโครงการ Veranda Residence หัวหิน ครับ
ตัวโครงการ Veranda Residence หัวหิน ตั้งอยู่ติดกับเขาตะเกียบเลยครับ ซึ่งจัดเป็นทำเลที่ไม่ไกลตัวเมืองนัก ดังนั้นการเดินทางเข้าถึงพื้นที่โครงการจึงทำได้ไม่ยาก ส่วนด้านหน้าก็ติดกับหาดเขาตะเกียบเหนือ ทำให้เดินลงไปหาดได้เลยจากหน้าโครงการ ความโดดเด่นของพื้นที่โซนนี้คือจะเป็นหาดที่อยู่ริมสุด ก่อนจะคั่นด้วยเขาตะเกียบ ทำให้ไม่วุ่นวายและได้ความเป็นส่วนตัวสูง ไม่มีหาบเร่มาเดินแถวนี้ นอกจากนั้นยังได้วิวเขาตะเกียบด้านข้างด้วย
ในเรื่องของความอุดมสมบูรณ์ อย่างแรกเลยคือใกล้เขาตะเกียบ แหล่งที่มีร้านอาหารทะเลเยอะและไม่ไกลตัวเมืองหัวหิน ราคาก็ไม่แพง หรือถ้าใครอยากซื้ออาหารทะเลสดๆไปปรุงเองหรือให้ร้านปรุงให้ในราคาย่อมเยา ก็มีตลาดสดอาหารทะเลเขาตะเกียบในระยะเดินได้จากโครงการเลย หรือหากอยากได้เดินเล่นฟังเพลงก็มี Cicada Market เลยไปหน่อยก็มี Bluport หัวหิน และ Market Village ในระยะไม่ไกลครับ หรือจะเข้าตัวเมืองหัวหินก็ใช้เวลาไม่น่าจะเกิน 10-15 นาที ส่วนตัวผมมองว่าเป็นทำเลสำหรับคอนโดตากอากาศที่ติดทะเล แต่ยังอิงความอุดมสมบูรณ์ของตัวเมืองได้เป็นอย่างดีเลย
เส้นทางการเดินทาง
สำหรับการเดินทางไปโครงการ Veranda Residence หัวหิน ของเราในวันนี้ จะเดินทางมาจากตัวเมืองหัวหิน มุ่งหน้าสู่เขาตะเกียบครับ ที่ผมบอกว่ามุ่งหน้าไปเขาตะเกียบเพราะถ้าเราขับไปเขาตะเกียบก็จะต้องผ่านตัวโครงการแน่นอนครับ ดังนั้นก็ตามป้ายเขาตะเกียบไปเลยก็ได้
เริ่มต้นการเดินทางบนถนนเพชรเกษม ขับออกจากตัวเมืองหัวหินมุ่งหน้ามาทางเขาตะเกียบครับ จากถนนเพชรเกษมให้ตรงเข้ามาบนถนนตะเกียบเลย จากนั้นตรงเข้ามาอีกประมาณ. 2.7 กิโลเมตร จะเจอทางเลี้ยวเล็กน้อยครับ ให้เบี่ยงขวาเพื่อเลี้ยวซ้ายเข้าซอยขึ้นเขาตะเกียบครับ จากนั้นตรงตามทางเข้ามาเลยอีกประมาณ 550 เมตร จะเจอตัวโครงการ Veranda Residence หัวหิน อยู่ทางซ้ายมือครับ และถ้าเลยไปอีกประมาณ 50-100 เมตร ก็จะเจอกับตลาดอาหารทะเลเขาตะเกียบ เลยขึ้นไปอีกหน่อยก็คือวัดเขาตะเกียบที่อยู่บนเขาตะเกียบเลยครับ ลองไปชมภาพบรรยากาศกันครับ
เริ่มต้นการเดินทางบนถนนเพชรเกษมครับ ขับออกจากตัวเมืองหัวหินมาทางฝั่งเขาตะเกียบครับ เจอป้ายเขาตะเกียบก็ตามไปเลยนะ
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
พื้นที่โครงการ Veranda Residence หัวหิน ทั้งหมดประมาณ 11 ไร่กว่าๆ ตั้งอยู่ติดเขาตะเกียบเลยครับ บริบทโดยรอบฝั่งใกล้ถนนหลักจะเป็นร้านอาหารและชุมชนชาวประมงและตลาดอาหารทะเล ส่วนถ้าเป็นฝั่งริมหาดจะเป็นรีสอร์ท และพื้นที่พักอาศัยครับ ด้านหน้าเป็นหาดเขาตะเกียบเหนือ ข้อดีคือมีตำแหน่งอยู่สุดริมหาดในโซนนี้ ทำให้หาดนี้จะได้บรรยากาศที่ค่อนข้างเงียบสงบและเป็นส่วนตัว คนไม่เยอะ และไม่มีหาบเร่ริมหาดมารบกวน ด้านหลังเป็นคลองตะเกียบที่มีเรือชาวประมงเข้าออก ส่วนตัวผมว่าโครงการไม่ได้รับผลกระทบเรื่องกลิ่นหรือเสียงอะไรจากฝั่งนี้นะครับ รวมถึงการออกแบบของทางโครงการ ก็ตั้งแนวห้องพักอาศัยหันไปทางทิศเหนือ และภายในโครงการซะเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นพื้นที่รอบโครงการฝั่งคลองตะเกียบ (ทิศใต้) เขาตะเกียบ (ทิศตะวันออก) และพื้นที่ว่างและร้านอาหาร (ทิศตะวันตก) จะไม่มีห้องพักอาศัยหันออกไปเลย แต่จะเป็นส่วนของ Corridor (โถงทางเดิน) ของแต่ละอาคารแทน ซึ่งจัดเป็นการออกแบบเพื่อเน้นวิว Landscape ภายในโครงการ และฝั่งทิศเหนือที่เป็นทะเลเท่านั้นครับ ทำให้ค่อนข้างจะการันตีได้เลยว่าทุกห้องจะได้วิวที่ค่อนข้างสวยเลยครับ ลองไปชมภาพบรรยากาศรอบๆโครงการกันครับ
ทิศเหนือ : จะเป็นวิวที่เห็นทะเลครับ ภายในภาพผมถ่ายจากอาคารที่อยู่ลึกที่สุด ก็ยังเห็นทะเลชัดเจนอยู่เหมือนกัน ซึ่งอาจจะไกลหน่อยแต่ก็ได้วิวของพื้นที่ส่วนกลางมาเพิ่มทดแทนให้ สวยไปอีกแบบ
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
ห้างสรรพสินค้า / ตลาด
- Cicada Market – 2.8 กิโลเมตร
- บลูพอร์ต – 5.2 กิโลเมตร
- Market Village – 5.9 กิโลเมตร
- ตลาดโต้รุ่งหัวหิน ตลาดฉัตรไชย ตลาดฉัตรศิลา – 7.4 กิโลเมตร
- หาดเขาเต่า – 9.1 กิโลเมตร
- เพลินวาน – 10.2 กิโลเมตร
- ตลาดน้ำหัวหินสามพันนาม – 12.5 กิโลเมตร
- Makro หัวหิน – 13.2 กิโลเมตร
- The Venezia – 16.4 กิโลเมตร
- FN Factory – 18.2 กิโลเมตร
โรงพยาบาล
- โรงพยาบาลกรุงเทพหัวหิน ~ 5.4 กิโลเมตร
- โรงพยาบาลซานเปาโล – 6.5 กิโลเมตร
- โรงพยาบาลหัวหิน ~ 11.6 กิโลเมตร
โรงเรียน
- โรงเรียนหัวหินวิทยาลัย ~ 6.2 กิโลเมตร
- มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ วิทยาเขตวังไกลกังวล ~ 8.6 กิโลเมตร
อื่นๆ
- ชายหาดเขาตะเกียบเหนือ ~ 0 เมตร
- ชายหาดหัวหิน – 7.1 กิโลเมตร
- วัดเขาตะเกียบ – 800 เมตร
- วัดหัวหิน – 7.4 กิโลเมตร
- อุทยานราชภักดิ์ – 4.7 กิโลเมตร
- วังไกลกังวล – 9.7 กิโลเมตร
- ท่าอากาศยานหัวหิน – 14.2 กิโลเมตร
- สวนน้ำ Vana Nava – 6.2 กิโลเมตร
- สถานีรถไฟหัวหิน – 7.4 กิโลเมตร
- หัวหินซาฟารี ~ 18.5 กิโลเมตร
- Black Mountain Golf Club – 18.7 กิโลเมตร
