เลือกบ้านหรือคอนโด? เป็นคำถามที่คิดไม่ตกสำหรับหลายๆคนที่ใช้ชีวิตอยู่ในเมือง สำหรับคนส่วนใหญ่ การเลือก “ที่อยู่อาศัย” มีตัวแปรและปัจจัยให้คิดให้เปรียบเทียบอยู่มากมายที่เราต้องคิดวนเวียนอยู่ในหัว
งบประมาณเท่าไร? มีเงินสดในกระเป๋าพอหรือยัง? เรากู้ไหวไหม? พื้นที่ใช้สอยเป็นยังไง? พ่อแม่ที่แก่แล้วจะอยู่ได้ไหม? ใกล้โรงเรียนลูกหรือเปล่า? ตื่นเช้าไปทำงานกี่โมง? จะไปส่งลูกเข้าเรียนทันไหม? มีรถเมล์ผ่านหรือไม่? เปลี่ยวและปลอดภัยมากแค่ไหน? สิ่งอำนวยความสะดวกเป็นอย่างไร? จำเป็นมากแค่ไหนที่ต้องมีบ้านในตอนนี้? และคำถามอีกมากมายที่เราต้องตอบตัวเองให้ได้ว่า ที่อยู่อาศัยที่เราต้องการนั้นมันควรจะเป็นบ้าน ทาวน์โฮม หรือคอนโด และควรอยู่ในทำเลใด ในราคาเท่าไร!
หนังสือ “บ้าน VS คอนโด” เป็นหนึ่งในซีรีย์หนังสือของ Thinkofliving ที่ช่วยให้คนทั่วไปมีความรู้ความเข้าใจมากพอในการเลือกที่อยู่อาศัยที่เหมาะกับตัวเอง โดยในเล่มนี้จะเป็นการเจาะประเด็นข้อแตกต่างระหว่างการอยู่อาศัยในบ้าน กับการใช้ชีวิตในคอนโด ซึ่งเป็นสิ่งที่หลายคนต้องตัดสินใจเลือก… เราเข้าใจดีว่าในการเลือกที่อยู่อาศัยบางทีบ้านในฝันก็ไม่ใช่สิ่งที่เราเลือกจริง ผู้หญิงตัวคนเดียว แม้จะอยากอยู่บ้านเดียว สุดท้ายอาจจะต้องตัดสินใจซื้อคอนโดเพราะเรื่องการรักษาความปลอดภัย คู่รักหนุ่มสาวอาจจะต้องซื้อบ้านเดี่ยวชานเมืองเพราะลูกเล็กๆที่จะเกิดมาต้องมีพื้นที่ให้วิ่งเล่นก็เป็นไปได้… แม้ว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะมีบ้านในฝันได้ตามใจตัว แต่เมื่อต้องตัดสินใจเราหวังว่าองค์ความรู้ในหนังสือเล่มนี้ จะทำให้ผู้อ่านเข้าใจบริบทของ “บ้าน” และ “คอนโด” อย่างแท้จริง เมื่อถึงเวลาต้องเลือก เราจะได้เลือกสิ่งที่เหมาะกับเราในห้วงเวลานั้นจริงๆครับ
ทำเล (Location) ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญในการเลือกที่อยู่อาศัย หลายๆคนเมื่อกำลังจะมีบ้านก็มักจะนึกถึงทำเลก่อนจะเรื่องอื่นๆด้วยซ้ำ แต่ละคนก็มีเหตุผลในการตัดสินใจเลือกทำเลที่แตกต่างกัน เช่นความคุ้นเคย ใกล้ที่ทำงาน ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวก หรือ เดินทางสะดวก ปัจจุบันอสังหาริมทรัพย์มีตัวเลือกมากขึ้น มีโครงการน้อยใหญ่แข่งกันขึ้นเต็มไปหมด ในเมืองมีความหนาแน่นของที่อยู่อาศัยมากขึ้น ส่วนพื้นที่ชานเมืองหรือต่างจังหวัดก็มีการขยายตัวของโครงการอสังหาริมทรัพย์
มีตัวเลือกให้คนตัดสินใจซื้อทั้งบ้านและคอนโดมิเนียมซึ่งส่วนใหญ่มักเกาะกลุ่มกันอยู่ตามแนวรถไฟฟ้าหรือทำเลใกล้สถานที่สำคัญ เดินทางสะดวก ส่วนบ้านแนวราบในระดับราคาเดียวกันจะอยู่ในทำเลที่ไกลออกมาหน่อย สาเหตุที่เป็นเช่นนี้เนื่องมาจากต้นทุนการพัฒนาโครงการหรือราคาที่ดินปรับตัวสูงขึ้นมาก การจะสร้างบ้านใจกลางเมืองให้คุ้มทุนจำเป็นต้องขายราคาสูงจนเกินราคาตลาด เมื่อพัฒนาแล้วก็จะขายไม่ได้ จึงเหมาะกับการสร้างเป็นคอนโดมิเนียมซึ่งห้องได้จำนวนยูนิตมากกว่า ราคาต่อหน่วยจึงถูกลงมาในระดับที่หยิบจับได้
อย่างไรก็ตามการเลือกทำเลนั้นก็ขึ้นอยู่กับรูปแบบการใช้ชีวิตเราด้วย จะเห็นได้ว่าถ้าเราเลือกแบบไหนก็จะกลายเป็นตัวกำหนด Lifestyle ของเราขึ้นมาทันที คนที่อยู่คอนโดมิเนียมจะเป็นคนที่ใช้ชีวิตอยู่ในเมือง เดินทางด้วยรถไฟฟ้า ส่วนคนที่อยู่บ้านมักจะอยู่ในทำเลที่ไกลออกมาหน่อย เป็นพื้นที่รอบนอกเมืองหรือชานเมือง เดินทางด้วยรถยนต์ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มครอบครัว เป็นต้น โดยเราจะเหมาะกับการอยู่ในที่อยู่อาศัยประเภทไหนขึ้นอยู่กับปัจจัยที่ยกตัวอย่างดังนี้
- พฤติกรรมและความชอบ
- ลักษณะและจำนวนครอบครัว
- จำนวนที่จอดรถ / ที่จอดรถส่วนตัว
- สถานที่สำคัญหรือสิ่งอำนวยความสะดวก
และในบทนี้นอกจากทำเลรอบโครงการแล้ว เราจะมีการพูดถึง ทำเลภายในโครงการที่สำคัญไม่แพ้กัน คือ “ทำเลภายใน” เราจะมีการพูดถึงเรื่องตำแหน่งของห้องหรือบ้านที่เราอยู่นั่นเอง ซึ่งถ้าเราเลือกผิดก็ส่งผลเสียก่อทำให้เกิดความรำคาญ เดือดเนื้อร้อนใจ หรืออยู่แล้วไม่สบายใจได้ด้วย
EP.2 “ความเป็นเจ้าของ [กรรมสิทธิ์] นั้นสำคัญไฉน?”
ในบทนี้จะพูดถึง การที่เราเลือกซื้อที่อยู่อาศัยสักแห่ง เราจะได้ถือกรรมสิทธิ์ครอบรองตามกฎหมายแบบไหน เอกสารสิทธิ์ ของบ้านและคอนโดต่างกันยังไง บางคนเลือกที่จะปลูกบ้านเองนอกโครงการหมู่บ้านด้วย รู้ไหมว่ามีขั้นตอนเตรียมตัวที่ต่างจาก “บ้านจัดสรร หรือ หมู่บ้านยังไง” ต้องเตรียมเอกสารขั้นตอนต่างๆยังไงบ้างเพื่อให้ได้ สิทธิ์ในการมีบ้านสักหลังนอกจากนี้ยังพูดถึงเรื่องของสิทธิ์ต่างๆ ที่เรามีต่อ “บ้านจัดสรร” หรือ “โครงการจัดสรร” ที่จะไม่ได้พูดถึงตัวโฉนดบ้านอย่างเดียว แต่จะมีต่อพื้นที่ส่วนกลางด้วยว่ามีสาธารณูปโภคใดๆบ้าง หรือไม่แม้แต่การซื้อ คอนโด ที่เราจะได้โฉนดที่มีชื่อว่า “หนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุดหรือ อ.ช. 2” โดยจะมีการระบุในสัญญาซื้อขายไว้ว่าเราคือ เจ้าของร่วมของโครงการนั้นๆ ซึ่งเราต้องทำความเข้าใจด้วยว่าเรามีสิทธิ์ต่อพื้นในคอนโดเรามากน้อยขนาดไหนด้วยครับ จะได้ไม่มีปัญหาต่อเพื่อนบ้านที่เค้าก็มีสิทธิ์เหมือนกับเรา
เมื่อพูดถึง ส่วนกลาง สารธารณูปโภค Facilities หรือ Amenities หลายคนคงรู้กันอยู่แล้วว่ามันคืออะไร แต่ยังมีคนอีกหลายคนที่ไม่รู้ว่าคำเหล่านี้หมายถึงอะไร / ส่วนกลางมีความสำคัญต่อการใช้ชีวิตของลูกบ้านมากๆ ส่วนกลางที่แต่ละโครงการทำมาให้เป็นตัวบ่งบอกถึงระดับราคาของโครงการนั้นได้เลย เพราะถ้าโครงการออกแบบสวยและให้วัสดุมาดี ดูน่าใช้งาน ลูกบ้านก็อยากอยู่ ใครเข้ามาดูก็อยากเป็นเจ้าของ มูลค่าของโครงการก็จะสูงขึ้น แต่ถ้าโครงการไหนทำออกมาได้แย่กว่าที่โฆษณาไว้ ลูกบ้านก็จะผิดหวังและจะมีเสียงบ่นสะท้อนกลับมาที่ตัวโครงการ ว่าทำไม่เหมือนกับที่คุยไว้ ถ้าไม่ได้แย่ถึงขั้นส่งผลต่อการใช้งาน ก็อาจจะไม่ใช่ปัญหาใหญ่ แต่ถ้าส่งผลต่อการใช้งานด้วย อันนี้มีผลในระยะยาวที่ทำให้ความน่าเชื่อถือและมูลค่าของโครงการลดลงได้
ส่วนกลางโครงการระหว่างบ้านและคอนโดนั้น มีความแตกต่างกันในเรื่องของความหลากหลาย และขนาดของที่ดินอาคารคลับเฮาส์และสวน บ้านจะได้พื้นที่แนวราบที่โล่งการสามารถวิ่งออกกำลังกายหรือขี่จักรยานรอบโครงการได้ ส่วนคอนโดแม้จะมีข้อจำกัดในเรื่องพื้นที่แต่ก็ได้ในเรื่องของกิจกรรมที่มีความหลากหลายมากกว่า พูดง่ายๆคือมีอะไรให้เล่นเยอะกว่า และมีวิวที่สวยกว่า
สำหรับบ้านหรือคอนโดมิเนียมนั้นมีความแตกต่างในเชิงการอยู่อาศัยพอสมควรเลย แม้เราจะเรียกรวมได้ว่าเป็นที่อยู่อาศัยเหมือนกัน เริ่มต้นเลยการที่เราจะสามารถเลือกว่าเราจะอยู่อาศัยในรูปแบบไหนได้นั้น ปัจจัยหลักที่สำคัญคือเราต้องรู้ว่าเราเหมาะกับการอยู่ในพื้นที่ใช้สอย ฟังก์ชันการใช้งานแบบไหน โดยเราจะเริ่มอธิบายลักษณะของรูปแบบการอยู่อาศัยและฟังก์ชันของทั้งคอนโดมิเนียมและบ้าน (ที่อยู่อาศัยแนวราบ) เพื่อให้เข้าใจในเรื่องการใช้งานและความแตกต่างของฟังก์ชันต่างๆ โดยการยกตัวอย่างปัจจัยต่างๆ เพื่อให้คุณผู้อ่านสามารถตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าตัวเราเองจะเหมาะกับการอยู่อาศัยแบบไหนมากกว่ากัน
คงปฏิเสธไม่ได้ว่าที่อยู่อาศัยที่ดีนั้น นอกเหนือจากทำเล ราคา รูปแบบโครงการ และรูปแบบบ้านหรือห้องพักอาศัยที่จะต้องตอบโจทย์และเหมาะสมกับผู้อยู่อาศัยแล้วนั้น ในเรื่องของความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยในการอยู่อาศัยก็ถือเป็นปัจจัยหนึ่ง ที่ผู้ซื้อใช้เป็นตัวเลือกในการเลือกบ้านหรือคอนโดมิเนียมด้วยเช่นกัน ยิ่งในปัจจุบันโครงการต่างๆ มีการแข่งขันกันสูงมากทั้งเรื่อง ราคา ทำเล และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่จัดเต็มกันมาแบบไม่ให้น้อยหน้ากัน ยิ่งโครงการไหนที่มีการจัดการหรือคำนึงในเรื่องความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของผู้อยู่อาศัยมากเท่าไหร่ ก็ถือเป็นจุดขายและจุดเด่นที่สามารถสร้างความเชื่อมั่นในระยะยาวของการอยู่อาศัยของผู้ซื้อได้ หรืออาจมีความหมายที่รวมไปถึงความใส่ใจในเรื่องคุณภาพชีวิตและทรัพย์สินของลูกบ้านในโครงการด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ทั้งนั้นก็อาจจะต้องพิจารณารูปแบบและระดับราคาของโครงการประกอบด้วยเช่นกัน กรณีที่เราเลือกโครงการคอนโดมิเนียม หรือหมู่บ้านจัดสรรขนาดเล็ก มีจำนวนบ้านในโครงการไม่มาก การจัดการในเรื่องการรักษาความปลอดภัยอาจไม่เน้นไว้ที่ตัวโครงการมากนัก แต่กลับไปเน้นการติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัยต่างๆที่ตัวบ้านหรือที่ห้องพักอาศัยแทน ในบางโครงการที่เป็นคอนโดมิเนียมหรือหมู่บ้านจัดสรรขนาดกลาง-ใหญ่ จะมีการเพิ่มมาตรการในการดูแลรักษาความปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น หรือในกรณีเราเลือกโครงการคอนโดมิเนียมหรือหมู่บ้านจัดสรรที่มีระดับราคาสูง การดูแลรักษาความปลอดภัยจะถือเป็นจุดเด่นสำคัญที่โครงการในระดับนี้จะต้องมีเป็นระบบพื้นฐานในโครงการ
“เพื่อนบ้านดี มีชัยไปกว่าครึ่ง” ประโยคนี้ไม่เกินจริง!! เพราะเวลาเราเลือกซื้อที่อยู่อาศัยสักครั้งหนึ่ง ส่วนใหญ่เราก็หวังจะอยู่นานเป็นสิบปี ถ้าเราได้เพื่อนบ้านดีชีวิตนับสิบปีที่เราอยู่ที่นี่ก็ถือว่ามีแนวโน้มที่จะสงบสุขขึ้นเพราะเราได้อยู่กับคนที่จะทำอะไรก็คิดถึง “ใจเขาใจเรา”
พอเอ่ยคำว่า “เพื่อนบ้าน” ขึ้นมาแล้ว คุณผู้อ่านมีภาพเพื่อนบ้านแบบไหนแว๊บเข้ามาในความคิดบ้าง เพื่อนบ้านผู้น่ารักที่ยิ้มแย้มทักทายและมีของฝากมาให้กันเสมอๆ หรือเพื่อนบ้านจอมกวนที่ปล่อยน้องหมามาอึหน้าบ้านเราบ่อยๆ และไม่ว่าคุณจะเลือกอยู่อาศัยในบ้านหรือคอนโด “คุณเพื่อนบ้าน” ก็เป็นตัวละครสำคัญที่มีบทบาทกับการอยู่อาศัยของเราไม่มากก็น้อย บางทีก็ส่งผลกระทบถึงภายในใจเราด้วยน่ะสิคุณว่างั้นไหม..
“คุณเพื่อนบ้าน” จึงเป็นสิ่งหนึ่งที่สำคัญที่เราต้องคำนึงถึงในเวลาที่เราจะตัดสินใจซื้อบ้านหรือคอนโดมิเนียมด้วยเช่นกัน สำหรับบทนี้เราจะมาดูกันว่าปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่าง “เพื่อนบ้านในหมู่บ้านหรือละแวกบ้าน” กับ “เพื่อนบ้านในคอนมิเนียม” จะสร้างปัญหากวนใจแบบไหนได้บ้าง จะได้หาวิธีรับมือกันล่วงหน้า ซึ่งจริงๆ ปัญหาเหล่านี้มีข้อกฎหมายที่คุ้มครองอยู่ จึงอยากให้ทุกคนเข้าใจตรงกัน เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข เป็นเพื่อนบ้านผู้น่ารักต่อกัน
ในบทนี้เราจะมาพูดถึงลักษณะของเพื่อนบ้าน ทั้งในรูปแบบของ บ้าน, ทาวน์โฮม และคอนโด ว่ามีความแตกกต่างกันอย่างไร โดยมีปัจจัยต่างๆมากมายตั้งแต่ก่อนซื้อมาพิจารณากลุ่มเพื่อนบ้าน / สิ่งที่ต้องแชร์กับเพื่อนบ้าน / และที่สำคัญเลยคือปัญหายอดฮิตระหว่างเพื่อนบ้าน ทั้งในรูปแบบอยู่บ้าน กับอยู่คอนโด
เป็นไงกันบ้างสำหรับหนังสือ “เลือกบ้านหรือคอนโด?” หนังสือที่จะช่วยให้คุณรู้จักตนเอง ว่าเหมาะสมกับกับที่อยู่อาศัยในรูปแบบบ้านหรือคอนโด สำหรับใครที่สนใจสามารถลงทะเบียนแล้วมารับหนังสือเพื่อไขข้อข้องใจได้แล้ว 22-25 มีนาคม ชั้น 1 สยามพารากอน
*หนังสือมีจำนวนจำกัดในแต่ละวันนะครับ รับได้ตั้งแต่ 10 โมง ถึง 2 ทุ่ม*