บริทาเนีย หรือ BRI ประกาศความสำเร็จปี 2565 กวาดกำไรสุทธิ All Time High แตะ 1,471 ล้าน ปักธงปี 2566 เดินหน้าลุยต่อเนื่อง กางแผนธุรกิจ “B To The Top” สู่เป้าหมายผู้นำบ้านจัดสรร ระดับท็อปหลากมิติ ด้วยกลยุทธ์ 3 B ประเดิมด้วย

  • B The Growth ขึ้นแท่นผู้นำธุรกิจบ้านจัดสรร เปิดตัวโครงการใหม่ All Time High 20 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 22,500 ล้าน ยกทัพบุกทุกทำเลทั้งกรุงเทพฯ-ปริมณฑล-EEC-หัวเมืองใหญ่ ทุกเซ็กเมนท์
  • B The Craft สร้างประสบการณ์ CRAFTED EXPERIENCE พร้อมยกระดับมาตรฐานการบริการทั้งก่อนและหลัง การขายอย่างครบวงจร
  • B The Goodness เป็นองค์กรรับผิดชอบต่อชุมชนและสังคม ตั้งเป้ายอดขายปี 2566 กว่า 13,000 ล้าน พร้อมเป้ารายได้รวม 9,000 ล้าน เติบโตอย่างต่อเนื่อง

นายสุรินทร์ สหชาติโภคานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI ผู้พัฒนาบ้านจัดสรรภายใต้คอนเซปต์ “CRAFT a life you love” ดีที่สุดคือใช้ชีวิตในแบบที่รัก เปิดเผยว่า ในปี 2565 ที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 6,296 ล้านบาท เติบโต 65% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,471 ล้านบาท เติบโตถึง 144% ได้รับการตอบรับที่ดีจากทั้งกลุ่มโครงการเปิดขายใหม่ และโครงการที่อยู่ระหว่างขายและโอนกรรมสิทธิ์ สะท้อนถึงความมั่นใจของผู้บริโภคที่มีต่อแบรนด์บ้านจัดสรรในเครือบริทาเนีย

ในปี 2566 บริษัทจึงเตรียมแผนเดินหน้าธุรกิจอย่างต่อเนื่องภายใต้กลยุทธ์ “B To The Top” สู่เป้าหมายผู้นำธุรกิจพัฒนาบ้านจัดสรรระดับท็อปใน 3 มิติ ได้แก่

1.) B The Growth นำพาองค์กรเติบโตสู่ระดับท็อปของตลาดด้วยการเปิดตัวโครงการใหม่สูงที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท หรือ All Time High จำนวน 20 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 22,500 ล้านบาท ยกทัพแบรนด์ในเครือทั้ง 4 แบรนด์ ได้แก่ เบลกราเวีย (Belgravia) / แกรนด์ บริทาเนีย (Grand Britania) / บริทาเนีย (Britania) และไบรตัน (Brighton) ร่วมบุกตลาดทุกเซ็กเมนท์ กระจายตัวบุกทั้งในกรุงเทพฯและปริมณฑล อาทิ สมุทรปราการ นนทบุรี ปทุมธานี เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC อย่างชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา ตลอดจนหัวเมืองใหญ่ในต่างจังหวัด นำร่องที่ขอนแก่นด้วยบริทาเนีย มะลิวัลย์ และบริทาเนีย อยุธยา

“เราประเมินว่าปีนี้บ้านทุกระดับราคา จะมีความต้องการต่อเนื่อง เป็นสาเหตุให้เรานำแบรนด์เบลกราเวีย ซึ่งเป็นแบรนด์ระดับลักชัวรีกลับมาร่วมบุกตลาดพร้อมกับอีก 3 แบรนด์ และจะมีทั้งโครงการบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม ตลอดจนโครงการที่เป็นมิกซ์โปรดักส์ เปิดตัวอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เราสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ยั่งยืน และสร้างคุณค่าที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค

อย่างไรก็ดี ปีนี้โฟกัสหลักของเราจะมุ่งไปที่ตลาดใหญ่ที่สุดของปีนี้อย่างตลาดบ้าน 5-10 ล้าน ซึ่งเป็นเซ็กเมนท์ที่มีกำลังซื้อแข็งแกร่ง โดยมีฟังก์ชันตอบโจทย์การอยู่อาศัยร่วมกันระหว่างคนหลากเจเนอเรชั่น รองรับประเทศก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ” นายสุรินทร์ กล่าว

สำหรับโครงการที่นับเป็นไฮไลต์ของปีนี้ ได้แก่ เบลกราเวีย ราชพฤกษ์-นครอินทร์ (Belgravia Ratchapruek-Nakornin) และ เบลกราเวีย พุทธมณฑล สาย 3 (Belgravia Phuttamonthon Sai 3) ถือเป็นการนำแบรนด์ บ้านเดี่ยวลักชัวรีของบริษัทกลับมาเจาะตลาดอีกครั้ง ในทำเลที่ประสบความสำเร็จและได้รับการตอบรับที่ดีอย่างมากในช่วงก่อนหน้านี้

