นายกานต์ ตระกูลฮุน กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี เปิดเผยว่า งบการเงินรวมก่อนสอบทานของเอสซีจี ประจำปี 2557 มีรายได้จากการขาย 487,545 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 12 จากปีก่อน มีกำไรสำหรับปี 33,615 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 8 จากปีก่อน เนื่องจากในไตรมาสที่สาม ปี 2556 ธุรกิจซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง มีกำไรจากรายได้ที่ไม่เกิดขึ้นเป็นประจำ 1,701 ล้านบาท ประกอบกับในปีนี้ผลการดำเนินงานของธุรกิจ PVC ลดลง และมีขาดทุนจากการปรับมูลค่าสินค้าคงเหลือ (stock loss) ที่เกิดขึ้นในไตรมาสที่สี่ ปี 2557 อันเป็นผลมาจากการปรับตัวลดลงของราคาน้ำมัน จำนวน 2,960 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีรายได้จากการส่งออก 143,261 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26% จากปีก่อน คิดเป็น 30% ของยอดขายรวม เนื่องจากการปรับกลยุทธ์ของทุกธุรกิจเน้นการส่งออกในประเทศอาเซียนมากขึ้น เพื่อทดแทนเศรษฐกิจและความต้องการในประเทศที่ชะลอตัวลง
ในไตรมาสที่สี่ปี 2557 เอสซีจีมีรายได้จากการขาย 116,710 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากปริมาณขายของธุรกิจเคมีภัณฑ์เพิ่มสูงขึ้น แต่ลดลงร้อยละ 6 จากไตรมาสก่อน เนื่องจากราคาขายของธุรกิจเคมีภัณฑ์ปรับตัวลดลง มีกำไรสำหรับงวด 8,856 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 11 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นของธุรกิจเคมีภัณฑ์ แม้ว่าในระหว่างงวดจะมี stock loss จำนวน 2,960 ล้านบาทก็ตาม และเพิ่มขึ้น 13% จากไตรมาสก่อน เนื่องจากในไตรมาสที่สี่เป็นช่วงที่มีรายได้เงินปันผลรับจากเอสซีจี การลงทุน
สำหรับธุรกิจของเอสซีจีในอาเซียน นอกเหนือจากประเทศไทย ในปี 2557 เอสซีจี มีรายได้จากธุรกิจที่มีฐานการผลิตในภูมิภาคอาเซียนและจากการส่งออกไปยังอาเซียน 100,912 ล้านบาท คิดเป็น 21% ของรายได้รวม เพิ่มขึ้นร้อยละ 18 จากปีก่อน ทั้งนี้เป็นรายได้จากธุรกิจที่มีฐานการผลิตในภูมิภาคอาเซียน 44,397 ล้านบาท คิดเป็น 9% ของรายได้รวม เพิ่มขึ้น 14% จากปีก่อน และรายได้จากการส่งออกไปยังอาเซียน 56,515 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% จากปีก่อน ซึ่งเป็นผลจากทุกธุรกิจในอาเซียนมีผลประกอบการที่ดีและการสร้างการยอมรับในตราสินค้าของเอสซีจีในอาเซียนอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เอสซีจี มีสินทรัพย์รวมในอาเซียน นอกเหนือจากประเทศไทย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2557 มูลค่า 84,875 ล้านบาท หรือประมาณ 18% ของสินทรัพย์รวมของบริษัท
สินทรัพย์รวมของเอสซีจี ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2557 มีมูลค่า 465,823 ล้านบาท