เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า แผนธุรกิจชุดใหญ่ช่วงต้นปี ไม่อาจการันตีความสำเร็จของผลประกอบการ หลังตัวเลขรายได้–กำไร รอบ 9 เดือนของปีนี้ ไม่ได้เติบโตอย่างที่คาดหวัง เนื่องจากมีปัจจัยลบที่รุมเร้าหลายด้าน ทั้งความไม่แน่นอนทางเมือง การยกเลิก LTV ภาระหนี้ครัวเรือน และดอกเบี้ยขาขึ้น ล้วนเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยมีภาระค่าใช้จ่ายมากขึ้น และความสามารถในการผ่อนชำระลดลง กระทบต่อยอดขาย และยอดโอนกรรมสิทธิ์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ข้อมูลจาก REIC เปิดเผยว่า ใน 9 เดือนแรกของปี 2566 ยอดโอนกรรมสิทธิ์บ้าน–คอนโดลดลง 4.2% คิดเป็น 270,650 หน่วย มูลค่า 766,791 ลบ. โดยกลุ่มบ้านราคาไม่เกิน 3 ลบ. ลดลงถึง 8.8% ขณะที่กลุ่มบ้านระดับราคาเกินกว่า 3 ลบ. ขึ้นไปมีการขยายตัวสูง โดยที่อยู่อาศัยในระดับราคาเกินกว่า 7.5 ลบ. ขึ้นไป เป็นกลุ่มราคาที่มีหน่วยและมูลค่าขยายตัวมาก
ที่มา:
- AP
- Sansiri
- SUPALAI
- Land & Houses
- Pruksa Holding
- SC ASSET
- ORIGIN
- SINGHA ESTATE
- PROPERTY PERFECT
- NOBLE DEVELOPMENT
- QUALITY HOUSES
- L.P.N
- ASSET WISE
- BRITANIA
- SENA