ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ รวบรวมสถิติการถือครองกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติในภาพรวมทั้งประเทศ ผ่านสถิติการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยในช่วงปี 2561 ถึงปัจจุบัน พบว่า มียอดการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุด 3 ปีสะสมรวม 1,408,431 ตร.ม. แต่เมื่อเข้าสู่ไตรมาส 1 – 3 ปี 2564 ภาพรวมสถานการณ์การโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติทั่วประเทศยังคงลดลงอย่างต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 3
ใน 9 เดือนแรกของปี 2564 ห้องชุดราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท ยังคงเป็นที่นิยมของคนต่างชาติ โดยมีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดทั่วประเทศให้ชาวจีนสูงสุดอันดับ 1 คิดเป็นมูลค่า 17,800 ล้านบาท หรือ 59.9 % ของการโอนกรรมสิทธิ์ของชาวต่างชาติทั้งหมด เมื่อเปรียบเทียบจำนวนหน่วยที่มีการโอนกรรมสิทธิ์พบว่าอัตราเฉลี่ยในช่วงที่มีการระบาดของ COVID-19 กับค่าเฉลี่ยในช่วงก่อนมีการระบาด จำนวนหน่วยโอนเฉลี่ยลดลง 37.5%ค่าเฉลี่ยมูลค่าลดลงถึง 28.5%
จำนวนหน่วย มูลค่า และพื้นที่ห้องชุดที่โอนกรรมสิทธิ์ให้คนต่างชาติ
ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์กล่าวว่า ภาพรวมสถานการณ์การโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติทั่วประเทศในไตรมาส 3 ปี 2564 ยังคงหดตัวอย่างต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 3 นับตั้งแต่ไตรมาส 1 ปี 2564 ทั้งจำนวนหน่วย จำนวนมูลค่า และจำนวนพื้นที่ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่ยังไม่คลี่คลาย
ในไตรมาส 3 ปี 2564 ประเทศไทยประสบปัญหาการแพร่ระบาดของสายพันธ์ DELTA ทำให้มีตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มสูงขึ้นเป็นหลักหมื่นคน ภาครัฐจึงมีการยกระดับมาตรการจำกัดการเดินทางทั่วประเทศอย่างเข้มงวด รวมไปถึงการล็อคดาวน์ในพื้นที่สีแดงเข้มเพื่อควบคุมการแพร่ระบาด ทำให้จำนวนการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติหดตัวอย่างต่อเนื่อง โดยในไตรมาส 3 ปี 2564 มีจำนวนหน่วยทั้งหมด 1,755 หน่วย ลดลง 13.1% จากไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) และลดลง 6.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า (YoY)
ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบจำนวนหน่วยที่มีการโอนกรรมสิทธิ์เฉลี่ยในช่วงที่มีการระบาดของ COVID-19 (ปี 2563-2564) จำนวน 2,059 หน่วย/ไตรมาส กับค่าเฉลี่ยในช่วงก่อนมีการระบาด (ปี 2561-2562) 3,296 หน่วย/ไตรมาส พบว่าจำนวนหน่วยโอนเฉลี่ยช่วงที่มีการระบาดลดลง 37.5 %(ดูแผนภูมิที่ 1 และ 2)
สำหรับมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติในไตรมาส 3 ปี 2564 ทั่วประเทศ พบว่ามีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 9,265 ล้านบาท ลดลง 2.8% จากไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) และลดลง 1.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า (YoY) ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับจำนวนหน่วย (ดูแผนภูมิที่ 3 และ 4) และเมื่อเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยในช่วงที่มีการระบาดของ COVID-19 (ปี 2563-2564) มูลค่า 9,637 ล้านบาท/ไตรมาส กับค่าเฉลี่ยในช่วงก่อนการระบาด (ปี 2561-2562) มูลค่า 13,483 ล้านบาท/ไตรมาส พบว่าค่าเฉลี่ยในช่วงการแพร่ระบาดลดลงถึง 28.5%
