ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) ของธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) รายงานว่าตลาดที่อยู่อาศัยในไตรมาส 1 ปี 2568 ขาดการเติบโต โดยมีมาตรการจากรัฐบาลในการลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนองเหลือเพียง 0.01% และการปรับเกณฑ์ LTV ชั่วคราว ซึ่งจะช่วยกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ให้ฟื้นตัวได้ตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 เป็นต้นไป
นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการของธนาคารอาคารสงเคราะห์ กล่าวว่า สถานการณ์ของตลาดที่อยู่อาศัยในปี 2567 ชะลอตัวเนื่องจากปัญหาทางเศรษฐกิจ ส่งผลให้ตลาดในไตรมาส 1 ปี 2568 ปรับตัวลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้ว อย่างไรก็ดี การลดค่าธรรมเนียมและการปรับเกณฑ์ LTV จะส่งผลดีต่อภาคอสังหาริมทรัพย์และเศรษฐกิจในระยะยาว
จากข้อมูลในไตรมาส 1 ปี 2568 มีการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยทั่วประเทศจำนวน 65,276 หน่วย ลดลง 10.5% มูลค่า 181,545 ล้านบาท ลดลง 13.0% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยการชะลอตัวเกิดขึ้นทั่วทุกภูมิภาค แม้ว่าจะมีบางจังหวัดที่มีการขยายตัว เช่น ระยองและสุราษฎร์ธานี
ในส่วนของสินเชื่อที่อยู่อาศัย ในไตรมาส 1 ปี 2568 มีมูลค่า 109,368 ล้านบาท ลดลง 10.0% จากปีก่อน ธนาคารอาคารสงเคราะห์มีส่วนแบ่งตลาดถึง 42.8% ซึ่งสะท้อนถึงบทบาทของธนาคารในการสนับสนุนภาคอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง
สำหรับการโอนกรรมสิทธิ์ของนักลงทุนต่างชาติในไตรมาส 1 ปี 2568 พบว่า ลดลง 0.5% มีจำนวน 3,919 หน่วย มูลค่าการโอน 16,392 ล้านบาท ลดลง 9.0%
จากการคาดการณ์เติบโตทางเศรษฐกิจในปี 2568 ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พบว่า REIC ปรับคาดการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยปี 2568 ว่าจะทรงตัวหรือชะลอตัวเล็กน้อย โดยคาดว่าจะลดลงประมาณ 0.3% สำหรับจำนวนหน่วยและ 0.8% สำหรับมูลค่า อย่างไรก็ตาม มาตรการลดค่าธรรมเนียมสำหรับที่อยู่อาศัยราคาต่ำกว่า 7 ล้านบาท และการปรับเกณฑ์ LTV จะช่วยฟื้นฟูตลาดที่อยู่อาศัยตั้งแต่ไตรมาส 2 เป็นต้นไป
