“คนรุ่นใหม่ที่เริ่มต้นมองหาที่อยู่อาศัย ควรวางแผนตัวเองให้ดี ควรเลือกที่เหมาะกับกำลังซื้อของตนเอง มองการผ่อนชำระในระยะยาว 3-5 ปี ว่าเราจะอยู่ที่ไหน ทำอะไร ต้องได้มาแล้วไม่เป็นภาระของตนเองและคนรอบข้าง อาจเริ่มต้นจากคอนโดฯ ขนาดเล็กก่อนก็ได้ หรือถ้าอยากอยู่ในพื้นที่กว้างกว่านั้นก็มองทาวน์โฮม หรือบ้านที่ไกลออกจากเมืองหน่อย แต่ก็เดินทางไปมาได้สะดวก รวมถึงคนที่ซื้อเพื่อเก็งกำไรด้วยนะ อย่าซื้อหรือทำอะไรเกินตัว”
หากพูดถึงที่อยู่อาศัยย่านจังหวัดนนทบุรีแล้ว บริษัท ธนาสิริ เป็นอีกแบรนด์หนึ่งที่ติดท็อปชาร์ทในลำดับต้นๆ ก็ว่าได้ เพราะถือว่าอยู่ในแวดวงอสังหาฯ มากว่า 10 ปีแล้ว และแม้จะถ่อมตัวว่าเป็นธุรกิจขนาดเล็ก แต่ก็เติบโตได้อย่างก้าวกระโดด ขยับตัวจากบริษัทจำกัด มาเป็นบริษัทจำกัด มหาชน ได้เมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา วันนี้ทีมงาน Thinkofliving ก็เลยถือโอกาสมาทำความรู้จักกับผู้บริหารคนเก่ง คุณสุทธิรักษ์ เสถียรภาพอยุทธ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนาสิริ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (ซึ่งในบทสัมภาษณ์ ขอเรียกว่า “คุณเบิร์ท” นะคะ) ถึงการเติบโตของบริษัทและแนวคิดในการพัฒนาโครงการกันค่ะ โดยประเด็นคำถามก็มีดังนี้
โบ: ก่อนอื่นต้องให้คุณเบิร์ทพูดถึงธนาสิริ กรุ๊ป นิดนึงค่ะ ว่าเราทำโครงการภายใต้ชื่อแบรนด์อะไรบ้าง เพราะเห็นว่ามีหลายแบรนด์
คุณเบิร์ท: สำหรับธนาสิริ กรุ๊ป ของเรามีแบรนด์ ธนาสิริ บ้านเดี่ยวราคา 5 ลบ. แบรนด์คลัสเตอร์วิลล์ ราคา 4-6 ลบ. แบรนด์ไพร์มเพลส ราคา 2 -4 ลบ. และสิริวิลเลจ ราคา 3 ลบ. (แบรนด์นี้ใช้เฉพาะโครงการต่างจังหวัดครับ)
โบ: ปีนี้มีความคืบหน้าในการพัฒนาโครงการอย่างไรบ้างคะ
คุณเบิร์ท: ปีนี้เราเปิด 3 โครงการ ครึ่งปีแรกเปิดตัวบ้านเดี่ยวแบรนด์ สิริวิลเลจ ที่จังหวัด สกลนคร จำนวน 33ยูนิต ซึ่งถือเป็นโครงการนำร่องในการทำโครงการที่ต่างจังหวัด ส่วนครึ่งปีหลังมีแผนจะเปิดตัวอีกอย่างน้อย 2 โครงการ มูลค่าทั้งสองโครงการประมาณ 700 ลบ. ซึ่งคาดว่าจะรับรู้รายได้ในไตรมาส 4 ปีหน้า หรืออย่างช้าในไตรมาสแรกของปี 2558 ซึ่งจะเป็นการเปิดตัวแบรนด์ใหม่ด้วย แต่ยังอยู่ในการหาข้อสรุปกันอยู่ว่าจะใช้แบรนด์อะไร
โบ: ทำไมถึงไปทำโครงการนำร่องที่ภาคอีสานค่ะ
