sansiri

Sansiri เปิด ผลประกอบการ ครึ่งปีแรก รายได้ 10,924 ลบ. เดินหน้าเปิด 16 โครงการ มูลค่า 24,000 ลบ.

Sansiri เผยผลประกอบการครึ่งแรกปี 2562 โกยรายได้รวม 10,924 ล้านบาท แข็งแกร่งทุกสภาวะเศรษฐกิจ จากความพร้อมในการปรับแผนให้สอดคล้องกับทุกสภาวะการณ์ เผยผลงานแนวราบเติบโตเด่น ตอกย้ำเรียลดีมานด์

โดยมีรายได้จากการโอนโครงการแนวราบถึง 82% บ้านเดี่ยว – มิกซ์โปรดักส์ ลูกค้าตอบรับดี ยอดขายทาวน์เฮาส์โตแรงจากแบรนด์ “สิริ เพลส” ทาวน์เฮาส์คุณภาพ ในระดับ Best in Class ส่งผลกวาดกำไรครึ่งปีแรก 689 ล้านบาท ใกล้เคียงปีที่ผ่านมา เผยมีรายได้จากการบริหารธุรกิจและบริหารโครงการภายใต้บริษัทร่วมทุนกับ บีทีเอส 2,679 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

แผนครึ่งปีหลังเชื่อมั่นเรียลดีมานด์ พร้อมดันแนวราบและยอดโอนคอนโดเป็นธงรายได้หลักเตรียมเปิด 16 โครงใหม่ มูลค่าโครงการรวม 24,000 ล้านบาท ย้ำยอดโอนตามเป้าหมาย 32,000 ล้านบาท

นายวันจักร์ บุรณศิริ ประธานผู้บริหารสายงานการเงินและสนับสนุนธุรกิจ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) (SIRI) เปิดเผยว่า จากความเข้าใจและความพร้อมในการปรับแผนธุรกิจให้สอดคล้องกับทุกสภาวะการณ์และสภาวะเศรษฐกิจมาโดยตลอด ส่งผลให้บริษัทสามารถสร้างรายได้รวมในช่วงครึ่งปีแรกได้กว่า 10,924 ล้านบาท ซึ่งนับว่าใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยรายได้หลักมาจากการโอนโครงการแนวราบถึง 82% และโครงการคอนโดมิเนียมอีก 18% โดยเฉพาะความสำเร็จมาจากการรุกพัฒนาแบรนด์ “สิริ เพลส” ทาวน์เฮาส์คุณภาพ ในระดับ Best in Class ต่อยอดความสำเร็จมาจากปีที่ผ่านมาและแบรนด์แนวราบในรูปแบบมิกซ์โปรดักส์ ที่รวมทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮาส์ตอบรับทุกความต้องการลูกค้าไว้ในโครงการเดียวภายใต้แบรนด์ “อณาสิริ”

นอกจากนี้ บริษัทยังมีรายได้ในช่วงครึ่งปีแรก จากการสร้างผลงานจ่อคิวปิดการขาย บ้านแสนสิริ พัฒนาการ และ 98 Wireless (ไนน์ตี้เอท ไวร์เลส) โครงการแฟล็กชิพบ้านเดี่ยวระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ และ แฟล็กชิพคอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ ที่คาดว่าจะสามารถปิดการขายได้ภายในปีนี้ รวมถึง ความสำเร็จในบ้านเดี่ยวโครงการสราญสิริ ชัยพฤกษ์ – แจ้งวัฒนะ, โครงการบุราสิริ บางนา, โครงการเศรษฐสิริ กรุงเทพกรีฑา และโครงการเศรษฐสิริ พหล-วัชรพล เป็นต้น ในขณะที่ตลาดต่างจังหวัด ประกอบด้วย 3 โครงการที่อยู่อาศัยที่มียอดโอนจากลูกค้าอย่างต่อเนื่อง อาทิ คอนโดมิเนียมบ้านไม้ขาว ภูเก็ต ซึ่งปิดการขายโครงการในช่วงต้นปีที่ผ่านมา โครงการดีคอนโด แคมปัส กู้กู ภูเก็ต และโครงการบ้านเดี่ยว สราญสิริ เกาะแก้ว ภูเก็ต ทั้งนี้ จากการตอบรับโอนที่ดีอย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีแรกนี้ช่วยตอกย้ำความต้องที่อยู่อาศัยในการซื้อเพื่ออยู่จริง

