หลังจากแถลงข่าว ICONSIAM เพิ่มวงเงินลงทุนอีก 4,000 ลบ. ไปเมื่อต้นปี ล่าสุดบริษัทฯ ก็ได้ฤกษ์เปิดตัว ICONSIAM Heritage Museum พิพิธภัณฑ์ระดับโลกแห่งแรกของประเทศไทยบนพื้นที่โครงการ ICONSIAM ซึ่งเป็นโครงการ MOU ระหว่างกระทรวงวัฒนธรรม
โดยวันนี้กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม และบริษัท ไอคอนสยาม จำกัด ได้ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือว่าด้วยการส่งเสริมเผยแพร่คุณค่าศิลปะและวัฒนธรรมไทย เพื่อพัฒนาให้มีการจัดแสดงมรดกทางศิลปวัฒนธรรมของชาติ อันประกอบด้วยโบราณวัตถุและศิลปวัตถุ ภายใน ICONSIAM Heritage Museum พิพิธภัณฑ์ระดับโลกแห่งแรกของประเทศไทย พื้นที่แลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม และสิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยว ที่จะเป็นปรากฏการณ์ใหม่ครั้งแรกในประเทศไทย
กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม และไอคอนสยาม จึงได้ตกลงร่วมกันที่จะดำเนินการหารือ และแลกเปลี่ยนข้อมูล เพื่อจัดให้มีและพัฒนาการจัดแสดงมรดกทางศิลปวัฒนธรรมของชาติไทย ภายใต้รูปแบบการจัดแสดงที่ได้มาตรฐานเทียบเท่ากับพิพิธภัณฑสถานในระดับสากล ซึ่งกรมศิลปากรจะทำการวิเคราะห์ คัดสรร อนุรักษ์ จัดเตรียมโบราณวัตถุและศิลปวัตถุ เพื่อจัดแสดงในห้องจัดแสดง National Heritage Gallery ซึ่งเป็นหนึ่งในห้องจัดแสดงจำนวน 3 ห้องของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า “พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือว่าด้วยการส่งเสริม เผยแพร่คุณค่าศิลปะและวัฒนธรรมไทย ระหว่าง กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม กับ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด ในวันนี้ นับเป็นนิมิตหมายที่ดีที่ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมกับภาครัฐในการสนับสนุน ส่งเสริม และเผยแพร่วัฒนธรรมไทย
นายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า “ความร่วมมือในครั้งนี้ นับเป็นจุดเริ่มต้นของการบูรณาการระหว่างภาครัฐและเอกชน เบื้องต้นทางไอคอนสยามได้แจ้งความจำนงที่จะมอบรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายจากการเก็บค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์สมทบ ‘กองทุนโบราณคดี’ เพื่อทำนุบำรุงรักษาโบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ต่อไป”
นางชฎาทิพ จูตระกูล กรรมการ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด กล่าวว่า “ในการลงทุนเพื่อพัฒนาโครงการพิพิธภัณฑ์ ด้วยงบประมาณการลงทุนกว่า 500 ล้านบาท ณ ศูนย์การค้าไอคอนสยาม นี้ บริษัทมีความมุ่งมั่นที่จะยกระดับความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน เป็นมิติใหม่ที่ภาคเอกชนเสนอตัว เข้ามามีส่วนร่วมในการส่งเสริม และเผยแพร่มรดกอันล้ำค่าทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมไทยให้ปรากฏต่อสายตาทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติอย่างเป็นรูปธรรม การลงทุนดังกล่าวนี้ แม้จะเป็นมูลค่าการลงทุนจำนวนมหาศาล แต่ไอคอนสยามมิได้มุ่งแสวงหากำไรจากการดำเนินโครงการพิพิธภัณฑ์ แต่มีความปรารถนาที่จะให้ทุกภาคส่วนหันกลับมาให้ความสนใจและตระหนักถึงคุณค่าของการดำเนินการจัดสร้างพิพิธภัณฑ์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์สำคัญที่บ่งบอกถึงระดับความก้าวหน้าในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ”
