สำหรับสินเชื่อที่อยู่อาศัยบุคคลทั่วไปปล่อยใหม่ทั่วประเทศ ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมามีมูลค่ารวม 290,889 ล้านบาท เติบโต 7.5% แบ่งเป็นการปล่อยสินเชื่อจากธนาคารพาณิชย์ทุกแห่งรวมกันประมาณ 169,323 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 58.9% และ สินเชื่อจากธนาคารภาครัฐ 114,012 ล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็นจาก ธนาคาร อาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ประมาณ 24.7%, ธนาคาร ออมสิน ประมาณ 14.1% และจากสถานการเงินอื่นๆ 7,555 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 2.3% ทั้งนี้คาดว่าทั้งปีมีจะมูลค่าปล่อยสินเชื่อใหม่รวม 590,000 ล้านบาท
ขณะที่สินเชื่อที่อยู่อาศัยบุคคลทั่วไปคงค้างทั่วประเทศ ณ สิ้นไตรมาส 2 มีมูลค่า 3,217,570 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% เปรียบเทียบกับไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 9% เมื่อเเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยมีส่วนแบ่งตลาดเป็นธนาคารพาณิชย์ทุกแห่งรวมกันมีส่วนแบ่งตลาด 59.7% ธนาคารอาคารสงเคราะห์มีส่วนแบ่งตลาด 27.6% ธนาคารออมสินมีส่วนแบ่งการตลาด 10% และสถาบันการเงินอื่นๆ มีส่วนแบ่งการตลาด 2.6%
กรุงศรีฯ คาดสินเชื่อบ้านโต 3-5%
นายณัฐพล ลือพร้อมชัย ผู้ช่วยกรรมการ ผู้จัดการใหญ่ สายงานสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า แม้ว่าเศรษฐกิจโดยรวมฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ตลอดปีนี้คาดว่า สินเชื่อใหม่จะทำยอดได้ที่ 590,000-610,000 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 3-5 ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตที่สูงกว่าปีก่อนที่โตแค่ ร้อยละ 0.4 เท่านั้น ส่วนยอดสินเชื่อคงค้างครึ่งปีแรกเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนหน้าขยายตัวร้อยละ 4 อยู่ที่ 3.2 ล้านล้านบาท และตลอดปีนี้คาดว่าจะมียอดอยู่ที่ 3.35 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาร้อยละ 8-10
ส่วนแนวโน้มตลาดสินเชื่อบ้านกรุงศรี ในช่วงครึ่งปีหลัง ยังคงเติบโตต่อเนื่องจากหลายปัจจัยหนุน ทั้งทิศทางเศรษฐกิจในประเทศที่ค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้น เม็ดเงินลงทุนในภาครัฐทยอยเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ ขณะที่ผู้บริโภคจำนวนมากมีสภาพคล่องทางการเงินเพิ่มขึ้น เนื่องจากภาระหนี้จากโครงการรถยนต์คันแรกทยอยครบกำหนดในเดือนกันยายนนี้ ส่งผลให้กำลังซื้อเริ่มกลับมาบางส่วนอีก ทั้งจะมีคอนโดมิเนียมที่รอโอนจำนวนมากในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ โดยตั้งเป้าหมายปล่อยสินเชื่อเพิ่มจาก 52,000 ล้านบาทเป็น 65,000 ล้านบาท เพิ่มจากปีที่ผ่านมาร้อยละ 30 ส่วนยอดสินเชื่อคงค้างในปี 2559 คาดว่าอยู่ที่ 200,000 ล้าน จาก 6 เดือนแรกปีนี้ มียอดสินเชื่อคงค้าง 180,479 ล้านบาท และจะรักษาระดับสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้หรือ NPLไว้ที่ร้อยละ 2.6
สำหรับกลยุทธ์ในช่วงครึ่งปีหลัง ธนาคารกรุงศรีฯ จะมุ่งขยายไปยังตลาดกลุ่ม developer ชั้นนำในระดับท้องถิ่นตามหัวเมืองใหญ่ทั่วประเทศและผลักดันผลิตภัณฑ์ทางเลือก Home for Cash สินเชื่ออเนกประสงค์ที่ช่วยตอบโจทย์ลูกค้ารายย่อยหรือผู้ประกอบการที่ต้องการเสริมสภาพคล่องเพื่อเป็นทางเลือกใหม่และเป็นประโยชน์ต่อลูกค้า นอกจากนี้กรุงศรีฯ ร่วมกับ developer ชั้นนำ 6 รายใหญ่ นำเสนอแคมเปญอัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 4 ระยะเวลา 5 ปีและอัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 5 ระยะเวลา 7 ปีเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าในการวางแผนการเงินระยะยาวในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยขาขึ้นอีกด้วย
ที่มา : REIC, หนังสือพิมพ์บ้านเมือง