ในวงการอสังหาริมทรัพย์ชื่อ “เบญจ อรรถจินดา” อาจไม่ค่อยเป็นที่คุ้นหูนัก ตรงกันข้ามกับวงการโฆษณาที่รู้จัก คุณเบญจในฐานะ “ผู้บุกเบิกโฆษณาลอยฟ้า” ริเริ่มเปิดข่องทางการโฆษณาบนเครื่องบิน ประเดิมด้วยสายการบินนกแอร์เป็นแห่งแรก
ตลอดระยะเวลา 12 ปีที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการโฆษณา คุณเบญจก็ไม่ต่างจากนักธุรกิจคนอื่น ที่มีความสนใจในตลาดอสังหาริมทรัพย์ เขาสะสมที่ดินทำเลดีไว้ พร้อมกับเลือกบางส่วนมา renovate แล้วปล่อยขาย และพยายามต่อยอดความรู้ด้วยการลงคอร์ส RECU ซึ่งกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการก่อตั้งบริษัท Legend Property ที่เขาและเพื่อนๆ ร่วมกันสร้างขึ้นมา
วันนี้เรามีโอกาสได้สัมภาษณ์ “คุณเบญจ อรรถจินดา” เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับภาพรวมของบริษัท และโครงการล่าสุด “The Ace เอกมัย” คอนโดในซ.เจริญใจ ที่มีจุดขายคือ “ที่จอดรถอัตโนมัติ” ส่วนรายละเอียดลึกๆ จะเป็นอย่างไรนั้น สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ในบทสัมภาษณ์เลยค่ะ…
-สวัสดีค่ะ คุณเบญจ อยากขอให้เล่ารายละเอียดคร่าวๆ และที่มาที่ไปในการหันมาจับธุรกิจแนวนี้
ผมเรียนจบด้านผังเมือง จาก College of Architecture & Environmental Design จาก Arizona State University ซึ่งก็คลุกคลีเกี่ยวกับสถาปัตยกรรม และการวางผังเมืองมานาน พอกลับมาเมืองไทย ผมเริ่มทำงานเกี่ยวกับ Branding ซึ่งค่อนข้างห่างไกลจากอสังหาฯ ทำอยู่ประมาณ 12 ปี
กระทั่งเมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว ผมเริ่มเข้าสู่วงการของอสังหาฯ ก็เริ่มซื้อที่ดินเก็บไว้ พยายามเลือกซื้อทำเลที่อยู่ในตลาด แล้วเราก็เอามา renovate เป็น second hand property ก็มีทั้ง Residential และ commercial เริ่มสัมผัสจริงจัง ยิ่งทำยิ่งชอบ และในขณะเดียวกันคือ ผมก็มีโอกาสไปเรียน RE-CU ที่จุฬาฯ ได้รู้จักหลายๆ คนที่อยู่ในวงการอสังหา ทำให้เกิดความคิดที่จะเข้าวงการนี้อย่างจริงจัง กลายเป็นจุดเริ่มต้นของ “The Ace เอกมัย”
Legend Property เป็นบริษัทที่ผมและเพื่อนใน RE-CU ร่วมกันก่อตั้งขึ้นมา ด้วยจุดประสงค์เพื่อเริ่มธุรกิจด้านนี้อย่างจริงจัง เป้าหมายของเราคือการพัฒนาอสังหาฯ ระดับบูทีค
– ทำไมถึงเลือกที่ดินใน ซ. เจริญใจ
ที่ดินเปลงนี้เป็นที่ๆผมมีอยู่ ด้วยขนาดและ layout ของที่ดินที่มีหน้ากว้างที่สวย เหมาะที่จะทำ โครงการในรูปแบบ boutique ผมก็เลือกที่ดินแปลงนี้มาเป็นโครงการแรกของบริษัท
