รีวิวโครงการ

The Origin Plug & Play รามอินทรา กลุ่มคอนโด High Rise ติดถนนรามอินทราและใกล้สถานี รามอินทรา กม.9 จาก Origin [รีวิวฉบับที่ 2147]

30 ตุลาคม 2020

อ่านรีวิวล่าสุด

หลังจาก บริษัท ออริจิ้น คอนโดมิเนียม จำกัด ในเครือ Origin Property  ประสบความสำเร็จกับโครงการดิ ออริจิ้น อ่อนนุช แบบ Next Normal ด้วยการขายผ่านแพลทฟอร์มออนไลน์ Evenprop 100% ไม่มีสำนักงานขาย จนสามารถสร้างราคาที่คุ้มค่าและเซอร์ไพรส์ตลาด ล่าสุด เครือออริจิ้น ยังเตรียมส่งคอนโดมิเนียมแบรนด์ “ดิ ออริจิ้น” (The Origin) บุกตลาดต่อเนื่องอีก 2 โครงการ 2 ทำเล แถมยังมีเครื่องมือใหม่ มาช่วยหนุนการขายแบบ Next Normal อีกด้วย

Lab Room เครื่องมือช่วยขายในวันที่ไม่มีสำนักงานขาย
แบรนด์ ดิ ออริจิ้น ถือเป็นแบรนด์ที่เจาะตลาดแมส โดยเฉพาะตลาดคนรุ่นใหม่กลุ่ม Gen Z เน้นพัฒนาโครงการให้ดูวัยรุ่น ทันสมัย ทั้งในพื้นที่ส่วนกลางและภายในห้องพัก และที่สำคัญคือ มีราคาที่จับต้องได้จริง

วิธีหนึ่งที่จะช่วยให้โครงการแบรนด์ดิ ออริจิ้น ทำราคาได้คุ้มกว่าโครงการอื่นๆ ในทำเลเดียวกัน คือการประหยัดต้นทุนการพัฒนาสำนักงานขาย และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง อาทิ ค่าพนักงานขายประจำสำนักงาน ค่าพนักงานรักษาความปลอดภัย ค่าพนักงานทำความสะอาด นับตั้งแต่เริ่มพรีเซลจนปิดการขายโครงการ รวมราว 30 ล้านบาท นำไปปรับราคาคอนโดให้คุ้มค่าและเข้าถึงง่ายยิ่งขึ้น และขายผ่าน Online Presales Event Platform แทน เพราะกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่เองก็นิยมค้นหาข้อมูลต่างๆ ผ่านอินเทอร์เน็ต ไม่ได้ซีเรียสเรื่องการต้องชมห้องตัวอย่างจริงมากเหมือนในอดีต

ล่าสุด ออริจิ้น ยังมีเครื่องมือใหม่ คือการพัฒนา “Lab Room” ไว้ที่สำนักงานใหญ่ออริจิ้น ชั้น 21 อาคารภิรัชทาวเวอร์@ไบเทค บางนา โดยตัว Lab Room นี้ จะมีหน้าตาเสมือน “ห้องตัวอย่างกลาง” ของแบรนด์ดิ ออริจิ้น เป็นเสมือนมาสเตอร์แพลนที่พนักงานขายรวมถึงพนักงานของออริจิ้นทุกคนสามารถถ่ายรูปและถ่ายวิดีโอจาก Lab Room นี้ให้ลูกค้าที่สนใจชมได้ ว่าห้องของแบรนด์ดิ ออริจิ้นแต่ละแบบจะมีหน้าตาอย่างไร มีฟังก์ชันโดดเด่นแค่ไหน

เบื้องต้น ออริจิ้น พัฒนา Lab Room ออกมา 3 ขนาดด้วยกัน ได้แก่

  1. ห้องแบบ Smart Closet 22 ตร.ม.
  2. ห้องแบบ 1 ห้องนอน 26 ตร.ม.
  3. 3.ห้องแบบ 1 ห้องนอนพลัส 34 ตร.ม.

ขายแบบ Next Normal ต่อเนื่อง กับ ดิ ออริจิ้น สุขุมวิท-สายลวด อี 22 สเตชั่น
ด้วยการตั้งเป้าสร้าง Reaching Solution ให้แก่ผู้บริโภคในจังหวะเวลานี้ ออริจิ้นจึงเตรียมเปิดขายโครงการ ดิ ออริจิ้น สุขุมวิท-สายลวด อี 22 สเตชั่น (The Origin Sukhumvit-Sailuat E22 Station) แบบ Next Normal กันต่อเนื่องผ่านแพลทฟอร์ม https://evenprop.com/e22 ในราคาที่เข้าถึงง่ายแสนง่ายล้านต้นๆ เริ่มต้นเพียง 1.0XX ล้านบาท ปัจจุบัน สามารถเข้าไปวางเงินจองเบาๆ เพียง 2,222 บาทต่อห้องได้แล้วบนเว็บไซต์ ซึ่งสำหรับโครงการนี้เอง จะมีการเปิดขาย Presale Online Booking ประมาณช่วงต้นไตรมาส 4