ทั้งนี้ ไอคอนสยามจะดำเนินการมอบรายได้ส่วนหนึ่งหลังหักค่าใช้จ่าย ซึ่งมาจากการเก็บค่าเข้าชมการจัดแสดงมรดกทางศิลปวัฒนธรรมของชาติ สมทบเข้า ‘กองทุนโบราณคดี’ เพื่อทำนุบำรุงรักษาโบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติต่อไป
โดยในเบื้องต้น พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะมีส่วนจัดแสดงงานศิลปวัฒนธรรม 3 ส่วน ประกอบด้วย
ส่วนที่ 1. National Heritage Gallery – จัดแสดงศิลปวัตถุที่เป็นมรดกทางศิลปวัฒนธรรมของชาติไทย ที่เกิดจากความร่วมมือกับกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม
ส่วนที่ 2. ส่วนพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการหมุนเวียน ที่รองรับการจัดแสดงผลงานสุดยอด Masterpieces และนิทรรศการหมุนเวียนจากพิพิธภัณฑ์ระดับโลก ซึ่งจะหมุนเวียนมาจัดแสดงทั้งศิลปวัตถุ ภาพเขียน ผลงานศิลปะ รวมถึงสมบัติล้ำค่าจากทั่วทุกมุมโลก
ส่วนที่ 3. River Gallery ส่วนการจัดแสดงนิทรรศการศิลปกรรมร่วมสมัย ที่สามารถจัดแสดงผลงานของศิลปินร่วมสมัยทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติที่มีชื่อเสียง ให้ผู้เข้าเยี่ยมชมสามารถสัมผัสชิ้นงานศิลปะได้อย่างใกล้ชิด และยังเป็นพื้นที่จัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับศิลปะต่างๆ อีกด้วย
ICONSIAM มีความตั้งใจอย่างยิ่งที่จะพัฒนาให้พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ มีโครงสร้างพื้นฐานและระบบดำเนินการที่ได้มาตรฐานเทียบได้กับพิพิธภัณฑ์ระดับโลก ดังนั้นไอคอนสยามจึงได้ทำงานร่วมกับบริษัท Lord Cultural Resources ซึ่งมีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ในการพัฒนาและวางระบบจัดพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงหลายแห่งของโลก บริษัทผู้เชี่ยวชาญนี้เคยทำงานให้กับพิพิธภัณฑ์ Lourve ในประเทศฝรั่งเศส พิพิธภัณฑ์ Guggenheim ใน Bilbao ประเทศสเปน เป็นผู้วางระบบให้กับ Tate Modern ในประเทศอังกฤษ และพัฒนาระบบการจัดเอกสารและความปลอดภัยของเอกสารสำคัญให้ Library of Congress ในอาคารรัฐสภาของสหรัฐอเมริกา และจะทำงานร่วมกับ Curator ระดับโลกในการคัดสรรนิทรรศการ Masterpiece จากประเทศต่างๆ มาจัดแสดงอย่างต่อเนื่องอีกด้วย
ผู้เชี่ยวชาญดังกล่าวจะเป็นทีมงานสำคัญ ที่จะมาทำแผนแม่บทของการใช้พื้นที่ของพิพิธภัณฑ์ที่ไอคอนสยาม จัดทำระบบการจัดการเพื่อการรักษาความปลอดภัยสูงสุดในการแสดงสมบัติล้ำค่า การกำหนดมาตรฐานคุณภาพวัสดุที่จะใช้ในการออกแบบและก่อสร้าง รวมทั้งกำหนดมาตรฐานคุณภาพอากาศ ระบบการควบคุมความชื้น ระบบบริหารพื้นที่เพื่อการจัดแสดงทรัพย์สินมีค่า ทั้งหมดนี้เพื่อพิพิธภัณฑ์ ณ อาคารไอคอนสยาม มีมาตรฐานเทียบได้กับพิพิธภัณฑ์ระดับโลก ควรค่าแก่การจัดแสดงสมบัติทางวัฒนธรรมของชาติ และพร้อมที่นำเสนอสมบัติทางวัฒนธรรมของโลกมาแสดงต่อสายตาคนไทย
โดย ICONSIAM Heritage Museum พร้อมเปิดให้บริการ ภายในปี 2561