ศุภาลัย เผยแผนธุรกิจปี 2559 กับภารกิจ “นวัตกรรม เพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน” วางเป้ายอดขาย 24,500 ล้านบาท พร้อมเป้ารายได้ 22,000 ล้านบาท ลุยพัฒนาโครงการใหม่ทั้งแนวราบและคอนโดมิเนียม 29-35 โครงการ
ดร.ประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปี 2558 มีการขยายตัวต่อเนื่องโดยเฉพาะในช่วงไตรมาสที่ 4 จากมาตรการรัฐในการกระตุ้นเศรษฐกิจ การลงทุนภาครัฐ และการท่องเที่ยวเป็นปัจจัยสนับสนุนให้เศรษฐกิจขยายตัวดีขึ้น ขณะเดียวกันภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ก็ยังคงมีการเติบโตเพิ่มขึ้น จากภาวะเศรษฐกิจไทยที่มีทิศทางฟื้นตัวตามลำดับ ในขณะที่อัตราดอกเบี้ยยังคงทรงตัวในอัตราต่ำ อีกทั้งมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ เป็นปัจจัยกระตุ้นให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง
สำหรับเศรษฐกิจไทยในปี 2559 คาดว่ามีแนวโน้มปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้นบ้างจากปัจจัยต่างๆ ทั้งจาก
- การลงทุนของรัฐฯ การบริโภค และการลงทุนภาคเอกชนที่จะดีขึ้นต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน
- การท่องเที่ยวและการส่งออก มีแนวโน้มเติบโตดีขึ้น ซึ่งเป็นผลจากการขยายตัวของตลาดอาเซียนและสหรัฐอเมริกา
- แรงกระตุ้นจากมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ ในการอนุมัติลดค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์จาก 2% เหลือ 0.01% และค่าธรรมเนียมการจดจำนองอยู่ที่ 1% มาอยู่ที่ 0.01% ซึ่งมีผลบังคับใช้จนถึง 28 เมษายน 2559
อย่างไรก็ตาม ปี 2559 ภาคธุรกิจอสังหาฯ จะต้องปรับตัวเตรียมความพร้อมเข้าสู่ยุค AEC ทั้งเรื่องตลาดที่กว้างขึ้น การพัฒนาคุณภาพงาน การบริหารจัดการต้นทุน การสร้างความพึงพอใจในการบริการ ตลอดจนการเคลื่อนย้ายทั้งเงินทุนและแรงงานข้ามประเทศจะมีมากขึ้น ในปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ขยายการลงทุนโครงการในต่างประเทศเพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันมี
1. โครงการอาคารสำนักงานให้เช่า Petron Mega Plaza มูลค่าประมาณ 840 ล้านบาท
2. โครงการร่วมลงทุนและโครงการที่ดินจัดสรร ในออสเตรเลีย รวม 4 โครงการ มูลค่าลงทุนรวม 878 ล้านบาท
นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงผลงานปี 2558 ที่ผ่านมา พร้อมเผยถึงภาพรวมที่จะเกิดขึ้นในปีนี้
บริษัทฯ ยังคงพัฒนาโครงการใหม่ๆ โดยเฉพาะโครงการแนวราบ เพื่อขยายไปยังหัวเมืองต่างๆ ในภูมิภาคที่เป็นศูนย์กลางธุรกิจและแหล่งท่องเที่ยว ส่วนโครงการคอนโดมิเนียมจะมีเน้นลงทุนไปยังหัวเมืองท่องเที่ยว ซึ่งปัจจุบันจังหวัดที่บริษัทฯ มีการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ เชียงใหม่ สุราษฎร์ธานี สงขลา ภูเก็ต อุดรธานี ขอนแก่น ชลบุรี ระยอง อุบลราชธานี นครราชสีมา อีกทั้งมีแผนขยายการลงทุนพัฒนาโครงการเพิ่มเติมในจังหวัดนครศรีธรรมราช