พื้นที่การโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติในไตรมาส 3 ปี 2564 มีจำนวน 79,233 ตารางเมตร ลดลง 7.6%จากไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) แต่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.2 %จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า (YoY) และเมื่อเปรียบเทียบกับค่าเฉลี่ยในช่วงที่มีการระบาดของ COVID-19 (ปี 2563-2564) ซึ่งมีพื้นที่ 86,365 ตารางเมตร/ไตรมาส กับค่าเฉลี่ยในช่วงก่อนการระบาด (ปี 2561-2562) ซึ่งมีพื้นที่ 133,394 ตารางเมตร/ไตรมาส พบว่าในช่วงที่มีการแพร่ระบาดมีพื้นที่ลดลงถึง 35.3 %
สัดส่วนการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติเปรียบเทียบกับการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดทั่วประเทศ
จำนวนหน่วยที่โอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติเมื่อเทียบกับจำนวนหน่วยที่โอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดทั้งหมดทั่วประเทศในไตรมาส 3 ปี 2564 มีสัดส่วน 9.3% ในขณะที่มูลค่าห้องชุด มีสัดส่วน 16.7% และพื้นที่ห้องชุด มีสัดส่วน 12%
ระดับราคาห้องชุดที่เป็นที่นิยมของคนต่างชาติ
ในไตรมาส 3 ปี 2564 มีจำนวนหน่วยการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติมากที่สุดในช่วงระดับราคา ไม่เกิน 3.00 ล้านบาท มีจำนวน 792 หน่วย คิดเป็นสัดส่วน 45.1% ของหน่วยทั้งหมดจำนวน 1,755 หน่วย รองลงมาคือ ระดับราคา 3.01 – 5.00 ล้านบาท มีจำนวน 454 หน่วย (25.9%) ระดับราคา 5.01 – 7.50 ล้านบาท มีจำนวน 277 หน่วย (15.8%) ระดับราคามากกว่า 10.00 ล้านบาทขึ้นไป มีจำนวน 130 หน่วย (7.4%) และระดับราคา 7.51 – 10.00 ล้านบาท มีจำนวนน้อยที่สุด คือ 102 หน่วย (5.8%) ตามลำดับ ซึ่งเมื่อพิจารณาย้อนหลังไปจนถึงปี 2561 พบว่ามีแนวโน้มไปในทิศทางเดียวกัน โดยห้องชุดราคาไม่เกิน 3.00 ล้านบาท ยังคงเป็นที่นิยมของคนต่างชาติเป็นส่วนใหญ่ (ดูแผนภูมิที่ 6)
ในไตรมาส 3 ปี 2564 มีมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติมากที่สุดในระดับราคามากกว่า 10.00 ล้านบาท จำนวน 3,445 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 37.2% รองลงมาคือ ระดับราคา 3.01 – 5.00 ล้านบาท มีมูลค่า 1,862 ล้านบาท (20.1%) ระดับราคา 5.01 – 7.50 ล้านบาท มีมูลค่า 1,651 ล้านบาท (17.8%) ระดับราคาไม่เกิน 3.00 ล้านบาท มีมูลค่า 1,439 ล้านบาท (15.5%) และระดับราคา 7.51 – 10.00 ล้านบาท มีมูลค่าน้อยที่สุด คือ 868 ล้านบาท (9.4%) ตามลำดับ (ดูแผนภูมิที่ 7)
สัญชาติคนต่างชาติที่รับโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุด
ชาวจีน เป็นสัญชาติที่มีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดมากที่สุดทั่วประเทศ โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2564 มีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้ชาวจีนไปแล้วทั้งหมด 3,760 หน่วย คิดเป็นสัดส่วนที่สูงถึง 61.4% ของหน่วยทั้งหมด โดยมี 4 สัญชาติที่มีการโอนกรรมสิทธิ์อันดับรองลงมา ได้แก่ รัสเซีย จำนวน 228 หน่วย (สัดส่วน 3.7%) ถัดมาคือ สหรัฐอเมริกา จำนวน 197 หน่วย (สัดส่วน 3.2%) สหราชอาณาจักร จำนวน 194 หน่วย (สัดส่วน 3.2%) และฝรั่งเศส จำนวน 172 หน่วย (สัดส่วน 2.8%) ตามลำดับ
