นพ.วิเชียร แพทยานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ้าพระยามหานคร จำกัด (มหาชน) ในฐานะประธานคณะกรรมการจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 43 เปิดเผยว่า “สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย สมาคมบ้านจัดสรร และสมาคมอาคารชุดไทย ต้องการจะยกระดับความสำคัญของานมหกรรมบ้านและคอนโดจากนี้ไป ให้เป็นเวทีที่มีส่วนช่วยให้คนไทยสามารถเป็น ‘เจ้าของบ้าน’ ได้ไม่ยาก เพราะปัจจุบัน มีปัจจัยมากมายที่ทำให้หลายคนกลัวที่จะซื้อบ้าน คนขายก็ขายไม่สะดวก กลไกของภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ก็เลยทำงานได้ไม่เต็มที่ ซึ่งความจริงแล้วปัญหาดังกล่าวต้องได้รับความร่วมมือจากภาครัฐ ภาคสถาบันการเงิน และผู้ประกอบการเอกชน ผนึกกำลังเข้าด้วยกันจึงจะคลี่คลายสถานการณ์ได้”
“ทั้งสามสมาคมฯ พยายามเพิ่มบทบาทของงานมหกรรมฯ ให้เป็น Financial Advisory หรือที่ปรึกษาทางการเงิน ด้านสินเชื่อ โดยจะเป็นเวทีกลางที่ดึงทั้งสมาชิกดีเวลอปเปอร์ สถาบันการเงินชั้นนำของประเทศ และผู้บริโภค ได้มาพบกัน โดยที่ผู้ซื้อจะได้เลือกซื้อบ้านที่ถูกใจจากโครงการนับพันที่ผู้ประกอบการได้นำมาเสนอ พร้อมโปรโมชั่นพิเศษที่มีเฉพาะในงานฯ และเมื่อได้บ้านที่ต้องการ ก็สามารถไปขอคำปรึกษาหรือยื่นขอสินเชื่อกับสถานบันการเงิน ซึ่งในงานครั้งนี้ ได้รับการตอบรับแล้วจากธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ และธนาคารยูโอบี คนอยากมีบ้านก็จะได้มีความหวังอีกครั้งกับการเดินหน้าขอสินเชื่ออย่างถูกวิธี และมีโอกาสที่จะยื่นกู้ผ่าน ขณะที่ธนาคารก็สามารถคัดกรองลูกค้าคุณภาพ ประเมินความสามารถผ่อนชำระของผู้กู้ได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น ช่วยลดอัตราการเกิด NPL ส่วนผู้ประกอบการก็จะได้ขายสินค้าที่มีอยู่ออก เรียกว่าวินๆ ทุกฝ่าย แก้สถานการณ์ ‘ซื้อไม่ง่าย ขายไม่คล่อง’ ในช่วงนี้ ทำให้กลไกด้านการตลาดอสังหาฯ หมุนต่อไป ถึงแม้จะเป็นความพยายามเล็กๆ แต่ถ้าทำได้ ก็จะเห็นการเคลื่อนไหวของเม็ดเงินไม่น้อย”
ด้านนายธีรวัฒน์ พิพัฒน์ดิฐกุล ประธานฝ่ายประชาสัมพันธ์ งานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 43 กล่าวว่า “จากผลสำรวจในงานครั้งผ่านมาๆ พบว่าลูกค้าที่มาเดินงานเป็นกลุ่มครอบครัว Gen Y มากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีอุปกรณ์ ไอทีติดตัว ใช้อินเทอร์เน็ตตลอดเวลา เข้าถึงข้อมูลข่าวสารต่างๆ ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียมากที่สุด เพราะง่าย สะดวก และรวดเร็ว ฝ่ายประชาสัมพันธ์จึงเลือกใช้คอนเซ็ปต์งานครั้งนี้ให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมาย Gen Y ได้แก่ ‘Up Life by Live’ หรือ ‘อัพชีวิตให้สบาย เลือกง่ายกว่าที่เคย’ ซึ่งสื่อถึงการเป็นงานที่รวมจุดเด่นที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของ Gen Y ได้อย่างลงตัวที่สุด ซึ่งรวมถึงศูนย์ช่วยเหลือที่มีเจ้าหน้าที่และระบบวิเคราะห์ข้อมูลจากความต้องการและแหล่งที่อยู่อาศัย เพื่อมาเป็นตัวเลือกและให้คำแนะนำในการตัดสินใจของผู้เข้าร่วมชมงาน”
“ส่วนแผนงานประชาสัมพันธ์ ฝ่ายประชาสัมพันธ์เน้นการเผยแพร่ข่าวสารและงานโฆษณาต่างๆ ผ่านสื่อออนไลน์หลากหลายประเภท ทั้งสื่อของงานมหกรรมบ้านและคอนโดเอง ตั้งแต่ Facebook, IG, Line OA, Website, Youtube และ TikTok และยังมีการโปรโมทผ่าน Google ทั้งในรูปแบบแบนเนอร์โฆษณาผ่าน Google Display Network และ SEM ให้หน้าเว็บของงานติดบนหน้าแรกของ Google โดยเลือกคีย์เวิร์ดที่ครอบคลุม ทั้งยังใช้ KOL ที่มีชื่อเสียงในวงการอสังหาฯ มาทำคอนเทนท์โปรโมทงานผ่านแพลทฟอร์มต่างๆ ทั้งช่วงก่อนและระหว่างวันงาน”
“นอกจากโซเชียลมีเดียแล้ว เพื่อให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายให้มากที่สุด ฝ่ายประชาสัมพันธ์ยังได้ใช้สื่อสายหลัก ในการทำประชาสัมพันธ์งานอย่างต่อเนื่องไปจนถึงพิธีเปิดฯ เพื่อให้มีข่าวสารปรากฏทางช่องทางข่าวอยู่เสมอ ทั้งยังมีการใช้สื่อ Out of Home ในการเผยแพร่หนังโฆษณาความยาว 15 – 30 วินาที บนจอโฆษณาใน MRT และบน Digital Billboard บริเวณอโศก คลองเตย บริเวณศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ และบริเวณบ่อนไก่ มุ่งหน้าเข้าคลองเตย รวมถึงการพูดประชาสัมพันธ์ทางรายการโทรทัศน์ยอดนิยม อย่าง เที่ยงวันทันเหตุการณ์ ของช่อง 3 เป็นต้น” นายธีรวัฒน์ กล่าว
ผู้ที่กำลังฝันที่จะเป็น ‘เจ้าของบ้าน’ ฝันจะเป็นไปได้ในงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 43 นี้ ซึ่งจะมีขึ้นระหว่าง 23 – 26 มีนาคมนี้ ที่ฮอลล์ 5 ชั้น LG ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ภายในงานจะมีบูธจากผู้ประกอบการมากกว่า 200 บริษัท รวมโครงการอสังหาฯ มากกว่า 1,000 รายการ ครอบคลุมทุกรูปแบบ ทุกราคา ทุกทำเล
ผู้สนใจเข้าร่วมงานสามารถลงทะเบียนออนไลน์ล่วงหน้าได้ทาง www.housecondoshow.com หรือติดตาม รายละเอียดข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ทางเฟซบุ๊ก housecondoshow – งานมหกรรมบ้านและคอนโด, อินสตาแกรม housecondoshow หรือช่องทางไลน์ @housecondoshow เพื่อรับข้อมูลโครงการและโปรโมชั่นจากผู้ประกอบการได้อย่างง่ายดายและสะดวกรวดเร็ว