คุณชนินทร์ วานิชวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮาบิแทท กรุ๊ป จำกัด หลังจากที่เปิดตัวโครงการ Best Western Premier Bayphere Pattaya คอนโดมิเนียมติดหาด จำนวน 174 ยูนิต ในคอนเซ็ปต์คอนโดมิเนียมเพื่อการลงทุน ไปเมื่อเดือนกันยายน ปีที่แล้ว ผลตอบรับเป็นไปตามที่คาดหวัง ทั้งในเรื่องกลุ่มเป้าหมายรู้จักแบรนด์ Habitat Group มากขึ้น และในแง่ยอดขายที่ตอนนี้ขายไปแล้ว 70% เมื่อปลายปีที่แล้ว แต่ก็ถือว่าโครงการประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย ลูกค้าหลายๆคนเริ่มรับรู้และเข้าใจโมเดลการบริหารการเช่า แบบที่นำแบรนด์โรงแรมเข้ามาบริหาร ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่ก็รู้จักแบรนด์ Best Western อยู่แล้ว และให้การตอบรับเป็นอย่างดี การเปิดตัวและการทำตลาดโครงการ Best Western Premier Bayphere Pattaya ทำให้เราทราบว่ายังมีดีมานด์ของลูกค้ากลุ่มที่ต้องการซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน ลักษณะเดียวกับที่โครงการเสนอขาย โดยมี budget ที่ต่ำลงแต่ยังคงคอนเซ็ปต์การดีไซน์ที่ดูหรูหรา และมี facility ครบครันแบบโรงแรม 5 ดาว จึงเป็นที่มาของการพัฒนาโครงการใหม่ “บลูเฟียร์ พัทยา” ที่โปรดักส์ ทั้งห้องชุดและส่วนกลาง ทำเลที่ตั้ง ราคา และสิทธิประโยชน์ต่างๆ ตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มนี้ได้เป็นอย่างดี
โครงการ BluPhere Pattaya เป็นคอนโดมิเนียม โลว์ไรซ์ สูง 8 ชั้น อยู่ห่างจากหาดเพียง 100 ม. ตั้งอยู่ในซอยนาจอมเทียน 18 มีจำนวน 195 ยูนิต มูลค่าโครงการรวม 650 ล้านบาท มีจุดเด่นคือ
- เหมือนกับโครงการ Bayphere คือ เป็นคอนโดมิเนียมเพื่อการลงทุนอย่างแท้จริง
- การันตีค่าเช่า 7% ต่อปี เป็นเวลา 5 ปี หลังจากปีที่ 5 จะให้ผลตอบแทนแบบแบ่งผลกำไร (หลังหักค่าใช้จ่าย) 60% ให้แก่เจ้าของห้อง
- มีการบริหารการเช่าโดยนำแบรนด์โรงแรมอันดับ 7 ของโลกอย่าง Best Western มาบริหารการเช่าและให้บริการต่างๆภายในโรงแรม รวมทั้งดูแลรักษาสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ให้เจ้าของห้อง เทียบได้กับการบริหารโรงแรม 5 ดาว
- มีสิทธิประโยชน์ต่างๆ ให้กับผู้ซื้อหรือเจ้าของห้อง เทียบเท่ากับโครงการ Bayphere คือ เข้าพักฟรี 14 วันต่อปีในโครงการ BluPhere Pattaya
- ส่วนลดพิเศษสำหรับร้านอาหารและบาร์ที่โครงการ BluPhere Pattaya
- ส่วนลดพิเศษเมื่อเข้าพักที่โครงการอื่นๆในเครือฮาบิแทท กรุ๊ป
จุดเด่นที่แตกต่างกับโครงการ Bayphere คือ การใช้แบรนด์ BW Premier Collection (เบสท์ เวสเทิร์น พรีเมียร์ คอลเลคชั่น) ซึ่งเป็นแบรนด์พรีเมี่ยมที่สุดในเครือเทียบเท่า Best Western Premier ในคอนเซ็ปต์ boutique resort ที่เน้นเรื่องราวที่มาที่ไปของทำเลที่ตั้งและการออกแบบโรงแรม อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนกับโรงแรมอื่นๆ อีกทั้งยังมีความยืดหยุ่นกว่าแบรนด์ Best Western Premier ของโครงการที่ผ่านมา การดีไซน์มี 2 คอนเซ็ปต์หลัก คือ ‘The Misty Canyon’ ที่เล่นลำดับขั้นของ façade และ landscape ภายในบริเวณ lobby ชั้น 1 สร้างจุดแลนมาร์กด้วยต้นไม้ใหญ่เขียวขจีที่นำสายตาขึ้นไปสู่ Sky Drenched Atrium และคอนเซ็ปต์ ‘Blue Water and Sky’ ที่สื่อถึงบรรยากาศสีฟ้าสวยงามของสระว่ายน้ำบนชั้น roof top ที่ผสมผสานอย่างลงตัวกับวิวทะเลและท้องฟ้าสีคราม
จุดเด่น และ กลุ่มเป้าหมาย วิเคราะห์เชิงลึก โปรดักส์นี้ เหมาะกับใครในตลาด??
