สำหรับปีนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งปีที่ร้อนแรงของ “บริษัท เซ็นทรัล พัฒนา จำกัด (มหาชน)” หรือ CPN เนื่องจากเมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา สามารถกวาดรายได้ 15,000 ลบ. คิดเป็น 50% ของเป้าที่ตั้งไว้ทั้งปี 30,000 ลบ. หลังจากประสบความสำเร็จในการเปิดตัวศูนย์การใหม่ 4 แห่ง อาทิ Central Plaza ระยอง, Central Festival ภูเก็ต, Central Plaza Westgate และ Central Festival Eastvile ซึ่งกลายเป็นปัจจัยหลักที่สร้างรายได้ปีนี้
รายได้ส่วนใหญ่ของ CPN 92% เป็นรายได้ประจำจากพื้นที่เช่าศูนย์การค้า 30 แห่ง และอาคารสำนักงาน 5 แห่ง ซึ่งมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องจากแผนการเปิดศูนย์การค้าใหม่ 7 แห่ง ภายในปี 2018 และเพิ่มขึ้นร่วม 13 แห่ง ภายในปี 2020 โดยจะเน้นการเปิดศูนย์ในต่างจังหวัดและชานเมืองกรุงเทพ เพื่อให้สอดคล้องกับแนวโน้มการขยายตัวของสังคมเมือง …และวันนี้เราขอเปิดแผนธุรกิจที่ทางเซ็นทรัลพัฒนาฯ วางไว้ในระยะ 2 ปี มาให้ดูกันซักหน่อย 🙂
5 โครงการใหม่ มูลค่ารวมกว่า 35,000 ลบ.
1. Central I-City, Malaysia
ในระยะ 5 ปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้พิจารณาและศึกษาถึงโอกาสในการขยายการลงทุนในต่างประเทศ โดยมุ่งความสนใจไปยังประเทศในภูมิภาคเอเชียที่มีศักยภาพและอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูง ปัจจุบันบริษัทฯ ได้ลงนามในสัญญาร่วมทุนกับ I-R&D Sdn. Bhd (IRD) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ I-Berhad โดยบริษัทถือหุ้น 60% ผ่านบริษัทย่อย และ IRD ถือหุ้น 40% บริษัทร่วมทุนดังกล่าวจะพัฒนาศูนย์การค้ามูลค่า 8,500 ลบ. ในโครงการ i-City ของมาเลเซีย
Central i-city 3
2. Central Plaza นครศรีธรรมราช
ไลฟ์สไตล์ช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ขนาดใหญ่ที่สมบูรณ์แบบที่สุดของจังหวัด รองรับการเป็นโลจิสติคส์ ฮับ ของภาคใต้ ได้เปิดให้บริการแล้วเมื่อเดือนกรกฎาคม 2559
CentralPlaza Nakhon sithammarat 3
3. Central Plaza มหาชัย
ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพบนถนนพระรามสอง เส้นทางหลักที่เชื่อมต่อสู่ภาคใต้ รายล้อมไปด้วยแหล่งเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมสำคัญของจังหวัดสมุทรสาครและจังหวัดใกล้เคียงและเป็นแหล่งอาหารทะเลขึ้นชื่อ เป็นจุดแวะพักที่การเดินทางสมบูรณ์แบบ โดยใช้เส้นทางด่วนหรือใช้เส้นวงแหวนรอบนอก ด้านหน้าศูนย์ฯ มีพื้นที่จอดรถกว้างขวาง รองรับรถสาธารณะและรถทัวร์สำหรับนักท่องเที่ยวและผู้ที่สัญจรผ่านไปมา บนพื้นที่ใหญ่ขนาด 10,000 ตร.ม. เตรียมเปิดให้บริการปี 2560
CentralPlaza Mahachai 5
4. Central Plaza นครราชสีมา
