PACE Development ตั้งโต๊ะแถลงข่าวครึ่งปีหลัง พร้อมเผยความคืบหน้าการโอนห้องชุด The Ritz Carlton ในโครงการมหานคร ซึ่งล่าสุดสามารถโอนได้ 937 ลบ. จากยอดขายทั้งหมด 10,000 ลบ. แง้มปลายปีเตรียมเปิดตัวคอนโดใหม่ริมถนนนราธิวาส
นายสรพจน์ เตชะไกรศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า ปัจจุบันเดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน เรสซิเดนเซส ในโครงการมหานครมียอดขายกว่า 70% และมียอด Backlag ประมาณ 9,000 กว่า ลบ. (ปัจจุบันราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ 320,000 บาท/ตร.ม.)
เพื่อปิดการขายให้ได้ในปีหน้า บริษัทฯ จึงได้เตรียมแผนการการตลาด ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมโรดโชว์ที่ประเทศฮ่องกง และห้องตัวอย่างใหม่บนตึก รวมถึงการจัดอีเว้นท์ในครั้งนี้เพื่อสร้างกระแสการรับรู้และต่อยอดการขายในระดับนานาชาติ รวมทั้งยังเป็นการประชาสัมพันธ์ส่วนอื่นๆ ในโครงการไปในตัวก่อนที่จะเปิดให้บริการเต็มรูปแบบในปีหน้า ได้แก่ โรงแรม ร้านอาหารบนยอดตึก จุดชมวิว รวมถึงพื้นที่รีเทล มหานคร คิวบ์ และ มีเดีย วอลล์ ซึ่งจะสร้างรายได้อย่างต่อเนื่องให้กับบริษัท
โดย PACE มีความตั้งใจที่จะสร้างจุดชมวิวบนชั้นสูงสุดของอาคารมหานครแห่งนี้ให้เป็นแลนด์มาร์คการท่องเที่ยวที่ทันสมัยเทียบเท่ากับจุดชมวิวบนอาคารสูงในเมืองหลักๆ ของโลก โดยคาดว่าจะสามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ถึง 6 ล้านคนต่อปี และมีรายได้หลักจากการจำหน่ายบัตรและของที่ระลึก โดยหลังจากเปิดให้บริการส่วนโรงแรม ร้านอาหาร และจุดชมวิวได้ประมาณ 1-2 ปี บริษัทฯ มีแผนที่จะนำรายได้ส่วนนี้จัดตั้งกองทุน REIT ต่อไป
สำหรับผลประกอบการปี 2559 PACE สามารถพลิกทำกำไรได้ในไตรมาสแรก แม้จะขาดทุนในไตรมาสที่ 2 แต่ประสบความสำเร็จในการเพิ่มทุนประมาณ 1.5 พันล้านบาทในเดือนกรกฎาคม ส่งผลให้ PACE คาดว่าจะสามารถลด D/E ratio ได้ในไตรมาสที่ 3 และ 4
ปัจจุบัน PACE มีมูลค่าส่วนที่พักอาศัยรวม 4 โครงการ ได้แก่
- มหานคร
- มหาสมุทร มียอดขายรอโอน ประมาณ 40% มูลค่า 1,500 ลบ. คาดว่า
- นิมิต หลังสวน ผ่าน EIA คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2561
- โครงการใหม่บนถนนนราธิวาสราชนครินทร์ มูลค่า 28,000 ลบ. เตรียมเปิดตัวไตรมาส 4
- โครงการบ้านพักตากอากาศที่ Niseko, Hokkaido คาดว่าจะเริ่มเปิดตัวประมาณปี 2560 พร้อมรับรู้รายได้ภายในปี 2562
PACE ตั้งเป้าที่จะมีรายได้ส่วนอสังหาริมทรัพย์ต่อปีประมาณ 10,000 ลบ. และมีแผนที่จะเปิดโครงการใหม่ 2-3 โครงการ/ปี โดยมีมูลค่าไม่เกิน 10,000 ลบ. เช่นกัน
ด้านธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มกูร์เมต์ ‘ดีน แอนด์ เดลูก้า’ บริษัทฯ มีแผนการลงทุนขยายสาขาใหม่อย่างต่อเนื่องทั้งในสหรัฐอเมริกา ไทย และญี่ปุ่น โดยในครึ่งปีแรก PACE มีรายได้จากดีน แอนด์ เดลูก้า รวมกว่า 2.22 พันล้านบาท และคาดว่าจะมีรายได้เติบโตอย่างต่อเนื่องตามการขยายตัว ปัจจุบัน ดีน แอนด์ เดลูก้า มีสาขาในประเทศไทย 6 สาขา โดยคาดว่าจะมีสาขาทั้งหมด 12 สาขาภายในปี 2559