หากพิจารณาย้อนหลังไปจนถึงปี 2561 จะพบว่า ชาวจีน ยังคงเป็นสัญชาติที่นิยมซื้อห้องชุดในประเทศไทยเป็นส่วนใหญ่ โดยมีสัดส่วนในแต่ละปีสูงกว่า 50% ของหน่วยทั้งหมด และลำดับรองลงมาส่วนใหญ่เป็นชาวยุโรป โดยมีสัดส่วนไม่ถึง 7% โดยสัญชาติที่นิยมเข้ามาซื้อห้องชุดในประเทศไทยตั้งแต่ ปี 2561 จนถึง 9 เดือนแรกของปี 2564 ที่มีจำนวนหน่วยสะสมสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน รัสเซีย สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส และ สหรัฐอเมริกา ตามลำดับ (ดูแผนภูมิที่ 8)
ใน 9 เดือนแรกของปี 2564 มีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดทั่วประเทศให้ชาวจีน เป็นมูลค่าสูงสุด จำนวน 17,800 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนที่สูงถึง 59.9% ของมูลค่าทั้งหมด ส่วน 4 สัญชาติที่มีมูลค่าการโอนรองลงมาคือ วานูอาตู จำนวน 1,011 ล้านบาท (สัดส่วน 3.4%) ถัดมาคือ สหรัฐอเมริกา จำนวน 864 ล้านบาท (สัดส่วน 2.9%) สหราชอาณาจักร จำนวน 732 ล้านบาท (สัดส่วน 2.5%) และฝรั่งเศส จำนวน 711 ล้านบาท (สัดส่วน 2.4%) ตามลำดับ เป็นที่น่าสังเกตว่า ชาววานูอาตู มีมูลค่ารับโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดสะสมใน 9 เดือนแรกของปี 2564 สูงสุดเป็นลำดับที่ 2 แต่มีจำนวนหน่วยสะสมเพียง 23 หน่วย ซึ่งคิดเป็นมูลค่าห้องชุดเฉลี่ยต่อหน่วยสูงถึง 44 ล้านบาท
ขนาดและราคาห้องชุดเฉลี่ย
ห้องชุดที่ชาวต่างชาติโอนกรรมสิทธิ์ใน 9 เดือนแรกของปี 2564 โดยเฉลี่ยมีขนาด 43 ตารางเมตร มูลค่าเฉลี่ย 4.9 ล้านบาท/หน่วย หรือประมาณตารางเมตรละ 114,000 บาท สหรัฐอเมริกาเป็นสัญชาติที่โอนห้องชุดขนาดใหญ่สุดเฉลี่ย 54.8 ตารางเมตร และสิงคโปร์เป็นสัญชาติที่โอนห้องชุดมูลค่าต่อหน่วยสูงสุด เฉลี่ย 5.1 ล้านบาทต่อหน่วย (ดูตารางที่ 1) ทั้งนี้ แม้ประเทศวานูอาตูจะมีมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดเฉลี่ยสูงถึง 44 ล้านบาท แต่ด้วยจำนวนหน่วยซึ่งมีเพียง 23 หน่วย จึงไม่อยู่ใน 10 ประเทศที่มีหน่วยการโอนกรรมสิทธิ์สูงสุด
จังหวัดที่มีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดคนต่างชาติสูงสุด
ใน 9 เดือนแรกของปี 2564 จังหวัดที่มีจำนวนหน่วยโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติสะสมมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพฯ ชลบุรี ภูเก็ต เชียงใหม่ และประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งส่วนใหญ่จะกระจุกตัวอยู่ใน 2 จังหวัดแรก คือ กรุงเทพฯ มีจำนวน 3,246 หน่วย (สัดส่วน 53%) และชลบุรี จำนวน 1,738 หน่วย (สัดส่วน 28.4%) ตามลำดับ โดยทั้ง 2 จังหวัดมีสัดส่วนรวมกันสูงถึง 81.4% ของทั่วประเทศ (ดูแผนภูมิที่ 9)
จังหวัดที่มีมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติสูงสุด 5 อันดับแรก ใน 9 เดือนแรกของปี 2564 ได้แก่ กรุงเทพฯ ชลบุรี ภูเก็ต ประจวบคีรีขันธ์ และนนทบุรี โดยใน 2 จังหวัดแรก คือ กรุงเทพฯ มีมูลค่า 21,764 ล้านบาท (สัดส่วน 73.2%) และชลบุรี มีมูลค่า 4,137 ล้านบาท (สัดส่วน 13.9%) ตามลำดับ ซึ่งทั้ง 2 จังหวัด มีสัดส่วนมูลค่ารวมกันสูงถึงร้อยละ 87.1 ของทั้งประเทศ