รายละเอียดโครงการ
ตัวโครงการ Veranda Residence หัวหิน ที่นี่ตั้งอยู่บนที่ดินติดหาดและติดเขาตะเกียบ ขนาดที่ดินประมาณ 11 ไร่กว่าๆ ซึ่งจัดว่าใหญ่เลยทีเดียว เมื่อเทียบกับจำนวนยูนิตเพียง 270 ยูนิต เท่านั้น ภายในแบ่งอาคารพักอาศัยออกเป็น 5 อาคาร ประกอบไปด้วย
- อาคาร A สูง 4 ชั้น จำนวน 8 ยูนิต (มีลิฟต์โดยสาร 1 ตัว)
- อาคาร B สูง 4 ชั้น จำนวน 32 ยูนิต (มีลิฟต์โดยสาร 2 ตัว)
- อาคาร C สูง 3 ชั้น จำนวน 29 ยูนิต (มีลิฟต์โดยสาร 1 ตัว)
- อาคาร D สูง 7 ชั้น จำนวน 97 ยูนิต (มีลิฟต์โดยสาร 2 ตัว)
- อาคาร E สูง 7 ชั้น จำนวน 104 ยูนิต (มีลิฟต์โดยสาร 2 ตัว)
ซึ่งการแยกออกเป็น 5 อาคาร ทำให้ช่วยกระจายจำนวนยูนิตออกไปหลายจุด ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวในแต่ละพื้นที่มากยิ่งขึ้น แบ่งการจัดการให้ดูแลได้ง่าย เป็นสัดส่วน รวมถึงยังเชื่อมต่อกันด้วยพื้นที่ส่วนกลางต่างๆ เน้นการจัด Landscape ที่หลากหลาย (ออกแบบโดยบริษัท TROP Landscape) ดังนั้นภาพรวมของผังเลยจะเห็นได้ว่า สระว่ายน้ำและสวนล้อมรอบอาคารพักอาศัยทั้ง 5 อาคารอยู่ บรรยากาศภายในจึงจะค่อนข้างร่มรื่นและสวยงามเลยทีเดียวครับ
พื้นที่ส่วนกลางของโครงการ Veranda Residence หัวหิน นี้แยกออกเป็นหลายๆจุด โดยจะเน้นไปที่พื้นที่กลางแจ้งอย่างที่บอกไปข้างต้น เป็นทั้งสวน สระว่ายน้ำ และแนวทางเดิน ผสมผสานกันด้วยลักษณะ Free Form ได้อย่างลงตัวเลย ส่วนพื้นที่ส่วนกลางภายในอาคารก็ไม่ได้ไม่มีให้นะครับ หลักๆจะมีอยู่ที่อาคาร B ประกอบไปด้วย ห้องออกกำลังกาย ห้องน้ำแยกชายหญิงที่มีห้อง Steam อยู่ภายในด้วย ส่วนชั้นบนสุดของอาคาร B และ C จะมี Terrace สำหรับรับวิวและรับบรรยากาศโดยรอบให้ใช้งานได้อีก ส่วนในอาคาร D จะมีห้องเล่นสำหรับเด็กและห้อง Spa มาให้ครับ ด้านหน้าทางจะเหมือนส่วนที่เป็น Lobby ของโครงการ (ปัจจุบันเป็น Sale Gallery) โดยจะเข้ามาจากวงเวียน Drop Off ฝั่งหน้าโครงการ ส่วนพื้นที่จอดรถของที่นี่จะอยู่ในตำแหน่งที่ไม่ได้วิวทะเล ซึ่งจัดว่าก็เหมาะสมเลยทีเดียวครับ เป็นพื้นที่จอดรถ 2 ชั้น คิดเป็นทั้งหมด 50% ไม่รวมจอดซ้อนคัน แยกที่จอดรถ Super Car ไว้ให้ด้วย รวมถึงยังมีห้องพักสำหรับพี่คนขับรถและคุณแม่บ้านให้อีกต่างหาก (มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมนะครับ) นอกจากที่กล่าวมาทั้งหมดแล้ว ยังมี Facilities อื่นๆ เพิ่มเติมที่เราสามารถไปใช้งานได้อีก นั่นก็คือของโรงแรม VERSO Huahin ด้วย โดยจะเป็นส่วนของสระว่ายน้ำด้านหน้า และมีส่วนลดให้สำหรับร้านอาหาร ร้านกาแฟ และสปาของโรงแรมด้วยครับ ลองไปชมภาพบรรยากาศกันเลยครับ
ด้านหน้าโครงการเข้าออกด้วยรั้วกั้นไม้กระจกอัตโนมัติ เป็นระบบ Keycard นะครับ ตรงนี้จะมี CCTV และพี่ รปภ. คอยดูแลรักษาความปลอดภัยและโบกรถให้ตลอดเวลา ด้านข้างมีป้ายชื่อโครงการ Veranda Residence หัวหิน ให้สังเกตง่ายๆ
เข้ามาจะมีป้ายแยกออกสองฝั่งครับ ฝั่งซ้ายมือจะเป็นที่จอดรถสำหรับ Visitor ส่วนอีกฝั่งเป็นที่จอดรถสำหรับลูกบ้าน
ไปดูฝั่งที่จอดรถลูกบ้านกันครับ พื้นจะเป็นคอนกรีตพิมพ์ลายครับ มีแนวต้นไม้ข้างๆตลอดแนวถนน
เข้ามาจะเป็นวงเวียนตันไม้เล็กๆ ทำหน้าที่เป็น Drop Off ของโครงการครับ
เลยมาดูต่อมาอีกหน่อย จะเป็นแนวถนนให้เข้าอาคารจอดรถ 2 ชั้น ฝั่งซ้ายจะเป็นทางเพื่อขึ้นไปจอดด้านบน ส่วนฝั่งขวาเข้าไปจอดด้านในอาคารครับ
บรรยากาศที่จอดรถด้านในครับ ค่อนข้างกว้างเลย มีที่จอดรถสำหรับ Super Car ให้ด้วย
ด้านในจะมีห้องพักสำหรับพี่คนขับรถและคุณพี่แม่บ้านให้ด้วย ส่วนนี้จะเป็นตัวเลือกเสริมนะครับ มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ขนาดห้องภายในใหญ่เลย มีให้ทั้งหมด 2 ห้อง
พามาดูห้องแรก เป็นห้องเตียง 2 ชั้น 2 เตียง พักได้ 4 คนเลย
มีห้องน้ำแยกในตัวครับ ขนาดใหญ่ใช้ได้
มีห้องอาบน้ำมาให้ครบเลย
เข้ามาด้านในจะเจอกับส่วนของ Lobby โครงการครับ ใกล้กับอาคาร D ปัจจุบันพื้นที่นี้จะเป็นส่วนของ Sale Gallery อยู่นะครับ
มีที่นั่งแบ่งออกเป็นหลายมุมครับ สำหรับพักผ่อนรับบรรยากาศรอบๆ ส่วนฝั่งซ้ายมือจะเป็นห้องรับรองภายในครับ
เป็นชุดที่นั่งง่ายๆ รับลมและบรรยากาศของสวน พื้นที่ส่วนนี้อาจจจะยังไม่เห็นทะเลนัก (จริงๆก็เห็นไกลๆ) แต่บรรยากาศรอบๆผมว่าทดแทนได้เลย เพราะมีสระว่ายน้ำและสวนรายล้อมไปหมด
ข้างๆจะมีแนวทางเดินครับ เพื่อลงไปยังสวนตรงกลาง ตรงนี้ผมชอบมากที่เขาใช้เป็นทางลาด เพื่อให้รถเข็นสามารถใช้งานได้อย่างสะดวก เป็นการคำนึงถึงการออกแบบภายใต้หลัก Universal Design ที่ดีเลย เราไปดูพื้นที่ส่วนกลางบนอาคาร D กันก่อนนะ
ส่วนแรกบนอาคาร D จะเป็นห้อง Kid’s Room ครับ ห้องเล่นสำหรับเด็กนั่นเอง ภายในมีหลายมุม ที่แบ่งออกมาให้เล่นได้หลายมุมเลย
อีกห้องจะเป็นห้อง Spa ครับ ซึ่งจะมีพื้นที่ให้ใช้งานได้ แต่ต้องจ้างพนักงานจากข้างนอกเข้ามาเองนะครับ โดยถ้าใครไม่มี Contact ก็สามารถใช้พนักงานของโรงแรม Verso Huahin ด้านข้าง หรือจะไปใช้ห้อง Spa ของที่นั่นก็ได้ครับ (มีพนักงานให้พร้อม)