นักลงทุนอย่างแท้จริง การการันตีผลตอบแทนที่ 7% เป็นเวลา 5 ปี ยังคงเป็น key concept หลัก ในการทำการตลาดของโครงการ BluPhere Pattaya เน้นสร้างการรับรู้ในกลุ่ม mass โดยใช้สื่อทั้งออนไลน์และออฟไลน์เพื่อสร้างความสนใจและใช้ content marketing ในการ educate ลูกค้าให้เข้าใจเกี่ยวกับรูปแบบการลงทุนในสังหาริมทรัพย์แบบที่บริษัทดำเนินงาน กลุ่มเป้าหมาย คือ ลูกค้าอายุ 30 – 45 ปี รายได้ 60,000 – 70,000 บาทขึ้นไ ป ซึ่งซื้อโครงการนี้เป็นโครงการที่ 2 ขึ้นไป (โครงการแรกอาจจะซื้ออยู่เอง หรือซื้อลงทุน) โดยสามารถจ่ายดาวน์ได้เดือนละ 15,000 – 20,000 บาท ขึ้นไป ซึ่งนับว่าเป็นจำนวนเงินที่ไม่หนักสำหรับคนวัยทำงาน
คุณพนม กาญจนเทียมเท่า กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย จำกัด คาดการณ์ว่า พัทยาจะเป็นเมืองที่มีศักยภาพสูงมากในอนาคต ทั้งด้านการขยายตัวของเมืองและความเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวในพื้นที่โซนตะวันออกของประเทศ โดยได้รับอานิสงค์การขยายตัวจากโครงการพัฒนาของรัฐ เช่น
- การพัฒนาสนามบินนานาชาติอู่ตะเภา เพื่อรองรับการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor: EEC) และพัฒนาให้เป็นศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน มีเป้าหมายผู้โดยสารเข้าใช้งานในปี 2560 ประมาณ 1.2 ล้านคน (จาก 700,000 คนในปี 2559)
- แผนพัฒนาท่าเรือพาณิชย์สัตหีบ ให้เป็นท่าเรือพาณิชย์ แนวท่าจอดเรือยอร์ชเพื่อเชื่อมการเดินทางระหว่างชายฝั่งทะเลอ่าวไทยด้านตะวันออกและตะวันตก (East-West Transport) เพื่อลดระยะเวลาการเดินทางและขนส่งสินค้าให้ลดลงเหลือ 1-2 ชั่วโมง ปัจจุบันมีเรือเฟอร์รี่โดยสาร ระหว่างพัทยา – หัวหินเปิดให้บริการแล้ว
- การพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษตะวันออก ในพื้นที่ 3 จังหวัด ซึ่งประกอบด้วย จังหวัดชลบุรี ฉะเชิงเทรา ระยอง ในกลุ่ม 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย
ขณะที่เมืองพัทยาได้กำหนดเป้าหมายให้เป็นเมืองศูนย์กลางการท่องเที่ยวเพื่อรองรับการเติบโตและการรวมตัวของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน พื้นที่บริเวณนาจอมเทียนและสัตหีบก็จะได้รับอานิสงค์การเติบโตของุรกิจท่องเที่ยวอย่างมาก ซึ่งปัจจุบันนาจอมเทียนเป็นที่ตั้งของแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญหลายอย่าง เช่น สวนน้ำ Cartoon Network Amazone ซึ่งเป็นส่วนน้ำขนาดใหญ่แห่งแรกและแห่งเดียวของโลกที่ใช้แบรนด์การ์ตูนดัง Cartoon Network, สวนเสือศรีราชา, อุทยานหินล้านปีและฟาร์มจระเข้พัทยา ด้วยโครงการพัฒนาพื้นที่ดังกล่าว ทำให้โครงการ Bluphere Pattaya Managed by BW Premier Collection เป็นโครงการสำหรับผู้ที่ต้องการซื้ออสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบของ Lifestyle Investment คือนอกจากเพื่อใช้พักอาศัย หรือ พักตากอากาศแล้ว ยังสร้างผลตอบแทนจากอสังหาริมทรัพย์ได้เป็นอย่างดี โดยการบริหารงานเช่าด้วยทีมบริหารมืออาชีพ นอกจากจะสร้างผลตอบแทนการลงทุนที่ดีแล้วนักลงทุนก็จะได้มูลค่าของอสังหาริมทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นในอนาคต โดยโครงการนี้มีจุดเด่นคือ “การันตีตอบแทนการเช่า 7% ต่อปี เป็นระยะเวลา 5 ปี” โดยโรงแรม BW Premier Collection ซึ่งเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงระดับโลกมีการบริหารจัดการและการบริหารงานเช่าได้มาตรฐานโลก ผู้เข้าพักอาศัยก็จะได้รับบริการระดับโรงแรมที่เป็นที่ยอมรับในตลาดทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ นอกจากนี้เจ้าของห้องสามารถใช้สิทธิ์เข้าพักฟรีได้เป็นจำนวน 14 วันต่อปีอีกด้วย