ทั้งยังส่งผลให้บริษัทมีผลประกอบการที่แข็งแกร่งโดยมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 689 ล้านบาท ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

นอกจากนี้บริษัทยังมีรายได้จากการบริหารธุรกิจและบริหารโครงการภายใต้บริษัทร่วมทุนกับบีทีเอสอีกถึง 2,679 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทยังมีแผนการเปิดตัวโครงการใหม่อีก 16 โครงการ มูลค่ารวม 24,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นโครงการแนวราบ 10 โครงการ มูลค่ารวม 13,000 ล้านบาท และโครงการคอนโดมิเนียมอีก 6 โครงการ มูลค่ารวม 11,000 ล้านบาท

ทั้งนี้จากความสำเร็จในการเปิดขายโครงการแนวราบและโครงการระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ซึ่งได้รับการตอบรับจากลุ่มเป้าหมายเป็นอย่างดีในช่วงที่ผ่านมา

ล่าสุดบริษัทยังได้เตรียมเปิดการขายใหม่โครงการ ไทเกอร์ เลน (Tiger Lane) ลักซ์ชัวรี่โฮมออฟฟิศ สูง 4 ชั้น พร้อมลิฟท์และที่จอดรถส่วนตัว บนที่ดินฟรีโฮลด์ผืนสุดท้ายใจกลางย่านเสือป่า เยาวราช ตำแหน่งท้องมังกร ราคาเริ่มต้นที่ 38 ล้านบาท จำนวน 5 ยูนิตสุดเอ็กซ์คลูซีฟ เตรียมพบกับพริวิเล็จพิเศษในวันที่ 31 ส.ค – 1 ก.ย. นี้

ปัจจุบันบริษัทมียอดรอรับรู้รายได้ (Presale Backlog) กว่า 47,000 ล้านบาท ทั้งนี้จากการที่ลูกค้าตอบรับโอนที่อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง ทำให้บริษัทมียอดรอรับรู้รายได้ในปีนี้ไปแล้วถึง 70% จากเป้ารายได้จากการขาย 22,000 ล้านบาทในระยะเวลา 6 เดือน ซึ่งนับเป็นพรีเซลล์ แบ็คล็อกที่สามารถ Secure เป้ารายได้ที่สูงมาก ดังนั้นจึงยังคงเหลือยอดขายและยอดโอนที่จะต้องทำให้ได้ตามเป้าหมายอีกเพียง 30%

บริษัทจึงมั่นใจว่าจะสามารถทำได้ตามเป้าหมายรายได้ที่วางไว้ ทั้งนี้บริษัทยังได้เตรียมส่งมอบคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จใหม่ให้แก่ลูกค้าทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดรวม อีก 9 โครงการ อาทิ ทากะ เฮาส์, เดอะ ไลน์ สุขุมวิท 101, เดอะ ไลน์ พหลฯ – ประดิพัทธ์, เดอะ เบส เพชรเกษม, เดอะ เบส สุขุมวิท 50, เดอะ โมนูเมนต์ ทองหล่อ, คุณ บาย ยู อินสไปร์ บาย สตาร์ค, ลา กาซิตา หัวหิน และ ดีคอนโด หาดใหญ่ ขณะที่โครงการบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ จะทยอยสร้างเสร็จและส่งมอบให้กับลูกค้าตามเฟสต่างๆ โดยจะมีการจัดกิจกรรมโอนส่งมอบที่อยู่อาศัยใหม่เพื่อต้อนรับสมาชิกของครอบครัวแสนสิริ แฟมิลี่ ที่จะมีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการเดินหน้าตามแผนธุรกิจที่วางไว้จะทำให้บริษัทสามารถสร้างผลประกอบการได้ ในเป้าหมายยอดขาย 30,000 ล้านบาท และเป้าหมายยอดโอน 32,000 ล้านบาท

หนังสือ Think of Living