ถัดมาดูที่อาคาร B กันต่อหน่อยนะครับ เป็นอาคารที่รวมพื้นที่ส่วนกลางภายในอาคารไว้ เพราะตำแหน่งของตัวอาคาร B จะตั้งอยู่กลางพื้นที่โครงการเลย ทำให้จะสามารถเข้าใช้งานได้ง่ายจากทุกพื้นที่
ด้านข้างจะเป็นอาคาร E ครับ อยู่ด้านหลังสุดของพื้นที่โครงการ ส่วนการขึ้นไปใช้งานพื้นที่ด้านบนของอาคาร จะมีลิฟต์แก้วรองรับให้ใช้งานกันได้ โดยที่ไม่ต้องไปใช้งานลิฟต์โดยสารของอาคาร B เพื่อแบ่งความเป็นส่วนตัวครับ
ส่วนแรกจะเป็นห้องออกกำลังกายรับวิวภายนอกครับ ขนาดไม่ได้ใหญ่นัก แต่ก็เพียงพอกับการใช้งานสำหรับประเภทคอนโดตากอากาศ และจำนวนยูนิตขนาดนี้ครับ
ขึ้นมาจะเจอกับส่วนของห้องน้ำแยกชายหญิง ที่มีห้อง Sauna อยู่ภายในให้ใช้งานด้วย
ด้านบนนี้ก็จะมีแนวระเบียงให้รับวิวได้อีกหลายจุดเลยเช่นกันครับ
จะแบ่งออกเป็นพื้นที่นั่งรับวิวส่วนกลางของโครงการ และทะเล รายล้อมด้วยต้นไม้ต่างๆ ที่มีการจัดการดูแลอย่างดีเลย
วิวพื้นที่ส่วนกลางจากมุมนี้ก็จะประมาณนี้ครับ เรียกว่าสวยงามเลยทีเดียว ส่วนใครที่อยากรับวิวทะเล ก็ยังมีมุมที่เป็นไฮไลท์อีกเช่นกัน
มุมที่ว่าผมยกให้เป็นมุมนี้ครับ ตรงนี้จะมีต้นไม้ตรงกลาง 1 ต้น เพื่อทำหน้าที่เหมือนเป็น Center ของพื้นที่ส่วนนี้ ส่วนด้านข้างเขาจะใช้เป็นสระว่ายน้ำตัว U ล้อมรอบพื้นที่นี้อยู่ ทำให้ไม่ต้องทำราวกันตกสูงขึ้นมาบังวิวของ Terrace ส่วนนี้ ให้ความรู้สึกใกล้ชิดกับทะเลมากยิ่งขึ้น รับได้อย่างเต็มที่
สระส่วนนี้จะเหมาะกับการใช้เป็นสระสำหรับแช่เพื่อพักผ่อน และรับบรรยากาศภายนอก
ด้านข้างก็จะเป็นแนวสระเช่นกันครับ
ขยับมาที่ด้านบนของอาคาร C บ้างครับ อาคารนี้ไม่มีพื้นที่ส่วนกลางภายในอาคาร แต่จะมีพื้นที่ Roof Top ให้ใช้งานได้อีกจุด โดยลักษณะการออกแบบพื้นที่จะมีความเชื่อมโยงกันครับ ใช้คอนกรีต จัดเป็นแนวสามเหลี่ยมเป็นที่นั่งด้านข้าง มีต้นไม้คอยให้ร่มเงา
ที่จะแตกต่างคือจะมีพื้นที่นั่งด้านข้างที่หลากหลายขึ้น เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ รายล้อมด้วยต้นไม้พุ่มขนาดเล็ก ให้อีกความรู้สึกที่ดีเหมือนกัน
มีที่นั่งอีกจุดที่มีพื้นโรยด้วยหินกรวด ให้ Texture ที่แตกต่างไปอีกแบบ
กลับลงมาที่กลางโครงการครับ เรามาเดินรอบๆพื้นที่เพื่อดูแนว Landscape ที่โอบล้อมแต่ละอาคารอยู่กันเลยครับ เริ่มที่พื้นที่ตรงกลาง จะมีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ กลางโครงการ รูปทรง Free Form
ส่วนแรกนี้ระดับสระจะสูงกว่าแนวทางเดินที่ลาดลง ทำให้พื้นที่สระได้ความเป็นส่วน จะมีห้องที่เป็น Pool Access ของอาคาร B ในส่วนนี้ด้วย
แนวทางเดินตรงนี้จะลาดลดระดับลงไปเรื่อย ๆ ทำให้พื้นที่สระรอบๆ ได้ความเป็นส่วนตัวสูงแบบที่บอกครับ นอกจากนั้นยังเป็นพื้นที่ทางลาดทั้งหมดเลยด้วย
สระอีกฝั่งด้านข้างตกแต่งออกมาได้สวยเลยครับ สไตล์รีสอร์ทพักผ่อน มีจุดที่วางเตียงไว้เป็นจุดๆ รวมถึงมีแนวทางเดินเล่นระดับด้านหลังที่เป็นทางลาดเช่นกันด้วย
ภายในจะมีที่นั่งที่เป็น Bubble Jet นวดด้วยน้ำให้ในส่วนของมุมแรกนี้
เป็นสระที่ค่อนข้างกว้างครับ สามารถว่ายออกกำลังกายได้จริง และมีมุมพักผ่อนสำหรับวางสัมภาระ หรือเป็นพื้นที่สำหรับผู้ติดตามได้ด้วย
บรรยากาศตรงนี้ค่อนข้างดูดีเลย รับวิวสวนโดยรอบ
มีมุมพักผ่อนที่เชื่อมสระเล็กๆเข้าด้วยกัน ทางลาดได้แนวทางเดินยกระดับ ก็สร้างมิติที่แตกต่างให้เป็นมุมนั่งเล่น พักผ่อน ถ่ายรูปได้อีก
แนวทางเดินด้านหลังจะยกระดับสูงขึ้นครับ เป็นการสร้างมิติให้กับพื้นที่ตรงนี้ได้ดีเลย และช่วยให้เกิดร่มเงาบางส่วนในสระว่ายน้ำได้ด้วย
เข้ามาด้านในจะเป็นสวนที่มีทางเดินแยกออกไปในหลายๆพื้นที่ครับ ทั้งอาคาร A, D และเข้าใช้งานสระ
เดินตรงตามแนวทางเดินมาจะเจอกับอาคาร A ครับ เป็นอาคารขนาดเล็ก 4 ชั้น ที่มีเพียง 8 ยูนิตเท่านั้น จะเน้นไปที่ห้องขนาดใหญ่ และได้ความเป็นส่วนตัวสูงครับ
ที่หน้าตึกก็จะมีจุดอาบน้ำล้างตัวมาให้เลย ใช้งานได้ง่ายและสะดวก
มีทางลงสระว่ายน้ำที่ชัดเจน ประกบด้วยพื้นที่สีเขียว ช่วยบังสายตาได้ในหลายๆส่วน
ด้านล่างจะมีทางเดินลงไปเชื่อมกับแนวทางเดินตรงกลางครับ เป็นช่องทางที่ใช้เชื่อมต่อได้ง่าย และสะดวกกับการ Service ของโครงการด้วย
ลงมาจะมีแนวทางเดินด้านล่าง ที่จัดสวนเป็นมุมต่างๆ แต่ต้นไม้ยังไม่โตเท่าไหร่นะครับ
ทางเดินลอดใต้สระว่ายน้ำก็มาครับ เป็นลูกเล่นที่เขาหยอดทิ้งไว้ตามจุดต่างๆ เชื่อว่าคงเป็นจุดถ่ายรูปที่น่าสนใจของใครหลายๆคนเลย
อ้อมมาที่ด้านหน้าอาคาร A จะเป็นห้อง Pool Access อีกเหมือนกันครับ มีสระที่ Private ขึ้นมาหน่อย ด้านหน้าครับ
แนวทางเดินต่อเนื่องไปยังอาคาร C ครับ ตรงนี้จะเป็นบันไดมีระดับ สำหรับใครที่ใช้รถเข็นก็ใช้ช่องแนวทางเดินตรงกลางได้ สามารถเดินทางได้รอบโครงการ
อ้อมที่หน้าอาคาร B ก่อนจะไปถึงอาคาร C ก็จะมีอีกสระที่เป็นห้อง Pool Access ของอาคาร B เช่นกันครับ
อ้อมมาอีกหน่อยจะเป็นสวนที่วนเข้าไปยังพื้นที่อาคาร C ครับ จะมีจุดล้างตัวให้ก่อนเลย
ในสวนจัดแนวทางเดินมาให้ค่อนข้างร่มรื่น เส้นทางนี้จะเชื่อมต่อไปยังโรงแรม VERSO หัวหิน ที่อยู่ด้านข้างด้วย