คุณเบิร์ท: ผมมองว่าภาคอีสาน มีศักยภาพมาก มีสภาพเศรษฐกิจที่ดี บวกกับ AEC ที่จะมาถึง ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปมากกว่าแต่ก่อน
โบ: พูดถึงการก้าวไปเป็นบริษัท จำกัด (มหาชน) หน่อยค่ะ ว่าเราเติบโตไปได้เพราะอะไร
คุณเบิร์ท: เราอยู่ในตลาดมากว่า 10 ปีละ ถ้าถามถึงโซนนี้ (จังหวัดนนทบุรี) เรามีลูกค้าหลักอยู่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเราก็พัฒนาโดยทำการวิจัยถึงความต้องการของลูกค้ามาตลอด ทั้งลูกค้าเดิม ลูกค้าที่มาชมโครงการแต่ยังไม่ได้ซื้อ และลูกค้าที่ยังไม่ได้ตัดสินใจซื้อที่ไหนเลย ทำให้เราขยายโครงการได้อย่างต่อเนื่อง และรู้ถึงความต้องการที่แท้จิง เลยกล้าที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ ด้วยทุนจดทะเบียนเพียง 250 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเล็กมากหรือเล็กที่สุดในตลาดอสังหาฯ ที่เข้าตลาดหลักทรัพย์ แต่เราเน้นทำยอดขายให้หมุนได้เร็วที่สุด ซึ่ง ณ วันนี้ก็มีมูลค่าโครงการรวมกว่า 3,000 ลบ. ไม่นับรวมอีก 2 โครงการที่จะเปิดภายใต้แบรนด์ใหม่
โบ:ถ้าพูดถึงทำเลราชพฤกษ์ มองว่า จะเติบโตไปในทิศทางไหนคะ แล้วเราจะพัฒนาโครงการในย่านนี้ต่อหรือไม่
คุณเบิร์ท: ราชพฤกษ์ เป็นทำเลที่น่าอยู่นะ อาจมีปัญหาบ้างเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาที่มีน้ำท่วมครั้งใหญ่ ตรงนั้นก็ยอมรับว่ากระทบกับเราเหมือนกันนะ แต่ ณ วันนี้สาธารณูปโภคมีมากขึ้น บ้านที่ติดถนนใหญ่ ราคาไม่ต่ำกว่า 8 ลบ.นะ และที่สำคัญ มีการคมนาคมที่ดี เดี๋ยวต่อไปถนนใหญ่จาก 6 เลน ก็จะเปลี่ยนเป็น 10 เลน มีรถไฟฟ้าสายสีแดง แนวตลิ่งชัน กับสายสีม่วง แนวรัตนาธิเบศร์เกิดขึ้น อย่างถนนตัดใหม่ หน้าโครงการที่เราอยู่นี้ (โครงการธนาสิริ ราชฤกษ์ – ท่าน้ำนนท์) ก็กำลังสร้างให้เป็นถนน 6 เลน คือเป็นถนนวิ่งข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา มานนทบุรี 1 -วงศ์สว่าง เฟส 2 ก็ทำต่อไปถึงรัชดาฯ ถึงวิภาวดีฯ ซึ่งถือว่าเป็นเส้นตัดใหม่ที่ดีมาก ซึ่งเราก็มองว่ายังพัฒนาโครงการในโซนนี้ต่อไปนะ
โบ: ราคาที่ดินขยับขึ้นสูงแค่ไหนคะ
คุณเบิร์ท: ราคาที่ดินแถวนี้ขยับขึ้นเป็น 3 เท่าเมื่อเทียบกับ 5 ปีที่ผ่านมา ที่ดินที่ยังไม่มีการพัฒนาก็จะอยู่ที่ 20,000 บาทต่อตร.ว. ส่วนที่ดินที่พัฒนาแล้วจะอยู่ที่ 60,000 – 80,000 บาทต่อตร.ว.
