บริษัท ลุมพินี พรอพเพอร์ตี้ มาเนจเมนท์ จำกัด (LPP) โดยนางสาวสมศรี เตชะไกรศรี กรรมการผู้จัดการ เปิดเผยว่าจากเมื่อต้นปีที่มีการแถลงข่าวกลุ่มธุรกิจให้บริการ บริษัทในเครือ L.P.N. DEVELOPMENT GROUP มีแผนขยายงานบริหารชุมชนสู่ภายนอกนั้น บริษัท LPP ได้เตรียมความพร้อมในแผนงานดังกล่าวด้วยการพัฒนาการดำเนินงานให้เข้าสู่ระบบบริหารคุณภาพ ISO 9001 : 2015 และระบบจัดการสิ่งแวดล้อม ISO 14001 : 2015 ซึ่งเป็นเครื่องมือในการควบคุมคุณภาพด้านงานบริการและรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมในทุกกระบวนการทำงาน
“ในส่วนของบริษัท LPP นั้น แม้ว่าตามคุณค่าการบริการหลังการส่งมอบอาคารชุดพักอาศัย บริษัทจะมีกลยุทธ์การบริหารชุมชน FBLES+P เป็นตัวชี้วัดคุณภาพมาตรฐานอยู่แล้ว แต่เมื่อบริษัทจะขยายงานบริหารชุมชนสู่ภายนอก การเข้าระบบ ISO จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า จึงเป็นอีกก้าวที่สำคัญอันนำมาสู่การบูรณาการความร่วมมือพัฒนากลยุทธ์การบริหารชุมชนให้มีระบบมาตรฐานสากลมารองรับ จนในที่สุดแล้วอาจนำมาตรฐานเหล่านี้มาพัฒนาเป็นระบบขององค์กรเองในแบบที่ทุกคนยอมรับ”
ขณะเดียวกัน บริษัท ลุมพินี พร็อพเพอร์ตี้ เซอร์วิส แอนด์ แคร์ จำกัด (LPC) โดยนางสาวสุรัสวดี ซื่อวาจา กรรมการผู้จัดการ ได้กล่าวเสริมถึงแผนการพัฒนาการดำเนินงานให้เข้าสู่การยอมรับในระบบมาตรฐานสากล ISO ว่า
“เนื่องจากแนวโน้มธุรกิจการให้บริการมีโอกาสขยายตัวมากขึ้น ทำให้เกิดการแข่งขันสูง ส่งผลให้ผู้ประกอบการหลายรายต้องสร้างความเชื่อมั่นในระยะยาวให้กับกลุ่มลูกค้า ซึ่งบริษัทเองก็มีความพร้อมที่จะพัฒนาให้ก้าวสู่ระดับสากลเช่นกัน ทั้งนี้เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน ควบคู่กับการยกระดับมาตรฐานการจัดการสิ่งแวดล้อม ทั้งช่วยลดต้นทุนระยะยาว และมีส่วนร่วมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ผู้ใช้บริการ อย่างไรก็ตาม ความสำคัญของแผนดังกล่าวจะประสบความสำเร็จได้อยู่ที่คนในองค์กรต้องร่วมมือร่วมใจกันนำมาสู่ความยั่งยืนของธุรกิจ”
ด้านบริษัท ลุมพินี โปรเจค มาเนจเมนท์ เซอร์วิส จำกัด (LPS) โดย ดร.พร วิรุฬห์รักษ์ กรรมการผู้จัดการ กล่าวถึงประโยชน์ที่จะได้รับจากการนำธุรกิจของบริษัท LPS เข้าสู่ระดับสากล ISO 9001 : 2015 และ ISO 14001 : 2015 ว่า
“สำหรับประโยชน์ที่ได้รับนั้น มีทั้งภายในและภายนอกองค์กร โดยภายในองค์กรเป็นการรักษามาตรฐานในการปฏิบัติงานอย่างสม่ำเสมอ และต่อเนื่อง ทั้งยังเกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการดำเนินงานได้เป็นอย่างดี มีโครงสร้างมาตรฐานที่ทำให้พนักงานเข้าใจ พร้อมร่วมขับเคลื่อนอย่างบูรณาการ เสริมศักยภาพและจุดแข็งด้านคุณค่าผลิตภัณฑ์ (Product Value) ที่มีเพื่อสร้างประโยชน์สูงสุดแก่บริษัท ส่วนภายนอกองค์กรทำให้ลูกค้าที่เป็นผู้ใช้บริการเชื่อมั่นในการดำเนินงานของบริษัททั้งในด้านคุณภาพและสิ่งแวดล้อม ซึ่งตาม Road Map ISO ที่วางไว้ ตั้งเป้าหมายร่วมกันว่าจะคว้า 2 มาตรฐาน ISO ดังกล่าว ประมาณกลางปี 2561 นี้”