จะมีทางลงสระว่ายน้ำครับ เป็นสระที่อยู่ตรงกลางระหว่างอาคาร B และ C ทำให้จะมีความ Private มากขึ้นมาหน่อย
เป็นสระที่รายล้อมด้วยต้นไม้ครับ มีแนวทางเดินคั่นตรงกลางระหว่างอีกสระนึงที่หน้าอาคาร C
ห้องจากอาคาร B ทางฝั่งนี้ก็มีห้อง Pool Access เช่นกันครับ สามารถลงสระว่ายน้ำได้เลย
ข้ามแนวทางเดินข้างๆมา จะมีสระหน้าอาคาร C อีกสระ สำหรับห้อง Pool Access ด้านล่าง และที่ริมสระก็ไม่ลืมที่จะวางพื้นที่ Sunbed มาให้ด้วย
เดินมาจนสุดทางก็จะเจอทางเข้าอาคาร C ครับ และด้านข้างจะเป็นอาคาร E ที่มีสระหน้าอาคารเช่นกัน แต่จะเป็นสระขนาดใหญ่ที่จัดขึ้นมาสำหรับเด็ก เป็นสระตื้นที่มีรายละเอียดน่าสนใจหลายจุดเลย ไปชมกัน
เริ่มด้วยเป็นสวนแนวทางเดินเข้าไปด้านใน สระนี้จะไม่ได้วิวทะเล แต่จะได้บรรยากาศที่มีความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้นไปอีก
เป็นสระที่มีห้อง Pool Access ด้วยเช่นกัน แต่จะเป็นสระที่ไม่ลึกครับ เพราะออกแบบมาให้เป็นสระเด็กขนาดใหญ่ แต่เหมาะกับการนั่งแช่น้ำรับบรรยากาศโดยรอบได้นะครับ
ด้านข้างจะเป็นแนวสวนที่มีแนวทางเดินยกระดับขึ้นไปด้วย เพื่อสร้างมิติที่แต่งต่างให้กับโซนนี้
ขึ้นมาด้านบนจะมีพื้นที่นั่งรับวิวบรรยากาศสระในมุมที่แตกต่างยิ่งขึ้นครับ
แต่จุดประสงค์จริงๆของการยกระดับพื้นที่ส่วนนี้คือทำให้เกิด สไลเดอร์สำหรับเด็กเล่นครับ เพื่อให้สระว่ายน้ำมีลูกเล่นในส่วนนี้มากยิ่งขึ้น
ทำออกมาถึง 2 จุดเลย เป็นทางลงที่แบ่งกันลงไปในแต่ละส่วนของสระ
ที่ด้านในก็มีพื้นที่พักผ่อนริมสระให้ค่อนข้างเยอะ สำหรับให้ผู้ปกครองได้คอยดูแลลูกให้ไม่ไกลสายตา
ในส่วนของพื้นที่โครงการก็จะครบแล้วครับ ทีนี้เราลองเดินมาชมในส่วนของโรงแรม VERSO หัวหินกันบ้าง เพราะเป็นโรงแรมในเครือ Veranda Resort เช่นกัน จึงมีหลายฟังก์ชันเลยที่เราสามารถเข้ามาใช้งานได้
ส่วนแรกในภาพคือ Lobby นะครับ โรงแรมนี้เป็นโรงแรมขนาดเล็ก มีห้องพักอาศัยเพียงประมาณ 30 กว่าห้องเอง จึงมีบรรยากาศค่อนข้างเงียบสงบและไม่มีวุ่นวาย ในกรณีที่อยากจองห้องพักโรงแรมนี้ให้เพื่อน ก็จะได้รับส่วนลดด้วยเช่นกัน
มีพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อนครับ ถ้าอยากเปลี่ยนบรรยากาศก็มานั่งเล่นตรงนี้ได้
ด้านในมีห้องอาหารที่เราสามารถโทรสั่ง หรือมาทาน Breakfast, Lunch หรือแม้กระทั่ง Dinner ได้เลย โดยจะได้รับส่วนลดในส่วนนี้
อาหารของที่นี่ก็ไม่ธรรมดาเลย เป็นอาหารฟิวชั่นหลากหลายประเทศให้เห็นเลยครับ โดยจะมีทั้งของคาวและของหวานเลย
ส่วนต่อมาที่สามารถเข้ามาใช้งานได้ก็คือส่วนของห้อง Spa และ Private Onzen ครับ โดยจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมนะครับ แต่แน่นอนครับ เราจะได้ส่วนลดในบริการต่างๆเหล่านี้
พื้นที่สระ Private Onzen ก็จัดออกมาสไตล์ Japanese Modern ดูดีไปอีกแบบ
ส่วนของ Spa ที่นี่จะมีพนักงานให้บริการด้วยครับ หรือจะนำพนักงานเข้ามาเองก็ได้
นอกจากพื้นที่ภายในของโรงแรมแล้ว ก็ยังสามารถใช้งานสระว่ายน้ำของโรงแรมได้ด้วย จะตั้งอยู่ใกล้กับ Cafe ที่กำลังฮิตอย่าง SKOOP Beach Cafe’ ครับ
ซึ่งจะเป็นสระที่ใกล้ทะเลมากที่สุด มองเห็นทะเลได้ในระยะใกล้ รับวิวเขาตะเกียบด้านข้างได้ด้วยครับ
อีกฝั่งจะเป็นร้านอาหาร Page Beach Bar ครับ จะเป็นอาหารแบบที่เราเห็นไปเมื่อสักครู่นี้นั่นแหละครับ ได้รับส่วนลดอีกเช่นเคย
ภายในก็น่านั่งนะครับ รับวิวสระรอบๆ นั่งสบายๆ ไม่อึดอัด
มองย้อนกลับเข้าไปที่ตัวโครงการก็จะมีแนวทางเดินตรงกลางของโรงแรมครับ สระที่เราใช้ได้คือสระฝั่งซ้ายมือนะ โดยระหว่างโรงแรมและตัวโครงการจะมีแนวต้นไม้และรั้วโครงการกั้นแยกสัดส่วนกันอย่างชัดเจนครับ เข้าออกด้วยระบบ Keycard และมีพี่ รปภ.คอยดูแลให้ด้วย
มาดู SKOOP Beach Cafe’ กันบ้าง เป็น Cafe’ ที่ตั้งอยู่ริมหาดเลย เดินเข้ามาได้จากชายหาด และอยู่หน้าโครงการด้วย
พื้นที่ริมหาดจะมีที่นั่ง Outdoor ให้บริการด้วย แต่ตอนผมถ่ายยังช่วงกลางวัน อากาศร้อนไปหน่อยครับ บรรยากาศช่วงเย็นคงจะชิลไม่น้อยเลย
มีที่นั่งทั้งภายในและภายนอก คนมาใช้บริการเยอะเหมือนกันครับ
ด้านในจะมีพื้นที่บนร้าน Page Beach Bar ที่จัดเป็นสวนชมวิวดาดฟ้าครับ รับวิวทะเล เขาตะเกียบ และเห็นส่วนกลางโครงการอย่างชัดเจน
สามารถเห็นวิวหาดได้อย่างชัดเจนครับ และค่อนข้างจะเป็นพื้นที่ที่ได้ความเป็นส่วนตัวเลย
มองย้อนกลับเข้าไปก็เห็นทั้งโครงการสวยงามเลยทีเดียว
สำหรับห้องพักอาศัยจะมีให้เห็นกันตั้งแต่ชั้น 1 เลย อย่างที่พาไปชมกันมา เพราะจะมีส่วนของห้องที่เป็น Pool Access ด้วยในแต่ละอาคาร โดยในแต่ละอาคารจะวางลักษณะห้องไม่เหมือนกัน ห้องหน้าสุดของอาคาร A, B (สีฟ้า) จะเป็นห้อง Beach Front ครับ สามารถ Access ลงสระว่ายน้ำได้เลย ส่วนห้องแบบอื่นๆจะกระจายตัวอยู่ในแต่ละอาคาร ที่เป็นสีส้มคือห้องที่เป็น Pool Access เช่นกันครับ ส่วนห้องสีเขียวจะเป็นห้องทั่วไปที่ไม่สามารถออกไปที่สระว่ายน้ำได้ ส่วนที่อาคาร D จะมีพิ้นที่ส่วนกลางให้ 1 จุด คือห้อง Spa ครับ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