โดยมีไฮไลต์หลักที่น่าสนใจคือ จำนวนยูนิตน้อย เพิ่มความเป็นส่วนตัวและความรู้สึกเอ็กซ์คลูซีฟ พื้นที่บ้านมากกว่า 100 ตร.วา มีฟังก์ชันภายในบ้านที่คำนึงถึงความเป็นอยู่ที่ดี (Wellness) ของครอบครัวที่มีสมาชิกหลากหลายเจเนอเรชัน (multi-generation family) พร้อมตอบโจทย์กิจกรรมและไลฟ์สไตล์ของทุกคนในครอบครัว บนทำเลที่เชื่อมต่อเมืองและการเดินทางได้สะดวก

2.) B The Craft มุ่งมั่นสู่การเป็นแบรนด์บ้านจัดสรรระดับท็อปในใจผู้บริโภค (Top of Mind Brand) ด้วย Culture หรือวัฒนธรรมองค์กร Craft Mindset อย่างต่อเนื่อง พร้อมส่งมอบประสบการณ์ที่ลูกค้าให้คุณค่า (Customer Value) ในการสร้างสรรค์ ดูแล และบริการที่ยกระดับให้แก่ผู้บริโภค ผ่านนวัตกรรมการอยู่อาศัย พื้นที่ส่วนกลาง ที่ตั้งใจออกแบบจาก Customer Insight การดูแลความปลอดภัย ตอกย้ำวิสัยทัศน์ CRAFT a life you love ดีที่สุดคือใช้ชีวิตในแบบที่รัก ด้วยความเข้าใจและใส่ใจวิถีชีวิตของลูกค้าในทุกแบบบ้านอย่างลึกซึ้ง

3.) B The Goodness มุ่งมั่นเป็นองค์กรที่รับผิดชอบต่อสังคม ทั้งในโครงการและชุมชนรอบด้าน อาทิ โครงการ CRAFT PARK สร้างพื้นที่สีเขียวสาธารณะเพื่อชุมชน ซึ่งเป็นโมเดลความร่วมมือของภาคเอกชน ภาคสังคม และชุมชน ตั้งแต่จุดเริ่มต้นตั้งแต่การออกแบบ ลงมือทำ ตลอดจนเดินหน้าเพื่อสิ่งแวดล้อมภายใต้โครงการ B GREEN มุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero ในปี 2050

ผ่านการดำเนินงานตลอดห่วงโซ่คุณค่าตั้งแต่ต้นน้ำ คือ การออกแบบ เลือกใช้วัสดุฉลากเขียว และการก่อสร้าง การเพิ่มพื้นที่สีเขียว การจัดการขยะ จนถึงปลายน้ำ คือ สนับสนุนการใช้พลังงานสะอาด ตั้งเป้าติดตั้งโซลาร์ รูฟท็อป ณ คลับเฮ้าส์ทุกโครงการ และติดตั้งจุดเชื่อมต่อ EV Charger ให้กับบ้านทุกหลัง เพื่อส่งต่อคุณค่าของความรู้สึกภาคภูมิใจ ในการเป็นส่วนหนึ่งของการช่วยรักษาโลก จากการเลือกซื้อบ้าน ที่คำนึงถึงการสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดี

นายสุรินทร์ กล่าวอีกว่า นอกจากเป้าหมายภายใต้แนวคิด B To The Top ทั้ง 3 มิติแล้ว ในเชิงธุรกิจนั้น บริษัท ตั้งเป้ายอดขายทั้งปีไว้ที่ 13,000 ล้านบาท พร้อมเป้ารายได้รวมอีก 9,000 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นเป้าหมายการเติบโตแบบ All Time High

บริษัทมั่นใจว่า ด้วยแผนการกระจายบุกเปิดตัวโครงการใหม่ทุกแบรนด์ ทุกเซ็กเมนท์ ทุกทำเล การเดินหน้ายกระดับฟังก์ชันและนวัตกรรมการอยู่อาศัยให้ตอบโจทย์ผู้บริโภค การเดินหน้าทำการตลาดอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนสภาพเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว จะช่วยให้บริษัทสามารถเดินหน้าประสบความสำเร็จได้ตามเป้า

สำหรับบริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI เป็นผู้พัฒนาบ้านจัดสรรภายใต้คอนเซปต์ CRAFT a life you love ดีที่สุดคือใช้ชีวิตในแบบที่รัก พัฒนาทั้งบ้านเดี่ยว บ้านซีรีส์ใหม่ ทาวน์โฮม ครอบคลุมผู้บริโภคทุก เซ็กเมนท์ ภายใต้ 4 แบรนด์หลัก ได้แก่

  1. เบลกราเวีย (Belgravia) บ้านเดี่ยวลักชัวรี ระดับราคา 20-50 ล้านบาท
  2. แกรนด์ บริทาเนีย (Grand Britania) บ้านเดี่ยวและบ้านแฝดระดับ High-End ราคา 8-20 ล้านบาท
  3. บริทาเนีย (Britania) บ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม ระดับ Mid-end ราคา 4-8 ล้านบาท
  4. ไบรตัน (Brighton) บ้านแฝด และทาวน์โฮม ระดับเริ่มต้น (Entry) ราคา 2.5-4 ล้านบาท

โดย ณ สิ้นปี 2565 พัฒนาโครงการมาแล้วทั้งสิ้น 30 โครงการ คิดเป็นมูลค่าโครงการสะสม 36,449 ล้านบาท


ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc