จากในอดีตถึงปัจจุบัน ถ้าพูดถึงทำเลที่เหมาะแก่การอยู่อาศัยในเขตกรุงเทพฯ แล้วนั้น บริเวณสถานีรถไฟฟ้า BTS ทองหล่อ ก็น่าจะเป็นอีกบริเวณหนึ่งที่อยู่ในใจของหลายๆ คน เนื่องจากเป็นทำเลที่มีศักยภาพสูง เป็นแหล่งรวมของร้านค้า ร้านอาหาร และแหล่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น โรงเรียนนานาชาติ แหล่งช้อปปิ้ง แหล่งเอ็นเตอร์เทนเมนท์ ซึ่งถือเป็นจุดดึงดูดความสนใจทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ส่งผลให้มีความต้องการในการอยู่อาศัยเป็นจำนวนมาก โดยหากมองถึงความคุ้มค่าในการลงทุน นับเป็นอีกทำเลหนึ่งที่น่าสนใจทีเดียว
จุดเด่นที่สำคัญอันดับแรกของสถานีรถไฟฟ้า BTS ทองหล่อนั้นก็คือ ทำเลซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างถนนสุขุมวิทกับถนนทองหล่อ โดยมีซอยตรงข้ามเป็นซอยสุขุมวิท 36 และสุขุมวิท 38 มีเส้นทางลัดที่สามารถเชื่อมไปยังถนนสุขุมวิทในซอยต่างๆ ได้อีกหลายซอย เช่น ซอยสุขุมวิท 49 และสุขุมวิท 51 เป็นต้น รวมถึงถ้าต้องการเดินทางไปโซนภาคตะวันออก เช่น พัทยา ชลบุรี ระยอง ก็สามารถเดินทางออกถนนเพชรบุรี ขึ้นทางด่วน เข้าสู่มอเตอร์เวย์ได้โดยสะดวกสบาย อีกทั้งโซนทองหล่อยังเป็นแหล่งรวมไปด้วย ร้านค้าต่างๆ มากมาย ทำให้เกิดความคึกคักแทบตลอดทั้งวัน สำหรับคนที่ไม่ชอบใช้รถใช้ถนนเพราะเบื่อกับการจราจร สามารถเลือกเดินทางโดยใช้รถไฟฟ้า BTS หรือจะไปเชื่อมต่อรถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT) ก็ได้เพียงไม่กี่สถานี
จากศักยภาพของทำเลดังกล่าว ทำให้บริษัทพัฒนาที่อยู่อาศัยจำนวนมาก โดดเข้ามาพัฒนาพื้นที่บริเวณสถานีรถไฟฟ้า BTS ทองหล่อ ให้เป็นที่อยู่อาศัย ที่ตอบรับกับ Lifestyle ที่มีการปรับเปลี่ยนไป ซึ่งคอนโดมิเนียมที่เปิดตัวในบริเวณนี้ต่างก็ได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดีถึงดีมาก บางโครงการสามารถปิดการขายได้โดยใช้ระยะเวลาเพียงไม่กี่วัน
ทั้งนี้ในปัจจุบันที่ดินบริเวณสถานีรถไฟฟ้า BTS ทองหล่อ แทบจะไม่เหลือพื้นที่ที่สามารถนำมาพัฒนาเป็นที่อยู่อาศัยได้อีกแล้ว จึงยิ่งทำให้ได้รับความนิยมและเป็นที่ต้องการมากขึ้นไปอีก และยังกระจายความต้องการไปสู่บริเวณข้างเคียงเช่นซอยสุขุมวิท 49 หรือซอยสุขุมวิท 51 และซอยสุขุมวิท 36-38 ที่อยู่ตรงข้ามซอยทองหล่ออีกด้วย และจากเหตุผลดังกล่าว ทำให้ในบริเวณนี้มีการปรับราคาที่ดินเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ซึ่งถ้าดูจากราคาประเมินที่ดินกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลังพบว่า ในปัจจุบัน (ปี 2555-2558) มีราคาประเมินที่ดินเฉลี่ยที่ 350,000 บาท/ ตร.ว. ปรับเพิ่มขึ้นจากราคาประเมินในช่วงก่อนหน้า (ปี 2550-2554) ที่มีราคาประเมินที่ดินเฉลี่ยเพียง 200,000 บาท/ ตร.ว. ถึงร้อยละ 75 และคาดการณ์ว่า ในปี 2559-2562 ราคาประเมินที่ดินจะมีแนวโน้มปรับเพิ่มสูงขึ้นถึงร้อยละ 40 เป็น 450,000-500,000 บาท/ ตร.ว.