Hotel Facilities : พื้นที่ส่วนกลางของโรงแรมที่สามารถไปใช้งานได้ โดยบางส่วนจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม แต่ได้รับส่วนลดพิเศษ
- Beach Pool
- All-Day Dining Restaurant
- SKOOP Beach Cafe
- Beach Bar & Restaurant
- Private Onzen & Spa
Residence Facilities : พื้นที่ส่วนกลางภายในตัวโครงการส่วนคอนโด
- Breeze Lobby with Shaded Drop Off
- Oasis Jogging Track
- Beach Pool & Dual Lap Pool
- Family Lagoon with Dual Sliders
- Sun Deck with Tree of Life
- Cloud Terrace with Sky Fitness, Steam Room
- Work and Play Space with Fully Equipped Meeting Room
- Supercar Parking
- Driver’s and Maid’s Room
- Spa Room
- Leisure Room with Game Station
- ลิฟต์โดยสาร 1, 2 ตัว/อาคาร
- อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 34 : 1
- อัตราส่วนลิฟต์ตึก A 8 : 1
- อัตราส่วนลิฟต์ตึก B 16 : 1
- อัตราส่วนลิฟต์ตึก C 29 : 1
- อัตราส่วนลิฟต์ตึก D 49 : 1
- อัตราส่วนลิฟต์ตึก E 52 : 1
- ที่จอดรถประมาณ 50% ไม่รวมจอดซ้อนคัน
- ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ Key Card
Residence Service : ส่วนบริการเสริม
- Housekeeping Service
- Laundry Service
- Fixing & Repair Service
- In-Room Dining Service
- Concierge Service
- 24- Hour Security Guard & CCTV
แบบห้อง
ห้องพักอาศัยของ Veranda Residence หัวหิน “ส่วนใหญ่” แล้วจะขายแบบ Fully Fitted ครับ จะมีเพียงห้อง Penthouse เท่านั้นที่จะได้เฟอร์นิเจอร์ภายในตามห้องตัวอย่างเลย
โดยของห้องทั่วไปจะได้ Digital Door Lock จาก Dormakaba เข้ามาในห้องจะได้พื้นเป็น Homogeneous tile และได้ Furniture Built-in ประกอบไปด้วยเคาน์เตอร์ครัว Top ครัวหินสังเคราะห์ เตาไฟฟ้าพร้อมเครื่องดูดควัน และอ่างล้างจานจาก Franke ชุดห้องน้ำเป็นอ่างล้างหน้า, Hand Shower และ Rain Shower จาก Hansgrohe พร้อมฉากกั้นอาบน้ำ ได้กระจกเงาที่มีไฟในตัวให้ โถสุขภัณฑ์แบบ 2 ชิ้นจาก American Standard ได้เครื่องทำน้ำร้อนแบบติดตั้งบนฝ้า ได้เครื่องปรับอากาศ Concealed Type ในห้องนั่งเล่น และแบบ Wall Type ในห้องนอนครับ ลองไปชมห้องตัวอย่างกันเลยครับ
มาดูห้องตัวอย่างห้องแรกของโครงการ Veranda Residence หัวหิน ในวันนี้กันครับ เป็นห้อง 1 Bedroom ขนาด 41-45 ตร.ม. ซึ่งเป็นห้องขนาดเล็กที่สุดของโครงการ แต่พื้นที่ภายในไม่ได้เล็กเลยนะครับ ค่อนข้างกว้างและจัดมาให้ครบทุกฟังก์ชันที่คอนโดควรจะมีเลย
เริ่มด้วยเปิดประตูมาเจอส่วนครัวก่อนเลยครับ เป็นเคาน์เตอร์ที่ Built-in มาให้ เป็นครัวเปิดที่ทำให้ห้องดูโล่งขึ้น ฝั่งตรงข้ามมีพื้นที่สำหรับวางโต๊ะรับประทานอาหารได้ ด้านข้างประตูทางเข้าออกจะมีตู้ชั้นวางรองเท้าและช่องสำหรับระบายอากาศไว้ให้ด้วย เข้ามาด้านในจะเป็นห้องรับแขกที่เชื่อมต่อไปยังห้องนอนได้ด้วยฉากกั้นบานเลื่อนทึบ 2 ตอน ด้านในจะได้ระเบียงขนาดใหญ่ ชนิดที่ตั้งโซฟาหรือชุดกาแฟ 2 ที่นั่งได้สบายๆ เลย ทำหน้าที่เป็นช่องแสงหลักให้กับห้อง ด้านในจะเป็นห้องนอนที่ได้ช่องแสงเช่นกัน มีพื้นที่ริมหน้าต่างให้ตั้งโซฟาหรือเตียงขนาดเล็กได้ ส่วนฝั่งภายในห้องนอนจะเชื่อมต่อไปยังห้องน้ำครับ เป็นห้องน้ำขนาดใหญ่ ที่แยกพื้นที่ส่วนแห้งส่วนเปียกได้ดีเลยทีเดียว งั้นเราลองเปิดประตูเข้าไปชมห้องตัวอย่างจริงๆกันเลยดีกว่าครับ
ประตูห้องจะได้ Digital Door Lock จาก Dormakaba เป็นแบรนด์เก่าแก่ของยุโรป จากประเทศสวิสเซอร์แลนด์ และมีอายุเกิน 150 ปีแล้วครับ
เปิดประตูเข้ามาจะเจอกับห้องที่กว้างเลยครับ มีแนวทางเดินที่ค่อนข้างกว้างเลยครับ ส่วนแรกนี้จะมีความสูงจากพื้นถึงฝ้าอยู่ที่ 2.4 เมตร ครับ
พื้นเป็นกระเบื้อง Homogeneous tile คือ กระเบื้องที่เป็นหินแกรนิตเทียม มีความแข็งแรงเทียบเท่าหินแกรนิต แต่น้ำหนักเบากว่าหลายเท่า มีความแข็งแรงสูง และข้อดีคืออยู่ในส่วนครัวและทางเข้าออกคือ พื้นผิวที่ทนทานและทำความสะอาดง่ายครับ
ด้านข้างจะมีช่องสำหรับเปิดรับลมระบายอากาศกับโถงทางเดินได้ครับ ทำให้เกิดการ Ventulation ภายในห้องครับ
อีกฝั่งจะเป็นชั้นวางรองเท้าครับ และมีช่องเก็บของด้านข้างให้ด้วย
ชุดครัวจะ Built-in มาให้แบบนี้เลยครับ ได้หน้าบาน Soft Close เตาไฟฟ้าและอ่างล้างจานมาครบเลย สีจะเป็นสีเดียวกับผนังเลย ทำให้ดูสบายตา ช่วยให้พื้นที่ดูโล่งและกว้างขึ้นไปอีก
ได้อ่างล้างจานสเตนเลส และเตาไฟฟ้าพร้อมเครื่องดูดควันจาก Franke ครับ
ฝั่งตรงข้ามมีพื้นที่สำหรับวางโต๊ะรับประทานอาหารสำหรับ 2-3 ที่นั่งได้ด้วย
ด้านในจะเป็นห้องนั่งเล่นที่วางโซฟาขนาด 2-3 ที่นั่งได้ พร้อมโต๊ะกลาง แนะนำว่าถ้าติดทีวีเป็นแบบแขวนผนังจะช่วยให้มีพื้นที่ส่วนนี้เยอะขึ้นนะครับ ใช้เป็นชั้นวางของก็ได้
ด้านในจะมีระเบียงครับ ซึ่งของที่นี่จะมีระเบียงหลายขนาดและหลายรูปทรงมาก แต่ทุกแบบจะมีขนาดที่ค่อนข้างกว้างเลยครับ วางชุดโต๊ะกาแฟหรือเก้าอี้นั่งเล่นได้ 1-2 ตัวเลย
วิวของห้องที่หันเข้าภายในโครงการก็จะประมาณนี้ครับ ส่วนตัวผมชอบเลยนะ เพราะดูร่มรื่นและสวยทีเดียว
