แสนสิริ ประสบความสำเร็จจากแผนพัฒนาโครงการในตลาดต่างจังหวัด โกยยอดขายจาก 3 โครงการในจังหวัดหัวเมืองใหญ่ ได้แก่ La Casita ที่สุดของทำเลใจกลางเมืองหัวหินโกยยอดขายแล้วถึง 90% ภายในระยะเวลาเพียง 1 เดือน ตามด้วย The Edge พัทยา โกยยอดขายแล้วกว่า 95% รวมถึงล่าสุด DCondo หาดใหญ่ สร้างยอดขายแล้วถึง 50% ในช่วงพรีเซลล์ ดันยอดขายรวมในตลาดต่างจังหวัดในปีนี้พุ่งไปแล้วถึง 7,500 ล้านบาท
ล่าสุดปลุกกระแสแบรนด์ เดอะ เบส ภายใต้คอนเซ็ปต์ใหม่ MARK MY BASE ต่อยอดหลังประสบความสำเร็จมาแล้วถึง 13 โครงการ เผยโฉม THE BASE New Series ในแบบที่สะท้อนความเป็นตัวคุณ นำร่อง เดอะ เบส เซ็นทรัล – ภูเก็ต มูลค่าโครงการ 1,660 ล้านบาท เปิดจอง 23 – 24 มิ.ย.นี้ ในราคาเริ่มต้น 1.99 ล้านบาท
นายภูมิภักดิ์ จุลมณีโชติ รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากแผนรุกขยายการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในตลาดต่างจังหวัดเพื่อตอบรับกลุ่มลูกค้าแสนสิริที่มีอยู่ทั่วประเทศอย่างต่อเนื่องในปีนี้ ล่าสุดบริษัทสามารถสร้างยอดขายจากการเปิดตัวโครงการใหม่ในตลาดต่างจังหวัดได้แล้วถึง 7,500 ล้านบาท หรือคิดเป็นเกือบ 40% จากยอดขายรวมในช่วงครึ่งปีแรกที่ทำได้แล้วกว่า 20,000 ล้านบาท ความสำเร็จมาจากการปิดการขายโครงการใหม่ในตลาดต่างจังหวัดอย่างต่อเนื่อง และรวดเร็วในช่วงที่ผ่านมา ทั้งในหัวหิน พัทยา และหาดใหญ่ ซึ่งเป็นจังหวัดหัวเมืองหลักทางภาคใต้
ล่าสุดบริษัทได้ปลุกกระแสแบรนด์ เดอะ เบส ต่อยอดหลังประสบความสำเร็จมาแล้วถึง 13 โครงการ จำนวน 9,440 ยูนิต ภายใต้คอนเซ็ปต์ใหม่ MARK MY BASE โดยจะเผยโฉม THE BASE New Series ในแบบที่สะท้อนความเป็นตัวคุณ โครงการแรก เดอะ เบส เซ็นทรัล – ภูเก็ต จำนวน 590 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,660 ล้านบาท เปิดจองโครงการในวันที่ 23 – 24 มิ.ย. นี้ ในราคาเริ่มต้น 1.99 ล้านบาท
“บริษัทมีแผนเปิดตัวคอนโดมิเนียมแบรนด์ เดอะ เบส ภายใต้แบรนด์คอนเซ็ปต์ใหม่ MARK MY BASE จำนวน 5 โครงการ 5 ทำเล ในกรุงเทพฯ และภูเก็ต ในปี 2561 ได้แก่ เดอะ เบส สุขุมวิท 50, เดอะ เบส สะพานใหม่, เดอะ เบส รัชดา-ท่าพระ, เดอะ เบส สาทร-เจริญราษฎร์ และ เดอะ เบส เซ็นทรัล ภูเก็ต ซึ่งจะเปิดตัวเป็นโครงการแรก
ทั้งนี้ คอนโดมิเนียมแบรนด์ เดอะ เบส ภายใต้คอนเซ็ปต์ MARK MY BASE จะเป็นคอนโดมิเนียมที่ชูแนวคิดการออกแบบจากตัวตนของผู้อยู่อาศัย โดยนำเสน่ห์ของวัฒนธรรมท้องถิ่นรอบด้านผสานกับการออกแบบที่ร่วมสมัย เกิดเป็นเอกลักษณ์และเรื่องราวที่สะท้อนถึงตัวตน ซึ่งพัฒนาแบรนด์มาจากแนวคิด เติมเต็มการอยู่อาศัยสมบูรณ์แบบ (Complete Your Living Experience) เดอะ เบส ทั้ง 5 โครงการใหม่ จะมีความโดดเด่นด้านดีไซน์ที่เข้าใจการใช้ชีวิตและฟังก์ชั่นที่เข้าใจการอยู่อาศัย พร้อมการเชื่อมต่อเทคโนโลยีใหม่ๆเข้ากับการอยู่อาศัย ทั้งในห้องและพื้นที่ส่วนกลาง รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกที่รองรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ โดยเดอะ เบส ที่ตั้งอยู่ในทำเลต่างๆ จะมีความโดดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์แตกต่างกันในแต่ละทำเลเพื่อตอบโจทย์ทุกรูปแบบการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่” นายภูมิภักดิ์ กล่าว
สำหรับโครงการ เดอะ เบส เซ็นทรัล-ภูเก็ต โดดเด่นด้วยการตั้งอยู่บนที่สุดของทำเลใจกลางเมืองภูเก็ต เพียง 1 นาทีจากเซ็นทรัลภูเก็ตใหม่ ซึ่งจะเปิดให้บริการในเดือนกันยายนนี้ นับว่าเป็นที่ดินทำเลทองที่หายากในภูเก็ตที่สามารถนำมาพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมในรูปแบบฟรีโฮลด์ (Freehold) นอกจากนี้โครงการฯ ยังอยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้ารางเบาที่จะเปิดให้บริการในปี 2563 ตามแผนส่งเสริมให้ภูเก็ตเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวนานาชาติ
โครงการตั้งอยู่บนพื้นที่ขนาด 4 ไร่ เป็นอาคารที่พักอาศัยสูง 8 ชั้น จำนวน 3 อาคาร มีจำนวน 590 ยูนิต ประกอบด้วย ห้องขนาด 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอย 24.75- 53.75 ตารางเมตร, ห้องขนาด 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอย 46.25 – 52.50 ตารางเมตร, และห้องขนาด 2 ห้องนอน และ 2 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอย 62 – 62.75 ตารางเมตร แต่ละยูนิตมีการออกแบบฟังก์ชั่นที่เข้าใจการอยู่อาศัย และมีแรงบันดาลใจจากวัฒนธรรม ‘เพอรานากัน’ ซึ่งนับเป็นมนต์เสน่ห์แห่งภูเก็ต สู่การอยู่อาศัยใจกลางเมือง