มหานครแห่งอีสาน โครงการมิกซ์ยูสยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งภาคอีสาน ประกอบด้วย ศูนย์การค้า โรงแรม ศูนย์ประชุม คอนโดมิเนียม ตลาดไลฟ์สไตล์เอาท์ดอร์ และสวนสาธารณะไว้ในที่เดียวกัน สร้างสรรค์โมเดลการใช้ชีวิตสมัยใหม่ให้กับชาวอีสานได้อย่างครบทุกมิติ ชูไฮไลท์การตกแต่งที่แปลกใหม่ มอบสีสันใหม่แห่ง 5 ฤดูกาลให้ภาคอีสาน และสร้างสรรค์ “โคราช ริเวอร์วอล์ค” ศูนย์รวมการพักผ่อนและการทำกิจกรรมต่างๆ ของชาวโคราช เตรียมเปิดให้บริการปลายปี 2560
CentralPlaza Nakhon ratchasima (Korat) 5 -Korat Riverwalk
5. Central Phuket
เมกะโปรเจ็คยิ่งใหญ่ระดับเวิลด์คลาส มูลค่ารวมทั้งโครงการกว่า 20,000 ล้านบาท ใจกลางเกาะภูเก็ต ศูนย์การค้าที่ตอบสนองความต้องการทั้งลักซ์ชัวรี-ไลฟ์สไตล์ และแคชชวล-ไลฟ์สไตล์ ของทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยว พร้อมทั้งโรงแรมระดับพรีเมียม ศูนย์ประชุมนานาชาติ และแอทแทรคชั่น ที่มอบประสบการณ์พิเศษเหนือจินตนาการ ใน 3 รูปแบบ ได้แก่
1) เดอะ มิสทีค ฟอร์เรสต์ (The Mystic Forest) ครั้งแรกของโลกกับสวนสวรรค์แดนมหัศจรรย์แห่งโลกอนาคต ที่นำเทคโนโลยีอันทันสมัย มาผสมผสานกับ วัฒนธรรมไทย พื้นที่สีเขียว และกิจกรรมแบบแอดเวนเจอร์
2) อะควาเรีย (Aquaria) การร่วมมือระหว่างประเทศไทยและมาเลเซียเพื่อสร้างโลกใต้ทะเลที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย รวมถึง อะควาสเคป (Aqua Scape) สถานที่จัดแสดงพรรณไม้น้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก
3) เทลส์ ออฟ ไทยแลนด์ (Tales of Thailand) ย่านตลาดน้ำและของดีจากทั่วทุกภาค ที่จะดึงดูดทั้งนักท่องเที่ยวทั่วโลกให้มาสัมผัสกับวิถีชีวิต แบบไทยๆ สร้างแลนด์มาร์คที่แสดงเอกลักษณ์ความเป็นไทยอันน่าภาคภูมิใจให้จังหวัดภูเก็ต นอกจากนี้ ภายในโครงการ ยังมี แหล่งบันเทิงระดับเวิลด์คลาส และสถานที่แฮงค์เอาท์ที่รวมร้านอาหารชั้นนำ เตรียมเปิดให้บริการปลายปี 2560
Central Phuket 6
เปิดภาพ 5 โครงการเตรียมปรับปรุง มูลค่าประมาณ 25,000 ลบ.
1. Central Plaza ปิ่นเกล้า
2. Central Plaza บางนา
CentralPlaza Bangna 1
3. Central Plaza พัทยา
4. Central Plaza พระราม 3
5. Central World
CPN ได้เปรียบในตลาดค้าปลีก เนื่องจากมีศูนย์การค้ากระจายตัวทั้งในกรุงเทพปริมณฑล 13 แห่ง และต่างจังหวัด 17 แห่ง คิดเป็นพื้นที่เช่าในกรุงเทพ 52% ต่างจังหวัด 48% เหนือกว่าคู่แข่งส่วนใหญ่ ซึ่งมีศูนย์การค้ากระจุดตัวอยู่แต่ในกทม. และด้วยแนวโน้มการขยายตัวของสังคมเมืองจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐ และจากกำลังซื้อที่สูงขึ้ยของครัวเรือนต่างจังหวัด จะทำให้ CPN เป็นผู้ได้ประโยชน์มากที่สุด และจะสนับสนุนการเติบโตของอัตราค่าเช่า ประกอบกับการมีแบรนด์ในเครือที่แข็งแกร่ง และเป็นผู้มีจำนวนศูนย์การค้าในต่าจังหวัดมากที่สุด คาดว่า CPN จะสามารถเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดทั้งในกทม. และต่างจังหวัดได้อย่างต่อเนื่อง