มองกลับเข้าไปในห้อง ส่วนภายในห้องจะมีความสูงอยู่ที่ 2.65 เมตร ฝ้าจะเจาะซ่อนไฟมาให้แบบนี้เลย ส่วนห้องนั่งเล่นจะได้แอร์เป็นแบบ Concealed Type ครับ
ส่วนห้องนอนจะอยู่ด้านใน เปิดและปิดได้ด้วยประตูบานเลื่อนทึบขนาดใหญ่ 2 ตอน ช่วยทำให้เกิดความหลากหลายภายในพื้นที่ จะเปิดให้โล่งนอนดูหนัง หรือปิดเพื่อแบ่งความเป็นส่วนตัวก็ได้
จะเป็นประตูแบบรางแขวนด้านบน ทำให้ที่พื้นจะเรียบเป็นผืนเดียวกัน ไม่ต้องกลัวสะดุด
ภายในห้องนอนค่อนข้างกว้างครับ ส่วนของห้องนอนจะได้ช่องแสงเป็นหน้าต่างขนาดใหญ่ และติดแอร์แบบแขวนผนังมาให้ครับ
พื้นที่ภายในห้องนี้วางเตียง King Size ได้สบายๆ พร้อมพื้นที่วางโต๊ะหัวเตียงได้ ด้านข้างยังมีพื้นที่ติดหน้าต่างสามารถวางโซฟาหรือเตียงเล็กได้ด้วย
หน้าต่างจะค่อนข้างกว้างครับ ทำให้รับแสงเข้าสู่ห้องนอนได้เยอะ สามารถเปิดรับลมระบายอากาศได้ด้วย
เมื่อเปิดฉากกั้นก็สามารถนอนดูทีวีจากตรงนี้ได้ด้วยครับ
ด้านในจะเป็นห้องน้ำของห้องนี้ครับ เป็นประตูทึบบานสไลด์ครับ ประหยัดพื้นที่หน้าห้องน้ำได้ดีเลย
ประตูสามารถเปิดได้กว้างชนิดที่รถเข็นเข้าออกได้สบายๆ เป็นแบบรางแขวนด้านบนเช่นกันครับ
เข้ามาภายในเป็นห้องน้ำที่หน้าตาค่อนข้างแปลกครับ ไม่ค่อยจะคุ้นตากันนักแต่ออกแบบได้ดีเลยนะ เพราะแยกความเป็นส่วนตัวได้ดี พื้นที่การใช้งานเยอะครับ
เริ่มด้วยส่วนแรกจะเป็นเคาน์เตอร์อ่างล้างมือจาก Hansgrohe แบรนด์ดังจากประเทศเยอรมัน เป็นเคาน์เตอร์ที่มีพื้นที่วางของได้เยอะเลยครับ บวกกับกระจกที่สามารถเปิดไฟได้และกระจกด้านข้าง จึงเหมาะที่จะเป็นพื้นที่นั่งแต่งหน้าบริเวณนี้ได้สบาย ๆ เลย
ฝั่งประตูทางเข้าห้องจะมีกระจกเงาบานใหญ่ติดตั้งไว้ให้ด้วยครับ ใช้ในการแต่งตัวที่สามารถส่องได้เต็มตัวเลยครับ
อีกฝั่งจะมีพื้นที่ว่างสำหรับทำชั้นวางเสื้อผ้า หรือตู้เสื้อผ้าได้เลยครับ ไม่ได้ให้เฟอร์นิเจอร์แบบในห้องตัวอย่างมาให้นะ
ส่วนเปียกของห้องน้ำจะอยู่ด้านในครับ ตรงนี้จะมีประตูห้องน้ำแบบบานสไลด์ ที่เปิดฝั่งนึงก็จะไปปิดอีกฝั่งนึงครับ ข้อดีคือการแยกส่วนที่ชัดเจน ทำให้สามารถใช้งานพร้อมกันได้
โถสุขภัณฑ์จาก American Standard ครับ เข้ามุมและเป็นสัดส่วน มาพร้อมอุปกรณ์ชำระล้างด้านข้าง
ส่วนอาบน้ำของที่นี่จะมีขนาดกำลังดีครับ เหมาะกับการอาบคนเดียว จะได้ Hand Shower และ Rain Shower มาจาก Hansgrohe ครับ แต่ส่วนนี้จะไม่มีพื้นที่สำหรับวางอุปกรณ์อาบน้ำมาให้ แนะนำให้หาชั้นวางหรือแขวนผนังด้านข้างนะครับ
ห้องต่อมาจะพามาดูห้อง Penthouse ห้องสุดท้ายที่เหลือขายอยู่ของโครงการนะครับ วัสดุภายในห้องหลักๆจะได้เหมือนห้องที่ผ่านมาเลย แต่ห้องนี้จะได้เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวที่เห็นทั้งหมดมาด้วย ตำแหน่งของห้องนี้จะอยู่ที่ชั้น 7 ของอาคาร E เห็นวิวส่วนกลางโครงการจากมุมที่สูงที่สุด และยังได้วิวทะเลด้วย เป็นห้อง 3 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ และมีความพิเศษที่มีสระว่ายน้ำในตัวให้อีกต่างหาก โดยห้องนี้จะมีราคาอยู่ที่ประมาณ 28 ล้านบาทครับ
เปิดประตูห้องเข้ามาจะเจอแนวทางเดินยาวก่อนเลยครับ มีพื้นที่ค่อนข้างกว้าง สามารถวางชุดโต๊ะริมผนังได้เลย ความพิเศษคือเปิดช่องแสงทั้งสองฝั่งซ้ายและขวา ทำให้ตรงนี้จะดูโล่งและกว้างยิ่งขึ้น ฝั่งขวามือจะมีประตูเชื่อมออกไป Terrace ภายนอกครับ จะเป็นพื้นที่ของ Private Pool นั่นเอง หนึ่งในไฮไลต์ของห้องนี้เลย เข้ามาด้านในตรงกลางจะมีโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 6 ที่นั่ง ฝั่งขวามือจะเป็นห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ ที่วางโซฟาชุดใหญ่ หรือแบบตัว L ได้สบายๆ มีแนวกระจกที่เชื่อมต่อกับสระว่ายน้ำด้านนอก และยังมีระเบียงขนาดใหญ่ด้านข้างอีกต่างหาก ทำให้พื้นที่นี้รับแสง 2 ฝั่งเลย ด้านข้างมีห้องนอนหลักของห้องนี้ครับ ภายในได้รับช่องแสง 2 ฝั่ง และมีห้องน้ำขนาดใหญ่ภายในตัว ด้านในตัวห้องจะเป็นพื้นที่ครัวที่ถูกจัดไว้เป็นสัดส่วนทำให้สามารถทำเป็นครัวปิดได้ มีห้องน้ำด้านข้าง และด้านในจะแบ่งออกเป็นห้องนอนรอง 2 ห้องครับ ลองไปชมภาพห้องจริงกันเลย
เปิดประตูเข้ามาเจอกับพื้นที่โถงทางเดินกว้างประมาณ 2 เมตร มีช่องแสงทั้ง 2 ฝั่ง สามารถเปิดรับลมระบายอากาศได้ทั้ง 2 ฝั่งเลยครับ ทำให้ดูโล่งและให้บรรยากาศที่ไม่ค่อยจะมีให้เห็นกันในคอนโดนัก
ด้านหน้าห้องจะมีห้องเก็บของด้านข้างให้ด้วย
เป็นห้องควบคุมไฟไปในตัว ด้านในมีช่องเก็บของ Built-in มาให้ครับ สามารถเก็บรองเท้าได้เยอะเลย
ด้านข้างฝั่งภายนอกห้อง จะเป็นระเบียงสำหรับวาง Condensing Unit มีแนวระแนงกันนกไว้ให้ด้วย
ตรงแนวทางเดินนี้สามารถวางเก้าอี้ตกแต่ง นั่งเล่นแบบนี้ได้นะครับ ซึ่งถ้าใครซื้อห้องนี้ก็จะได้ชุดเก้าอี้นี้มาให้ด้วยเลย
ด้านนอกจะเป็นสระว่ายน้ำครับ มี Terrace สำหรับนั่งเล่นริมสระหรือทำ Party BBQ ทานกันได้
สระว่ายน้ำของห้องนี้จะมีขนาดประมาณ 2.1 x 5 เมตร ลึก 1.10 เมตร ครับ
วิวจากมุมนี้จัดว่าไม่ธรรมดาจริง ๆ ครับ แช่น้ำ รับวิวส่วนกลางและเห็นได้ถึงทะเลเลย หรือจะนอนแช่น้ำดูดาวก็น่าจะชิลไม่น้อย