โบ: ตลาดแนวราบจะไปได้ดีไหมคะ แล้วเราจะผันตัวเองไปแนวสูงไหม
คุณเบิร์ท : จริงๆ เราไม่ได้จำกัดว่าจะทำแนวราบหรือแนวสูงนะ เพียงแต่เรามองว่าตอนนี้เรามีความชำนาญทางด้านแนวราบมากกว่า และมองว่าตลาดนี้จะเติบโตได้ดีอย่างมั่นคง เพราะส่วนใหญ่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง แม้จะไม่หวือหวาเท่ากับแนวราบ และเชื่อว่าอีก 3 ปีข้างหน้า จะเติบโตได้ดีขึ้น
โบ: นอกจากทำเลนี้แล้ว มีทำเลอื่่นที่สนใจอยู่อีกไหม
คุณเบิร์ท : เรายึดทำเลนี้เป็นหลัก แต่หากมีที่ดินแปลงสวยๆ ทำเลอื่นก็น่าสนใจนะ อย่างพระราม 2 ,นวมินทร์ ก็น่าสนใจ เราสามารถขยับไปได้ทั้ง 4 มุมเมืองเลย อยู่ที่ความเหมาะสม
โบ: คุณเบิร์ทมีการบริหารงานของตนเอง และบริษัทอย่างไรบ้างคะ
คุณเบิร์ท : สำหรับตัวเองเน้นการมอบหมายหน้าที่ให้กับทุกคน ไม่ทำงานแบบเถ้าแก่ แต่ฝึกให้ทุกคนเป็นมืออาชีพ ส่วนในแง่ของบริษัท เน้นการขายโครงการให้คืนยอดได้เร็วที่สุด ตั้งเป้ายอดจองให้ได้ตามที่วางไว้ และที่สำคัญที่กำลังพัฒนาอยู่คือ การสร้างความเป็นตัวตนให้กับบริษัท โดยให้สินค้าของเราเป็นสิ่งที่จับต้องได้ เข้าถึงได้จริง คาดว่าอีก 2-3 เดือนจะชัดเจนในเรื่องนี้
โบ: อยากให้ฝากอะไรถึงคนที่คิดจะซื้อที่อยู่อาศัยหน่อยค่ะ โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่กำลังมองหาบ้านหลังแรกเป็นของตนเอง
คุณเบิร์ท : “คนรุ่นใหม่ที่เริ่มต้นมองหาที่อยู่อาศัย ควรวางแผนตัวเองให้ดี ควรเลือกที่เหมาะกับกำลังซื้อของตนเอง มองการผ่อนชำระในระยะยาว 3-5 ปี ว่าเราจะอยู่ที่ไหน ทำอะไร ต้องได้มาแล้วไม่เป็นภาระของตนเองและคนรอบข้าง อาจเริ่มต้นจากคอนโดฯ ขนาดเล็กก่อนก็ได้ หรือถ้าอยากอยู่ในพื้นที่กว้างกว่านั้นก็มองทาวน์โฮม หรือบ้านที่ไกลออกจากเมืองหน่อย แต่ก็เดินทางไปมาได้สะดวก รวมถึงคนที่ซื้อเพื่อเก็งกำไรด้วยนะ อย่าซื้อหรือทำอะไรเกินตัว”
ด้วยความกล้าที่จะก้าว บวกกับทัศนวิสัยที่ชัดเจนซึ่งผ่านการประมวลผลมาแล้วเป็นอย่างดี ย่อมส่งผลให้การประกอบธุรกิจของธนาสิริ เติบโตได้อย่างก้าวกระโดด ซึ่งแม้ในบางช่วงเวลาจะเจอกับมรสุมลูกใหญ่ แต่ก็สามารถฟื้นตัวได้ และพัฒนาโครงการได้ต่อไป ถือว่าเป็นอีกหนึ่งบริษัทที่น่าจับตามองค่ะ
บทสัมภาษณ์ : โบ