นอกจากเรื่องราคาที่เข้าถึงง่ายแสนง่ายแล้ว โครงการนี้ยังโดดเด่นด้วยทำเลที่เต็มไปด้วย “ความใกล้” ทั้งใกล้รถไฟฟ้า BTS ส่วนต่อขยายสายสีเขียวเข้ม สถานีสายลวด เพียง 222 เมตร ใกล้แหล่งงาน ทั้งย่านบางนาที่มีภิรัชทาวเวอร์และ Bangkok Mall และนิคมอุตสาหกรรมบางปูซึ่งมีโรงงานอยู่มากกว่า 400 โรงงาน รองรับคนมากกว่า 4.5 แสนตำแหน่งงาน เดินทางด้วยรถยนต์เพียง 15 นาที ที่สำคัญ นั่งรถไฟฟ้าต่อเดียวไม่ต้องเปลี่ยนสายถึงในเมืองทั้งทองหล่อ สยาม ฯลฯ

ตัวโครงการเป็นอาคาร 31 ชั้น 998 ยูนิต ตั้งอยู่บนพื้นที่ขนาด 3-2-0 ไร่ ห้องพักอาศัยยึดแบบ “ห้องตัวอย่างกลาง” ของ “Lab Room” ทั้ง 3 ขนาด เริ่มด้วย 1.ขนาด 21.5-22 ตร.ม. 2.ขนาด 26 ตร.ม. และ 3.ขนาด 34 ตร.ม.

พื้นที่ส่วนกลาง ครบถ้วนด้วยฟังก์ชันหลักๆ ของแบรนด์ดิ ออริจิ้น อาทิ Co-passion , สระว่ายน้ำขนาด 50 เมตร, Fitness, Sky Lounge, Rooftop Garden, View Point, Studio, Game Room, นอกจากนี้ ยังพิเศษด้วยโซน Outdoor Activities ที่มาตอบโจทย์การเล่นกีฬาแบบ Next Normal ทั้ง Multi Sport Area พื้นที่ที่เล่นได้ทั้งบาสเก็ตบอลและสเก็ตบอร์ด, Active Play Space ที่มีทั้งกิจกรรมปีนผาและแทรมโปลีน คาดว่าโครงการจะเริ่มก่อสร้างช่วงไตรมาส 1/2564 และก่อสร้างแล้วเสร็จช่วงไตรมาส 1/2566

ฟังก์ชันโดดเด่นกับ The Origin Plug & Play รามอินทรา
อีกโครงการหนึ่งของแบรนด์ ดิ ออริจิ้น นั้น เรียกว่าตอกย้ำความแข็งแกร่งของ “ดิ ออริจิ้น สมาร์ท ซิตี้ รามอินทรา” หนึ่งในโครงการแฟล็กชิพใหม่ย่านรามอินทรา โดยออริจิ้นจะพัฒนาโครงการดิ ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ รามอินทรา (The Origin Plug & Play Ramintra) ขึ้นบนถนนรามอินทรา ระหว่าง ซ.79/1 และ ซ.81 ห่างรถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีสินแพทย์เพียง 70 เมตร ซึ่งรถไฟฟ้าสายสีชมพูน่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในช่วงปี 2565 พร้อมใช้งานทันทีเมื่อโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จ ใกล้วงแหวนกาญจนาภิเษกเพียง 1 กม. ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ เพียง 3.3 กม.ประกอบด้วยที่พักอาศัย 6 อาคาร จำนวนรวม 679 ยูนิต

แม้โครงการนี้จะไม่ได้เปิดขายผ่านออนไลน์อย่างเดียว แต่ตัวโครงการนี้แอบมีฟังก์ชันเด็ดๆ ที่จะเป็น “Living Solution” ตอบโจทย์การใช้ชีวิตแบบ Next Normal ให้ผู้บริโภค

สำหรับพื้นที่ส่วนกลางในทุกตึกนั้นจะมี Facility อยู่บนดาดฟ้า และยังสามารถเชื่อมต่อถึงกันได้ จากตึก A เป็น Fitness ตึก B จะมี swimming pool ตึก C จะมีพื้นที่ Co-play และตึก D จะมี Co-working space เรียกได้ว่าจัดเต็มทั้งความสนุกและวิวสวยๆที่ชั้นบน ในส่วนของตึก E เป็น swimming pool และ ตึก F เป็น Fitness ที่เชื่อมต่อกันทั้ง 2 ตึก นอกจากนั้น ยังมี multi-sport court บนดาดฟ้าของอาคารจอดรถสามารถเล่นได้ทั้งฟุตซอล บาสเก็ตบอล กิจกรรมปีนผา และพักผ่อนได้อย่างเต็มที่

อีกเรื่องหนึ่งที่ ดิ ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ รามอินทรา จะพิเศษกว่าแบรนด์ดิ ออริจิ้นโครงการอื่น คือห้องพักแบบ Duo Space ที่มีมากถึง 70% เพดานสูง 4.2 เมตร ทำให้ห้องพักขนาด 21.5-27 ตร.ม. ดูกว้างขวางยิ่งกว่าเดิม คาดว่าโครงการจะเริ่มก่อสร้างช่วงไตรมาส 1/2564 และก่อสร้างแล้วเสร็จช่วงไตรมาส 1/2566 แว่วมาว่า โครงการนี้คาดว่าจะเปิดพรีเซลอย่างเป็นทางการในไตรมาส 4 ปีนี้ ในราคาห้อง duo space เริ่มต้นเพียง 2.4 ล้านบาท ณ สำนักงานขายโครงการ ลูกค้าที่สนใจสามารถเข้าไปเยี่ยมชมห้องตัวอย่างได้แล้วที่โครงการ

สำหรับผู้ที่สนใจโครงการแบรนด์ ดิ ออริจิ้น สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.origin.co.th หรือสอบถามเพิ่มเติมโทร 020 300 000