กลับเข้ามาต่อกันที่ภายในห้อง จะเป็นชุดโต๊ะรับประทานอาหาร 6 ที่นั่งชุดนี้
ด้านข้างจะเป็นพื้นที่ครัวที่ค่อนข้างเป็นสัดส่วน ทำให้สามารถกั้นเป็นครัวปิดได้สบายๆ สำหรับใครที่ประกอบอาหารบ่อยก็ไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นและควันจะไปรบกวนส่วนอื่นๆภายในห้องเลย
สังเกตได้ว่าจะเหลือพื้นที่รอบๆอีกเยอะเลยนะครับ ผนังทั้งสองฝั่งก็สามารถวางตู้หรือ Built-in ทำเป็นชั้นวางของได้อีกนะ
ห้องนั่งเล่นของห้องนี้ก็มีความพิเศษอยู่หลายจุดเลยครับ เฟอร์นิเจอร์ที่เห็นเราจะได้ทั้งหมดเลย พื้นที่นี้ฝ้าเพดานจะเจาะฝ้าซ่อนไฟสร้างบรรยากาศ
ความพิเศษอย่างแรกคือความกว้างของพื้นที่ครับ ทำให้สามารถวางชุดโซฟาขนาดใหญ่ พร้อมโต๊ะกลางได้ หรือจะวางเป็น Sofa Bed เลยก็ยังได้ อีกทั้งยังมีระยะดูทีวีที่กว้าง ทำให้สามารถติดตั้งทีวีขนาดใหญ่ชนิด 70 นิ้วขึ้นไปได้สบายๆ
ความพิเศษต่อมาคือมีช่องแสงด้านข้างที่เป็นพื้นที่สระว่ายน้ำภายนอก ช่วยเพิ่มมิติให้พื้นที่นี้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น แถมยังสามารถเชื่อมต่อกับภายนอกได้ง่ายด้วย
ที่ริมผนังห้องจะได้แนวประตูกระจกบานสไลด์ใหญ่เลย ทำให้ช่องแสงหลักตรงนี้รับแสงเข้าสู่ภายในห้องได้อย่างเต็มที่เลย
พื้นที่ระเบียงภายนอกก็ไม่ธรรมดาครับ มีความกว้างของพื้นที่ชนิดที่สามารถวางเตียงนอนได้เลยแหละ จะจัดปาร์ตี้ Outdoor ภายนอกก็ได้ตรงนี้อีกจุด สามารถจะรับวิวส่วนกลางและทะเลได้อีกแบบ
วิวจากระเบียงภายนอกก็จะประมาณนี้ครับ ไม่แพ้สระว่ายน้ำเลยล่ะ
พื้นที่ส่วนนี้จะได้เครื่องปรับอากาศแบบ Concealed Type ครับ ดูเรียบร้อยดี ลองเข้าไปดูห้องนอนหลักด้านข้างกันต่อเลย
ห้องนอนหลักของห้องนี้มีขนาดค่อนข้างกว้าง และมีจุดเด่นที่เปิดช่องแสงถึง 2 ฝั่ง ทำให้ภายในห้องดูโล่งและสว่างมากครับ
ด้านใน Built-in ตู้เสื้อผ้ามาให้สวยเลย ติดตั้งแอร์แบบ Wall Type มาให้พร้อมเลย ด้านในจะเป็นห้องน้ำของห้องนี้ครับ บอกเลยว่าไม่ธรรมดาเหมือนกัน
เป็นห้องน้ำที่ค่อนข้างกว้างครับ ได้อ่างอาบน้ำมาเพิ่มด้วย ภายในตกแต่งด้วยสีขาว ช่วยให้ดูสว่าง
ส่วนแรกจะได้เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าและกระจกเงามาเหมือนห้องก่อนหน้านี้ครับ
ด้านข้างเป็นอ่างอาบน้ำจาก Kasch แบรนด์ดังระดับโลกจากประเทศเยอรมันอีกเช่นเคย
ทางเข้าห้องน้ำจะเป็นประตูบานเลื่อน 2 บานครับ มีกระจกเงาติดประตูให้มาด้วย
ส่วนด้านในจะเป็นส่วนอาบน้ำและพื้นที่โถสุขภัณฑ์คล้ายๆกับของห้องก่อนหน้านี้ครับ ตกแต่งด้วยโทนสีเข้ม ทำให้ห้องน้ำโดยรวมดูไม่เบื่อและเป็นการช่วยแยกส่วนพื้นที่ที่ดีเลย
ออกจากห้องนอนหลักมาดูด้านในของห้องกันต่อครับ จะมีแนวทางเดินเข้าไปพื้นที่ภายใน
ที่ติดกับห้องครัวจะเป็นห้องน้ำ ที่ออกแบบมามีการวางตำแหน่งที่ค่อนข้างคุ้นเคยกันอยู่แล้ว แต่มีขนาดที่กว้างชนิดที่เป็นห้องน้ำหลักของห้องทั่วไปได้เลย วัสดุและสไตล์การตกแต่งก็จะคล้ายๆห้องก่อนหน้านี้ครับ
จะได้เป็นอ่างล้างหน้าแบบเคาน์เตอร์แขวนผนังจาก Hansgrohe เช่นเดิม ด้านข้างเป็นโถสุขภัณฑ์จาก American Standard
พื้นที่อาบน้ำจะค่อนข้างกว้างครับ แต่จะมีเสาอยู่ด้านใน มีพื้นที่ที่สามารถวางชั้นวางอุปกรณ์อาบน้ำได้ หรือจะทำแบบแขวนผนังก็ทำได้สบายๆ
ห้องนอนรองห้องแรกจะมีขนาดที่กำลังเหมาะกับการใช้งาน 1 คนครับ ได้ช่องแสงภายในที่ค่อนข้างกว้าง
มีพื้นที่ Built-in ตู้เสื้อผ้าและติดเครื่องปรับอากาศมาให้พร้อมใช้งานเลย
ส่วนอีกห้องก็จะมีขนาดพอๆ กันครับ จะได้เตียง 2 ชั้นที่ทางโครงการจัดมาให้ เหมาะสำหรับทำเป็นห้องนอนลูกๆครับ
ด้านในมีตู้เสื้อผ้า Built-in มาให้เล็กน้อย เหมาะกับการใช้งานภายในห้องครับ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ
ราคา
Veranda Residence หัวหิน ราคา ณ วันที่ 25 มีนาคม 2564
- 1 Bedroom ห้อง D206 ชั้นที่ 2 ขนาดห้อง 42.44 ราคารวม 5.78 ตร.ม. ล้านบาท หรือ 136,354 บาท/ตร.ม.
- 1 Bedroom ห้อง D307 ชั้นที่ 3 ขนาดห้อง 43.88 ราคารวม 5.93 ตร.ม. ล้านบาท หรือ 135,164 บาท/ตร.ม.
- 2 Bedroom 2 Bathroom ห้อง E309 ชั้นที่ 3 ขนาดห้อง 64.4 ตร.ม. ราคารวม 7.26 ล้านบาท หรือ 112,799 บาท/ตร.ม.
- 3 Bedroom 2 Bathroom ห้อง E204 ชั้นที่ 2 ขนาดห้อง 88.04 ตร.ม. ราคารวม 10.16 ล้านบาท หรือ 115,452 บาท/ตร.ม.
- Penthouse ห้อง D709 ชั้นที่ 7 ขนาดห้อง 160.09 ตร.ม. ราคารวม 28.44 ล้านบาท หรือ 177,660 บาท/ตร.ม.
- 3 Bedroom 3 Bathroom ห้อง A101 ชั้นที่ 1 ขนาดห้อง 148.87 ตร.ม. ราคารวม 32.46 ล้านบาท หรือ 218,088 บาท/ตร.ม.
- ปัจจุบันทางโครงการมีห้อง Promotion ราคาเริ่มต้นที่ 4.99 ล้านบาท (ลองสอบถามรายละเอียดจากทางโครงการดูนะครับ
- รูปแบบการขาย Fully Fitted ในรูปแบบห้องปกติ และ Fully Furnished ในรูปแบบห้อง Penthouse
- ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.65 เมตร
- Kitchen & Sink / ท็อปหินสังเคราะห์
- Hob & Hood / ของยี่ห้อ Franke
- จอง 50,000 / 80,000 / 100,000 / 150,000 / 200,000 บาท
- ทำสัญญา 5%
- ค่ากองทุน 700 บาท/ตร.ม.
