นายทรงพล ศรีวงศ์ทอง ผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เบล็ส แอสเสท กรุ๊ป จำกัด (BAG) ผู้เชี่ยวชาญธุรกิจผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ อย่างยาวนาน ภายใต้แบรนด์ เบล็ส วิลล์ (BLESS VILLE) โครงการทาวน์โฮม 2 ชั้น และเบล็ส ทาวน์ (BLESS TOWN) โครงการทาวน์โฮม 3 ชั้น เปิดเผยว่า แม้จะหมดมาตรการกระตุ้นจากภาครัฐเมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา ความต้องการที่อยู่อาศัย ตลาดทาวน์โฮม 2-3 ชั้นยังคงเติบโตได้ในทุกทำเลจากความต้องการของกลุ่มตลาดผู้อยู่อาศัยจริงและกลุ่มตลาดนักลงทุนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะโซนใกล้แนวรถไฟฟ้า
ด้วยมีปัจจัยบวกจากการที่รัฐบาลลุยเส้นทางรถไฟฟ้ากว่า 12 สาย และทุกสายมีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง อาทิ สายสีม่วง (บางซื่อ–บางใหญ่) ซึ่งจะเปิดให้บริการในวันที่ 6 สิงหาคมศกนี้ สายสีแดง (บางซื่อ–รังสิต) สายสีเขียวเหนือ (หมอชิต–สะพานใหม่–ลำลูกกา) สายสีเขียวใต้ (แบริ่ง–สมุทรปราการ) สายสีส้ม (ศูนย์วัฒนธรรม–มีนบุรี) สายสีเหลือง (ลาดพร้าว–สำโรง) และสายสีชมพู (แคราย–มีนบุรี) เป็นต้น โดยมีผลทำให้ราคาที่ดินตามแนวรถไฟฟ้าทุกสายต่างขยับเพิ่มสูง โดยเฉพาะสายสีชมพู นับเป็นเส้นทางที่ราคาปรับสูงที่สุดประมาณ 14% แตะระดับ 2 แสนบาทต่อตารางวา
อย่างไรก็ดีเพื่อให้สอดรับกับความต้องการของกลุ่มลูกค้า บริษัทจึงได้ปรับเปลี่ยนแผนงาน โดยเตรียมเปิดให้ลูกค้าจองซื้อ 3 โครงการใหม่ มูลค่าโครงการรวม 1,760 ล้านบาท ภายในเดือนมิถุนายนนี้ ซึ่งเร็วขึ้นจากแผนเดิมที่เตรียมจะเปิดขายในช่วงไตรมาส 3/2559 ประกอบด้วย “เบล็สทาวน์ (BLESS TOWN) ศรีนครินทร์–หนามแดง” ทาวน์โฮม 3 ชั้น มี 238 ยูนิต ติดถนนหนามแดง ใกล้เมกาบางนา ราคาเริ่มต้น 2.69 ล้านบาท “เบล็สทาวน์ (BLESS TOWN) ติวานนท์–ปทุมธานี” ทาวน์โฮม 3 ชั้น มี 158 ยูนิต ติดถนนใหญ่สาย 345 ใกล้สะพานปทุมธานี 2 ใกล้ทางด่วนศรีสมาน แหล่งรวมธุรกิจใหม่ ถ.แจ้งวัฒนะและศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ราคาเริ่มต้น 2.59 ล้านบาท “เบล็สวิลล์ (BLESS VILLE) รามอินทรา 117 (เจริญพัฒนา 8)” ทาวน์โฮม 2 ชั้น ใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพู และศูนย์การค้าแฟชั่น ไอส์แลนด์ เริ่ม 1.79 ล้านบาท
“บริษัทได้ทำการเปิดจอง ก่อนเปิดขายจริง เพื่อตอบรับความต้องการที่อยู่อาศัยใน 3 ทำเล ซึ่งแน่นอนว่าลูกค้าที่จองก่อนวันเปิดขายจริงนั้นจะได้บ้านในราคาพิเศษและข้อเสนอที่พิเศษกว่า เพราะหากเปิดขายจริงแล้ว ราคาอาจมีการปรับเพิ่มขึ้นและข้อเสนอพิเศษก็อาจจะได้น้อยลง ขณะที่ทั้ง 3 โครงการ เป็นโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง โดยคาดว่าจะสามารถโอนได้ภายในปี 2559 อย่างแน่นอน” นายทรงพลกล่าว
นายทรงพล กล่าวว่า โครงการใหม่ทั้ง 3 โครงการ บริษัทยังคงเน้นจับตลาดกลุ่มคนรุ่นใหม่ กลุ่มสตาร์ต อัพ และกลุ่มคนที่เริ่มต้นสร้างครอบครัว โดยตอบโจทย์ทั้งในเรื่องทำเลสามารถเชื่อมต่อกับทำเลสะดวกในทุกการเดินทาง มีดีไซน์และฟั่งชั่นการใช้งานที่คุ้มค่า สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดต่อเข้าชมโครงการ พร้อมรับราคาและข้อเสนอพิเศษ ก่อนเปิดขายจริง
โทรสอบถามได้ที่ Call Center 086-677-3333 หรือเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ www.bagroup.co.th