ผ่านมาแล้ว 1 เดือนกับอีก 15 วันเราเริ่มเห็นบรรยากาศการแถลงแผนธุรกิจของบริษัทอสังหาริมทรัพย์หลายๆแห่ง

ที่น่าสนใจไม่ใช่ตัวเลขเปิดตัวโครงการปี 2567 แต่กลับเป็นแผนโครงการใหม่ปีที่แล้ว ซึ่งหลายคนคงจำได้ว่าเป็นปีที่ทุกบริษัทแข่งกันเปิดแบบ “All Time High” แล้วเหตุใดแสงสว่างช่วงต้นปีกลับค่อยๆ หรี่ลงกลางทาง จนปิดรอบไปอย่างไม่ค่อยสวยงาม.. ส่งผลให้บรรยากาศของปี 2567 ยังไม่ค่อยสดใสนัก

อัพเดท ณ วันที่ 15 กพ. มีบริษัทที่แถลงแผนไปแล้วดังนั้นโดยสามารถดูรายละเอียดแผนได้ตามด้านล่าง

Land & Houses 

ในปี 2567 บริษัทฯ มีแผนเปิดโครงการใหม่ 11 โครงการ มูลค่ารวม 30,200 ล้านบาท ลดลง 30% เมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากในปี 2566 มีการเปิดโครงการคอนโดมิเนียม วันเวลา ณ เจ้าพระยา ซึ่งมีมูลค่า 15,000 ล้านบาท หากเปรียบเทียบเฉพาะโครงการแนวราบ มูลค่าโครงการเปิดใหม่จะเติบโต 6% จากปี 2566

Sansiri

สำหรับปีนี้ 2567 แสนสิริพร้อมตั้งรับสถานการณ์ในอนาคต ด้วยการเปิดโครงการใหม่ 46 โครงการ มูลค่า 61,000 ลบ. แบ่งเป็น

  1. กลุ่มธุรกิจแนวราบ 26 โครงการ มูลค่ารวม 35,000 ล้านบาท
  2. คอนโดมิเนียม 20 โครงการ มูลค่า 26,000  ลบ.

โดยปีนี้ไฮไลท์ที่น่าจับตาคือ

  • เตรียมเปิด 2 แบรนด์ใหม่ ได้แก่ณริณสิริ’ (Narinsiri) แบรนด์บ้านเดี่ยวใหม่ระดับพรีเมียมโครงการแรกณริณสิริ กรุงเทพกรีฑามูลค่าโครงการ 1,800 ล้านบาท และมาเบิล’ (Mabel) แบรนด์บ้านเดี่ยวใหม่ระดับราคาเข้าถึงง่ายประมาณ 5-7 ล้านบาท กับมาเบิล บางนา 26’ มูลค่าโครงการ 850 ล้านบาท
  • เปิดขายเดอะ สแตนดาร์ด เรสซิเด้นซ์ หัวหินมูลค่าโครงการ 4,100 ล้านบาท
  • เปิดตัวเวีย 2 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 2,500 ล้านบาท  ในย่านสุขุมวิท 34 และ 61 
  • รีเฟรชแบรนด์ เดอะ เบส ที่จะเปิดใหม่รวม 3 โครงการ มูลค่าราว 4,500 ล้านบาท
  • รุกตลาดต่างจังหวัดเปิด13 โครงการ มูลค่ารวม 16,000 ล้านบาท โตกว่าปีก่อนหน้าถึง 170%  สำหรับ Strategic Location อย่างภูเก็ต ได้มีการจัดทำแผนกลยุทธ์ 5 ปี ในการเปิดตัวโครงการใหม่ 16 โครงการ มูลค่ารวม 15,000 ล้านบาท

Supalai

สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 2567 บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาธุรกิจและเดินหน้าเติบโตต่อไปอย่างแข็งแกร่ง ตั้งเป้าใหม่ใหญ่กว่าเดิม พร้อมประกาศลุย All-Time High ทั้งการเปิดตัวโครงการและยอดขาย โดยตั้งเป้าหมายยอดขายไว้ที่ 36,000 ล้านบาท เป้าหมายรายได้รวม 36,000 ล้านบาท และงบประมาณการจัดซื้อที่ดิน 8,000 ล้านบาท นับว่าเป็นปีที่ทุบสถิติเปิดตัวโครงการใหม่สูงที่สุด มูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ตั้งแต่บริษัทฯ ได้ดำเนินธุรกิจมา มากถึง  42 โครงการ มูลค่ารวม 50,000 ล้านบาท ครอบคลุมทุกโปรดักส์ ทุกเซกเมนต์ระดับราคารองรับทุกความต้องการ โดยโครงการแนวราบเปิดตัวมากสุดถึง 38 โครงการ มูลค่ารวม 43,500 ล้านบาท และโครงการคอนโดมิเนียม 4 โครงการ มูลค่ารวม 6,500 ล้านบาท พร้อมลุยเปิดตลาดอสังหาฯ เพิ่ม 3 จังหวัดใหม่ๆ ในทำเลศักยภาพ ได้แก่ ลำปาง ราชบุรี ลพบุรี ทำให้พัฒนาโครงการครอบคลุมในทุกทำเลรวม 29 จังหวัด เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคทั่วทุกภูมิภาค