- ค่าส่วนกลาง 70 บาท/ตร.ม./เดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ
บทสรุป
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง : ตัวโครงการเป็นคอนโดตากอากาศประเภทติดหาด ได้วิวทะเล แต่ไม่ไกลตัวเมือง ยังสามารถเข้าไปอิงความเจริญ สถานที่ท่องเที่ยว ตลาดนัด คาเฟ่เก๋ๆ หรือร้านอาหารเก่าแก่ในเมืองหัวหินได้สะดวก รวมถึงพื้นที่รอบโครงการเองที่ใกล้เขาตะเกียบ ทำให้นอกจากจะได้วิวทะเลแล้ว ก็ยังมีวิวภูเขาให้พักสายตาได้ด้วย นอกจากนั้นอาหารทะเลที่ถูกและดีซึ่งเป็นของขึ้นชื่อของเขาตะเกียบก็ยังอยู่ใกล้ในระยะเดิน ทั้งร้านอาหารชื่อดัง และตลาดสดอาหารทะเลเลย การเดินทางมาโครงการเรียกว่าไม่ยากเลยครับ เพราะหากใครรู้จักและเดินทางมาที่เขาตะเกียบ ก็จะเห็นตัวโครงการ Veranda Residence หัวหิน ก่อนถึงเขาตะเกียบอย่างแน่นอน ไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร ภายในให้พื้นที่จอดรถมาถึง 50% ไม่รวมจอดซ้อนคัน ซึ่งจัดเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างสูงสำหรับโครงการประเภทคอนโดตากอากาศ (เยอะกว่าโครงการใกล้เคียงอื่น ๆ ในหัวหิน)
การออกแบบโครงการและพื้นที่ใช้สอย : จัดเป็นโครงการที่มีดีไซน์ค่อนข้างจัดเต็ม ให้ความสำคัญกับการออกแบบค่อนข้างหลายส่วนเลยครับ อย่างแรกการวางโซนนิ่งของตัวอาคาร เลือกวางให้ทุกห้องในโครงการรับวิวทะเลเท่านั้น (ทิศเหนือ) ไม่อย่างนั้นก็หันเข้าพื้นที่ส่วนกลาง ในส่วนของทิศอื่นๆจะวางเป็นแนวทางเดิน หรือพื้นที่จอดรถ การกระจายออกเป็น 5 อาคาร ทำให้ลดจำนวนผู้อยู่อาศัยในแต่ละอาคาร ได้ความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น เช่นเดียวกันกับการกระจายพื้นที่ส่วนกลางออกเป็นหลาย ๆ จุดทั่วโครงการ ช่วยให้แต่ละพื้นที่มีการใช้งานไม่หนาแน่น ได้มุมที่ Private จริง ๆ มีการออกแบบรองรับรถเข็นและผู้สูงอายุ ตามหลัก Universal Design รวมถึงง่ายต่อการ Service ด้วย และส่วนตัวผมชอบรายละเอียดที่เขาออกแบบมาได้ค่อนข้างใส่ใจการใช้งาน เช่น ห้องพักสำหรับคุณพี่คนขับรถและแม่บ้าน สระว่ายน้ำขนาดใหญ่สำหรับเด็ก และพื้นที่ดาดฟ้าที่แยกออกเป็นหลายๆจุด เพื่อให้ใช้งานได้ง่ายและไม่หนาแน่นจนเกินไป
ส่วนของห้องพักอาศัยก็ทำออกมาหลายแบบหลายขนาดมากๆ เพื่อให้ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายที่หลากหลาย พื้นที่ภายในห้องก็ออกแบบมาเพื่อการอยู่อาศัยจริงด้วย ไม่ใช่เพียงแต่มาพักผ่อนเท่านั้น ยกตัวอย่างเช่นการให้ความสำคัญกับพื้นที่ครัว (บางคอนโดตากอากาศจะไม่เน้นประกอบอาหารกันเองนัก) ช่องลมระบายอากาศที่บริเวณประตูทางเข้า เป็นต้น
วัสดุ : ห้องพักอาศัยของ Veranda Residence หัวหิน ส่วนใหญ่แล้วจะขายแบบ Fully Fitted ครับ จะมีเพียงห้อง Penthouse เท่านั้นที่จะได้เฟอร์นิเจอร์ภายในตามห้องตัวอย่างเลยโดยของห้องทั่วไปจะได้ Digital Door Lock จาก Dormakaba เข้ามาในห้องจะได้พื้นเป็น Homogeneous tile และได้ Furniture Built-in ประกอบไปด้วยเคาน์เตอร์ครัว Top ครัวหินสังเคราะห์ เตาไฟฟ้าพร้อมเครื่องดูดควัน และอ่างล้างจานจาก Franke ชุดห้องน้ำเป็นอ่างล้างหน้า, Hand Shower และ Rain Shower จาก Hansgrohe พร้อมฉากกั้นอาบน้ำ ได้กระจกเงาที่มีไฟในตัวให้ โถสุขภัณฑ์แบบ 2 ชิ้นจาก American Standard ได้เครื่องทำน้ำร้อนแบบติดตั้งบนฝ้า ได้เครื่องปรับอากาศ Concealed Type ในห้องนั่งเล่น และแบบ Wall Type ในห้องนอนครับ
สาธารณูปโภค : เป็นหนึ่งในจุดเด่นหลัก ๆ ของโครงการนี้เลยครับ เพราะสัดส่วนที่ให้มาถือว่าเยอะเอามากๆ ส่วนตัวผมมองว่าเยอะกว่าโครงการรูปแบบใกล้เคียงกันในหัวหินอื่นๆนะ เพราะจากพื้นที่ 11 ไร่กว่า ๆ ที่มีเพียง 270 ยูนิต ให้พื้นที่ส่วนกลางมาเกือบจะเต็มพื้นที่เลย โดยส่วนใหญ่จะเน้นไปที่ภายนอกอาคาร รับวิวทะเลและภูเขา อีกทั้งยังช่วยเป็นทัศนียภาพที่สวยงามให้กับห้องพักอาศัยในอาคารต่าง ๆ ด้วย และอีกอย่างที่ทำให้ที่นี่แตกต่างคือจะมีบริการของโรงแรมให้ด้วย นอกจากพื้นที่ของโรงแรม VERSO หัวหิน ที่สามารถเข้าไปใช้งานได้ในบางส่วนแล้ว ยังมีบริการทำความสะอาดห้องและซักผ้าให้ 1 ครั้งต่อสัปดาห์ด้วย แถมยังได้เป็นสมาชิกของ Veranda Group ที่จะลดค่าใช้จ่ายในส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น จะไปพักโรงแรมที่เชียงใหม่ ภูเก็ต พัทยา หรือที่ไหนก็ตามก็จะมีส่วนลดให้อีก
Judgement
สำหรับโครงการนี้เราขอไม่ให้คะแนนนะครับ เนื่องจากเป็นคอนโดตากอากาศ คนที่ซื้อย่อมมีหลายปัจจัยที่ใช้ตัดสินใจ ทั้งเรื่องงบประมาณ ความคุ้มค่า ทำเล รวมไปถึงสไตล์ในการออกแบบซึ่งเรื่องสไตล์นี้ก็ถือว่าเป็นความชอบส่วนบุคคลที่เราไม่สามารถตัดสินแทนผู้ซื้อได้ครับ
Veranda Residence หัวหิน เหมาะกับใคร
โครงการ Veranda Residence หัวหิน เหมาะสำหรับคนหัวหินเองที่อยากได้บ้านหลังที่สอง หรือคนที่กำลังมองหาคอนโดตากอากาศในหัวหิน มีทำเลติดหาดและไม่ไกลจากตัวเมือง ชอบในคอนโดที่มีสไตล์การออกแบบที่ชัดเจน มีพื้นที่ส่วนกลางให้เยอะ ออกแบบสวยน่าใช้งาน และมีบริการของโรงแรมคอยรองรับ อยากได้ห้องที่มีพื้นที่ใช้สอยค่อนข้างใหญ่ และมีรูปแบบห้องรองรับหลายขนาดครอบครัว ชอบเลือกของแต่งห้องเอง มีงบประมาณระดับ 5.7 – 33 ล้าน หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 42,000 บาท/เดือน ขึ้นไป
ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc