The Aspen Tree ผู้ดำเนินธุรกิจด้านการดูแลผู้สูงวัยอย่างครบวงจรที่มีที่อยู่อาศัย การบริการและสิ่งอำนวยความสะดวก ซึ่งได้รับการยอมรับจากทั่วภูมิภาคเอเชีย คว้ารางวัลชนะเลิศ โครงการประจำปี Ageing in Place จากงาน Ageing Asia Innovation Forum (AAIF) ครั้งที่ 10 ณ ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งจัดขึ้นเพื่อโชว์นวัตกรรมยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้สูงวัย โดยโครงการ ดิ แอสเพน ทรี มีแนวคิดผสมผสานการใช้ชีวิตของผู้สูงวัยในรูปแบบใหม่ พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและการดูแลระดับโลก ที่ The Forestiasโครงการมิกซ์ยูสท่ามกลางธรรมชาติมูลค่ากว่า 100,000 ล้านบาท บนพื้นที่กว่า 300 ไร่ บริเวณถนนบางนา – ตราด กม. 5.5-7 กรุงเทพฯ ประเทศไทย
นางสาวเฮ จูน พาร์ค ประธานผู้อำนวยการ บริษัท ดิ แอสเพน ทรี คอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่า โครงการ ดิ แอสเพน ทรี ที่ เดอะ ฟอเรสเทียส์ได้รับรางวัลชนะเลิศ ‘Project of the Year – Ageing – in – Place’ จากเวทีรางวัลนวัตกรรมเพื่อผู้สูงวัยระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ครั้งที่ 7 (the 7th Asia Pacific Eldercare Innovation Awards) โดยมี ดร. แลมป์ ชิง ชอย สมาชิกของคณะผู้บริหารเขตปกครองพิเศษฮ่องกง เป็นผู้มอบรางวัล ภายใต้งาน Ageing Asia Innovation Forum (AAIF) ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีที่ 10 ณ ศูนย์การประชุมมารีน่า เบย์ แซนด์ ประเทศสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 14 – 15 พฤษภาคม 2562 โดยมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 1,700 คนจาก 20 ประเทศทั่วโลก
“ดิ แอสเพน ทรี รู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้นำรางวัล ‘Project of the Year – Ageing – in – Place’ กลับมาให้ประเทศไทย สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการนำเสนอรูปแบบที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงวัย รวมถึงการใช้ชีวิต การบริการ การดูแล และความปลอดภัยที่โดดเด่น ท่ามกลางผู้ส่งชิงรางวัลจากประเทศที่เชียวชาญด้านผู้สูงวัย อาทิ ออสเตรเลีย หรือ ญี่ปุ่น จนสามารถคว้ารางวัลชนะเลิศครั้งนี้มาได้” น.ส.เฮ จูน พาร์ค กล่าว
Ageing – in – Place คือแนวคิดหลักของ ดิ แอสเพน ทรี เกี่ยวกับการดูแลผู้สูงวัยอย่างครบวงจร โดยผู้สูงวัยสามารถอยู่อาศัยในบ้านของตนเองได้อย่างยาวนานยิ่งขึ้น รวมถึงการให้บริการ สิ่งอำนวยความสะดวก ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของผู้สูงวัย ดังนั้นรางวัลนี้จึงแสดงให้เห็นถึงมุมมองแบบองค์รวมในการจัดการและการแก้ปัญหาที่พบในสังคมผู้สูงวัย ทั่วโลก นอกจากนี้ยังรวมถึงวิธีการออกแบบอย่างละเอียดและความพร้อมในการสร้างโครงการเพื่อให้แน่ใจว่าผู้อยู่อาศัยมีความสุขต่อที่พักอาศัย สังคมที่อบอุ่น และสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ เพื่อรองรับความต้องการของผู้สูงวัยที่เปลี่ยนไป
นอกจากนี้ ดิ แอสเพน ทรี ยังได้รับรางวัล ‘Global Trailblazer’ ที่งาน 2019 Ageing Asia Innovation Forum (AAIF) จัดโดย Again Asia Alliance (AAA) หรือเครือข่ายผู้สูงวัยแห่งเอเชีย ซึ่งเป็นเครือข่ายอุตสาหกรรมที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับผู้สูงวัยที่มีสมาชิกก่า 1,700 คน รางวัลดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำทางวิชาชีพในการพัฒนามาตรฐานการใช้ชีวิตของผู้สูงวัย
ขณะเดียวกัน โครงการ ดิ แอสเพน ทรี ยังเข้ารอบสุดท้ายทั้งสิ้น 2 รางวัล ในสาขา “Architecture Firm of the Year” หรือบริษัทสถาปัตยกรรมแห่งปี ในระดับภูมิภาคเอเชีย โดยในสาขานี้โครงการ ดิ แอสเพน ทรี ถือเป็นตัวแทนของ The Beaumont Partnership สำหรับการทำงานด้านการออกแบบที่พักอาศัยและสิ่งอำนวยความสะดวก และโครงการ The Aspen Tree Assistive Tableware by Dr. Singh Intrachooto ยังได้เข้ารอบสุดท้ายของรางวัล “Innovation of the Year – Product” จากการออกแบบและพัฒนานวัตกรรมนี้เพื่อเพิ่มความสะดวกแก่ผู้สูงวัยและผู้ป่วยให้สามารถทานอาหารได้ด้วยตัวเอง โดยได้ส่งมอบต่อโรงพยาบาลในประเทศไทยแล้วกว่า 4,000 ชุดแล้ว
โครงการ ดิ แอสเพน ทรี ถูกสร้างขึ้นด้วยแนวคิด ‘Universal Design’ และ ‘Ageing – in – Place’ เพื่อสามารถปรับให้เข้ากับความต้องการของผู้พักอาศัยที่อาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา โครงการได้ออกแบบตามมาตรฐานของWELL Building Standard จากประเทศสหรัฐอเมริกาซึ่งถือเป็นพื้นฐานที่ได้รับการยอมรับทางด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี
น.ส.เจนิส เชีย ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ เครือข่ายผู้สูงวัยแห่งเอเชีย หรือ Ageing Asia Alliance (AAA) ซึ่งเป็นเครือข่ายอุตสาหกรรมที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับผู้สูงวัยที่มีสมาชิกก่า 1,700 คน กล่าวว่า ปัจจุบันกลุ่มเบบี้บูมเมอร์มีอายุยืนขึ้นพร้อมกับความคาดหวังด้านคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นกว่ากลุ่มเบบี้บูมเมอร์รุ่นก่อน ๆ เนื่องจากได้รับการศึกษาที่ดีขึ้น มีฐานะและคุณภาพชีวิตที่ดี จึงต้องการดูแลตัวเองให้ดีเมื่อสูงวัย
“รางวัล Asia Pacific Eldercare Innovation Awards เป็นรางวัลที่จัดขึ้นทุกปีด้วยวัตถุประสงค์เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและความน่าเชื่อถือให้กับโครงการและแนวคิดที่ต้องการสร้างความแตกต่างในตลาดการดูแลผู้สูงวัย ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจมากที่ได้เห็นนวัตกรรมต่างๆ โดยเฉพาะที่มาจากตลาดกลุ่มใหม่อย่างเช่นประเทศไทยได้มีการพัฒนาเพื่อตอบสนองความต้องการใหม่ ๆ ของประชากรกลุ่มผู้สุงอายุ” น.ส.เจนิส เชีย กล่าว