SC ASSET

ตั้งเป้ายอดขายนิวไฮ 28,000 ลบ. และ ทุ่มงบลงทุนกว่า 25,000 ลบ. พร้อมลุยธุรกิจหลากหลาย ที่อยู่อาศัย โรงแรม คลังสินค้า ออฟฟิศ

ปี 2567 SC จะมีโครงการเพื่อขายทั้งสิ้น 86 โครงการ มูลค่ารวม 91,000 ลบ. เปิดโครงการใหม่รวม 17 โครงการ มูลค่ารวม 30,000 ลบ. แบ่งเป็น 

โครงการใหม่ แนวราบ 15 โครงการ มูลค่า 25,000 ลบ. โดยมีไฮไลท์แบรนด์ใหม่ชื่อ “Connoisseur” (คอนนาเซอร์) ราคาเริ่มต้น 80 ลบ. และ บ้านไลฟ์สไตล์เฉพาะ #SCบ้านIntrovert และ #SCบ้านExtrovert 

โครงการใหม่ แนวสูง 2 โครงการ มูลค่า 5,000 ลบ. ภายใต้ แบรนด์ Reference

Asset Wise

แอสเซทไวส์ยังคงเดินหน้าอย่างเต็มกำลัง โดยปี 2567 ตั้งเป้าเปิดโครงการใหม่ 12 โครงการ มูลค่า 25,920 ล้านบาท แบ่งเป็น คอนโดมิเนียม 9 โครงการ และ แนวราบ 3 โครงการ พร้อมตั้งเป้าหมายยอดขายอยู่ที่ 17,800 ล้านบาท เติบโตประมาณ 8% จากปี 2566 และเป้าหมายรายได้อยู่ที่ 8,700 ล้านบาท

Noble Development

ในปีนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้รวมที่ระดับ 14,000 ล้านบาท และยอดขาย (Pre-sale) ที่ระดับ 18,000 ล้านบาท รวมถึงมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่จำนวน 7 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 14,310 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นโครงการแนวราบรวมถึงโครงการคอนโดมิเนียมแบบ Low Rise จำนวน 5 โครงการ มูลค่ารวม 6,710 ล้านบาท และโครงการคอนโดมิเนียมแนวสูงจำนวน 2 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 7,600 ล้านบาท ซึ่งกระจายอยู่ทุกทิศของกรุงเทพฯ

Singha Estate

ในปี 2567 นี้ สิงห์ เอสเตท เตรียมต่อยอดความสำเร็จโครงการบ้านแนวราบที่มีครบทุกเซ็กเมนลักซ์ชัวรีตามแผนงาน และยังคงไว้ซึ่งการถ่ายทอด DNA ที่ยึดถือใน

การพัฒนาโครงการให้ได้คุณภาพระดับ “Best in Class” ด้วยอัตลักษณ์ในแบบฉบับของสิงห์ เอสเตท โดยได้มีการลงทุนในที่ดินทำเลศักยภาพที่รองรับการพัฒนาสำหรับโครงการที่จะเกิดขึ้นระยะ 3-5 ปีต่อจากนี้ นอกจากนี้ ยังคาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้จากยอดโอนเพิ่มขึ้นอีก 50% ในปีนี้

Frasers Property Thailand (Home)

ในปีนี้ เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย ตั้งเป้าธุรกิจที่อยู่อาศัยทำรายได้กว่า 13,000 ล้านบาท เปิดตัว 7 โครงการใหม่ มูลค่ารวมกว่า 11,600 ล้านบาท เดินหน้าต่อเนื่องกับการจับตลาดบ้านเดี่ยวและบ้านลักชัวรี พร้อมสร้างกระแสรายได้จากค่าเช่าให้เติบโตแข็งแกร่งผ่านธุรกิจโรงงานและคลังสินค้าที่จะลงทุนประมาณ 4,000 ล้านบาท

Lalin

ลลิลฯ ประกาศแผนธุรกิจปี 2567 เดินหน้าขยายธุรกิจ สู่การเป็น National Property Company มุ่งเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยมีแผนเปิดโครงการใหม่อย่างต่อเนื่องอีก 8 – 12 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 7,000 – 8,000 ล้านบาท เพื่อทดแทนโครงการเดิมที่ใกล้จบ ตลอดจนขยายไปยังทำเลที่มีศักยภาพใหม่ๆ พร้อมตั้งเป้ายอดขายและยอดรับรู้รายได้เติบโตจากปีก่อนหน้า โดยตั้งยอดขายที่ 6,550 ล้านบาท และยอดรับรู้รายได้ที่ 5,250 ล้านบาท งบการจัดซื้อที่ดิน 1,500 ล้านบาท

Chewathai

บริษัทฯยังวางแผนหาที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการเพิ่มเติม ตามเป้าหมาย 4 โครงการ ภายในปี 2567 มูลค่าโครงการรวม 3,700 ล้านบาท ( วงเงินค่าที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการ ประมาณ  600 ล้านบาท)  เป็น

  • โครงการคอนโดมิเนียมโลว์ไรซ์ แบรนด์ชีวาทัย ฮอลล์มาร์ค ทั้ง 3 โครงการ มูลค่าประมาณ 3,000 ล้านบาท
  • บ้านเดี่ยวแบรนด์ชีวารมย์ 1 โครงการ มูลค่า 700 ล้านบาท โดยในปี 2567
  • บริษัทฯ คาดว่าจะมีรายได้ 2, 000 ล้านบาท จากโครงการเดิมที่ยังมี Backlog ทยอยรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง

PRUKSA (PSH)

ปี 2567 ตั้งเป้ายอดขายที่ 27,000 ล้านบาท และตั้งเป้ายอดโอนที่  25,500 ล้านบาท วางแผนเปิดโครงการใหม่ 30 โครงการ แบ่งเป็นโครงการบ้านเดี่ยว 10 โครงการ ทาวน์เฮาส์ 17 โครงการ และ คอนโดมิเนียม 3 โครงการ  รวมมูลค่าทั้งหมดราว 29,000 ล้านบาท โดยมีที่อยู่อาศัยพร้อมอยู่ ที่จะแปลงเป็นรายได้ รวมมูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท  โดยวางแผนเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้พอร์ตโฟลิโอ (Portfolio) ด้วยการเพิ่มสินค้าสำหรับกลุ่มลูกค้าในเซ็กเม้นต์ระดับกลาง – สูง  พร้อมสร้างมูลค่าเพิ่มของแบรนด์ The Palm สู่ราคามากกว่า 30 ล้านบาท ที่นำความร่วมมือ (Synergy) จากธุรกิจเฮลท์แคร์ในเครือเข้ามาผสานใช้ ให้เป็นภาพใหญ่ที่ชัดเจนยิ่งขึ้น   พร้อมมุ่งบริหารสินทรัพย์ที่มีในมือ  โดยในปี 2567 ตั้งเป้าในการ Re-Stock Landbank ด้วยงบ 10,500 ล้านบาท เพื่อมาต่อยอดการขยาย มุ่งพัฒนาที่อยู่อาศัย เพื่อจะคงสัดส่วนการพัฒนาตามกลุ่มลูกค้าราคาบ้านต่ำกว่า 3 ล้านบาทให้ไม่เกิน 40% และมากกว่า 7 ล้านบาทให้มากกว่า 30%

N.C. Housing

เอ็น.ซี พร้อมรุกขยายโครงการฐานใหญ่แนวราบ เพิ่มขึ้น และยังมุ่งเติบโต กลุ่มตลาดสินค้า บ้านเดี่ยว ระดับราคา 5-7 ล้านบาท, บ้านแฝดรูปลักษณ์ใหม่สไตล์บ้านเดี่ยว  ราคา 4-5  ล้านบาท และกลุ่มทาวน์เฮ้าส์ ด้วยรูปลักษณ์ดีไซน์แตกต่างโดดเด่น ราคา 2-3 ล้านบาท อีกทั้งเพิ่มช่องทางการเข้าถึงกลุ่ม Segment  ใหม่ สร้างฐานลูกค้าให้กว้างมากขึ้น ด้วยสื่อการตลาดดิจิทัลที่เข้าถึงกลุ่มผู้ซื้อบ้าน  และกิจกรรมส่งเสริมการขาย เพื่อรองรับการเปิดโครงการใหม่แนวราบ เพิ่ม อีก  6 โครงการ  4  ทำเลเด่นรอบกรุงเทพฯ   มูลค่ารวม 7,200 ล้านบาท โดยทำตลาดบ้านระดับราคา  5  ล้านบาทในสัดส่วนที่เพิ่มขี้นกว่าปีที่ผ่านมา  พร้อมตั้งเป้ายอดขาย 5,000 ล้านบาท และรับรู้รายได้ปี 2567  ที่ 3,000  ล้านบาท  และเตรียมความพร้อม เดินตามแผน เพื่อเร่งเปิดโครงการใหม่ ในครึ่งปีแรก พร้อมกัน  2  โครงการ 2 ทำเล ภายใต้แบรด์ เอ็นซี นีโอลา วงแหวนลำลูกกา และ บ้านฟ้าแกรนด์ ทาวน์นี่ เพชรเกษม-สาย 5  มูลค่ารวม 2,200 ล้านบาท