เมื่อดูจากราคาเปิดตัวโครงการย้อนหลังไปในช่วง 5 ปีที่แล้ว พบว่าในบริเวณสถานีรถไฟฟ้า BTS ทองหล่อ มีราคาเปิดตัวเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 105,000 บาท/ตร.ม. แต่ถ้าดึงข้อมูลมาดูเฉพาะ ในช่วง 2-3 ปีนี้ จะพบว่า ราคาเปิดตัวโครงการเฉลี่ยมีการปรับตัวสูงขึ้นมากถึงร้อยละ 35 อยู่ที่ประมาณ 140,000 บาท/ ตร.ม. ส่วนหนึ่งเนื่องมาจากโครงการที่พึ่งเปิดตัวใหม่ช่วงต้นปีที่ผ่านมาในทำเลนี้ อย่างคอนโดมิเนียม Tela Thonglor บนถนนทองหล่อซอย 13 เจ้าของคือบริษัท เกษร พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เป็นโครงการคอนโดมิเนียมระดับ Super High End บนพื้นที่ 1-3-63.20 ไร่ สูง 33 ชั้น โดยมีราคาขายเริ่มต้นสูงถึง 300,000 บาท/ตร.ม. แต่เมื่อดูจากราคาขายคอนโดในตลาดมือสอง พบว่าราคาคอนโดที่เสนอขายของโครงการเหล่านี้มีการปรับราคาสูงขึ้นอีก นั้นสะท้อนถึงความต้องการที่อยู่อาศัยในบริเวณนี้ที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก โดยราคาเสนอขายเฉลี่ยจะอยู่ที่ 200,000 บาท/ตร.ม. ปรับเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 43 ของราคาเปิดตัวโครงการในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา อีกทั้งยังมีแนวโน้มที่จะปรับตัวสูงขึ้นไปอีก จากพื้นที่ที่จำกัด แต่ความต้องการยังคงได้รับอย่างต่อเนื่อง
ในส่วนของอัตราการเข้าอยู่อาศัยบริเวณสถานีรถไฟฟ้า BTS ทองหล่อ หากมองลึกลงไปก็จะยิ่งพบว่า มีอัตราการเข้าอยู่อาศัยเฉลี่ยสูงถึงกว่าร้อยละ 80 นั้นหมายถึงคนส่วนใหญ่นิยมอยู่อาศัยในบริเวณนี้อย่างแท้จริง มีการเก็งกำไรเพียงเล็กน้อย ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนเพื่อปล่อยเช่า และมีผู้เช่า รวมถึงการเข้าอยู่อาศัยเองด้วย ซึ่งตอกย้ำให้เห็นว่าทำเลบริเวณนี้ได้รับความนิยมอย่างสูงไม่ว่าจะเป็นชาวไทยหรือชาวต่างชาติ โดยจากข้อมูลพบว่า ชาวไทย และชาวต่างชาติมีสัดส่วนเป็นร้อยละ 40 : 60
จากข้อมูลข้างต้นพบว่าบริเวณสถานีรถไฟฟ้า BTS ทองหล่อ เป็นบริเวณที่มีศักยภาพอย่างยิ่ง โดยโครงการที่น่าสนใจในบริเวณนี้ ได้แก่ โครงการ HQ By Sansiri ของ บมจ. แสนสิริ เป็นโครงการพึ่งก่อสร้างแล้วเสร็จอายุไม่เกิน 2 ปี ราคามือสองในปัจจุบันเฉลี่ยจะอยู่ที่ ประมาณ 190,000 บาท/ ตร.ม. ปรับเพิ่มขึ้นจากราคาเปิดตัวประมาณร้อยละ 60 หรือจะเป็นโครงการที่แล้วเสร็จไปแล้วอายุไม่เกิน 5 ปี เช่นโครงการ Quattro by Sansiri ของบมจ. แสนสิริ ที่มีราคามือสองอยู่ที่ประมาณ 230,000 บาท/ ตร.ม. ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากราคาเปิดตัวประมาณร้อยละ 50 และโครงการ Noble Remix ของบมจ.โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ ที่มีราคามือสองเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 140,000 บาท/ ตร.ม. ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากราคาเปิดตัวประมาณ ร้อยละ 40 อีกทั้งยังมีโครงการ RHYTHM Sukhumvit 36-38 ของบมจ. เอพี (ไทยแลนด์) ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง มีกำหนดแล้วเสร็จในปี 2559 ราคาตลาดในปัจจุบันก็มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นแล้ว ร้อยละ 13 เห็นได้ว่าโครงการคอนโดมิเนียมในย่านนี้ ไม่ว่าจะสร้างแล้วเสร็จมีอายุไม่เกิน 5 ปี หรือน้อยกว่านั้น หรือแม้แต่คอนโดที่กำลังก่อสร้างอยู่ ต่างก็มีราคาเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งคุ้มค่าแก่การซื้อเพื่ออยู่อาศัย เป็นทรัพย์สินให้ลูกหลาน หรือการลงทุนในระยะสั้นและยาว เนื่องจากทำเลใกล้รถไฟฟ้า สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่หรือชาวต่างชาติที่ต้องการความสะดวกสบาย แวดล้อมด้วยแหล่งสาธารณูปโภค และสาธารณูปการต่างๆ ครบครัน