– เนื่องจากแปลงที่ดินค่อนข้างเล็ก อะไรคือเหตุผลหลักในการพัฒนาที่ดินไซส์นี้
ผมมองว่า ที่ดินแปลงเล็กๆ ค่อนข้างท้าทาย ถึงแม้ผลตอบแทนที่ได้จะเทียบกับโครงการใหญ่ไม่ได้ ซึ่งสำหรับที่ดินแปลงนี้ 183 ตร.วา เป็นขนาดที่เหมาะสมสำหรับ “ระบบจอดรถอัติโนมัติ” เทคโนโลยีใหม่ที่เรานำมาใส่ไว้ในโครงการ ซึ่งมูลค่าโครงการกับสิ่งที่เราสงทุนไป ค่อนข้างสมดุลกัน
– ขอให้คุณเบญจช่วยเล่าถึง “ระบบจอดรถอัติโนมัติ” ให้ฟังคร่าวๆ หน่อยค่ะ
“ระบบจอดรถอัติโนมัติ” จะช่วยในเรื่องอัตราส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ สำหรับโครงการของเราจะมีทั้งหมด 20 slot และอยู่ใต้ดิน ระบบจะทำงานด้วย Memory Card คือเพียงแค่ลูกค้าเอาการ์ดแตะที่เซ็นเซอร์ ระบบก็จะทำงานเองหมด Totally Automatic เอารถของลูกค้าไปจอด แล้ววันรุ่งขึ้นลูกค้าก็เอาการ์ดไปแตะที่เดิม ระบบก็จะนำรถขึ้นมาอัติโนมัติ ใช้เวลาประมาณ 2-3 นาที งบประมาณอยู่ที่ 400,000 บาท/คัน
– กลุ่มลูกค้าหลักๆ ที่วางไว้
ผมมองว่ากลุ่มลูกค้าหลักของเราอาจะซ้อนทับกับลูกค้าที่มองหาคอนโดใกล้รถไฟฟ้า ซึ่งลูกค้าที่เลือกมาอยู่ตรงนี้ จะเน้นเรื่องของไลฟ์สไตล์ทางด้านทำเล แม้ว่าจะเข้ามาในซ. เจริญใจประมาณ 100 เมตร บรรยากาศในซอยค่อนข้างเงียบ ขณะเดียวกันก็สามารถเข้าถึงย่านกลางคืนของเอกมัยได้ภายใน 3-5 นาที อีกประเด็นที่ดึงดูดให้ลูกค้าค่อนข้างพอใจ คือมูลค่าของโครงการที่เกิดขึ้น ด้วยราคาและสิ่งที่ได้รับ ลูกค้าค่อนข้างพอใจ
ผมคิดว่าลูกค้าของเรา เป็นกลุ่มที่ต้องการความสะดวก จากห้องที่ Fully Furnished และวัสดุที่เป็นวัสดุเกรดเอ ซึ่งดูจากระบบเฟอร์นิเจอร์ของครัว หรือห้องน้ำ ลูกค้าที่ซื้อไปเพื่ออยู่หรือลงทุน positioning ของเราก็ไม่ได้ต่างจาก developer รายอื่นๆ ที่อยู่ในละแวกนี้
– หลังจาก The Ace เอกมัย ทาง Legend Property วางแผนพัฒนาโครงการอะไรต่อบ้างค่ะ
จุดยืนของเราจะโฟกัสโครงการขนาดประมาณนี้ ซึ่งก็จะใช้เทคโนโลยี “ระบบจอดรถอัติโนมัติ” ควบคู่ไปด้วย โดยทำเลหลักของเราจะอยู่ละแวกสุขุมวิท
– มาถึงคำถามสุดท้ายค่ะ เราควรใช้อะไรเป็นหลักในการพิจารณาเลือกซื้อบ้าน
ในความคิดของผม เราควรเลือกจากทำเล คุณภาพวัสดุ potential for appreciation และสิ่งอำนวยความสะดวกที่โครงการให้ สิ่งเหล่านี้คือปัจจัยสำคัญในการพิจารณาเลือกซื้อบ้าน
แม้ว่าอายุในวงการของคุณเบญจ อรรถจินดา จะไม่มากเท่าผู้ประกอบการหลายๆ ท่านที่เราได้มีโอกาสสัมภาษณ์ แต่เราเชื่อว่าด้วยความรักใน “อสังหาริมทรัพย์” อีกไม่นานก็คงจะได้เห็นโครงการใหม่ๆ ในเครือ Legend Property มาอีกเรื่อยๆ 🙂