Britania

เตรียมปักหมุดเปิดโครงการบ้านเดี่ยวระดับลักชูรี่-บ้านเดี่ยว และบ้านแฝดใหม่ 20 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 17,000 ล้าน ครอบคลุมกรุงเทพฯ และปริมณฑล พร้อมรุกตลาดต่างจังหวัด 6 จังหวัด อาทิ ชลบุรี ระยอง นครราชสีมา อุบลราชธานี อุดรธานี และขอนแก่น พร้อมชูโมเดลพันธมิตรร่วมกับ Landlord ในพื้นที่ ครอบคลุมทุกทำเลศักยภาพ ตั้งเป้ากวาดยอดขายปี 2567 ที่ 13,000 ล้าน พร้อมยอดโอนกรรมสิทธิ์ 8,000 ล้าน

AP Thailand

เตรียมเปิด 48 โครงการใหม่ มูลค่า 58,000 ล้านบาท
-> บ้านเดี่ยว 15 โครงการ มูลค่า 23,000 ล้านบาท
-> ทาวน์โฮมและบ้านแฝด จำนวน 23 โครงการ มูลค่า 19,300 ล้านบาท
-> คอนโดมิเนียม 6 โครงการ มูลค่า 12,500 ล้านบาท และโครงการในต่างจังหวัด 4 โครงการ สงขลา สุพรรณบุรี และระยองมูลค่า 3,200 ล้านบาท
– กลุ่มธุรกิจบ้านเดี่ยว เดินหน้าเพิ่มมาร์เก็ตแชร์ในตลาด Super Luxury ระดับราคา 100 ล้านบาท ด้วยการพัฒนาสินค้าแบรนด์ THE PALAZZO ให้เป็นคฤหาสน์หรูในบริบทใหม่ ที่มากกว่าที่อยู่อาศัยแต่คือ อาณาจักรที่คุณเลือกเองได้ ด้วยพื้นที่ใช้สอยที่มากกว่า 1,000 ตารางเมตร ใน 2 ทำเล อย่างกรุงเทพกรีฑาและปิ่นเกล้า
– ครองเบอร์ 1 ในตลาดบ้านแฝด 3 ชั้นและ 2 ชั้น กับจุดยืนบ้านแฝดเอพี บ้านที่ให้คุณเลือกขยายพื้นที่ให้พอดีกับทุกความสุข ผ่าน 3 แบรนด์ในเครือ บ้านกลางเมือง คลาสเซ่ – บ้านกลางเมือง ดิ อิดิชั่น – แกรนด์ พลีโน่ ชูจุดขายหน้ากว้างถึง 7 เมตร เริ่ม 3.19 ล้านบาท
– กลุ่มธุรกิจคอนโด กับ 6 คอนโดใหม่ ชู LIFE เจริญนคร-สาทร และ ASPIRE ห้วยขวางไฮไลต์เด็ด เตรียมเปิดตัวในไตรมาส 2 พร้อมด้วย 3 คอนโดพร้อมอยู่ LIFE พหลฯ-ลาดพร้าว, LIFE พระราม 4-อโศก และ ASPIRE รัชโยธิน
LPN
สำหรับแผนการลงทุนในปี 2567 LPN มีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ 6 โครงการ มูลค่า 6,520 ล้านบาท แบ่งเป็น

คอนโด 1 โครงการ มูลค่า 980 ลบ.

  • Place 168 วุฒากาศ

แนวราบ 5 โครงการ มูลค่า 5,540 ลบ.

  • VENUE 24 New Nakorn Pathom มูลค่า 610 ลบ.
  • RESIDENCE 168 สุขุมวิท 77 มูลค่า 1,230 ลบ.

  • VILLA 168 NEW KRUNGTHEPKREETHA มูลค่า 1,370 ลบ.
  • RESIDENCE 168 CHESADA RATCHAPHRUEK มูลค่า 1,730 ลบ.
  • VENUE 24 NEW RATCHARHRUEK มูลค่า 600 ลบ.