ด้าน Mr. Olivier Berrivin, Managing Director International Operation Asia, Best Western เผยภาพรวมการท่องเที่ยว อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทยอยู่ในทิศทางที่เติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกๆปี มองจากตัวเลข ในปี 2016 มีนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ เดินทางมาเที่ยว 32,600,000 คน สร้างรายได้สะพัด 2.52 ล้านล้านบาท (US $ 71.8 พันล้านดอลลาร์) สูงกว่าเป้าหมายที่รัฐบาลตั้งไว้ เมื่อช่วงเริ่มต้นที่ของปี คาดการณ์ปีต่อไป แนวโน้มมีแต่เพิ่มมากขึ้น จากสถานการณ์โดยรวม ทั้งเศรษฐกิจ สังคม การเมือง เริ่มคลี่คลาย ในส่วนของโรงแรม ซึ่งถือว่าได้รับอานิสงค์เต็มๆ จากอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เตรียมตั้งรับ ซึ่งเรามีแบรนด์ที่แข็งแกร่ง ด้วยการให้บริการมายาวนาน มีกลุ่มลูกค้าประจำและผู้เข้าพักหน้าใหม่จากทั่วโลก โดยโรงแรม กำหนดเป้าหมายตลาดไฮเอนด์ ใช้กลยุทธ์ด้านการสื่อสารและส่งเสริมการขายในตลาดต่างประเทศ
จุดเด่นด้านการออกแบบโครงการ Bluphere Pattaya Managed by BW Premier Collection (บลูเฟียร์ พัทยา มาเนจ บาย เบสท์ เวสเทิร์น พรีเมียร์ คอลเลคชั่น) คอนเซ็ปต์หลัก 2 ส่วนของโครงการ คือ The misty canyon และ The Blue Water and Sky
- The misty canyon คือ พื้นที่ส่วนที่เป็น lobby และชั้น 1 ของโครงการ ออกแบบให้เป็นพื้นที่สีเขียว บริเวณทางเข้าเล่นระดับขั้นบันไดเป็นเลเยอร์ ให้เข้ากับคอนเซ็ปต์ canyon และตรงกลาง lobby มีต้นไม้สูงใหญ่ตั้งเด่นเป็นจุด surprise ของ landscape ด้านล่าง ที่ทำให้รู้สึกร่มรื่นแตกต่างจากการเข้าพักในรีสอร์ทริมทะเลที่อื่นๆ ตรงโถง lobby เมื่อเงยหน้าขึ้นไปจะเจอกับจุดไฮไลท์ของโครงการอีกจุดหนึ่ง คือ Sky Drenched Atrium ที่มองทะลุขึ้นไปเห็นท้องฟ้า
- The Blue Water and Sky คือ พื้นที่ facility ชั้น 8 และชั้น rooftop มีสระว่ายน้ำรูปตัว L ยาวขนานไปกับทะเล มุมมองแบบ panorama ที่ขอบสระว่ายน้ำจรดขอบฟ้าและทะเล เป็นที่มาของชื่อโครงการ ‘บลูเฟียร์’ นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารและบาร์ชั้นบนแบบ duplex สามารถนั่งชมวิวทะเลและผ่อนคลายได้ระหว่างนั่งทานอาหาร สัมผัสได้ถึงการมาพักผ่อนที่ทะเลอย่างแท้จริง
- ห้องชุดของโครงการ BluPhere Pattaya (22 – 26 sq.m.) มีขนาดที่เล็กกว่าโครงการ Bayphere Pattaya (30-33 sq.m.) แต่มีฟังก์ชั่นใช้งานครบเทียบเท่าและยังคงมีดีไซน์สวยงามแบบ Luxury tropical resort เหมาะแก่การพักผ่อน
- ราคาขายโครงการเริ่มต้นเพียง 2.7 ล้าน บาท (2.7 – 3.7 ล้าน) หรือเริ่มต้น 120,000 บาท/ตร.ม. ผ่อนเพียงเดือนละหมื่นกว่าบาท ซึ่งเป็นราคาที่จับต้องได้มากขึ้นสำหรับลูกค้าทั่วไป